Read full review
2016-01-18
155 views
เป็นครั้งแรกในการมากินอาหารอินเดียต้นตำรับแท้ๆ ที่จริงแล้วเราก็ไม่ค่อยคุ้นเคยกับอาหารแขกเท่าไหร่หรอกค่ะ แต่พอดีมี voucher อยู่ 2,000 บาท ได้มาตั้งแต่ปีมะโว้ไปยอมไปใช้ มาใช้ตอนใกล้หมดอายุ ไม่ใกล้ล่ะวันสุดท้ายเลย อิอิ voucher ที่ได้มานี้ มี 2 ใบ ใบละ 1,000 บาท ซึ่งตามเงื่อนไขแล้วเขาให้ใช้ทีละใบ แต่เราถามพนักงาน ผู้จัดการเขาให้ใช้ได้เลยค่ะทีเดียว 2 ใบ เริ่ดที่สุด!!!บอกตำแหน่งที่ตั้งสักหน่อย ร้านอินดัสนี้อยู่ในซอยสุขุมวิท 26 ค่ะ ถ้าสำหรับคนที่มาด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส สามารถลงที่สถานีพร้อมพงษ์ได้แล้วเดินมานิดหน่อยก็ถึงซอยแล้วค่ะ แต่หากใครนั่งรถเมล์มานะคะ เราไม่มั่นใจว่ามีรถเมล์สายอะไรบ้าง แต่จากที่เราไป จากเยาวราช สามารถนั่งสาย 25
voucher ที่ได้มานี้ มี 2 ใบ ใบละ 1,000 บาท ซึ่งตามเงื่อนไขแล้วเขาให้ใช้ทีละใบ แต่เราถามพนักงาน ผู้จัดการเขาให้ใช้ได้เลยค่ะทีเดียว 2 ใบ เริ่ดที่สุด!!!
บอกตำแหน่งที่ตั้งสักหน่อย ร้านอินดัสนี้อยู่ในซอยสุขุมวิท 26 ค่ะ ถ้าสำหรับคนที่มาด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส สามารถลงที่สถานีพร้อมพงษ์ได้แล้วเดินมานิดหน่อยก็ถึงซอยแล้วค่ะ แต่หากใครนั่งรถเมล์มานะคะ เราไม่มั่นใจว่ามีรถเมล์สายอะไรบ้าง แต่จากที่เราไป จากเยาวราช สามารถนั่งสาย 25 และ 40 ไปได้ค่ะ จะลงป้ายหลังจากป้ายตรงเอ็มโพเรียม 1 ป้ายค่ะ แล้วเดินย้อนมานิดหน่อยก็เจอทางม้าลายข้ามมาก็ถึงซอยเลยค่ะ ทีนี้ต้องเข้าซอยค่ะ เข้าไปลึกเหมือนกันค่ะ สำหรับคนที่มีรถก็สบายไปขับเข้าไปจอดที่ร้านได้เลยค่ะ แต่สำหรับเรา เราเดินค่ะ ถือว่าเดินเล่น ก็จะเดินไปจนสุดทางแล้วเลี้ยงซ้าย ตรงจนสุดท้ายอีกครั้งก็เลี้ยวขวา เดินอีกหน่อยก็ถึงแล้วค่ะ อย่าตกใจไปที่มองไม่เห็นอะไรบอกเลย เดินแล้วเดินต่อไป อย่าหยุดอย่างงค่ะ เพราะตรงนั่นจะออกร้างๆ นิดหน่อย ทำให้สงสัยว่ามาผิดทางหรือเปล่า พอดีเจอลุงขายน้ำแข็งไสเลยเดินเข้าไปถาม ลุงบอกอยู่เนี่ย ซ้ายมือถึงแล้ว จะมีป้ายสีขาวบอกชื่อร้านที่ไม่ค่อยโดดเด่นเท่าไหร่ มองเข้าไปลักษณะเหมือนบ้านเดี่ยวค่ะ มีที่จอดรถด้านหน้า แล้วก็เข้าไปเป็นบ้าน เป็นห้องอาหาร มองเยื้องมาทางขวาหน่อยๆ จะมีประตูไม้ให้เข้ามาทางนั้นเลยค่ะ
เราเข้าไปได้แบบเหรอๆหราๆมากๆเลยค่ะ ไม่รู้จะเข้าทางไหนดี จะเข้าทางประตูขวามือหรือทางสวนซ้ายมือ สุดท้ายพนักงานที่อยู่ข้างในมองออกมาชี้ให้เราเข้าทางประตู แล้วก็มีพนักงานมารอรับอยู่หลังประตูค่ะ พาไปนั่งที่โต๊ะ ที่ที่เราได้นั่งเป็นตำแหน่งที่มองตรงออกไปด้านหน้าตรงกับประตูใหญ่ที่เราเพิ่งเข้ามาเมื่อกี้เลยค่ะ
อีกด้านจะเป็นสวนที่มีโต๊ะให้นั่ง อาจไว้สำหรับกลุ่มที่สูบบุหรี่มั้งคะ เพราะเห็นที่เขี่ยบุหรี่ตั้งอยู่บนโต๊ะค่ะ ซึ่งคนที่ออกมารับเราเมื่อสักครู่น่าจะเป็นผู้จัดการนะคะ เป็นคนไทย แต่พนักงานที่เหลือเป็นแขกหมดเลย เคยอ่านรีวิวบอกว่าพนักงานพูดไทยไม่ค่อยได้ เราเลยจัดภาษาอังกฤษใส่ ที่ไหนได้คุยไปคุยมาคุยภาษาไทยกันค่ะ 555
หากใครไม่รู้จะเลือกทานอะไรดีนะคะ ในเมนูมีบอกไว้ค่ะว่าเมนูไหนเป็นเมนูแนะนำ เมนูที่มีกลมๆสีแดงนั่นคือเมนูแนะนำค่ะ
ส่วนเมนูที่เราสั่งไปทั้งหมดวันนี้นะคะ คือ Garlic Naan เป็นแป้งโรตีที่ไว้ทานคู่กับแกงที่นำไปอบกับเนยและกระเทียม (ราคา 100 บาท) 1 จานจะเสิร์ฟมา 4 แผ่นค่ะ , Black Pepper Prawns กุ้งสดผัดกับซอสพริกไทยดำ (ราคา 490 บาท) , Sea Bass Curry แกงปลากระพงขาวปรุงกับมะเขือเทศ (ราคา 420 บาท), Tandoori Chicken ไก่หมักโยเกิร์ต พริกแดง และขมิ้นย่างอย่างชำนานในเตาตันดูร์ (ราคา 320 บาท) และ Ajwaini Fish Tikka ชิ้นปลากระพงขาวนุ่มปรุงรสประณีตด้วยเมล็ดยี่หร่าและสมุนไพร (ราคา 490 บาท)
แต่ก่อนอื่นใดหลังจากสั่งอาหารเสร็จ เอาก็จะเอาเมนูพิเศษมาเสิร์ฟเลย เป็น ข้าวเกรียบ ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับท็อปปิ้งสี่ชนิดคือ ซอสมะขาม ซอสมะม่วง อีกสองอย่างชื่ออะไรจำไม่ได้แล้วค่ะ แต่อันหนึ่งจะเป็นหอมแดงดอง และอีกอันที่เป็นสีเขียวๆ จะออกเผ็ดๆ นิดหน่อยค่ะ ข้าวเกรียบก็จะออกเค็มๆ เคี้ยวเล่นก็เพลินดีค่ะ จิ้มท็อปปิ้งก็อร่อยไปคนละแบบ
ส่วนรสชาติอาหารอื่นๆ
Garlic Naan เป็นโรตีที่เรากินแล้วคิดว่าพิซซ่า หอม อร่อย กินคู่กับแกงแล้วอร่อยมาก รสชาติเข้ากันกำลังดี เสียอย่างเดียวด้านล่างของแป้งทำไหม้ไปหน่อยค่ะ เลยต้องมานั่งแกะส่วนไหม้ๆทิ้ง แต่รสชาตินี่ฟินเว่อร์ค่ะ กินเพียวๆ ไม่ต้องกินคู่กับอย่างอื่นยังอะไรเลยค่ะ
Sea Bass Curry แกงปลาที่เรากินคู่กับนาน เสิร์ฟมาบนหม้อทองเหลืองขนาดจิ๋ว น่ารัก มีแอลกอฮอล์คอยอุ่นให้ด้วย รสชาติอร่อย เข้มข้นและกลมกล่อมมากๆ แกงข้นมาก รสชาติซึมเข้าเนื้อปลานุ่มๆ กินคู่กับนาน อร่อยที่สุด คู่นี้เป็นเมนูที่เรากินแล้วอร่อยที่สุดค่ะ ขนาดกินอาหารประเภทนี้ไม่ค่อยเป็นนะคะ แต่กินเรียบไม่เหลือเลยค่ะ 555
Black Pepper Prawns กุ้งสดผัดกับซอสพริกไทยดำ คล้ายๆกับผัดพริกไทยดำบ้านเราแต่รสชาติจะอ่อน ไม่จัดจ้าน แต่กลับไม่เผ็ดพริกไทยเท่าไหร่เลยนะคะ ถ้าทำเค็มและเผ็ดมากกว่านี้สักหน่อยรสชาติน่าจะเข้มข้นขึ้นนะคะ แต่เนื้อกุ้งนี่สดมาก เนื้อเด้งดึ๋งเลยค่ะ 555
Tandoori Chicken เป็นไก่ย่างแต่ย่างไหม้ไปหน่อย เสิร์ฟมาพร้อมกับหอมแดง ผักกาดหอมและมะนาว สามารถบีบมะนาวโรยได้ค่ะ จานนี้เราว่าไก่ย่างค่อนข้างหอมแต่ออกจืดไปหน่อยค่ะ เราเลยแก้ด้วยการราดแกงปลาบนไก่ซะเลย 555
Ajwaini Fish ส่วนจานนี้ก็คล้ายๆกับ Tandoori Chicken แต่เป็นปลาค่ะ รสก็จะออกจืดๆหน่อย
เครื่องดื่มก็เอาแค่น้ำเปล่า ขวดละ 30 บาท กินกันไป 2 ขวด
ส่วนของหวาน มื้อนี้ไม่มีนะคะเพราะอิ่มมากกกกกกกกก ของที่สั่งมาทั้งหมดนี้ยังกินไม่หมดเลยค่ะ ให้พนักงานห่อกลับบ้านให้
ค่าเสียหายวันนี้ทั้งหมด 2,213 บาท รวมค่าอาหาร ค่าบริการและค่าภาษี อีก 17% ด้วยจ้าาาา จ่ายด้วย voucher 2,000 บาท จ่ายด้วยเงินสดอีก 213 บาท ฟินๆค่ะ
ค่าบริการนี่ให้ไปคุ้มนะคะพนักงานบริการดีมาก เดินวนเวียนอยู่ใกล้ๆ ไม่ห่างเลย สอบถามได้ พูดคุยได้ แนะนำได้ ดีเลิศประเสริฐศรี
อ้อ หลังจากกินเสร็จแล้ว เขามีบริการน้ำล้างมือมาเสิร์ฟถึงที่เลยนะคะ มีมะนาวเสี้ยวและกลีบดอกกุหลาบโรยสวยๆ
ก่อนก็แวะเข้าห้องน้ำและเดินถ่ายรูปภายในร้านเขาด้วยค่ะ นอกจากห้องที่เรานี้ ข้างในใกล้ส่วนของห้องน้ำจะมีอีกห้องที่จัดคล้ายบาร์ อาจจะไว้สำหรับสังสรรค์กันยามเย็นค่ะ
ส่วนรูปอาหารอื่นๆ จะตามโพสต์ในแอพ opensnap นะคะ ในรีวิวลงไม่ได้แล้วววว
Post