Video
Read full review
2016-11-16
268 views
สำหรับวันนี้ก็พาไปกินร้านที่เคยไปกินมาแล้วครั้งหนึ่ง (แต่เป็นมื้อเย็น) และประทับใจมาก จนตั้งใจว่ามีไปซ้ำนะคะ กับร้าน La Vie ซึ่งอยู่ที่โรงแรม Vie Hotel นั่นเองค่ะ สำหรับรอบนี้เป็นการไปกินมื้อกลางวันค่ะ เปิดรีวิวด้วยภาพรวมๆ ของวันนั้นก่อนเลยนะคะเวาเชอร์ซึ่งเมนูที่มีให้เลือกสำหรับเซ็ตลั้นช์ก็ตามนี้เลยค่าา ราคาปกติอยู่ที่ 799++ นะคะบรรยากาศภายในห้องอาหารในมุมอื่นๆ ค่าเสิร์ฟเป็นขนมปังและดิปปิ้งมาก่อนเลย ดิปปิ้งมีสามแบบนะคะ คือ บัตเตอร์ทรัฟเฟิ่ล มะเขือเทศกับน้ำมันมะกอก และแอนโชวีค่ะตัวบัตเตอร์ทรัฟเฟิ่ลมีกลิ่นทรัฟเฟิ่ลอ่อนๆ ค่ะ ดีงาม มะเขือเทศน้ำมันมะกอกจะเจือเปรี้ยวนิดๆ ส่วนแอนโชวี่ก็เค็มตามปกตินะคะ มีสามรสให้เลือกกันเลยทีเดียว เรากินคู่กับซ
สำหรับรอบนี้เป็นการไปกินมื้อกลางวันค่ะ
เปิดรีวิวด้วยภาพรวมๆ ของวันนั้นก่อนเลยนะคะ
เวาเชอร์ซึ่งเมนูที่มีให้เลือกสำหรับเซ็ตลั้นช์ก็ตามนี้เลยค่าา ราคาปกติอยู่ที่ 799++ นะคะ
บรรยากาศภายในห้องอาหารในมุมอื่นๆ ค่า
เสิร์ฟเป็นขนมปังและดิปปิ้งมาก่อนเลย ดิปปิ้งมีสามแบบนะคะ คือ บัตเตอร์ทรัฟเฟิ่ล มะเขือเทศกับน้ำมันมะกอก และแอนโชวีค่ะ
ตัวบัตเตอร์ทรัฟเฟิ่ลมีกลิ่นทรัฟเฟิ่ลอ่อนๆ ค่ะ ดีงาม มะเขือเทศน้ำมันมะกอกจะเจือเปรี้ยวนิดๆ ส่วนแอนโชวี่ก็เค็มตามปกตินะคะ มีสามรสให้เลือกกันเลยทีเดียว เรากินคู่กับซอฟท์บันค่ะ ซึ่งเนื้อในนุ่มเหนียวนิดๆ อร่อยเช่นเคยค่ะ
คอมพลีเมนทารีจากทางร้านค่ะ (เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของที่นี่เลย มีอะไรมาเซอร์ไพรซ์ตลอดๆ) เป็นลอบสเตอร์ทาทาร์วิธคาร์เวียร์ค่ะ อร่อยชื่นๆ แกมเค็มนิดหน่อย เรียกน้ำย่อยได้ดีค่ะ
ขอเมนูปกติมาถ่ายให้ด้วยค่ะ เผื่อใครจะเลือกโดยดูที่ราคาว่าเมนูไหนคุ้มสุด ฮาาอ้อ มีไวไฟฟรีนะฮับ ขอจากเจ้าหน้าที่ได้เลยค่ะ
ตัวนี้เป็นของเพื่อนค่ะ แต่ได้ชิมมาหน่อยหนึ่งด้วยนะคะ กับซุปเห็ดป่าคาปุชชิโนแบล็คทรัฟเฟิ่ลค่ะ ทรัฟเฟิ่ลชัดพอควรค่ะ แต่ก็ยังคงอ่อนๆ อยู่ ครีมมี่กลางๆ นะคะ
ส่วนนี่เป็นของเราค่ะกับสลัดเป็ดกงฟี่ เสิร์ฟคู่ไข่ออร์แกนิก 64 องศาเซลเซียส ขนมปังบริโอช เบคอนสับทอดกรอบ และทรัฟเฟิ่ลสลัดออกสดชื่นดีนะคะ รสออกเปรี้ยว แต่เราว่ารสชาติของไข่แดงที่มาด้วยกันไม่ค่อยเข้ากับสลัดเท่าไหร่ค่ะ กินคู่กับเป็ดถูกจริตเรามากกว่าค่ะ แหะๆ
ต่อไปเป็นจานหลักของเราค่ะ (รอบนี้ไม่มีเนื้อให้เลือกหละ แง) แกะอบเมดาเลี่ยน เสิร์ฟพร้อมกับมะเขือยาว โอลีฟดำ แฟนเนลชัตเน่และโรสแมรี่ค่ะ
เราสั่งแบบมีเดียมแรร์ ชิ้นหนึ่งได้ตามสั่ง แต่อีกชิ้นไม่มีความแรร์แล้วค่ะ แต่โดยรวมนุ่มดีค่ะ กลิ่นแกะน้อยนะคะ อร่อยโอเคค่ะ แต่เราว่าโดยรวมว้าวน้อยกว่าการกินรอบที่แล้ว (แค่จัดพรีเซนเตชั่นมาก็...ไม่ใช่แล้วง่ะ) พอถามพนักงานก็จริงๆ แหละ เชฟคนละคนกับที่เรากินรอบที่แล้วค่ะ แหะๆ
ต่อไปเป็นจานหลักของเพื่อนค่ะ กับปลาหิมะเสิร์ฟคู่กับโฮมเมดน็อกกี่ เห็ดซองเทอเรต์และถั่วปากอ้านะคะ
ข้างนอกกรอบนิดๆ ที่ผิว เนื้อฉ่ำนิดๆ มีรสเค็มเจือมาบางส่วนค่ะ โดยรวมโอเคนะคะ จากนั้นก็รอของหวานนานมากกกกกกกกกกก นานจนพนักงานเอาชามาเสิร์ฟเป็นคอมพลิเมนทารีให้ค่ะ (น่ารักมากอ้ะ) เป็นยี่ห้อทไวนิ่งนะคะ ให้เรากับเพื่อนคนละแก้วในฐานะที่รอของหวานนาน (แบบว่าเรามีนัดต่อด้วยง่ะค่ะ เง่อ)
แน่นอนว่าเราเลือกเอิร์ลเกรย์นะคะ แหะๆ
ของหวานของเพื่อนค่ะ เพื่อนเลือกเลมอนทาร์ตมิ้นท์ค่ะของเพื่อนอร่อยแหละ ทาร์ตนวลดี ไอศกรีมมิ้นท์ก็โอค่ะ
ของเราเป็น Infinity coffee, white chocolate, yoghurt ค่ะ ออกมาเป็นหน้าตาตามภาพเลยฮับ
ตัวอื่นจะเหมือนครีมแน่นๆ รสเจือหวานเบาๆ และมีตัวที่เป็นรสกาแฟด้วยนะคะ แต่เราชอบไอติมตัวขวาสุดค่ะ อร่อยดีค่ะวันนั้นจ่ายเพิ่มไปแค่น้ำเปล่าที่เพื่อนสั่งมาเพิ่มค่ะ นอกนั้นก็รวมไว้หมดแล้ว (ปกติจะมีของหวานคอมพลิเมนทารี่ให้นะคะ แต่วันนั้นเรารีบจริงๆ เลยไม่ได้อยู่รอง่ะ แหะๆ)
สรุปสำหรับที่นี่นะคะวันนั้นเนื่องจากเชฟไม่ใช่คนเดิมค่ะ ถามว่ารสชาติแย่ลงไหม ก็ไม่ขนาดนั้น แต่ไม่ฟินปังเท่าเดิมค่ะ แหะๆ แต่เรื่องการบริการยังดีมากๆ เหมือนเดิมนะคะ ทั้งการแก้ปัญหาที่ของหวานมาช้าและอื่นๆ ยังคงดีงามอยู่ค่ะ ถ้ามีโอกาสก็ยังเป็นร้านอาหารฝรั่งเศสร้านหนึ่งที่เราคิดว่าน่าไปกินอยู่ดีค่ะ
Post
