Read full review
2016-03-15
583 views
วันนี้ตีตี้ขอพาไปทานอาหารกลางวัน กันที่เซ็นทรัลลาดพร้าว เป็นสาขาที่มักจะมีร้านอาหารผุดขึ้นมากมาย แต่วันนี้ขณะที่เดินห้างเพลินๆอยู่ ก็เหลือบไปเห็น เดอะ เทอร์เรส The Terrace Restaurant ก็รู้สึกคิดถึง เพราะไม่ได้ทานนานมาก จึงตัดสินใจฝากท้องมื้อนี้ที่นี่เดอะ เทอร์เรส The Terrace Restaurant สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว อยู่ชั้น 5 โซนในห้าง การเดินทางมาก็ไม่ยากเลยเพราะอยู่ในห้างที่เป็นที่รู้จัก แถมเป็นร้านอาหารของห้างด้วย ไม่ว่าจะเดินทางมาจากเส้นไหน เมื่อมาถึง 5 แยกลาดพร้าว ก็จะเห็นห้างตั้งตระหง่านอยู่ จากนั้นเข้าเส้นพหลโยธิน ห้างจะอยู่ทางซ้ายมือ แต่ถ้ามาจากพหลโยธิน ก่อนถึง 5 แยกลาดพร้าว ห้างจะอยู่ทางขวามือ ร้าน เดอะ เทอร์เรส Th
ขณะที่เดินห้างเพลินๆอยู่ ก็เหลือบไปเห็น เดอะ เทอร์เรส The Terrace Restaurant ก็รู้สึกคิดถึง เพราะไม่ได้ทานนานมาก จึงตัดสินใจฝากท้องมื้อนี้ที่นี่
เดอะ เทอร์เรส The Terrace Restaurant สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว อยู่ชั้น 5 โซนในห้าง การเดินทางมาก็ไม่ยากเลย
เพราะอยู่ในห้างที่เป็นที่รู้จัก แถมเป็นร้านอาหารของห้างด้วย ไม่ว่าจะเดินทางมาจากเส้นไหน เมื่อมาถึง 5 แยกลาดพร้าว ก็จะเห็นห้างตั้งตระหง่านอยู่ จากนั้นเข้าเส้นพหลโยธิน ห้างจะอยู่ทางซ้ายมือ แต่ถ้ามาจากพหลโยธิน ก่อนถึง 5 แยกลาดพร้าว ห้างจะอยู่ทางขวามือ ร้าน เดอะ เทอร์เรส The Terrace Restaurant จะอยู่ติดกับแผนกเครื่องแก้วและของใช้ตกแต่งบ้านสวยๆ ร้านโทนสีขาวจากด้านนอก ขนาดไม่ใหญ่มาก แต่พอเดินเข้าไปด้านใน ทะลุไปจะเป็นห้องกว้าง ที่มีกระจกหน้าต่างบานใหญ่ ไว้สำหรับชมวิวเมืองด้วย สามารถเลือกนั่งด้านติดกระจกก็ได้ สามารถรองรับลูกค้าได้ประมาณ 40 คน ในร้านสะอาด เป็นระเบียบ จะมีชุดช้อนส้อม พร้อมที่วางแก้ววางเตรียมรอลูกค้าล่วงหน้าเลย วันนี้ผมเลือกนั่งโซนไม่ติดกับกระจก เพราะรู้สึกว่าแอร์ในร้านไม่ค่อยเย็นเท่าไหร่ หากนั่งติดกระจกจะร้อนมากขึ้น
ผมเลือกสั่งน้ำเป็นเอสโคล่า (ราคากระป๋องละ 35 บาท) มาดื่มให้ชื่นใจก่อนสั่งอาหาร วันนี้ผมเลือกสั่งเป็นข้าว กับข้าว แยกกัน เพราะมากัน 2 คน เลยคิดว่าทานแบบนี้น่าจะอร่อยกว่า ราคาอาหารที่นี่จะมี service charge อีก 10% ด้วยนะครับ ซี่โครงหมูอบเดอะเทอเรส (ราคา 155 บาท)
เมนูนี้ตอนมาเสริฟ ผมว่าค่อนข้างขนาดใหญ่เหมือนกัน เนื้อหมูไม่เหนียว แต่ก็ไม่ได้ละลายในปากเลย และในบางชิ้นเนื้ออาจจะเหนียวบ้าง และน้ำราดอาจจะอ่อนรสไปนิดนึง เวลาทานคู่กับข้าวเลยทำให้จืดไปหน่อย แกงเขียวหวานไก่ (ราคา 120 บาท)
เมนูนี้ผมค่อนข้างผิดหวัง กับปริมาณและการตกแต่ง จำได้ว่าเมื่อก่อนสีสันและปริมาณไม่ว่าจะเป็นมะเขือหรือใบที่ใช้โรยหน้า มันดูสีสันน่าทานกว่านี้ มาวันนี้มันเหมือนเน้นน้ำซะมากกว่า ถึงแม้เนื้อไก่จะมาแบบปริมาณใช้ได้ รสชาติกลางๆแต่ก็เข้มข้นกว่าเมนูแรก แต่สำหรับคนที่กินเครื่องเคียงประกอบอย่างผม รู้สึกไม่ค่อยชอบเลยครับ น้ำพริกกะปิ-ปลาทูทอด (ราคา 115 บาท)
เป็นเมนูที่ถูกใจผมที่สุดในวันนี้ เพราะรสชาติของน้ำพริกกะปิที่เข้มข้นกลมกล่อมถูกใจ แถมเครื่องเคียงที่ให้มา ก็ล้วนแล้วแต่ของโปรดผม ทั้งปลาทูทอด ไข่ชะอม ผักต้ม ผักสด และผักทอด เวลาจิ้มน้ำพริกทานกับข้าวสวย อร่อยครับ เฉพาะเมนูนี้ผมสั่งข้าวเปล่าเพิ่มอีก 1 ตบท้ายด้วยของหวานสุดคลาสสิคของร้านนี้คือ
กล้วยไข่เชื่อมราดน้ำกะทิ (ราคา 50 บาท) เป็นของโปรดที่มาทานกี่ครั้งก็ต้องสั่ง กล้วยวางเรียงมาเป็นชิ้นๆ พร้อมหยอดน้ำกะทิแบบเข้มข้น เป็นของตบท้ายที่อร่อยและงดงามที่สุด มื้อนี้ผมสั่งข้าวเปล่าไป 3 จาน (ราคาจานละ 15 บาท) น้ำเอส 2 กระป๋อง รวม 610.5 บาท เรียกได้ว่า อิ่มแปล้เลยครับ จริงๆรสชาติของอาหารร้านนี้ผมโอเคนะครับ เพราะชั่งน้ำหนักความชอบกับความชอบแล้ว ผมว่า ผมชอบมากกว่า โดยรวมเลยถือว่าโอเค ขอชื่นชมพนักงานที่สาขานี้ บริการเร็ว อาหารออกเร็ว สั่งอะไรไปเพิ่มก็ได้เร็วครับ การบริการโอเครเลย ถ้ามีโอกาสจะลองไปทานเมนูอื่นๆอีกครับ
Post