Read full review
2015-10-13
85 views
สำหรับวันนี้ก็จะพาไปกินอาหารเวียดนามกันบ้างนะคะ นั่นก็คือร้าน bin bin long นั่นเองค่ะ โดยการไปกินร้านนี้ก็เป็นการแลกเวาเชอร์จากเว็บหนึ่งอีกเช่นเคยค่ะ ฮา โดยร้านนี้ก็จะอยู่ในซอยพหลโยธิน 11 นะคะ สามารถเข้าได้สองทางคือจากทางถนนพหลโยธิน ถ้าเข้ามาแล้วจะอยู่ทางซ้ายมือ หรือถ้าเข้ามาจากทางถนนพระราม ๖ ก็จะอยู่ทางขวามือค่ะหน้าตาของตัวอาคารก็ตามภาพเลยนะคะ จอดรถต้องจอดริมถนนของซอยหละค่ะ อย่างวันนั้นเรากับเพื่อนอีกคนก็จอดที่หน้าร้านกันเลยนะคะที่นี่เปิด 11.00-22.00 น.ค่ะ และมีฟรีไวไฟให้ด้วยนะคะ (แต่เราไม่ได้ใช้บริการแหละ แหะๆ)การตกแต่งภายในร้านค่ะ ขอบอกว่า..ดูไม่เหมือนร้านอาหารเวียดนามอื่นๆ นะคะ แตกต่างอย่างชัดเ
หน้าตาของตัวอาคารก็ตามภาพเลยนะคะ จอดรถต้องจอดริมถนนของซอยหละค่ะ อย่างวันนั้นเรากับเพื่อนอีกคนก็จอดที่หน้าร้านกันเลยนะคะ ที่นี่เปิด 11.00-22.00 น.ค่ะ และมีฟรีไวไฟให้ด้วยนะคะ (แต่เราไม่ได้ใช้บริการแหละ แหะๆ) การตกแต่งภายในร้านค่ะ ขอบอกว่า..ดูไม่เหมือนร้านอาหารเวียดนามอื่นๆ นะคะ แตกต่างอย่างชัดเจน ซึ่งตอนเย็นๆ ก็จะมีดื่มๆ ดริ๊งค์ๆ กันด้วยค่ะ เก๋ดี แล้วก็มีป้ายแจ้งด้วยว่า สำหรับบางเมนูก็ต้องใช้เวลารอหน่อยนะฮับ เมนูค่ะ เป็นแผ่นกระดาษใบเดียวพิมพ์สี่สี และมีรายการอาหารหน้าหลังตามภาพเลยนะฮับ นอกจากนั้นก็ยังมีสเปเชียลเมนู และเมนูของหวานต่างหาก ตามภาพเลยค่าา เครื่องดื่มที่เราสั่งมาค่ะ ชอบภาชนะมาก เก๋ดี รู้สึกว่าจะสั่งน้ำผึ้งมะนาวกันนะคะ เปรี้ยวอมหวานสดชื่นดีค่ะ แต่..เหมือนไม่ได้ใช้มะนาวแท้นะคะ แหะๆ ยำหมูยอซอสมะเฟือง (180บาท) ค่ะ เมนูนี้มาพร้อมข้าวเกรียบด้วย ซึ่งเราก็แบบว่า..ไม่รู้ไงว่าเค้าให้กินด้วยกัน คิดว่าเค้าเอาให้มารองท้อง (อายมั้ย?) ซึ่งข้าวเกรียบตัวนี้จะไม่กรอบนะคะ เหนียวนิดๆ ค่ะ เราเลยกินแค่นิดเดียว ส่วนตัวยำหมูยอซอสมะเฟือง รสจัดจ้านมากๆ ค่ะ ถูกใจคนกินเผ็ดอย่างเราและเพื่อน ต่อไปค่ะ กับเมนูสุดฮิตของร้านอาหารเวียดนาม แหนมเนืองค่ะ ตัวเครื่องทุกอย่างดีหมดเลยค่ะ ยกเว้นน้ำจิ้ม ซึ่ง...เอิ่ม..ไม่มีพริกใดๆ แบบที่ร้านทั่วไปมีมาเลยค่ะ ทำให้รสชาติมันขาดๆ ไปอย่างไรก็ไม่ทราบ เสียดายมากค่ะ เลยไม่ค่อยสุดเท่าไหร่ (แต่แหนมเนืองในกรุงเทพฯ นี่หาอร่อยยากจริง ๆ นะคะ คิดถึงแหนมเนืองเจ้าดังๆ ทางอิสานหลายๆ เจ้าจริงๆ)
เมนูต่อไปค่ะกับเมี่ยงสดไข่เจียว มาพร้อมน้ำจิ้มตามภาพด้วย
เวลาใส่น้ำจิ้มก็จะให้อีกรสชาติหนึ่งนะคะ มันจะทำให้รสสัมผัสในปากชุ่มมากขึ้นด้วยค่ะ อันนี้จะกินแบบไหนก็แล้วแต่คนชอบละกันนะคะ แหะๆ
ปิดท้ายกันที่ของหวานค่ะ โรตีทอด เราสั่งมาแบบกล้วยหอมครึ่งหนึ่ง ไมโลนมข้นครึ่งหนึ่งค่ะ ซึ่งตัวแป้งของโรตีโอเคเลยนะคะ นุ่ม หนา และเครื่องหน้าที่โปะมาก็จัดเต็มแบบไม่มีการหวงกันเลยค่ะ ชอบ อร่อยค่ะเมนูนี้ อีกอย่างหนึ่งที่อยากจะแนะนำนะคะ คือเราค้นพบการกินแบบใหม่ คือควรเอาเจ้าสองหน้านี้มาประกบกันแล้วกินค่ะ อร่อยกว่ากินแยกกันเยอะมากๆ เลยค่ะ
อร่อยไม่อร่อยก็มีสั่งมาอีกจานแล้วกันค่ะ (ฮา) คราวนี้ลองสั่งบลูเบอร์รี่กับสตรอเบอรี่มาบ้าง แต่ปรากฏว่า..ไม่อร่อยเท่าตัวไมโลนมข้นกับกล้วยหอมแบบประกบกันค่ะ (ย้ำๆ) ค่าเสียหายที่หมดไปวันนั้นค่ะ เรามีเวาเชอร์ 500 ก็จ่ายเพิ่มอีกหน่อยเหมือนเดิมค่ะ (ใช้เวาเชอร์ทีไร ไม่เคยกินอยู่ในเวาเชอร์ได้สักที แม่คุณเอ๊ยยยย) ส่วนท่านนี้เป็นเจ้าของร้านนะคะ ชื่อคุณต้อม (หรือเปล่าคะ ทำที่จดไว้หายง่ะ) ซึ่งก็ได้พูดคุยที่มาของร้านกับคุณต้อมนิดหน่อยค่ะ เลยเอามาเล่าให้เพื่อนบล็อกฟังกันด้วยนะคะ
สาเหตุที่คุณต้อมเลือกที่จะเปิดร้านอาหารเวียดนามก็เพราะชอบกินอาหารเวียดนามมาตั้งแต่เด็กค่ะ (แม้ว่าจะไม่ชอบกินผัก อ้าว ฮา) ที่จริงคุณต้อมเองก็ทำงานประจำอยู่ด้วยนะคะ แต่มาเปิดร้านเพราะอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองค่ะ ซึ่งคุณต้อมอัธยาศัยดีมากๆ ค่ะ คอยดูแลตลอดๆ เลย ถ้าท่านใดได้ไปก็สามารถชวนคุยได้นะคะ
สรุปสำหรับร้านนี้นะคะ เป็นอาหารเวียดนามอีกแห่งที่อยู่ใจกลางเมือง ตัวเมนูแหนเนืองยังไม่ถูกใจเราเป๊ะๆ เท่าไหร่ (แต่เหมือนว่าที่ไม่มีพริก เพราะพนักงานไม่ได้เอามาเสิร์ฟโดยแจ้งคุณต้อมว่าหมดค่ะ ซะงั้นนนนน (ที่รู้เพราะคุณต้อมเห็นแล้วถาม แล้วก็ได้ยินพนักงานตอบตามนี้ค่ะ)) แต่ถ้ามีพริก อาจจะโดนกว่านี้นะคะ ยำหมูยอซอสมะเฟือง แปลกและอร่อยจัดจ้านดีค่ะ ที่โดนเราที่สุดคือโรตีทอดนี่แหละ อย่าลืมลองกินแบบที่เราแนะนำนะคะ แฮ่
Post