Read full review
2016-06-10
210 views
วันนี้ก็พาไปกินร้านเบนิฮาน่ากันเป็นครั้งที่สองนะคะ หลังจากเคยกินครั้งแรกที่สาขาอนันตราริเวอร์ไซด์มาแล้ว (คลิกเพื่ออ่าน)สำหรับการไปกินวันนี้เป็นการแลกเวาเชอร์จากคะแนนรีวิวที่เว็บๆ หนึ่งอีกแล้วนะคะ โดยสาขาที่ไปกินรอบนี้เป็นสาขาที่โรงแรม Avani Atrium ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ค่ะ พิกัดก็ตามนี้เลยนะฮับวันนั้นเราเอารถไป ซึ่งใครจะไปที่นี่ ไม่แนะนำให้ใช้ google map ค่ะ เพราะมันไปปักไว้ที่หลังรร. ซึ่งเข้าไปรร.ไม่ได้ค่ะ แง้ววว เราเองเลยต้องงมทางต่อไปเองแหละ ฮืออออ (โทร.ถามทางรร.ก็บอกทางไม่ถูกง่ะ แง้วๆ)สำหรับที่จอดรถ มีที่จอดสำหรับคนที่มากินที่ Benihana โดยเฉพาะด้วยนะคะห้องอาหารเบนิฮาน่าจะอยู่ที่ชั้น 2 นะคะ แต่ที่ป้ายลิฟท์ที่จอดรถยังไม่มีบอก
สำหรับการไปกินวันนี้เป็นการแลกเวาเชอร์จากคะแนนรีวิวที่เว็บๆ หนึ่งอีกแล้วนะคะ โดยสาขาที่ไปกินรอบนี้เป็นสาขาที่โรงแรม Avani Atrium ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ค่ะ พิกัดก็ตามนี้เลยนะฮับ
วันนั้นเราเอารถไป ซึ่งใครจะไปที่นี่ ไม่แนะนำให้ใช้ google map ค่ะ เพราะมันไปปักไว้ที่หลังรร. ซึ่งเข้าไปรร.ไม่ได้ค่ะ แง้ววว เราเองเลยต้องงมทางต่อไปเองแหละ ฮืออออ (โทร.ถามทางรร.ก็บอกทางไม่ถูกง่ะ แง้วๆ)
สำหรับที่จอดรถ มีที่จอดสำหรับคนที่มากินที่ Benihana โดยเฉพาะด้วยนะคะ ห้องอาหารเบนิฮาน่าจะอยู่ที่ชั้น 2 นะคะ แต่ที่ป้ายลิฟท์ที่จอดรถยังไม่มีบอกนะคะ อีกสักพักน่าจะทำหละมั้ง โดยลิฟท์ตัวที่เราขึ้น จะขึ้นจากลานจอดรถมาที่ล็อบบี้ก่อนค่ะ แล้วถึงจะขึ้นลิฟท์อีกตัวไปที่ห้องอาหารต่อนะฮับ
หน้าตาด้านหน้าของห้องอาหารแห่งนี้ค่าา พอเข้าไปปุ๊บ น้องที่เป็นคนจัดการบุ๊คกิ้งก็จะตีฆ้องนะคะ ในร้านก็จะกล่าวต้อนรับกันค่ะ เป็นกิมมิคที่น่ารักดีเนาะ ภายในร้านค่ะ จัดแยกเป็นเคาน์เตอร์ (อิชั้นใช้ศัพท์ถูกมั้ยหละนั่น) ของแต่ละกลุ่มเลยนะคะเลยนะคะ (มีกลุ่มหนึ่งมาจัดปาร์ตี้ให้เด็กน้อยด้วยค่ะ น่ารักเชียว) แล้วก็จะเห็นรูปและชื่อในการจองของบรรดาเซเลปต่างๆ ที่สาขาอื่นๆ ของเบนิฮานะด้วยนะคะ
สำหรับท่านนี้คือเชฟที่จะมาทำอาหารให้เรากินวันนี้ค่ะ
ท่านใดที่ต้องการเช็คอินหรืออัพภาพ มีไวไฟด้วยนะคะ แล้วก็อย่าลืมนำบัตรจอดรถให้ทางห้องอาหารประทับตราด้วยค่ะ (จอดได้ 4 ชั่วโมงนะคะ)
พนักงานนำถั่วแระญี่ปุ่นมาบริการก่อนค่ะ แต่ขอสารภาพว่าไม่ได้แตะเลยฮับ แหะๆ แล้วก็ตามต่อด้วยซุปหัวหอมญี่ปุ่นค่ะ ซุปรสชาติดีนะคะ ไม่เหมือนซุปญี่ปุ่นอื่นๆ ที่เคยกิน มีรสมีชาติค่ะ (ออกแนว...อ่า คล้ายๆ เวลากินไวไวอ้ะ (เปรียบเทียบซะเค้าเสียเลย แต่นึกตัวเปรียบเทียบอื่นไม่ออกง่ะค่ะ แหะๆ)) หอมตัวหอมเจียวและรสคล้ายแบบนั้นเลยค่ะ ตามต่อด้วยสลัดเบนิฮานะค่ะ ผักสดดี น้ำสลัดมาตรฐานนะคะ ที่จริงน่าจะว้าวกว่านี้อีกหน่อยอะค่ะ (ปกติเราก็ชอบน้ำสลัดญี่ปุ่นอยู่น้า) ตามต่อมาด้วยเซ็ตนี้ค่ะ ตัวแคลิฟอร์เนียโรลล์นี่อร่อยนะคะ แซลมอนก็หวานสดดีงามมาก แต่ทูน่า..ชิ้นที่เรากินไม่สดค่ะ ชิ้นสองเราเลยไม่แตะเลยง่ะ ไม่รู้ว่าพลาดได้ไงน่อ เครื่องดื่มค่ะ ต้องตามหลายรอบเหมือนกัน กับชาร้อนค่ะ
โต๊ะที่เราไปนั่ง จะมีอีกคู่มากินด้วยนะคะ แล้วเค้าไปถึงก่อนเรา (อย่างที่บอกว่ากูเกิ้ลแม็พทำหลงซะงั้น แง้ว) เชฟเลยเริ่มทำให้เค้าก่อนค่ะ แล้วของเราก็จะตามหลังน่ะค่ะ และแล้วสิ่งที่รอคอยก็มาาาาค่ะ ตัวจานหลักนี่เลือกได้ว่าจะเป็นออสเตรเลียริบอายส์หรือว่าจะเป็นแซลมอนนะคะ เราเลือกริบอายส์นะคะ มาแล้ววววค่ะ เราสั่งมีเดียมแรร์นะคะ แต่ได้มากึ่งมีเดียมมากกว่านะ แต่ก็นิ่มอร่อยดีค่ะ ซึ่งต้องกินตอนร้อนๆ นะคะ พอเริ่มเย็น เนื้อจะเริ่มเหนียวขึ้น
เนื้อดีมากค่ะ นิ่ม หอม เคี้ยวกำลังมัน ฟินค่ะ อร่อยๆ จากนั้นก็เป็นอีกหนึ่งเมนูค่ะ กับข้าวผัดกระเทียมนะคะ อันนี้มุขมาตรฐาน อิอิ ปิดท้ายด้วยของหวานค่ะ ชีสเค้กญี่ปุ่นกับไอศกรีมวานิลา อร่อยดีงามค่ะ ตัวชีสเค้กข้างในจะเป็นชีสที่ยังมีความแน่นอยู่ แต่มีความกรอบนิดๆ ด้านนอก ไอศกรีมก็อร่อยค่ะ อยากขอเบิ้ลเลย แหะๆ จบมื้อนี้ไปด้วยความอิ่มอร่อยค่ะ โดยรวมกับราคาที่ขายอยู่ที่ 699++ (823.7 เน็ต) สำหรับเราถือว่าโอเคนะคะ ที่จริงดีลของ Bangkok Restaurant Week มีหลายตัวเลยค่ะที่ค่อนข้างคุ้ม ซึ่งปีนี้เป็นปีแรกที่เราได้ไปใช้เวาเชอร์ (ทั้งซื้อและแลก) ของโครงการนี้ เลยรู้สึกว่า เดี๋ยวรอบหน้ามีอีกก็จะสอยอีกค่ะ เพราะโอเคมากเมื่อเทียบกับราคานะคะ ยิ่งถ้าเป็นระดับ Elite ที่จะมีโค้ดส่วนลดให้ด้วยนี่ ยิ่งคุ้มมากๆ เลยค่ะ
Post