หน้าหนาวกำลังใกล้เข้ามาพร้อมกับปัญหาที่ผู้หญิงส่วนใหญ่เป็นกังวล ก็คือ ปัญหาผิวแห้งขาดความชุ่มชื้น ผู้หญิงหลายท่านต้องพบเจอกับปัญหาผิวแห้งหลุดลอกอยู่แล้ว แต่เมื่อถึงหน้าหนาวทีไร ผิวก็ยิ่งแห้งหนักขึ้นเป็นทวีคูณจนขาดความมั่นใจไปเลย แต่ปัญหานี้ดูแลและรักษาได้ โดยการเลือกรับประทานอาหารที่สามารถทำให้ผิวที่แห้งกลับชุ่มชื้นได้อีกครั้ง นอกจากนี้ยังช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้อีกด้วย

คุณค่าและสารอาหารที่อยู่ในอาหารหลากหลายชนิด สามารถเพิ่มเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ แต่เราไม่เคยรู้มาก่อน และพยายามสรรหาครีมมากมายมาบำรุงผิวที่แห้งกร้าน แต่ครั้งนี้เราจะอาศัยคุณประโยชน์ที่ได้จากอาหารในการดูแลผิวพรรณ เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่สาวๆก่อนถึงหน้าหนาวนี้

1. น้ำมันมะกอก อุดมไปด้วยไขมันแบบ Monounsaturated ซึ่งประกอบด้วยกรดไขมันที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผิวมากถึง 25% ไขมันชนิดนี้กระตุ้นการอุ้มน้ำของเซลล์ได้อย่างดี ทำให้ผิวเรียบเนียนน่าสัมผัส โดยวิตามินอีในน้ำมันมะกอก เป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยลดการทำลายเซลล์ผิว ไม่ทำให้ผิวแห้งง่าย

2. น้ำมันมะพร้าว มีคุณสมบัติช่วยรักษาปัญหาผิวแห้ง ช่วยให้ผิวเรียบเนียนนุ่มน่าสัมผัส ผลพิสูจน์ ได้แก่ การใช้น้ำมันมะพร้าวรักษาโรคสะเก็ดเงิน โดยช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนังในส่วนที่ติดเชื้อ ช่วยรักษาอาการติดเชื้อได้ ไม่ว่าจะใช้รับประทานหรือทาบนผิวหนัง

3. อะโวคาโด ประกอบด้วยไขมันไม่อิ่มตัว ซึ่งมีผลดีกับสุขภาพผิวของสาวๆ ทั้งไขมันประเภท Polyunsaturated และ Monounsaturated ที่จะช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวเรียบเนียน สีผิวสม่ำเสมอ ไม่หยาบกร้าน และไม่มีริ้วรอย อีกทั้งยังมีวิตามินบี ซึ่งมีประโยชน์ช่วยการทำงานของระบบเผาผลาญในร่างกาย

4. ชา มีส่วนประกอบของสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ในระดับดีเอ็นเอ ถ้าความชุ่มชื้นถูกทำลาย ผลที่จะตามมา คือ ผิวแห้งและไม่สามารถอุ้มน้ำไว้ได้ สารต้านอนุมูลอิสระในชาเรียกว่า Phenols เป็นตัวเดียวกับที่พบได้ในผลเบอร์รี่และองุ่น ทำให้ผิวสุขภาพดีและชุ่มชื้น

ขอทิ้งท้ายไว้สำหรับสาวๆที่อาจจะกลัวอ้วนจากการทานอาหารที่กล่าวถึงข้างต้นว่า ไขมันที่อยู่ในอาหารเหล่านี้เป็นไขมันดี ไม่อิ่มตัว ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นเปล่งปลั่งขึ้น โดยไขมันไม่อิ่มตัวนี้ยังสามารถพบได้ในปลา ถั่ว ธัญพืช และน้ำมันจากพืชด้วย ดังนั้นเพื่อให้ผิวกลับมีความชุ่มชื้นก็อย่ากลัวที่จะทานไขมันบ้าง และอย่าลืมดื่มน้ำให้ได้วันละ 6-8 แก้วควบคู่ไปด้วย เพื่อผิวชุ่มชื้นอย่างที่ผู้หญิงอย่างเราใฝ่ฝั่นถึง กลับกลายเป็นจริง...ปิ๊งๆ

ที่มา :  นพ.วรชัย ชื่นชมพูนุท สูตินรีแพทย์ ศูนย์สุขภาพสตรี โรงพยาบาลบีเอ็นเอช และ ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามจากนิรันดา คลินิก

เครดิตภาพ : the-ibenefits, pakalertpress, topfyonline, victoriagaines