2
0
0
Signature Dishes
Cappuccino Cappuccino Dolcetto Crepe Cake Homemade Coconut Cream Cake Latte The Banoffie Pie
กาแฟที่เชียงใหม่มีให้เลือกหลายร้านเลย ทุกซอย ที่เล็กๆ น้อยๆ มีหมดส่วนมากก็มีคนนั่งทุกร้านนะคะ นอกจากร้านไหน ดังหน่อยคนก็ จะแน่น ขนัดร้าน  Dolcetto Cafeช่วงหลัง ก็มานั่งร้านนี้ประจำ เพราะ คนไม่พลุกพล่าน เป็นร้านเล็ก ๆอยู่ปากซอย นิมมาน ซอย 7มีที่นั่งทั้งข้างในข้างนอก ร้านนี้จะเน้นกาแฟจริงจัง ไม่ได้ มีเค้ก นู่นนี่อะไรมากคะบรรยากาศกาศ ก็แต่งแบบเย้นสีดำ มีหนังสือให้อ่านเราชอบนั่งข้างนอก บรรยากากาศดี นั่งกินกาแฟ ไปอ่านหนังสือไปนี่สุดยอดแล้ววันนี้สั่งเป็นลาเต้ร้อน หอมมมม แต่ว่า เราว่าน้้ำ มันร้อนไปหน่อยมี อาร์ตลาเต้ นิดนิด continue reading
(The above review is the personal opinion of a user which does not represent OpenRice's point of view.)
สาวเหนือเซาะกิ๋น ปึ๊กมารุงรังอีกรอบแล้วเน้อเจ้างวดนี่จะพาไปร้านกาแฟในบ้านเกิดอิฉันแหละค่ะ ในจังหวัดที่สามารถทำลายสถิติร้านกาแฟที่เยอะกว่ากรุงเทพ (คือหมายถึงรวมบรรดาร้านกาแฟทุกเกรดยันรถเข็นขายนะเออ เคยอ่านข้อมูลนี่จากนิตยสาร IMAGE เมื่อสัก 5 ปีก่อน ไม่รู้ป่านนี่กรุงเทพ จำนวนร้านกาแฟเพิ่มขึ้นทันเชียงใหม่หรือยัง)และย่านที่น่าจะเรียกได้ว่ามีร้านกาแฟมากแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ ก็คงหนีไม่พ้นย่านนิมมาน ที่อาจเรียกได้ว่า จุดพีคของย่านนี่ เกิดจากมีร้านกาแฟเข้ามาเปิดนั้นเอง...ซึ่งการตกแต่งร้านกาแฟส่วนใหญ่ก็จะเน้นบรรยากาศดูผ่อนคลายด้วยโทนสีขาวละมุน หรือสีน้ำตาลช็อกโกแลตดูอบอุ่นละเมียด เข้าไปแล้วอยากหลับ(ซะงั้น)แต่รีวิวนี่สาวเหนือจะพามายังร้านกาแฟแบบสไตล์ผู้ชายมาดเข้ม ที่มีแต่บาริสต้าและบริกรหนุ่มๆ (แฮ่!)มาเอาใจสาวๆ กับร้านที่มีนามกรว่า...Dolcetto Cafe (โดลเชโต้ คาเฟ่)ร้านนี่หาไม่ยากค่ะ เพราะอยู่ติดถนนนิมมานพอดี เลยทางเข้าปากซอยนิมมาน 9 หน้าโชว์รูมคอตโต้ ก็จะเห็นร้านเล็กๆ สีดำสนิทแบบนี้ตั้งเด่นพื้นที่ร้านดูกะทัดรัดนะครัช ในร้านนั่งเต็มที่ได้ 2 โต๊ะ(4 คน) กับโต๊ะคู่แค่สองโต๊ะ (ด้านนอกมีโต๊ะคู่ประมาณ 4 โต๊ะ) ใครขี้ร้อน แนะนำนั่งในร้านดีกว่า แอร์เย็นฉ่ำ แดดเหนืออาจไม่ทารุณเท่าแดดบางกอกหรือปักษ์ใต้ แต่ถ้าคนเป็นขี้หนาวอย่างอิฉันบอกว่าร้อน แสดงว่าร้อนแต้ร้อนว่าจริงค่ะการตกแต่งภายในร้าน ให้อารมณ์เหมือนผู้ชายเท่ๆ วัยทำงาน ตกแต่งภายในแบบสไตล์โมเดิร์น ใช้สีดำเป็นโทนหลัก สีน้ำตาลกาแฟอ่อนเป็นโทนรอง ของตกแต่งจะเป็นพวกเมล็ดกาแฟ ที่นำมาจากร้าน Rist8to (แถวนิมมานก่อนซอย 5 ก็มีร้านชื่อนี่ แต่ส่วนใหญ่คนเต็มร้าน ร้านนี่ที่ว่างเยอะกว่า)บนโต๊ะมีดอกไม้ประดับให้มีความหวานแบบผู้หญิง contract กันสักหน่อย แถมมีเก๋ไก๋ เอากากกาแฟเหลือทิ้ง มาอัดเป็นก้อน ทำเป็นที่ดับบุหรี่ด้วยวอลเปเปอร์เมนูกาแฟดูเมนูกับระดับความเข้มข้นดื่มเป็นตื่นบนกระดานดำ ใครอยากไม่หลับไม่นอนวันนั้น สั่งแบบที่มีแก้วกาแฟเลเวลเยอะๆนะจ๊ะ...เห็นไม่มีตู้แช่เค้ก อย่านึกว่าไม่มีเค้ก(ไม่งั้นจะเอาภาพแรกมายั่วได้เยี่ยงไร) แต่ครัวร้านนี่้อยู่ด้านหลังกระดานนี่แหละจ้า เพราะที่เท่าแมวแด็นซ์ลืมตาย ยัดตู้เค้กเข้าไปอีกก็แน่นแล้วนะเออร้านนี่เล่นเน็ตฟรี และเอาคอมมาเสียบปลั๊กได้จร้า ร้านมีให้พร้อมเลยยี่ห้อกาแฟที่ใช้ในร้านนี่ร้านนี่สาวเหนือรีวิวได้แค่ 2 เมนูนะจ๊ะ เพราะไม่ได้กลับไปร้านนี่นานแล้วเมนูกาแฟแรกเป็น Dolcetto Ice coffee รสชาติขมกว่ากาแฟทั่วไปหน่อย แต่ไม่ถึงกับขมปี๋มาก ไม่มีหวานแทรกมาเลย รสแบบผู้ชายจริงๆแต่เมนูเค้กที่แหละที่อยากนำเสนอ คือ บานอฟฟี่ เห็นครั้งแรกแล้วมีสะอึก  ชิ้นใหญ่เวอร์กว่าร้านเค้กผู้หญิงอีกนะเออ สูงเกือบจะคืบนึง ครีมเป็นครีม ซอสคาราเมลสาดมาไม่ยั้ง ชนิดสาวใดอยากลบน้ำหนักที่มีลองกิเลสกันเลยพอลองตัดแบ่งดูชั้นครีมดู...หนาเกือบครึ่งนิ้วแน่ะ แต่ชอบที่เขาหั่นกล้วยเป็นแว่นๆ เรียงกันซะสวยไม่เละเลย (ไปกินบานอฟฟี่ร้านอื่น กล้วยเละอย่างกะบดกล้วยเป็นอาหารเด็กอ่อน) รสชาติหวานไม่จัด กำลังพอดี แม้จะหนักครีมหน่อย แต่ก็หนักกล้วยด้วย...เป็นเค้กในร้านที่ให้อารมณ์แบบว่า ผู้ชายต้องกินอะไรเต็มที่โหดๆแบบนี้แหละ ถึงจะแมน อย่าได้แคร์แคลอรี่แต่อย่างใดมีรีวิวเมนูแค่นี่แหละค่ะ เมนูอื่นวานไปลองของกันเองเด้อ น่าจะเป็นร้านที่สาวๆพาแฟนไปนั่งดื่ม หรือประชุมทำรายงานได้เพลินๆเลยล่ะ continue reading
(The above review is the personal opinion of a user which does not represent OpenRice's point of view.)