Boombu清邁平遊日記🇹🇭
| 米芝蓮推薦餐廳 - Khao Soi Mae Sai|

黎到清邁，一定要試泰國北部傳統美食Khao Soi。香港嘅泰國餐廳都比較少見，所以去到清邁我一定點都食餐Khao Soi！


今次同老公兩個人去清邁，突登搵左間米芝蓮推薦嘅Khao Soi店，「Khao Soi Mae Sai」，我地兩個人先係食左฿210 (HKD$48)🥺🥺🥺真係勁抵！推介大家黎食👍🏻👍🏻👍🏻👍🏻👍🏻


一入到去，店員會叫你拎飛同等位，店舖長期都好多人等位，睇落要等好耐，但因為店舖內冇冷氣嘅關係，其實啲人都唔坐得耐～


🤎Khao Soy with Beef ฿55 (HKD$12.7)
Must order!!! 佢嘅牛肉係勁出色，雖然係薄薄一片，但勁嫩口🥺我自己都叫左Khao Soy with Chicken ฿50食，佢係一隻雞膇，平時我去到泰國點都係食雞，但呢度但牛出色到決定encore左多碗牛



🤎Kanom Jean Nam Ngiao (Rice Noodles with Spicy Pork Sauce) ฿35 (HKD$12.7)
呢碗紅紅地嘅係傣族酸辣米粉，少少辣，我就麻麻地🙈但啲丸係幾好食，潮州男人都認證不錯的丸。人地店名叫Khao Soi Mae Sai，建議都係叫翻Khao Soi，唔好掂咁多野



🎁手信
佢呢度有賣自己炸嘅豬皮฿20，我買左幾包翻香港，個個朋友食都話好正🥺建議大家可以買呢個做手信，不過佢食用期都短，同小心啲唔好壓碎



💡What is Khao Soi
Khao Soi係濃郁嘅咖哩湯配雞蛋麵嘅一道菜，大家可以再自己嘅主食配料，一般餐廳都會比你揀雞、牛或豬。咖哩湯係由椰漿、咖哩粉和其他香料煮，可能會有少少辣，不過我通常都會同佢講「May Phet」（咪Pat），即係叫佢唔好落辣。每碗Khao Soi基本上都會再配炸麵條比你，真係勁好食🥺🥺🥺
———————————————
Khao Soi Mae Sai
📍 29, 1 Ratchaphuek Alley, Tambon Chang Phueak, Mueang Chiang Mai District, Chiang Mai 50300 Thailand
⏰ 0800 - 1600
.
味道: 🤎🤎🤎🤎🤍
環境: 🤎🤎🤎🤎🤍
服務: 🤎🤎🤎🤎🤎
抵食: 🤎🤎🤎🤎🤎
再食: 🤎🤎🤎🤎🤎
💰人均消費：HKD$25
.
✨更多清邁旅遊資訊
#boombu平價遊清邁
———————————————

วันนี้จะมารีวิวร้านอาหารร้านแรกที่ได้ไปประเดิมในทริปเชียงใหม่นะคะ นั่นก็คือ คาเฟ่เดอโอเอซิส (Cafe de Oasis) นั่นเองงงงงง


สำหรับพิกัดร้าน จะอยู่ใกล้ๆ กับศูนย์ประชุมฯ เลยนะคะ ตามนี้เลย (ใครขับรถไปเหมือนพวกเรา สามารถใส่ชื่อ เซิร์ชหาในกูเกิ้ลแมพได้เลยค่ะ)


สำหรับการจอดรถ สามารถจอดได้ริมถนนเลยค่ะ ถนนเส้นนี้กว้างขวางพอที่จะให้จอดรถได้หนึ่งเลนสบายๆ อะนะคะ

ร้านนี้เปิดเวลา 8.00-17.00 น.ค่ะ เหมาะสำหรับอาหารเช้าและกลางวันหละนะ

เดินลอดซุ้มประตูเข้าไปก็เลี้ยวขวาค่ะ จะเจอที่นั่งเอาท์ดอร์บางส่วนตามภาพเลยนะคะ แขกส่วนใหญ่ที่เห็นเป็นชาวต่างชาติหมดนะคะ แหะๆ

มีป้ายแนะนำเมนูที่ทางเชฟแนะนำ และของหวาน+เครื่องดื่มประจำฤดูกาลด้วยค่ะ

บรรยากาศของร้านนะคะ กว้างขวางและมีหลายที่นั่งพอควรเลยค่ะ มีสวนเล็กๆ น่ารักทางด้านหลังร้านด้วย น่าถ่ายรูปมากๆ ค่ะ

แต่วันนั้นเรานั่งห้องแอร์กันนะคะ ใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัว หรือมาเป็นหมู่คณะ ก็สามารถจองห้องนี้กับทางร้านได้ค่ะ

เอาเมนูของทางร้านมาให้ดูค่ะ ราคาก็ถือว่าไม่ได้แรงนะคะ


มาดูกันดีกว่าว่าวันนั้นกินอะไรกันไปบ้างนะคะ

ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย (Sukhothai Noodle) 120 บาท

ตัวนี้จัดเครื่องมาเต็มมากๆ เป็นสูตรของคุณแม่เจ้าของร้านนะคะ เสียดายว่าตอนกินค่อนข้างเย็นแล้ว (ค่ะ..มัวแต่ถ่ายรูปกันอยู่ แหะๆ) เส้นเลยค่อนข้างจับกันเป็นก้อนค่ะ รสชาติจะออกเปรี้ยวนำหน่อยๆ นะคะ น้ำซุปหวานอร่อยดีค่ะ

Eggs Benedict with Ham & Bacon 180 บาท

อาหารเช้าที่เป็นหนึ่งในเมนูขายดีสำหรับชาวต่างชาตินะคะ โพชเอ้กไข่เยิ้มอย่างที่ควรเป็น ตัวซอสเฮอร์นานเดสอร่อยค่ะ รสชาติดี มีเบคอนกรอบๆ เจือรสเค็มนิดๆ มาช่วยตัดรสด้วยค่ะ

ตัดไปที่เครื่องดื่มกันนิด ลาเต้ร้อน (ลายหงส์) กับคาราเมลแมคคิอาโต้ร้อน เราไม่ได้ชิมง่ะนะ แต่ที่นี่ทำลายสวยดีค่ะ คนกินบอกว่าอร่อยละมุนดีค่ะ

ส่วนอันนี้เป็นเครื่องดื่มที่ได้ชิมค่ะ จากซ้ายไปขวา

ช็อคโกแลตเบลเยี่ยม (Belgian Iced Chocolate) 140 บาท / Ozy on ice (โอซี่ออนไอซ์) 85 บาท / Mango Smoothie 95 บาท

ช็อกโกแลตเบลเยี่ยมเข้มข้นดีค่ะ ค่อนไปทางดาร์คช็อก สายดาร์คช็อกน่าจะชอบ / ตัวโอซี่ออนไอซ์ เป็นเอสเปรสโซ่เย็นสูตรของทางร้าน เราว่าละมุนดีค่ะ คนที่ไม่ชอบกาแฟขมมาก น่าจะชอบ เป็นซิกเนเจอร์ของทางร้านเลยนะคะ / ส่วนแมงโก้สมูธตี้นี่เป็นเครื่องดื่มตามฤดูกาล หวานอมเปรี้ยวหอมมะม่วงดีค่ะ

กลับมาที่อาหารคาวกันต่อ แฮร่...จานนี้ถือว่าเด็ดค่ะ เหมือนธรรมดา แต่รสชาติดีมว้ากกกก เหมาะสำหรับสายแซ่บนะคะ

ข้าวผัดกะเพรา (Stir pork with basil) 120 บาท

รสชาติจัดจ้านมาก เป็นกะเพราที่ใส่พริกแห้งด้วยค่ะ หอมกลิ่นพริกแห้ง รสชาติทั่วถึง ครบรสแบบที่กะเพราควรเป็น อร่อยค่ะ

สลัดปลาแซลมอนย่าง (Grilled Salmon Salad) 250 บาท

แซลมอนทำมาค่อนข้างแห้งนะคะ เหมาะสำหรับใครที่ไม่คุ้นกับแซลมอนแบบกึ่งสุก ตัวสลัดนี่คือดีย์ น้ำสลัดสูตรเฉพาะของทางร้านนี่อร่อยมากกกก แทบอยากขอสูตรอ้ะ

สปาเก็ตตี้กุ้งซอสไวน์ขาว (Spaghetti with Prawns and white wine)ตัวนี้เป็นเมนูใหม่ ยังไม่ได้ใส่ลงไปในเมนู เลยยังไม่มีราคานะคะ

เส้นลวกดีค่ะ ไม่เละ ผัดมารสชาติทั่วถึง รสจะค่อนข้างอ่อนๆ หน่อยตามสไตล์เวสเทิร์นนะคะ

อีกหนึ่งเมนูที่ขอเชียร์เลยนะคะ อร่อยถูกปากมากๆ ค่ะ

สปาเก็ตตี้ไส้อั่วบาบีคิว (Spaghetti with northern sausage) ที่จริงอันนี้ไม่ใช่เมนูใหม่นะคะ แต่ไม่เห็นราคาในเมนูแฮะ แหะๆ

รสชาติจัดจ้านเข้มข้นมว้ากกกก เผ็ดนิดๆ ไม่แรงนะคะ แต่ก็อร่อยเลยแหละ เส้นก็ลวกดี รสชาติสม่ำเสมอทุกเส้นค่ะ ดีงามค่ะ อร่อยยย ตัวเนื้อจะมีทั้งซี่โครงหมูและไส้อั่วนะคะ เนื้อซี่โครงร่อนดีมากค่ะ

หมดคาวแล้ว มาของหวานกันบ้างค่าา

บานอฟฟี่พาย (Banoffee Pie) 120 บาท

ขนาดมาแบบใหญ่เวอร์วังมากค่ะ ตอนมาเสิร์ฟนี่แบบ...ต้องถามว่า บานอฟฟี่เหรอคะ? 5555 อร่อยมาก ถูกปากเรามาก คาราเมลหอมหวาน พายร่วนเจือเค็มนิดๆ มีกลิ่นกาแฟเบาๆ กินกับกล้วยเข้ากั๊นเข้ากัน คือถ้าไม่มีเมนูอื่นนี่ จะขอกินคนเดียวหมดถ้วยค่ะ 555

ชีสพายมะม่วง (Mango Cheese pie) 140 บาท

ชีสดีนะคะ มีซอสและเนื้อมะม่วงโปะมาตามภาพค่ะ มะม่วงไม่ได้ออกเปรี้ยวมากนะคะ ค่อนไปทางหวานมากกว่า เป็นอีกหนึ่งเมนูที่มีเฉพาะฤดูนี้ค่ะ กินกับผลไม้อื่นๆ ที่ให้มาด้วยก็เข้ากันดีนะคะ

ทาร์ตเลม่อน (Lemon Tart) 95 บาท

หลังจากเจอความเปรี้ยวเจือหวานจากจานที่แล้ว จานนี้เปรี้ยวเด่นเลยค่ะ ใครที่ชอบขนมที่ไม่หวานแต่ออกเปรี้ยว เมนูนี้คือคำตอบนะคะ 555



เค้กมะพร้าว (Coconut Cloud Cake) 95 บาท

ถ้าในบรรดาทั้งหมด เราเชียร์ให้กินตัวนี้ก่อนค่ะ เพราะตอนคำแรกเราเลือกกินตัวนี้ก่อน อร่อยเลย เค้กนุ่ม มะพร้าวนี่ทางร้านมีแจ้งหน่อยว่าปกติจะได้อ่อนกว่านี้นะคะ (ขึ้นอยู่กับฤดูกาลแหละเนาะ) แต่ก็ยังถือว่าไม่แข็งนะคะ แต่พอไปกินชิ้นอื่นแล้วกลับมากินเจ้านี่ อ้าว...รสชาติดร็อปลงแฮะ เพราะงั้นแนะนำว่าถ้าสั่งกันมาหลายๆ ตัว ควรกินตัวนี้ก่อนค่ะ

เชอร์เบทมะม่วง (Mango Sherbet) 140 บาท

ตัวนี้ไอศกรีมจะค่อนข้างเปรี้ยวนะคะ มีความเป็นเกล็ดน้ำแข็งอยู่ด้านในนิดๆ ค่ะ แต่ก็มีความหอมของมะม่วงด้วย


ส่วนตัวมะม่วงที่มาด้วยกัน รสชาติจะออกหวานนิดๆ ทำให้กินด้วยกันแล้วกลายเป็นเปรี้ยวอมหวานนะคะ



ปิดท้ายรีวิวด้วยภาพรวมของอาหารมื้อนั้นฮ่ะ


สรุปสำหรับร้านนี้นะคะ


โดยส่วนตัววันนั้นที่สั่งไป มีหลายเมนูเลยค่ะที่อร่อย เลยงงว่าเคยมีคนบอกว่าร้านนี้ไม่อร่อยนี่เจ๊แกสั่งอะไรมากินคะ? 555 บรรยากาศร้านก็ดีงามมาก เหมาะจะไปนั่งชิลล์ อ่านหนังสือมากค่ะ เป็นอีกร้านที่ใครสายคาเฟ่ควรไปลองนะคะ


เมนูแนะนำ : ข้าวผัดกะเพรา / สปาเก็ตตี้ไส้อั่ว / บานอฟฟี่พาย

มีโอกาสได้ไปทำธุระที่เชียงใหม่
เพื่อนบอกว่ามีร้านขนม ไอติมโฮมเมดอร่อยมว้าก 
อยู่ใกล้ๆวัดพระสิงห์ ไปสิครัช รออัลไล

ร้านนี้มีชื่อว่า MINI HOME CAFÉ
ร้านสีเหลืองสะดุดตา ตกแต่งน่ารัก อยู่ด้านหลังวัดพระสิงห์ค่ะ
สามารถจอดรถในวัด แล้วเดินทะลุออกด้านหลังได้
หรือวนมาจอดด้านหลังวัดเลยก้ได้ค่ะมุมนั่งกินลมชมหนุ่มหน้าร้าน
นี่ถ้าไม่ติดว่าร้อนจนเต่าเปียกนะ พี่จะนั่งแอ๊วหนุ่มเหนือตรงนี้เลยมาดูบรรยากาศน่ารักๆในร้านกันบ้างค่ะ
จะตกแต่งด้วยโทนสีเหลือง น่ารักสดใสชอบเจ้าดอกม่วงจิ๋วๆนี่จังเลย ทนมาก สีสวยสด อยู่ได้เป็นเดือนขนาดห้องน้ำยังต้องมีความอาร์ต #เชียงใหม่เป็นเมืองชิคชิตเมนูมีให้เลือกหลากหลายทั้งน้ำ ทั้งขนมเลยค่ะ
แอร้ยน่ากินทั้งนั้นเลยมาดูเครื่องดื่มกันก่อน เมนูแรกของเฮาเอง Blue Hawaiian Soda (30 บาท)ต่อมาของคุณเพื่อน Green Tea Milk (30 บาท)และแก้วสุดท้าย Lemon Soda 
คุณพี่เจ้าของร้านเห็นเราเจ็บคอ ไอแค่กๆๆ
แต่เมิงก้ยังจะสั่งเย็นๆมากินอีก คุนพี่เค้าเลยทำแก้วนี้มาให้ค่ะ
ฟรี!!! ห๊าฟรี!!! ทำไมคนเจียงใหม่ดีขนาดเจ้า
น่าฮักจิงๆเล้ยให้ตายสิ ขอบคุณนะคะ ชรุ้บปลื้มปริ่มกับบรรดาเครื่องดื่มไปแล้ว มาดูเมนูขนมกันบ้าง
เมนูแรก Mini Toast (49 บาท)น่ากินมั้ยหล่ะพวกแกร๊ จะบอกว่า Toast ดีมาก
คือกรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟมาพร้อมกล้วยหอมหั่นพอดีคำ และวิปนุ่มๆเนียนๆ
ทานคู่กับ Kiwi Sherbet เปรี้ยว อมหวาน คือดีย์อ้ะ

มาดู Cherry Berry Sundae (49 บาท) กันม่าง
ด้านล่างจะเป็นเยลลี่สตรอเบอร์รี่นุ่มหนึบ ชั้นกลางจะเป็นวิปและกล้วย
โปะมาด้วยไอติม Cherry Berry หอมๆ เปรี้ยวๆ หวานๆ

Cherry Berry Sundae ฿ 49

0

Cherry Berry Sundae ฿ 49

ไอติมที่ร้านนี่โฮมเมด ทุกตัวนะจ๊ะขอบอก
ไม่เชื่อมาโดนเอง! แล้วจะติดใจค่าเสียหายมื้อนี้แค่ 158 บาทเท่านั้นค่ะ

ใครผ่านมาแถวนี้อย่าลืมแวะมาลิ้มลองความอร่อยกันได้นะค๊า 
^^

ร้านอาหารร้านรองสุดท้ายในทริปเชียงใหม่ล่าสุดเป็นร้านอาหารที่รั้งอันดับ “พ่อค้าแซ่บ” ในเมืองเชียงใหม่ครับ พ่อค้าร้านนี้แซ่บถูกใจเจ้าของกระทู้มากๆ เห็นในรายการ “เทยเที่ยวไทย” แล้วตั้งใจเอาไว้ว่าถ้าไปเชียงใหม่ต้องำไปร้านนี้ให้ได้เพราะอยากไปเจอพ่อค้าแซ่บ แต่พอไปเจอตัวพ่อค้าจริงๆกลับไปเป็นอย่างที่คิดไว้ .... แซ่บน่ะแซ่บจริง แต่ look ในทีวีกับตัวจริงมันตรงกันข้ามกันก็เลยผิดหวังคราบ ….. คือ look ที่ออกรายการเทยเที่ยวไทยเป็น look แบบคุณชายนิดๆ เนี้ยบๆ เท่ห์ๆ เจ้าของบล็อกแพ้ทางผู้ชายเนี้ยบๆ เท่ห์ๆ ก็เลยชอบมากแบบออกหน้าออกตา แต่พอไปเจอตัวจริงๆแล้วกลายเป็นว่าเจ้าของร้านออกแนวบีบอยครับ แพ้ทางกันอย่างแรง ก็เลยไม่กล้าขอถ่ายรูปมาให้ชมกัน ....

ก๋วยเตี๋ยวเรืองอองตอง ศิริมังคลาจารย์ 11 เชียงใหม่

วิธีการเดินทางมาร้านก๋วยเตี๋ยวเรืองอองตอง ซอยศิริมังคลาจารย์ 11 ก็มาไม่ยากครับ เริ่มต้นเส้นทางที่ถนนสุเทพตรงประตูสวนดอกเส้นโรงพยาบาลมหาราช(ใกล้ๆวัดสวนดอก) ขับรถออกนอก “เวียง” ตรงๆมาเลยครับ จะผ่านคณะพยาบาลศาสตร์คณะเทคนิคการแพทย์ โรงพยาบาลมหาราช ทางขวามือ แล้วจะเจอสามแยก ให้ชิดขวารอสัญญาณไฟแล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนศิริมังคลาจารย์ ขับเลาะโรงพยาบาลประสาทเชียงใหม่ แล้วจะเข้าเขตหอพักนักศีกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ขับมาเรื่อยๆให้สังเกตทางซ้ายมือเอาไว้จะเห็นซอยศิริมังคลาจารย์ 13 ซึ่งเป็นซอยที่มีร้านเค้กร้านดังของเมืองเชียงใหม่ Cake Cottage และร้านอาหารร้านดังหลายร้าน ซอย ศิริมังคลาจารย์ 11 อยู่ทางขวามือถัดมานจิดเดียวครับ จริงๆซอยศิริมังคลาจารย์ 11 กับ ศิริมังคลาจารย์ 13 เชื่อมถึงกันตรงท้ายซอยครับ เข้าซอยไหนก็ได้ พอเข้าซอยมาแล้วให้สังเหตุทางขวามือเอาไว้ครับ ร้านก๋วยเตี๋ยวอองตองอยู่กลางๆซอย หน้าร้านมีที่จอดรถครับร้านก๋วยเตี๋ยวเรืออองตองเป็นร้านอาหารสมัยใหม่ น่ารักๆ ครับ ตัวร้านจริงๆไม่ใหญ่มากแต่การให้สีสว่างๆและการตกแต่งง่ายๆทำให้ดูร้านใหญ่กว่าที่เป็นจริง นั่งสบาย ไม่อึดอัดเลยเมนูของร้านเน้นที่อาหารจานเดียวประเภทเส้นครับ ทั้งฝรั่ง ไทย จีน อาหารทานเล่นๆก็มีนะครับ ราคาก็ถือว่ารับได้อาจะเป็นเพราะอยู่ในเขตนักศึกษาด้วยมั๊งครับเมนูแรกที่สั่งมา ไก่ทอดน้ำปลา ราคา 65 บาท


ปีกไก่ส่วนกลางทอดมาแบบใหม่ๆ ร้อนๆ ทอดมาแบบกรอบๆ ไม่อมน้ำมัน ปรุงรสให้ออกรสเค็มๆนิดๆด้วยน้ำปลา จิ้มกับรสพริกรสเข้มๆด้วยรสเผ็ดๆเป็นอาหารทานเล่นที่อร่อยได้ทุกเวลาจริงๆครับเมนูทานเล่นเมนูที่สอง ตำอองตอง ราคา 60 บาท


ตำอองตองเป็นส้มตำใส่เข้าโพด แคบหมู รสชาติแบบสดชื่นมากครับ ..... ยังไง ...... รสของส้มตำอองตองจะออกหวานๆ เปรี้ยวนิดๆ เผ็ดปลายลิ้นเท่านั้น นอกจากนั่นยังมีรสหวานๆจากข้าวโพดแล้วความกรอบๆ เคี้ยวมันๆจากแคบหมูที่ใส่มาด้วยช่วนเพิ่มอรรถรสของส้มตำอองตองจานนี้ ทานเข้าไปคำนึงแล้วไม่ต้องมานั่งเช็ดเหงื่อสามารถทานคำต่อๆไปได้เลยโดยไม่ต้องดื่มน้ำ เหมาะที่เป็นอาหารทานเล่นๆ ทานไป คุยกันไปมากเลยครับอาหารจานหลักจานแรก ก๋วยเตี๋ยวเรือหมูเส้นหมี่ ราคา 55 บาท


เป็นก๋วยเตี๋ยวเรือที่ดูดีมากๆครับ น้ำซุปดูเข้มข้น ปรุงรสมาบ้างแล้ว เครื่องเคราก็ใส่มาแบบเต็มที่ครับ มีทั้งลูกชิ้น หมูลวก หมูตุ๋น รสชาติอร่อยเลยทีเดียวครับถึงแม้จะยังไม่ปรุง เจ้าของกระทู้เป็นคนที่ทานก๋วยเตี๋ยวแบบไม่ปรุงครับ ยิ่งถ้าเป็นก๋วยเตี๋ยวเรือทางร้านเค้าจะปรุงรสมาให้แล้วส่วนหนึ่ง และเจ้าของบล็อก (เป็นโรคจิต) ชอบกินก๋วยเตี๋ยวที่น้ำซุปร้อนมากๆ ก๋วยเตี๋ยวเรือที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเรืออองตองน้ำซุปร้อนลวกปากมากๆครับ ถูกใจจริงๆอาหารอย่างสุดท้ายที่สั่งมาเป็นอาหารจานหลักครับ เส้นข้าวซอยผัดไส้อั่ว ราคา 65 บาท


ที่สั่งเมนูนี้เพราะทั้งเส้นข้าวซอยและไส้อั่วเป็นส่วนประกอบที่เจ้าของบล็อกโปรดมากมาย เจอที่ไหนเป็นต้องจัดการให้เหี้ยนทุกครั้ง เส้นข้าวซอยผัดไส้อั่วของร้านก๋วยเตี๋ยวอองตองหน้าตาไฮโซมากๆครับ ลักษณะคือเอาเส้นข้าวซอยมาผัดกับหมูสับ ท่าทางคงจะใส่เครื่องแกงเล็กน้อยด้วยเพราะตัวหมูสับก็มีรสเผ็ดเล็กๆ แล้วก็ใส่ไส้อั่วลงไปผัดด้วยกัน ไส้อั่วที่เอามาผัดด้วยก็เป็นไส้อั่วแบบออกรสเผ็ดเครื่องสมุนไพรแบบที่ชอบเลยครับ เมนูสุดท้ายนี้จึงเป็นจานเด็ดของร้านก๋วยเตี๋ยวอองตองเลยทีเดียวร้านก๋วยเตี๋ยวเรืออองตอง ซอยศิริมังคลาจารย์ 11 เป็นร้านที่ตกแต่งน่ารัก แบบเป็นกันเอง อาหารก็อร่อย ราคาก็ไม่แพง เหมาะสำหรับการไปนั่งจ้อง “พ่อค้าแซ่บ” มากๆเลยครับ คริคริChubby Lawyer Café ………………….. ร้านอร่อย ............. ตามใจฉัน

เราก็ได้เดินทางมาถึง 3 ร้านสุดท้ายที่ได้ไปชิมมาในทริปเชียงใหม่คราวล่าสุด (ซะที) เพิ่งสังเกตุว่าทริปนี้เน้นกินไม่เน้นเที่ยวเลยอ่า .... ฮ่าๆๆๆ ..... ร้านนี้เป็นร้านกาแฟแต่อยู่ไกลถึงแม่ริมครับ .... เป็นร้านที่กากบาทเอาไว้แต่เริ่มทริปว่าจะต้องไปชิมให้ได้เพราะมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างวส่าร้านนี้บรรยากาศดี๊ .... ดี .... ร้านสวย ... ขนมอร่อย .... โดยเฉพาะสโคนขนมโปรดของเจ้าของบล็อกนี่เค้าอรอยถึงขั้นลือเลยทีเดียว เจ้าของบล็อกเลยจัดการจัดทริปเดินทางไปชิมเลยครับ

Tea Garden by anothai แม่ริม เชียงใหม่

การเดินทางไปร้าน Tea Garden by anothai แม่ริม เชียงใหม่ ก็ไม่ยากครับ จากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้ถนนโชตนาวิ่งตรงไปถึงตัวอำเภอแม่ริม เลยตัวอำเภอแม่ริมไปนิดนึงจะมีทางแยกซ้ายใหญ่ๆ เป็นทางไปโป่งแยง ม่อนแจ่ม ก็เลี้ยวซ้ายขึ้นเขาไปเลยครับ ขับตรงขึ้นเขามาเรื่อยๆจนถึงแถวๆตำบลแม่แรมให้เล็งซ้ายมือเอาไว้ครับ ร้าน Tea Garden by anothai แม่ริม เชียงใหม่ อยู่ทางซ้ายมือระหว่างซอยน้ำตกแม่สา 4 กับซอยน้ำตกแม่สา 5 ครับ

ตัวร้าน Tea Garden by anothai เป็นบริเวณบ้านหลังใหญ่ๆครับ เนื้อที่ที่เป็นร้านกว้างขวาง ร่มรื่น มีสวนสวยๆให้ชมระหว่างพักผ่อนหย่อนในจิบกาแฟครับ นอกจากจะมีที่นั่งในสวนอันร่มรื่นแล้วยังมีที่นั่งในอาการดเปิดโล่งทั้งสี่ด้านรับลมเย็นๆอีกด้วยครับ (อย่าสงสัยนะครับว่าทำไมในรูปไม่มีคนเรย เพราะเจ้าของกระทู้ไปทานในเช้าวันอังคารครับ แล้วช่วงที่เจ้าของกระทู้ไปเป็นช่วงปลายเดือนมกราคมที่ทั้งประเทศหนาวจัดนั่นแหละครับ อุณหภูมิที่แม่ริมวันนั้นตกไปอยู่ที่ 9 องศา ครับ น้องที่ร้านก็คงสงสัยอยู่เหมือนกันนะครับว่าพี่จะมาทำไม .... หนาวซะขนาดนี้)เจ้าของกระทู้เลือกที่จะกินกาแฟแก้หนาว ลาเต้ร้อน ราคา 75 บาท


กาแฟรสอ่อนไปนิดครับ เจ้าของบล็อกคิดว่าคนที่ไม่ได้กินกาแฟเป็นบ้าเป็นหลังแบบเจ้าของบล็อกคงจะชอบนะครับ แต่ถึงว่ารสจะอ่อนไปนิดแต่กาแฟก็มีกลิ่นหอมครับ นั่งจิบกาแฟร้อนๆท่ามกลางวอากาศหนาวๆ แบบนี้เจ้าของบล็อกคิดถึงเมลเบิร์นเมืองที่เจ้าของบล็อกเคยไปอยู่มาติดหมัดเลยคราบScone 1 เซท ราคา 110 บาท


ใน 1 เซท จะประกอบด้วย scone 2 อัน แยมโฮมเมดและวิปปิ้งครีมครับ scone ของร้าน Tea Garden by anothai กรอบร่วนด้านนอก นุ่มด้านใน ก่อนเอามาเสิร์ฟคงเอาไปอุ่นนิดนึงครับ พอบิออกถึงได้หอมเนยมากๆ แยมที่เสิร์ฟมาด้วยกันก็เป็นแยมโฮมเมดครับ แต่ไม่ได้ถามว่าเป็นแยมอะไร อร่อยมากๆครับขนมอีกชิ้น Chocolate cherry fudge ราคา 90 บาท


ถ้าจะเสิร์ฟพร้อมไอศกรีมก็ได้นะครับ ราคา 110 บาทเท่านั้น แต่อากาศหนาวเลขตัวเดียวแบบนี้ใครจะกินไอศครีมได้ละคราบ เค้กชิ้นนี้เข้มข้นมากๆครับ ตัวเค้กชอคโกแลตจะเยิ้มๆตรงกลาง กินตอนอุ่นๆฟินมากๆครับ รสชาติก็เข้สข้นไม่แพ้หน้าตาครับ มีกลิ่นหอมหวานของเหล้าเชอรี่ด้วย สุดยอดครับร้าน Tea Garden by anothai แม่ริม เชียงใหม่ เป็นร้านกาแฟ + เบเกอรี่บรรยากาศดี ร่มรื่น ถ้าใครแวะมาเที่ยวแถวๆแม่ริมก็อย่าลืมแวะที่ร้าน Tea Garden by anothai แม่ริม เชียงใหม่ นะครับ รับรองว่าได้ฟินกับบรรยากาศและขนมอร่อยๆแน่ๆครับ
Chubby Lawyer Café ………………….. ร้านอร่อย ............. ตามใจฉัน

ร้านอาหารร้านถัดมาที่ไปชิมในทริปเชียงใหม่ล่าสุดเป็นร้านอาหารที่อยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่แล้วครับ เป็นร้าน “อาหารเมือง” คือ เป็นร้านอาหารพื้นเมืองทางภาคเหนือร้านดังของจังหวัดเชียงใหม่ แอบนินทาคุณชายนิดนึงว่าปกติไม่กินอาหารพื้นเมืองทางภาคเหนือนะครับ (แต่เจ้าของบล็อกชอบมากกกกกก) จู่ๆเกิดจะร้องกินขึ้นมาเองงานนี้โดนเจ้าของบล็อกแกล้งซ้า คริคริ

เฮือนม่วนใจ๋ ช้างเผือก เชียงใหม่

วิธีการเดินทางมาร้านเฮือนม่วนใจ๋ก็ไม่ยากครับ แต่อาจจะสับสนซักนิดนึงแล้วก็ซอยที่อยู่แถวๆร้านจะเป็นซอยเล็กๆครับ เส้นทางที่สะดวกคือถนนห้วยแก้วนะครับ ถ้ามาจากคูเมืองให้เลี้ยวซ้ายตรงแจ่งหัวลิน ขับผ่านกาดสวนแก้วทางซ้ายมือแล้วให้เลี้ยวขวาตรงช่องเลี้ยวกลับรถแรกที่เห็นเข้าซอยราชพฤกษ์ ตรงนั้นจะมีปั๊มน้ำมันเชลส์อยู่นะครับ พอเลี้ยวเข้าซอยก็ขับตรงไปนิดนึงแล้วเลี้ยวขวาตรงหน้าโรงแรมเชียงใหม่ลอจ์ด ขับตรงไปอีกนิดก็เลี้ยวซ้ายตางหน้า วรดาเพลส ขับตรงไปอีกไม่ไกลร้านเฮือนม่วนใจ๋จะยู่ขวามือ ตัวร้านจะมีต้นไม้เยอะๆครับ ที่จอดรถหน้าร้านมีที่จอดไม่ถึง 10 คัน แต่สามารถนำรถไปจอดที่จอดรถของร้านที่เลยร้านไปประมาณ 20 เมตรทางซ้ายมือที่เค้าเขียนไว้ว่าชาวไทยแมนชั่นครับ

ร้านเฮือนม่วนใจ๋เป็นร้านอาหารเมืองที่โด่งดังของจังหวัดเชียงใหม่ครับ คนเชียงใหม่เค้าแนะนำไว้ว่าเป็นร้านอาหารสำหรับต้อนรับ “แขกแก้ว” เลยทีเดียว เจ้าของบล็อกคิดว่าเมนูอาหารเมืองของร้านเฮือนม่วนใจ๋มีเยอะมว๊ากกกกเหมือนกันร้านบ้านไร่ยามเย็นเลยนะครับ แล้วก็มีแต่เมนูอาหารเมืองเท่านั้นสมกับเป็นร้านอาหารเมืองแท้ๆ (ไม่เหมือนกับร้านเฮือนสุนทรีที่มีอาหารเมืองไม่กี่เมนูเท่านั้นที่เหลือเป็นเมนูอาหารภาคกลาง)

บรรยากาศในร้านเฮือนม่วนใจ๋ก็ร่มรื่นมากๆครับ มีต้นไม้เยอะมาก ตัวร้านก็เป็นบ้านไม้เก่ามาดัดแปลงเป็นร้านอาหารบรรยากาศคลาสสิคมากเลยครับ ข้อเสียอย่างเดียวเท่านั้นคือทางเดินไปห้องน้ำค่อนข้างจะแคบ พื้นไม่เรียบ และมืดไปหน่อย เวลาเดินต้องระวังมากๆครับเมนูอาหารร้านเฮือนม่วนใจ๋ก็เป็นอาหารเมืองทั้งนั้น เมนูเยอะจริงๆครับ เลือกสั่งได้ตามใจชอบ มีทั้งอาหารเมืองแบบเบสิคแบบที่รู้จักกันดีไปจนถึงอาหารเมืองแบบแอดวานซ์แบบที่ต้องเป็นคนที่มีพื้นเพอยู่ภาคเหนือเท่านั้นถึงจะรู้จัก

เมนูแรกเอาแบบง่ายๆกันก่อน ออเดิร์ฟเมือง ราคา 220 บาท


เมนูนี้เป็นเมนูที่รวมอาหารเมืองที่เป็นที่รู้จักกันดีเอามารวมไว้ในถาดเดียวกันมีน้ำริกอ่อง น้ำพริกหนุ่ม แกงฮังเล แคบหมู ไส้อั่ว จิ้นทอดหรือหมูทอด แล้วก็ผักลวกสำหรับจิ้มกับน้ำพริก รสชาติอาหารทุกอย่างอยู่ในขั้นอร่อยมากครับดโดยเฉพาะแกงฮังเลและน้ำพริกหนุ่ม แกงฮังเลเนื้อหมูเปื่อย นุ่ม ไม่แห้งเพราะเครื่องแกงเข้าเนื้อมากๆ น้ำพริกหนุ่มถูกใจเจ้าของบล็อกมากๆ เพราะเป็นคนชอบน้ำพริกหนุ่มแบบเผ็ดน้อยอยู่แล้ว น้ำพริกหนุ่มที่ร้านเฮือนใจ๋ยองไม่เผ็ดมาก ถูกใจข้าวของบล็อกมาก ส่วนน้ำพริกอ่องอันนี้ถือว่าเป็นความผิดของเจ้าของบล็อกเองที่ชอบกินน้ำพริกอ่องเผ็ดๆ ก็เลยทำให้น้ำพริกอ่องที่ร้านเฮือนใจ๋ยองดูจะมีรสชาติความเผ็ดในระดับเตรียมอนุบาลไปสำหรับตัวเจ้าของบล็อกเอง อีกอย่างถึงที่ไม่ค่อยถูกปากเจ้าของบล็อกก็คือไส้อั่วครับ ไส้อั่วที่ร้านเฮือนใจ๋ยองไม่ค่อยเผ็ดและไม่ค่อยถึงเครื่องสมุนไพร ซึ่งเจ้าของบล็อกชอบรสชาติไส้อั่วที่ถึงเครื่องสมุนไพรและออกรสเผ็ดๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าน้ำพริกอ่องกับไส้อั่วที่ร้านเฮือนใจ๋ยองไม่อร่อยนะครับ รสชาติดีครับ .... อร่อยเลยแหละครับ แค่ผิดที่ไม่ถูกปากเจ้าขอวงบล็อกเท่านั้นเองครับเมนูที่สอง ลาบหมูคั่ว ราคา 80 บาท


ลาบหมูคั่วหอมสมุนไพรมากๆครับ รสชาติกำลังดีไม่เผ็ดไป ไม่จืดไป กินกับผักสดที่แนบมาให้ตามด้วยข้าวเหนียวปั้นใหญ่ๆ ลำแต้ลำว่าครับเมนูถัดไป หน่อยัดไส้ทอด ราคา 80 บาท


เมนูนี้เป็นยอดหน่อไม้อ่อนๆเอามาฉีกแต่ไม่ให้ขาดออกจากกันแล้วยัดไส้หมูปรุงรสแล้วก็เอาไปชุบแป้งทอดครับ เมนูนี้ถือเป็นเมนูแอดวานซ์ของคุณชายครับ เพราะคุณชายไม่เคยเห็นเมนูนี้ครับ แต่สำหรับเจ้าของบล็อกแล้วถือว่าเป็นเมนูแบบเบสิคมากๆครับ เพราะมีเพื่อนเป็นคนเหนือเยอะครับเลยได้เคยลองชิมเมนูที advance กว่านี้มากตำบ่าเขือ หรือ ตำมะเขือ - ไข้ต้ม ราคา 65 บาท


เมนูนี้เป็นเมนูโปรดของเจ้าของบล็อกเลยครับ เจ้าของบล็อกชอบทั้งแบบเหนือและแบบอีสานที่ใส่น้ำปลาร้าและข้าวคั่ว รสชาติของตำมะเขือจะไม่ออกรสเผ็ดมากครับ รสชาติจะกลางๆ ถ้าชอบทานเผ็ดกว่านี้ให้เคี้ยวพริกขี้หนูที่แนมมาตามไปครับคั่วโฮะ ราคา 65 บาท


อันนี้เป็นรีเควสของคุณชายครับ (บอกแล้วว่าคุณชายรู้จักอาหารเหนือระดับอนุบาลมากๆ) ความจริงก็เป็นเมนูโปรดของเจ้าของบล็อกเหมือนกันนะครับ แต่เก็บไว้เป็นตัวเลือกสุดท้ายเวลาไม่รู้จะสั่งอะไร คั่วโฮะที่ร้านเฮือนม่วนใจ๋จะออกรสเผ็ดมากหน่อยนะครับ ใส่ผักเยอะมากวุ้นเส้นนิดเดียวเองครับเมนูสุดท้าย แกงผักเซียงดา ราคา 80 บาท


ผักเซียงดาหากินยากครับ ถ้าเป็นตลาดไฮโซจะไม่มีขาย เจ้าของบล็อกชอบกินผักเซียงดามากครับเพราะนอกจากอร่อยเคี้ยวมันแล้วยังมีประโยชน์มากมายอีกด้วย ถ้าเจอเมนูนี้จะต้องสั่งมาชิมจนได้ครับ รสชาติของผักเซียงดาจะออกรสมันๆ ไม่ขมครับ เอามาแกงกับปลาแห้ง ใส่มะเขือเทศ ลำที่สุดแล้วคราบร้านเฮือนม่วนใจ๋ เป็นร้านอาหารเมืองแท้ๆ ชื่อดังของจังหวัดเชียงใหม่ ถ้าขั้นมาเชียงใหม่แล้วอยากทานอาหารพื้นเมืองก็อยากจะแนะนำร้านร้านเฮือนม่วนใจ๋เลยครับ อาหารอร่อย บรรยากาศดี ละอ๋อนเด็กเสิร์ฟ (ชาย) ก็น่าฮักขะนาดดดดด คริคริ

Chubby Lawyer Café ………………….. ร้านอร่อย ............. ตามใจฉัน

ตอนแรกนึกว่าจะไม่ได้มาโพสบล็อกซะแร๊ววันนี้ ............................. เกิดทริปฉุกละหุกไปสุโขทัย 3 วัน ครับ ที่ฉุกละหุกก็ไม่ใช่เพราะคนอื่นเลยเป็นเรื่องของตัวเองทั้งนั้น อย่างแรกเพิ่งเห็นปฎิทินว่าอาทิตย์นึ้หยุดยาว ศุกร์ – เสาร์ – อาทิตย์ เมื่อวันอังคารเลยแกล้งๆหยอดคุณชายไปว่า “อยากไปสุโขทัย” เพราะเป็นจังหวัดที่อยากไปมานานแล้ว คุณชายก็ถามกลับมาว่าอาทิตย์นี้น้ำปิงไม่กลับบ้านลาดพร้าวไม่ใช่เหรอ (ถ้าน้ำปิงไม่กลับบ้านลาดพร้าวส่วนใหญ่ถ้าไม่จำเป็นจริงๆจะไม่ไปไหนครับ) กว่าแม่น้ำปิงจะเคลียร์ให้เสร็จว่าอาทิตย์นี้กลับบ้านแน่ๆ (ช่วงนี้พ่อน้ำปิงไปต่างประเทศบ่อยมว๊าก .... แต่อาทิตย์นี้สรุปว่าไม่ไป) ก็ปาเข้าไปเมื่อเช้านี้เอง รีบโทรไปบอกคุณชายให้จองโรงแรม พอกลับจากส่งน้ำปิงที่โรงรียนก็มาหาข้อมูลท่องเที่ยว ข้อมูลร้านอาหาร เพิ่งจะเรียบร้อยเมื่อกี๊นี้เองครับ แต่ยังไม่สมบูรณ์ดีเดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยทำอีกทีหนึ่งครับ เห็นว่ายังพอมีเวลาก็เลยมาเขียนโพสดีกว่า ไม่อยากขาดหายไปนานๆคราบ

Coffee Sound 2499 สันป่าตอง เชียงใหม่

ร้าน Coffee Sound 2499 สันป่าตอง เชียงใหม่ อยู่บนถนนหมายเลข 108 เชียงใหม่ – จอมทอง ช่วงบ้านทุงเสี้ยว เลยตัวอำเภอสันป่าตองมาเล็กน้อยครับ พอผ่านร้านอินทนนท์กาแฟทางซ้ายมือก็จับตามอง เก๊าไม้ล้านนารีสอร์ท ทางซ้ายมือเอาไว้ พอเลยเก๊าไม้ล้านนารีสอร์ทสังเกตดูว่าเกาะกลางถนนจะหายไปแล้ว ให้เล็งร้าน ทอมมี่อิเลคโทรนิกส์ ทางขวามือ และ บริษัทอาหารเชียงใหม่อุตสาหกรรมจำกัด ทางขวามือเอาไว้ ร้าน Coffee Sound 2499 สันป่าตอง เชียงใหม่ อยู่ทางขวามือติดกับร้าน ทอมมี่อิเลคโทรนิกส์ ตรงข้ามกับ บริษัทอาหารเชียงใหม่อุตสาหกรรมจำกัด พอดีเลยครับ หน้าร้านจะมีตู้ไปรษณีย์โบราณสีแดงสดตั้งอยู่ครับ สามารถจอดรถได้ที่หน้าร้านหรือว่าจะจอดหน้าร้าน ทอมมี่อิเลคโทรนิกส์ ก็ได้นะครับ (คาดว่าน่าจะเป็นเจ้าของเดียวกัน)ร้าน Coffee Sound 2499 สันป่าตอง เชียงใหม่ นี่ติดค้างกันมาตั้งแต่ทริปเชียงใหม่ปีที่แล้วแล้วครับ จำได้ว่าคราวที่แล้วอยากแวะร้านนี้ตอนที่กลับจากจอมทอง แต่ว่าหาร้านไม่เจอครับ กลับมาก็เลยมาดูใน Google Map ชัดๆ อีกที คราวนี้มีโอกาสได้ไปเชียงใหม่อีกก็เลยไม่ยอมพลาดร้านนี้แน่ๆครับร้าน Coffee Sound 2499 สันป่าตอง เชียงใหม่ เป็นร้านกาแฟที่ถือว่าใหญ่โตทีเดียวนะครับ เป็นร้านกาแฟที่เปิดอยู่ภายในบ้านเก่า ก็เลยมีเนื้อที่กว้างขวาง ตัวร้านจริงๆ (เฉพาะสำหรับชงกาแฟ) ก็ไม่ได้ใหญ่ไปกว่าร้านกาแฟทั่วๆไปซักเท่าไหร่ พอมีเนื้อที่เยอะ มีดต๊ะนั่งอยู่หลายจุด หลายมุม เจ้าของร้านก็เลยคิดกิมมิกให้ร้านตัวเองก็คือไม่ต้องเดินเสิร์ฟกาแฟที่สั่งด้วยตัวเองครับ ... แต่ ... ใช้การชักรอกแก้วกาแฟไปยังจุดต่างๆที่กำหนดไว้ ร้านนี้จึงมีอีกชื่อนึงว่า “กาแฟลอยฟ้า” แต่วันที่เราไปคนไม่เยอะครับ ก็เลยไม่ได้ชมกาแฟลอยฟ้าเลยอ่าสั่ง ลาเต้เย็น ราคา 35 บาท ไป 2 แก้ว (ทำไมต้องสั่งเหมือนกันด้วยก็ไม่รู้)

กาแฟกลิ่นหอมดีครับ แต่ลาเต้เย็นแก้วนี้หวานแบบแสบไส้เลยครับ ............... เจ้าของบล็อกไม่ค่อยถูกจริตกับกาแฟที่ออกหวานๆ ก็เลยจิบไปนิดเดียวแล้วถือติดมือขึ้นรถมาด้วย .... ขนาดทิ้งไว้ให้น้ำแข็งละลายไปพักนึงแล้วลองชิมดูอีกครั้งหนึ่งก็ยังออกรสหวานเลยนะครับร้าน Coffee Sound 2499 สันป่าตอง เชียงใหม่ ร้านกาแฟไอเดียเริ่ด ถ้าผ่านมาแถวๆสันป่าตอง เชียงใหม่แล้วอย่าลืมมาสั่งกาแฟลอยฟ้ากันได้นะครับ

Chubby Lawyer Café …………………………………. ร้านอร่อย ........ ตามใจฉัน

อาหารยามเช้า ณ เมืองเจียงใหม่ 
อีกสถานที่ที่อยากจะแนะนำในมือเช้าของวัน คือ "ร้านปาท่องโก๋โกเหน่ง" ร้านเด่นร้านดังของเมืองเชียงใหม่  มาดูกันว่าจะเป็นร้านเด่นร้านดังของเมืองเชียงใหม่ยังไง ไปดูกันได้เลยคะ  บรรยากาศยามเช้าๆ ข้างคูเมืองของเมืองเชียงใหม่ บอกได้เลยว่าวันนี้ตื่นเช้ามากๆ ดูได้จากบรรยากาศพระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นเลย (มีแต่คนว่าเรา สรรหาเรื่องกินเหลือเกิน)

พิกัด : ร้านอยู่แถวตลาดวโรรส หรือว่า กาดหลวงเชียงใหม่  ภายในตลาดต้นลำไยถนนไปรษณีย์   และจะอยู่ในซอยติดกับธนาคารธนชาติ (ย้ำว่าในตลาด เพราะว่าเราเคยไปผิดมาแล้ว) ไม่ใช่ธนาคารธนชาติ สาขาท่าแพ 

ร้านอยู่ในซอยเลยคะ

0

ร้านอยู่ในซอยเลยคะ

มาดูบรรยากาศร้านกัน..เมื่อเดินมาถึงร้าน จะเป็นร้านเล็กๆ แต่เรื่องไอเดียและความอร่อย ความดัง ไม่แพ้ใครแน่นอน

0

ร้านเปิดให้บริการตั้งแต่เช้าๆ ประมาณ 6 โมงเช้า จนถึง 11 โมงเช้า  แนะนำว่าไปเช้าๆ คนจะไม่เยอะมีเวลานั่งชิมชา ทานปาท่องโก๋ และเวลาสั่งไม่ต้องวุ่นวายกับใคร  หรือใช้เวลารอนาน ไม่งั้นตอนสายๆคนจะเยอะและจะใช้เวลารอนานมาก

0

ร้านจะมีที่นั่งไม่กี่โต๊ะ ก็สามารถไปนั่งกับคนอื่นเค้าได้นะถ้าโต๊ะยังว่าง อย่างเราไปคนเดียวก็นั่งกับคุณป้า ทักทายกันอย่างยิ้มแย้ม นั่งมองชีวิตยามเช้าของคนเชียงใหม่ การใช้ชีวิตของชาวเชียงใหม่ว่าการดำเนินชีวิตของเค้าเป็นยังไงกันบ้าง ก็มีความสุขดีนะ แต่อย่ามาสายนะได้ซื้อกลับไปทานที่บ้านแน่คะ เพราะที่นั่งจะไม่มี เมื่อมาถึง..การสั่งของทางร้าน ถ้าสั่งปาท่องโก๋ธรรมดา ก็สามารถสั่งได้เลย  แต่หากว่าต้องการสั่งปาท่องโก๋รูปสัตว์ กรุณาเขียนระบุว่าเราจะทานที่นี่หรือทานที่บ้าน แล้วอีกอย่างเพื่อความสะดวกเขียนชื่อเราไว้ด้วย เพราะคนจะเยอะมากมาดูเมนูแบบเต็มๆกัน  ปาท่องโก๋รูปสัตว์จะมี 5 ชนิด มังกร,จระเข้,กบ,ไดโนเสาร์,ช้าง ถ้าสั่งสัตว์อื่นท่านจะไม่ได้ทานแน่นอน เพราะเค้าจะปั้นเท่าที่ระบุไว้เท่านั้น เพราะแค่นี้เค้าหัวก็หมุนกันเลยทีเดียว การเตรียมแป้ง และการปั้นปาท่องโก๋ ทั้งแบบธรรมดา,ทั้งรูปสัตว์ จะเตรียมโดยคุณลุงเจ้าของร้าน ทำเองปั้นเองทุกรายการ เค้าทำออกมาได้สะอาดและน่าทานมากเลยคะ สามารถไปยืนใกล้ๆดูได้เลยและแล้ว "ไดโนเสาร์" ของเราก็มาถึง บอกได้เลยว่าตัวใหญ่เลยทีเดียวทานเกือบไปหมด แล้วยังมีหน้าสั่งทีแรกตั้ง 3 ตัว เพราะไม่รู้ว่ามันจะตัวใหญ่อย่างนี้ 555  ทานพร้อมกับชาร้อนๆ ยิ่งอร่อยมาก เข้ากั๊นเข้ากันเลยทีเดียว ราคาเพียงแค่ 15 บาท  ป้าเค้าน่ารักมากเลยจะถามเราว่า ชาร้อนเราจะใส่นมหรือไม่ใส่ เพราะบางที่เค้าก็เสริฟชาร้อน แบบไม่ใส่อะไรเลยมาให้เลยทานไดโนเสาร์ยังไม่ทันหมด ตัวต่อมาก็มาเสริฟ "จระเข้" มาอีกแล้ว ตัวใหญ่เหมือนเดิมมาดูใกล้ๆ จะได้รู้ว่าเป็นจระเข้จริงๆนะ อิอิ  น่ารักจนไม่อยากจะทานเลย  ทั้งไดโนเสาร์และจระเข้ ราคาตัวละ 20 บาท ถามว่าราแพงไหม เมื่อเปรียบแทบกับปาท่องโก๋ธรรมดา เราว่าไม่แพงนะ เพราะว่าถือเป็นว่าค่าไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์ และการปั้น การออกแบบ 20 บาท ถือว่าไม่แพงและแล้วพระเอกของเราก็มา "เจ้ามังกร" ราคาตัวละ 30 บาท เป็นเมนูที่แนะนำเลย ถือว่าเป็น ซิกเนเจอร์ของทางร้าน  เพราะเจ้ามังกรตัวนี้แหละถึงสร้างชื่อเสียงให้ร้านนี้โด่งดัง
ยิ่งถ้าช่วง ตรุษจีน แล้วก็ไม่ต้องพูดถึง  คนแห่ต่อคิวยาวเยียดเพื่อจะมารอซื้อเจ้ามังกรตัวนี้  ตามความเชื่อของคนจีน "มังกร" ถือได้ว่าเป้นสัตว์นำโชค ที่จะนำสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต คนเลยแห่มาซื้อเจ้ามังกรตัวนี้ทานกันในช่วงตรุษจีน  สุดท้ายแล้ว..เจ้า 2 ตัวนี้ ก็ได้ห่อกลับบ้าน 5555 

และสุดท้ายในเรื่องของการบริการและการดูแลลูกค้า : จะค่อนข้างสนใจลูกค้า และเมื่อลูกค้าสั่งปาท่องโก๋รูปสัตว์แม่ค้าจะบอกลูกค้าทุกครั้งว่า "ถ้าเป้นรูปสัตว์จะต้องรอนานหน่อยนะคะ" แสดงถึงความใส่ใจไม่ได้หวังแต่เงินอย่างเดียว เพราะปาท่องโก๋รูปสัตว์จะราคาแพงกว่าเพื่อน และอีกอย่างถ้ามาตอนเช้าๆ ตอนที่คนไม่เยอะชวนคุยกับคุณลุงหรือขอถ่ายวีดีโอก็ยังได้เลย ไม่มีเกี่ยงงอน น่ารักมากมาย

บอกได้เลยว่าปาท่องโก๋เค้าไม่ได้ดีแต่รูปทรงนะคะ เพราะรสชาติก็อร่อย ไม่อมน้ำมันจนเกินไป จะมีรสชาติติดเค็มนิดๆจากเกลือ ซึ่งทำให้ปาท่องโก๋รสชาติอร่อยมากเลย อร่อย สะอาด แถมแปลกด้วย แนะนำอีก 1 ร้านที่ไม่ควรพลาดในเชียงใหม่

วันนี้มาแนะนำร้านเล็กๆ แต่ไม่ได้เล็กความอร่อยและความคุ้มค่ากันเลย

"ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ป๊าดโท๊ะ"

"ป๊าดโท๊ะ" เป็นภาษาเหนือที่แปลเป็นภาษากลางได้ว่า "โอ้โห้" 
พิกัด : ร้านอยู่ ต.บวกค้าง อ.สันกำแพง ถนนเส้น สันกำแพง - แม่ออน (สายใหม่)  เมื่อขับจากในเมืองเชียงใหม่มา ก่อนถึง รพ.สันกำแพง จะเจอ 7-eleven บวกค้าง ตรงมาไม่กี่ร้อยเมตรจะมี 4 แยกเล็กๆ เลี้ยวขวาตรงไปทาง เทศบาลตำบลบวกค้าง เส้นที่จะไปทะลุ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน ขับเข้ามาประมาณ 1 กิโลเมตรกว่าๆ ก็จะเจอร้านอยู่ทางด้านซ้ายมือ ร้านจะถึงก่อนเทศบาล  (สามาถต้อง GPS ไปที่ เทศบาลบวกค้างได้เลย แต่ร้านจะถึงก่อนเทศบาลนะคะ)มาดูเมนูและราคากันคะ ร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำ จะมีแบบก๋วยเตี๋ยว "เมนูแบบธรรมดา" เริ่มต้นที่ 30 บาท และ "เมนูพิเศษ" เริ่มต้นที่ 59 บาท แต่ร้านนี้ส่วนมากที่คนหลั่งไหลมาทานร้านนี้จะเป็นแบบเมนูพิเศษมากกว่า เพราะร้านคาไม่ได้แพงมาก และจัดเต็มด้วยเครื่องเคียงทะเละ ที่มาแบบจัดหนักจัดเต็มกันเลยก็ว่าได้ ในราคาเบาๆพร้อมกับเมนูพิเศษ ล้ำๆในราคาเบาๆโต๊ะที่นั่งก็มีไม่มากเม่าไหร่ แต่ก็พอนั่งได้คะ ถ้ามาในช่วงเวลาคนไม่ค่อยเยอะจะดีมากๆ เห็นร้านเล็กๆ อย่างนี้ เค้ายังบริการ Wifi ฟรี!!! ให้อีกต่างหาก ขนาดร้านใหญ่ๆ บ้างร้านยังไม่มี Wifi ให้ใช้ฟรีเลยใช้ Wifi ฟรี  แล้วอย่าลืมเช็คอินนะคะ จะได้รับเกี๊ยวทอด ไปทานกันอีกฟรีๆเลย อะไรจะน่ารักขนาดนี้

มาดูเรื่องรสชาติและหน้าตาอาหารกันบ้างวันนี้เราก็ได้มาทาน เมนูพิเศษกัน "ก๋วยเตี๋ยวต้มยำทะเลรวม + ไข่ลาวา" ราคาแค่เพียง 59 บาทเท่านั้น ดูจากรูปได้ ว่าเมนูนี้สุดคุ้มขนาดไหน แถมไม่พอได้เยอะอีกต่างหาก  ในเรื่องของรสชาติแล้วอาหารอร่อยใช้ได้เลยคะ ของทะเลสด สะอาด ไม่เหม็นคาว ทานกันอย่างเอร็ดอร่อยกันเลยเมนูที่ ป๊าดโท๊ะ!!!  ของจริง คือเมนูนี้เลย  "ก๋วยเตี๋ยวต้มยำป๊าดโท๊ะ" 

ก๋วยเตี๋ยวต้มยำป๊าดโท๊ะ - เมนูใหม่ ฿ 159

0

ก๋วยเตี๋ยวต้มยำป๊าดโท๊ะ - เมนูใหม่ ฿ 159

ราคาหม้อนี้ (ต้องเรียกว่าหม้อเลยหละ) 159 บาท หนักเครื่อง หนักเส้น หนักทุกอย่างเยอะมากๆ รสชาติอร่อยใช้ได้ ทานแบบไม่หมดกันเลยทีเดียว  อร่อยกันจดน้ำตาไหล ด้วยความแซ่บของเครื่อง ความเข้มข้นของน้ำซุป อร่อยหนัก แบบจัดเต็มคะ

การบริการ : ร้านเป็นสไตล์ ร้านครอบครัว ช่วยกันทำในครอบครัว บริการดี แถมไม่พอเจ้าของร้านก็น่ารักอีกต่างหาก ทั้งหน้าตาและนิสัย การพูดการจา  

บอกได้เลยว่าร้านนนี้ "สด สะอาด อร่อย ประหยัด สุดคุ้ม" แนะนำว่าควรมาลองทานกันดูนะคะ

 "เชียงใหม่" ถือว่าเป็นเมืองใหญ่ อาหารการกินก็มีมากมายหลากหลายร้านเลยก็ว่าได้  แต่ในมื้อเช้าๆ (เช้าตรู่) ก็มีไม่มาเท่าไหร่ ส่วนมากจะเป็นเมนู ข้าวต้ม โจ๊ก ปลาท่องโก๋ ฯลฯ เมนูเบาๆ ไม่หนักท้องมากในตอนเช้า

วันนี้เลยจะขอมาแนะนำ..เมนูอาหารเช้า อีกร้านหนึ่งที่เบาๆ ไม่หนักท้อง และเป็นเมนูที่อาจจะเป็นตัวเลือกใหม่ สำหรับผู้คนที่ตื่นตอนเช้าๆ ไปทำงาน และทานแต่เมนูเดิมๆ นั้นก็คือ เมนูไข่กะทะ กับ "ร้านไข่กะทะเลิศรส" เป็นอาหารสไตล์ อาหารเวียดนาม

พิกัด : ถ้าเรามาจากประตูเชียงใหม่ ตรงมาจากตลาดประตูเชียงใหม่ ก่อนถึงตลาดเชียงใหม่จะมีซอยให้เลี้ยวซ้ายตรงไปประมาณ 400 เมตร ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือ ร้านจะออกสีส้มๆ
หรือ ถ้ามาจากอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ตรงมาเลื่อยๆ จนจะถึงหลังตลาดประตูเชียงใหม่ จะเจอร้านอยู่ทางขวามือบรรยากาศยามเช้าๆของชาวเชียงใหม่ ถึงแม้จะเริ่มเข้าฤดูร้อนแล้วแต่บรรยากาศตอนเช้าๆยังคงมีอากาศที่ยังคงเย็นๆอยู่ ดูได้จากบรรยากาศของร้านได้ร้านนี้เค้าเปิดให้บริการกันตั้งแต่ 6.00น. - 15.00น. ซึ่งทางร้านไม่ได้มีเพียงแค่อาหารเช้าอย่างเดียวเท่านั้น แต่ทางร้านยังมีเมนูอื่นๆ อีกมากมายให้ลองลิ้มชิมรสกับอาหารสไตล์เวียดนาม เพื่อใครเบื่อๆกับอาหารไทยทั่วๆไป ร้านนี้อาจเป้นอีก 1 ตัวเลือกสำหรับผู้ที่หาอาหารที่หลากหลายทานในร้านจะตกแต่งด้วยแสงสีส้มอ่อนๆ ชวนให้น่าเข้าไปอุดหนุนร้านเลยคะ  เพราะมองจากข้างนอกแล้วรู้ได้เลยว่าร้านนี้สะอาด และหน้าร้านยังมีเมนูเด็ดๆ และเมนูแนะนำ เราสามารถพิจารณาได้ว่าอาหารที่ร้านมีราคาเท่าไหร่ หน้าทานหรือไม่ อันดับแรกเรามาดูเมนูอาหารกันก่อนดีกว่า..ว่าจะน่ารับประทาน ชวนให้เราอยากเข้าไปลองสัมผัสกับรสชาติหรือไม่เมนูอาหารเช้า "ไข่กะทะ" แบบเป็นเซต..ราคาเริ่มต้นที่ 60 - 80 บาท  เราสามารถเลือกเป็นเซ็ตหรือจะแยกสั่งเป็นอย่างๆ ก็ได้ แล้วความสะดวกใจของเราอีกหนึ่งเมนูแนะนำ "ขนมปังเวียดนาม" ราคาก้อนละ 10 กว่าบาทเอง และมีหลากหลายรสชาติให้เลือกสรรแต่เมนู "ข้าวต้ม โจ๊ก" ที่นี่ก็ยังมีนะคะและยังมีเมนูเส้นต่างๆ ให้ลองลิ้มชิมรสกันอีกอย่างที่อยากจะแนะนำสำหรับคอกาแฟ ที่อยากจะชิมกาแฟ แบบ "กาแฟหยดเวียดนาม" ที่นี้ก็มีให้ท่านได้ลองชิม  มีทั้งแบบหยด และ หยดมาให้แล้ว(สำหรับความรวดเร็ว) ก็มีนะคะ
กาแฟเวียดนาม นั้น ยังมีสรรพคุณที่ช่วยคุมในเรื่องของ คอเลสเตอรอล สำหรับผู้ที่รักการดื่มการแฟ  กาแฟเวียดนามเป็นกาแฟที่ผสมผสานความลงตัวและคุณประโยชน์ไว้ในแก้วเดียวกัน  เพราะจะเป็นกาแฟอาราบิก้าบวกกับกาแฟโลบัสต้า ความหวานจากน้ำตาลกลูโคส ที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ทันที และครีมเทียมมาจากถั่วเหลือง เนื่องจากถั่วเหลืองมีคุณสมบัตินอกจากลดคอลเลสตรอรอล และยังมีคุณสมบัติขจัดไขมันออกจากร่างกายอีกด้วย สามารถเลือกเป็นชุดหรือเลือกแบบเป้นอย่างๆไปก็ได้คะ สามารถกรอกลงในใบออเดอร์ได้เลย

และแล้วเราก็ได้สั่งมาแบบเป็นอย่างๆ  คิดว่ามันน่าจะหลากหลายกว่า(แต่ความจริงก็เหมือนเราสั่งเป็นเซตนั้นแหละ)"ไข่กะทะทรงเครื่อง" ราคาเพียงแค่ 35 บาท อร่อยเหาะไปเลย ทำแบบง่ายๆ แต่รสชาติอร่อยใช่ได้เลย  "ขนมปังรวมหมูทรงเครื่อง+ผัก" เมนูนี้ 17 บาท อร่อยมากจนต้องซื้อห่อกลับบ้าน อิอิ

**น้ำชาร้อน เค้าเอามาเสริฟ์ให้เลยโดยไม่ต้องขอ น่ารักมากมาย ฟรี"กาแฟเวียดนาม" 20 บาท เพื่อต้องการความรวดเร็ว สั่งแบบไม่หยด แต่ก็อร่อยไม่แพ้กันเลยคร้าทั้งหมดนี้ เสียตังไปไม่ถึง 100 บาท  อิ่มอร่อย รสชาติเลิศ  เหมือนกับชื่อร้านเลยคะ คอนเฟริมเรื่องความอร่อยและความคุ้มค่า แถมไม่พอร้านก็สะอาดสะอ้าน 

การบริการ : เรื่องการบริการทางร้านก็น่ารักนะคะ แม้กระทั้งวันไหนรถจอดหน้าร้านไม่ได้ก็จะมีป้ายบอกว่าวันนี้จอดไม่ได้ เพราะกลัวลูกค้าโดนตำรวจจับ หวงใยแม้กระทั้งความปลอดภััยของลูกค้า  การบริการของพรักงานก็ดีเป็นบางคนนะคะ บางคนจะสนใจเราว่าเราจะสั่งอะไร รอเราถามว่าเมนูนี้คืออะไร  บางคนเรียกยังไม่ค่อยสนใจคะ แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าดีนะคะ เพราะเจ้าของร้านพูดจาน่ารัก ทักทาย ดูแลเป็นอย่างดี  เราเลยให้อภัย 55555บรรยากาศภายในร้านร้านมีที่นั่งหลากหลาย แถมมีที่ให้สำหรับลูกค้าที่มาคนเดียว (แบบเรา) ได้นั่งทานอย่างไม่ต้องสนใจใคร อิอิ 

ร้าน Mahasamut Library เป็นร้านเล็กๆที่ตั้งอยู่ในโครงการ 'บ้านข้างวัด' โดยโครงการแห่งนี้เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่มีทั้งลานกิจกรรม และมีร้านขายกาแฟ ร้านอาหารต่างๆอีกมากมาย ซึ่งบ้านข้างวัดจะอยู่ใกล้กับวัดร่ำเปิง
โดยมาได้หลายทาง สำหรับร้านมาหาสมุด เป็น1ในหลายๆร้านที่ตั้งอยู่ในโครงการบ้านข้างวัดอย่างที่บอกไป โดยความโดดเด่นของร้านนี้ที่แต่กต่างจากร้านกาแฟร้านอื่นในโครงการนี้ก็คือ ที่ร้านแห่งนี้เป็นเสมือนห้องสมุดขนาดย่อมๆเลยละคะ เพราะทั้งร้านจะมีชั้นวางหนังสือพร้อมหนังสือต่างๆเยอะแยะเต็มไปหมด ซึ่งถ้าหากใครสนใจก็สามารถยืมได้ค่ะ สำหรับร้านนี้จะมีอาหารและเครื่องดื่มคอยให้บริการเพียงไม่กี่อย่าง โดยจะเน้นเป็นเมนูง่ายๆอย่างพวกขนมปังปิ้งหน้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเนยนม เนยน้ำตาล นูเทลล่า แยม เนยถั่ว ฯลฯ 

ส่วนเครื่องดื่มก็จะมีชา กาแฟ เครื่องดื่มเมนูนม เมนูอิตาเลี่ยนโซดาโดยราคาก็ย่อมเยาว์ เครื่องดื่มก็เฉลี่ยตกแก้วละ 40-60 บาท ส่วนขนมปังราคาขึ้นอยู่กับแต่ละหน้าที่สั่งค่ะ ราคาอยู่ที่ 18-25 บาท

โดยวันที่ไป ได้มีโอกาสสั่งเฉพาะเครื่องดื่มมาทานแค่แก้วเดียวค่ะ เนื่องจากลูกค้าที่ร้านค่อนข้างเยอะ พอดีตอนที่ไปมีงานจัดที่โครงการบ้านข้างวัดค่ะ เพราะฉะนั้นสั่งน้ำแล้วนั่งพักนิดหน่อย เก็บรูปแล้วก็ออกเดินทางต่อเลยค่ะ

สำหรับเมนูที่ได้สั่งมาก็คือ-น้ำผึ้งมะนาวเย็นแก้วละ 50 บาท น้ำผึ้งมะนาวรสชาติสดชื่น ซาบซ่าดีค่ะ ราคาไม่แพงมากสำหรับร้านนี้ถือเป็นอีกหนึ่งร้าชิคๆในเชียงใหม่ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ ดูเหมือนร้านจะธรรมดา แต่จริงๆแล้วแอบอาร์ตอยู่ไม่น้อย โดยการตกแต่งร้านจะเป็นแนวดิบๆ ปูนเปลือยขัดมันแบบเรียบง่าย มีโต๊ะสำหรับนั่งพื้น เป็นพาเลท และมีเบาะให้นั่ง ตอนเข้าร้านก็ต้องถอดรองเท้านินนึงค่ะ เพื่อความสะอาดโดยส่วนตัวคิดว่าร้านนี้เหมาะแกการมานั่งชิลๆ หยิบหนังสือมาอ่าน พร้อมจิบเครื่องดืมคงจะชิลล์ไม่น้อย

ถ้าใครชอบแนวนี้ก็ลองแวะกันไปดูค่ะ 

พูดถึงร้านในระดับตำนานของเชียงใหม่ เป็นไปไม่ได้ที่จะขาดร้านนี้เลย "ร้านเกียรติโอชา" ร้านข้าวมันไก่ระดับตำนานของเมืองเชียงใหม่ ขนาด "พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา" ยังเคยเสด็จพระราชดำเนินมาเสวยข้าวมันไก่ร้านนี้มาแล้ว ใครไม่ได้มาลองลิ้มชิมรสของข้าวมันไก่ที่นี่ถือว่าพลาดกันเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นมาเชียงใหม่ก็อย่าลืมมาร์คร้านนี้ไว้เลยนะคะ ของเค้าขั้นเทพจริงๆ 

พิกัด : อยู่ตรงข้างอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ กลางเมืองเชียงใหม่ ตรงทางด้านหลังของศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่  หรือง่ายๆอยู่ทางฝั่งเดียวกับสะดื้อเมือง  เราสามารถเอารถจอดไว้ในวัดเลยเดินย้อนกลับมาเพียงแค่ไม่กี่เมตร  เพราะทางหน้าร้านรถจะจอดเต็มเลย  อยู่ที่ว่าเรามีจังหวะดีหรือไม่เราก็จะได้มีที่จอดรถ  แต่แนะนำว่าควรเอาไปจอดในวัดแหละคะง่ายและสะดวกสุดจะมีร้านข้าวมันไก่หลายร้านนะคะต้องสังเกตดีๆหน่อย ป้ายร้านจะเล็กๆ  แต่มองเห็นได้ง่ายคะบรรยากาศ : ภายในร้านคนจะค่อนข้างเยอะ ยิ่งถ้าเรามาตอนเที่ยงจะต้องยืนรอนิดหนึ่งแต่ก็ไม่นานเกินรอนะคะ  และที่สำคัญร้านนี้เค้าจะมีเอกลักษณ์คือ เวลาเค้าสั่งของกันคะ จะตะโกนบอกคนสับไก่ข้างหน้า บางโต๊ะเนื้อหนัง บ้างโต๊ะเนื้อล้วน เสียงนี้ดังเต็มร้านเลย และไม่มีการจดออเดอร์  ถือว่าคนรับฟังคำสั่งนี้ขันเทพเลยก็ว่าได้ 5555  เรานั่งทานไปด้วยฟังไปด้วย  นับถือเค้าเลยจริงๆ (แต่แล้วก็อยู่ที่คนชอบด้วยนะ  บางคนอาจไม่ชอบการเสียงดังก็เป็นได้..แต่เราถือว่าเป็นสีสันของที่นี่  อิอิ  )

**เมื่อมาถึงถ้าไม่รีบสั่งแยกเป็นแบบจานละก่อ  เค้าจะจัดให้เราแบบว่า เอาข้าวใส่ถ้วยมาวางไว้ให้เลย หลายถ้วยเลยคะ แต่ทะว่าถ้วยไหนเราไม่ได้ทาน ก็สามารถเอาคืนไม่คิดตังได้ไม่มีปัญหา ส่วนเราก็มีหน้าที่แค่สั่งว่าเอาจานเล็กหรือจานใหญ่ (แต่เมนูอื่นก็มีนะคะ เช่นเข้ามันไก่ทอด สำหรับบางคนที่ไม่ชอบทานไก่ต้ม เป็นต้น)ดูได้จากเนื้อไก่คะ เนื้อจะนุ่มลิ้นแบบสุดๆเค้าก็จะจัดเป็นเซ็ตอย่างนี้ให้เลยคะ มีข้าว + น้ำซุป + น้ำจิ้ม ที่จะมาวางรอไก่มาเลยคะ

รสชาติ : เรื่องรสชาติไม่ต้องพูดถึงความอร่อย  ระดับตำนานแล้วคงไม่พลาดเรื่องความอร่อยเป็นที่แน่นอน ไม่งั้นจะเปิดมาได้ถึงทุกวันนี้ได้อย่างไร  เนื้อไก่เค้าจะต้มเข้าที่ เนื้อไก่ไม่แข็งและไม่ล่วนเกินไป  เนื้อไก่นุ่มลิ้นอร่อยมาก และข้าวมันไก่ของเค้าจะหอมมากจะมันไปนิดๆ แต่ก็เข้าถึงรสชาติจริงๆเมื่อคลุกเค้ากับไก่และน้ำจิ้มของทางร้านน้ำจิ้มเค้าก็จะแยกระหว่างขิงกับพริกมาให้ด้วยคะเผื่อใครไม่ชอบ ส่วนเราชอบทานแบบเพรียวๆเต้าเจี๊ยวอย่างนี้เลย อร่อยดี 555น้ำที่นี้ไม่ต้องลุกไปเอาเองนะคะ เค้าก็จะเอาแก้วใส่น้ำแข็งมาวางตามจำนวนคน พร้อมกับจานและซ้อนส้อมให้เลยน้ำที่นี้จะเป็นน้ำชาให้ฟรีนะคะ ส่วนใครอยากทานชาร้อนก็ขอทางร้านได้คะ หรือใครไม่ทานน้ำชาน้ำปล่าวเค้าก็มีเป็นขวดตั้งวางข้างๆให้คะ

และยังมีเมนูน้ำอย่างอื่นด้วยนะคะ ชาเย็น,โอเลี้ยง ฯลฯ "หมูสะเต๊ะ" มันเป็นของคู่กันกับร้านข้าวมันไก่ เนื้อหมูจะแข็งๆไปนิดแต่ก็อร่อยใช้ได้เลยคะ ไม่ควรพลาดแต่ประการใด

การบริการ : การบริการใช่ได้คะ เจ้าของร้านยังน่ารักมาทักทายด้วยความเป็นกันเองไม่ถือเนื้อถือตัว ถึงแม้ลูกจ้างในร้านเขาจะเยอะก็ตาม  เขาก็ลงมือ คิดตัง รับออเดอร์ เสริฟ์ของด้วยตัวเอง น่ารักมากๆคะ