ขึ้นชื่อว่า ตลาดนัดจตุจักร แน่นอนว่าสิ่งแรกที่ขาช็อปย่อมนึกถึงคือความร้อนระอุของสถานที่ ตามแบบฉบับของตลาดนัดวันหยุดที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ ช็อปปิ้งไปเหงื่อไหลไคลย้อยไปจนขึ้นชื่อ OpenRice จึงจะมาชี้เป้าร้านเด็ด เปิดประตูสู่โอเอซิสติดแอร์กับคาเฟ่ขนมไทยกลางจตุจักรอย่าง Wantong Cafe (วันทองคาเฟ่)

Wantong Cafe ไม่ได้มีดีแค่เป็นคาเฟ่ติดแอร์กลางจตุจักรให้เราได้เข้าไปหลบร้อน ความโดดเด่นของร้านนี้อยู่ที่การนำขนมไทยมาประยุกต์เป็นเมนูใหม่ๆ ได้น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับทั้งเจ้าบ้านอย่างคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างหาก 

คาเฟ่ที่เหมือนโอเอซิสกลางทะเลทรายแห่งนี้มีสไตล์ชัดเจนตั้งแต่คอนเซปต์และการตั้งชื่อร้าน วันทอง หรือนางวันทองสองใจ มาจากชื่อตัวละครในเรื่องขุนช้างขุนแผน วรรณคดีเก่าแก่ของไทย ทางร้านเลือกใช้ชื่อนี้เพื่อแสดงถึงการเลือกไม่ได้ระหว่างขนมไทยกับเบเกอรี่ฝรั่งซึ่งดูแตกต่างกันสุดขั้ว แต่ที่ร้าน Wantong Cafe นี้เราไม่จำเป็นต้องเลือกเลย ในเมื่อความอร่อยทั้ง 2 สไตล์ผสมผสานเข้ากันเป็นเมนูเดียวได้อย่างน่าสนใจสุดๆ

Kaya: ขนมปังจิ้มสังขยา + ขนมเบื้อง

1 ในเมนูเด่นของร้าน ฐานเป็นเนื้อแป้งทาร์ตกรุบกรอบ รับกับสังขยาเนื้อหนึบเข้มข้นด้านใน ท็อปด้วยขนมปังปิ้งกรอบๆ เนื้อเมอแรงก์ครีมขนมเบื้องที่เบิร์นจนหอมกรุ่น และฝอยทองรสละมุน ครบถ้วนทั้งรสสัมผัสที่หลากหลายและรสชาติที่ตัดกันแต่ลงตัว

Nilla: ข้าวเหนียวดำน้ำกะทิ + ขนมเปียกปูน

เมนูขึ้นชื่อ (และขึ้นกล้อง) ที่ใครมาก็ต้องสั่ง นิลลาเป็นเค้กชิฟฟอนเนื้อนุ่มฟูสีดำสวยสมชื่อ หอมกลิ่นผงถ่านคล้ายกาบมะพร้าวเผาแบบขนมเปียกปูนแท้ ทางร้านเล่าว่าตอนแรกใช้ข้าวเหนียวดำจริงๆ ผสมเข้าไปด้วย แต่เนื้อขนมออกมาหนักเกินไปจึงเปลี่ยนเป็นข้าวไรซ์เบอร์รี ได้ทั้งสี กลิ่น ความนุ่มเบา และคุณประโยชน์

Manee: ข้าวเหนียวเปียกลำไย + มะพร้าวอ่อน

มณีคือชอร์ตเค้กที่มีต้นกำเนิดมาจากข้าวเหนียวเปียกลำไย แต่ตัดรสชาติให้ไม่เลี่ยนจนเกินไปด้วยการใส่ลิ้นจี่ไว้ด้านบน พอเคลิ้มกับความนุ่มนวลหอมหวานของมะพร้าวอ่อนและลำไยในเนื้อครีมเต็มที่ ก็ตามด้วยลิ้นจี่สักหน่อยให้ออกมากลมกล่อมถูกใจ

Phim Philalai: น้ำสมุนไพร + โซดา

ขึ้นชื่อว่าวันทองคาเฟ่ ย่อมขาดเมนูเด็ดอย่าง พิมพิลาไลย ชื่อเก่าของวันทองไปไม่ได้ ทางร้านผสมน้ำสมุนไพรเข้ากับโซดาซาบซ่า แต่งหน้าด้วยพริกแห้ง หอมกลิ่นข่าตะไคร้ใบมะกรูดเต็มๆ สไตล์เครื่องต้มยำ ตัดกับรสชาติละมุนละไมของเค้กได้เป็นอย่างดี

San Tri Petch: น้ำแตงโมคั้นสด + ชาเอิร์ลเกรย์

แสนตรีเพชร ตัวละครเจ้าอาคมอีกตัวจากเรื่องขุนช้างขุนแผน กลายเป็นชื่อเมนูน้ำแตงโมคั้นสด เครื่องดื่มยอดฮิตห้ามพลาดของนักท่องเที่ยว ผสมเข้ากับชาเอิร์ลเกรย์หอมกรุ่น ดื่มเย็นๆ ให้สดชื่นท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าว แถมยังเล่นสีแดงของน้ำแตงโมกับน้ำเสี่ยงทายของตัวละครแสนตรีเพชรก่อนออกศึกอีกด้วย เรียกได้ว่าเก็บเนี้ยบทุกรายละเอียด

บรรยากาศและการตกแต่งของ Wantong Cafe ดูสะอาดตาด้วยเฟอร์นิเจอร์และเคาน์เตอร์หินอ่อนสีขาว หลังคาใสคล้ายเรือนกระจกทำให้ทั้งร้านสว่างไสวโดยไม่ต้องพึ่งหลอดไฟ แถมยังสร้างบรรยากาศสบายๆ ยามเย็นหลังพระอาทิตย์ตกดินให้ได้มานั่งพักขาปิดท้ายก่อนกลับบ้าน

ทั้งร้านเต็มไปด้วยลูกเล่นเล็กๆ น้อยๆ ที่แสดงถึงความเป็นไทย ตั้งแต่มาลัยอุบะที่ห้อยข้างผนัง หนังสือขุนช้างขุนแผนปกแข็งเล่มหนา กระดาษเก่าเหลืองดูขึงขัง ขันทองเหลืองใส่น้ำลอยดอกไม้ ถ้วยชากระเบื้องขอบทองวาดลายไทย กระจาด ไปจนถึงพัดลมทองเหลืองแนวย้อนยุค

Wantong Cafe เริ่มขึ้นจากความตั้งใจอยากให้นักท่องเที่ยวได้อิ่มเอมกับขนมไทยดั้งเดิมมากกว่าแค่การถ่ายรูปสวยๆ แต่พอลองชิมแล้วก็แยกไม่ออกว่าขนมแต่ละชนิดต่างกันอย่างไรนอกจากหน้าตา ทางร้านจึงนำขนมไทยมาถ่ายทอดใหม่ในรูปลักษณ์ที่ชาวต่างชาติคุ้นเคยมากขึ้น ด้วยความพิถีพิถัน ตั้งใจ และไม่หยุดสร้างสรรค์ ทำให้ร้านนี้ไม่ได้เป็นแค่ขวัญใจขาช็อปจากต่างประเทศ แต่ยังเป็นโอเอซิสของนักช็อปชาวไทยในจตุจักรที่ OpenRice ขอแนะนำ

เช็กพิกัดร้าน Wantong Cafe ได้ที่นี่ คลิก