เห็น OpenRice ขึ้นต้นมาว่า 4 ชั่วโมงแล้วก็อย่าเพิ่งตกใจว่าจะกินส้มตำกันทีนี่ต้องต่อแถวรอถึง 4 ชั่วโมงเลยหรือ คำว่า 4 ชั่วโมงในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเวลารอคิว แต่หมายถึงเวลาที่เปิดขายต่างหาก! เพราะร้าน ส้มตำเจ๊แดง ในตำนานแห่งสามย่านนี้เริ่มเปิดขาย 10 โมงเช้า พอถึงสักบ่าย 2 โมงของก็หมดเรียบร้อยแล้ว (ถึงร้านจะปิดจริงๆ ประมาณบ่าย 3 โมงก็ตาม) เรียกได้ว่าช้าหมดอดกิน มาก่อนได้ก่อน
เสน่ห์ของร้านส้มตำเล็กๆ ที่อยู่คู่จุฬาฯ มานานกว่า 20 ปีคืออะไร ทำไมใครที่แวะเวียนมาแถวนี้มักได้รับคำแนะนำว่าต้องมาลิ้มรสฝีมือตำส้มตำของเจ๊แดงอยู่เสมอ OpenRice ได้มีโอกาสเข้าไปพูดคุยกับเจ๊แดงว่ากว่าจะมาเป็นร้านขวัญใจอย่างทุกวันนี้ได้นั้นต้องผ่านอะไรมาบ้าง
27 ปี จากรถเข็นเป็นหน้าร้าน
ร้านส้มตำเจ๊แดงเริ่มจากการเป็นส้มตำรถเข็นเมื่อ 27 ปีก่อน ขายตั้งแต่ตอนเจ๊แดงยังสาวเพิ่งแต่งงานกับสามี ยาวมาจนถึงตอนนี้ที่ลูกของเจ๊โตเป็นสาวตามไปอีกคนและมีหน้าร้านเป็นหลักแหล่งอยู่ในสามย่าน ถือเป็นกิจการในครอบครัวที่อบอุ่น เพราะเด็กๆ ในร้านก็เป็นลูกหลานที่เจ๊แดงส่งเสียจนจบปริญญาแล้วกลับมาช่วยงานทั้งนั้น มีจ้างคนเพิ่มแค่ 1-2 คนเท่านั้น
ขายแค่ 4-5 ชั่วโมงก็หมดแล้ว
เจ๊แดงจะยุ่งตำส้มตำมือเป็นระวิงตั้งแต่เริ่มเปิดร้าน ถึงแม้ตอนนั้นจะยังมีลูกค้ามาไม่กี่คนก็ตาม เพราะเดี๋ยวนี้มีลูกค้ามากมายโทรศัพท์มาสั่งส้มตำของป้าแต่เช้าทุกวัน แถมยังสั่งทีไม่ใช่น้อยๆ แต่เป็นสิบจาน แล้วให้วินมอเตอร์ไซค์มารับไปส่งที่ออฟฟิศหรือบ้านอีกที
สาเหตุที่ลูกค้าต้องโทรมาก็เพราะส้มตำเจ๊แดงขายดิบขายดีจนของหมดเร็วมาก แถมยังไม่รับจองโต๊ะด้วย ถ้าไม่โทรก่อนก็เสี่ยงจะต้องมารอเก้อที่หน้าร้าน เจ๊แดงให้เหตุผลว่าเพราะร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ ที่ทำกันในครอบครัว หากเปิดขายนานมากก็คงเหนื่อยเกินกว่าจะทำไหว จึงเป็นสาเหตุที่เปิดร้านแค่ 4-5 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น
วิกฤตไข้หวัดนก กำเนิดเมนูเด็ด
ตามธรรมชาติของร้านอาหารทั่วไปที่มีขึ้นก็ต้องมีลง ช่วงเวลาอันยากลำบากของร้านส้มตำเจ๊แดงคือช่วงที่ไข้หวัดนกระบาดหนัก เจ๊แดงถึงกับต้องเลิกขายไก่ย่างอย่างถาวร หันมาขายแต่ไก่ทอดซึ่งสุกทั่วถึงและปลอดภัยมากกว่าแทน ซึ่งก็ถือเป็นโชคในคราวเคราะห์เมื่อ ยำไก่ทอด ของเจ๊แดงกลายเป็นเมนูเด็ดที่ไม่ว่าโต๊ะไหนก็ต้องสั่ง ควบคู่กันกับ คอหมูย่าง และ ส้มตำไข่เค็ม
เคล็ดลับความอร่อย
เจ๊แดงหัวเราะเมื่อเราถามถึงเคล็ดลับความอร่อยแล้วบอกว่าไม่รู้จะตอบยังไงดี ลูกค้าประจำของเจ๊จึงช่วยตอบเราแทนว่าติดใจเส้นมะละกอในส้มตำที่กรอบได้ใจทุกจาน ช่วงที่ร้านขายดีมากๆ เจ๊แดงเคยใช้มะละกอสูงสุดถึง 20 กิโลกรัมต่อวันมาตำส้มตำนับร้อยจาน เจ๊แดงจะเลือกแต่มะละกอที่สดใหม่และกรอบจริงๆ เท่านั้น โดยมีร้านผลไม้เจ้าประจำที่อยู่คู่กันมาตลอดช่วยคัดให้รอบหนึ่งก่อนจะมาถึงมือ
ร้านเด็ดในดวงใจจากรุ่นสู่รุ่น
ร้านส้มตำเจ๊แดงเป็นร้านหนึ่งที่มีเหล่าลูกค้าประจำผูกปิ่นโตกันมายาวนานนับสิบปี ตั้งแต่สมัยคุณแม่เรียนโรงเรียนสาธิต คุณพ่อสอบเข้าจุฬาฯ ไปจนมีลูกมีหลานมากลับเข้าโรงเรียนสาธิตอีกรอบก็ยังแวะเวียนกลับมาที่ร้านอยู่เรื่อยๆ เจ๊แดงเล่าให้เราฟังยิ้มๆ ว่าอย่างเวลาลูกมาสอบ คุณพ่อคุณแม่เครียดเลยมากินส้มตำรอก็มี เป็นลูกค้ากันมาตั้งแต่รุ่นดั้งเดิมจนร้านส้มตำของเจ๊ถือว่าเป็นสัญลักษณ์คู่สามย่านไปแล้ว
ไม่รู้ว่าจะให้ต่อสัญญารึเปล่า
เจ๊แดงปิดท้ายด้วยประโยคที่ทำเราใจหายว่าไม่รู้ทางจุฬาฯ จะให้ต่อสัญญาเช่าที่นี่หรือไม่ เพราะร้านจะหมดสัญญาในปี 2560 นี้พอดี จากเดิมที่ต่อสัญญาเป็นราย 3 ปี ก็ไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนมาเป็นรายปีหรือเปล่า ต้องรอดูกันต่อไป
รู้อย่างนี้ใครที่อยากลิ้มลองความอร่อยแบบต้นตำรับซึ่งอยู่คู่สามย่านและจุฬาฯ มานานกว่า 20 ปีต้องรีบมาลองชิมแล้ว ดูรายละเอียดร้านและพิกัดได้ที่นี่ คลิก