OpenRice Index
   Thai | English
babibube
This is babibube living in บางมด. I am a พนักงานบริษัทเอกชน, work in อ.เมืองสมุทรสาคร. I like to hang out in คลองเตย, สีลม, ปทุมวัน. อาหารไทยทั่วไป, อาหารอีสาน, อาหารญี่ปุ่น are my favorite cuisines. I also love ร้านเค้กและเบเกอรี่ and ติ่มซำ ขนมจีบ ซาลาเปา, ซูชิ ซาซิมิ.
Member 299 First(s)
Reviews1050 Review(s)
編輯推介數目310 Editor's Choice
Recommended96 Recommended
Popularity16854 View(s)
Replies in Forum12 Comment(s)
Upload Photos13892 Photo(s)
Upload Videos5 Video(s)
My Recommended Reviews8 Recommended Review(s)
My Restaurant468 My Restaurant(s)
Follow118 Following
粉絲7464 Follower(s)
babibube  Level 4
Follow Follow  Comment Leave a Message 
Sort By:  Date   Editor's Choice  Smile Cry  Cry Cry  Overall Score 
 
 
 
 
Showing 1 to 5 of 8 Recommended Reviews in Thailand
PuddingMilktea
229 Review(s)
Level 4
Share on TwitterShare on Facebook
Categories : Dessert Ice Cream | Casaul Dining

ร้านมัทฉะชื่อดังมาเปิดสาขาที่ชั้น 7 เอ็มควอเทียร์ matcha lover จะพลาดได้ไง! มัทฉะเป็นเมนูที่เห็นทั่วไป แต่ร้านขายเฉพาะมัทฉะ ไม่เยอะนะ ร้านนี้เขาบอกว่าเปิดมาตั้งแต่ปี 1860 เชียวนะ

ร้านไม่ได้มีการตกแต่งอะไรเป็นพิเศษ มีที่นั่งสี่ห้าโต๊ะ
เพราะเป็นการกั้นพื้นที่ตรงทางเดินขึ้นมาเป็นร้าน ไม่ได้มีมุมมีผนังอะไรให้แต่ง โต๊ะเก้าอี้เน้นไม้เรียบๆ

วันนี้สั่งไอศกรีมมัทฉะกับโฮจิฉะร้อน ไอศกรีมใส่ชิฟฟ่อน ถั่วแดงบดและคอร์นเฟลค ไอติมอร่อยไม่หวาน เข้มข้นมัทฉะ แต่ชิฟฟ่อนแอบชิ้นใหญ่ไปหน่อย เลยรู้สึกว่าได้ไอติมน้อย คราวหน้าคงต้องมาสั่งแบบไอติมอย่างเดียว ตอนแรกที่สั่งโฮจิฉะนึกว่าจะมาเป็นถ้วย แต่ได้แบบ takeaway เลยต้องเปิดฝามาถ่ายรูป

ความรู้สึกครั้งแรกที่ได้กินร้านนี้หลังพลาดที่ไทเป รู้สึกว่าอร่อยมาก และอยากกลับไปลองอีกหลายเมนูเลยcry

 

 

 

 

 
 
Spending per head: Approximately ฿0

Other Ratings:
Taste
 4  |  
Environment
 3  |  
Service
 4  |  
Clean
 5  |  
Price
 4

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • Interesting

  • Touched

  • Envy

  • Cool Photo
      View Results
Recommend
Boblam
31 Review(s)
Level 3
Share on TwitterShare on Facebook
Categories : Bakery Shop | Coffee Shop / Tea Room | Cafe | Casaul Dining

เจอคุณซานครั้งแรกที่ฮ่องกงเหมือนกับที่เจอหลายๆคนที่ทำกาแฟในเมืองไทยในกรุ๊ปทัวร์ร้านกาแฟคราวนั้น แต่ก็ตามงานคุณซานมาพอสมควร รู้สึกทึ่งในความวิริยะอุตสาหะที่คุณซานขวนขวายหาความรู้เรื่องกาแฟ ไม่ว่าการสอบผ่าน คิวเกรดเดอร์ Q-Grader คนแรกๆ ของคนไทย หรือ เสาะหาสั่งเครื่องไม้เครื่องมือดีๆมาให้ลูกค้าและคนทำกาแฟได้รู้จักกัน

นอกจากนี้ร้านกาแฟที่ผมไปประจำที่ฮ่องกงก็เป็นแฟนกาแฟคั่วของ  พาคามารา โรงคั่วที่ผมนับถือในฝีมือที่นั่นโรงหนึ่งก็ออกปากชมกาแฟคั่วของ พาคามารา ซึ่งไม่ง่ายนักที่คนคั่วคนนี้จะชมกาแฟร้านอื่นๆ
วันที่ไปฝนตั้งเค้าทะมึนทีเดียว เป็นแบกกราวน์ที่ดูแปลกตาดี

วันที่ไปฝนตั้งเค้าทะมึนทีเดียว เป็นแบกกราวน์ที่ดูแปลกตาดี

 
เกริ่นมาซะยาวก็อยากจะบอกว่ามีเหตุผลมากมายที่ทำให้ผมต้องมาชิมกาแฟที่ร้านคุณซานให้ได้ถ้ามากรุงเทพ ปัญหาใหญ่คือ ไปร้านไหนดีเพราะ พาคามารา มีหลายร้าน

ประจวบเหมาะที่ พาคามารา เปิดร้านใหม่ที่ทองหล่อไปมาสะดวกหน่อยอยู่หลังโรงพยาบาลคามิลเลี่ยน เลยเลือกร้านนี้เลย ถึงแม้จะอยู่ในช่วงทดลองเปิดร้าน ซอฟโอเพินนิ่ง ร้านนี้พิเศษที่มีส่วนที่เป็นแลบกาแฟอยู่ข้างๆ
ด้านที่เป็นแลบกาแฟทางขวามือ มีสารพัดเครื่องชงกับเครื่องคั่วด้วย ได้แต่ถ่ายนอกร้านเพราะคนงานกำลังทำงานวุ่นอยู่ข้างใน

ด้านที่เป็นแลบกาแฟทางขวามือ มีสารพัดเครื่องชงกับเครื่องคั่วด้วย ได้แต่ถ่ายนอกร้านเพราะคนงานกำลังทำงานวุ่นอยู่ข้างใน

 
วันที่ไปมีคนทำงานตกแต่งอยู่ เลยไม่อยากไปกวนถ่ายรูปร้านมากนัก เลยได้แต่ถ่ายภาพแลบนอกร้าน พอทุกอย่างเสร็จ คงดูโปร่งโล่งนั่งสบายไม่อึดอัดดีทีเดียว
ผมชอบที่เหมือนกับสตาฟให้ความใส่ใจพูดคุยให้คำปรึกษากับลูกค้า

ผมชอบที่เหมือนกับสตาฟให้ความใส่ใจพูดคุยให้คำปรึกษากับลูกค้า

 
แต่เจ้าเครื่องหมาย X ที่ปกติมักจะเข้าใจว่าเป็นการร่วมมือกันของคนสองกลุ่มและเหมือนกับจะมีความนัยๆว่าเฉพาะกิจชั่วครั้งชั่งคราว ในที่นี้น่าจะหมายถึงร้านกาแฟ ”และ” แลบมากกว่า เป็นความหมายใหม่ที่ผมได้เรียนรู้ที่กรุงเทพเป็นครั้งแรกจริง
เคาน์เตอร์โปร่งและสวย

เคาน์เตอร์โปร่งและสวย

 
เคานเตอร์ดูดีกว้างขวางโปร่งโล่งดี น่าจะมีที่นั่งที่เคานเตอร์ให้สมกับที่เป็นแลบ เพื่อแบ่งปันความรู้ให้ลูกค้าและได้ เธียร์เตอร์ เอฟเฟคท์ คือ การที่ลูกค้าได้ที่นั่งริงไซค์จะช่วยเพิ่มประสบการณ์ด้านกาแฟขึ้นไปอีก เหมือนกิน เทปปันยากิ ที่ เบนิฮานา ยังไงยังงั้น

อีกอย่างคือไม่ได้เห็นร้านกาแฟที่ใช้เครื่องชงของ แอสตอเรียมานานแล้ว หายากจริงๆ ได้เจอที่ร้านคุณซานที่ทำตลาด แอสตอเรีย มานานหลายปี เครื่องนี้ดูแต่งพิเศษสารพัดลวดลายด้วย
ถ้าจัดที่นั่งที่เคาน์เตอร์ได้ ลูกค้าก็จะได้เห็นสารพัดเครื่องมือเทพๆ อย่างเจ้าแอสตอเรียที่มีลวดลายสวยแปลกตาตัวนี้

ถ้าจัดที่นั่งที่เคาน์เตอร์ได้ ลูกค้าก็จะได้เห็นสารพัดเครื่องมือเทพๆ อย่างเจ้าแอสตอเรียที่มีลวดลายสวยแปลกตาตัวนี้

 
มาเริ่มกันด้วยกาแฟนมแคปปูชิโน่เช่นเคย ลายลาเต้อาร์ทสวย รู้สึกอาร์ทกรุงเทพนี่กี่ร้านกี่ร้านไม่ผิดหวังจริงๆ แต่ผมไม่ค่อยแคร์กับเจ้าอาร์ทเท่าไหร่ อาร์ทไม่สวยไม่เป็นไร หรือไม่มีอาร์ทผมไม่แคร์เลยแม้แต่น้อย ขอให้กาแฟอร่อยก็แล้วกัน





แต่กาแฟนมแก้วนี้ออกมาเปรี้ยวเหมือนกับสัดส่วนนมกับกาแฟไม่เหมาะ  กาแฟมากไปหรือนมน้อยไป หรือเป็น Piccolo Latte พิคโคโล่ ลาเต ทีไร ผมมักจะรู้สึกว่ากาแฟมันเปรี้ยว ไม่อร่อยเลย แก้วนี้ก็เช่นกัน

ในเบลนด์มี กาแฟไทย บราซิล อินโด และ กัวเตมาลา บอกไม่ได้ว่าเบลนด์ดีไม่ดีเพราะเหมือนกับว่าชงมาข้นมาก (tight) รสชาดจับตัวแน่นแยกไม่ออก ไม่รู้เป็นยังไงกาแฟเอสเพรสโซ่ที่กรุงเทพชอบดึงให้ออกมาข้นๆ รสชาดหลากหลายที่มีในกาแฟมันก็กระจุกรวมตัวกันแน่น อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้กาแฟนมออกเปรี้ยว แต่คุณซานบอกว่าควรจะเป็นเจ้าตัวเมล็ดกาแฟจากไทยที่ทำให้ออกเปรี้ยว

 
ไม่ค่อยชอบเจ้าแคปปูชิโน ตาเหลือบเจ้าหอดำๆสองคอลัมน์ดูเด่นอยู่บนเคาน์เตอร์ ดูใกล้ๆนี่มันเครื่องชงกาแฟนี่หว่า ทำไมไม่เคยเห็นหรือได้ยินเลย
เคาน์เตอร์พิเศษที่มีเจ้าคอลัมน์ดำๆอยู่สองอัน ดูน่าสนใจดี

เคาน์เตอร์พิเศษที่มีเจ้าคอลัมน์ดำๆอยู่สองอัน ดูน่าสนใจดี

 
เช็คดูบน Sprudge เวปไซค์ข่าวสารกาแฟ ถึงได้รู้ว่า นี่ไม่ใช่เครื่องใหม่เลย ออกมาตั้งแต่ปี ๒๐๑๓ เป็นเครื่องชงแบบทีละแก้ว ชื่อเป็นเชิงเสียดสีตัวเองว่า Splurty ที่แปลคร่าวๆว่า พ่น หรือ ถ่ม ใช้มากกับ น้ำลาย แล้วก็เหมือนกับจะเงียบเข้ากลีบเมฆไป อาจจะดังกันแต่ในยุโรปก็ได้ จนมาโผล่อีกทีก็ปี ๒๐๑๕ ในชื่อใหม่ไฉไลกว่า แต่คนรู้จักกันดีในชื่อเดิมและชินกว่าซะแล้วทำไงได้
Mr. Splurty มิสเตอร์ สเปลิตตี้ จากมาร์โค เจ้าของ Uber Boiler เครื่องต้มน้ำด่วน อูเบอร์

Mr. Splurty มิสเตอร์ สเปลิตตี้ จากมาร์โค เจ้าของ Uber Boiler เครื่องต้มน้ำด่วน อูเบอร์

 
เจ้าหอแก้วทรงกระบอกข้างบนจะดูดน้ำขึ้นมาวนจนอุณหภูมิคงที่ตามที่คนชงตั้งค่าไว้ พยายามถ่ายให้เห็นน้ำวนๆในท่อส่งน้ำที่อยู่ข้างใน
หอแก้วกลมๆเป็นที่พักน้ำและทำให้อุณหภูมิของน้ำเสถียรก่อนปล่อยน้ำลงไปชง

หอแก้วกลมๆเป็นที่พักน้ำและทำให้อุณหภูมิของน้ำเสถียรก่อนปล่อยน้ำลงไปชง

 
จะเห็นว่าเครื่องจะพ่นน้ำอย่างเดียว ทำเป็นเพ้าส์ (Pulse) เป็นจังหวะได้ แต่ไม่มีการหมุนวนน้ำเป็น แพทเทิร์น เหมือนที่ใช้กาชงมือ
Mr. Splurty มิสเตอร์ สเปลิตตี้ ทำงานชงโดยพ่นน้ำลงมาตรงๆ ไม่หมุนวนหรือมีลวดลายแบบแผนแบบมือคนชงใช้กาน้ำ

Mr. Splurty มิสเตอร์ สเปลิตตี้ ทำงานชงโดยพ่นน้ำลงมาตรงๆ ไม่หมุนวนหรือมีลวดลายแบบแผนแบบมือคนชงใช้กาน้ำ

 
ดูกันชัดๆ ช่องทางน้ำออกของคุณสเปลิตตี้ มันฟิก หมุนไม่ได้
ช่องทางชงน้ำของ Mr. Splurty มิสเตอร์ สเปลิตตี้

ช่องทางชงน้ำของ Mr. Splurty มิสเตอร์ สเปลิตตี้

 
พูดมาตั้งนานแล้วรสชาดกาแฟเป็นยังไง แก้วที่ได้ออกมาดีพอควรรสชาดออกมาละมุนละไมพอควร (smooth) คล้ายๆกับกาแฟที่ชงด้วยเครื่องอย่าง โคลเวอร์ (Clover Brewing System) สตีมพังค์ (Alpha Dominche Steampunk) ทั้งสองเครื่องชงทีละถ้วยชั่นเทพ ทำมาเพื่อเลียนแบบความสดใหม่ของการชงทีละถ้วยแบบเอสเพรสโซ่นั่นเอง ตรงข้ามกับกาแฟดริปไซส์โตๆที่คนอเมริกันชอบทานทีเยอะๆ และทานได้ทั้งวันที่ชงกันเป็นลิตรเป็นแกลลอน

แต่เจ้ากาแฟแบทช์บรูว์แบบนี้ผมชอบมากถ้าชงใหม่ๆ บอดี้ดีกว่าสารพัดดริปทั้งหลายทั้งปวง รสกระดาษแทบไม่มีถึงแม้จะใช้กระดาษกรองในการชงก็ตาม ในอเมริกาขายถูกด้วย ถูกอร่อยมีใครจะไม่ชอบ แต่แถบนี้ร้านกาแฟคลื่นลูกที่สามแถบนี้ขายแบทช์บรูว์ แพงกว่า แคปปูชิโน่เสียอีกที่มีทั้งนมและชอทกาแฟ ที่ต้องเรื่องมาก ใช้คนๆนึงมาคุมเครื่องตลอด ซ้ำที่ต้องรอถึง ๒๐ กว่าวินาที เทียบกับดีและอร่อยด้วยภายในไม่กี่วินาทีจากกาแฟแบทช์บรูว์ ไม่ค่อยจะมีเหตุผลซักเท่าไหร่ ทำของพื้นๆ ให้เกินเลยเถิดราวกับเป็นของแปลกใหม่ที่ร้านแถบนี้เพิ่งค้นพบ ทั้งๆที่มันธรรมดาติดดินเอามากๆ ร้านกาแฟคลื่นลูกที่สามในอเมริกาและแคนาดา ทำแบบนี้มานานแล้ว
กาแฟที่ได้จากเจ้า มาร์โค มิสเตอร์สเปริทตี้

กาแฟที่ได้จากเจ้า มาร์โค มิสเตอร์สเปริทตี้

 
กลับมาที่กาแฟจาก มิสเตอร์ สเปลิตตี้ กาแฟในแก้วนี้ออกมาขมเล็กๆตอนท้ายๆตอนที่ยังร้อนอยู่ เหมือนกับจะชงโอเวอร์ไปนิดๆ เวลาเย็นลงความขมลดลงแต่เหมือนกับมีรสกระดาษปนมานิดๆ
กาแฟที่ใช้ชงกับเจ้าสเปริตตี้

กาแฟที่ใช้ชงกับเจ้าสเปริตตี้

 
โดยรวมกาแฟแก้วนี้รสออกมาตามสไตล์ซิดาโม้ ส้มๆกับดอกไม้อะไรทำนองนั้นถ้าจำไม่ผิด รสชาดของกาแฟอีธิโอเปียสำหรับผมน่าเบื่อมาก แต่เป็นกาแฟที่ร้านคลื่นลูกที่สามต้องมีประจำไว้เหมือนไฟล์บังคับ หันไปหันมาไม่รู้จะแนะนำอะไรให้ลูกค้าก็คว้าเจ้ากาแฟอีธิโอเปีย เซฟดี ปลอดภัยดี เพราะรสชาดแปลกไปจากกาแฟธรรมดามาก ชงยังไงผิดถูกก็มีรสชาดออกมาได้ เพราะกลิ่นรสค่อนข้างแรงเป็นเอกลักษณ์ ยิ่งถ้าได้กาแฟจากบริษัท นายตี้พลัส Ninety Plus (90+) รสชาดหลุดโลกเลย แปลกประหลาด เหมาะจะดึงดูดนักดื่มกาแฟน่าหน้าใหม่ที่เพียงจิบแรกก็จะ โอ้โห กาแฟอะไรเนี่ยมันช่างมีรสชาดแปลกประหลาดมหัศจรรย์พันลึกเมื่อเทียบกับ “กาแฟธรรมดา”้ แต่พอทานไปนานๆ หรือหลายๆครั้งเข้า รสชาดมันจะน่าเบื่อซ้ำซากมากกว่ากาแฟจากอเมริกากลางที่ดีๆ ที่แต่ละอันมีความแตกต่างกันเยอะกว่า

ไม่ประทับใจเลยกับแก้วนี้จากมิสเตอร์ สเปริทตี้ ไม่เหมือนกับแก้วแรกๆที่ผมได้ทานจาก โคลเว่อร์ หรือ สตีมพังค์ ที่มีความกระจ่าง (clarity) ดีจริงๆ เป็นจุดเด่นของเครื่องชงกาแฟ “ไฮเทค” พวกนี้ แต่ความสมูทของแก้วนี้ จากมิสเตอร์ สเปริทตี้ ทำได้ดีมากเลย ให้เดาน่าจะมาจากอุณหภูมิที่คงที่ของเครื่อง ที่มาร์โคมีชื่อเสียงโด่งดัง ที่จริงก็ไม่ค่อยแฟร์กับ พาคามารา เลย ที่จะวิจารณ์แรง เพราะยังอยู่ในช่วงซอฟโอเพินนิ่งอยู่ น่าจะลองอีกทีอย่างน้อยก็ หกเดือนให้หลัง แล้วค่อยว่ากันใหม่ แต่ทั้งหมดเป็นรสชาดที่ผมได้จากกาแฟแก้วนั้นจริงๆในวันนั้น

 
ก่อนจะกลับขอลองอีกสักแก้ว เป็น ซิงเกิ้ลออริจิน ของ Costa Rica คอสตา ริก้า ระดับ COE Cup of Excellence กันเลยทีเดียว แก้วนี้ก็เป็นอีก ชงออกมาข้นมากๆ (tight) จนดูเหมือนว่า การชงข้นๆนี่เป็นสไตล์เอกลักษณ์ของเอสเพรสโซ่ในกรุงเทพกันเลยทีเดียวเชียว



กาแฟระดับนี้ต้องให้เค้ามีโอกาสได้หายอกหายใจ ดึงให้ยาวกว่าปกติไม่ต้องกลัวกลิ่นรสที่ไม่ดีมาก กาแฟระดับนี้แล้ว ต้องดึงยาวนิด เว้นช่องไฟให้เค้าได้หายใจหายคอกัน ถึงจะโชว์รสชาดเป็นชั้นๆออกมาได้ กาแฟแก้วนี้มีแนวโน้วจะดี โดยเฉพาะผลไม้ แต่การที่ชงแบบข้นมากทำให้ไม่รสชาดที่ควรจะได้ตามเกรดกาแฟดีๆแบบนี้
มุมนี้นั่งสบายดี

มุมนี้นั่งสบายดี

 
สรุป ผมยังทึ่งในความพยายามที่คุณซานพยายามนำเสนอสิ่งดีๆ ให้กับมิตรรักนักทานกาแฟในไทยได้ชื่นชมกับเครื่องมือใหม่ๆหายากและนำแนวโน้มใหม่ของกาแฟมาสู่เมืองไทย ร้านใหม่เป็นอีกร้านหนึ่งที่ตอกย้ำสิ่งดีๆที่คุณซานทำมาจนปัจจุบัน

คุณภาพของกาแฟที่ร้านนี้ยังต้องทำใจเล็กน้อย เค้ายังอยู่ในช่วงทดลองเปิด ซอฟโอเพินนิ่ง แค่อาทิตย์สองอาทิตย์เท่านั้น เป็นผม จะให้เวลาร้านนี้ ๖ เดือน โดยตระเวณมาทานอีกถ้ามีโอกาส จะได้รู้ว่าเค้าพัฒนาไปอย่างไร ถ้าหกเดือนแล้งรสชาดเป็นยังไงก็เป็นยังงั้น เห็นจะต้องทบทวนคำแนะนำร้านนี้กันใหม่ เพราะให้เวลาเกินพอ ทุกอย่างน่าจะลงตัวเข้าที่แล้วเมื่อถึงเวลานั้น

แต่ผมยังมีความเชื่อลึกๆว่า คุณซานจะพัฒนาร้านนี้ให้มาอยู่ระดับแนวหน้าของร้านกาแฟหัวก้าวหน้าได้ในระยะเวลาไม่นานนัก
Supplementary Information:
ร้านยังอยู่ในช่วงซอฟโอเพิ่นนิ่ง คงต้องใช้เวลาอีกพอสมควรที่จะลงตัวกว่านี้
 
Date of Visit: Aug 16, 2016 

Other Ratings:
Taste
 2  |  
Environment
 5  |  
Service
 5  |  
Clean
 3  |  
Price
 2

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • Interesting

  • Touched

  • Envy

  • Cool Photo
      View Results
Recommend
eat and travel diary
153 Review(s)
Level 4
Share on TwitterShare on Facebook
Categories : Bakery Shop | Coffee Shop / Tea Room | Casaul Dining

 
วันนี้ขอพาไปนั่งจิบชาในบรรยากาศน่ารักสบายๆ ซึ่งร้านที่จะพาไปนั้นบอกเลยว่าเป็น Tea Room ที่นำเสนอ Afternoon Tea ตามแบบฉบับอังกฤษแท้ๆ ร้านที่จะพาไปชิลๆ ก็คือ Bonnie Dolly’s Tea Room ซึ่งน่ารักทั้งชื่อและบรรยากาศร้านเลยครับ

 

 

 

 
สำหรับร้าน Bonnie Dolly’s Tea Room นั้นอยู่ที่โครงการ The Twenty Six ซอยสุขุมวิท 26 บรรยากาศภายนอกตกแต่งด้วยสีดำเข้มแต่โดดเด่นด้วยหน้าต่างกระจกที่มองเห็นการตกแต่งภายในที่ดูเรียบง่ายแต่น่ารัก ซึ่งบรรยกาศภายในก็ยังคงเน้นสีดำแต่เพิ่มลูกเล่นด้วยสีขาวและแดงที่ตัดกันอย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมีของตกแต่งน่ารักๆ ไม่ว่าจะเป็นชุดแก้วน้ำชา หรือตุ๊กตาที่วางตกแต่งอยู่ทั่วร้าน และเพิ่มความเก๋ไก๋บนผนังด้วยช้อนขนมสีทองประดับไว้เป็นรูปกาน้ำชาและแก้วชา รวมทั้งสีเขียวบนเพดานและโคมไฟรูปกาน้ำชาที่เป็นอีกมุมที่ดูน่ารักไม่เบา

 

 
ในส่วนของเมนูที่นี่เน้นเสิร์ฟ Afternoon Tea เป็นหลัก ซึ่งเป็นสูตรตามแบบฉบับอังกฤษดั้งเดิม พร้อมชาคุณภาพดีซึ่งมีทั้งชาที่นำเข้าและชาที่ทางร้านเบลนด์เอง โดยมีให้เลือกมากกว่า 30 ชนิด ดังนั้นขอเริ่มด้วยชุดเด็ดของร้านนั่นก็คือ Afternoon Tea Set (Full Set 900 บาท)

 

 
ถือว่าเป็นชุดที่จัดเต็มความอร่อยที่มาพร้อมกับชา 2 กา โดยขอเริ่มที่ชั้นบนจะมี Mini Pasty ซึ่งแต่ละชิ้นก็อร่อย ไม่หวานเลี่ยนจนเกินไป เป็นชั้นที่หยิบทานได้เพลินเลยครับ

 

 
ชั้นกลางจะประกอบไปด้วย Scone จำนวน 4 ชิ้น 4 รสชาติ บอกเลยว่าสโคนของที่นี่อร่อยตามสไตล์อังกฤษแท้ๆ ตัวสโคนไม่แข็งและไม่นุ่มจนเกินไป กลิ่นหอม ยิ่งได้ทานกับ Clotted Cream หรือแยม รับรองอร่อยลงตัวสุดๆ ครับ ตามความเห็นส่วนตัวแล้วตอนนี้ผมชอบสโคนของที่นี่มากที่สุดละครับ

 
สำหรับด้านล่างจะเป็น Finger Sandwich 4 แบบ ประกอบด้วย Ham Cheese, Egg Mayonnaise, Smoked Salmon with Cream Cheese และ Salted Cucumber ที่อร่อยไม่เบาเช่นกันครับ

 
สำหรับชุดนี้ก็จะทานคู่กับชารสชาติดีที่รับรองเข้ากันอย่างลงตัว ซึ่งผมเลือก Chai Tea ชาแดงจากแอฟริกา ที่มีกลิ่นหอมและรสชาติเข้มข้น

 

 
ส่วนอีกกาเลือกเป็น Non-Caffeine ซึ่งเป็นชาสมุนไพร ที่ประกอบด้วยเก๊กฮวย ดอกคำฝอย และขมิ้น ซึ่งกลิ่นหอมและรสชาติเบาๆ ทานกับขนมรับรองว่าอร่อยลงตัวที่สุดเลยครับ

 
นอกจากนี้ยังมีเค้กอร่อยๆ สไตล์ Pastries อีกหลายอย่างซึ่งผมขอเลือก Apple Crumb Cake (125 บาท) เบเกอรี่ตามแบบฉบับอังกฤษดั้งเดิม พายแอปเปิ้ลที่เนื้อนุ่ม รสชาติหวานหอมอร่อย แถมได้เนื้อแอปเปิ้ลแบบเต็มๆ ที่แทรกอยู่ในชั้นพาย เป็นอีกชิ้นที่ปลื้มมากครับ

 
เอาเป็นว่าใครที่ชอบนั่งจิบชาชิลๆ ในบรรยากาศน่ารักๆ พร้อมกับทาน Afternoon Tea คุณภาพดีตามสไตล์อังกฤษแท้ๆ ลองแวะมาสัมผัสด้วยตัวเองได้ที่ Bonnie Dolly’s Tea Room ชั้นล่างของโครงการ The Twenty Six ดูนะครับ รับรองจะหลงรักที่นี่เหมือนผม
 
Recommended Dish(es):  Afternoon Tea,Apple Crumb Cake
 
Table Wait Time: 0 minute(s)


Spending per head: Approximately ฿500

Other Ratings:
Taste
 5  |  
Environment
 4  |  
Service
 5  |  
Clean
 5  |  
Price
 5

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • Interesting

  • Touched

  • Envy

  • Cool Photo
      View Results
Recommend
Pangeataround
756 Review(s)
Level 4
Share on TwitterShare on Facebook
Categories : Fusion | Western Restaurant | Restaurant


วันนี้มีโอกาสไปบุกถ้ำโจรสลัดกันค่ะ ที่เราไปกินเป็นอาหารเย็น ได้ลองที่เมนูคาว ทั้ง Cocktail
ร้าน Pirate Chambre

 

 

ที่ตั้งและการเดินทาง
ร้านอยูในตึก มณียา ที่เดินทางได้โดยง่าย ถ้ามารถไฟฟ้าก็ลงสถานี ชิดลม เดินออกทางออกที่ 2
ตึกจะเชื่อมกับรถไฟฟ้าเลย ถ้าเอารถมาก็จอดได้ที่ตึก หรือไปจอดที่โรงแรมเรเนซองต์ก็ได้

 

 

 
บรรยากาศร้าน
ร้านดูลึกลับสมกับ เป็นห้องลับของโจรสลัดเลย จากทางเชื่อมที่ 2 ของรถไฟฟ้า ไปเราจะเจอ ประตูร้าน แต่ทางเข้าร้านลงบันไดไปอีก ทำให้เรารู้สึกเหมือนกำลังเข้าไปห้องใต้ดินที่เก็บสมบัติอย่างงั้น

 

 

 

 

 
ที่ร้าน จะเปิดเป็น 2 ช่วง คือ
= ช่วงมื้อกลางวัน เวลา 11.00 – 15.00 น. เป็น Thai Lunch จะเสริฟเป็น อาหารไทยเป็นหลัก
= ช่วงมื้อค่ำ เวลา 17.00 – 24.00 น. Western Dinner ที่จะเสริฟเป็นอาหารตะวันตกเป็นหลัก
ช่วงเย็นจะเหมาะกับการไปนั่งสังสรรค์กับเพื่อนมาก เพราะมีดนตรีสดให้ฟังช่วง 2 ทุ่มด้วย
จากที่รีวิว เราได้ไป 2 ครั้ง แล้วก็เลยเขียนรวมกันทีเดียวเลยได้ลองทั้งอาหารที่เป็น
อาหารจะวันตก และอาหารไทยรสจัด แถมด้วย Cocktail ที่เราติดใจสุดๆ 55
Jolly Roger (Fruity, Sweet& Sour) : 320B
คอกเทลที่ชื่อเหมาะกับร้านมาก ส่วนผสมเป็น GIN, chambord liqueur น้ำมะนาว ผงราสเบอรรี่ แล้วก็น้ำตาล
คอกเทลที่ออกเปรี้ยวๆ นิด แต่กลิ่นเหล้ามีประมาณหนึ่ง ไม่ได้แรงมาก เพราะเป็นเปรี้ยวๆ ก็เลย สดชื่นเยอะเลย
เราชอบคอกเทลตัวนี้เลย ผู้หญิงก็กินได้ไม่ยากเลยค่ะ

 

 
Only Almond Left (Creamy/ Sour ): 320B
ตัวนี้เขาจะเสริฟมากับอัลมอลล์ที่เผามาข้างนอก แต่ตัวคอกเทลล์อันนี้เราว่ากลิ่นเหล้าแรงสุดเลย ดูแมนๆ หน่อย
กลิ่นอัลมอลล์ ทำให้หวานๆ มันๆ เค็มๆ ด้วย ตัวนี้จะผสมด้วยเหล้า disaronno

 

 
Spritz on Board ( Bitter/Fruity/Sweet): 320B
เป็น Cocktail ที่กินง่ายสุดแล้ว เป็น แก้วที่เหมาะกับดื่มก่อนมื้ออาหารจะเริ่มขึ้น เพราะจะมีรสไม่แรงมาก
มีกลิ่นรสส้มนิดๆหน่อย มีแอลกฮอล์ไม่แรงมาก ดิ่มแบบเบาๆ เรียกน้ำย่อยไปก่อน โดยทีส่วนผสมเป็นเหล้า APEROL
ใส่ไวน์ขาวนิดหน่อย เสาวรส เสริฟมาพร้อมชิ้นส้ม

 

 
Cocktail Special Couple: Pirate G is in trouble & Princess P (599฿)
เป็น Cocktail ที่เป็น signature ของร้าน ถ้ามาก็แนะนำให้สั่งเยค่ะ Pirate G จะเหมาะกับผู้ชายเพราะแอลกฮอล์ค่อนข้ามเข้นข้น ส่วน Princess P เสริฟมาสีม่วงอ่อนบนขอบแก้วเป็น เกล็ดน้ำตาล ชอบแก้วนี้มากๆ รสออกเปรี้ยวๆ กินง่ายดีค่ะ

Cocktail ที่นี่แนะนำเลย ดีงามหลายแก้ว นี่เรายังไม่ได้เริ่ม อาหารเลย แอบมึนเล็กน้อย 555 ที่นี่มื้อเย็นถึงจะเป็น Western Dinner แต่ว่าที่เราแปลกใจก็คิอมีอาหารไทยที่เป็นอาหารไทยจริงจังเลย อย่างส้มตำ
ถาด
Pirate Tum: 340B
เริ่มด้วยอาหารไทย เป็นเหมือนตำผลไม้ ผลไม้เขาเป็น มะม่วง กี่วี่ สตอเบอรรี่ เบอรรี่ แล้วก็มีปลากระพง ดิบมาแจมด้วย น้ำตำเหมือนส้มตำเป็น เค็มๆ เปรี้ยวๆ เป็นจานแซ่บอีกจาน ไม่เผ็ด แต่รสชาติเข้มข้น

 

 
ส้มตำถาดเสริฟพร้อมกุ้งแม่น้ำเผา :780B
ที่นี่มีส้มตำถาดด้วยนะเออ ถาดใหญ่โต เครื่องอลังการ มาก ในถาดก็จะมีส้มตำที่เราสั่งได้ว่าเป็นส้มตำปลาร้า หรือ ไม่ปลาร้า เราไหนๆ ก็ไหนๆแล้วก็สั่งมาเป็นส้มตำปลาร้า รสชาติถึงจะเป็นร้านกึ่งผับ อย่างงี้ แต่ รสชาติแซ่บได้เลย ถ้าใครอยากเพิ่มปลาร้าเขาจะให้น้ำปลาร้าในหลอดมาด้วย ฉีดเพิ่ม ปลาร้าได้ เครื่องก็จะมีผักอย่างหน่อไม้ ถั่วงอก ถั่วฝักยาว แล้วก็มีหมูยอ แหนม ไข่ต้ม ไข่เหยี่ยวม้า แต่ที่สำคัญที่ทำให้จานนี้พิเศษ คือ กุ้งแม่น้ำ เขาให้กุ้งแม่น้ำ 1 ตัวเลย ตัวใหญ่มาก เนื้อแน่น แต่เป็นกุ้งแม่น้ำที่ทอดกระเทียมนะ ใจเราอยากให้เป็นกุ้งแม่น้ำเผามากกว่า

 

 

 

 

 
Grilled Pork Rack with Mustard Miso + หมั่นโถว : 390B
ซี่โครงหมู ย่างมากับ ซอส Mustard Miso ซี่โครงหมู นุ่มเลาะง่ายๆ ไม่ติดกระดูกเลย ส่วนหมั่นโถ ทางร้านทำเอง แป้งเนียนดี นิ่งมาร้อนๆ 2 ก้อน หมูย่างเขาทอดมาแห้งๆดี กินกับซอสที่ทางร้านทำเองเป็นซอส Mustard กับ Ketchup กินแล้วเข้ากันดีค่ะ

 

 

 
Pizza Duck Confit : 420B
พิซซ่าถาดใหญ่มาเสริฟแล้ว เป็นพิซซ่าเป็ด แปลกดี ที่เป็ดซ่อนตัวอยู่ทุกอณู พิซซ่าแป้งบาง ตอนเสริฟจะมีไข่บนหน้า แล้วก็ผัดร็อคเก็ต มาด้วย ชอบกลิ่น มันหอมๆดี พอ เราจะกินก็ตีไข่ให้มันละลายก่อน แล้วก็กินได้ เป็ดไม่มีกลิ่นสาบ เนื้อแน่นดีด้วย เป็นพิซซ่าที่จับมา ผสมผสานลงตัวดี

 

 
Half Rotisserie Rosemary Chicken : 320B
ไก่ย่าง ครึ่งตัว ที่นี่เขามีเครื่องย่างจริงจังเลย ไก่เนื้อหนา และนิ่มดี แต่ว่าไก่เราเฉยๆ ไม่ได้ติดใจมาก แต่ชอบตรงที่เป็นหนัง มีรสชาติดี กินกับหมั่นโถว กับ ซอสที่เขาทำขึ้นเอง

 

 

 
Spaghetti Duck Confit : 320B
สปาเกตตี้ที่ชอบมาก เป็ดเขาจะทอดและน่าจะอบมาด้วย หนังกรอบมาก ผัดมารสเข้มๆ รสชาติมาทางไทยๆ ดี เพราะเขาจะผัดมากับพริก กระเทียม แต่รสจัดๆ ดี ชอบมากจานนี้

 

 
Four Season Pizza: 390B
พิซซ่า ที่นี่ถาดใหญ่ แบ่งได้ประมาณ 6 ชิ้น หน้าพิซซ่าก็มีเป็นชีส พาสม่าแฮม เห็ด ใส่ผัดร็อคเกตมาด้วย พิซซ่าอันนี้เราเฉยๆ ไม่ชอบเท่าไหร่ ส่วนตัว ชอบพิซซ่าถาดแรกมากว่า

 
New York Burger 360B
จานใหญ่มาก ตอนแรกนึกว่าเป็นแป้งแบบเบอร์เกอร์ แต่อันนี้เขาใช้แป้งแบบเหมือนแป้งนาน หรือแป้ง ตอติญ่า หว่า 555 แต่อบมาจนกรอบ ชิ้นใหญ่มาก ไส้เป็น เนื้อ แล้ว Pancetta เบคอนแบบอิตาลี อโวคาโด มะเขือเทศ ซอสเป็นซอส Thousand Island เนื้ออร่อยดีเลยค่ะ แต่ตัวเบค่อน เราว่ามันเค็ม คงเป็นลักษณะมัน ต้องกินแบบกัดทั้งคำทุกอย่าง แต่เรากินแค่เบค่อนเลยเค็มเลย ซอสที่ราดอร่อย

 

 
สลัดก๋วยเตี๋ยวบก: 280B
เป็นอาหารไทยที่ถูกปากเราสุดๆ เขาเอาเส้นใหญ่ แต่มาหั่นออกมาให้เล็กกว่าเส้นใหญ่ปรกติหน่อย แล้วใส่มากับผักที่มีหลายอย่าง ทั้ง ใบชะพลู ถั่วงอก แตงกว่า ใบมิ้น โรยมากับกุ้ง แคบหมู แล้วก็ ถั่ว พอกินรวมๆ แล้วอร่อยสุดๆ น้ำสลัดเป็นน้ำสลัดที่เป็นซีฟู้ดกับมัสตาสผสมกัน คล้ายๆสลัด แต่เป็นสลัดแบบไทยๆ ที่อร่อยด้วย

 
โดยรวมถึงราคาจะสูง แต่วัตถุดิบที่เสริฟมารับรองว่าคุ้มราคาแน่นอนค่ะ 
 
Other Ratings:
Taste
 4  |  
Environment
 4  |  
Service
 5  |  
Clean
 4  |  
Price
 4

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • Interesting

  • Touched

  • Envy

  • Cool Photo
      View Results
Recommend
babibube
1050 Review(s)
Level 4
Share on TwitterShare on Facebook
Categories : Chinese | Restaurant | Casaul Dining

แวะมาลองอาหารฮ่องกงเปิด 24 ชม.ที่เดอะ สตรีท รัชดา ร้านนี้เป็นสาขาที่ 3 สาขาแรกอยู่ที่พระราม 3 สาขาที่ 2 อยู่ที่พระราม 9 สาขานี้เก๋ตรงที่เปิดจลอด 24 ชม.เลย หิวตอนไหนก็มาทานได้เลย
การเดินทาง : ถ้าขับรถมาเดอะ สตรีท รัชดาอยู่ฝั่งเดียวกับเอสพลานาด รัชดา ขับเลยมาหน่อยจะเจอบิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า ถัดไปคือเดอะสตรีท สำหรับคนที่นั่ง MRT มาให้ลงสถานีศุนย์วัฒนธรรม ใช้ทางออกที่ 4 เดินมุ่งหน้าไปทาง บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า ถัดไปก็ถึงเดอะสตรีท
ร้าน Litte Hong Kong จะอยู่ด้านหน้าสุดของห้าง มีทางเข้าร้านอยู่ด้านนอกห้าง ถ้าจะมาทานต้องเดินออกมานอกห้างนะคะ ร้านอยู่ใกล้ ๆ กับร้าน Hollys Coffee
บรรยากาศในร้าน : ตกแต่งด้วยสีสันสดใส เน้นโทนแดง เขียว ร้านกว้างพอสมควร รองรับลูกค้าได้ประมาณ 120 ที่นั่ง
อาหาร : ร้านนี้ขายอาหารจีนสไตล์ฮ่องกง มีทั้งชาบูสตรีม ติ่มซำและอาหารจีนทั่วไป เด่นที่ไม่ใส่ผงชูรส ,วัตถุกันเสีย เน้นสุขภาพ ทำแบบไม่เลี่ยนไม่มัน มีโปรลดราคาบางเมนู เช่น ไก่แช่เหล้าฮ่องกงลดจาก 125 บ. เหลือ 50 บ. , ก๋วยเตี๋ยวหลอดหมูแดง 128 บ.ลดเหลือ 77 บ. หยิบวอยเชอร์ส่วนลดได้ที่หน้าร้าน
เมนูที่ได้ชิม
- ฮะเก๋ากุ้งสด 118 บ. แป้งฮะเก๋าบาง ไม่หนา เนื้อแป้งหนึบนึ่งแล้วไม่เละ ไส้กุ้งตูม ๆ
- ขนมจีบกุ้ง 98 บ. ตัวนี้จะเป็นไส้หมูสับผสมกับกุ้ง ขนมจีบลูกโตไส้แน่นเช่นกัน
- ซาลาเปาลาวาต้นตำรับลิตเติ้ลฮ่องกง 118 บ. แป้งนุ่มดี ไส้ลาวาอร่อยหอมมัน ไม่หวานจนเกินไป
- ซาลาเปาไส้ไหลงาดำ 118 บ. ไส้งาดำนี่ไม่ได้ชิม แต่เห็นคนที่ชิมบอกว่างาดำเข้มข้นมาก ๆ คนชอบงาดำน่าจะชอบ
- ไข่หงส์ลาวากรอบ 118 บ.เป็นแป้งข้าวเหนียวทอดชุบงาขาว กรอบนอกนุ่มใน ไส้ลาวาอร่อยหอมมัน
- ก๋วยเตี๋ยวหลอดลิตเติ้ลฮ่องกง 158 บ.ด้านนอกเป็นก๋วยเตี๋ยวหลอด ด้านในเป็นปอเปี๊ยะกรอบสอดไส้กุ้ง อร่อยเช่นกัน
- ก๋วยเตี๋ยวหลอดหมูแดง 128 บ. แป้งก๋วยเตี๋ยวหลอดนุ่มดี เข้ากับไส้หมูแดงด้านใน
- เกี๊ยวราดซอสฮ่องกง 118 บ.เป็นเกี๊ยวกุ้งราดด้วยซอสรสเผ็ดหอมน้ำมันงา จานนี้เราก็ชอบนะ
- ขนมผักกาดผัดซอสเอ็กซ์โอ 118 บ.ทอดมาไม่มันไม่เยิ้มดี แป้งนิ่ม มีรสเผ็ดเล็ก ๆ หอมซอสเอ็กซ์โอ
- ถั่วแขกผัดหมูสับ 149 บ.ผัดมาไม่มันไม่เลี่ยน คีบหาย ๆ จ้า
- ห่านย่าง ที่ร้านมี 4 ขนาด S,M,L,XL จานที่ทานเป็นขนาด XL ราคา 1,680 บ.ห่านย่างของร้านนี้หนังกรอบ เนื้อชุ่มฉ่ำ ไม่แห้ง ไม่เหนียว
ทางร้านบอกว่าเชฟที่ทำเมนูนี้เคยทำงานในร้านมีชื่อด้านห่างย่างในฮ่องกง ไม่แปลกใจเลยที่อร่อย สมกับที่เค้าเขียนไว้บนเมนูว่า Best Roast Goose in BKK
- โจ๊กหมูสับไข่เยี่ยวม้าหม้อดิน 125 บ. เนื้อโจ๊กไม่ได้เนียนละเอียดแต่ยังมี texture ให้เคี้ยว รสกำลังดีไม่จืดไม่เค็มไม่ต้องปรุงเพิ่ม
- บะหมี่เกี๊ยวกุ้งสดลิตเติ้ล ฮ่องกง 145 บ.น้ำซุปซดคล่องคอ ไม่จืดไม่เค็มจนเกินไป เกี๊ยวกุ้งตัวเบิ้ม ๆ เส้นบะหมี่เหนียวนุ่มดี
โดยรวมชอบนะ อาหารอร่อยถูกปากหลายเมนูเลย ไม่เลี่ยนไม่มัน กุ้งเป็นกุ้ง การตกแต่งร้านก็สวย เดินทางสะดวก มีโอกาสไปซ้ำอีกแน่นอนครัช
ร้าน Litte Hong Kong

ร้าน Litte Hong Kong

 
บรรยากาศในร้าน

บรรยากาศในร้าน

 
เมนูติ่มซำ

เมนูติ่มซำ

 
เมนูชาบูสตรีม

เมนูชาบูสตรีม

 
เมนูอาหารจีนอื่น ๆ

เมนูอาหารจีนอื่น ๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 
วอยเชอร์ส่วนลดหยิบได้จากหน้าร้าน

วอยเชอร์ส่วนลดหยิบได้จากหน้าร้าน

 
 
Table Wait Time: 0 minute(s)


Date of Visit: Jun 19, 2016 

Other Ratings:
Taste
 4  |  
Environment
 5  |  
Service
 4  |  
Clean
 5  |  
Price
 4

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • Interesting

  • Touched

  • Envy

  • Cool Photo
      View Results
Recommend