ห่างหายจากการรีวิวหน้าเว็บไปนานเลย เพราะปกติไม่ค่อยได้เล่นคอมเท่าไหร่ แต่วันนี้ทนไม่ไหวถึงกับต้องมาเปิดคอมเพื่อรีวิวกันเลยทีเดียวกับร้านนี้ chikalicious ร้านขนมจากนิวยอร์คที่มีคนนำมาเปิดสาขาที่ไทย ณ เซ็นทรัลเอมบาสซี่นั่นเอง 

ได้ยินจากเพื่อนๆมาหลายรายว่าร้านนี้เสริฟของหวานแบบ fine dinning ซึ่งจัดมา3คอร์สนั่นเอง เหมือนๆเวฃาเราไปทานอาหารที่จัดเป็นคอร์สตั้งแต่สตาร์ทเตอร์เรียกน้ำย่อยกันเลยทีเดียว และอยากจะบอกว่า ของหวานที่นี่เค้ามีแอลกอฮอลล์เสริฟมาคู่กันด้วยนะจ้ะ ใครที่คิดว่าเฮ้ยยย กินของหวานคู่กับแอลกอฮอลล์ละจะไม่เป้นไรหรอ ขอบอกเลยว่า ชิลๆสำหรับไรซ์มาก เพราะมันเข้ากันแบบสุดๆจริงๆ

หลังจากดูเมนูละสั่งไปเรียกร้อย จานเรียกน้ำย่อยก็มาให้เราได้คลายหิวกันกับ Caramel soup and Coconut Icecream with Kataifi ไอติมมะพร้าวรสนุ่มๆกับคาไทฟี่กรุบๆหอมเนยนิดๆเรียกน้ำย่อยได้ดีเลย

ต่อมาก็จานหลักจากตัวเลือกทั้งหมดไรซ์เลือกนี่เลยคะ BANANA TARTARE ON CRISPY KATAIFI WITH ADULT CHOCOLATE PUDDING AND WHITE COFFEE ICE CREAM จะบอกว่าคอร์สหลักของที่นี่เราควรจะตักทุกอย่างอย่างละนิดเข้าปากในคำเดียวคะ จะรับรู้ได้ถึงรสชาติที่เชฟเค้าต้องการจะบอกเลย ละก็จริงๆคะ ทั้งหอม ทั้งหวาน ทั้งนุ่ม และตบท้ายด้วย cherry brandy ทีเชฟแนะนำให้ทานคู่กันคะ จะบอกว่าความลงตัวมันอยู่ตรงนี้คะ หลังจากที่เราตักทุกอย่างเข้าปากละกระดกเชอรี่บรั่นดีเข้าไป มนช่วยเพิ่มรสชาติขนมหวานได้ลงตัวพอดีเลยคะ

สุดท้ายกับpetite fourที่รวมขนมชิ้นเล็กอย่าง banana cake with peanut cream,chocolate cookies,coconut marshmellowซึ่งอร่อยโดนใจไรซ์ทุกอย่างเลยจริงๆ อ่อที่นี่เค้ารับทำเค้กด้วยนะคะ แต่เมนูยังไม่เยอะยังไงลองอีเมลสอบถามรายละเอียดได้เลย

สรุปโดยรวมวันนี้ประทับใจกับขนมสุดๆคะ ปิดท้ายทั้งหมดแล้วไรซ์เลยจัดชอคโกแลตร้อนล้างปากซักหน่อย คราวหน้ากลับมาจะลองให้ได้ทุกเมนูเลยคะ

ช่วงนี้รู้สึกท้องไส้ไม่ค่อยจะดี เลยมีหนึ่งวันขอเป็นมังกะเค้าที เผื่ออาการที่มีจะทุเลาลงไปบ้าง เลยตั้ฃไว้ว่าในหนึ่งอาทิตย์ จะมีหนึ่งวันที่เราจะทานมังสวิรัต ได้ฤกษ์ก็จัดเลย แต่อยากจะบอกถ้าทานนอกบ้านนี่ยากเหลือเกินกับการหาอาหารปราศจากเนื้ออย่างนี้ เดินไปมาก็นึกได้ว่ามีร้านนึงที่น่าจะมีเมนูที่เราต้องการว่าแล้วก็มุ่งไปที่โอโตยะทันที พอนั่งแล้วก็เปิดเมนูเจอสิ่งที่ต้องการคือธัญพืชรวมซุปไข่ แต่จริฃก็คือข้าวนั่ยแหละ ซึ่งเมนูนี้ปราศจากเนื้อโดยสิ้นเชิง เเถมรสชาติยังอร่อยกลมกล่อม ซุปลื่นคอมากถ้ามีเนื้อด้วยก็เป็นเมนูพิเศษได้ละบอกเลยยย

จบจากเอสคาเปดมาเดินย้อนขึ้นมาทางถนนพระอาทิตย์ เราก็จะได้เจอกับทางเข้าเล็กที่ป้ายข้างหน้าเขียนชื่อร้านไว้อย่างแจ่มชัด แต่เอาจริงไร้ซไม่ได้เดินเข้าทางนี้หรอก ไร้ซเข้าจากทางโรงแรม ริว่าเซอย่าเลย ร้านนี้คือร้านที่อยู่ในโรงแรมรินน้ำแห่งนี้นั่นเอง ที่นี่บรรยากาศค่อนข้างดี ออกจะติดหรูนิดๆเมื่อเทียบกับร้ายใกล้ๆในเส้นพระอาทิตย์ มีมี่นั่งทั้งในและนอก ริมน้ำและริมสระ แต่กลุ่มไร้ซขอนั่งห้องแอร์ละกัน เนื่องด้วยถึงจะริมน้ำ แต่ดูทรงละ ไม่มีลมกระดิกซักนิด ที่นี่บริการทั้งอาหารแชะเครื่องดื่ม แค่เนื่องจากซัดเบอเกอกันมาแล้ว เลยขอเป็นอาหารเบาๆและจิบแอลกอฮอลแทน ที่สั่งก็คงเป็นเมนูตัดเลี่ยนอย่างยำวุ้นเส้น รสชาติยังขาดๆแต่เครื่องนี่มาเต็มๆ ไว้คราวหน้าจะมาลองอาหารแบบจัดเต็มบ้าง คราวนี้สบายๆละกันเนอะ

ในที่สวดดด ก็มาถึงซักทีกับร้านที่เค้าร่ำลือกันนักหนาว่าเด็ดจริงจัง ร้านไหนบอกเด็ดมีหรือที่เราจะพลาดได้ ต้องมาโดนจนได้ การเดินทางมาทานร้านนี้ในวันศุกร์ถือว่าเป็นอะไรที่สาหัสพอสมควรบอกเลย แต่ก็นะ ไม่มีอะไรหยุดเราได้ถ้าเราอยาก55555 ถึงหน้าร้านก็เจอะเลยว่าต้องรอ แต่คงเป็นโชคนิดหน่อยที่รอไม่นานเท่าไหร่ ร้านนี้ออกจะเล็ก ถ้าคิดไปชิลต่อหลังทานบอกเลยว่าอย่านั่งหน้าบาร์เพราะครัวเค้าอยู่ตรงนั้นเลย เหม็นชัวๆ ว่าเเล้วก็ได้ที่หลังร้าน เมนูที่นี่มีไม่มากแต่จะมีเมนูพิเศษประจำวันก็แล้วแต่จะเจออะไร เมนูมาเราก็สั่งเลย ชื่อเมนูนี่จำไม่ได้รู้แต่ว่ามีเนื้อ หมูไก่แกะและฮอตด็อก เราก็สั่งเลยขอเนื้อคะ เพราะเบอเกอร์รสชาติจริงมันฟินกันที่เนื้อนี่แหละ ละมีเครื่องเคียงให้สั่งสองอย่างคือ เฟรนชฟรายกับฮัชบราว เเละมีขนมปังโฮลวีทกับช็อคโกแลตให้เลือก เราก็สั่งเนื้อกับเพื่อนละเลือหขนมปังคนละอย่างจะได้มาแบ่งกัน มาถึงเชคกัน มิลเชคที่นี่เรานับถือจริงๆกับส่วนผสมบางอย่างซึ่งบางทีไม่น่าผสมกันได้ด้วยซ้ำแต่พอทำมาเฮ้อย มันอร่อยดีแฮะ อย่างที่เราสั่งเป็นเมนูเชคพิเศษวันนั้นชื่อไรจำไม่ได้แต่ส่วนผสมคื สตรอเบอรี่มะละกอมะนาวคิทแคทและพีนัทบัตเตอ บอกเลยว่าต้องลอง ถึงเวลาเบอเกอมาเสริฟ เมื่อได้ชิม จะบอกว่าขนมปังโฮลวีทที่นี่ค่อนข้างเนื้อแน่นซึ่งสำหรับเรา เบอเกอที่ดีขนมปังควรจะเนื้อนุ่มและเบา เนื่องจากส่วนใหญ่ตัวเนื้อจะค่อนข้างหนา การที่เนื้อหนาขนมปังยังหนา ทำให้การกินลำบากแถมยังอิ่มเร็วและ ลดความอร่อยของตัวเนื้อไปด้วย เนื้อที่นี่เราไม่ปลื้มเลยแอบเหนียวด้วยพังผืดหรือเอ็นยังไงไม่ทราบ ทำให้เวลาเราเคี้ยวแทบไม่อยากรับรู้รสชาติเลยไม่โอเคจริงๆสำหรับเรา แต่ลองตัวหมูละเนื้อค่อนข้างนุ่มอร่อยกว่าเนื้อวัวพอสมควรเลย ยังไงก็ตามคราวหน้าจะมาลองใหม่ จะทานฮอตด็อกดู แต่ขอลาเนื้อร้านนี้ชริงๆค่า แต่จะให้อภัยเพราะมิ้ลเชคอะบอกเลอ

อีกหนึ่งเจ้าปรเจำเวลามาเดินงานที่อิมแพคเมืองทอง บอกเลยว่าเกือบทุกครั้งจะต้องมาจบที่ร้านนี้ มีหลายอย่างมากๆให้ได้ลองและเคยรีวิวไปแล้ว อยากจะแอบบอกเลยว่า ส้มตำไทยที่นี่เด็ดสุดๆเลยค่าสั่งทุกครั้งที่มา ครบรสสุดๆ กินทีนี่คือกวาดจนหยดสุดท้ายจริงๆอะ แต่คราวนี้เราจะไม่พูดถึงสิ่งๆนั้น ที่จริงคือพูดไปแล้วอิอิ เราจะมากล่าวถึงเมนูนี้ที่เราไม่เคยสั่งเลย อย่างก๋วยเตี๋ยวต้มยำ รสชาติที่นี่จะออกเผ็ดนำเปรี้ยวหวานตาม เกือบจะเด็ดแล้วถ้าเปรี้ยวอีกนิด ขอมะนาวบีบหน่อยรับรองอย่าบอกใครเลยค่าา