...รสหมาล่า เผ็ด ๆ ชา ๆ เอกลักษณ์อาหารจีนเสฉวน...
หลายครั้งที่พูดถึงรสชาติแบบ “หมาล่า” แล้วมีคนเข้าใจผิดว่ามันเป็นชื่ออาหารชนิดหนึ่ง วันนี้เลยอยากมาเล่าถึงรสชาติแบบ “ หมาล่า” ให้ได้เข้าใจกันอย่างหมดข้อสงสัยไปเลยค่ะ
หมาล่า มาจากภาษาจีนว่า 麻辣 /má là/ อ่านเป็นเสียงภาษาไทยว่า หมา-ล่า ซึ่งคำว่า “หมา” หมายถึง อาการชาที่จะรู้สึกได้ที่ปลายลิ้น และ “ล่า” หมายถึง รสชาติเผ็ด เมื่อรวมกันแล้วจึงหมายความว่ารสชาติแบบเผ็ด ๆ ชา ๆ ที่ปลายลิ้น โดยรสชาติแบบนี้มาจากเครื่องเทศอย่างหนึ่งที่มีต้นกำเนิดจากมณฑลเสฉวน ประเทศจีน เรียกว่า ฮวาเจียว (花椒 /huā jiāo/) รูปร่างหน้าตาคล้ายเม็ดพริกไทยดำ ในภาษาอังกฤษจึงเรียกว่า Sichuan pepper (พริกไทยเสฉวน)
รสหมาล่าในอาหารทุกประเภท
ในประเทศจีนรสหมาล่าสามารถใส่ได้กับอาหารแทบทุกประเภท ไม่ว่าจะต้ม ผัด ทอด หรือปิ้งย่าง ถือเป็นการเพิ่มความเอร็ดอร่อยให้กับอาหาร สร้างรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งไม่สามารถพบเห็นได้นอกจากในประเทศจีน สำหรับคนที่ไม่เคยกินก็อาจจะรู้สึกแปลก ๆ กับรสชาติแบบนี้ แต่ถ้าหากได้กินไปเรื่อย ๆ คุณก็อาจตกหลุมรักในรสชาติแบบหมาล่าเลยก็ว่าได้ อาหารที่ได้รับความนิยมจากการใส่รสหมาล่า ได้แก่ หม้อไฟหมาล่า, เต้าหู้ผัดพริกเสฉวน, บาร์บีคิวสไตล์จีน (มีการโรยผงหมาล่า), มันฝรั่งทอดคลุกเคล้าด้วยผงหมาล่า เป็นต้น
หม้อไฟซุปเผ็ดหมาล่า เหมาะกินกับเนื้อแกะ เพราะมีกลิ่นสาบมากกว่าเนื้อชนิดอื่น ๆ
ซาวข่าว หรือ บาร์บีคิวสไตล์จีน มักปรุงรสด้วยผงหมาล่า ชูรสและดับกลิ่น โดยเฉพาะเนื้อแกะ
ก๋วยเตี๋ยวชนิดหนึ่งของจีนเสิร์ฟในซุปรสหมาล่า เผ็ด ชา อร่อย
เต้าหู้ผัดพริกเสฉวน เมนูขึ้นชื่อของมณฑลเสฉวน ต้นกำเนิดฮวาเจียวและรสหมาล่า
ประเทศไทยจะหารสชาติหมาล่าได้หรือไม่?
สำหรับในบ้านเราอาจจะหากินอาหารที่มีรสหมาล่าได้ยาก แต่เครื่องเทศอย่างฮวาเจียวนั้น สามารถหาได้ในประเทศไทยค่ะ ในประเทศไทยเรียกว่า “มะแขว่น” มีชื่อทางวิทยาศาสตร์อยู่ในตระกูลเดียวกัน คือ Zanthoxylum ว่ากันว่าพบได้ในภาคเหนือ ในอาหารล้านนาอาจพบเห็นอาหารรสหมาล่าก็เป็นได้ แต่สำหรับคนที่เคยกินทั้งฮวาเจียวและมะแขว่นกลับบอกว่าทั้ง 2 อย่างนี้แม้ว่าจะกินแล้วให้อาการแบบชาลิ้น แต่ก็ไม่เหมือนกันซะทีเดียว ถ้าอยากรู้ว่าต่างกันขนาดไหน เพื่อน ๆ อาจจะต้องไปลองพิสูจน์รสหมาล่าดูแล้วล่ะค่ะ
สรรพคุณจากฮวาเจียว
ฮวาเจียวหรือมะแขว่นมีสรรพคุณขับลมในลำไส้ แก้หวัด แก้วิงเวียนศีรษะ สามารถดับกลิ่นคาวในเนื้อสัตว์ได้ บ้างก็นำมาต้มดื่มเป็นยาแก้ไข้ แถมยังช่วยขับระดูในสตรีได้ ด้วยความที่มีสรรพคุณมากมายฮวาเจียวจึงถูกนำมาปรุงอาหารและใช้เป็นยามานานแล้ว และในปัจจุบันมีการนำฮวาเจียวมาทำเป็นยาบำรุงหัวใจและบำรุงเลือดอีกด้วย
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง: รวมร้านหมาล่า
อ้างอิง: www.facebook.com/thanakorn.chompookeaw/posts/1165066436836770 l th.wikipedia.org/wiki/มะแข่น l www.sadoodta.com
เครดิตรูป: www.tctma.com l mypaper.pchome.com.tw l news.iqilu.com l www.mltzb.com l www.wthefood.com l yangrouchuan-www.kelamayi.com.cn