...กินเที่ยวอยุธยา ตามรอยละคร ย้อนกินของอร่อย...
ในชีวิตการทำงานที่ต้องเข้าออฟฟิศจันทร์ถึงศุกร์ เช้ายันเย็น ตั้งใจทำงานหนักอย่างเคร่งเครียดเพื่อให้ได้ผลงานที่ดีที่สุด วันหยุดเราก็ฝันกันว่าจะได้ออกไปเที่ยวเล่นพักผ่อนสมองบ้าง แต่กว่าจะถึงวันหยุดเราก็ใช้พลังไปกับการทำงานหมดแล้ว พอได้หยุดขึ้นมาจริงๆ หลายคนจึงยกธงยอมแพ้ นอนแผ่อยู่กับบ้าน หรือไม่ก็ออกไปเดินเล่นในห้างสรรพสินค้าใกล้ๆ ซึ่งที่จริงก็ไปจนปรุแล้วในเย็นวันธรรมดา
ครั้นจะลาหยุดไปเที่ยวจริงๆ จังๆ รึก็ต้องมานั่งดูอีกว่าลาเท่านี้ต้องใช้วันลากี่วัน จะถูกหักเงินเดือนรึเปล่า จะชนกับช่วงวันหยุดยาวที่คนล้วนแห่กันไปเที่ยวจนแออัดมั้ย ครั้นจะไม่ให้ชนกับคนมากๆ ก็ต้องยอมเสียวันลาพักร้อนอันมีค่าอีก เฮ้อ คิดแล้วกลุ้ม
ถ้าอย่างนั้นลองมาบวกลบคูณหารกันดูดีกว่าว่าเราต้องการอะไรจากการไปเที่ยวต่างจังหวัดในวันหยุดสุดสัปดาห์กันบ้าง แล้วจะได้รู้ว่าอันที่จริง จังหวัดไม่ใกล้ไม่ไกลอย่าง “อยุธยา” มีทุกอย่างให้เราตระเวนไปได้ครบโดยไม่เสียเวลาเปล่าแม้แต่นิดเดียว!
1. เปลี่ยนบรรยากาศจากตึกออฟฟิศแห้งแล้งและห้างสรรพสินค้าซ้ำซาก ไปนั่งจิบกาแฟชมวิวที่ อยุธยา รีทรีต
แหม ร้านกาแฟในกรุงเทพฯ ที่ไปมาจนปรุแล้วในวันธรรมดาหรือจะสู้รีสอร์ตที่มีเฉพาะในจังหวัดอื่นได้ จิบกาแฟร้อนๆ ชมวิวสวยๆ สบายๆ แชะรูปลงอินสตาแกรมเป็นที่ระลึกอีกหน่อย แค่นี้ก็ได้ผ่อนคลายกับชีวิตสโลว์ไลฟ์ กักตุนพลังงานไว้ปั่นงานต่อในอาทิตย์ถัดไป
อยุธยา รีทรีต คือเรือนไทยแบบโบราณที่เป็นรีสอร์ตสุดชิคในจังหวัดอยุธยา สวยจนกองถ่ายละครแห่กันมาถ่ายทำไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะเป็นละครดังอย่าง ข้าบดินทร์ ขมิ้นกับปูน แรงชัง เขยใหญ่สะใภ้เล็ก หรืออื่นๆ อีกมากมาย แค่ก้าวเข้ามาในอาณาเขตเราก็อยากแต่งชุดไทยสวยๆ มาตระเวนถ่ายรูปให้ทั่วแล้ว
อยุธยา รีทรีต ไม่ได้มีดีแค่สวยให้เราถ่ายรูปได้เท่านั้น แต่ยังมีกิจกรรมสนุกๆ อย่างการทำขนมเกสรลำเจียก (บางคนเรียกว่าขนมดอกลำเจียก) ที่ทั้งหอมอร่อยและสวยแปลกตา เริ่มจากนำแป้งที่ผสมไว้แล้วมาร่อนลงบนกระทะ รอให้แป้งที่ดูเป็นผงธรรมดากลายเป็นแผ่นเดียวกันอย่างน่าตื่นเต้น จากนั้นก็ใส่ไส้แล้วม้วน แค่นี้ก็เสร็จสมบูรณ์ หรือถ้าใครจะขอกินอย่างเดียวดีกว่า ทำไม่ไหว จะหันไปเรียนสานปลาตะเพียนแทนก็ยังได้
ใครเป็นสายอาหารฝรั่ง เจอทำขนมไทยโบราณกับสานปลาตะเพียนเข้าไปก็อย่าเพิ่งคิดว่าที่นี่จะมีแต่อะไรไทยจ๋าเก่าแก่น่าเบื่อ อาหารที่นี่มีให้เลือกหลากหลายทั้งอาหารฝรั่งอย่างสเต๊กเนื้อเซอร์ลอยด์ พอร์กช็อป สปาเก็ตตี้หลากหลายแบบ แซนด์วิช อาหารไทยอย่างข้าวผัดน้ำพริกปลาสลิดกรอบ ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ ต้มยำกุ้ง และแน่นอนว่าต้องมีกุ้งแม่น้ำเผาของดีอยุธยาด้วย ถ้าอยากกินอะไรเบาๆ กาแฟของที่นี่ก็หอมเข้มข้นจนขึ้นชื่อ เคียงด้วยเบเกอรี่และเค้กที่หอมหวานจนน้ำลายสอ
--------------------
2. โชคดีชีวิตรุ่งทั้งการงาน การเงิน และความรัก กับการไหว้ “หลวงพ่อใหญ่”
หลายคนอาจต้องการโชคเยอะหน่อยในวันที่ 1 และ 15 ของทุกเดือน วันหยุดทั้งทีก็เลยขอไปไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคลสักนิด เผื่อให้การเดินทางราบรื่นปลอดภัย การงานรุ่งโรจน์ หรือจะขอให้ความรักสมหวังก็ตามแต่ใจ
“หลวงพ่อใหญ่” หรือ “พระพุทธมหานวมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ” เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อยู่ที่วัดม่วง จังหวัดอ่างทอง ไม่ไกลจากอยุธยานัก เราจะมองเห็นหลวงพ่อใหญ่ได้อย่างง่ายดายขณะเดินทางเข้าไป เพราะพระพุทธรูปองค์นี้สูงถึง 95 เมตร หรือเท่ากับตึก 32 ชั้น!
มีวิธีพิเศษในการขอพรจากหลวงพ่อใหญ่ที่เขาว่ากันว่าได้ผลสมหวังดั่งใจ นั่นก็คือเข้าไปยืนอยู่ใต้ปลายนิ้วกลางของหลวงพ่อใหญ่ซึ่งยื่นลงมาต่ำที่สุด จากนั้นก็ชูมือทั้งสองข้างขึ้นแตะปลายนิ้วกลางให้ได้ จะชูมากชูน้อย ต้องเขย่งด้วยหรือแค่ยื่นยังไม่สุดก็แตะถึงได้ชิลๆ ก็ไม่เกี่ยง ขอแค่แตะด้วยสองมือแล้วอธิษฐานก็พอ
นอกจากจะมีพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว วัดม่วงยังมีรูปปั้นแสดงภาพจำลองของนรกขุมต่างๆ พร้อมป้ายคำสอนติดไว้ด้วย หลายรูปปั้นไว้ได้ดีจนชวนขนลุก ถ้าไม่ถูกกับเลือดหรืออะไรโหดๆ ทางวัดก็ยังมีรูปปั้นจากเรื่องราวในวรรณคดีไทยอมตะอย่างรามเกียรติ์ให้ชม
--------------------
3. ทัวร์โบราณสถานเมืองเก่าที่ "วัดไชยวัฒนาราม"
วัดไชยวัฒนาราม เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยา ซึ่งทางกรมศิลปากรได้คอยดูแลบูรณะวัดอยู่ตลอดจนถึงปัจจุบัน เสน่ห์ของวัดแห่งนี้คือความเก่าแก่ มีปรางค์ประธานตั้งอยู่ตรงกลาง รายล้อมด้วยปรางค์บริวาร 4 องค์ ถัดออกมาด้านนอกอีกเป็นเมรุซึ่งมีระเบียงคดทอดผ่านให้เดินกันได้เรื่อยๆ ไม่เหนื่อยมากนัก ตามระเบียงคดนี้ยังมีพระพุทธรูปปางมารวิชัยเรียงรายอยู่ถึง 120 องค์ ดูขรึมขลังชวนขนลุก เพราะส่วนใหญ่ไม่เหลือพระเศียรแล้ว
วัดไชยวัฒนารามเดินทางไปไม่ยาก ใช้เส้นทางเดียวกับวัดกษัตราธิราช เมื่อข้ามสะพานวัดกษัตราธิราชให้เลี้ยวขวา จากนั้นก็ตรงไปเรื่อยๆ จนเห็นวัดไชยวัฒนารามอยู่ด้านหน้า
--------------------
4. ตะลุยชิมของหายากทั่วตลาดโก้งโค้ง
ในเมื่อตลาดนัดหน้าออฟฟิศไม่หลากหลายสะใจเราอีกต่อไป คำตอบคือตลาดต่างจังหวัดเท่านั้น เราต้องการของกินหายากที่หาในกรุงเทพฯ ไม่ค่อยได้ ถ้าอย่างนั้นต้องไปที่ ตลาดโก้งโค้ง บริเวณบ้านแสงโสม ตำบลขนอนหลวง
ตลาดโก้งโค้ง โดดเด่นที่การจัดวางของซื้อของขายไว้ตรงระดับเอวของคนที่ยืนอยู่ ส่วนคนขายนั่งอยู่บนพื้น ทำให้คนซื้อต้องโก้งโค้งก้มลงไปเลือกของ ดูน่ารักและนุ่มนวลแบบไทยๆ แต่ใครที่ปวดหลังปวดเอวคงต้องระวังกันหน่อย ฝากคนข้างๆ ไปซื้อแทนก็ได้นะ
ข้าวของและอาหารหลายอย่างที่นี่หาซื้อที่อื่นได้ยาก ตัวอย่างเช่น มะม่วงหาว มะนาวโห่ ผลไม้รสเปรี้ยวอมหวานสีขาวชมพูที่สวยอย่างกับขนม ลูกไข่เน่า ที่ไม่ได้เน่าจริงเหมือนชื่อ มะขามป้อมอินเดีย ลูกตะค้อ ขนมกง ปลาเห็ด ที่หน้าตาเหมือนทอดมัน แต่ไม่ได้เรียกว่าทอดมัน ขนมฝักบัว ขนมครกโบราณ ขนมไทย หรือขนมน่าสนใจอย่าง กล้วยนาบ (เราไม่ได้พิมพ์ผิดแต่อย่างใด นี่ไม่ใช่กล้วยฉาบ แต่เป็นกล้วยนาบที่เอาไปนาบกับกระทะ เลยเรียกกันอีกชื่อว่ากล้วยกระทะ)
นอกจากจะมีขายทั้งของกินของใช้นานาชนิดแล้ว ตลาดโก้งโค้งยังมีกิจกรรมพิเศษอย่างการรำวงกลองยาวถวายพ่อปู่แสงโสมและสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทุกเช้าตอน 10 โมง แถมถ้าใครเดินทางมาเป็นหมู่คณะและแจ้งก่อนล่วงหน้า จะมีขบวนกลองยาวแห่มารับตั้งแต่ก้าวแรกให้ได้เฮฮากันเต็มที่ ตลาดโก้งโค้งจะเปิดทุกวันพฤหัสถึงวันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่ 9.00 – 16.00 น. วันอาทิตย์ต้นเดือนจะมีทำบุญตักบาตรเหรียญด้วย
--------------------
5. วันหยุดทั้งทีต้องกินของอร่อยให้สะใจสิ ไปกินกุ้งแม่น้ำเผาที่บ้านอยุธยารมย์กันเถอะ!
ตลาดน่ะมีแต่ของกินเล่นเล็กๆ น้อยๆ ไม่สะใจเรา อุตส่าห์ออกต่างจังหวัดแล้วก็ต้องได้กินอาหารมื้อใหญ่เต็มปากเต็มคำอย่างกุ้งแม่น้ำเผาตัวโตมันกุ้งเยิ้มๆ ปลาม้า ปลาเนื้ออ่อน หอยแมลงภู่สดๆ อย่างนี้สิถึงจะถูก
บ้านอยุธยารมย์ เป็นร้านอาหารแบบบ้านเรือนไทย อยู่ใกล้วัดกษัตราธิราช ดำเนินงานโดย บ้านอิสระ หัวหิน ซึ่งเป็นร้านอาหารชื่อดังที่หลายคนติดอกติดใจมาแล้ว คราวนี้มาแค่อยุธยาก็ได้ลิ้มลองอาหารรสเด็ดสูตรเดียวกันไม่ผิดเพี้ยน บ้านอยุธยารมย์อยู่ติดริมน้ำเจ้าพระยา สิ่งที่พิเศษสุดๆ ก็คือโต๊ะที่นั่งริมน้ำนั้นมองไปเห็นเจดีย์ศรีสุริโยทัยเป็นแบ็กกราวนด์ด้วย เรียกได้ว่าทั้งสวยทั้งขลัง
ขึ้นชื่อว่าทีมงานเดียวกับบ้านอิสระ หัวหิน ซึ่งเป็นร้านของทายาทแม่ช้อยนางรำทั้งที แน่นอนว่าอาหารต้องรสเด็ด เริ่มจากเมนูห้ามพลาดในอยุธยาอย่างกุ้งเผา หรือถ้าใครชอบอาหารรสแซ่บจะสั่งเป็นยำกุ้งย่างน้ำปลาดิบก็ได้ เมนูนี้จะนำกุ้งแม่น้ำสดๆ พริก หอมแดง และกระเทียมไปเผา จากนั้นจึงใช้ทำน้ำยำด้วยน้ำปลาที่ทางร้านหมักเอง ซึ่งจะเค็มกว่าน้ำปลาทั่วไปนิดหน่อย แต่ความหอมนี่ชนะขาดลอย
สำหรับใครที่ชอบกินปลามากกว่ากุ้ง ห้ามพลาดเมนูปลาม้านึ่งบ๊วย ปลาเนื้ออ่อนผัดพริกแกงไข่เค็ม แกงส้มพริกขี้หนูปลาคัง ต้มยำปลาน้ำเงิน
เมนูขึ้นชื่อของบ้านอิสระอย่างซีฟู้ดผัดซอสโหระพาก็มีเสิร์ฟที่นี่เช่นกัน แถมมีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่กุ้งแม่น้ำ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ กุ้ง หอยเชลล์ กรรเชียงปู ปลาหมึก เนื้อปลา หรือถ้าใครรักพี่เสียดายน้อง จะสั่งเป็นซีฟู้ดรวมมิตรก็มีเช่นกัน ถึงเมนูนี้จะหน้าตาดำทะมึนไปสักหน่อยด้วยสีใบโหระพา แต่เรื่องรสชาตินั้นรับประกันได้
หลังจากตระเวนเที่ยวจังหวัดบ้านใกล้เรือนเคียงอย่างอยุธยาตามแพลนที่ว่ามาแล้ว ถ้าใครยังไม่สะใจ อยากไปเที่ยวให้ไกลกว่านี้ ทาง ททท. หรือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ก็ขยันจัดหาทริปต่างๆ ให้เหล่ามนุษย์ออฟฟิศได้ไปผ่อนคลายกัน (แพลนทริปอยุธยาที่ว่ามานี้ ทาง ททท. ก็ช่วยจัดให้เหมือนกันนะเออ) ไม่ว่าจะอยากไปสุขกลางใจใกล้แค่เอื้อมในภาคกลาง ไปแซ่บนัวกันที่อีสาน สัมผัสสีสันตะวันออก ปักหมุดหยุดเวลาที่ปักษ์ใต้ หรือขึ้นเหนือไปสานฝันหาล้านแรงบันดาลใจ ก็ไปกันได้ง่ายๆ ติดตามข้อมูลที่เที่ยวใหม่ๆ ได้ที่ ททท. นะจ๊ะ
Credit: ททท., sanook.com, Ayutthaya.org,
pantip.com, watboran.wordpress.com,
Picture credit: shogun (OpenRicer), matichononline.com, pantip.com,
Ayutthaya Retreat facebook, naturalcode-thailand.com, panoramio.com
รวมรายชื่อร้านอาหารในอยุธยา
พากินพาเที่ยว จบในที่เดียว ณ ตลาดนัดเรือบิน
ชิมแกงคั่วปูใบชะคราม ตะลุยช็อปตลาดทะเลไทย