Read full review
2016-02-14
1023 views
และแล้วก็มาปิดท้ายของทริป อิ๊งค์ eat all around หนีกรุง ปราจีนบุรี ที่ร้านป้าจำปีก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯร้านป้าจำปีอยู่ที่ หมู่ 1 ถ.สาย 304 ระหว่างกม.ที่ 192-193 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี สามารถเดินทางจากสี่แยกกบินทร์บุรีหรือสี่แยกสามทหาร วิ่งไปตามถนนสาย 304 ช่วงกบินทร์บุรี-นครราชสีมา ที่จะไปวังน้ำเขียว ร้านป้าจำปีจะอยู่ริมถนน 304 ทางขวามือ ระหว่างกิโลเมตรที่ 26 - 27 ช่วงที่กำลังเริ่มไต่ขึ้นเขา ก่อนถึงอุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งตอนนี้ให้สังเกตป้ายหลักกิโลเมตรแบบใหม่ที่นับระยะทางรวมจากกรุงเทพฯ ร้านป้าจำปีจะอยู่ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 192 - 193 นะจ๊ะ ร้านนี้ดังมานานมากกกกกตั้งแต่ถนนยังไม่เจริญเท่าตอนนี้เลยนะคะตอนนี้ร้านป้
ร้านป้าจำปีอยู่ที่ หมู่ 1 ถ.สาย 304 ระหว่างกม.ที่ 192-193 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี สามารถเดินทางจากสี่แยกกบินทร์บุรีหรือสี่แยกสามทหาร วิ่งไปตามถนนสาย 304 ช่วงกบินทร์บุรี-นครราชสีมา ที่จะไปวังน้ำเขียว ร้านป้าจำปีจะอยู่ริมถนน 304 ทางขวามือ ระหว่างกิโลเมตรที่ 26 - 27 ช่วงที่กำลังเริ่มไต่ขึ้นเขา ก่อนถึงอุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งตอนนี้ให้สังเกตป้ายหลักกิโลเมตรแบบใหม่ที่นับระยะทางรวมจากกรุงเทพฯ ร้านป้าจำปีจะอยู่ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 192 - 193 นะจ๊ะ ร้านนี้ดังมานานมากกกกกตั้งแต่ถนนยังไม่เจริญเท่าตอนนี้เลยนะคะ
ตอนนี้ร้านป้าจำปีอยู่ภายใต้การดูแลของบรรดาหลานสาวของยายจำปี ซึ่งเป็นรุ่นที่ 3 แล้ว นำทีมโดยคุณส้ม สิรินทรา ศิริศักดิ์ ตอนนี้ตัวร้านขยับขยายจากเพิงเล็กๆ ในสมัยเริ่มแรก กลายเป็นห้องโถงชั้นเดียวขนาดใหญ่จุคนรวมกันได้นับร้อย ตั้งอยู่ริมห้วยหินดาษ บรรยากาศดีๆ เหมือนเราได้นั่งกินข้าวในบ้านสวนของเราเอง ยิ่งไปกินตอนเย็น อากาศคลายร้อนลงแล้ว ยิ่งบรรยากาศดี มีลมเย็นๆ โชยมาเป็นระยะๆ
ความอร่อยของร้านป้าจำปีนั้น อยู่ที่พริกแกงแดงทำเอง สูตรดั้งเดิมของป้าจำปีผู้ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งพริกแกงนี้เพียงชนิดเดียว นำไปทำเมนูต่างๆ ได้หมดแทบทุกเมนู ไม่ว่าจะเป็นผัดเผ็ด ฉู่ฉี่ แกงป่า รวมทั้งเมนูราดพริก
ดังนั้นมาร้านป้าจำปีห้ามพลาดบรรดาเมนูของเผ็ดต่างๆนะจ๊ะ เริ่มกันด้วยฉู่ฉี่ปลากด (180 บาท) ใช้ปลาสดๆจากแม่น้ำปราจีนบุรี ที่สดเหลือหลายเนื้อเป็นก้อนเลย น้ำฉู่ฉี่แตกมันหอมพริกแกงเข้มข้น รสเค็มอมหวานนิดๆ รสชาติเข้มข้นแต่ไม่เผ็ดมากนัก เอามาคลุกข้าวเจริญอาหารยิ่งนัก
ส่วนผัดผัก มาปราจีนบุรีต้องสั่งผัดผักกระเฉดชะลูดน้ำไฟแดง (80 บาท) ห้ามพลาดเป็นอันขาด ไม่ได้สั่งเหมือนมาไม่ถึงปราจีนเลยนะ ผักกระเฉดที่ปลูกในถิ่นนี้จะไม่มีนม หมายถึงปลอกหุ้มลำต้นที่เป็นปุยขาวๆ คนปลูกผักจะนำผักกระเฉดไปแช่ในบ่อน้ำสะอาด เอาผักมาผูกกับหลักจนน้ำท่วมมิดยอด เป็นเวลา 2-3 วัน จึงได้ผักกระเฉดไร้นมอันโอชะ กรอบๆนุ่มๆไม่มีส่วนแข็งๆให้รำคาญใจ เรียกว่าผักกระเฉดชะลูดน้ำ เป็นเมนูที่ชอบมากกกก ปลื้มมากกกกก อร่อยมากกกกกก
ส่วนผัดเผ็ดนั้นต้องลองผัดเผ็ดหมูป่า(150 บาท) เนื้อนุ่มๆ ติดหนังหนึบๆ เครื่องผัดเผ็ดเหมือนกับแกงป่า แต่ไม่ใส่กระชาย จานนี้เผ็ดพอเรียกเหงื่อได้ชะงัดอร่อยสะใจดีจังเลยค่ะเมนูนี้
ของเผ็ดๆ ให้แกล้มด้วยไข่ระเบิด (80 บาท) ไข่เจียวใส่พริกขี้หนูสวน หมูสับและโหระพา รูปทรงจานบินหนาเกือบ 3 นิ้วไม่อมน้ำมัน รสชาติจัดจ้านไม่เผ็ดมาก คนทอดต้องชำนาญมากๆ น้ำมันท่วมๆเลยครึ่งกระทะ ร้อนจัดๆไม่มีพรายฟอง จากนั้นหรี่ไฟ แล้วเทไข่ลงไป ต้องเทมือนิ่งๆ ไข่จะจับเป็นก้อนหน้า พลิกอีกด้าน แล้วเจาะรูตรงกลางให้ข้างในสุกเป็นอันเสร็จสรรพ เห็นนิ่งๆ เหลืองๆ อย่าวางใจไปนะคะ เพราะมีพริกขี้หนูอยู่ข้างใน กัดโดนทีนี่ซี้ดสะใจเลยจริงๆ แต่ก็ไม่ได้เผ็ดจนเกินไปนะคะ แต่ก็อร่อยไปอีกแบบได้รสชาติดีค่ะ
ผัดกะเพราก็ถึงเครื่องพริกทุบและกระเทียมหอมๆ เลือกใส่ได้ทั้งนั้น มีตั้งแต่ หมูบ้าน หมูป่า เนื้อ กบตัวโตๆที่ทอดกระเทียมก็อร่อย นกกระทา ไก่ หมูกรอบ ปลาไหล ปลาหมึก กุ้ง แต่ครั้งนี้เราได้กินเป็นผัดกระเพราหมูกรอบค่ะ รสชาติเข้มข้นสะใจ เผ็ดและเค็ม คลุกข้าวอร่อยมากๆๆๆๆ
ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียม นี่กรอบฟินๆ เคี้ยวเล่นอร่อยมาก แต่แอบรู้สึกว่ากรอบเกรียมไปหน่อย แต่ก็อร่อยอยู่เนื้อ ปลาเนื้ออ่อนตัวไม่ใหญ่มาก กินได้ทั้งตัว หอมกระเทียมเจียวกรอบๆ ที่โรยหน้าด้วย
ปลานิลราดพริกตัวโตๆ(ขายตามน้ำหนัก กิโลละ 250 บาท) ตัวใหญ่มโหฬารมากๆๆๆๆๆ เนื้อก็สดหวาน ไม่มีกลิ่นโคลนแม้แต่น้อย เพราะเป็นปลาจากเขื่อนทับลานที่มีน้ำใส ไม่ใช่ดินปนเลน นำปลานิลไปทอดก่อนแล้วนำน้ำฉู่ฉี่มาราดบนตัวปลาอีกที มาเสิร์ฟทีนี่กินเนื้อที่โต๊ะไปตั้งเยอะ 555
เวลามาร้านป้าจำปีให้ถามว่าวันนี้มีปลาสดๆอะไรบ้าง จากแม่น้ำปราจีนบุรี ทั้งปลาเนื้ออ่อน ปลาแดง ปลาน้ำเงิน ปลาช่อน ปลาค้าวหรือปลาเค้าตัวโตๆ ที่แล่เป็นชิ้นโตๆ ใหญ่สะใจ ถ้าวันนั้นมี อย่าลืมสั่งมาชิมด้วยเลย
ต่อกันด้วยแกงป่าไก่บ้าน (150 บาท) ที่ใส่เครื่องในไก่มาด้วย น้ำแกงป่ารสเข้ม ไม่ใสโจ๋งเจ๋ง ซดน้ำได้อร่อยไม่เผ็ดจนเกินไป ใส่เครื่องทั้งกระชาย มะเขือพวง มะเขือเปราะ พริกไทยอ่อน ใบกะเพรา ใบมะกรูด อีกทั้งของพื้นบ้านในท้องถิ่นคือหน่อข่า และว่านม่วง(ที่หน้าตาคล้ายขมิ้นขาว) มีผักอะไรก็ใส่อย่างนั้นลงไป
และจานสุดท้าย จานนี้ที่เราขอบายเป็นกบทอดกระเทียม ปกติเราไม่กินกบอ่ะค่ะ แต่ฟังจากผู้ร่วมโต๊ะ เขาว่าอร่อยมาก กบก็ตัวใหญ่ เนื้อแน่นๆ มาเน้นๆ กินเพลินๆ หอมกระเทียมเช่นเดียวกัน
ขอบอกเลยว่าอาหารที่ร้านนี้ขออร่อยมากและรสชาติออกค่อนข้างจัด ควรกินกับข้าว แต่หลังจากที่เราตะลอนกินกันมาทั้งวันแล้วบอกเลยว่าอิ่มมากกกกกกก ร้านนี้เป็นร้านสุดท้ายที่เรากินได้น้อย เสียดายมากๆ เลยค่ะ หากมีโอกาสมาแถวนี้จะต้องแวะมากินอีกครั้งให้ได้ อาหารอร่อย รสชาติเข้มข้น บรรยากาศบ้านๆ โอ๊ยยยยยย อะไรจะฟินไปกว่านี้ค่ะ
หากใครจะขึ้นไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติทับลานหรือวังน้ำเขียวอย่าลืมแวะทานอาหารไทยรสจัดจ้านที่นี่ก่อนนะคะ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 2 ทุ่ม โทร 082-105-0054 และ 084-883-4220 นะคร้าาาาาา
ปล. ขอขอบคุณพี่อิ๊งค์ หม่อมหลวงภาสันต์ สวัสดิวัตน์ ด้วยนะคะ สำหรับข้อมูลอาหาร ร้านอาหาร และ การพาไปหนีกรุงในครั้งนี้ และขอบคุณ cool farenheit 93 และ systema ด้วยค่ะ สำหรับความใจดีที่ให้เราได้เป็นส่วนนึงในทริปหนีกรุง ปราจีนบุรี ขอบคุณนะคร่าาา
Post