ได้เวลาอาหารลงแล้วครับ อาหารที่นี่จะมาเร็วมาก พอเราเลือกติ๊กๆ เสร็จ เขาก็จะกลับเข้าครัวไปทำกันทันที แต่ระว่างรออาหาร ก็เข้าไปเอาน้ำด้านในกันก่อนครับ
ด้านในจะมีโต๊ะเล็กๆ ให้เราเลือกรินน้ำผลไม้กันได้ตามสะดวก มีหมดตั้งแต่น้ำแตงโม แครอท ส้ม ฝรั่ง แอปเปิ้ล มะเขือเทศ ฯลฯ เขาก็จะสลับกันไปในแต่ละวัน น้ำผลไม้ก็จะสดไม่ใช้น้ำผลไม้ผสม ถัดไปก็จะมีพวกคอนเฟรก โยเกิต และผลไม้ให้ได้ตักกันครับ
อึดใจเดียว อาหารก็จะเริ่มยกมาเสริฟที่โต๊ะ เริ่มจากเครื่องดื่มกันก่อน วันแรกผมลองสั่งมาคิอาโต้แก้วนี้ดู
ยกมาสวยงามตามที่เห็นในภาพ รสชาติก็หอม กลมกล่อมดีมากๆ ง่วงๆ มาตื่นกันเลยทีเดียว หลังจากนั้นอาหารก็จะเริ่มยกมาแล้วครับ เผอิญไม่ได้แยกวัน 1 วัน 2 ก็ซ้ำๆ กันไป ตามการอยากลอง มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
จานนี้ของผมเอง แฮมก็เป็นแฮมชิ้นใหญ่ๆ เนื้อเน้น ไส้กรอกหมู และไส้กรอกไก่ อร่อยมากๆ เนื้อแน่น เวลาเคี้ยวจะมีน้ำมันซึมผ่านออกมา ได้ความชุ่มฉ่ำดี ส่วนเบคอนรู้สึกเฉยๆ ครับ คงเพราะเบคอนมันก็คล้ายๆ กันไปหมด ฮ่าๆ
ที่ชอบอีกอันก็คือ ไข่ดาวน้ำครับ ไข่สองฟอง ทำคล้ายๆ ไข่ดาวที่ไม่สุก วางบนขนมปังมีสอดไส้ด้วยพาม่าแฮม จิ้มทีน้ำไข่แดงก็จะไหลมาตามทาง เป็นอะไรที่แปลกและอร่อยมากๆ
ส่วนจานนี้ของแฟนผม คล้ายๆ กัน จะมีแปลกตรงผัดน้ำมันหอยกระเทียมผักบุ้งสีเขียวสดน่าทาน กับแฮชบราวน์ชิ้นใหญ่มาก ส่วนเหลืองๆ ด้านหลังก็ไข่คน กับไข่เจียว ลืมบอกอีกอย่างขนมปังที่นี่จะเสริฟมากับแยมส้ม และแยมมะพร้าวครับ ซึ่งแยมมะพร้าวนี่แหละทีเด็ดมาก มีเนื้อมะพร้าวเน้นๆ เลย
อันนี้เป็นของวันที่ 2 ลองสั่งเป็นไข่ลวกดู ทุกอย่างจะมาเป็นคู่หมด ลวกก็สองฟอง ดาวก็สองฟอง ลืมบอกว่าฟองเดียวก็พอ ที่อยู่ติดกันเป็นผัดเห็ดน้ำมันงา เห็ดหลายชนิดอยู่ผัดกับน้ำมันงา ออกจีนนิดๆ ทานได้เพลินๆ ครับ ส่วนถัดลงมาเป็นมันฝรั่งผัดสมุนไพร ได้รสสมุนไพรอ่อนๆ ผัดกับมันฝรั่งหอมๆ ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว
มื้อเช้าวันที่สอง ผมลองสั่งนมถั่วเหลืองสไตล์ภูเก็ตไปด้วย อยากรู้ว่ามันแตกต่างจากสไตล์อื่นยังไง ปรากฏว่าไม่ค่อยติดใจ รู้สึกมันจืดไปหน่อย เหมือนนมผสมน้ำเลย
มาถึง 3 จานสุดท้าย ทีเด็ด เก็บไว้ปิดรีวิวครับ
จานแรกผัดซีอิ๊วกุ้ง ให้คะแนน 10 เต็ม 10 เป็นผัดซีอิ๊วที่เกินบรรยายครับ มันอร่อยมาก น่าจะเป็นเมนูพื้นๆ ที่อร่อยที่สุดที่เคยทานมาแล้ว เส้นที่ใช้จะเป็นเส้นบุกแผ่นใหญ่ ไม่ใช้เส้นก๋วยเตี๋ยวทั่วไป ทำให้ได้รสของความเหนียว ความเด้ง ความมันมากกว่าปกติ ผักคะน้าชิ้นใหญ่ๆ เขียวไปหมด โรยด้วยกระเทียม แต่ที่ซ่อนอยู่คือกุ้งครับ กุ้งตัวใหญ่ปอกเปลือกเรียบร้อย ไม่มีหวง จำได้ว่าจานนึงมี 5-6 ตัวได้ แล้วเนื้อกุ้งแบบสดมากๆ เนื้อจะเหนียวไม่ยุ่ย เด้งอร่อย เคี้ยวมัน อยากจะสั่งกุ้งเปล่ามาซักกิโลเลยให้ได้ พอเวลาผัดซีอิ๊วรวมกัน กลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัวไปหมด จานนี้ผมสั่ง 2 วันติด ไม่เปลี่ยนใจ
ต่อที่เมนูพิเศษ อันนี้มีหม้อให้เดินไปตักเองครับ กับขนมจีนแกงไตปลา จานนี้ให้ 9 เต็ม 10 ครับ น้ำยาเข้มข้นรสจัดอ่อน แค่ซดน้ำอย่างเดียวก็อร่อยพอแล้ว มาได้เนื้อปลาชิ้นใหญ่ ที่ทานง่ายมากๆ ไม่ต้องกลัวก้างเลย น้ำแกงเข้าถึงด้านในของเนื้อปลาที่ขาวสะอาดได้อย่างดี ราดบนขนมจียเหนียวนุ่ม จัดว่าอร่อยมากๆ ครับ แต่ผมยังไม่รู้สึกว่าแตกต่างเท่าไหร่ครับ
และมาถึงจานสุดท้าย ทีเด็ดที่สุด ให้ 11 เต็ม 10 ให้ 1000 เต็ม 100 มันสุดยอดแบบที่หาที่ไหนไม่ได้แล้ว กับขนมจีนน้ำยาปู ครับ
เอาเรื่องของน้ำยาก่อน น้ำยาแกงสีเหลืองนวลสวยมากๆ แถมกลิ่นก็หอมสุดๆ รสชาติตัวเแกงจะมีทั้งข้นทั้งเหลว ออกหวานนิดจัดหน่อย บอกไม่ค่อยถูกรู้แค่อร่อยมาก ที่สำคัญเนื้อปูครับ เนื้อปูเน้นๆ ไม่มีก้าง ไม่มีเปลือกอะไรมาขัดให้คาใจ เนื้อปูแบบพูนทะลักมากกว่าน้ำแกงอีก อันนี้ผมตักมาปกติไม่ได้เน้นนะครับ ถ้าไปดูที่หม้อตักมาก็มีแต่เนื้อปูเต็มไปหมด เนื้อปูก็จะมีทั้งชิ้นใหญ่กรรเชียงแบบที่ยังไม่หลุด ปนกับชิ้นเล็กๆ แต่มันก็คือเนื้อเน้นๆ มาบวกกับแกงรสเด็ดร้อนๆ ราสบนขนมจีนแบบนี้ ทานกันได้ทั้งวันครับ
ซึ่งทุกอย่างอย่างที่บอกไป ไม่พอสั่งอีกได้ ตักอีกได้ไม่อั้น ทานมื้อเดียวเอาอยู่ทั้งวันได้เลยครับ
บรรยากาศ ชิลล์สบาย ได้ลมทะเลตลอดวัน แถมถ้านั่งด้านนอกจะมีวิวทะเลใสๆ สวยๆ ยามเช้าให้ได้ดูกันด้วย
อาหาร เอาความหลากหลาย ผมเคยไปพักโรงแรมที่มีอาหารเช้าหลากหลายมากกว่านี้เยอะ แต่ถ้าเอาคุณภาพและรสชาติ อร่อยเกือบทุกอย่าง ดีเกือบทุกอย่าง ไม่มีผิดหวังเลยครับ
การบริการ ศรีพันวาขึ้นชื่อในเรื่องการบริการอยู่แล้ว หายห่วงได้เลย บริการดี รวดเร็วทันใจ จัดหามาได้ทุกอย่าง
ความสะอาด ไม่มีปัญหาอะไรเลยแม้แต่น้อย Perfect!
ราคา ถ้ามาเข้าพัก ก็ทานได้อยู่แล้ว แต่ถ้ามาจ่ายเอง ก็ 900 บาทนะครับ เห็นเค้าเขียนไว้ ซึ่ง 900 ก็ถือว่าแพงครับ แต่ก็โรงแรมห้าดาวถูกกว่านี้ก็แปลก และคุณภาพ + รสชาติ ก็สุดยอดจริงๆ ครับ
จบกันไปก่อนสำหรับมื้อเช้า เดี๋ยวค่อยต่อมื้อเย็นที่ Baba Pool Club กันครับ