ข้าวต้มปลาเก๋า

Submit Recipe
0
10028
0
มื้อเช้าอย่างนี้ มาเติมพลังกันด้วยข้าวต้มปลากันดีกว่าค่ะ ทำไม่ยากแถมอร่อยได้สุขภาพดีด้วย อาหารเช้าเป็นอาหารมื้อสำคัญ เราต้องให้ความสำคัญกับมื้อเช้ากันนะคะ
Ingredient and Portion
1. ข้าวสวย (เหลือจากมื้อเย็นเมื่อวาน)
2. เนื้อปลาเก๋า
3. รากผักชี
4. กระเทียมเจียว
5. พริกไทย
6. ขึ้นฉ่าย
7. น้ำเปล่า
8. ข่าป่น (โรยก่อนรับประทาน)
9. เต้าเจี้ยว (เสิร์ฟคู่กัน)
Seasoning
1. ซีอิ๊วขาว
2. เกลือป่น
Method
1. ต้มน้ำเปล่า พอเดือดใส่รากผักชี กระเทียมเจียว พริกไทยลงไป
2. ต้มต่อพอน้ำเริ่มหอมและเดือดอีกครั้ง ใส่เนื้อปลาลงไปต้ม ไม่ต้องคน
3. รอจนเนื้อปลาสุก ตักขึ้นพักไว้ เอารากผักชีออก
4. ใส่ข้าวสวยลงไป ต้มจนข้าวเปื่อย
5. ปรุงด้วยเกลือ ซีอิ๊วขาว คนให้เข้ากัน
6. ใส่เนื้อปลาลงไปต้มด้วยกันสักครู่
7. ตักใส่ชาม โรยด้วยขึ้นฉ่าย และข่าป่น เสิร์ฟกับเต้าเจี้ยว
Tips
กินปลาทะเลหรือปลาน้ำจืดดีกว่ากัน?

จากการวิจัยและวิเคราะห์สารอาหารในปลาทะเล ได้แก่ ปลาเก๋า ปลากะพง ปลาจะละเม็ด ปลาทู ฯลฯ และปลาน้ำจืด ได้แก่ ปลากราย ปลาสลิด ปลาช่อน ปลาดุก ฯลฯ พบว่า ปริมาณโปรตีนในปลาทะเลและปลาน้ำจืดที่ยังไม่ผ่านการปรุงสุกมีปริมาณไม่แตกต่างกัน
จึงสามารถสรุปได้ว่า ถ้าจะกินปลาเพื่อให้ร่างกายได้รับโปรตีนอย่างครบถ้วน สามารถกินได้ทั้งปลาทะเลและปลาน้ำจืด แต่ถ้าหากมองถึงการได้รับกรดไขมันโอเมก้า 3 ปลาที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ได้แก่ ปลาที่อาศัยอยู่ในทะเลน้ำลึก อย่างปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาค้อดซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นปลาทะเลทั้งนั้น เนื่องจากปลาทะเลจะกินอาหารที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 อย่างแพลงก์ตอนและสาหร่ายทะเล
และในปลาทะเลยังมีโซเดียม ได้แก่ คลอรีน ฟลูโอรีน และไอโอดีน ทีช่วยป้องกันโรคคอพอก โรคเอ๋อ และเติบโตช้ากว่าปกติ ส่วนปลาน้ำจืดแม้ว่ามีโพแทสเซียมมากกว่าปลาทะเล แต่ร่างกายต้องการโซเดียมมากว่าโพแทสเซียม 30-40 เท่า การกินปลาทะเลจึงได้สารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายมากกว่า

อ้างอิง : http://blog.eduzones.com
Recommend
Recommended
unknown
Top
This website uses cookies to improve your website experience. By continuing to browse, you are agreeing to our use of cookies and Privacy Policy.