มื้อเย็นวันนี้ที่ร้านตาโข บางปอซีฟู้ด เห็นข้อมูลในอินเตอร์เน็ตบอกกันว่าอร่อย เลยตามมาพิสูจน์
แต่เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาล วัหยุดหลายวัน กับข้าวหลายอย่างในเมนูจึงไม่มี อะ เรามาดูเมนูที่ทางร้านแนะนำกัน
เมนูแรก กุ้งทอดซอสมะขาม ต่อมา วายต้มส้ม วายคือปลาหมึกชนิดหนึ่งค่ะ หน้าตามาคล้ายๆหนวดปลาหมึก

อีกเมนูที่ติดใจคือ น้ำพริก ที่ทางร้านจะยกมาให้กินกันฟรีๆ อันนี้เด็ดสุดละ

สำหรับเราคิดว่า ราคาอาหารค่อนข้างแพง กุ้ง 4 ตัว 360 บาท ปลาหมึกย่างจานละ 130 บาท นอกนั้นเมนูอื่นๆ ก็พอไหวค่ะจานละ ร้อยกว่าบาท

แต่น้ำพริกเด็ดจริงๆ ของฟรีแถมอร่อยด้วยค่ะ

แวะมาลองทานที่ร้าน เสบียงเล ร้านอาหารรสชาติอร่อยบรรยากาศดีร้านโปรดของพี่สาวเรา
ใครชอบทานไวน์แนะนำให้มาทานตอนค่ำๆนะคะ

เมนูแนะนำ หมูคั่วเคย เค็มๆ หวานๆ กลมกล่อม เผ็ดนิดๆ หมูไม่มันมาก อร่อยมากกกก
เมนูต่อมา ปลากระบอกทอดขมิ้น สดมาก เนื้อหวาน หนังกรอบดีงาม

ใบเหรียงผัดไข่ใส่กุ้งแห้ง รสชาติหวานเค็ม กำลังดีอร่อยมากค่ะ
ทอดมันกุ้งชิ้นใหญ่ กุ้งแน่นมาก เริ่ด
และหลนปู หวานกำลังดี ปูเยอะ อร่อยค่ะ

โดยรวมสรุปคือ อร่อยทุกอย่างเลย คนแน่นร้านตลอด
บรรยากาศดีมาก ร้านอยู่ติดทะเล ลมดีค่ะ

Tsunami Bar ร้านอาหารญี่ปุ่นในหาดใหญ่ ร้านนี้มีดีที่พวกปลาดิบต่างๆที่เค้าบอกกันว่าสดใหม่ไม่แพ้ร้านดังๆในกทมเลยก็ว่าได้ครับ วันที่ไปทานมีโอกาสได้ลองทานเมนูแซลมอนทั้งซูชิแล้วก็ซาชิมิส่วนท้อง รสชาติถือว่าอร่อยและฟินมากครับ ราคานั้นก็ถือว่าถูกกว่าร้านในกทมหลายร้านเลยทีเดียวครับ

ฮะจิบังราเมง ราเมงบะหมี่หมายเลข8ที่ใครๆหลายคนรู้จักกันดี เพราะร้านนี้ได้มีเฟรนไชน์อยู่ทั่วประเทศ และในสุราษฎร์ธานีก็เป็น1ในเฟรนไชน์ที่มาเปิด โดยตัวร้านตั้งอยู่บนชั้น3ของห้าง ร้านอยู่ไม่ห่างจากบันไดซักเท่าไหร่การตกแต่งร้านก็เป็นตามแบบฉบับของฮะจิบังเค้าละค่ะ ตกแต่งแบบไม้ๆญี่ปุ่นผสมโมเดิ้นหน่อยๆ มีที่นั่งราวๆ10-12โต๊ะ ราคาก็เหมือนสาขาอื่นทั่วไปค่ะการบริการดีส่วนเรื่องรสชาติก็ปกติ เหมือนที่เคยๆทานมาจากสาขาอื่น

สำหรับเมนูที่สั่งมาทานก็คือ-ทันตัมเมน(85฿)บะหมี่ในน้ำซุปงาหน้าหมูสับปัดซอสทันตัม น้ำซุปงามันๆเค็มดีค่ะ สำหรับร้านนี้ถือเป็นร้านราเมงราคาเบาๆสบายกระเป๋าที่หาทานได้ง่าย รสชาติถูกปากถูกใจคนไทยสาขานี้ลูกค้าไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ค่ะ แต่ก็มีทยอยๆมาเรื่อยๆ

ร้าน 69milk เป็นร้านอาหารกึ่งคาเฟ่เล็กๆที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น โดยร้านจะตั้งอยู่บนถนนโฉลกรัฐ ถ้ามาจากเส้นถนนบายพาส หรือเข้ามาทางบิ๊กเสี่ยจะอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่ ร้านตั้งอยู่หน้า 69 car detailing ซึ่งเปิดให้บริการล้างรถ ร้านนี้เป็นร้านที่นำตู้คอนเทนเนอร์มาดัดแปลงทำเป็นร้าน ร้านจึงมีขนาดไม่กว้างเท่าไหร่นัก แต่มีการจัดสรรโต๊ะ เก้าอี้ ให้สามารถตั้งได้ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว สัญลักษณ์ของร้านจะเป็นรูปน้องหมีสีดำหน้าตาน่ารักยืนดูดนมอยู่ โดยจะสื่อเป็นนัยๆว่าให้ชวนมาดูดนมกันเถอะ(คิดเอาเอง)555โดยร้านจะมีที่นั่งทั้งบริเวณโซน indoor และ outdoor ให้ได้เลือกนั่งตามชอบ แต่โซน outdoor จะแนะนำให้นั่งช่วงเย็นๆจะเหมาะกว่าค่ะภายในร้านตกแต่งแบบเรียบง่าย มีของตกแต่งเป็นรูปรถและแผ่นป้ายสังกะสีสไตล์แอนทีคหน่อยๆ

ที่นั่งภายในร้านมีประมาณ 6-7 โต๊ะ มีโซนเก้าอี้โซฟานุ่มๆให้นั่ง ด้วยนะ

ต้องบอกก่อนว่าสำหรับร้านนี้ได้ข้บรถผ่านมาหลายครั้งแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้มาลองซักที วันนี้ก็ได้ฤกษ์งามยามดีหาที่ล้างรถอยู่พอดี ร้านนี้ก็เลยแว๊บเข้ามาในหัว ซึ่งปกติเวลาเรานำรถไปล้างก็ได้แต่นั่งรอ บางที่ก็แอบหิวบ้างนะ

แต่วันนี้ที่ตั้งใจมาล้างรถที่นี่ก็เพราะว่าได้หาอะไรทานฆ่าเวลาไปด้วย ได้ไม่เบื่อ เพราะที่นี่เค้ามี wifi บริการฟรีด้วยละ

พอจัดการเอารถไปให้เค้าล้างปุ๊ป ก็เดินเข้ามาในร้านเพื่อสั่งอาหารทาน ตอนนั้นไปช่วงเที่ยงๆ ลูกค้าของทางร้านค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว เท่าที่ดูลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะเป็นนักศึกษา และคนทำงาน มาหาข้าวเที่ยงทาน พอบ่ายๆหน่อยก็จะเป็นคนที่นำรถมาล้างบ้าง คนที่มานั่งชิลล์บ้าง ซึ่งลูกค้าจะทยอยเข้าร้านมาเรื่อยๆอย่างไม่ขาดสำหรับเรื่ออาหารการกินที่มีบริการ จะมีทั้งเครื่องดื่ม อาหารคาวและอาหารหวานค่ะ โดยอาหารคาวจะมีทั้งเป็นของว่าง เช่นพวก เฟรนฟราย ลาบทอด นักเก็ต ยำต่างๆ ส่วนเมนูต้มๆเอาไว้ซดน้ำก็มีทั้งต้มยำ ต้มจืด สำหรีบอาหารจานเดียวก็มีทั้งอาหารไทยและอาหารฝรั่ง อาหารฝรั่งอาจจะมีไม่ค่อยเยอะเท่าอาหารไทย หลักๆก็จะเป็นพวกสปาเก็ตตี้ ส่วนอาหารไทยนี่มีเมนูให้เลือกค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว จากที่ดูๆก็มีราวๆ 20-30เมนู ยอมรับเลยว่ามีเยอะจนเลือกไม่ถูก ก็เลยมีความจำเป็นที่จะต้องถามน้องพนักงานที่ร้านเอาว่ามีเมนูไหนแนะนำบ้างสำหรับเมนูอาหารคาวที่ได้ลองสั่งมาทานก็คือ-ข้าวผัดแกงเขียวหวานห่อไข่(80฿)
จานนี้น้องที่ร้านเค้าแนะนำมาค่ะ เลยตัดสินใจสั่งตามคำแนะนำ และแล้วก็ไม่ผิดหวังตามที่น้องเค้าแนะนำจริงๆค่ะ ขอบอกเลยว่าไม่ใช่แค่หน้าตาในการจัดจานที่ดูดี แต่เรื่องรสชาติก็อร่อยไม่แพ้กับหน้าตาเลยทีเดียว

เมนูนี้เป็นข้าวผัดกับเครื่องแกงเขียวหวานไก่ ห่อด้วยไข่เจียวแผ่นบาง เสิร์ฟมาพร้อมผักจัดจานประมาณ3-4ชนิด รสชาติอร่อยกำลังดี ไม่เผ็ดโดด หรือจืดชืดจนเกินไป เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยทานรสจัดมาก สำหรับจานนี้ยอมรับเลยว่าคุ้มมาก แทบไม่เชื่อเลยว่าจานนี้ราคาแค่80บาท เพราะคุณภาพคับจานมากๆ ไหนก็จะผักสดๆที่ให้มาให้เต็มจานอีก พูดได้คำ้ดียวสั้นๆเลยว่า "คุ้ม"

จบของคาวไปแล้วคราวนี้ก็มาถึงของหวานกันบ้างดีกว่าค่ะ ต่อให้ทานของคาวอิ่มแค่ไหน แต่กะเพาะเราก็ยังมีที่ว่างไว้ให้สำหรับของหวานเสมอค่ะ^_^

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยค่ะว่าร้านนี้มีของหวานให้เลือกไม่มากนัก ของหวานของที่นี่ก็จะเป็นพวกขนมปังปิ้งหน้าต่างๆ ราคาเริ่มต้นก็25บาทขึ้นไป

ส่วนอีกหนึ่งเมนูที่ป๊อปมากสำหรับร้านนี้ก็คงจะเป็นเจ้าบิงซู น้ำแข็งไสนมสไตล์เกาหลีนี่แหละค่ะ ซึ่งมองไปโต๊ะไหนก็เห็นสั่งไอ้เจ้านี่มาทานกันแทบทุกโต๊ะเลยทีเดียวโดยบิงซูของที่นี่มีประมาณ4-5เมนู มีให้เลือกตามชอบ ส่วนวันนั้นที่ไปทานได้สั่งบิงซูมา1ถ้วยคือ-บิงซูสตอเบอรี่ชีสเค้ก (139฿) บิงซูถ้วยกลางๆไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป เหมาะกับทานประมาณ1-2คน มาเสิร์ฟพร้อมนมข้นและวิปปิ้งครีมในถ้วยเล็กๆ บิงซูที่สั่งเป็นสตอเบอรี่ด้านบนเลยท๊อปด้วยสตอเบอรี่สดและราดน้ำซอสสตอเบอรี่เปรี้ยวๆ ทานคู่กับน้ำแข็งไสรสนมเป็นอะไรที่เข้ากันมาก พูดได้คำเดียวว่า "ฟิน" ตักน้ำแข็งไสทานไปเรื่อยๆก็จะพบกับชีสเค้กรสชาติเปรี้ยวๆมันๆ อร่อย สดชื่นเหมาะกับการดับร้อนของอากาศในประเทศไทยในช่วงเมษาได้เป็นอย่างดี

ส่วนเมนูเครื่องดื่มที่สั่งมาดับกระหายคลายร้อนก็จะเป็น-โกโก้เย็น(50฿) โก้โก้รสชาติเข้มข้นหวานมัน อร่อยใช้ได้ ชอบนะสำหรับแก้วนี้

จากที่ได้ลองทานอาหารคาว อาหารหวานและเครื่องดื่มของร้านนี้ โดยส่วตัวคิดว่ารสชาติอาหารอร่อยดีค่ะ ราคาอาหารไม่แพงมากนักเมื่อเทียบกับปริมาณและรสชาติ

การบริการดีมากๆค่ะ พนักงานดูใส่ใจลูกค้าดี อาหารไม่ช้า รอไม่นานเท่าไหร่

สำหรับร้านนี้ถือเป็นอีกหนึ่งร้านเล็กๆที่อัดแน่นไปด้วยอาหารคาวและอาหารหวานแสนอร่อยให้เราได้มานั่งทานระหว่างรอล้างรถเสร็จ เรียกได้ว่าการเข้ามาทานร้านนี้ไม่ใช่เพียงแต่การมานั่งฆ่าเวลาเท่านั้น แต่ยังเป็นการได้อิ่มท้องกับอาหารอร่อยๆอีกด้วย

ถ้าหากใครที่กำลังมองหาร้านอาหารทานแบบง่ายๆราคาไม่สูงมาก พร้อมทั้งสามารถนำรถมาล้างและนั่งรอที่นี่ได้ร้านนี้น่าจะตอบโจทย์ของคุณได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าใครไม่มาล้างรถก็แวะมาทานได้นะคะ เพราะร้านนี้เค้ามีเมนูน่าทานอีกเพียบเลย นี่ก็กะว่าถ้ามีโอกาสผ่านไปแถวนั้นจะกลับไปลองทานเมนูอื่นดูบ้าง เพราะวันนั้นน้องพนักงานเค้าแนะนำมามากกว่า1อย่าง เอาเป็นว่าถ้าได้มีโอกาสกลับไปทานอีกจะมาเล่าให้ฟังว่าเมนูอื่นนั่นจะอร่อยแค่ไหน อร่อยเหมือนเมนูที่ได้ลองไปรึเปล่า...

ร้านก๋วยเตี๋ยวเกี๊ยวปลาในสุราษฎร์มีหลากหลายร้านมากๆ ส่วนเจ้าเด็ดเจ้าดังขึ้นหิ้งนั้นของเค้าเด็ด ของเค้าดี อร่อยอยู่แล้ว หาเจ้าที่อร่อยเทียบเท่ายากแต่สำหรับร้านนี้ถือเป็นหนึ่งร้านที่รสชาติเกี๊ยวปลอร่อยสูสีกับเจ้าในตำนาน ตัวเกี๊ยวปลาแน่น หวาน สด ปลาม้วนก็อร่อยดึ๋งดั๋ง น้ำซุปก๋วยเตี๋ยวก็อร่อยถูกใจ ไม่ผิดหวังเลยจริงๆที่ได้ลองร้านนี้ตั้งอยู่ในซอยนกเขาค่ะ หรือซอยใกล้ๆตลาดเกษตร2 ตรงที่มีคิวรถตู้เยอะๆนั่นแหละค่ะ

ร้านเป็นห้องแถว1คูหา ภายในร้านสะอาดดีค่ะ มีโต๊ะราวๆ8-9โต๊ะลูกค้าค่อนข้างเยอะในช่วงเที่ยง ใครไปเวลานี้อาจจะต้องรอหน่อยนึง เพราะของอร่อยใครๆก็อยากกิน

สำหรับการบริการดีใช้ได้ค่ะ มีการมารับออเดอร์พร้อมทักทายลูกค้า

เรื่องราคาก็ไม่แพงค่ะ ถุงละ40บาทเท่านั้นเอง

ร้านนี้ถือเป็นอีกหนึ่งร้านอร่อยที่อยากจะแนะนำค่ะ เกี๊ยวปลาของที่นี่อร่อยมาก หากใครชอบก็ลองแวะมาทานดูนะคะ

ร้านขนมจีนจุ๊บแจง เป็นร้านขนมจีนที่หลายๆคนค่อนข้างพูดถึงกันเยอะ โดยร้านนี้แต่เดิมไม่ได้ตั้งอยู่ตรงเส้นซอยออมสิน ส่วนตัวก็เพิ่งจะได้มากินที่ร้านใหม่เหมือนกันค่ะสำหรับที่นี่หลักๆเลยก็จะมีขนมจีนขาย มีน้ำยา4-5ชนิด คือ แกงเขียนหวานไก่ น้ำยา น้ำพริก น้ำยาป่า โดยราคาก็ 35 บาททุกน้ำแกงที่ราดส่วนไข่ต้มราคาฟองละ8บาทค่ะและที่นี่ยังมีปีกไก่ทอดพริกไทย ซึ่งเป็นสูตรของมางร้านอีกด้วย

ลองสั่งมาทานปีกไก่ถึงเครื่องดีนะ แต่แห้งไปหน่อยค่ะ เค็มด้วย เค้าเสิร์ฟไก่ทอดมาคู่กับน้ำจิ้มแจ่ว แต่โดยส่วนตัวคิดว่าไม่ต้องจิ้มก็เค็มละค่ะ

ส่วนรสชาติน้ำแกงขนมจีนก็อร่อยดีค่ะ แต่ก็ไม่ถึงกับว้าวววว เท่าไหร่ อ่อที่โต๊ะมีน้ำแกงไตปลาบริการฟรีด้วยค่ะ เติมได้เลยที่นี่มีผักสดๆแบบบุ๊ฟเฟ่ต์ให้ทานได้ไม่อั้น ตามแบบฉบับของขนมจีนชาวใต้การบริการของร้านนี้ดีค่ะ พนักงานบริการดี บริการไว รอไม่นาน คงเป็นเพราะเป็นขนมจีนด้วยมั้งค่ะ ตักน้ำแกงราดก็เสิร์ฟได้เลยลูกค้าที่ร้านค่อนข้างเยอะใช้ได้ค่ะ

โดยส่วนตัวคิดว่าเป็นร้านขนมจีนที่รสชาติกลางๆ ราคาก็กลางๆค่ะ

กลายเป็นร้านขึ้นชื่อไปเสียแล้วสำหรับร้านเคียงเล ซึ่งใครที่แวะเวียนมาเยือนสุราษฎร์ฯก็จะต้องถามถึงร้านนี้ เพราะใครๆต่างพูดกันว่า ถ้าจะทานอาหารซีฟู้ดต้องไปเคียงเล

โดยร้านนี้ค่อนข้างจะอยู่ไกลตัวเมืองนิดนึงค่ะ ร้านจะอยู่ในอำเภอกาญจนดิษฐ์ ทางไปปากน้ำกระแดะ โดยตัวร้านจะอยู่ติดน้ำเลยค่ะ บรรยากาศริมทะเลแบบชายเลนเบาๆ นั่งทานอาหารอยู่ก็จะมีเรือผ่านมาให้เห็นตลอด พร้อมทั้งสามารถชมวิถีชีวิตชาวเลในละแวกนั้นได้ถ้าเลือกนั่งตรงโซนริมน้ำ

ร้านนี้มีที่นั่งค่อนข้างเยอะค่ะ ยิ่งช่วงเทศกาล หรือวันหยุดที่นั่งจากที่เยอะๆก็แน่นจนแทบไม่เหลือที่ให้นั่งเลยทีเดียว

สำหรับอาหารของที่นี่จะเป็นอาหารไทยแบบเป็นกับข้าวค่ะ แต่จะเน้นหลักเป็นอาหารทะเลสดๆ ซึ่งที่นี่ก็จะมีทั้งปู กุ้ง หอย ปลา สดๆ จะเลือกเป็นแบบเปาที่ทำอย่างอื่นก็มีหมด ส่วนไฮไลท์อยู่ที่หอยนางรมสดๆ ซึ่งแน่นอนว่าสุราษฎร์เป็นเมืองหอยใหญ่ หอยใหญ่ที่ว่านั่นก็คือหอยนางรมจาก อ.กาญจนดิษฐ์แห่งนี้นั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่าราคาหอยนางรมของที่นี่ทั้งสดและราคาไม่แพง เพราะเอามาจากแหล่งตรงนี้จริงๆ

สำหรับอาหารที่ได้เคยไปทานอยู่หลายครั้ง รู้สึกว่าคุณภาพอาหารมีขึ้นๆลงๆ บางครั้งก็อร่อย บางครั้งก็ไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่ แต่รวมๆก็ยังโอเคอยู่

สำ หรับการบริการก็โอเคนะ แต่บางครั้งลูกค้าเยอะก็เรียกพนักงานยากหน่อย พนักงานดูเนือยๆเหนื่อยๆไปนิด

ราคา อาหารกลางๆ ส่วนอาหารทะเลราคาสูงบ้างตามชนิดและราคาตลาด

สถานที่ดูมืดๆทึมๆไปหน่อย ถ้านั่งโซนริมน้ำบางครั้งอาจมีกลิ่นน้ำบ้าง

สำหรับร้านนี้เป็นอีกหนึ่งร้านที่ใครมาเยือนสุราษฎร์ก็จะต้องแวะมาให้ได้ซักครั้งนึงค่ะ ไม่อย่างงั้นจะคุยกับเค้าไม่รู้เรื่อง

เมนูต้องลอง

1.ยำชายคลอง

2.ยำรวมมิตร

3.ปลาทับทิมทอดน้ำจิ้มแจ่ว

4.ต้มยำปีกบนไก่

5.ผัดเผ็ดหมูป่า

6.ข้าวผัดรวมมิตร

7.แตงโมปั่น

8.ข้าวผัดปลาสลิดทอด

ชาบูอินดี้ เป็นร้านชาบูที่มีอยู่หลายสาขาเกือบทั่วประเทศ ส่วนในจังวัดสุราษฎร์ธานีก็เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ชาบูอินดี้มาเปิด โดยร้านจะตั้งอยู่ที่ชั้น1 ของห้างสหไทย

ตัวร้านเป็นร้านกระจกใสรอบร้าน มีเก้าอี้กึ่งโซฟาประมาณ20-30ที่ ถือว่าร้านค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว สามารถรองรับลูกค้าได้ค่อนข้างเยอะ

ส่วนชาบูของที่นี่เป็นแบบบุ๊ฟเฟ่ต์และแบบไม่บุ๊ฟเฟ่ต์ค่ะ แต่ถ้าเอาให้คุ้มๆก็สั่งแบบบุ๊ฟเฟ่ต์เถอะ เพราะดูจากราคาแล้วก็แทบไม่ต่างกันเลย เผลอๆแบบสั่งเป็นจานอาจจะแพงกว่าด้วยซ้ำ

สำหรับบุ๊ฟเฟ่ต์ของที่นี่เค้าไม่จำกัดเวลาค่ะ เหมาะกับสายแข็งโดยแท้

อาหารของที่นี่ก็สดดีนะ แต่บางอย่างก็ดูคุณภาพน้อยไปนิด แต่รวมๆแล้วไม่ได้แย่ค่ะ

นอกจากจะมีของคาวแล้ว ยังมีของหวานเป็นไอศครีม

อีกด้วย

การบริการดีค่ะ

ร้านค่อนข้างสะอาด

ราคากลางๆ

สำหรับใครที่ชอบความคุ้มค่า ร้านนี้น่าจะเหมาะกะบท่านเป็นแน่แท้

ส่วนตัวไม่ค่อยถนัดกับบุ๊ฟเฟ่ต์เท่าไหร่นัก แต่ขอแค่มาลองดูว่าเป็นยังไง ส่วนตัวคิดว่าราคาประมาณนี้กับคุณภาพของอาหารก็ถือว่าคุ้มค่าอยู่ค่ะ

ส่วนราคานี่ก็จำไม่ได้แล้วละว่าบุ๊ฟเฟ่ต์หัวละกี่บาท แต่คิดว่าไม่น่าจะเกิน250บาทค่ะ

ภัตตาคารอาหารลักกี้ตั้งอยู่ใกล้ตลาดเกษตร 2 ร้านจะอยู่ตรงข้ามร้านตัดผมโดมอนแฮร์ ถ้าขับรถมามีที่จอดรถให้ค่ะ ส่วนถ้ามาเองแล้วมาจากตลาดเกษตร 1 หรือ 2 เดินมาทางโรงพยาบาลทักษิณ (ไม่ไกลมากแต่นึกไม่ออกว่าทางนั้นมีร้านอะไรบ้าง) เดินเลี้ยวขวานิดเดียวก็ถึงแล้ว

ร้านจะเป็นร้าน 2 ชั้น ถ้าพูดถึงความเก่าแก่ของร้าน ร้านนี้เป็นอีกร้านที่เปิดมายาวนาน บางครอบครัวถึงขนาดผูกปิ่นโตไว้กับร้านนี้นานหลายปี โดยวันที่ไปซื้อกลับมากินที่บ้านเสียดายไม่มีคนไปกินที่ร้านด้วย กลับสุราษฎร์ก็อยากกินกุ้งผัดสะตอแต่ส่วนตัวคิดว่าเมนูนี้ทำออกมาได้ไม่อร่อยเท่าเมนูอื่นๆ ไม่เข้มข้นยังไม่ถูกปากแต่กุ้งสดดี

ส่วนอีกเมนูนึงเป็นยำถั่วพูปริมาณเยอะพอสมควร ถั่วพูลวกมาพอดีสีเขียวสดมากๆ มีไข่ต้มมาให้ 1 ฟอง ส่วนน้ำยำก่อนสั่งเราขอให้เค้าแยกมา ตัวน้ำยำคิดว่าหวานไปนิด แต่รวมๆ คือโอเคค่ะเพราะมีรสอื่นมาตัดบวกกับถั่วพูลวกมาได้ดีทีเดียว
ใจจริงยังลังเลว่าจะให้กี่คะแนนดีเพราะร้านนี้จริงๆ ก็ทำอาหารอร่อย เมนูอย่างใบเหลียงผัดไข่วันที่ไปใบเหลียงก็หมดอีก แล้วครั้งนี้ซื้อกลับบ้านด้วยเพราะถ้าได้กินร้อนๆ ก็น่าจะอร่อยกว่าเอาไปกินที่บ้านแน่ๆ

ส่วนตัวคิดว่าร้านนี้คงเป็นร้านประจำจังหวัดไปซะแล้ว เปิดมานานมากแล้วกินมาตั้งแต่ตัวเล็กๆ วันนี้มีโอกาสไปกินอีกครั้ง ร้านก็ขนาดเท่าเดิมและอยู่ตรงจุดเดิม โดยร้านจะอยู่ตรงข้ามกับร้านเสรีแต่เตี้ยมที่ขายติ่มซำ ถ้าหาไม่เจอจริงๆ ถามคนแถวนั้นเลย รับรองไม่มีใครไม่รู้จักร้านนี้ค่ะ

ร้านนี้คนเยอะโดยเฉพาะตอนกลางวัน คนในร้านก็มาก คนนอกร้านที่รอสั่งกลับบ้านก็เยอะ แต่ก็ไม่ถึงกับต้องรอนาน ตอนเที่ยงๆ ใครนั่งกินที่ร้านก็ร้อนหน่อย ร้านนี้จะมีโล้งโต้ง ก๋วยจั๊บ เกาเหลาก๋วยจั๊บ เกาเหลาโล้งโต้ง ขนมหวาน

โล้งโต้งหรือโหล่งโต่งที่สุราษฎร์นี่เป็นต้นตำรับเลย ลักษณะจะคล้ายๆก๋วยเตี๋ยวคือจะเป็นเส้นหมี่ขาว น้ำซุปกระดูกหมู(น้ำใส)และใส่หมูๆแบบครบเครื่องมีถั่วงอกด้วย ส่วนก๋วยจั๊บ(น้ำดำ)ที่นี่ส่วนตัวไม่เคยกินแต่จะใส่เป็นเครื่องในหมูล้วน หรือใครจะสั่งเป็นโล้งโต้งน้ำดำก็จะได้โล้งโต้งที่ใส่เป็นเครื่องในหมู (ตรงนี้ถ้าอธิบายผิดต้องขออภัยจริงๆ คือแม่ค้าพูดเร็วมากๆ ฮ่าๆ สงสัยรีบลูกค้าเยอะจริงๆ)

ส่วนตัวเคยกินแต่โล้งโต้ง (ธรรมดา 40.- พิเศษ 50.-) กินจนรู้สึกว่าธรรมดาไปซะแระ เส้นหมี่+ซุปกระดูกหมู+เนื้อหมู+กระดูกหมู+เต้าหู้++...แต่ไม่มีเครื่องในนะ อร่อยแบบไม่ต้องปรุงหรือจะปรุงก็แล้วแต่ชอบ คือดูแบบนี้จะคล้ายก๋วยเตี๋ยวสุดๆ แต่รสชาติจะไม่ใช่ ใครมีโอกาสมากินแนะนำว่าควรมาลองค่ะ แต่ต้องสักก่อนบ่ายสามโมงนะคะ ที่ร้านจะมีขนมหวานด้วยน่ากิน จริงๆ ร้านนี้จะมีข้าวเหนียวมะม่วงขายด้วย แต่ช่วงนี้สงสัยจะไม่มี (อดกินเลย) ส่วนน้ำแนะนำให้ลองสั่งน้ำส้มคั้นดูอร่อยดี (แก้วละ 25.-) บนโต๊ะมีน้ำชาฟรี

การบริการปกติ คนทำก็ทำเร็ว คนรับออร์เดอร์ก็ไว ถึงลูกค้าจะเยอะก็ไม่มีเหวี่ยงนะคะ น่ารักมากๆ

ขอไม่พูดถึงเส้นทางการเดินทางและที่ตั้ง เพราะว่าไปแบบมีเจ้าถิ่นเมืองสุราษฎร์ธานีพาไปค่ะ (เราไม่คุ้นเลย) กับร้านเก่าแก่ของจังหวัดและเมนูชื่อแปลกที่คงหาที่ไหนไม่ได้อีก

แค่ชื่อร้าน "ยกเข่งโล้งโต้ง" ก็แปลกแล้ว เมนูของร้านชื่อยังแปลกกว่า .... "โล่งโต้ง" (40 บาท) ชื่อแปลกๆนี้ จริงๆแล้วมันคือเส้นหมี่น้ำใสธรรมดาๆนี่แหล่ะค่ะ ใส่กระดูกหมู ลูกชิ้นทอด เต้าหู้ เสิร์ฟมาพร้อมพวงเครื่องปรุง คราวนี้ก็ปรุงรสกันได้ตามชอบก่อนทานเลยค่ะ ส่วนอีกหนึ่งเมนูแปลกของร้าน "ผักบุ้งไต่ราว" (40 บาท) เมนูนี้ยังคงเป็นเส้นหมี่เช่นเดิม แต่ที่เพิ่มเติมคือเครื่องที่ใส่มาเป็นผักบุ้งทอด กุ้งทอด และซอสสีแดงๆคล้ายที่ใส่ในเย็นตาโฟ แต่รสชาติจะออกเปรี้ยวๆหน่อย ส่วนตัวชามนี้ไม่ค่อยโดนเท่าไหร่ เพราะว่าไม่ชอบทานเปรี้ยวอ่ะคะ หนึ่งในเครื่องปรุงรสที่เด่นๆเลยจะเป็นโถน้ำเชื่อมข้นเหนียว ที่มาจากการเคี่ยวน้ำตาลมะพร้าว นำมาใส่เติมรสหวานแทนน้ำตาล จะทำให้ได้ความหอมของน้ำตาลมะพร้าวด้วย ถือว่าดีงามสำหรับทุกเมนูของร้านค่ะ ... โดยรวมรสชาติอาหารถือว่าโอเคนะคะ ได้ลองเมนูท้องถิ่นสักหน่อย ก็ถือว่าไปถึงจังหวัดแล้ว ^^ ในส่วนของตัวร้านเองเป็นห้องแถวริมถนน 2 คูหา ที่ค่อนข้างจะดูเก่าแก่ตามอายุของร้านได้เลย ไม่ได้สว่างมาก ไม่มีห้องแอร์ แต่ว่าจำนวนลูกค้าที่รออยู่หน้าร้านนี่เป็นที่น่าสนใจ และทำให้เราต้องลองมาตามรอยแน่นอน ... เพราะขนาดคนท้องถิ่นยังไปรอทานกันขนาดนี้ คนต่างถิ่นอย่างเราก็ต้องจัดด้วยเหมือนกันค่ะ 

ร้าน What The Duck Cafe เป็นร้านอาหารที่เราหมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องมากินให้ได้ค่ะ เค้าเล่ากันมาว่าอาหารอร่อยและเป็ดใหญ่มาก เลยขับรถออกจากในเมืองสุราษฎร์มาทางพุนพิน ผ่านเมืองพุนพินออกมายังทางหลวง แล้วก็เห็นเป็ดตัวใหญ่อยู่ฝั่งซ้ายมือ ...เรียกได้ว่าร้านหาไม่ยากจริงๆ ค่ะนอกจากเป็ดยักษ์นอกร้านแล้ว พอเปิดประตูเข้าไปในร้านก็ยังพบฝูงเป็ดน้อย มองทางนู้นก็เป็ด ทางนั้นก็เป็ด เป็ด เป็ด เป็ดเต็มไปหมด เลยขอสั่งทั้งน้ำดื่ม พอร์คช็อป และอาหารทอดค่ะ

คาราเมลป๊อป (75 บาท) เจ้าของร้านเตือนว่าเมนูนี้จะหวานสักหน่อย แต่เราเห็นรูปแล้วอดรนทนไม่ไหว ขอลองหน่อยละกันค่ะ ...พอน้ำมา เฮ้ย ก็ไม่ได้หวานมากนี่ อร่อยค่ะ หอมนุ่ม มีป๊อปคอร์นให้เคี้ยวหยุบหยับ ชอบมากพอร์คช็อป (145 บาท) เนื้อนุ่มมากค่ะ หอมอร่อย ไม่คิดว่าตัวเองจะกินหมด แต่ก็หมดเกลี้ยงไปตามระเบียบ ฮ่าๆของทอดดดด เมนูนี้มาเต็มค่ะ ทอดได้กรอบและไม่อมน้ำมันดีโดยรวม เราปลื้มร้านนี้ค่อนข้างมากค่ะ เมนูอาหารเยอะพอสมควร น้ำดื่มก็ไอเดียเก๋ เจ้าของร้านบริการดีมาก

เป็นอีกร้านเก่าแก่เลยก็ว่าได้ ตั้งอยู่แถวๆ ศาลเจ้า (ตลาดเกษตร 1) ตรงข้ามร้าน Cute press เยื้องๆ กับห้างโคลิเซี่ยมหาไม่ยาก ไม่มั่นใจเวลาเปิดปิดแต่คนค่อนข้างเยอะโดยเฉพาะช่วงเที่ยงๆ นี่เยอะมาก ถ้าคิดจะไปกินตอนนั้นอาจท้อกันได้เลย
ร้านจะเป็นห้องแถวห้องเดียว โต๊ะไม่เยอะมาก วันนี้ที่ไปคนยังไม่เยอะนั่งโต๊ะด้านนอก สั่งเป็นบะหมี่เหลืองแห้งพิเศษ (70.- ราคาแพงอยู่เหมือนกัน) จริงๆ จะมีเย็นตาโฟ ก๋วยเตี๋ยวเกี๊ยวปลาแห้ง-น้ำด้วย ชามนี้เครื่องเยอะจริง ส่วนในภาพที่ดูเหมือนน้อยนี่เพราะชามใหญ่ ตัวเกี๊ยวปลาที่นี่รสไม่เปลี่ยน อร่อยเหมือนเดิม ปลาม้วนจะมีขึ้นฉ่ายอยู่ข้างใน แต่ครั้งนี้ที่กินแทบจะไม่มีไม่เหมือนแต่ก่อนที่กินแล้วจะได้กลิ่นขึ้นฉ่ายหอมๆ เส้นบะหมี่เหลืองลวกมากำลังดี ส่วนรสที่นี่เค้าจะปรุงมาออกหวานๆ หน่อย ส่วนตัวคือไม่ต้องปรุงแล้วแต่ถ้าจะปรุงก็ตามสบายเลยค่ะ ส่วนน้ำชาคิด 1.-
เป็นอีกร้านที่แนะนำถ้ามีโอกาสมาแถวนี้ค่ะ ก๋วยเตี๋ยวอร่อย เกี๊ยวปลาอร่อย พนักงานน่ารัก ก๋วยเตี๋ยวอาจต้องรอหน่อยเพราะลูกค้าแน่นร้านตลอดเลยค่ะ