ร้าน 69milk เป็นร้านอาหารกึ่งคาเฟ่เล็กๆที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น โดยร้านจะตั้งอยู่บนถนนโฉลกรัฐ ถ้ามาจากเส้นถนนบายพาส หรือเข้ามาทางบิ๊กเสี่ยจะอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่ ร้านตั้งอยู่หน้า 69 car detailing ซึ่งเปิดให้บริการล้างรถ ร้านนี้เป็นร้านที่นำตู้คอนเทนเนอร์มาดัดแปลงทำเป็นร้าน ร้านจึงมีขนาดไม่กว้างเท่าไหร่นัก แต่มีการจัดสรรโต๊ะ เก้าอี้ ให้สามารถตั้งได้ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว สัญลักษณ์ของร้านจะเป็นรูปน้องหมีสีดำหน้าตาน่ารักยืนดูดนมอยู่ โดยจะสื่อเป็นนัยๆว่าให้ชวนมาดูดนมกันเถอะ(คิดเอาเอง)555โดยร้านจะมีที่นั่งทั้งบริเวณโซน indoor และ outdoor ให้ได้เลือกนั่งตามชอบ แต่โซน outdoor จะแนะนำให้นั่งช่วงเย็นๆจะเหมาะกว่าค่ะภายในร้านตกแต่งแบบเรียบง่าย มีของตกแต่งเป็นรูปรถและแผ่นป้ายสังกะสีสไตล์แอนทีคหน่อยๆ

ที่นั่งภายในร้านมีประมาณ 6-7 โต๊ะ มีโซนเก้าอี้โซฟานุ่มๆให้นั่ง ด้วยนะ

ต้องบอกก่อนว่าสำหรับร้านนี้ได้ข้บรถผ่านมาหลายครั้งแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้มาลองซักที วันนี้ก็ได้ฤกษ์งามยามดีหาที่ล้างรถอยู่พอดี ร้านนี้ก็เลยแว๊บเข้ามาในหัว ซึ่งปกติเวลาเรานำรถไปล้างก็ได้แต่นั่งรอ บางที่ก็แอบหิวบ้างนะ

แต่วันนี้ที่ตั้งใจมาล้างรถที่นี่ก็เพราะว่าได้หาอะไรทานฆ่าเวลาไปด้วย ได้ไม่เบื่อ เพราะที่นี่เค้ามี wifi บริการฟรีด้วยละ

พอจัดการเอารถไปให้เค้าล้างปุ๊ป ก็เดินเข้ามาในร้านเพื่อสั่งอาหารทาน ตอนนั้นไปช่วงเที่ยงๆ ลูกค้าของทางร้านค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว เท่าที่ดูลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะเป็นนักศึกษา และคนทำงาน มาหาข้าวเที่ยงทาน พอบ่ายๆหน่อยก็จะเป็นคนที่นำรถมาล้างบ้าง คนที่มานั่งชิลล์บ้าง ซึ่งลูกค้าจะทยอยเข้าร้านมาเรื่อยๆอย่างไม่ขาดสำหรับเรื่ออาหารการกินที่มีบริการ จะมีทั้งเครื่องดื่ม อาหารคาวและอาหารหวานค่ะ โดยอาหารคาวจะมีทั้งเป็นของว่าง เช่นพวก เฟรนฟราย ลาบทอด นักเก็ต ยำต่างๆ ส่วนเมนูต้มๆเอาไว้ซดน้ำก็มีทั้งต้มยำ ต้มจืด สำหรีบอาหารจานเดียวก็มีทั้งอาหารไทยและอาหารฝรั่ง อาหารฝรั่งอาจจะมีไม่ค่อยเยอะเท่าอาหารไทย หลักๆก็จะเป็นพวกสปาเก็ตตี้ ส่วนอาหารไทยนี่มีเมนูให้เลือกค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว จากที่ดูๆก็มีราวๆ 20-30เมนู ยอมรับเลยว่ามีเยอะจนเลือกไม่ถูก ก็เลยมีความจำเป็นที่จะต้องถามน้องพนักงานที่ร้านเอาว่ามีเมนูไหนแนะนำบ้างสำหรับเมนูอาหารคาวที่ได้ลองสั่งมาทานก็คือ-ข้าวผัดแกงเขียวหวานห่อไข่(80฿)
จานนี้น้องที่ร้านเค้าแนะนำมาค่ะ เลยตัดสินใจสั่งตามคำแนะนำ และแล้วก็ไม่ผิดหวังตามที่น้องเค้าแนะนำจริงๆค่ะ ขอบอกเลยว่าไม่ใช่แค่หน้าตาในการจัดจานที่ดูดี แต่เรื่องรสชาติก็อร่อยไม่แพ้กับหน้าตาเลยทีเดียว

เมนูนี้เป็นข้าวผัดกับเครื่องแกงเขียวหวานไก่ ห่อด้วยไข่เจียวแผ่นบาง เสิร์ฟมาพร้อมผักจัดจานประมาณ3-4ชนิด รสชาติอร่อยกำลังดี ไม่เผ็ดโดด หรือจืดชืดจนเกินไป เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยทานรสจัดมาก สำหรับจานนี้ยอมรับเลยว่าคุ้มมาก แทบไม่เชื่อเลยว่าจานนี้ราคาแค่80บาท เพราะคุณภาพคับจานมากๆ ไหนก็จะผักสดๆที่ให้มาให้เต็มจานอีก พูดได้คำ้ดียวสั้นๆเลยว่า "คุ้ม"

จบของคาวไปแล้วคราวนี้ก็มาถึงของหวานกันบ้างดีกว่าค่ะ ต่อให้ทานของคาวอิ่มแค่ไหน แต่กะเพาะเราก็ยังมีที่ว่างไว้ให้สำหรับของหวานเสมอค่ะ^_^

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยค่ะว่าร้านนี้มีของหวานให้เลือกไม่มากนัก ของหวานของที่นี่ก็จะเป็นพวกขนมปังปิ้งหน้าต่างๆ ราคาเริ่มต้นก็25บาทขึ้นไป

ส่วนอีกหนึ่งเมนูที่ป๊อปมากสำหรับร้านนี้ก็คงจะเป็นเจ้าบิงซู น้ำแข็งไสนมสไตล์เกาหลีนี่แหละค่ะ ซึ่งมองไปโต๊ะไหนก็เห็นสั่งไอ้เจ้านี่มาทานกันแทบทุกโต๊ะเลยทีเดียวโดยบิงซูของที่นี่มีประมาณ4-5เมนู มีให้เลือกตามชอบ ส่วนวันนั้นที่ไปทานได้สั่งบิงซูมา1ถ้วยคือ-บิงซูสตอเบอรี่ชีสเค้ก (139฿) บิงซูถ้วยกลางๆไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป เหมาะกับทานประมาณ1-2คน มาเสิร์ฟพร้อมนมข้นและวิปปิ้งครีมในถ้วยเล็กๆ บิงซูที่สั่งเป็นสตอเบอรี่ด้านบนเลยท๊อปด้วยสตอเบอรี่สดและราดน้ำซอสสตอเบอรี่เปรี้ยวๆ ทานคู่กับน้ำแข็งไสรสนมเป็นอะไรที่เข้ากันมาก พูดได้คำเดียวว่า "ฟิน" ตักน้ำแข็งไสทานไปเรื่อยๆก็จะพบกับชีสเค้กรสชาติเปรี้ยวๆมันๆ อร่อย สดชื่นเหมาะกับการดับร้อนของอากาศในประเทศไทยในช่วงเมษาได้เป็นอย่างดี

ส่วนเมนูเครื่องดื่มที่สั่งมาดับกระหายคลายร้อนก็จะเป็น-โกโก้เย็น(50฿) โก้โก้รสชาติเข้มข้นหวานมัน อร่อยใช้ได้ ชอบนะสำหรับแก้วนี้

จากที่ได้ลองทานอาหารคาว อาหารหวานและเครื่องดื่มของร้านนี้ โดยส่วตัวคิดว่ารสชาติอาหารอร่อยดีค่ะ ราคาอาหารไม่แพงมากนักเมื่อเทียบกับปริมาณและรสชาติ

การบริการดีมากๆค่ะ พนักงานดูใส่ใจลูกค้าดี อาหารไม่ช้า รอไม่นานเท่าไหร่

สำหรับร้านนี้ถือเป็นอีกหนึ่งร้านเล็กๆที่อัดแน่นไปด้วยอาหารคาวและอาหารหวานแสนอร่อยให้เราได้มานั่งทานระหว่างรอล้างรถเสร็จ เรียกได้ว่าการเข้ามาทานร้านนี้ไม่ใช่เพียงแต่การมานั่งฆ่าเวลาเท่านั้น แต่ยังเป็นการได้อิ่มท้องกับอาหารอร่อยๆอีกด้วย

ถ้าหากใครที่กำลังมองหาร้านอาหารทานแบบง่ายๆราคาไม่สูงมาก พร้อมทั้งสามารถนำรถมาล้างและนั่งรอที่นี่ได้ร้านนี้น่าจะตอบโจทย์ของคุณได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าใครไม่มาล้างรถก็แวะมาทานได้นะคะ เพราะร้านนี้เค้ามีเมนูน่าทานอีกเพียบเลย นี่ก็กะว่าถ้ามีโอกาสผ่านไปแถวนั้นจะกลับไปลองทานเมนูอื่นดูบ้าง เพราะวันนั้นน้องพนักงานเค้าแนะนำมามากกว่า1อย่าง เอาเป็นว่าถ้าได้มีโอกาสกลับไปทานอีกจะมาเล่าให้ฟังว่าเมนูอื่นนั่นจะอร่อยแค่ไหน อร่อยเหมือนเมนูที่ได้ลองไปรึเปล่า...

สำหรับร้านนี้เป็นร้านสเต็กที่ตั้งอยู่กลางป่า จะว่าไปก็ไม่ใช่กลางป่าซะทีเดียว แต่ที่นี้เค้าตั้งใจให้ร้านมีบรรยากาศรายล้อมไปด้วยป่า มีต้นไม้สูงใหญ่ แลดูร่มรื่น อารมณ์ก็คล้ายๆในป่านั่นแหละค่ะ โดยร้านนี้จะตั้งอยู่หน้าริมถนนใหญ่ เป็นเส้นทางระหว่างสุราษฎร์-นครศรีธรรมราช โดยถ้าไม่สั่งเกตุป้ายดีๆอาจมีขับเลยได้ แต่ตอนนี้เหมือนที่ร้านเค้าจะปรับปรุงเรื่องป้ายใหญ่ใหญ่ และให้มองเห็นชัดเจนกว่าเดิมค่ะ

ร้านนี้ชื่อว่าร้านสเต็ก แต่เค้าก็ไม่ได้มีเฉพาะสเต็กนะคะ อาหารที่นี่มีค่อนข้างหลากหลาย มีเมนูอาหารไทยเยอะพอสมควร เผลอๆเหมือนจะเยอะกว่าเมนูสเต็กด้วยซ้ำค่ะ ส่วนเมนูของหวานก็มีไอศครีมโฮมเมดหลากหลายรสชาติให้เลือกทาน

คราวนี้มาพูดถึงอาหารที่สั่งมาลองทานกันบ้างดีกว่าค่ะ สำหรับเมนูที่สั่งมีดังนี้

-บ้านท่าช้างบาบีคิว(229฿)

เห็นชื่อเป็นเชื่อเดียวกับชื่อร้านเลยคิดว่าเมนูนี้ต้องเป็นเมนูเฉพาะของทางร้านแน่ๆก็เลยลองสั่งมาทานดูค่ะ ซึ่งตอนสั่งก็ได้สอบถามว่าเป็นเนื้อประเภทไหน ที่ร้านก็บอกว่าเป็นเนื้อวัวก็ยิ่งดีใจไปอีก เพราะชอบทานเนื้อมาก

เมนูนี้ดูจากราคาก็ค่อนข้างสูง แต่พอเห็นการนำเสนอก็คิดว่าราคานี้แหละ คุ้มค่ามากๆ เพราะการนำเสนอของดมนูนี้มาแบบบาบีคิวจุดไฟอลังการงานสร้างมากๆ ตอนมาเสิร์ฟลูกค้าโต๊ะอื่นก็หันมามองกันเต็มเลย แบบว่ามันดูน่าตื่นเต้นอ่า อย่างกะมีการเต้นควงกระบองไฟหยั่งไงหยั่งงั้น(555เว่อร์มาก) ส่วนรสชาตินี่ก็อร่อยดีค่ะ อาจมีเนื้อบางส่วนเหนียวๆไปย้างแต่รวมๆก็ถือว่าอร่อยค่ะ อ่อ เนื้อที่มาเสิร์ฟมีการหั่นมาเป็นชิ้นๆแล้วเสียบเหล็กยาวๆพร้อมผัก มีการราดน้ำซอสออกแนวพริกไทยดำรสชาติจัดจ้าน ในการมีขนมปัง เฟรนฟราย และสลัดมาให้ด้วย รวมๆถือว่าอร่อยคุ้มค่าสมราคามากกับเมนูนี้

-กุ้งแช่น้ำปลา(180฿) อยากทานอาหารรสแซ่บๆ เลยลองสั่งกุ้งแช่น้ำปลามาทาน สำหรับจานนี้ดูแปลกกว่าร้านอื่นๆไปซักหน่อย เพราะที่นี่เค้าจะไม่มีมะระแบบร้านอื่นแต่ใช้ก้านคะน้าแทน ส่วนน้ำจิ้มรสชาติก็แปลกพอควร ยังไม่ค่อยถึงอารมณ์แบบน้ำจิ้มซีฟู้ดรสชาติจัดจ้านแบบที่เคยทานมา ส่วนกุ้งเหมือนจะไม่ค่อยสดเท่าที่ควรค่ะ รวมๆจานนี้ยังไม่ค่อยประทบใจเท่าไหร่

-ข้าวคลุกกะปิ(70฿)จานนี้มาแบบจัดเต็มแน่นๆ ทั้งข้าวทั้งเครื่อง แทบไม่เชื่อว่าจานนี้แค่70บาท เพราะมาเต็มมากๆ ทั้งกุ้ง มะม่วง หมูหวาน ไข่เจียวที่มาแบบเป็นฟอง ไม่ใช่ไข่หั่นฝอยแบบที่เคยทานมา หมูหวานที่ว่าก็มาแบบถ้วยแน่น สั่งชามนี้มาคือคุ้มมาก รสชาติก็อร่อยเกินราคา เรียกได้ว่าเป็นเมนูที่ปลื้มสุดที่สั่งมาก็ว่าได้

สำหรับรสชาติอาหารโดยส่วนตัวคิดว่าอร่อยดีค่ะ ราคาก็ไม่สูงมากด้วย

ส่วนการบริการอยู่ในระดับดี แต่อาจจะมีพนักงานบางคนเฉื่อยๆไปบ้าง (คงเพราะว่าดึกแล้วมั้งคะ น้องคงเนือยๆเหนื่อยๆ)

ส่วนบรรยากาศร้านร่มรื่นดีค่ะ เหมือนทานข้าวในป่า แต่ช่วงเย็นๆค่ำๆยุงอาจจะเยอะไปหน่อย ต้องตามยาจุดกันยุง ซึ่งตอนนั้นกว่าน้องพนักงานจพมาจุดให้ก็โดนนุงรุมกินเลือดไปพอสมควรค่ะ

สำหรับร้านนี้ถือเป็นอีกหนึ่งร้านสเต็กที่ราคาค่อนข้างจับต้องได้ เหมาะกับครอบครัว

หากใครเดินทางไปนครแบ้วผ่านร้่นนี้ก็ลองแวะไปทานดูค่ะ ร้านนี้เค้ามีเมนูหลากหลายให้ได้เลือกทาน

โดยส่วนตัวปลื้มค่ะร้านนี้

ร้านนี้คนท้องที่แนะนำให้มาทาน ทั้งๆที่ไม่ได้อยู่ในอ.เมืองของจังหวัด ต้องขับรถมาราวๆ 15-20 กิโลเมตร เค้าก็ยังบอกว่าคุ้ม ก็เลยมาลองกันค่ะ

ทางเข้าร้านจะเป็นซอยเล็กๆที่ต้องหักขึ้นไปบนเขา ค่อนข้างชัน แต่ขึ้นไปไม่เยอะก็ถึงร้านแล้วค่ะ ช่วงเที่ยงๆคนเต็มร้าน พอถึงร้านก็เจอวิวนี้ค่ะ สวยดีเนอะ แต่ตอนนั่งกินไม่เห็นนะ ต้องไปยืนดูริมร้านภูณิศาเป็นร้านอาหารถิ่นที่เหมาะสำหรับเลี้ยงต้อนรับแขก หรือมากินข้าวชมวิว อาหารค่อนข้างรสจัด อร่อยใช้ได้เลยค่ะ แต่ราคาเราว่าแพงไปหน่อยสำหรับร้านอาหารนอกตัวเมืองแบบนี้

ทุกโต๊ะจะมีฟรีน้ำพริกกะปิกับผักแนม น้ำพริกกะปิสุดยอดมากๆค่า เสียดายให้มานิดเดียว สุดท้ายขอซื้อเพิ่มค่ะ แซ่บหลายยำสามกรอบ 150.- คิดว่าเป็นยำแบบจีนนะ มีในเมนูร้านได้ไงยังงงๆ แต่อร่อยเด็ดอีกจานค่ะ แว่บเดียวเหลือแต่จานเปล่าเนื้อปูผัดผงกะหรี่ 400.- เนื้อปูสดๆผัดแบบไม่เน้นไข่เหลืองๆแบบนี้ชอบมากๆ เอาไป 5 ดาวทอดมันภูณิศา 150.- ทอดมันไปด้วยกันกับไข่แดงได้ดีเลยเชียว เป็นอีกจานที่ชอบค่ะปลาหมึกผัดไข่เค็ม 180.- ปลาหมึกสดเนื้อแน่นมาก แต่เราไม่ชอบการผัดที่ใส่ข้าวโพดอ่อนเลย มันไม่ค่อยไปด้วยกันค่ะต้มยำรวมมิตร 250.- จานนี้เฉยๆสะตอผัดกะปิกุ้ง 150.- สะตอกรอบ กุ้งสด อร่อยมากค่ะช่วงมื้อเที่ยงลูกค้าค่อนข้างแน่นก็เลยเสิร์ฟช้า ระหว่างรอก็เดินไปถ่ายรูปวิวแม่น้ำตาปีก่อนก็แล้วกันค่ะ

ถ้าจะให้พูดถึงร้านอาหารเช้าในสุราษฎร์ฯ เราก็มักจะนึกถึงแต่ร้านเดิมๆ ร้านเก่าแก่ที่คุ้นเคย บางคนเลือกที่จะนั่งร้านเดิมๆเพราะคิดว่ามันดีอยู่แล้ว ถูกปากและเคยชินกับมันก็เลยเลือกทานร้านเดิมที่คุ้นเคย

แต่โดยส่วนตัวมักจะแวะไปลองทานร้านใหม่ๆอยู่เสมอเมื่อมีโอกาส ซึ่งคิดว่าบางครั้งเราอาจจะเจอร้านที่เราถูกปากถูกใจใหม่ก็เป็นไปได้

ซึ่งวันนี้ ได้มีโอกาสมาลองติ่มซำร้านใหม่ในสุราษฎร์ฯ แต่จริงๆแล้วร้านนี้เค้าเปิดมาได้ซักพักนึงแล้วละค่ะ แต่เพิ่งจะมีโอกาสกลับบ้านแล้วได้มาลองซักที ซึ่งร้านที่ว่านั้นก็คือ "ร้านสุธารส ติ่มซำ" นั่นเอง

โดยร้านนี้จะตั้งอยู่ตรงถนนดอนนก เยื้องๆกับโรงเรียนเทศบาล5 ดูจากภายนอกลักษณะร้านตกแต่งได้ทันสมัยดี ดูฉีกจากร้านติ่มซำแบบเดิมๆที่เคยเห็นมา ร้านจะออกแนวโมเดิร์นหน่อยๆ บรรยากาศร้านโล่ง โปร่ง ดูไม่อึดอัด ตัวร้านค่อนข้างใหญ่ สามารรองรับลูกค้าได้มากกว่าร้อยคน

และมีที่จอดรถยนต์อยู่ด้านหลังร้าน เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีที่จอดรถค่ะ ส่วนถ้าใครนำรถจักรยานยนต์มาก็สามารถนำมาจอดที่ด้านหน้าร้านได้เลย

คราวนี้เรามาพูดถึงเรื่องอาหารกันบ้างดีกว่าค่ะ

อาหารของที่นี่ไม่ได้มีเฉพาะแค่ติ่มซำตามชื่อร้านนะคะ แต่ร้านนี้ยังมีเมนูอาหารเช้าอีกมากมายหลายอย่างให้เลือกสรร อาทิเช่น ไข่กะทะ,บะกุ๊ดเต๋,ขนมปังหน้าหมู,ชุดอาหารเช้า,หมูสเต๊ะ,โจ๊ก,ข้าวหมูทอด,ซาลาเปาทอด,เกาเหลาเลือดหมู,มะระต้มกระดูกหมู,ขนมปังปิ้ง ฯลฯ เรียกได้ว่ามีเมนูอาหารเช้าอย่างครบครัน ใครไม่โดนอย่างใดก็โดนอย่าหนึ่งบ้างละ มันเยอะซะขนาดนี้

จากที่ดูคร่าวๆในเมนูก็เกือบยี่สิบกว่ารายการได้ละ นี่ยังไม่รวมติ่มซำที่มีกว่า40ชนิดอีกนะ😱😱😱(เยอะมากๆ)

และนอกจากจะมีเมนูอาหารเช้าอย่างที่ได้บอกไปแล้ว ที่นี่ยังมีเมนูเครื่องดื่มกว่า20ชนิดด้วยกัน มีทั้งร้อนทั้งเย็น เช่น กาแฟโบราณ, โอเลี้ยง, ชาดำ ,ชาโบราณ ,ชาเขียว ,นมสด,โกโก้,โอวัลติน,นมชมพู,น้ำเก๊กฮวย,กระเจี๊ยบ,ตะไคร้ใบเตย,บ๊วย ฯลฯ

เป็นไงละ แค่เห็นเมนูของร้านนี้ก็ตกใจแล้วมั้ย คือมันเยอะมาก เยอะจนแอบคิดว่าต้องมาทานกี่ครั้งถึงจะจัดให้ครบได้ทุกเมนู

เอาละคราวนี้มาดูเรื่องรสชาติอาหารที่ได้ทานกันบ้างดีกว่า

-ติ่มซำ(15฿)

ติ่มซำของที่นี่ราคาก็ไม่แพงมากค่ะ ราคาก็ตกอยู่ที่เข่งละ15บาท ติ่มซำของที่นี่จะเป็นติ่มซำสูตรจากตรัง ซึ่งแน่นนอนว่าติ่มซำของตรังเป็นอะไรที่ขึ้นเชื่อเป็นอย่างมาก โดยติ่มซำของที่นี่อย่างที่บอกไปว่ามีมากกว่า40ชนิด วันนี้ได้ลองทานเบาๆแค่ไม่กี่อย่าง ซึ่งคิดว่าครั้งหน้าจะพยายามมาลองให้ครบ

โดยติ่มซำที่ได้ลองก็จะมี ขนมจีบ ซึ่งมีทั้งขนมจีบหมูและขนมจีบกุ้ง 1เข่งจะมีขนมจีบ3ลูก ขนาดไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป ตัวขนมจีบไม่แห้งเหมือนบางร้านที่แห้งจนทำให้ดูขนมจีบเล็กและลีบ ของที่นี่ชิ้นอวบๆซึ่งด้านในอัดแน่นไปด้วยหมูสับปรุงรสที่เป็นสูตรเฉพาะของทางร้านเอง สำหรับขนมจีบร้านนี้โดยส่วนตัวคิดว่ารสชาติดีค่ะ อร่อยมาก ชอบที่สุดในติ่มซำ

เมื่อทานขนมจีบก็ต้องมีซาลาเปา และแน่นอนว่าซาลาเปาของร้านนี้เค้าก็เด็ดไม่แพ้ขนมจีบเลย โดย1เข่งจะมีซาลาเปามาให้2ลูก ลูกไม่ได้เล็กจิ๋วนะคะ ซาลาเปาของที่นี่ลูกขนาดกลางๆแต่อัดแน่นไปด้วยไส้แสนอร่อย ซึ่งมีไส้ให้เลือกหลายรสหลายไส้ด้วยกันคือ ไส้หมูสับ ไส้ครีม ไส้หมูแดง สำหรับซาลาเปาของที่นี่อร่อยไม่แพ้ใคร แป้งนุ่ม ไส้แน่น ชอบมากค่ะ ทานเพลินๆอาจมีหมดไปหลายลูกแบบไม่รู้ตัว เพราะว่ามันอร่อยจริงๆค่ะ ส่วนติ่มซำอื่นๆที่ได้ลองก็จะมี แฮมพันเห็ดเข็มทอง ไข่ม้วนเต้าหู้ไข่ กระดูกหมูน้ำแดง ปลานึ่งซีอิ้ว และอีกอันนึงไม่แน่ใจว่าเรียกว่าอะไรค่ะ ลักษณะคล้ายๆก๋วยเตี๋ยวลุยสวน แต่ไม่ใช่ จะเป็นแผ่นแป้งสีขาวห่อเห็ดหอมสับ แครอทสับ หมูสับและถั่วงอกไว้ด้านใน สำหรับเมนูติ่มซำโดยรวมที่ได้ลองทานถือว่าอร่อยใช้ได้ค่ะ ทางร้านใช้วัตถุดิบที่ดีมาทำ อาหารที่ออกมาเลยอร่อยค่ะ

ส่วนเมนูอื่นๆที่นอกเหนือจากติ่มซำที่ได้ลองมีดังนี้

-ไข่กะทะ(30฿)

ไข่กะทะราคาเบาๆของร้านนี้อัดแน่นไปด้วยกุนเชียง หมูสับ และผักต่างๆอย่างครบเครื่อง รสชาติอร่อยถูกปากถูกใจ เหยาะพริกไทยลงหน่อยอร่อยจนวางช้อนไม่ลงเลยทีเดียว

-บะกุ๊ดเต๋(80฿)

บะกุ๋ดเต๋ของร้านนี้ได้ยินมาว่าเค้าใช้เครื่องยาจีนอย่างดีที่สั่งมาจากหาดใหญ่ รสชาติที่ออกมาเลยอร่อยกลมกล่อม

ส่วนใหญ่ที่ได้ลองทานบะกุ๊ดเต๋เราจะเห็นแต่กระดูกหมู แต่สำหรับร้านนี้มีทั้งกระดูกหมู หางหมู เรียกได้ว่าจัดเต็มมากๆ โดยเนื้อหมูของที่นี่มีการตุ๋นจนเปื่อยกำลังดี เวลาทานจะไม่เหนียวแต่อย่างใด ส่วนตัวคิดว่าเมนูนี้อร่อยดีค่ะ น้ำซุปหอมรสชาติเข้มข้น ซดคล่องคอมากๆ เมนูนี้อร่อยไม่แพ้ร้านดังหลายๆร้านเลยค่ะ

-ชุดอาหารเช้า(หมูทอด,ฮอดดอก,ไข่ดาว,ขนมปังปิ้ง)(50฿)

ชุดอาหารเช้าชุดนี้เรียกได้ว่าคุ้มค่าสมราคามากๆถ้าหากใครได้สั่ง เพราะราคาของชุดนี้แค่50บาทเท่านั้น แต่ได้ทานของอร่อยๆคุณภาพดี ไม่ว่าจะเป็นฮอดดอกชิ้นแน่นๆ5ชิ้น หมูทอดที่หมักเครื่องมาเป็นอย่างดีแล้วนำมาทอด ไข่ดาว1ฟอง ขนมปังปิ้งชิ้นโต และผักสดที่ให้มาในจานเพื่อให้จานนี้มีสารอาหารครบ5หมู่

เรียกได้ว่าชุดนี้อร่อยคุ้มค่าสมราคาจริงๆค่ะ (จานเดียวจบ) -มะระต้มกระดูกหมู(50฿)

เมนูเพื่อสุขภาพ เมนูนี้แค่ได้ยินชื่อก็อย่าเพิ่งร้องยี้ไปก่อน เพราะต้มมะระของที่นี่ไม่ได้ขมอย่างที่คิด น้ำซุปมีการเคี่ยวมาเป็นอย่างดี รสชาติจึงหวานอร่อย หมูที่อยู่ในถ้วยก็นุ่มมากๆ อร่อยดีค่ะ -โจ๊กหมูใส่ไข่(40฿)

โจ๊กเนื้อเนียนมากๆ รสชาติอร่อย หมูสับนุ่มเด้งดึ๋งดั๋ง ใส่ไข่มาด้วย ทานร้อนๆอร่อยที่สุด ปลื้มมากค่ะสำหรับเมนูนี้

ทานอาหารกันแล้วก็ต้องมีเครื่องดื่ม โดยเครื่องดื่มที่สั่งมาก็คือ -ชาเย็น(25฿)

ชาไทยสีส้มรสชาติเข้มข้น หวานมันกำลังดี เมนูนี้อร่อยค่ะ

สำหรับเรื่องรสชาติอาหารโดยรวมของร้านนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งร้านที่อาหารรสชาติอร่อยไม่แพ้ร้านใดเลยทีเดียว วัตถุดิบในการนำมาใช้ปรุงอาหารค่อนข้างสดและสะอาด ส่วนตัวคิดว่าร้านนี้เป็นอีกหนึ่งร้านที่สามารถเป็นหน้าเป็นตาของจังหวัดสุราษฎร์ธานีเพื่อต้อนรับชาวต่างชาติได้

เพราะที่ร้านมักจะมีลูกค้าชาวต่างชาติอย่างมาเล สิงคโปร์ แวะเวียนกันมาทานอยู่เป็นประจำ

เรื่องการบริการ ที่ร้านบริการดีมากๆค่ะ มีพนักงานค่อนข้างเยอะ เพียงพอสำหรับคอยให้บริการลูกค้าได้อย่างทั่วถึง

ราคาอาหารกลางๆ ไม่แพงจนเกินไป บางอย่างถือว่าถูกมากๆเมื่อเที่ยบกับรสชาติและปริมาณ

ร้านนี้ถือเป็นอีกหนึ่งร้านใหม่ที่ได้ลองแล้วประทับใจ และคิดว่าครั้งหน้าถ้ามีโอกาสจะแวะมาใหม่ เพราะอาหารของที่นี่เค้าอร่อยจริงอะไรจริง

ถ้าหากใครมีโอกาสได้แวะมาเยือนสุราษฎร์ธานี หากกำลังมองหาร้านอาหารช้าอร่อยๆ ร้านนี้น่าจะเป็นหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับคุณค่ะ

แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีร้านอาหารญี่ปุ่นคุณภาพดีราคาไม่สูงมากตั้งอยู่ในสวนมะนาวลึกลับแบบนี้
ซึ่งเมื่อไปถึงก็แอบงงๆและตกใจเล็กน้อยว่านี่เรามาถูกแล้วใช่มั้ย เพราะตัวร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งนี้ได้ตั้งอยู่บริเวณชั้น1ของบ้านไม้กึ่งปูน อารมณ์คล้ายๆใต้ถุนบ้านหน่อยๆ  ซึ่งเจ้าของร้านได้ตั้งใจใช้พื้นที่ตรงใต้บ้านมาเปิดเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นแบบเรียบง่าย โต๊ะเก้าอี้ก็ใช้ของที่มีอยู่มาใช้ เรียกได้ว่ามองยังไงก็ไม่ได้มีความเป็นญี่ปุ่นแม้แต่น้อย แต่สิ่งที่เราสนใจนั่นก็คืออาหารค่ะ รายละเอียดภายนอกเป็นยังไงก็ไม่สำคัญเท่าอาหาร
เพราะเราตั้งใจจะมาทานอาหารญี่ปุ่นแบบค่อนข้างพรีเมี่ยม ซึ่งจะหาได้ทานที่จังหวัดสุราษฎร์ได้ยากมาก และร้านนี้ก็เป็นหนึ่งในไม่กี่ร้านที่ได้มาเปิดตลาดอาหารญี่ปุ่นแบบพรีเมี่ยมให้ชาวสุราษฎร์ได้ทานกันสำหรับร้านนี้จะมีอาหารญี่ปุ่นให้เลือกพอประมาณ โดยมีทั้งซูชิ โรล ข้าวหน้าต่างๆ และซาซิมิซึ่งได้มีโอกาสลองสั่งอาหารมาทาน2เมนูด้วยกันคือ-miso toro aburi ท้องปลาแซลมอล (180฿) เมนูนี้เป็นเมนูซิกเนเจอร์ที่ทางร้านได้แนะนำมาค่ะ โดยเชฟเจ้าของร้านบอกว่าซอสของเค้าทำเองเป็นสูตรของทางร้านโดยเฉพาะ เราก็เลยบอกว่าขอลองก็แล้วกัน

ซึ่งเมนูนี้เป็นข้าวปั้นหน้าท้องปลาแซลมอลเบิร์นไฟเล็กน้อย ราดด้วยซอสมิโสะรสชาติครีมมี่ๆ และท๊อปด้วยไข่กุ้ง(ไข่ปลาใส่สีส้ม)และต้นหอมซอย เมนูนี้มาเสิร์ฟแบบ2คำ มีการจัดจานได้สวยงามเลยทีเดียว รสชาติเมื่อได้ทานพูดได้คำเดียวว่า อร่อยอ่าาาาา คือท้องปลาแซลมอลสดและมันมากๆ ได้โอเมก้า3แบบเต็มปากเต็มคำ ทานกับซอสมิโสะรสชาติมันๆเค็มๆ เข้ากันเป็นอย่างดี พูดเลยว่าฟินมากคำนี้ แล้วแบบคำนี้ไม่ใช่คำเล็กๆนะคะ มาเป็นคำค่อนข้างใหญ่ ราคาต่อชิ้น90บาท ถือได้ว่าคุ้มค่ามากๆค่ะ

ส่วนเมนูต่อไปคือของโปรด ที่ไปร้านอาหารญี่ปุ่นที่ไหนก็ต้องสั่ง จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกซะจาก-แซลมอลซาซิมิ (250฿) แซลมอลชิ้นหนาพอดีคำ ประมาณ6ชิ้น เสิร์ฟอยู่ในจานที่มีการจัดอย่างสวยงาม รสชาติปลาสดใช้ได้ค่ะ 

สำหรับร้านนี้ถือเป็นอีกหนึ่งร้านอาหารญี่ปุ่นที่ถือได้ว่าค่อนข้างดีร้านนึงในสุราษฎร์เลยทีเดียวค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรสชาติ
อาหารที่อร่อย ราคาไม่สูงเว่อร์จนเกินไป การบริการดีใช้ได้  ตอนนี้เป็นช่วงที่ร้านเปิดแรกๆ ลูกค้าค่อนข้างจะเยอะหน่อย เนื่องจากที่นั่งของร้านมีไม่เยอะเมื่อเทียบกับปริมาณของลูกค้าที่ไปทานกันช่วงเที่ยง จึงอยากจะแนะนำให้ไปช่วงบ่ายๆเพื่อไม่ต้องรอนาน หรือจะเสียอารมณ์กับการไม่มีที่นั่ง

เอาเป็นว่า ถ้าใครอยากทานอาหารญี่ปุ่นอร่อยๆคุณภาพเยี่ยมก็แนะนำร้านนี้เลยค่ะ รับรองไม่ผิดหวัง

ที่บอกว่าอยากให้มากอดหมีกันที่นี่ก็เพราะว่าร้านนี้เค้ามีหมีเยอะแยะเลยค่ะซึ่งร้าน hug bears cafe เป็นร้านเล็กๆที่ตั้งอยู่ในตึกแถวอาคารพาณิชย์ตรงบริเวณแยกกำนันธร ฝั่งถนนโฉลกรัฐ โดยภายในร้านใช้คอนเซปมากอดหมี ดังนั้นภายในร้านจึงประดับประดาไปด้วยเหล่าน้องหมีมากมาย ใครอยากจะกอดตัวไหน ตัวเล็กตัวใหญ่ก็เชิญตามสบายเลยค่ะ ที่ร้านเค้าไม่ว่า แถมยังมาบอกด้วยว่าหมีทุกตัวเล่นได้หมดเลยนะคะ เจ้าของร้านน่ารักจริงๆสำหรับร้านนี้ตอนแรกดูเหมือนจะขายแต่เครื่องดื่มกับเค้กอย่างเดียว แต่ปรากฎว่าอาหารคาวของที่นี่เค้าก็มีนะจ๊ะ
แถมมีเยอะด้วย ทั้งอาหารไทย ฝรั่ง เกาหลี อาทิเช่น สเต็ก สปาเก็ตตี้ ข้าวแบบอาหารจานเดียวต่างๆ รวมถึงอาหารทานเล่นอย่างพวก เฟร้นฟรายด์ นักเก็ต ฯลฯ ซึ่งวันที่ไปตั้งใจจะไปทานทั้งของคาวและของหวาน แต่ทางร้านบอกว่าขนมไม่ได้ทำ เนื่องจากเพิ่งเปิดร้านช่วงหลังจากหยุดปีใหม่ได้แค่วันเดียว เลยอดของหวานไป

แต่ไม่เป็นไร ไม่มีของหวานเราก็สั่งของคาวมาทานดูแล้วกัน
สำหรับเมนูที่สั่งมาลองทานก็คือ-ไก่ทอดซอสเกาหลีราดข้าว (85฿) สำหรับเมนูนี้ใช้เวลารอนานนิดนึง เพราะเจ้าของร้านบอกว่าเค้าหมักซอสเอง
เวลาผ่านไปราวๆ20นาที เจ้าของร้านก็นำข้าวไก่ทอดซอสเกาหลีใส่หม้อดินแบบเกาหลีมาเสิร์ฟ พร้อมตะเกียบและช้อน
ถึงเวลาทานก็เปิดหม้อดู เจอกับปีกไก่ท่อนบนหมักซอสเกาหลี 4 ชิ้นวางอยู่บนข้าว ส่วนด้านบนไก่จะมีส่าหร่ายและต้นหอมซอยเล็กน้อย แค่นั้นยังไม่พอ ตรงกลางชามยังมีไข่ต้มสุก1ลูกใส่มาให้เพิ่มความคุ้มค่าไปอีก เรียกได้ว่าเครื่องแน่นเต็มชามเลยทีเดียว
ส่วนเรื่องรสชาติที่ได้ทาน ก็อร่อยดีค่ะ แต่โดยส่วนตัวคิดว่าซอสรสชาติเบาไปหน่อย อยากให้รสชาติจัดจ้านกว่านี้แต่ราคาขนาดนี้กับอาหารประมาณนี้ถือว่าคุ้มค่าสมราคาดีค่ะ

สั่งอาหารมาแล้วก็ต้องสั่งเครื่องดื่มมาทานคู่กัน สำหรับเมนูที่สั่งคือ-นมสดวนิลา(35฿) แก้วนี้มาเป็นนมสดกลิ่มหอมวนิลา ด้านบนมีฟองนมมาล้นแก้ว รสชาติอร่อยหวานมันดีค่ะ

ส่วนเรื่องการบริการ สำหรับร้านนี้พี่เจ้าของร้านน่ารักทั้งคู่ คอยมาสอบถามว่าเป็นยังไงบ้าง อาหารที่ทานไปโอเคมั้ย 
แลดูใส่ใจลูกค้าดีค่ะส่วนร้านก็ตกแต่แบบเรียบง่าย มีตุ๊กตาหมีตกแต่งเพิ่มความมุ้งมิ้งให้ร้านได้เป็นอย่างดี มีที่นั่งประมาณ4-5โต๊ะสำหรับร้านนี้ถือเป็นคาเฟ่เล็กๆที่มีอาหารคาวและอาหารหวานครบครันอยู่ในร้านเดียว ถ้าใครกำลังมองหาที่ทานข้าวทานขนมแบบน่ารักๆก็แนะนำให้ลองไปร้านนี้ดูค่ะ

ขับผ่านไปผ่านมาอยู่หลายครั้ง และก็สะดุดตาทุกครั้งที่เห็นป้ายเขียนว่าก๋วยเตี๋ยวชามละ20บาท
จนกระทั่งวันนี้ได้มีโอกาสแวะมาลองชิมก๋วยเตี๋ยวราคา20บาทนี่ซักที
ซึ่งที่ป้ายเขียนชื่อไว้ว่า "ก๋วยเตี๋ยวบ้านชาวนา" ซึ่งที่ตั้งชื่อแบบนี้ก็อาจเป็นเพราะว่าร้านนี้ตั้งอยู่ตรงบริเวณพื้นที่หน้าโรงแรม rice farm หรือโรงแรมนาข้าว นั่นเอง ดังนั้นก็อาจจะตั้งให้ดูสอดคล้องกับสถานที่มั้งค่ะ โดยตัวร้านนี้จะตั้งอยู่บริเวณชั้นล่างของบ้านไม้เรือนไทยทหรทอบริเวณใต้ถุนบ้านนั่นเอง
ซึ่งใต้ถุนบ้านไม้ก็จะมีเก้าอี้และโต๊ะตั้งอยู่ประมาณ10-15ที่นั่ง และโซนฝั่งซ้ายมือจะเป็นครัวสำหรับปรุงอาหาร
ซึ่งจะเป็นแบบโอเพ่นสำหรับร้านนี้จากที่ดูป้ายตอนแรกก็นึกว่าจะมีแค่ก๋วยเตี๋ยวซะอีก แต่ที่ไหนได้ ที่นี่เค้ามีอาหารจานเดียวด้วยนะ
อาทิเช่น ข้าวไข่เจียว ข้าวผัดกระเพราะ เครื่องแกงหมู ข้าวหมูแดง ฯลฯ ส่วนราคาก็30-40บาท (จากที่เห็นที่ป้าย)
ส่วนก๋วยเตี๋ยวก็จะมีทั้งแบบธรรมดา ต้มยำ แบบพิเศษก็ราคา40บาทลองสั่งก๋วยเตี๋ยวมาทานชามนึง สั่งแบบต้มยำ พนักงานก็ถามว่าใส่ไข่มั้ยคะ
เลยบอกไปว่าใส่ ก็เลยได้เป็นก๋วยเตี๋ยวพิเศษมาชามนึง ชามไม่ใหญ่เท่าไหร่
หน้าตาดูจากภายนอกตอนมาเสิร์ฟก็ให้เครื่องเคราแน่นเชียว มีทั้งลูกชิ้น หมู ตับ ฮือก้วย หมูแดง ไข่
และเมื่อได้ทานก็รู้สึกว่ารสชาติธรรมดา เครื่องต่างๆมีแอบไม่สดด้วย น้ำซุปไม่จัดจ้านเท่าไหร่
โดยส่วนตัวคิดว่ารสชาติยังไม่ค่อยอร่อยส่วนเรื่องราคานี่ก็ไม่ได้ทานชาม20บาทนะคะ ทานแบบพิเศษราคาก็30บาทการบริการธรรมดาค่ะ

ส่วนสถานที่ก็เป็นที่ชั้นล่างของบ้านไม้อย่างที่บอก ไม่มีแอร์ เที่ยงๆร้อนหน่อย

สำหรับร้านนี้ก็ถือเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวราคาย่อมเยาว์ที่ทุกคนสามารถจะบต้องได้ค่ะ

ร้าน foodhouse เป็นร้านอาหารที่เพิ่งมาเปิดใหม่ได้ไม่นาน โดยร้านจะตั้งอยู่บนถนนโฉลกรัฐ ถนนเส้นใหม่ที่มาแรงมากในสุราษฎร์ เป็นเส้นที่มีร้านอาหารใหม่ๆต่างผุดขึ้นมาเยอะมาก ร้านนี้ก็เป็นหนึงในนั้น ซึ่งร้านนี้จะอยู่ใกล้กับร้านท่าทองรังนก และใกล้ๆกับร้านอีสานริมบึงนั่นเอง 

ร้านนี้ตกแต่งได้อบอุ่นดีค่ะ ร้านสีขาวๆ เฟอนิเจอร์เป็นไม้สีอ่อน ตกแต่งร้านแบบเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยการคิดไตร่ตรองมาพอสมควรค่ะ บรรยากาศร้านโดยรวมถือว่าดีเลยทีเดียว ดูสบายตาดีค่ะ ภายในร้านจะมีครัวตั้งอยู่ตรงด้านหลัง แต่เป็นกระจก ลูกค้าสามารถมองเห็นการทำงานภายในครัวได้ด้วยค่ะ 

มาถึงอาหารกันบ้างดีกว่า อาหารของที่นี่จะมีทั้งอาหารจานเดียวและแบบเป็นกับข้าว มีอาหารไทย ฝรั่ง อาหารฟิวชั่น มีเมนูสำหรับคนรักสุขภาพด้วยค่ะ โดยที่ร้านจะมีจัดเป็นเซ็ตๆ เลือกข้าว เลือกสลัด เลือกเนื้อ สวนอาหารฝรั่งจะเป็นสเต็ก สปาเก็ตตี้ต่างๆ และนอกจากมีเมนูอาหารแล้วที่นี่ยังมีเมนูเครื่องดื่มหลายเมนูให้เลือกด้วยค่ะ

วันที่้ไปทาน ได้มีโอกาสทานอาหารแค่อย่างเดียว เลือกเป็นอาหารจานเดียวมาทานกับเครื่องดื่ม คือ

-ข้าวราดกุ้งผัดพริก3สี(149฿) เมนูนี้เป็นเมนูอาหารแนะนำค่ะ ดูจากในรูปน่าทานดีเลยลองสั่งมา เมื่อได้ลองทานก็ไม่ผิดหวังค่ะ เหมาะแล้วที่จะเป็นเมนูแนะนำ จานนี้จะเป็นกุ้งตัวโตๆประมาณ4ตัว ผัดกระเทียม พร้อมพริกสามสี เขียว เหลือง แดง มาครบเลยค่ะ ยังไม่พอแค่นั้นแถมมีผักอื่นๆตามมาด้วย (ส่วนตัวไม่ค่อยกินผักเลยจำชื่อผักไม่ได้) ซึ่งผักที่ว่าตอนมาเสิร์ฟเค้าจะใส่มาในกะหล่ำม่วง หน้าตาดูดีน่ารับประทานมากๆ การจัดจานมีการคิดและออกแบบมาเป็นอย่างดี เรื่องรสชาติอร่อยใช่ได้ วัตถุดิบที่ใช้ค่อนข้างสดดีค่ะ คุ้มค่าสมราคาดีสำหรับเมนูนี้

ส่วนเครื่องดื่มสั่งเป็น
-โกโก้เย็น(55฿) โกโก้รสชาติหวานมันดี ไม่ถึงกับเข้มมากหรืออ่อนเกินไป

รวมๆแล้วสำหรับร้านนี้ถือเป็นอีกหนึงร้านอาหารที่อร่อยเปิดใหม่ที่อยากจะแนะนำค่ะ และนอกจากอาหารอร่อยแล้วร้านยังดูอบอุ่น บรรยากาศดี การบริการก็ดีค่ะ  ถ้าใครกำลังมองหาร้านอาหารออกแนวสุขภาพหรือจะไม่สุขภาพก็แนะนำให้มาลองทานร้านนี้ดูค่ะ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน โดยส่วนตัวคิดว่าจะกลับไปลองทานเมนูอื่นๆดูบ้างค่ะ เพราแอบเห็นเมนูแนะนำทร่น่าสนใจค่อนข้างเยอะ

ร้านเฮงข้าวหมูแดงเป็นร้านข้าวหมูแดงที่ค่อนข้างโด่งดังและมีเอกลักษณ์ในการต้อนรับลูกค้าเป็นอย่างมากค่ะ ร้านนี้ตั้งอยู่ในเมือง ใกล้กับโรงแรม CBD ...ในช่วงเช้าจะมีลูกค้ามากมายแวะเวียน ผลัดกันเข้าออกร้านนี้อยู่ตลอดเวลาค่ะ และเจ้าของร้านที่หน้าตาดีจริงๆ ก็คอยยืนต้อนรับแขก เรียกแขกเข้าร้านตลอดเวลาด้วยเช่นกัน ลักษณะของร้านเป็นร้านอาหารที่มีเคาน์เตอร์หมูแดง หมูกรอบตั้งอยู่ด้านหน้า เรียกได้ว่าเห็นอาหารในตู้แล้วน้ำลายแทบไหลกันเลยทีเดียวค่ะ ส่วนด้านในเป็นโต๊ะเก้าอี้จัดเหมือนร้านอาหารแบบดั้งเดิมโดยทั่วไป บนโต๊ะจะมีเครื่องปรุงต่างๆ รวมทั้งน้ำราดข้าววางไว้ให้บนโต๊ะเป็นขวดใหญ่เลยค่ะ สำหรับอาหารก็มีทั้งหมูแดง หมูกรอบ กุนเชียง ไก่ ฯลฯ และมีทั้งข้าวสวยและข้าวมัน มีเยอะทำให้เลือกไม่ค่อยถูกเลยค่ะ สำหรับราคาอาหารจานธรรมดาจานละ 30 บาท ส่วนพิเศษจานละ 35 บาท เราก็เลยสั่งข้าวรวมเป็นข้าวสวยไปค่ะ ซึ่งทางร้านจะเสิร์ฟอาหารมาพร้อมกับน้ำซุปและเต้าเจี้ยวข้าวรวมประกอบด้วยหมูแดง หมูกรอบ กุนเชียง หมูหวาน ไข่ต้ม ...จานนี้เราค่อนข้างชอบหมูแดงของเค้านะคะ เป็นหมูแดงที่ไม่แห้งเกินไป ส่วนหมูกรอบนั้นมีมันเยอะไปนิดนึง ส่วนกุนเชียงกับหมูหวานรสชาติค่อนข้างธรรมดาค่ะ น้ำราดที่ทางร้านราดมาให้จะไม่เยอะนัก เพราะทางร้านมีน้ำราดให้เติมได้เองที่โต๊ะอยู่แล้วค่ะ น้ำราดมีกลิ่นหอม มีลักษณะเป็นน้ำหนืดๆ รสชาติค่อนไปทางหวานค่ะ ใครชอบน้ำราดแบบนี้แนะนำให้มาลองร้านนี้เลยมื้อนี้เราสั่งชาดำเย็น และคุณแม่สั่งโอเลี้ยงมากินกันค่ะ ชาดำเย็นร้านนี้ไม่ได้เข้มข้นมาก ส่วนโอเลี้ยงรสชาติมาตรฐานค่ะ

ร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำน้ำข้นทะเลบ้านดอนเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากวัดธรรมบูชาค่ะ โดยหากข้ามถนนจากหน้าวัดมาฝั่งตรงข้ามแล้วให้มองหาซอยไตรอนุสนธิ์ จากนั้นเดินเข้าไปในซอย ร้านจะอยู่ไม่ไกลจากปากซอยนัก และอยู่ทางฝั่งซ้ายมือค่ะลักษณะของร้านเป็นร้านที่มีเคาน์เตอร์ทำก๋วยเตี๋ยวตั้งอยู่ตรงหน้าร้าน มีป้ายติดชื่อร้านชัดเจนทั้งบริเวณเคาน์เตอร์และด้านบนเพดานหน้าร้านเลยค่ะ ด้านในมีโต๊ะประมาณ 9 - 10 โต๊ะ และมีเมนูแผ่นใหญ่แปะไว้บริเวณข้างฝา และที่สำคัญคือมีไวไฟฟรีค่ะ!!!! บร๊ะ...เดี๋ยวนี้ร้านก๋วยเตี๋ยวมีไวไฟแล้วนะคะตัวเธ้อสำหรับเมนูอาหารของร้านก็มีทั้งเมนูก๋วยเตี๋ยวต้มยำ และบรรดาเมนูอาหารตามสั่งแบบจานเดียวค่ะ เช่น ผัดกะเพรา กุ้งอบกระเทียม เมนูข้าวผัด
+ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำน้ำใสหมู (35 บาท)
เป็นก๋วยเตี๋ยวต้มยำน้ำใสรสออกเปรี้ยว แต่ก็ค่อนข้างกลมกล่อมค่ะ ใส่หมูเด้ง และไข่ยางมะตูมมาด้วย+ ข้าวกุ้งอบกระเทียม (50 บาท)
เมนูนี้แนะนำเลยค่ะ ข้าวสวยเสิร์ฟมาร้อนๆ กับกุ้งอบกระเทียมที่เป็นกุ้งสดๆ ผัดกับซอสที่เหมือนใส่มันกุ้งลงไปทำให้มีรสเข้มข้นและหอมมันมาก อร่อยจริงอะไรจริงค่ะ+ ข้าวไข่ข้นต้มยำกุ้ง
เมนูนี้สุดยอดมากกกกกกกก***** จริงๆ ค่ะ คือดีงามอร่ามจิตจริงๆ เป็นข้าวสวยโปะด้วยไข่ข้น แล้วราดด้วยต้มยำกุ้งที่อร่อยมากกกกกกกกกกกกกกก (เว่อร์ไปมั้ย ฮ่าๆ) คืออร่อย รสชาติเข้มข้น ทำให้เราติดใจ ยังอยากกินจนถึงทุกวันนี้เลยค่ะ เสียดายที่เราอยู่ต่างจังหวัด ไม่ได้ไปกินบ่อยๆ (T___T)+ หมูกะเพราราดข้าว
เมนูนี้ของป๊าเราเองค่ะ ป๊าชอบผัดกะเพราหมูชิ้นราดข้าว ทางร้านก็จัดให้ค่ะ ป๊าบอกว่ารสชาติดีค่ะ+ ลูกชิ้นลวกจิ้ม
ลูกชิ้นร้านนี้เนื้อแน่นเด้งดีค่ะ น้ำจิ้มแซ่บมากกก เผ็ดง่ะ แต่อร่อยโดยรวมนะคะ ร้านนี้ถือเป็นร้านที่อาหารอร่อย ราคาไม่แพงเลย มีน้ำแข็งฟรีและน้ำเปล่าฟรีด้วยค่ะ และที่สำคัญคืออาหารทะเลที่ใส่ในอาหารก็สดด้วยค่ะ แม่ค้าบอกว่าไม่ได้สต๊อคอาหารทะเลเอาไว้ และไม่ได้ซื้อครั้งละเยอะมาก ถ้าหมดก็ขับรถไปซื้อที่ตลาดที่อยู่ใกล้ๆ ทำให้ได้อาหารทะเลที่สดเสมอค่ะ
ปล.ข้าวไข่ข้นต้มยำกุ้งคืออร่อยมากกกกกกกกกกกค่ะ

ร้านปั๊มนม เป็นร้านนมที่เพิ่งเปิดใหม่ได้ไม่นานค่ะ โดยตัวร้านจะตั้งอยู่ตรงถนนอำเภอ อยู่ตรงสี่แยกกำนันธรเลยค่ะ จุดสังเกคุคือจะมีป้ายสีเหลืองๆอันใหญ่ ที่มีโลโก้เป็นเสือยืนถือหัวจ่ายน้ำมันอยู่ พร้อมมีชื่อบอกชัดเจนว่าปั๊มนม ใครผ่านไปมารับรองว่าสะดุดตาแน่นอนค่ะ เพราะตัวร้านก็มีสีเหลืองโดดเด่น การตกแต่งมีเอกลักษณ์ดี มีการเพ้นท์ฝาพนังด้วย สวยดีค่ะ ร้านจะเป็นแบบโอเพ่นแอร์โล่งๆ มีทั้งโซนที่มีหลังคาและไม่มีหลังคา ช่วงเย็นๆลูกค้าก็จะมานั่งพักผ่อนหย่อนใจกันค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว โดยโซนที่ได้รับความนิยมมากสุดก็คงจะเป็นโซนที่ไม่มีหลังค่านั่นเอง พระบรรยากาศโล่ง โปรง จะคุยเสียงดัง เฮฮาปาร์ตี้ขนาดไหนก็ไม่ต้องเกรงใจซักเท่าไหร่ 

ส่วนอาหารของที่นี่เค้าไม่ได้มีแค่นมอย่างเดียวนะคะ เป็นร้านนมที่มีเมนูอาหารมากมายทั้งคาวหวาน อาหารจานเดียว ของทานเล่นก็มี ไม่ว่าจะเป็นข้าวไข่เจียว ยำ ลูกชิ้นทอด กะโป๊ะ เน้นเป็นของทอดๆง่ายๆซะส่วนใหญ่ค่ะ

ส่วนเมนูเครื่องดื่มก็มีเยอะเชียว อิตาเลี่ยนโซดาเอย เมนูนมๆเอย ชาต่างๆเอย หรือแม้กระทั่งเมนู18+ ซึ่งเป็นเมนูที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ก็มีนะ โดยชื่อเรียกก็คือเมนู "เมานม" นั่นเอง แต่โดยส่วนตัวไม่ได้สั่งมาลองทานนะคะ ทานแค่อาหารทานเล่นเบาๆกับเครื่องดื่มสวยๆ555
ซึ่งที่ได้ทานก็คือ

-เอ็นไก่ทอด(50฿) เอ็นไก่ทอดธรรมดาทอดมาร้อนๆขนาดไม่เยอะเท่าไหร่(นับชิ้นได้)ทานเล่นๆเพลินดีค่ะ แต่อาจจะน้อยไปหน่อยเลยสั่งเพิ่มอีก1จาน

-ข้าวไข่เจียวปูอัด(45฿) ข้าวไข่เจียวทรงเครื่อง ใส่ผักนิดหน่อยพร้อมกับปูอัด รสชาติกลางๆ ทานประทังความหิวได้ดี

-กะโป๊ะทอด(40฿)กะโป๊ะปลาชิ้นหนาๆทอดร้อนๆ ทานคู่กับน้ำจิ้มไก่อร่อยตามแบบฉบับกะโป๊ะทั่วไป

-ยำวุ้นเส้นทะเล(50฿) จานนี้รสชาติเปรี้ยวนำ โดยส่วนตัวคิดว่าไม่ค่อยถึงเครื่องซักเท่าไหร่ มันออกเปรี้ยวไปจนขาดอะไรไปหลายๆอย่าง จานนี้เลยไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ค่ะ

-สลัด(40฿) สลัดชามไม่ใหญ่ไม่เล็ก เหมาะสำหรับทานคนเดียว น้ำสลัดกลางๆ 

เครื่องดื่มสั่งมาเป็น
-น้ำผึ้งมะนาวปั่น(35฿)รสชาติกลางๆ มะนาวที่ใช้เป็นน้ำมะนาวสังเคราะห์เข้มข้น รสชาติเลยไม่ค่อยสดชื่นเท่าไหร่

-ลิ้นจี่โซดา(30฿) อันนี้รสชาติเหมือนร้านอื่นทั่วไปแบบสไตล์น้ำโซดาต่างๆ

-ชานมเนสที(35฿) ชานมเนสทีสำเร็จรูปใส่นมรสชาติทั่วไปค่ะ

สำหรับรสชาติอาหารร้านนี้โดยส่วนตัวถือว่าพอใช้ค่ะ ราคาไม่แพง ราคาเหมาะสมกับปริมาณอาหาร 

การบริการก็โอเคดีนะ เวลาสั่งอาหารก็จะมีใบมาให้ติ๊กๆแล้วเรียกพนักงานมารับ

สถานที่บรรยากาศโดยรวมชิลล์ดีค่ะ มีที่จอดรถสะดวกดี

รวมๆแล้วร้านนี้เหมาะกับการชวนเพื่อนๆ เด็กๆมานั่งหาอะไรทานเล่นกันมากกว่าทานจริงจังค่ะ เน้นมานั่งคุยกันมากกว่า สั่งเครื่องดื่มของทานเล่นมาประกอบการสนทนาก็ชิลล์ดีไปอีกแบบค่ะ

ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามมาซักพักนึงแล้วสำหรับร้าน "กะปิ" แห่งนี้ ใครๆเค้าก็ต่างไปเช็คอินกันแล้วบอกมาว่าอาหารที่นี่อร่อย พอได้ยินเช่นนั้นก็ไม่รอช้ารีบตามกระแสไปลองทานทันที

ร้านนี้เพิ่งเปิดได้ไม่นานเท่าไหร่ค่ะ แต่ลูกค้าของที่นี่ก็เยอะใช้ได้ ไปทานอาหารช่วงเที่ยงๆนี่คนแน่นเลยทีเดียว

ส่วนทำเลที่ตั้งของร้านนี้ก็หาไม่ยากค่ะ ร้านตั้งอยู่ตรงสี่แยกกำนันธร ตรงที่มีต้นไม้เยอะๆหน่อยอะค่ะ มีป้ายชื่อร้านชัดเจน ลักษณะตัวร้านเป็นสไตล์ล๊อฟ โมเดิ้น เท่ๆ ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ มีที่นั่งประมาณ 30-40 ที่ มีทั้งโซน indoor. และ outdoor ภายในร้านตกแต่งแบบเรียบง่าย น่านั่งดีค่ะ

ส่วนอาหารของที่จะเน้นเป็นอาหารปักษ์ใต้ เป็นพวกกับข้าวไม่มีอาหารจานเดียว เมนูมีให้เลือกค่อนข้างเยอะ อาหารที่ลองสั่งมาทานมี3อย่างค่ะ

1.หลนไข่ปู (150฿)
อันนี้มาเป็นหลนจานใหญ่ มีไข่ปูผสมอยู่พอประมาณ ข้างจานมีผักมาใหเทานคู่กันหลายชนิด รสชาติของเมนูนี้อร่อย มัน เค็ม ดีค่ะ ชอบนะ

2.แก้งส้มกุ้งสายบัว(180฿)
เมนูนี้มาเสิร์ฟแบบใส่หม้อกึ่งกะทะทองเหลืองเล็กๆ เป็นแกงส้มรสชาติจัดจ้าน หรือที่คนกทม.เรียกว่าแกงเหลืองนั่นเอง อันนี้อร่อยอีกเช่นเคย น้ำแกงส้มเข้มข้น จัดจ้านดี รสชาติเผ็ดพอประมาณ ใส่กุ้งตัวค่อนข้างใหญ่มาให้5-6ตัว สายบัวเข้ากับน้ำแกงส้มดี เมนูนี้คุ้มค่าสมราคาค่ะ

3.หัวปลาต้มเผือก(150฿)
เมนูนี้ก็มาเสิร์ฟแบบใส่หม้อทองเหลืองแบบเมนูที่แล้วเช่นกันค่ะ โดยรสชาติจานนี้จะออกแนวจืดๆหน่อย แต่เค้ามาเสิร์ฟกับถ้วยน้ำจิ้มปลาแบบน้ำจิ้มปลาลวก(น้ำจิ้มเต้าเจี้ยว) ทานคู่กันอร่อยดี

ข้าวเปล่าของที่นี่ราคาชามละ15บาทค่ะ

คราวนี้มาปิดท้ายด้วยของหวานกันบ้างดีกว่า
ตอนแรกก็คิดว่าอิ่มแล้วจะไม่ทานอะไรต่อแต่ก็เหลือบไปเห็นตู้แช่ไอศครีมของร้านนี้เขียนว่าโฮมเมด และไปสะดุดกับไอศครีมฝอยทองเข้าเลยจัดไปอีก1ถ้วย ไอศครีมราคาถ้วยละ45บาทค่ะ เป็นไอศครีมกะทิและมีเนื้อฝอยทองผสมอยู่ รสชาติหวานมันอร่อยดี

สำหรับร้านนี้ถ้าให้พูดถึงความคุ้มค่า ถือว่าคุ้มค่าดีค่ะ อาหารอร่อย ราคาอาจจะดูแรงไปหน่อยแต่เมื่อเทียบกับคุณภาพอาหารและปริมาณบวกรสชาติเข้าไปก็ถือว่าโอเคเลยทีเดียว

การบริการพอใช้ค่ะ พนักงานบางคนอาจดูเนือยๆเหนื่อยๆไป เรียกหลายครั้งกว่าจะมา แต่รวมๆก็ถือว่าบริการดีค่ะ

ร้านนี้ถือเป็นร้านน้องใหม่มาแรงในสุราษฎร์ร้านนึงเลยทีเดียว ตอนนี้ใครๆต่างก็พูดถึงกัน ถ้าหากใครอยากมาทานอาหารปักษ์ใต้อร่อยๆ ในร้านบรรยากาศดีๆ แนะนำร้านนี้เลยค่ะ

ร้านนี้เป็นร้านน้องใหม่ในสุราษฎร์ค่ะ เป็นร้านอาหารฟิวชั่นที่ตกแต่งร้านได้ดูดีมีสไตล์ร้านนึงเลยทีเดียว
โดยตัวร้านจะตั้งอยู่ในซอยข้างโรงเรียนเทพมิตรศึกษา ซอยที่มีธนาคาธนชาติและธนาคารไทยพาณิชย์อยู่หน้าซอย หรือถ้าใครรู้จักร้านอาหารญี่ปุ่นฮาชิ จะบอกว่าอยู่ซอยเดียวกันเลยค่ะ ตัวร้านจะอยู่ต้นซอยเลย หาไม่ยาก ให้สังเกตตึก2คูหาที่ตกแต่งหรูๆเอาไว้ค่ะ นั่นแหละใช่เลย มาถึงแล้วละ
บรรยากาศภายในร้านน่านั่งดีค่ะ ร้านตกแต่งโทนขาวๆ มีที่นั่งค่อนข้างเยอะพอสมควร มีมุมหลายมุมให้เลือกนั่งตามชอบทั้งแบบโต๊ะเดี่ยว โต๊ะใหญ่ 
มาถึงอาหารกันบ้างค่ะ ที่นี่มีเมนูให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย อาหารจะมีทั้งอาหารพื้นบ้าน อาหารฝรั่ง หรือแนวฟิวชั่น มีอาหารทั้งคาวและหวาน มีเมนูที่น่าสนใจเยอะดีค่ะ
ลองสั่งอาหารมาทานสองสามอย่างมาทานคือ

-พิซซ่าต้มยำกุ้ง (157฿)
พิซซ่าแป้งบางกรอบ ไซส์ไม่ใหญ่มาก มีประมาณ8ชิ้น รสชาติอร่อยใช้ได้ หน้าพิซซ่ารสต้มยำจะไม่ค่อยออกรสต้มยำจัด เป็นรสอ่อนๆแต่ก็รับรู้ได้ว่าเป็นต้มยำ มีกุ้งตัวไม่ใหญ่อยู่บนหน้าทุกชิ้น ด้านบนมีชีสและโรยด้วยไข่กุ้งเพิามความอร่อยของพิซซ่ายิ่งไปอีก สำหรับเมนูนี้ชอบมากค่ะ อร่อยอ่ะ

-พิซซ่าฮาวายเอี้ยน(137฿) พิซซ่าแป้งบางกรอบหน้าฮาวายเอี้ยนก็ต้องมีแฮมและสัปปะรสตามแบบฉบับ มีชีสอยู่ด้านบน รสชาติอร่อยดีเหมือนพิซซ่าต้มยำกุ้ง แต่โดยส่วนตัวจะชอบต้มยำกุ้งมากกว่าค่ะ

-แซลม่อลแซ่บ(167฿)
แซ่ลม่อนสดแล่บางๆราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บจัดจ้านวางมาบนผัก จานนี้อร่อยแซ่บถึงใจดีค่ะ

-ทอดมันข้าวโพดก้ามปู(157฿) อันนี้น้องพนักงานเค้าแนะนำมาค่ะ จะเป็นทอดมันข้าวโพดที่มีก้ามปูเป็นด้ามจับชิ้นพอดีคำ วางในถ้วยโดยข้างในถ้วยจะมีน้ำจิ้มไก่ไว้ให้คอยจิ้ม การนำเสนอครีเอทดีค่ะสำหรับเมนูนี้

-เครื่องดื่มสั่งเป็น ช็อคโกแลตเย็น (60฿) รสชาติกลางๆ ไม่ขมและไม่หวานจนเกินไป ด้านบนช๊อคโกแลตมีฟองนมค่อนข้างเยอะดีค่ะ ตกแต่งด้วยธงที่เป็นสัญลักษ์ร้านไว้ด้านบนดูเก๋ดี

เมื่อทานอาหารคาวเสร็จ ก็ต้องปิดท้ายด้วยของหวาน ที่นี่มีเมนูของหวานแบบทำกะนสดๆอยู่ประมาณ4-5เมนู แต่ลองสั่งมาชิมแค่อย่างเดียวก่อน เลยเลือกเป็น
-บิงซูรสสตอเบอรี่ชีสเค้ก (150฿)
บิงซูไซส์เล็กรสสตอเบอรี่ปรี้ยวๆ ถ้วยไม่ใหญ่มาก ทานคนเดียวก็พอไหวอยู่ค่ะ ด้านในข้างใต้บิงซูเป็นชีสเค้กก้อนโตๆ3-4ชิ้น รสชาติอร่อยดีนะ รวมๆก็ชอมค่ะเมนูนี้ ทานแล้วสดชื่นดีค่ะ

ราคาอาหารอาจจะสูงนิดนึงแต่เหมาะสมกับคุณภาพและรสชาติอาหารดีค่ะ 

อาหารอร่อยดีค่ะ ถ้ามีโอกาสจะไปลองเมนูอื่นเพิ่ม

รวมๆถือว่าร้านนี้เป็นอีกหนึ่งร้านใหม่ที่อยากแนะนำร้านนึงเลยค่ะ อาหารอร่อย บริการก็โอเคนะ ร้านสวยดี หากใครที่กำลังมองหาร้านสบายๆนั่งชิวๆในเมืองร้านนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีค่ะ

ร้านนี้เป็นร้านที่เพิ่งเปิดใหม่ ที่ตั้งอยู่ตรงเชิงสะพานในลึก ตัดใหม่ ร้านอยู่ตรงเวิ้งเดียวกับสนามฟุตซอล(อยู่ตรงกันข้ามกัน) โดยตัวร้านเป็นร้านสีขาวชั้นเดียวแบบเรียบง่าย ด้านหลังติดแม่น้ำ มีโซน outedoor และ indoor ด้านหลังตรงริมแม่น้ำจะมีเก้าอี้ให้นั่งด้วยนะ ถ้าใครอยากนั่งชมวิวธรรมชาติริมแม่น้ำด้านนอกก็สามารถเลือกนั่งด้านหลังได้ค่ะ แต่ด้านหลังจะเหมาะแก่การนั่งชิลล์ๆมากกว่า 

ร้านนี้ดูมีกิมมิคพอควรค่ะ เริ่มจากตั้งแต่ที่หน้าร้าน ก่อนเข้าร้านจะมีตุ๊กตาต่างๆตั้งอยู่ ให้ลูกค้าเลือกตุ๊กตาเป็นชื่อโต๊ะ พูดง่ายๆก็คือมันก็เหมือนกับเลขโต๊ะที่ให้เราหยิบไปจองโต๊ะเพื่อให้เค้ามาเสิร์ฟอาหารให้เราถูกนั่นเอง 

เมื่อเลือกตุ๊กตาตามที่ชอบได้แล้วก็ไปสั่งอาหาร พนักงานก็จะนำเมนูมาให้เลือก พร้อมคอยอธิบายในบางเมนูที่เราไม่ค่อยจะมั่นใจว่ามันคืออะไร น้องๆพนักงานที่ร้านบริการดีค่ะ 

ส่วนเมนูอาหารที่ร้านจะมีทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน อาหารจะเป็นแนวฟิวชั่น

อาหารที่ได้ลองสั่งมาทานคือ
1.สลัดแซลมอน น้ำสลัดวาซาบิ (139฿)
อันนี้เป็นสลัดผักที่มีแซลมอนสุกโรยหน้ามาด้านบน เสิร์ฟพร้อมน้ำสลัดครีม และมีซอสญี่ปุ่นพร้อมวาซาบิมาให้ด้วย
รสชาติก็อร่อยดีค่ะ น้ำสลัดเข้มข้นดี ผักสดใช้ได้ รวมๆก็โอเคนะสำหรับจานนี้

2.เมี่ยงญี่ปุ่น (179฿)
อันนี้ถามน้องพนักงานว่ามีอะไรแนะนำบ้าง น้องเค้าก็แนะนำจานนี้มา ก็เลยลองสั่งมาดู เมนูนี้ก็มาเสิร์ฟแบบเมี่ยงคำ แต่เปลี่ยนวัตถุดิบเป็นญี่ปุ่นทั้งหมด โดยใช้สาหร่ายแผ่นเป็นเหมือนตัวใบไม้ห่อเมี่ยง ส่วนเครื่องเคราต่างๆก็มีกุ้ง ไข่หวาน สาหร่ายเย็น ไข่กุ้ง(จริงๆมันคือไข่ปลาใส่สี แต่เรียกไข่กุ้งกัน) ผัก ใส่มาในถ้วยเล็กๆ(แบบแก้วช๊อท)และมีน้ำราดเป็นซอสโชหยุ เวลาทานก็ห่อทั้งหมดลงไปในสาหร่าย ลักษณะการทานก็แบบเมี่ยงนั่นแหละ 

รสชาติก็โอเคนะ เมนูนี้แปลกๆดี มันเข้ากันนั่นแหละ อารมณ์แบบเทมากิ แค่ไม่มีข้าว 

3.ผักโขมอบชีส (79฿)
ผักโขมอบชีสชามไม่เล็กไม่ใหญ่ รสชาติโอเค

4.ช๊อคโกแลตลาวา (60฿)
ทานของคาวกันแล้วก็ต้องปิดท้ายด้วยของหวานกันบ้าง
สั่งช๊อคลาวามาทาน รสชาติธรรมดา ไม่ค่อยหวือหวาเท่าไหร่ อันนี้เลยรู้สึกเฉยๆ

5.โกโก้ปั่น (85฿)
เครื่องดื่มที่สั่งประจำก็คือโกโก้ อันนี้สั่งแบบปั่น รสชาติก็โอเคนะ

6.ไวค์ช๊อคมิ้นโซดา (55฿)
เมนูเครื่องดื่มมีกิมมิค มาเสิร์ฟแบเป็นขวดๆให้เราเทใส่แก้วเอาเอง ส่วนรสชาติโอเคนะ สดชื่นดี

สำหรับร้านนี้ถือเป็นร้านน้องใหม่มาแรงร้านนึงในสุราษฎร์เลยทีเดียว เป็นร้านที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองดี 

ร้านน่านั่ง รูปแบบร้านดูทันสมัย

พนักงานบริการดี 

ราคากลางๆ ไม่ถึงกับแพงมาก

รสชาติอาหารโอเค

สำหรับใครที่กำลังมองหาร้านนั่งชิลล์ๆ จิบเครื่องดื่มเบาๆ ทานอาหารในบรรยากาศสบายๆในเมืองสุราษฎร์ แนะนำร้านนี้เลยค่ะ

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าไอเดียเจ๋งๆเป็นอีกหนึ่งจุดขายสำคัญของร้านอาหารเปิดใหม่ในทุกวันนี้ เราจะเห็นได้จากแต่ละร้านพยายามคิดหา theme คิดเมนูใหม่ๆ และหากลยุทธใหม่ๆในการดึงดูดลูกค้าเสมอๆ what the duck cafe เป็นอีกหนึ่งร้านที่พยายามแหวกความซ้ำซากจำเจของตลาดร้านกาแฟที่มีอยู่เกลื่อนเมือง โดยการนำ theme เป็ดน้อย rubber duck มาเป็นจุดเด่นของร้าน โดยเฉพาะเจ้าเป็ดลมสีเหลืองยักษ์ขนาดใหญ่กว่า 2 เมตร ที่กระแทกตาผู้พบเห็นจนต้องชะลอรถดู นับเป็นจุดขายที่สำคัญของร้านที่เรียกลูกค้าหน้าใหม่ได้ไม่น้อยทีเดียว ตัวแอมเองก็ได้มีโอกาสไปลองชิมที่ร้านนี้มาเช่นกัน ซึ่งแอมต้องขอบอกเลยว่าร้านนี้ไม่ได้มีดีแค่เป็ดสวยๆน๊าาา แต่ความหลากหลายของอาหาร และรสชาติอาหารที่นี่ก็เด็ดไม่แพ้เจ้าเป็ดยักษ์ที่นั่งยิ้มตาแป๊วอยู่ข้างร้านแน่นอน=-= สถานที่ตั้ง และการเดินทาง =-=

ร้าน What the duck cafe ตั้งอยู่ที่อ.พุนพิน นอกตัวเมืองสุราษฯ โดยตั้งอยู่บนถนนที่เป็นทางผ่านไปสนามบินสุราษฯค่ะ ใครแวะไปเที่ยวสุราษสามารถแวะนั่งชิลก่อนขึ้นเครื่องกลับได้สบายๆนะ
การเดินทาง ถ้ามาจากในเมืองให้วิ่งมุ่งหน้าไปทางทางหลวงหมายเลข 41 แล้วเลี้ยวซ้ายไปทางโรงพยาบาลท่าโรงช้าง ขับเลยรพ.ไปจะเจอสี่แยกใหญ่ จากแยกนั้นขับตรงต่อมาเรื่อยๆสัก 1 กิโลจะเจอร้านอยู่ขวามือ ให้สังเกตเป็ดไซส์ใหญ่จัมโบ้ที่เห็นเด่นเป็นสง่าแล้วเตรียมหาที่เลี้ยวกลับรถได้เลยยย

=-= บรรยกาศ =-=
เป็น cafe ตกแต่งแนว minimal งานปูนขัดมัน เฟอร์นิเจอร์งานไม้เบาๆ เก๋ แต่ก็เรียบง่าย บรรยกาศเหมาะมานั่งพักผ่อนหย่อนใจ แต่ก็แฝงไปด้วยของตกแต่งแนวมุมิ เป็นเป็ดน้อยรูปแบบต่างๆเต็มไปหมด นอกจากนี้บริเวณลานข้างร้านยังตกแต่งด้วยเป็ด Mascot สีเหลืองจ๋อยตัวยักษ์ ที่รับรองว่าใครเห็นจะต้องกรีดร้อง วิ่งเข้าไป selfie อย่างบ้าคลั่ง 5555 เรียกว่าเป็น Superstar ที่ขโมยซีนสุดๆไปเลย การมานั่งทานอาหารร้านนี้จึงให้อารมณ์แบบ นั่งจิบกาแฟไป เหล่เป็ดไป เล่นเป็ดไป เพลินใจเป็นที่ซู๊ดดด=-= เมนูที่ได้ชิม =-=

นอกจากเจ้าเป็ดเหลืองตัวเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของทางร้านแล้ว ที่นี่ยังมีเมนูเครื่องดื่ม-อาหารทั้งคาวหวานให้ลิ้มลองกันหลายเมนูเลยค่ะ ซึ่งทางเจ้าของกระซิบมาว่าเมนูทางร้านจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆ เนื่องจากต้องการปรับเปลี่ยนให้ถูกใจลูกค้ามากที่สุด แต่รับรองว่าเมนูที่คัดมาไว้เป็นเมนูประจำจะเป็นเมนูที่อร่อยเด็ดแน่นอนค่ะ

{BEVERAGE}

- นมเย็นปั่น ☆☆☆☆ นมเย็นสีชมพูหวานๆ เหมาะกับผู้หญิงหวานๆอย่างหนู 55 ถ้วยนี้แอมสั่งแบบปั่นมา รสชาติหวานมัน ทานแล้วสดชื่น ถ่ายรูปก็สวย คิคิ- Blue Hawaii Italian soda ของคนอื่นอีกแย้ว จิ๊กมาถ่ายรูปเฉยๆ ถ้วยนี้สีสดชื่นดีนะคะ{FOOD}

- ไส้กรอกทอด ☆☆☆☆กับแกล้มมาเสริฟเราชอบที่เค้าเสริฟมาแบบหั่นชิ้นๆเรียบร้อยพร้อมทาน ชิมดู ไส้กรอกใช้ของเกรดดี ไม่ใช่สไตล์แป้งๆ ทอดมาแบบกำลังดีไม่อมน้ำมัน จิ้มทานกันเพลิน แปปๆเกลี้ยง อิอิ- ปีกไก่ทอด ☆☆☆☆ ของทอดกินเล่นอีกจานเป็นปีกไก่ทอด ปรุงรสมาแบบเข้มข้นดี ไม่ต้องจิ้มซอสก็อร่อยได้ เค็มๆหอมๆกำลังดี แทะเพลินกันปากมัน XD- เสต็กปลาแซลมอน ☆☆☆☆ จานหลักจานแรกเป็นเสต็กปลาแซลม่อนค่ะ ราคาประมาณ 170 บาท ถือว่าไม่แพงจนเกินไปน๊าา เค้าปรุงรสหมักเกลือพริกไทย จี่ไฟทอดมาอ่อนๆ แบบจิ้มไปเนื้อในยังชุ่มฉ่ำ ไม่กระด้าง ใครชอบปลาแซลมอนสั่งมาลองได้เลย ไม่ผิดหวังง- สเต็กพอร์คชอพ ☆☆☆☆☆ จานนี้มาจานใหญ่คุ้มราคาร้อยต้นๆมากค่ะ พอร์คชอพที่นี่เค้าปรุงรสหมักเอง รสชาติดี เสริฟมาชิ้นใหญ่สะใจ ลองหั่นชิมดูเนื้ออย่างนุ่ม เคี้ยวเพลิน แปบๆหมดจาน เป็นอีกเมนูเอกของร้านที่คุ้มค่า น่าสั่งจริงค่ะ- สปาเกตตี้เส้นดำผัดกุ้งโรยไข่กุ้ง ☆☆☆☆☆ เป็นสปาเกตตี้ผัดแบบแห้งใส่พริกแห้งคั่วเคล้ากับกระเทียม รสชาติจัดว่าแซ่บแบบกำลังดี ไม่ต้องกินไปเหงื่อตกไป เมนูนี้ใส่กุ้งสดเด้งให้กินแกล้มด้วย แถมด้วยการโรยไข่กุ้ง ให้รสสัมผัสเคี้ยวกรุบๆเบาๆ เป็นอีกหนึ่งเมนูรสชาติดีที่เราปลื้ม และอยากแนะนำให้ลองทานกันค่ะ{DESSERT}

- Red Velvet Cake ☆☆☆☆☆ เค้กเนื้อกำมะหยี่สุดป๊อบก็มีขายที่นี่ด้วยค่ะ แอมชิมแล้วว่าอร่อยใช้ได้เลยนะ ปกติถ้าเจอร้านทำตัวนี้ไม่เก่ง ตัวเค้กจะเป็นเค้กฟองน้ำสีแดงแบบกระด้างๆ แต่ของร้านนี้เนื้อมันฉ่ำๆแบบที่ควรเป็น ตามฉบับ cake ที่ใส่ butter milk ส่วนครีมชีสของเค้าก็รสดีอมเปรี้ยวนิดๆ ทานด้วยกันแล้วอร่อยไม่แพ้ร้านดังๆในกทม.เลย- นอกจากนี้ยังมีcake อีกหลายชนิดเช่น Chocolate cake, เค้กฝอยทอง ซึ่งแอมไม่ได้ชิมค่าา แต่แอบถ่ายรูปมาฝากนะ คนที่ชิมบอกว่ารสชาติอร่อยดีเลยค่ะ** ข้อมูลราคาแต่ละจานจำไม่ได้เลยค่ะ ขออภัยจริงๆ แต่เมนูเครื่องดื่มจะประมาณแก้วละ 60-80 บาท อาหารจานละ 80-200 กว่าๆ ประมาณนี้ **

โดยรวมเป็นร้านอาหาร cafe ที่บรรยกาศอบอุ่นเหมาะกับทุกคนในครอบครัวนะคะ เวลาแอมไปนั่งจะเจอครอบครัวพาลูกเด็กเล็กแดงมาทานกันเต็มเลย เด็กๆทุกคนดูชอบใจกับของเล่นพี่เป็ดเหลืองเต็มร้าน กลุ่มเพื่อนวัยรุ่นก็มีมานั่งชิลล์กันเยอะเหมือนกัน เรียกว่าน่าจะถูกใจทุกเพศทุกวัย แอมว่าจริงๆร้านนี้ไม่ได้มีดีแค่เป็ดเหลืองนะ เราว่าบรรยกาศ cafe ที่นี่ค่อนข้างล้ำมากเมื่อเทียบกับร้านหลายๆร้านในตัวเมืองเลยล่ะ เวลาไปนั่งเราจะรู้สึกเหมือนเรานั่ง cafe ดีๆในกรุงเทพเลย อาหารโดยรวมจัดว่ารสชาติดีใช้ได้ คุ้มราคา จัดเป็นอีกหนึ่ง Landmark ที่น่าจะป๊อบในเมืองสุราษแน่นอนค่ะ