ใครที่มีใจรักในอาหารย่อมเคยได้ยินชื่อรางวัล Michelin Star หรือคำว่า Michelin Guide ผ่านหูกันมาบ้าง เพราะรางวัลนี้สำคัญอย่างยิ่งชนิดที่ถือได้ว่าเป็นประดุจ รางวัลออสการ์แห่งวงการอาหาร เลยทีเดียว
ว่าแต่ มิชลินสตาร์คืออะไร? ต่างอะไรกับมิชลินไกด์? แล้วมัน เกี่ยวอะไรกับยางรถยนต์มิชลินที่มีโลโก้เป็นหุ่นสีขาวตัวเป็นชั้นๆรึเปล่า?
มิชลินไกด์ (Michelin Guide) คืออะไร?
มิชลินไกด์คือ หนังสือนำเที่ยวสีแดง เล่มเล็กๆ ที่พี่น้องชาวฝรั่งเศสผู้ก่อตั้งบริษัทผลิตยางรถยนต์ Michelin จัดทำขึ้นในปี 1889 เพื่อสนับสนุนให้คนขับรถออกไปเที่ยวและกินของอร่อยกันมากขึ้น
จุดเด่นที่สุดของมิชลินไกด์คือการมอบรางวัลให้แก่สุดยอดร้านอาหารต่างๆ ในหลากหลายประเทศ แบ่งประเภทรางวัลออกเป็นหลายแบบ ภายใต้ เกณฑ์การตัดสิน ของมิชลินไกด์ 5 ข้อ คือ คุณภาพของอาหาร ความเชี่ยวชาญในการปรุงอาหาร ความสร้างสรรค์ของเชฟ ราคา และ ความสม่ำเสมอของคุณภาพ
สิ่งที่ทำให้รางวัลจากมิชลินไกด์โดดเด่นมากในหมู่นักชิมอาหารก็คือ ความเที่ยงตรง เพราะมิชลินไกด์ไม่รับเงินสนับสนุนใดๆ จากร้านอาหารหรือบริษัท อีกทั้งคณะกรรมการตัดสินยังปลอมตัวไปใช้บริการในฐานะลูกค้าธรรมดา และไม่ประกาศล่วงหน้าว่าจะไปอีกด้วย
แล้วมิชลินสตาร์ (Michelin Star) ล่ะ?
มิชลินสตาร์ (Michelin Star) คือระบบหนึ่งในการให้รางวัลของมิชลินไกด์ ระบบนี้จะให้รางวัลเป็น “ดาว” ตั้งแต่ 0 - 3 ดาว
1 ดาว คือร้านอาหารคุณภาพเยี่ยมในหมู่ร้านแนวเดียวกัน
2 ดาว คือร้านอาหารที่ยอดเยี่ยม คู่ควรแก่การขับรถออกนอกเส้นทางไปเพื่อกิน
3 ดาว คือร้านอาหารชั้นเลิศที่โดดเด่นจนควรหาทางไปกินให้ได้สักครั้งในโอกาสพิเศษ
นอกจากมอบดาวมิชลินสตาร์แล้ว มิชลินยังมีรางวัลอะไรอีก?
Bib Gourmand เป็นหนึ่งในรางวัลมิชลินที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักนัก รางวัลนี้จะมอบให้ร้านอาหารคุณภาพเยี่ยมที่เสิร์ฟอาหารใน ราคาเป็นมิตร ต่างจากรางวัลมิชลินสตาร์ซึ่งมักจะมีราคาสูง โดยคำว่า Bib นั้นมาจากชื่อเล่นของเจ้าหุ่นมาสคอตสีขาวตัวเป็นชั้นๆ ของบริษัทมิชลินนั่นเอง
Street food, Gastropubs รางวัลมิชลินเป็นรางวัลที่ปรับตัวตามยุคสมัยอยู่เสมอ ในหนังสือมิชลินไกด์ของไอร์แลนด์ปี 2014 จึงเริ่มมีหมวดหมู่ร้าน Gastropubs หรือร้านอาหารกึ่งผับที่ได้รับความนิยมอย่างสูงขึ้นมา และในมิชลินไกด์ของสิงคโปร์ปี 2016 ได้เริ่มมอบรางวัลมิชลินสตาร์ให้กับร้าน Street food เป็นครั้งแรก เช่นเดียวกันกับมิชลินไกด์ของฮ่องกงและมาเก๊า
นี่เป็นเพียงแค่รูปจำลองเท่านั้น กรรมการของจริงไม่มีทางได้สิทธิพิเศษแบบนี้นะเออ
ใครเป็นคนตัดสินรางวัลมิชลิน
รางวัลมิชลินจะตัดสินโดย เหล่ากรรมการนิรนาม ซึ่งทำงานให้มิชลิน ทุกคนจะต้อง ไม่เปิดเผยตัวตน ทางร้านจะไม่รู้ว่านี่คือกรรมการมิชลิน การเข้าไปกินอาหารที่ร้านแต่ละครั้งจะเข้าไปในฐานะลูกค้าธรรมดาทั่วไป จ่ายค่าอาหารเอง ไม่มีอภิสิทธิ์ใดๆ เพื่อให้ได้ผลที่เที่ยงตรงและได้สัมผัสบริการตามปกติของที่ร้านโดยแท้จริง นอกจากนี้ยังต้องไปกินซ้ำเพื่อดูความสม่ำเสมอของรสชาติอาหารและบริการด้วย
การตัดสินของมิชลินเป็นไปตามหลักการสำคัญ 6 ข้อ นั่นก็คือการไปชิมแบบไม่เปิดเผยตัวตน ความอิสระ ความเชี่ยวชาญของกรรมการ ความเชื่อถือได้ ความมุ่งมั่น และคุณภาพ ซึ่งกรรมการของมิชลินจะยึดหลักเหล่านี้อย่างเคร่งครัด เพื่อให้แน่ใจว่าทุกประเทศได้รับรางวัลมิชลินภายใต้มาตรฐานเดียวกัน
ร้านอาหารของไทยมีร้านไหนได้รางวัลมิชลินสตาร์แล้วหรือยัง
คำตอบคือ ยัง เพราะประเทศไทยยังไม่มีมิชลินไกด์เป็นของตัวเอง ในเอเชียตอนนี้มีประเทศที่ได้รับรางวัลมิชลินสตาร์เพียง 6 ประเทศเท่านั้น ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น ฮ่องกง มาเก๊า สิงคโปร์ และเกาหลีใต้
ถึงแม้ไทยเราจะยังไม่มีมิชลินไกด์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่มีโอกาสลิ้มรสอาหารระดับรางวัลมิชลิน เพราะเหล่าเชฟจากร้านมิชลินสตาร์หลายคนได้มาเปิดร้านอาหารในไทยแล้ว เช็กพิกัดของ ร้านระดับมิชลินสตาร์ในไทย ได้ตามด้านล่างนี้เลย
J’aime ของเชฟมิชลิน 3 ดาว Jean-Michel Lorain
Vogue Lounge ของเชฟมิชลิน 2 ดาว Vincent Thierry
L'Atelier de Joel Robuchon ของเชฟมิชลิน 2 ดาว Olivier Limousin
Nahm ของเชฟมิชลิน 1 ดาว David Thompson
Savelberg ของเชฟมิชลิน 1 ดาว Henk Savelberg
ไปตะลุยชิมร้าน Michelin Star ราคาเอื้อมถึงในฮ่องกงกับ OpenRice ได้ที่นี่ คลิก
Credit: guide.michelin.com.hk/en, wikipedia.org
Picture credit: myhubs.org, sf.eater.com, thetaste.ie/wp,
vennellsrestaurant.co.uk, ndtv.com, businessinsider.com, blog.visitlondon.com