Nippon Kai Market ร้านอาหารญี่ปุ่น สุขุมวิท 53 อร่อยเป็นกรัม รสชาติฟินทุกคำ
2015-04-27
เวลานั่งดูรายการอาหารญี่ปุ่น จะรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับตลาดญี่ปุ่นทุกครั้ง เพราะเราเองก็เป็นอีกคนที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่น เมื่อได้เห็นตลาดปลาที่อุดมไปด้วยปลาหลากหลายชนิดนำมาแล่เป็นซาชิมิให้ชิมกันสดๆ หรือตลาดสดที่วางเรียงรายผักผลไม้สีสันสดใสน่ากิน เนื้อวัวพรีเมียมสายพันธุ์ต่างๆ ที่มีลวดลายสวยงาม ยอมรับเลยค่ะว่าแค่เห็นก็น้ำลายสอแล้ว แต่ตอนนี้ไม่ต้องไปไกลถึงญี่ปุ่นก็ได้สัมผัสรสชาติความสดใหม่ของวัตถุดิบเหล่านี้ เพราะเมืองไทยเองก็มีนิปปอน ไก มาร์เก็ต (

Nippon Kai Market

) ตลาดของสดที่ขนทัพวัตถุดิบชั้นดีมาจากประเทศญี่ปุ่นส่งตรงถึงเมืองไทยเหมือนเรากำลังช้อปปิ้งวัตถุดิบอยู่ที่ญี่ปุ่นเลยล่ะ ที่นี่เป็นทั้งตลาดของสดและ

ร้านอาหารญี่ปุ่น

 รวมอยู่ในที่เดียวกัน เพียงคุณเลือกวัตถุดิบที่ต้องการ แล้วเลือกเมนูที่ถูกใจ จากนั้นก็ไปนั่งรอเพลินๆ ที่โต๊ะ เพียงไม่นานจานอร่อยก็พร้อมเสิร์ฟให้ถึงที่

 

ร้านอาหารนิปปอน ไก มาร์เก็ต (Nippon Kai Market) แหล่งรวมวัตถุดิบสดใหม่จากแดนอาทิตย์อุทัย มาเสิร์ฟเป็นเมนูอร่อยโดนใจด้วยราคาสุดคุ้ม

 

สำหรับที่ตั้งของร้านอาหารญี่ปุ่น นิปปอน ไก มาร์เก็ต (Nippon Kai Market) นั้นอยู่ที่ 9:53 Community Mall ซอยสุขุมวิท 53 เข้าซอยมาเพียง 500 เมตรก็จะเจอกับร้าน ให้สังเกตตึกสีดำขลับเด่นด้วยเงาไม้ที่ทอดสะท้อนกับกระจกโดยรอบของร้าน

 

เดินเข้ามาด้านในร้านก็สะดุดตากับตู้กระจกขนาดใหญ่ที่ใส่วัตถุดิบต่างๆ ซึ่งอิมพอร์ตมาจากประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งซอสญี่ปุ่นนานาชนิด ให้เราได้ช้อปปิ้งนำกลับไปปรุงอาหารได้เองที่บ้าน

 

ตู้แรกที่เห็นจะเป็นพวกอาหารทะเลต่างๆ เช่น ปลาหมึกยักษ์ ไข่หอยเม่น ไข่ปลาแซลมอน และหอยเชลล์ชิ้นโต

 

ต่อมาจะเป็นตู้เนื้อขั้นเทพทั้งหลาย นำเสนอเนื้อวัวสายพันธฺุ์ดีที่คนไทยนิยมมาให้เลือกลิ้มลอง ทั้งเนื้อมัตสึซากะและเนื้อโกเบ 

 

ถัดไปเป็นตู้ที่แช่วัตถุดิบสำหรับ Take Home ที่ทางร้านจัดเตรียมไว้ให้เลือกช้อป ทั้งปลาแซลมอน ยำสาหร่าย ปลาชนิดต่างๆ ที่หาทานได้ยากในเมืองไทย อย่างเช่นเบค่อนปลาวาฬ! 

 

นอกจากบรรดาเนื้อสัตว์ต่างๆ ที่นำเข้ามาแล้ว ที่นี่ยังมีชีส สตรอเบอร์รี่ มะเขือเทศ รวมไปถึงผักผลไม้อื่นๆ ตามฤดูกาลมาจำหน่ายด้วยนะ ยิ่งได้ทานชีสกับเครื่องดื่มต่างๆ ที่ทางร้านอิมพอร์ตมาด้วยแล้วก็ยิ่งฟินอย่าบอกใคร

 

เอาใจนักดื่มด้วยเหล้าญี่ปุ่นที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย

 

 

เดินดูวัตถุดิบชั้นล่างกันจนหนำใจ ก็ขอแวะเวียนมาชมบรรยากาศของร้านที่ชั้น 2 กันบ้าง ที่ร้าน Nippon Kai Market แบ่งโซนที่นั่งหลักออกเป็น 2 โซน คือซูชิบาร์ชั้นล่าง กับโซนที่นั่งชั้น 2 ที่เหมาะแก่การมาอิ่มอร่อยยกแก๊งกับเพื่อนซี้

 

 

ถ้าต้องการชมเชฟรังสรรค์เมนูอาหารไปพร้อมๆ กับการชิมอาหารด้วยแล้ว ขอแนะนำให้เลือกนั่งโซนซูชิบาร์ด้านล่าง

 

ถ้าต้องการชมเชฟรังสรรค์เมนูอาหารไปพร้อมๆ กับการชิมอาหารด้วยแล้ว ขอแนะนำให้เลือกนั่งโซนซูชิบาร์ด้านล่าง

 

เพื่อให้ตรงตามชื่อ Nippon Kai ซึ่งมีความหมายว่า มหาสมุทรแห่งญี่ปุ่น ทางร้านจึงนำเข้าอาหารทะเลมาให้เลือกกันเพียบ ใครที่มานั่งหน้าซูชิบาร์ขอบอกเลยว่าเลือกไม่ถูกอย่างแน่นอนว่าจะทานอะไรดี เพราะในตู้เต็มไปด้วยอาหารทะเลสดๆ ชิ้นใหญ่น่าทาน ทั้งหอยแครงญี่ปุ่นตัวเป้ง หรือหอยปีกนกชิ้นโตยั่วน้ำลายมากๆ

 

คอนเซ็ปต์ของที่นี่คือเป็นทั้งตลาดและร้านอาหาร ให้เราได้ช้อปและได้ชิมในที่เดียวกัน ทางร้านจึงคิดค่าอาหารโดยคำนวณจากปริมาณที่สั่ง ถ้าต้องการซื้อวัตถุดิบโดยให้เชฟปรุงเป็นเมนูที่ต้องการก็สามารถทำได้ (มีค่าบริการเพิ่มเติมเริ่มต้นที่ 10 บาท) เช่น แซลมอน 100 กรัม สามารถบอกเชฟได้ว่าจะนำไปทำอะไรบ้าง เลือกได้ทั้งซาชิมิและซูชิ หรือแม้แต่ยำรสแซ่บ ส่วนวัตถุดิบที่นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่นก็จะมีมาสัปดาห์ละ 2 วัน จึงรับรองความสดใหม่ เหมือนกับมาช้อปปิ้งอยู่ตลาดปลาที่ญี่ปุ่นเลยทีเดียว

 

ก่อนจะไปถึงเมนูอาหารต่างๆ ขอเรียกน้ำย่อยด้วย มะเขือเทศญี่ปุ่น (250 บาท)

 

ผ่าออกมาจะเห็นเนื้อมันเขือเทศที่ผิวนอกเต่งเคี้ยวกรอบ ด้านในชุ่มฉ่ำสีแดงสดสวยงามน่ากิน เป็นมะเขือเทศจากเมืองฟุกุโอกะที่ปลูกอยู่ริมทะเล ทำให้เปลือกนอกมีรสเค็มนิดๆ เวลาทานต้องเติมเกลือนิดหน่อย รสชาติหวานอมเปรี้ยวเคี้ยวแล้วฉ่ำในปาก 

 

ขณะที่กำลังชื่นชมกับมะเขือเทศญี่ปุ่นอยู่นั้น เชฟก็เริ่มลงมือทำ Special Appetizer เป็นอาหารเรียกน้ำย่อยพิเศษประจำวันให้กับเรา ซึ่งออร์เดิร์ฟในแต่ละวันก็จะไม่ซ้ำกัน ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่สดใหม่ในวันนั้น

 

เมนูนี้ชื่อว่า Special Otoro Ponzu (80 บาท)

 

เชฟเผาผิวนอกของโอโทโร่จนหอมเตะจมูก เมื่อเคี้ยวแล้วจะได้รสสัมผัสหนึบหนับ แต่ด้านในยังฉ่ำหวาน ทานกับซอสพอนสึที่ปรุงรสมาอย่างดี ได้รสเปรี้ยวช่วยเสริมรสชาติให้เมนูนี้ลงตัวยิ่งขึ้น

 

ต่อด้วยซาชิมิที่คัดสรรเฉพาะปลาสดๆ เนื้อฉ่ำ ซึ่งเราเลือกได้เองว่าต้องการปลาชนิดไหน ยิ่งตอนนี้มี Weekly Promotion ลดถึง 50% โปรโมชั่นประจำวันที่น่าสนใจมากๆ เช่น วันอังคาร ไข่ปลาแซนมอน 100 กรัม 350 บาท ส่วนปลาแซลมอน 100 กรัม เพียง 80 บาทเท่านั้น!!! ซึ่งแซลมอนปริมาณ 100 กรัมนั้นสามารถนำมาทำซาซิมิได้ 5 ชิ้น หรือปั้นเป็นซูชิได้ 5 คำ ราคานี้ถือว่าคุ้มค่ามากๆ

 

Sashimi สดๆ ชิ้นโต บรรจงวางเรียงรายอย่างปราณีต

 

เชฟแนะนำว่าให้เริ่มต้นทานปลาเนื้อขาวก่อน เราจึงเริ่มด้วยปลาฮามาจิ เนื้อปลาเด้งกรอบบอกถึงความสด! ทั้งยังมีโปรโมชั่นลดราคาทุกวันเสาร์ 100 กรัม ราคา 250 บาท จากเดิม 500 บาท

 

ต่อด้วยปลาแซลมอนลวดลายงดงาม ที่นี้นำเข้าแซลมอน 2 ชนิด มีทั้ง King Salmon จากมหาสมุทรแปซิฟิก และปลาแซลมอนจาก Norway

 

หลังจากลิ้มรสแซลมอนนอร์เวย์ที่หวานนุ่มอร่อยกันไปแล้ว ก็ต้องต่อด้วยโอโทโร่ฉ่ำๆ หวานละมุนลิ้น (100 กรัม 1,850 บาท)

 

แล้วค่อยไปปิดท้ายด้วยความนุ่มนวลของไข่หอยเม่น (Uni)ซึ่งไข่หอยเม่นของที่นี่นั้นนำเข้ามาจากฮอกไกโด ทานง่ายและไม่คาว บ่งบอกถึงความสดใหม่ของวัตถุดิบ ใครที่ชื่นชอบไข่หอยเม่นเป็นพิเศษต้องมาในวันศุกร์นะคะ เพราะมีโปรโมชั่น 100 กรัม จากราคา 2,300 บาท เหลือเพียง 1,150 บาทเท่านั้น

 

หมดจากซาชิมิก็ขอต่อด้วยซูชิ เตรียมเหยาะโชยุรอไว้เลย

 

คำแรกขอเราเริ่มต้นที่ Shima Aji (100 บาทต่อคำ) ซูชิปลาชิมาอาจิที่หนุบหนับ รสชาติกลมกล่อม ซึ่งปลาชนิดนี้จะหนึบกว่าปลาฮามาจิสักหน่อย ทั้งยังเคี้ยวมันและกรอบกว่าด้วย

 

ขยับความเข้มข้นของรสชาติขึ้นมาหน่อย เชฟเสิร์ฟ Maguro เป็นเมนูต่อไป

 

ข้าวปั้นปลาโอ (45 บาทต่อคำ) เคี้ยวแล้วสัมผัสได้ถึงรสชาติความสดอร่อย ซอสที่ทาลงไปก็ปรุงรสได้กำลังดี ช่วยเสริมรสชาติให้เมนูนี้อร่อยยิ่งขึ้น

 

ตบท้ายเมนูซูชิด้วย Ikura (145 บาทต่อคำ) ซูชิไข่ปลาแซลมอน เป็นเมนูที่รสชาติเข้มข้นมาก ด้วยวาซาบิดองรสจัด กับไข่ปลาแซลมอนสดๆ ฟินตั้งแต่กัดคำแรก

 

ที่นี่ไม่ได้เด็ดแค่เมนูปลาดิบสดๆ ที่อิมพอร์ตมาจากญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังมีเมนูอาหารญี่ปุ่นอื่นๆ ให้เลือกเพียบ ขอแนะนำเมนูเส้นๆ สไตล์ญี่ปุ่นอย่าง Zaru Somen (180 บาท)

 

โซเมนเย็น อาหารญี่ปุ่นยอดนิยมในช่วงหน้าร้อน เพราะเป็นเมนูที่ทานแล้วสดชื่น วิธีทานคือคีบเส้นจุ่มลงไปในชามน้ำซุปแล้วซู้ดเลย! เส้นนุ่มนิ่มเคี้ยวเพลิน ทานกับซอสที่รสชาติเบาๆ กลมกล่อม ทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นได้ทันทีเลยค่ะ

 

ยิ่งได้ทานคู่กับเทมปุระก็ยิ่งเพลิดเพลิน แนะนำ Ebi Tempura (190 บาท) จัดเต็มกับกุ้งเทมปุระชิ้นโต ที่ทอดมาได้อย่างกรอบๆ ไม่อมน้ำมัน

 

ถึงเวลาของเมนูไฮไลท์ เนื้อสันในมัตสึซากะย่าง Tenderloin Matsuzaka Beef (100 กรัม ราคา 1,100 บาท) ชิ้นนี้ราคาประมาณ 1,800 บาท

 

เนื้อสันในมัตสึซากะนำไปย่างจนสุกได้ที่ ด้านในเนื้อชุ่มฉ่ำหวาน เคี้ยวแล้วชวนเคลิบเคลิ้มด้วยความนุ่มของเนื้อ เวลาทานบีบเมลอนสักหน่อยเพื่อเพิ่มความหอม

 

เมนูเนื้อสันในมัตสึซากะย่างเสิร์ฟมากับน้ำจิ้มพอนสึ ถ้าจะให้รสชาติของน้ำจิ้มกลมกล่อมยิ่งขึ้นแนะนำให้ใส่หัวไชเท้าฝนและต้นหอมลงไปในพอนสึก่อน แล้วค่อยนำเนื้อมัตสึซากะจิ้มลงไป ทานแล้วจะได้รสชาติหวานของเนื้อที่ผสมผสานความเปรี้ยวของพอนสึ ช่วยให้เมนูนี้ทานง่ายและอร่อยขึ้นไปอีก

 

ตบท้ายด้วยของหวานอย่าง Matcha Tofu Cheese Cake (150 บาท) ชีสเค้กนุ่มนวลตามแบบฉบับของเค้กญี่ปุ่น

 

ชึสเค้กเนื้อนุ่มดึ๋งๆ รสชาติออกหวานอมเปรี้ยวทานเพลิน หอมกลิ่นชาเขียวอ่อนๆ เสิร์ฟมากับซอสคาราเมล ยิ่งเพิ่มความหอมมันขึ้นไปอีก รับรองจะต้องถูกใจสาวๆ แน่นอน

 

Nippon Kai Market สุขุมวิท 53 ที่แห่งเดียวที่เป็น Market and Restaurant ให้ทั้งชิม ทั้งช้อป วัตถุดิบญี่ปุ่นสดใหม่ ไม่ต้องบินไปไกลถึงญี่ปุ่น ติดตามโปรโมชั่นต่างๆ ได้ทาง https://www.facebook.com/nipponkaimarket

 

คีย์เวิร์ด
Nippon Kai Market
นิปปอน ไก มาร์เก็ต
ร้านอาหารญี่ปุ่น สุขุมวิท
OpenRice TH Editor
ข้อมูลร้านอาหาร