4
0
0
เบอร์โทร.
02-659-9000 (7333)
รางวัลที่เคยได้รับ
ร้านอาหารมิชลิน เพลท (2018-2021)
เหมาะสำหรับ
ครอบครัว ลำลอง
โอกาสพิเศษ
เวลาเปิด-ปิด
วันนี้
19:00 - 23:00
จันทร์ - อังคาร
ปิด
พุธ - อาทิตย์
19:00 - 23:00
วิธีจ่ายเงิน
วีซ่า มาสเตอร์ อเมริกันเอ๊กเพรส เงินสด อื่นๆ
จำนวนที่นั่ง
90
ข้อมูลอื่นๆ
มิชลิน ไกด์
ที่จอดรถ
Service Charge
ห้อง VIP
ค่าเปิดขวด
สำรองโต๊ะ
ใบกำกับภาษี
มีแอร์
Open-air
เว็บไซต์ร้านอาหาร
http://www.mandarinoriental.com/bangkok
ข้อมูลข้างต้นใช้เพื่ออ้างอิงเท่านั้น กรุณาตรวจสอบข้อมูลกับร้านอาหารอีกครั้ง
วิดีโอ
รูปภาพ
อาหารไทย
+125
เมนูแนะนำ
เนื้อย่างน้ำตก แกงเผ็ดกุ้งใบชะพลู ข้าวซอยไก่ ต้มส้มปลากะพง บัวลอยสามสี
รีวิว (4)
ระดับ4 2017-02-21
580 วิว
ก่อนงานประกาศผล  Asia’s 50 Best Restaurants สปอนเซอร์โดย S.Pellegrino and Acqua Panna ทางผู้จัดงานได้จัดงานพิเศษ 50 Best Talk ขึ้นก่อนหนึ่งวันเพื่อเป็นการพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนพร้อมมีกิจกรรมต่างๆของคนในวงการอาหารระดับต้นๆของเมืองและต่างประเทศที่ห้องอาหารศาลาริมน้ำ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล พร้อมอาหารทานเล่นและอาหารกลางวันในบรรยากาศแบบไทยรสชาติไทยๆผ่านวัตถุดิบคุณภาพดีใส่ใจในรายละเอียดไม่มีผิดหวังคืนวันนี้ (21/02/2017) จะประกาศผล 50 สุดยอดร้านอาหารของเอเซียกันแล้วอย่าลืมร่วมลุ้นกันนะครับ.รายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.reviewnowz.com/asia-50-best-talk-2017/รายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.reviewnowz.com/asia-50-best-talk-2017/ อ่านต่อ
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)
ระดับ1 2016-07-19
412 วิว
マンダリンオリエンタルホテル内の船に乗って川を渡った所に有るレストランです。駅からも船に乗れました!広いレストランはほぼ観光客でいっぱい。ステージは5組ほどの古典舞踊や武術など、セリフは無くともストーリーのわかるものもあり予想以上に楽しかった。料理はタイの伝統料理、先に辛さを選ぶことが出来るので色々な料理を安心して堪能する事が出来ました。初めての友人や家族を連れて行くには最適です。 อ่านต่อ
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)
ตั้งใจไว้มานาน อยากจะลองมาชิมอาหารไทยที่ห้องอาหารศาลาริมน้ำ มานาน วันนี้มีโอกาสจึงไม่พลาดที่จะมาทาน อาหารนี้อาหารไทยส่วนใหญ่ ทำไว้เผื่อชาวต่างชาติทานด้วย รสชาติ กลางๆ ไม่จัดจ้าน ไม่เผ็ดเกินไป แต่ทานแล้วสามารถรู้ได้ว่าใช้วัตถุดิบ ที่มีคุณภาพดี สด ใหม่ สะอาด เน้นคุณภาพจริงๆ วันนี้มาทา buffet มื้อกลางวัน ราคา 1,040 ++ /คน  คุณภาพ บริการ และรสชาติจะเป็นยังไง ตามไปชมกันเลยค่า ภายในห้องอาหารตกแต่งแบบไทย มีเปิดเพลงไทย เพิ่มอรรถรสในการรับประทานอาหาร อิอิ เพลินดีคะ กินอิ่มแล้วอยากจะนอนหลับต่อเลย 5555เมื่อเปิดประตูเข้ามา ก็จะเจอมุมของทอด/ของทานเล่นก่อนเลย มีทั้งหมด 5 อย่าง คือ  กระทงทอง เนื้อปลาชุบแป้งทอด ทอดมันกุ้ง ไก่ทอด และ คอหมูย่าง ลองชิมทุกอย่างอย่างละชิ้น รสชาติอร่อย ไม่อมน้ำมัน แต่ไม่ค่อยโดน ถ้าให้เลือก ทอดมันกุ้งอร่อยสุดเลยคะ กัดแล้วเนื้อเด้งๆดีคะก๋วยเตี๋ยวห่อกุ้ง และ ข้าวเหรียบปากหม้อ หน้าตาสวย รสชาติอร่อย ใช้ได้เลยคะเมนูซุป มี 2 แบบ คือ ซุปกระดูกหมูตุ๋น และต้มยำกุ้ง ตักมาชิมอย่างละถ้วย ต้มยำกุ้งเนื้อกุ้งเยอะมากๆคะ แต่รสชาติค่อนข้างจืด น้ำใส ไม่ค่อยเข้มข้น ซุปกระดูกหมูๆนิ่มมากๆแต่รสชาติจืดมากๆค่า อย่างที่บอกอาหารทุกอย่างทำแบบกลางๆ เนื่องจากมีชาวต่างชาติไปทานเยอะ ชิมให้พอรู้รสชาติแล้วขอผ่านคะ  เมนูประเภทยำ ก็มีหลายแบบ ลองชิมแล้ว ก็โอเคคะ ยำถั่วพลูรสชาติอร่อย ถั่วพลูกรอบ เนื้อกุ้งเยอะ ชอบคะ เมนูม้ามืดยกให้ หมูมะนาว หน้าตาอาจจะดูธรรมดา แต่อร่อยมากๆคะ หมูนิ่มมากๆรสชาติลงตัว ไม่เผ็ดเกิน เปรี้ยวกำลังดี ชอบคะๆไลน์อาหาร มีให้เลือกชิมเยอะพอสมควร ไก่เตย/หมูทอดกระเทียม ไก่เตย รสชาติเฉยๆเหมือนไก่ทอดทั้วไป ชิมแล้วขอผ่านคะ แต่ๆๆ หมูทอดกระเทียม รสชาติอร่อยมากคะ หมูนิ่ม ไม่เหนียว รสขาติอร่อย กลิ่นกระเทียมอ่อนๆทานคู่กับข้าวอร่อยมาก อิอิเมนูแกงกะทิที่นี่ทำได้ดี อร่อยคะ เข้มข้น มีทั้ง แกงเขียวหวานไก่ มัสมั่นไก่ แกงเผ็ดเป็ดย่าง อร่อยทั้ง 3 อย่างเลยคะ ทานคู่กับข้าว หรือ ขนมจีน ก็อร่อยลงตัวมากๆ  อีกเมนูที่ชอบมากๆ คือ กุ้งทอดพริกเกลือ กุ้งหั่นมาแบบครึ่งตัวแล้วนำมาผัดพริกเกลือ อร่อยมากๆข้าวผัดปูที่นี่ อร่อยมากคะ เนื้อปูเยอะมากๆ ข้าวเด้งเป็นเม็ดๆ หอม อร่อยสุดๆ  กินแล้วตัดกำลังก็ยอมเลย 5555👍🏻👍🏻มี Satation ที่เชฟมาปรุงให้ทานกันสดๆร้อน เป็นเมนู กุ้ง 3 แบบ มี พล่ากุ้ง ผัดกะเพรากุ้ง และกุ้งทอดซอสมะขาม ชอบเมนูสุดท้ายมากกกกกก อร่อย ซอสมะขามเปรี้ยวหวานกำลังดี ทอดกุ้งได้อร่อยมาก ไม่อมน้ำมัน (หมดไวแต่เชฟก็ทอดเรื่อยๆคะ)👏👏มาถึงมุมขนมหวานของหวาน เป็นขนมไทยนะคะ มีให้เลือกเยอะมาก ชิมทั้งหมด ต้องเป็นเบาหวานแน่ๆค่า แต่ ณ จุดๆนี้ยอมคะ   ข้าวเหนียวมะม่วงนี่เด็ดสุด มะม่วงสุกหวานฉ่ำ ข้าวเหนียวหุงกำลังดี ไม่แข็ง ไม่แฉะ  อร่อยมากๆๆๆๆๆ คือทานแล้วหยุดไม่อยู่ อร่อยมาก ทานไป 2 จาน แน่นมากกกก 55 กล้วยบวชชี  ก็รสชาติดี เนื้อกล้วยไม่แข็งไม่นิ่มไป น้ำกะทิ รสชาติดี หวานนิดเค็มหน่อย ไม่เลี่ยนทานได้เยอะ กิกิส่วนขนมไทยอื่นๆ เช่น ขนมครก ขนมเบื้อง กล้วยทอด มันทอด เผือกทอด และอื่นๆ ลองชิมอย่างละชิ้น รสชาติอร่อย โอเคคะ ปิดท้ายมื้ออาหารด้วยชาร้อนสักแก้ว ก่อนกลับบ้าน อิอิ สรุปภาพรวม รสชาติอาหารโดยรวมไม่ใช่สไตล์ไทยแท้ บางเมนูรสชาติฮร่อยในระดับปกติ แต่ว่าวัตถุดิบที่ใช้ในการปรุงอาหาร ถูกคัดสรร มาอย่างดี การบริการที่นี่ต้องยกนิ้วให้จริงๆ พนักงานน่ารักทุกคน ยิ้มแย้ม เป็นกันเอง บริการดีมาก คอยดูลูกค้าตลอดเวลา และรู้จังหวะการให้บริการ ไม่ทำให้ลูกค้ารู้สึกเกร็ง หรือ อึดอัด น่ารักมากๆปลื้มมากๆ รู้สึกว่าคุ้มค่าที่จะมาลองทานดูสักครั้งค่ะ อ่านต่อ
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)
ศาลาริมน้ำ – เรือนทรงไทยที่สร้างและตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามด้วยสถาปัตยกรรมของทางภาคเหนือนี้เป็นหนึ่งในห้องอาหารของโรงแรม Mandarin Oriental ค่ะ ได้ยินชื่อเสียงมานานว่าที่นี่เสิร์ฟอาหารไทยแท้ๆตำรับชาววัง ใช้วัตถุดิบคุณภาพดีและนำเสนอได้อย่างประณีตละเมียดละไม มีเมนูที่หาทานได้ยาก เช่นน้ำพริกหลากหลายชนิดที่บางอย่างนั้นเราก็ไม่เคยได้ทานที่ไหนมาก่อน รวมไปถึงอาหารอื่นๆที่น่าลิ้มลองอีกหลายอย่าง พอถึงช่วงใกล้วันเกิดของคุณพ่อครอบครัวเราเลยเลือกมาฉลองที่นี่กัน เพราะนอกจากจะอยากให้คุณพ่อได้ระลึกย้อนความหลังกับบรรยากาศของโรงแรมเก่าแก่ย่านบางรักที่อยู่คู่กรุงเทพฯมาตั้งแต่สมัยคุณพ่อยังหนุ่มๆแล้ว อาหารรสชาติไทยๆแบบนี้ก็ยังน่าจะเป็นที่ประทับใจของคนวัยผู้หลักผู้ใหญ่เป็นพิเศษอีกด้วย**-การเดินทาง-**วิธีเดินทางที่ได้บรรยากาศที่สุดคือการนำรถไปจอดไว้ที่โรงแรมโอเรียน เต็ล แล้วนั่งเรือที่ทางโรงแรมมีบริการให้ ข้ามฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาไปถึงเรือนศาลาริมน้ำค่ะ เรือของที่นี่เทียบท่านิ่งมาก แม้แต่ผู้สูงอายุก็ก้าวลงเรือได้อย่างสบายไม่น่ากลัวเลย ปกติคุณพ่อคุณแม่ชอบเที่ยวแบบล่องเรือกันอยู่แล้ว แม้จะเป็นแค่การข้ามฟากระยะทางสั้นๆที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที แต่ท่านก็รู้สึกสนุกที่ได้นั่งเรือสวยๆรับลม ชมวิวสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยากันเก๋ๆแบบนี้ล่ะค่ะ**-เวลาทำการ-**Buffet Lunch : 12.00 – 14.30 น. (ปิดวันพฤหัส)Dinner (Set Menu) : 19.00 – 22.30 น. (ปิดวันพฤหัส)ถึงจะดูว่าระบุเวลาเปิด-ปิดแน่นอนแบบนี้ แต่เอาเข้าจริงถ้ามีจัดงาน หรือมีทัวร์ลง ก็อาจจะปิดเป็นการเฉพาะกิจเป็นกรณีไป หรือไม่งั้นก็อาจเต็มได้ ฉะนั้นสมควรโทร.จอง ล่วงหน้าเป็นอย่างยิ่งค่ะ จะโทร. เข้าเบอร์กลางของโรงแรมคือ 02-659-9000 แล้วให้พนักงานต่อสายให้ก็สะดวกดีค่ะ**-บรรยากาศ-**ศาลาหลังนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาสมชื่อ แค่ก้าวขึ้นจากท่าน้ำก็ประทับใจกับภาพศาลาหลังใหญ่สวยงาม กับสวนสวยภายนอกที่ปกคลุมด้วยแมกไม้ดูร่มรื่น หน้าศาลามีที่นั่ง outdoor สำหรับคนที่อยากนั่งรับลมแม่น้ำ ซึ่งเป็นบริเวณสำหรับการทานอาหารแบบ a la carte เท่านั้น ส่วนภายในศาลาซึ่งเป็นห้อง buffet นั้นกว้างขวาง ตกแต่งด้วยของประดับและลวดลายแช่มช้อยแบบไทยๆ ที่นั่งแบ่งเป็นโซนโต๊ะห้อยขาลงใต้พื้นแบบขันโตกซึ่งจะอยู่ด้านใน (น่าจะถูกใจฝรั่ง) และโซนที่นั่งที่เป็นโต๊ะ-เก้าอี้แบบปกติ สำหรับคนที่อยากนั่งริมหน้าต่างชมวิวแม่น้ำ ในบุฟเฟต์มื้อกลางวันจะจัดเป็นโต๊ะขนาด ใหญ่มีเพียง 3 โต๊ะ ถ้าใครอยากได้โต๊ะโซนวิวสวยนี้เป็นพิเศษอาจต้อง request ไปตอนจองค่ะ ของเราจองล่วงหน้า 2 อาทิตย์และขอที่ริมหน้าต่างไว้ พนักงานก็จัดให้ตามที่ขอ.. เริ่มต้นกับแค่บรรยากาศนี่ก็ดูว่าคุณพ่อถูกใจเอามากๆเลยทีเดียวล่ะ**-อาหาร-**มื้อเย็นของที่นี่จะเป็น set menu ซึ่งจะเปลี่ยนตามฤดูกาล สามารถดูเมนูได้ที่หน้า website ของโรงแรมค่ะ ระหว่างทานอาหารจะมีโชว์นาฏศิลป์ไทยด้วยนะคะ ดูแล้วเรารู้สึกว่าน่าจะเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวหรือชาวต่างชาติมากกว่า ประกอบกับคุณพ่อไม่อยากกลับบ้านดึกดื่น เราเลยเลือกมาทานเป็นมื้อกลางวันกันสะดวกกว่าค่ะสำหรับ Buffet มื้อกลางวันนี้จะแบ่งเป็น 2 แบบ 2 ราคาค่ะ คือ...● วันธรรมดา (ราคา 850 บาท/คน) – เป็นบุฟเฟต์ที่มีอาหารให้ตักทั้ง appetizer กับข้าว น้ำพริก ขนม และปิดท้ายด้วยชากาแฟซึ่งต้องสั่งกับพนักงานให้เอามาเสิร์ฟให้ร้อนๆถึงโต๊ะ ราคารวมในบุฟเฟต์ค่ะ● วันเสาร์-อาทิตย์ (ราคา 1,040 บาท/คน) – นอกจากจะมีบุฟเฟต์เหมือนวันธรรมดาแล้ว วันเสาร์-อาทิตย์ จะมีเพิ่มเป็นเมนูอาหารทะเลพิเศษ catch of the day ซึ่งจะหมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อยๆในแต่ละอาทิตย์ค่ะ สำหรับวันที่เราไปนั้นเป็นเมนูหอย ประกอบไปด้วยหอยแมลงภู่นึ่ง หอยหวาน เสิร์ฟมาพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดแซ่บใช้ได้ หอยสด ไม่มีคาวเลย ส่วนอีกเมนูเป็นผัดเผ็ดหอยลาย รสชาติดีแต่หอยลายตัวเล็กไปนิดนะ เมนูที่เป็น catch of the day นี้ให้สั่งกับพนักงานแล้วเค้าจะยกมาเสิร์ฟที่โต๊ะให้ ไม่ได้ให้เดินไปตักเหมือนอาหารอื่นๆค่ะ สะดวกสบายดีทีเดียวเมนูที่เป็น signature dish ที่เคยได้รางวัลของที่นี่จะมี กุ้งผัดพริกแดง และขนมจีบ ซึ่งเค้าว่าไม่ควรพลาด สำหรับเมนูที่เราลองไป นอกจาก catch of the day แล้วก็มีตามนี้ค่ะ● กระทงทอง – ตัวกระทงกรอบอร่อย ไส้เป็นข้าวโพดผัดมีรสหวานจากข้าวโพดปนกลิ่นเครื่องเทศนิดๆอร่อยค่ะ เมนูนี้คุณพ่อปลื้มม..● ไก่สะเต๊ะ – เนื้อนุ่ม น้ำสะเต๊ะรสดีกลมกล่อม ชอบค่ะ● ทอดมันกุ้ง – มาเป็นแบบก้อนเล็กๆพอดีคำ แม้จะหอมกลิ่นกุ้งแต่ไม่ได้ความรู้สึกแบบเนื้อกุ้งแน่นๆซักเท่าไร พอทานได้แบบเพลินๆค่ะ● ข้าวเกรียบปากหม้อ ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน – รสชาติกลางๆทั่วๆไป● ไลน์น้ำพริก – จัดเรียงน้ำพริกสารพัดชนิดใส่ครกจิ๋วๆน่ารักสุดๆ มีถ้วยให้ตักแบ่งเรียบร้อยเพื่อไม่ให้ไปเลอะเทอะในจาน ส่วนผักแนมน้ำพริกมีทั้งผักสด ผักนึ่ง และชะอม+มะเขือชุบไข่ทอดค่ะ น้ำพริกที่นี่หลากหลายอลังการจริงๆ เท่าที่เห็นก็มี พริกขิงกรอบ น้ำพริกกะปิกุ้งแห้ง น้ำพริกไข่ปู กะปิคั่ว น้ำพริกมะขาม น้ำพริกอ่อง น้ำพริกหนำเลี้ยบ แต่ละอย่างรสชาติเข้มข้นแบบไทยแท้ๆ ถือว่าสอบผ่านฉลุยเลยค่ะ● แกงเผ็ดเป็ดย่าง – แกงมาได้ในแบบที่ถูกใจสุดๆ คือแตกมันแยกชั้นสวยชัดเจน รสชาติกลมกล่อม เป็ดชิ้นหนานุ่ม และไม่ใส่สัปปะรด เห็นฝีมือแบบนี้แล้วแม้ว่าจะไม่ได้ตักแกงเขียวหวานไก่หรือมัสมั่นเนื้อที่อยู่ข้างๆกันมาลอง ก็เชื่อว่าน่าจะทำออกมาได้ดีเหมือนกัน ขอบอกว่าสำหรับเมนูนี้ทั้งเราและคุณพ่อใจตรงกัน คือปลื้มเอามากๆทีเดียวค่ะ ชักจะนึกๆอยู่เหมือนกันว่ารสนิยมเรื่องรสชาติกับนิสัยชอบเสาะหาของอร่อยนี่มันคงเป็นกรรมพันธุ์..555+● กุ้งผัดพริกแดง (ที่ถาดเขียนกุ้งผัดพริกเกลือ น่าจะตัวเดียวกันค่ะ) – กุ้งตัวโตๆเนื้อแน่นสดอร่อย แม้จะผัดมาแห้งไปนิดเพราะอุ่นอยู่ในถาดร้อน แต่ก็ยังอร่อยถูกใจสุดๆสมกับเป็น signature dish ค่ะ เป็นเมนูที่ใครๆก็ตักกันทุกคนจนหมดถาดพนักงานต้องเอามาเติมทีเดียว เมนูนี้ถูกใจกันทั้งครอบครัวค่ะ● ต้มยำกุ้ง – ชามนี้รสอ่อนไปนิดสำหรับพวกเรา ท่าทางจะมีเอาใจฝรั่งบ้างเหมือนกันนะ● ยำดอกแค ยำส้มโอ – อร่อยทั้งคู่ แต่ชอบยำดอกแคมากกว่านิดนึง เพราะรู้สึกว่ายำส้มโอน่าจะจี๊ดจ๊าดเปรี้ยวหวานได้มากกว่านี้น่ะค่ะ แต่ใส่กุ้งใส่หมูจัดเต็ม เรื่องวัตถุดิบนี่ไม่ให้เสียชื่อโอเรียนเต็ลจริงๆ● ขนมเบื้อง / ขนมครก / มันทอด / กล้วยทอด – ขนมพวกนี้พนักงานจะทำสดๆเดี๋ยวนั้นอยู่ที่บูธ ทำให้ได้ทานตอนเสร็จใหม่ๆร้อนๆตลอดค่ะ ขนมเบื้องมีทั้งแบบเค็มและหวานทำเป็นชิ้นเล็กพอดีคำ กรอบอร่อยจนต้องไปหยิบซ้ำรอบสอง ขนมครกก็อร่อยฟินสุดๆ ด้านนอกกรอบ ด้านในเนื้อเนียนเหลวแบบทานแล้วได้รสกะทิเข้มข้นไม่แป้งๆ สามารถเลือกได้ว่าจะโรยงา หรือโรยต้นหอม ทานกับกาแฟที่เสิร์ฟมาร้อนๆท้ายมื้ออาหารนี่เข้ากันดีจริงๆค่ะ● ข้าวเหนียวมะม่วง – มะม่วงน้ำดอกไม้หั่นใส่ฝาครอบพลาสติกไว้ มีข้าวเหนียวปั้นเป็นก้อนเล็กๆอยู่ข้างๆกัน สำหรับเมนูนี้รู้สึกว่าข้าวเหนียวมูนออกเค็มนำไปนิด และ อ่อนรสหวานไปหน่อย อยากได้ข้าวเหนียวมูนที่นุ่มและหวานมันกว่านี้ค่ะ● ข้าวเหนียวสังขยา – ข้าวเหนียวมูนของตัวนี้เป็นข้าวเหนียวดำ ใส่ถ้วยเล็กๆโปะสังขยาเล็กน้อย รสชาติปานกลางค่ะ● ซ่าหริ่ม / ข้าวต้มน้ำวุ้น / ลูกตาลเชื่อม – จัดใส่จอกน้อยๆน่าเอ็นดูไว้ให้หยิบได้เลย คุณแม่เลยจัดไปซะหลายถ้วย หวานๆเย็นๆชื่นใจดีค่ะ● ฟักทองสังขยา – ทำเป็นชิ้นเล็กๆมาน่าทาน เนื้อฟักทองนึ่งมากำลังดีนุ่มเหนียว แต่สังขยานี่ยังไม่ถึงกับโดนใจค่ะ● ชา / กาแฟ – สามารถสั่งจากพนักงานได้ที่โต๊ะเลยค่ะ สั่งไปเป็น hot Americano และ hot cappuccino เสิร์ฟมาร้อนจี๋แบบต้มมาใหม่ๆทีเดียว แถมมีวุ้นกรอบและข้าวตอกชิ้นจิ๋วๆสีสันสดใสเสิร์ฟแกล้มมากับกาแฟด้วย ได้จิบกาแฟหลังมื้ออาหารพร้อมชมวิวริมหน้าต่างไปด้วยนี่ชีวิตดี๊ดี..**-การบริการ-**ต้องยอมรับว่าการบริการที่นี่เค้าสุภาพและมืออาชีพจริงๆ ตั้งแต่การรับโทรศัพท์มาจนถึงบริการในห้องอาหารเลยล่ะค่ะ ดูพนักงานจะรู้จังหวะในการเข้ามาบริการลูกค้า กิริยามารยาทดีกันทุกคน การเติมอาหารที่หมดก็ว่องไว อย่างในกรณีของเราที่พาผู้สูงอายุไปด้วย(ทั้งคุณพ่อและคุณแม่นั่นล่ะ) พอท่านไปเลือกๆดูว่าอยากทานอะไรบ้าง พนักงานก็มีน้ำใจมาช่วยเดินเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะเป็นบางเมนู ประทับใจค่ะโดยรวมแล้วอาหารที่นี่ใช้วัตถุดิบคุณภาพดี อาหารที่มีให้เลือกก็หลากหลายมาก (ยังเหลืออีกหลายอย่างที่ยังไม่ได้ลองเพราะอิ่มจนไม่ไหวแล้ววว...) รสชาติก็ดีใช้ได้เมื่อเทียบกับบุฟเฟต์ทั่วไป ถ้ารวมกับการบริการและสถานที่สวยๆกับวิวแม่น้ำแล้วก็เป็นประสบการณ์ที่น่ารื่นรมย์ครั้งหนึ่งเลยทีเดียว ที่สำคัญมื้อนี้ถูกใจคุณพ่อเจ้าของวันเกิดเอามากๆ ถ้าใครอยากจะพาญาติผู้ใหญ่มาทานอาหารในโอกาสพิเศษ หรือแค่อยากมาลองอาหารไทยหลากหลายชนิดรสชาติแบบตำรับชาววังดู ที่นี่ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียวค่ะ  อ่านต่อ
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)