2
5
0
เดิน 1-นาที จาก สถานี BTS สุรศักดิ์ ทางออก 2
อ่านต่อ
เบอร์โทร.
02-210-8100
02-651-7600
เหมาะสำหรับ
ลำลอง
เวลาเปิด-ปิด
วันนี้
06:00 - 21:00
จันทร์ - อาทิตย์
06:00 - 21:00
ข้อมูลข้างต้นใช้เพื่ออ้างอิงเท่านั้น กรุณาตรวจสอบข้อมูลกับร้านอาหารอีกครั้ง
วิดีโอ
รูปภาพ
+453
เมนูแนะนำ
เครื่องดื่ม มีน้ำเปล่า พนักงานจะนำมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ น้ำสมุนไพร มีตะไคร้ กระเจี๊ยบ เดินไปตักเองได้เลย ชาร้อน กาแฟร้อน (คาปู ลาเต้ เอสเพรสโซ่ ) สั่งกับพนักงานได้เรื่อยๆค่ะโดยรวมตัววัตถุดิบที่ใช้ค่อนข้างโอเค ถึงแม้อาหารบางเมนูจะไม่ค่อยอร่อยถูกปาก มันก็มีบ้างเพราะลิ้นแต่ละคนไม่เหมือนกันเนอะ แต่ถ้าอยากทานอาหารหลายๆ ประเภทใน 1 มื้อ จ่าย 500 บาท ก็ได้อยู่ อาหารคือครบทั้ง ไทย จีน ฝรั่ง ญี่ปุ่น ซีฟู้ด ของหวาน เครื่องดื่ม ถึงแม้จะมีอย่างละนิดละหน่อยให้ทานในแต่ละประเภทอาหารก็เถอะ ส่วนการบริการ เราให้ 5 ดาว ค่ะ ชนะเลิศศศศปล. ไปหม่ำมาเมื่อ เดือนกุมภา 2017 นะคะ รีวิวไปตามรสชาติอาหารที่ได้ลองกินมาจริงๆ ก็มีถูกปากบ้าง ไม่ถูกปากบ้าง ท่านอื่นไปกินอาจถูกปากก็ได้ค่ะ แนะนำตอนมีโปรลดราคาค่ะ ยังไงไปลองกินกันดูนะคะ
อ่านต่อ
Grand Weekend Buffet คือบุฟเฟ่ต์มื้อพิเศษของทางห้องอาหารเดอะ กลาส เฮ้าส์ที่จัดเพียง 4 ครั้งสัปดาห์เท่านั้นกับหลากหลายเมนูอาหารตอบได้แทบทุกโจทย์ไม่ว่าเมนูซีฟู้ดแบบเย็นอย่างปูอลาสก้า กุ้ง หอยแมลงภู่NZหรือจะแบบเป็นร้อนๆอย่างกั้งและบาร์บีคิวเสียบไม้ย่าง รวมถึงปลาดิบซูชิเนื้อดี อยากลองปูนิ่มเทมปุระอร่อยเมนูปรุงร้อนต่างๆก็ทำได้ดีไม่ว่าจะเป็นกุ้งแม่น้ำผัดพริกเกลือ ปลาหิมะนึ่งซีอิ๊ว กั้งอบเนยกระเทียม ซุปกระเพาะปลาและไม่อยากให้พลาดกับไก่ย่างที่นำเสนอในรูปแบบการหั่นแบบ kebab อร่อยกว่าร้านไก่ย่างแท้ๆหลายร้านขอบอกและยังอีกอย่างอื่นอีกเพียบถือเป็นบุฟเฟ่ต์ที่น่าสนใจมากๆ ตรวจสอบโปร.ก็ไปก่อนยิ่งคุ้มมากๆครับ.รายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.reviewnowz.com/eastin-grand-sathorn-the-glass-house-grand-weekend-buffet/รายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.reviewnowz.com/eastin-grand-sathorn-the-glass-house-grand-weekend-buffet/
อ่านต่อ
วันนี้ก็จะพาไปดินเนอร์ ณ ห้องอาหารในโรงแรมกันอีกแล้วนะคะ โดยรอบนี้พาไปลอง Grand Weekend Buffet Dinner ของห้องอาหารเดอะกลาสเฮ้าส์ โรงแรมอิสตินแกรนด์สาทรนั่นเองหละค่าาโดยแกรนด์วีคเอนด์ดินเนอร์ของที่นี่เปิดระหว่าง 18.00-22.00 น.ค่ะ ซึงจะเป็นอาหารอินเตอร์เนชั่นแนล ซีฟู้ดและเพิ่มสเตชั่นกริลล์ ราคา 1,650 บาท net ถ้าต้องการ free flow Wine (ขาวและแดง) ราคาอยู่ที่ 599 บาท net หรือจะแยกซื้อเป็น Beer Basket 3 ขวด 320 net มีเฉพาะ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ นะคะ โดยราคานี้รวมน้ำดื่ม ชา กาแฟ น้ำผลไม้แต่ถ้าใครจะไปงานไทยเที่ยวไทยวันที่ 1-4 กันยายน 2559 นี้จะมีขายในราคา 999 บาท net นะคะ ใครที่ดูรีวิวนี้แล้วอยากไป แนะนำให้ไปซื้อเลยค่ะ คุ้มมากๆ หรือถ้าใครจะไปซื้อสำหรับบุฟเฟต์มื้อกลางวัน (12.00-14.00 น.) จาก 850 บาทก็จะเหลือ 499 บาทเน็ตเช่นกันค่ะซึ่งวันนั้นเราก็นั่งรถไฟฟ้าไปค่ะ ไม่งั้นไม่ทันแหงๆ (ที่ทำงานอยู่ตั้งลาดกระบังอ้ะ เหอๆ) ก็ไปลงที่สถานีสุรศักดิ์ แล้วออกที่ทางออกหมายเลขสี่ จะมีสะพานเดินเชื่อมเข้ารร.อย่างสะดวกสบายตามภาพเลยค่ะเข้ามาในโรงแรมปุ๊บก็จะเจอร้าน Chef Man ก่อนเลย เดินเลยเข้าไปแล้วก็ใช้ลิฟท์ทางซ้ายมือค่ะ กดลิฟท์ไปที่ชั้น 5 ซึ่งเป็นที่ตั้งของ The Glass House นะคะ (เชฟแมนนี่อยู่ชั้น 3 ของโรงแรมค่ะ ส่วน Luce ที่เราเคยรีวิวแล้ว (คลิกเพื่ออ่าน)จะอยู่ที่ชั้น 14 นะคะ)ออกจากลิฟท์ไปก็เลี้ยวไปทางขวามือค่ะก็จะเป็นห้องอาหารเดอะกลาสเฮ้าส์แล้วนะคะ (แต่ถ้าขึ้นลิฟท์อีกตัวมาจากประตูเข้า-ออกล็อบบี้ด้านล่าง จะไปเจออีกฝั่งแทนค่ะ คนละฝั่งกับเรานะคะ)บรรยากาศภายในห้องอาหารค่ะ คืนวันศุกร์ คนเยอะมากกกกกกกกเนื่องจากมาสาย (ไปถึงก็ทุ่มหน่อยๆ แล้วค่ะ ฮืออออ) เลยขอรีบไปเก็บภาพก่อนเลยค่ะ นี่ก็คือไวน์และเบียร์บัคเก็ตที่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่บอกไปก่อนหน้านี้นะคะจากบริเวณที่เรานั่ง จะผ่านไลน์เครื่องดื่มเป็นน้ำสมุนไพรก่อนเลยค่ะ ซึ่งตอนแรกเป็นน้ำเก็กฮวยอย่างเดียว แต่สักพักก็มีน้ำกระเจี๊ยบมาเพิ่มแทนนะคะน้ำเก็กฮวยที่นี่ไม่หวานจัดดีค่ะ ชอบๆนอกจากนั้นอย่างที่บอกนะคะว่าบุฟเฟต์นี้รวมชากาแฟไว้ด้วย ก็อยู่ฝั่งเยื้องๆ กับน้ำสมุนไพรนี่แหละค่ะติดกับน้ำสมุนไพร เป็นสเตชั่นของหวานแบบทำร้อนค่ะ มีทั้งแพนเค้กและเครปเลย รวมทั้งไอศกรีม Homemade ด้วยนะคะจากนั้นก็จะเป็นส่วนของไลน์หลักอื่นๆ แล้วค่ะ ไปดูกันว่ามีอะไรให้กินบ้างเนาะ (ขออภัยที่รูปรีวิวนี้อาจจะไม่สวยงามเต็มร้อยแบบรีวิวอื่นๆ เพราะอย่างที่บอกว่าไปถึงช้า เลยทำให้ไลน์อาหารโดนตักไปค่อนข้างเยอะแล้วนะคะ แหะๆ)โซนแรกก็ประกอบไปด้วย ซุป Lobster Bisque ค่ะ แล้วก็มี Porchetta และแซลมอนด้วค่ะถัดจากนั้นจะเป็นสเตชั่นพาสต้าค่ะ และสามารถสั่งฟัวร์กราส์ (ซึ่งเป็นหนึ่งอย่างที่จะมีเฉพาะแกรนด์วีคเอนด์ฯ นะคะ) ที่นี่ได้เช่นกันค่ะต่อไปเป็นไลน์ฮอทดิชนะคะ มีกั้งผัดซอสกระเทียมเนยและเลมอน / Lamb Navarin Lagout (อร่อยค่ะ แกะไม่เหม็นเลย เปื่อยพอควร รสดี) / Chicken Saltimbocca with Parma Ham&Sage / Baby Broccoli with Red Sauce / กุ้งแม่น้ำทอดพริกเกลือ / แกงมัสหมั่นเนื้อ (เพื่อนบอกอร่อยนะคะ) / ข้าวผัดเนื้อปูและข้าวหอมมะลิค่ะส่วนในซึ้งนึ่งสุดท้ายจะเป็นเมนูปลาหิมะนะคะ ซึ่งปรุงสองแบบ นึ่งซีอิ๊วกับนึ่งมะนาวค่ะ ตัวนึ่งมะนาวรสดีมาก ปลาสด อร่อยค่ะ เพื่อนอีกคนกินนึ่งซีอิ๊วก็บอกว่าดีงามเช่นกันนะคะต่อไปเป็นโซนของไก่ย่าง ข้าวเหนียว ส้มตำค่ะ ไก่ย่างนี่ทำแบบนี้มองเผินๆ เหมือนเคบับเลยนะคะนี่ติดกันเป็นเทมปุระซีฟู้ดและผัก พร้อมอาหารญี่ปุ่นอื่นๆ ค่ะรอบนอกหมดแล้วค่ะไปดูไลน์กลางกันบ้างนะคะตรงหัวของไลน์ตรงกลาง จะเป็นส่วนของสลัดค่ะ มีชามใหญ่ให้คลุกสลัดด้วยนะคะจากนั้นเราวนตามเข็มนาฬิกาค่ะ จะเจอส้มตำข้าวโพดหวานกับกุ้ง (หวานและรสไม่จัดค่ะ) ถัดไปที่อยู่ในถ้วยเล็กๆ จะมียำผลไม้กับน้ำตกเนื้อค่ะ (น้ำตกเนื้อรสชาติดี ไม่เผ็ดแต่ดีค่ะ อร่อย เนื้อก็หนุบหนับเคี้ยวมันดีแท้) น้ำพริกผักจิ้ม และยำหมูย่างค่ะติดกันเป็นโซนของหวานโซนแรกค่ะ มีครีมบูเล่ ลิ้นจี่ในเยลลี่เลมอน พานาคอตต้าและทับทิมกรอบค่ะต่อไปเป็นผลไม้ ขนมไทย ช็อกโกแลตฟองดูว์และเค้กต่างๆ ค่ะ ที่ชอบมากคือมีทอฟฟี่เค้กด้วย อร่อยอยู่นะคะต่อไปจะเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของแกรนด์วีคเอนด์ฯ นะคะ ซึ่งถ้าเป็นดินเนอร์วันอื่นจะไม่มีค่ะ คือ ปูทาระบะนะคะ นอกนั้นอย่างอื่นก็มีในดินเนอร์วันอื่นๆ ค่ะส่วนน้ำจิ้มและเครื่องเคียงก็มีทั้งสไตล์ไทยและเวสเทิร์นนะคะถัดจากซีฟู้ดก็จะเป็นไลน์อาหารต่อค่ะ มี Apple Waldorf Salad / Tuna Nicoise Salad / Parma Ham / Smoked Salmon / Salmon Gravlax และขนมปังค่ะกรณีที่ต้องการให้มีการปรุงอะไร เช่น บาร์บีคิว หรือพวกฟัวร์กราส์ ต้องเอาเบอร์ที่อยู่ที่โต๊ะไปยื่นให้พนักงานที่สเตชั่นนะคะปลาดิบค่ะ อันนี้ทางพีอาร์ให้จัดมาให้นะคะ ปกติก็ตักมาจากไลน์หละค่ะ ไม่ได้มีมาแบบนี้น้าาาแต่ปลาดิบดีงามค่ะ คุณภาพดี สด พอๆ กับร้านอาหารญี่ปุ่นดีๆ หลายร้านเลยเมนูวันนั้นที่ได้กิน ก็ตามที่เม้นท์ๆ ไปตามรูปไลน์อาหารนะคะ ที่เพิ่มเติมก็มีดังนี้ค่ะส้มตำ ขนาดสั่งเผ็ดและแซ่บก็ไม่ได้แซ่บนะคะ เพราะใช้พริกแบบ..พริกไม่เผ็ดน่ะค่ะ หารร.ที่ใช้พริกขี้หนูสวนอย่างที่ควรเป็นยากมาก (แต่ก็เข้าใจนะคะ เพราะถ้าใช้พริกขี้หนูสวน ชาวต่างชาติคงมิสามารถรับประทานได้ แหะๆ) เพราะงั้นถ้าใครสายแซ่บ อย่าลองส้มตำค่ะ / ส้มตำข้าวโพดหวาน อย่างที่บอกว่าออกหวานไปค่ะ / ไก่ย่าง เนื้อชุ่มฉ่ำดีค่ะ มาตรฐาน / ปลาหิมะนึ่งมะนาว แซ่บมาก อร่อยมาก ได้ใจมากค่ะ ชอบอย่างแรง เชียร์ให้กินนะคะ (อีกท่านที่กินนึ่งซีอิ๊วก็บอกอร่อยค่ะ) ปลาสดค่ะท็อฟฟี่เค้ก อร่อยโอเคค่ะ ใกล้เคียงกับออริจิฯ ที่ทำให้เค้กตัวนี้โด่งดังขึ้นมาเลย ไอศกรีมเรากินสี่รส ช็อกโกแลต ช็อกฯ เข้มข้นมากกกกก สายดาร์คช็อกต้องโปรดแน่นวล / วานิลา มาตรฐานค่ะ / สตรอเบอรี่และแพสชั่นฟรุตนี่มาเต็มจัดเต็มมาก สายซอร์เบต์ก็ต้องโดนเช่นกันนะคะ มาการองอร่อยนะคะ เสียดายว่ามีรสเดียว ไส้อร่อยมากๆ ชอบหละสรุปสำหรับที่นี่นะคะซีฟู้ดสดดีงาม โดยเฉพาะปูค่ะ สดหวานแน่นมาก อร่อยสุดๆ / ปลาดิบดีนะคะ สดพอๆ กับร้านญี่ปุ่นหลายร้านเลย / ตัวฮอทดิช เชียร์ปลาหิมะนึ่งมะนาวค่ะ อร่อยมากๆ / ของหวานที่ชอบจะมีไอศกรีม (กินสี่รส อร่อยทุกรสนะคะ) มาการอง และทอฟฟี่เค้กค่ะ
อ่านต่อ
The Glass House เป็นห้องอาหารในโรงแรม Eastin Grand Sathorn ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่เดินทางแสนสะดวกสบายสุดๆ นั่นก็คือโรงแรมตั้งอยู่อย่างใกล้ชิดสถานี BTS สุรศักดิ์เลยค่ะ และมีทางเดินเชื่อมจากสถานี BTS ไปยังโรงแรมอีกด้วย ...เมื่อเดินจากทางเชื่อมเข้าไปในโรงแรมแล้วจะพบกับลิฟท์ค่ะ ห้องอาหาร The Glass House ตั้งอยู่บริเวณชั้น 5 เมื่อเดินออกจากลิฟท์แล้วหันข้างก็จะพบกับป้ายชี้ทางไปห้องอาหารเลยค่ะเดินเข้าไปในห้องอาหารปุ๊บสิ่งแรกที่เจอคือเคาน์เตอร์ต้อนรับของพนักงานค่ะ ซึ่งครั้งนี้เราได้โทรศัพท์มาจองโต๊ะไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พนักงานเดินนำเราไปยังโต๊ะที่จองไว้ซึ่งอยู่ในโซนที่ใกล้กับบาร์อาหารมากๆ ค่ะ แถมยังมีวิวภายนอกโรงแรมให้มองเพลินๆ อีกด้วย บุฟเฟ่ต์นี้เป็นบุฟเฟ่ต์มื้อค่ำราคา 1,650 บาทค่ะสำหรับอาหารของที่นี่เป็นอาหารนานาชาติซึ่งมีหลากหลายพอสมควรตั้งแต่ออเดิร์ฟไทย สลัด อาหารทะเล อาหารปรุงรสอื่นๆ (รวมทั้งมีฟัวกราส์ด้วยนะคะ) ซูชิ เบเกอรี่ นอกจากนี้ยังมีน้ำดื่มซึ่งเป็นน้ำสมุนไพรให้ฟรีอีกด้วย (แต่น้ำเปล่าต้องจ่ายเงินนะคะ) ...สำหรับเราแล้วสิ่งที่ประทับใจมากที่สุดเห็นจะเป็นฟัวกราส์ซึ่งต้องเดินไปสั่งกับพนักงานค่ะ ทำมาได้ดีมากด้านนอกจะกรอบเล็กๆ ส่วนด้านในเนียนนุ่มหอมมาก เสิร์ฟมาคู่กับขนมปังและซอส สั่งมาสามจานเพราะเพิ่งรู้ตอนใกล้อิ่มแล้วค่ะว่ามีเมนูนี้สำหรับอาหารทะเลก็มีให้เลือกหลายชนิด โดยทางห้องอาหารจัดเป็น cold station ไว้ค่ะ ได้แก่ปูอลาสก้า ปูม้า กุ้ง กั้ง หอยแมลงภู่ แต่โดยรวมสำหรับเราแล้วมื้อนี้ค่อนข้างน่าผิดหวังพอสมควรค่ะ เพราะว่าปูม้าไม่ค่อยสดนัก แต่ดีที่ได้น้ำจิ้มซีฟู้ดรสชาติดีมาเสริมรสให้ ส่วนหอยแมลงภู่อยู่ในเกณฑ์ธรรมดา ที่แนะนำน่าจะเป็นกุ้งที่หวานอร่อยที่สุดค่ะ ...สิ่งที่อยากแนะนำให้ลองอีกอย่างก็คืออกเป็ดราดซอสส้มในสเตชั่นของอาหารไทย ดีง๊ามดีงามค่ะ ส่วนเบเกอรี่สำหรับเราแล้วอยู่ในเกณฑ์รสชาติธรรมดา โดยเฉพาะมาการอง แต่สิ่งที่ดีงามก็คือ Bread and custard pudding ซึ่งอร่อยสุดๆ ของสุดๆ "ห้ามพลาด" ค่ะ ...ทางห้องอาหารยังจัดฟองดูว์ช็อคโกแล็ตไว้มุมหนึ่งด้วยนะคะ โดยมีผลไม้ชนิดต่างๆ ไว้ให้จิ้มฟองดูว์กันค่ะนอกจากนี้อาหารอีกเมนูที่ดีดี๊ดีและไม่ควรพลาดก็คือไอศกรีม ไอศกรีมรสชาเย็นอร่อยสุดๆ ค่ะ ทั้งเนื้อเนียน หอม หวานกำลังพอดี และมีความมันที่เหมาะสม ส่วนใครชอบ sorbet ก็มีนะคะ รสชาติอร่อยถูกปากสมราคาค่าอ้วนจริงๆ ...หลังจากอิ่มหนำสำราญจากอาหารคาวแล้วจะมีพนักงานมาเสิร์ฟชาหรือกาแฟค่ะ กินแกล้มกับเหล่าบรรดาเบเกอรี่เข้ากันพอดิบพอดีเลย นอกจากนี้ในราคาบุฟเฟ่ต์ราคานี้ยังรวมค่าน้ำดื่มสมุนไพรไว้แล้วด้วยนะคะโดยรวมสำหรับเราแล้วราคานี้กับคุณภาพอาหารในระดับนี้ก็ยังถือว่าไม่ค่อยคุ้มค่าเท่าไหร่ค่ะ อาจจะเป็นเพราะว่าเราไม่ได้ชอบอาหารทะเลแบบเย็นมากเท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม ฟัวกราส์และไอศกรีมของห้องอาหารที่นี่อร่อยมากค่ะ ใครชอบกินฟัวกราส์ก็น่าจะกินได้คุ้มมากๆ
อ่านต่อ
วันนี้มาทานอาหารบุฟเฟต์มื้อเย็นที่รร.อีสติน แกรนด์ สาทร พิกัดรร.อยู่ตรง BTS สุรศักดิ์ (ฝั่งขาออก) ใช้ทางออกที่ 4 จะมีทางเชื่อมเดินเข้ารร.ได้เลย กดลิฟท์ขึ้นมาที่ชั้น 5 ก็จะเจอห้องอาหาร The Glass House ที่ห้องอาหารนี้มีบุฟเฟต์นานาชาติทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็น เรามาทานวันศุกร์ก็จะเป็นบุฟเฟต์แกรนด์วีคเอนท์ ซึ่งมีเฉพาะศุกร์-อาทิตย์มื้อเย็น 18.00 - 22.00 น.และวันอาทิตย์ มื้อกลางวัน 12.00 - 15.00 น.บุฟเฟต์แกรนด์วีคเอนท์ก็จะพิเศษกว่ามื้ออื่น ๆ หน่อยตรงที่มีซีฟู๊ดให้เลือกเพียบ มีตับห่าน มีปลาหิมะ ฯลฯ แต่ราคาก็จะสูงกว่ามื้ออื่น ๆ ปกติก็คนละ 1,650 บ. แต่กำลังจะมีงานไทยเที่ยวไทย วันที่ 3 - 6 ก.ย. 58 ที่ศูนย์สิริกิตต์ เห็นทางรร.เค้าไปออกบู้ทด้วย ซื้อในงานราคาบุฟเฟต์แกรนด์วีคเอนท์เหลือคนละ 999 บ.เท่านั้น ส่วนมื้อกลางวันเหลือ 499 บ.ใครไปเดินงานนั้นก็อย่าลืมสอยละกันค่ากลับมาสำรวจไลน์อาหารกันดีกว่า เริ่มจากเครื่องดื่มบุฟเฟต์ราคานี้ปกติรวมเครื่องดื่ม (น้ำเปล่า,น้ำสมุนไพร และชาหรือกาแฟ)เรียบร้อยแล้ว ส่วนอาหารในไลน์บุฟเฟต์โดยมากก็จะสลับสับเปลี่ยนกันไปนะ ไม่ได้มีเหมือนกันทุกวัน แต่พวกเมนูหลัก ๆ นี่มีสแตนบายตลอดจ้า เริ่มจากซุปวันที่ไปมีกระเพาะปลา และซุปมะเขือเทศ มุมโคลด์คัทก็จะเป็นพาร์ม่าแฮม , สโมคแซลมอน แล้วก็มีพวกค๊อกเทลแก้วเล็ก ๆ 2-3 ชนิด มุมสลัดมีให้เลือกทานทั้งแบบปรุงเอง และแบบปรุงสำเร็จ ใครไม่ชอบทานสลัดสไตล์ฝรั่ง สไตล์ไทย ๆ ก็มีค่ะ เป็นพวกยำแหนมสด , พล่าทูน่า ฯลฯ ใครชอบทานเมนูเส้น ๆ มีให้เลือกทั้งพาสต้า และขนมจีนแบบไทย ๆ มุม Carving Station มีให้ทานทั้งแซลมอนอบใบไทม์และน้ำมันมะกอก , ขาแฮมมุมอาหารญี่ปุ่นมีให้เลือกเยอะใช้ได้ทั้งซาชิมิ ซูชิ มีซูชิหน้าปลาไหลด้วยนะ แว๊บไปดูปลาหิมะนึ่งซีอิ๊วก็จัดไว้ในเข่งขนาดใหญ่ นึ่งร้อน ๆ ตลอดเวลา วกมาที่อาหารพร้อมทานมีให้เลือกทานประมาณ 6 ชนิด วันที่ไปเราเจอเมนูประมาณนี้ แกงเผ็ดเป็ดย่าง , บล็อคโครี่ผัดน้ำมันหอย , กั้งผัดกระเทียมพริกไทย , ขาแกะ , ปลาค้อดราดล็อบสเตอร์ครีมซอส , แก้มวัวตุ๋นไวน์แดง ส่วนใครอยากทานตับห่านก็สั่งได้ที่มุมพาสต้าเลยมุมไฮไลต์อย่างซีฟู๊ดออนไอซ์ มีทั้งกุ้ง หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ และปูหลากหลายสายพันธุ์ทั้ง King Crab , Sea Crab , Brown Crab, Snow Crab ทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู๊ด เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม อิ่มของหนักข้ามฟากมาที่ของหวาน บางเมนูเค้าทำเป็นถ้วยเล็ก ๆ ให้หยิบทานได้ง่าย ๆ บางเมนูเป็นเค้กชิ้นโตหน้าตาดึงดูดน่าสนใจ นอกจากเค้กแล้วก็ยังมีช็อคโกแลตฟองดู ซึ่งช็อคโกแลตของที่นี่เป็นไวท์ช็อคโกแลตก็สวยดีแปลกตาจากที่อื่น ใครชอบทานขนมไทยก็มีนะคะ หลายชนิดอยู่เหมือนกัน ยังไม่หมดมีมุมเครปและไอศครีมด้วย ไอศครีมมี 6 รส ส่วนเครปเนี่ยเค้าจะทำให้สด ๆ เลย made to order จ้า สุดท้ายล้างปากด้วยผลไม้ละกัน มีเพียบทั้งสัปปะรด แตงโม สาลี่ ส้ม แอปเปิ้ล ฝรั่ง ฯลฯอาหารโดยรวมโอเคนะ ซีฟู๊ดมีทั้งกุ้งหอยปู ตับห่านก็นุ่ม ปลาหิมะก็อร่อย ยำไทยเค้ารสจัดจ้านดี อาหารพร้อมทานก็โอเค หลากหลาย ขนมจัดว่าดีนะ ชิมไปหลายสิ่งโอเคทุกอย่างทั้งไทย-ฝรั่ง เราชอบ Pavlova ทำจากไข่ขาวคล้าย ๆ เมอแรงค์สอดไส้เลมอนเคิร์ดอร่อย ๆ ข้อดีอีกอย่าง คือ ราคารวมเครื่องดื่มแล้ว ตัวห้องอาหารก็มาง่ายเดินทางสะดวกมีรถไฟฟ้าถึงรร.เลย ใครชอบทานบุฟเฟต์ที่มีอาหารประมาณนี้ เตรียมไปศูนย์สิริกิตต์เลยจ้า ใช้โปรแล้วคุ้มจริงไรจริง
อ่านต่อ