4
0
0
เดิน 3-นาที จาก สถานี BTS ชิดลม ทางออก 2
อ่านต่อ
เบอร์โทร.
02-656-0444 (5505)
รางวัลที่เคยได้รับ
ร้านอาหารมิชลิน เพลท (2018-2021)
เหมาะสำหรับ
ธุรกิจ
จัดเลี้ยงเป็นกลุ่ม
โอกาสพิเศษ
เวลาเปิด-ปิด
วันนี้
12:00 - 14:30
18:00 - 23:00
จันทร์ - อาทิตย์
12:00 - 14:30
18:00 - 23:00
ข้อมูลข้างต้นใช้เพื่ออ้างอิงเท่านั้น กรุณาตรวจสอบข้อมูลกับร้านอาหารอีกครั้ง
รายละเอียดของรางวัล
วิดีโอ
รูปภาพ
+142
เมนูแนะนำ
บทความเกี่ยวกับร้านนี้
ได้เวลาเอาของดองมาปล่อยอีกแล้วกับเสต็กเฮ้าส์ที่ไปกินแล้วประทับใจสุดๆ กับ Fire Place โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพนั่นเองค่า สำหรับพิกัดของ Fireplace Grill and Bar อยู่ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล แยกราชประสงค์นะคะ ถ้าอยู่ที่ล็อบบี้ จะมีทางเดินเชื่อมไปที่อีกปีกห้องอาหารจะอยู่ที่ชั้น ground floor ที่อีกฝั่งเลยค่ะภายในห้องอาหาร จะจัดที่นั่งไว้ค่อนข้างมีสเปซระหว่างกันพอควร ให้ความเป็นส่วนตัวค่ะ แต่ถ้าไปเร็วแล้วเพื่อนยังไม่มา จะมีส่วนที่เป็นเหมือน living room ให้นั่งรอกันได้ด้วยนะคะรวมทั้งถ้าใครมากันเป็นกลุ่มแล้วต้องการห้องส่วนตัวก็มีห้องส่วนตัวให้บริการเช่นกันค่ะโดยห้องอาหารแห่งนี้ได้รับ Michelin Plate 2020 ด้วยนะคะ ก่อนหน้านี้ทางห้องอาหารเคยเปลี่ยนคอนเซปต์เป็น Contemporary European ค่ะ แต่ปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนกลับไปเป็นแบบเดิมแล้วนะคะ ซึ่งเราว่าดีนะ กลับไปที่จุดแข็งของตัวเองที่เคยสร้างชื่อเสียงมาตั้งแต่ 50 ปีก่อนอะค่ะ มาดูเมนูกันค่ะ ราคาตามมาตรฐานห้องอาหารในรร.ห้าดาวหละนะคะ จะเห็นว่าเมนูก็มีหลายเมนูที่สร้างชื่อเสียงให้กับทางร้านกลับมาแล้วนะคะ สำหรับแอพพิไทเซอร์นี่จะเห็นว่ามีแนะนำสามตัวเลยนะคะ วันนั้นเราได้กินครบสามตัวที่แนะนำค่ะ นอกนั้นก็จะเป็นซุปสาม เมนสาม (ไปกันสามคนค่ะ เลยได้ลองหลายเมนูหน่อย) ไซด์ดิช และของหวานค่ะ เดี๋ยวค่อยเล่าตอนลงภาพอาหารแล้วกันเนาะคะวันนั้นเลือกนั่งกันที่โต๊ะนี้ค่ะ ไปวันธรรมดา ก็เลยค่อนข้างเลือกโต๊ะกันได้สบายๆ หน่อยค่ะทางร้านเสิร์ฟขนมปังมาให้ก่อนเลยค่ะ ขนมปังฟองกาเซียร์ เป็น white bread กับขนมปังฟาร์มาโรล ทำจากขนมปัง whole wheat มีความนุ่ม เนื้อสัมผัส เทกซเจอร์ดี๊ดีค่ะ นุ่ม แน่น หนืดนิดๆ หอมและอร่อยมาก เราชอบฟองกาเซียร์มากกว่า แต่เพื่อนชอบตัวโฮลวีทมากกว่านะคะ กินเปล่าๆ ก็อร่อย หรือจะเสริมรส+กลิ่นด้วยเนยแท้ที่เอามาให้ด้วยก็จะได้อีกรสชาติค่ะอมุสบุช ทางร้านทำมาให้สองตัวค่ะตัวแรก Jumbo Crab Sticks เป็นกรวยที่ข้างในใช้เนื้อปูยักษ์มาปรุงรสนะคะ ปูสด รสชาติสดชื่น กรวยแป้งบางกรอบ อร่อยค่ะ Aranchini อะรันชินี เมนูกินเล่นของอิตาลี เป็น rice ball สอดไส้ชีส นำไปคลุกเกล็ดขนมปังทอด ตัวนี้เทกซเจอร์จะออกกรอบๆ ซึ่งทำดีนะคะ ไม่กรอบจนแข็งค่ะ มีความนวลๆ มันๆ ของชีสเป็นรสหลัก ต่อไปมาที่แอพพิไทเซอร์กันบ้างนะคะHand-chopped Beef Tartare 750 บาทเป็นหนึ่งในเมนูแอพพิไทเซอร์แนะนำของทางร้าน และเป็นจานโปรดของเชื้อพระวงศ์ท่านหนึ่งนะคะ ตัวนี้จะมีการนำเนื้อไปคลุกเคล้ากับบรั่นดีก่อนจะนำมาคลุกเคล้ากับเครื่องเทศเครื่องปรุงต่างๆ ค่ะ จะเสิร์ฟมาพร้อมการ์เด้นสลัด โดยเนื้อจะใช้สตอร์คยาร์ดโกล จะใช้เนื้อที่มีชั้นไขมันไม่เยอะมาก เพราะจะเลี่ยนเกินไปค่ะซึ่ง...คู่ควรด้วยประการทั้งปวง เป็นบีฟทาแทร์ที่อร่อยที่สุดตั้งแต่เคยกินมา เนื้อมีรสชาติความหวานหอมของเนื้อสดแบบที่ควรเป็น (เมนูนี้เป็นเนื้อจากออสเตรเลียค่ะ) แต่เครื่องปรุงที่ใส่มาก็ช่วยเสริมรสและกลิ่น ไม่มีความคาวเลย และมีรสเผ็ดเจือนิดๆ อร่อยมาก กินเปล่าๆ ก็อร่อย ยิ่งพอกินกับตัวขนมปังกรอบที่แนมมาด้วยยิ่งทำให้อร่อยขึ้นไปอีกใครทานเนื้อได้ แนะนำให้สั่งเลยค่ะสำหรับแอพพิไทเซอร์ตัวนี้นะคะแอพพิไทเซอร์ตัวต่อไปค่ะEscargot 950 บาท หอยเอสคาโกต์ นำเข้าจากเบอร์กันดี ฝรั่งเศสนะคะ เมนูนี้จะทำโดยการใส่บรั่นดีแล้วนำไปเผาเพื่อให้แอลกอฮอล์ระเหย แต่กลิ่นบรั่นดียังคงอยู่ จากนั้นก็จะ on top ด้วยซอสเนยกระเทียม เสิร์ฟแบบพร้อมทานบนมันบด มาพร้อมขนมปังกระเทียมกรอบหอยนุ่มมาก ไม่เหนียว มีกลิ่นหอม รสชาตินุ่มนวลกลมกล่อมมาก อร่อยค่ะ ดีงามมากเช่นกัน ใครทานเนื้อไม่ได้ แอพฯ เมนูนี้ก็ดีงามมากค่ะPan-roasted Foie Gras 950 บาท ฟัวกราส์นำเข้าจาก Sariat ฝรั่งเศส นำมาทำเป็น 2 เมนูในจานเดียว เมนูแรกคือตับห่านนาบกระทะ ข้างนอกสุก แต่ข้างในยังคงความฉ่ำ ฟัวร์กราส์ชิ้นใหญ่หนาและเกรดดีมาก อร่อยค่ะ เป็นอีกที่ที่ทำฟัวร์กราส์ได้ดีหละ กินกับตัวซอสราสเบอรีรีดัคชันที่รองพื้นไว้ก็ทำรสมาดีมาก ไม่เปรี้ยวแหลมเกินไป ออกเปรี้ยวหวานค่ะส่วนอีกเมนูเป็นเหมือนนักเก็ตด้านในเป็นฟัวร์กราส์และลิ้นจี่ เมนูนี้ ชนะการแข่งขันในรายการ Iron Chef ด้วยนะคะ ได้เทกซเจอร์และรสที่หลากหลายมาก ความหอม หวานอมเปรี้ยวของลิ้นจี่ ทำให้ช่วยส่งรสฟัวร์กราส์ได้ดีเลยค่ะต่อไปเป็นสลัดกันบ้างค่ะ Caesar Salad 450 บาท ถึงจะมีชื่อว่าซีซาร์สลัดแต่เป็นซีซาร์สลัดที่ไม่เหมือนที่อื่นนะคะ มีการใช้แอนโชวีใส่ลงไปด้วย ทำให้รสชาติมีความเจือเค็ม กินแล้วให้อารมณ์เซอร์ไพรซ์จากการที่คาดหวังว่าจะเป็นซีซาร์สลัดแบบที่เคยกินค่ะ น้ำสลัดก็รสชาติดีมาก อร่อยแหละ ใครชอบสลัดก็อยากให้ลองนะคะต่อไปเป็นซุปค่ะ ได้ลองสามตัวเช่นกันนะคะ ไล่กันไปเลยMushroom Soup 420 บาทซุปเห็ดที่มีกลิ่นหอมของทรัฟเฟิลกำลังดีมากค่ะ ไม่แรงเกิน แต่ก็ไม่เบาอ่อนจาง ความข้นความมันก็กำลังดีมาก เป็นซุปอีกตัวที่เราชอบนะคะLobster Bisque 480 บาทจะเคี่ยวเอาตัวน้ำสต็อกมาจากล็อบสเตอร์ซึ่งเคี่ยวโดยใช้เวลานานแล้วก็เผากับบรั่นดี มีเนื้อล็อบสเตอร์เด้งๆ สดหวานอยู่ด้วยนะคะ หอม รสชาติกลมกล่อมกำลังดีมาก ไม่เค็มโดด หรือเจือขมนิดๆ เหมือนบางที่ อร่อยค่ะOnion soup 450 บาทตัวนี้เป็นซุปที่เป็นบีฟคอนซูเม่นะคะ เสิร์ฟพร้อมแป้งพัฟอบกรอบโรยชีสพาเมซาน น้ำซุปจะออกแนวใสๆ แต่มีกลิ่นหอมจากการเคี่ยว กินเปล่าๆ ก็จะได้อีกรสชาติ แต่พอกินคู่กับตัวแป้งพัฟ จุ่มลงไปชุ่มๆ ก็ได้อีกรสชาติค่ะ เพื่อนที่ไปด้วยกันชอบมากๆ นางยึดอันนี้ไปเลยค่ะ 5555 ส่วนเรากับอีกคนก็กินลอบสเตอร์บิสค์กับซุปเห็ดที่อร่อยมากเหมือนกันไปต่อไปเป็นเมนกันบ้างนะค้าาาWestholme Wagyu Rib Eye 2,400 บาทสเต็กเนื้อ Westholme จาก Queensland ประเทศ Australia เป็นเนื้อส่วนริบอายที่มีมันแทรกอยู่ตลอดทั้งชิ้น Marbling score 4-5 น้ำหนัก 300 กรัม ที่นี่ย่างโดยไม่มีการนำไปอบเหมือนบางที่นะคะ คือ ใช้ทักษะในการย่างล้วนๆ เลยค่ะ ตัวนี้เพื่อนสั่งความสุกระดับ medium rare ซึ่งได้มาอย่างใจมากค่ะ เนื้อนิ่มกำลังดี ยังรักษากลิ่นหอมของเนื้อไว้ได้อย่างที่ควรเป็น เป็นเสต็กเนื้อที่ดีงามมากๆ เลยแหละ ตัวกระเทียมที่แนมเคียงมาด้วยนี่ก็อบมาดีมากนะคะ เพื่อนแคะกินเรียบเลยค่ะ 5555สำหรับไพร์มริบโรสท์บีฟซึ่งเป็นเมนูดังประจำของที่นี่ อันนี้ต้องมีการสั่งล่วงหน้า 24 ชั่วโมงนะคะ เพราะทางร้านจะมีขั้นตอนการทำอยู่ค่ะ วันนั้นเลยไม่ได้ลอง เอาไว้วันหลังจะไปชิมใหม่นะฮับ Iberico Lamb 2,400 บาทเป็นซี่โครงแกะ นำเข้าจากอิเบอริโก ประเทศสเปน น้ำหนัก 280 กรัม โดยของที่นี่จะเป็นการนำไปย่างอย่างเดียวโดยไม่มีการนำไปอบเหมือนบางที่นะคะ ซึ่งเราสั่งไปเป็นแบบมีเดียม และเชฟก็ทำมาได้ดีมากกกกก ย่างกำลังดี นุ่มสุดๆ นุ่มมากกกกกกก กอไก่ล้านตัว กลิ่นแกะไม่แรง แต่ยังมีพอเบาๆ ให้ไม่เสียความเป็นแกะ ขนาดกินตอนที่เย็นแล้ว (เพราะมัวแต่ถ่ายรูปกันอยู่) ก็ยังคงนุ่มมากค่ะ ดีงามสุดๆส่วนนี่ก็จะเป็นซอสที่ทางเชฟทำมาให้เพิ่มเพื่อกินกับซอสแกะค่ะ มีทั้งตัวซอสมินท์ ฮันนี่ มัสตาร์ด ฯลฯเมนดิชอีกจาน สำหรับคนที่เนื้อก็กินไม่ได้ แกะก็ไม่ชอบนะคะ 555Fresh Whole Dover Sole 2,800 บาทเป็นเนื้อปลาโดเวอร์โซล์ซึ่งไม่ได้เป็นปลาจากฟาร์มนะคะ แต่เป็นปลาจากการจับจากธรรมชาติ เป็นปลาที่มีความมันน้อยกว่าสโนว์ฟิช เมนูนี้เลือกได้ว่าจะทำแบบนาบกระทะหรือย่างก็ได้ เสิร์ฟมาพร้อมซอสไวน์ขาวนะคะ เมนูปลานี้มีความหวานของเนื้อปลาที่ดีค่ะ เป็นปลาที่อร่อยเมนูหนึ่งเลยค่ะ กินเปล่าโดยไม่ราดซอสก็ได้รสและกลิ่นของปลาเต็มๆ หรือจะราดซอสเพิ่ม บีบเลมอน (ที่มีผ้าขาวห่อไว้) อีกนิดเพื่อนก็ชอบมากเลยค่ะมีไซด์ดิชทั้งหมดมาชิม 3 ตัวค่ะCream spinach, parmesan cheese 250 บาทKing’s Royal Project Tomato Salad 250 บาทAssorted Wild Mushroom, Garlic Chips 250 บาทซึ่งเซอร์ไพรซ์มาก ไซด์ดิชอร่อยทั้งสามตัวเลย ตัวผักโขมนี่รสหอมมันกลมกล่อมมาก ตัวสลัดก็มีความสดชื่นของผักสด รสชาติเปรี้ยวเจือหวาน ส่วนตัวเห็ดนี่ก็ได้ความกึ่งกลางระหว่างสองจานแรก ซึ่งอร่อยมากค่ะ ขนาดเราอิ่มๆ แล้วยังรู้สึกว่าอร่อยทั้งสามจานเลย ดีงามอ้ะจบคาวแล้ววว ไปของหวานกันค่าา เย้ๆCoffee Flavour Mascarpone Mousse 350 บาทเมนูนี้เป็นมูสเค้กรสกาแฟที่ทำจากชีสมาสคาร์โปนของอิตาลี ราดซอสช็อกโกแลต และมีไอศกรีมรสกาแฟของ Movenpick มาด้วยนะคะตัวเทกซเจอร์เนื้อมูสจะกึ่งเบากึ่งแน่น แต่มีรสชาติชัด มีกลิ่นของกาแฟมาด้วยบางๆ ตัวไอศกรีมนี่อร่อยมากค่ะ กินด้วยกันแล้วดีมากเลย อร่อยค่ะ ถ้าใครที่ชอบทั้งกาแฟและช็อกโกแลตน่าจะถูกจริตกับเมนูนี้นะคะต่อไปค่ะ ของหวานอีกหนึ่งเมนูClassic Crepes Suzette 450 บาทเป็นเมนูที่ถ้าหากสั่ง ก็จะมาทำให้ดูสดๆ ที่ข้างๆ โต๊ะเลยค่ะ ทางพนักงานจะทำให้สดๆ ตามภาพด้านบนเลยค่ะ ตัวหล้าจะมีทั้งเหล้ากลิ่นส้มและมาร์แตลวีเอสโอพีนะคะ แต่มีการเฟลมให้แอลกอฮอล์ระเหยออกไปนะคะ พอได้ซอสส้มแล้วจึงนำแผ่นเครปใส่ลงไปเคี่ยวต่อแล้วเบิร์นผิวส้มเพิ่มกลิ่น จะเสิร์ฟพร้อมไอศกรีมวานิลาของ Movenpick และส้มสดค่ะ รสจะออกเปรี้ยวอมหวานนิดๆ ไม่ขมเลย (อันนี้ดีมาก เพราะบางที่จะทำมาขม) เนื้อเครปนุ่มดีค่ะช็อกโกแลตที่มาทั้งดาร์คและไวท์ เพื่อนไม่กินช็อคโกแลต เลยยกให้เราค่ะ อร่อยมากทั้งสองตัวเลย ฟินๆPetit four ขนมหวานชิ้นเล็ก ๆ 4 อย่าง ได้แก่Madeleines รูปคล้ายเปลือกหอย เนื้อเค้กแน่น ๆ มีกลิ่นส้มอ่อน ๆRaspberry jelly เนื้อเจลลีหนึบหนับ เปรี้ยว หอมกลิ่น ราสเบอร์รี่Financier เค้กอัลมอนด์ เนื้อแน่นแต่นุ่มกว่า MadeleinesBerry jelly ชิ้นนี้ออกหวานกว่าตัวราสเบอรี่ทั้งหมดนี้เราไม่ได้กินนะคะ เพราะตอนนั้นไม่ไหวแล้ว เพื่อนกินทั้งหมดล้วนๆ คนเดียวค่ะ อันนี้นางเป็นคนบอกว่าชิ้นไหนเป็นยังไงบ้าง แหะๆสรุปสำหรับที่นี่นะคะ เป็นเสต็กเฮ้าส์ที่เราประทับใจมากกกกก (กอไก่ล้านตัว) แอพพิไทเซอร์เลิศ ซุปดี ทำเสต็กได้ประทับใจ คุณภาพวัตถุดิบดี ย่างมาพอดี ไซด์ดิชก็อร่อยทุกตัวเลย ไปกินแล้วรู้เลยว่าทำไมร้านนี้ถึงมีชื่อเสียงมานาน แล้วก็เป็นร้านโปรดของหลายๆ คนค่ะ ใครที่หาร้านเสต็กดีๆ ก็แนะนำให้ไปลองที่นี่ดูนะคะ
อ่านต่อ
พาไปชิมเมนูใหม่โดยเชฟประจำห้องอาหารคนใหม่ Chef Sebastian Reischerจากที่ชิมแล้ววัตถุดิบที่เชฟใช้มีความคุณภาพทั้งความสดและขนาดรสมือโดยรวมเชฟเน้นรสชาติจากตัววัตถุดิบมาผสมผสานกันเป็นหลักส่วนซอสและเครื่อเคียงต่างๆก็ไปด้วยกันกับวัตถุดิบหลัก ถือว่าเป็นอีกสีสันที่น่าสนใจอีกหน้านึงของห้องอาหารชื่อดังแห่งนี้ครับ.รายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.reviewnowz.com/intercontinental-bangkok-fireplace-grill-new-menu-2015/รายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.reviewnowz.com/intercontinental-bangkok-fireplace-grill-new-menu-2015/
อ่านต่อ
"ห้องอาหารย่างด้วยเตาถ่าน ผ่านวัตถุดิบพรีเมียมตระเตรียมโดยเชฟชั้นยอด พร้อมเครื่องดื่มสาระพัดดีจัดเรื่องการบริการ"วันนี้ขอพามาทานอาหารแบบ Fine Dining กันบ้างกับห้องอาหารไฟร์เพลส กริลล์ Fireplace Grillแห่ง โรงแรมอินเตอคอนติเนนตัล กรุงเทพที่ได้คว้าตัวเชฟคนใหม่ แต่ฝีมือเก๋าและเก่งมารังสรรค์เมนูสุดเจ๋งและสดใหม่ให้ได้ลิ้มลองกันกับเชฟ เซบาสเตียน ไรเซอร์(Chef Sebastian Reischer)เรามาทำความรู้จักกับเชฟเซบาสเตียน ไรเซอร์กันสักนิดนะครับ จะได้ทราบถึงดีกรีความอร่อยกันเชฟเซบาสเตียน ไรเซอร์ เป็นชาวออสเตรีย เริ่มต้นจากความหลงไหลในการทำอาหารของคุณแม่ด้วยการเฝ้าดูอย่างตั้งใจ ทำให้เชฟได้ซึมซับความสนใจในการทำอาหารตั้งแต่นั้นมาประสบการณ์การทำอาหารของเชฟเซบาสเตียนเชฟผ่านห้องอาหารมามากมายทั้งทางทวีปยุโรปและทวีปเอเชีย รวมถึงได้เคยร่วมงานกับเชฟเอียน-พงศ์ธวัช ในการแข่งขันมาสเตอร์เชฟเชฟกระทะเหล็กประเทศไทย ที่ประเทศสิงคโปร์มาแล้วอีกด้วยสไตล์การทำอาหารของเชฟนั้น เน้นการผสมผสานวัตถุดิบและวิธีปรุงที่แตกต่างกันให้เข้ากันไดอย่างลงตัวด้วยศาสตร์และศิลป์ที่มีอยู่ในตัวของเชฟนั้นทำให้อาหารของค่ำคืนนี้นั้น อุดมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และรสชาติที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร เป็นเอกลักษณ์ของ เชฟเซบาสเตียน ไรเซอร์ เองทำความรู้จักกับเชฟเซบาสเตียน ไรเซอร์กันไปแล้ว เรามาชมบรรยากาศของห้องอาหารFireplace Grill กันครับเดินเข้ามาสู่ห้องอาหาร ย่างก้าวแรกกับการมองเห็นภายในห้องอาหารนั้นละลานตาไปด้วยชั้นวางเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นานาชนิด และชั้นไวน์ที่มีไวน์อย่างดีรวมทั้งแชมเปญ สปาร์คกิ้งไวน์ต่าง ๆ ไว้รอให้เลือกอย่างละลานตามากครับ รอบ ๆ ห้อง รอบ ๆ โต๊ะที่นั่งก็จัดเต็มด้วยชั้นไวน์ เพดานห้องอาหารไม่สูงไม่ต่ำจนเกินไปทำให้ไม่รู้สึกโล่งหรืออึดอัดแต่กลับได้รับความรู้สึกอบอุ่นเข้ามาแทน 1 ใน 2 ห้องส่วนตัว Penfolds Grange 10 ที่นั่งไว้บริการแบบ Private Diningตรงกลางห้องอาหาร เป็นครัวแบบเปิดทำให้เราเห็นการปรุงและรังสรรค์จัดเตรียมวัตถุดิบจัดจานเพื่อเสิร์ฟ ได้อย่างเพลิดเพลินครับ การตกแต่ง สวย หรูหรา น่านั่งอีก 1 ห้องสำหรับจัด private ครับVeuve Clicquot Room 12 ที่นั่ง ซึ่งเป็นห้องที่ได้รับเชิญให้มาทานกันที่ห้องนี้ ตกแต่งด้วยแชมเปญยี่ห้อดัง อุปกรณ์ในการรับประทานในค่ำคืนนี้ครับ มื้อนี้ทางห้องอาหารจัดน้ำแร่มาเป็นเครื่องดื่มให้เพื่อให้เราได้รับรู้รสชาติและรสสัมผัสของเมนูใหม่ที่เชฟเซบาสเตียน ไรเซอร์ รังสรรค์ขึ้นมาพนักงานนำขนมปังอบ 2 ชนิดมาให้เลือกเป็นของว่างทานเล่นชิ้นนี้เป็นขนมปังฟองกาเซียร์โรลทำจากขนมปังขาว หอม นุ่ม รสหวานนำ บิออกแล้วทาเนยให้ชุ่มฉ่ำ อร่อยมาก ผมเลยขอลองอีกชนิดนึงด้วยกับขนมปังฟาร์มาโรล ลักษณะแป้งจะคล้ายโฮลต์วีทเนื้อจะแข็งกว่าฟองกาเซียร์ และเค็มกว่า แต่โดยรวมแล้วบิ ทาเนย ก็อร่อยไม่แพ้กันคนละสไตล์ครับ จากนั้นเมนูอาหารก็เริ่มมาเสิร์ฟครับเมนูแรกเป็นซุปและของทานเล่นAsparagus Soup & Asparagus Spring Rollครีมซุปหน่อไม้ฝรั่งและเปาะเปี๊ยะหน่อไม้ฝรั่งในซอสรสชาติครีมซุป อร่อยมากเนียนเกือบเป็นโฟม หอมละมุนรสกลมกล่อมมีเค็มและมันนำหน้ามา เปาะเปี๊ยะจิ้มซอส ไส้เปาะเปี๊ยะเป็นหน่อไม้ฝรั่งอ่อน ๆกรอบทั้งแป้งห่อและเนื้อแน่นของหน่อยไม้ฝรั่งเข้ากันได้ดีกับซอสสูตรพิเศษเลยครับ จานถัดมาเป็น appetizer ครับ กับ Beef Tartar with SmokedSalmon Cream and Cavier, Toastทาร์ทาร์เนื้อเสิร์ฟกับคาเวียร์ แซลม่อนครีมชีสและขนมปังปิ้ง ตกแต่งจัดจานมาอย่างสวยงามน่ามองจานนี้เป็นจานเรียกน้ำย่อยขั้นสุดสำหรับผมเลยครับเนื้อวัวชั้นดีสับหยาบเคล้าซอสรสเลิศทานพร้อมกับไข่ปลาคาเวียร์ ครีมชีสแซลมอนลงตัวสุด ๆ สัมผัสเบา ๆ นุ่ม ๆเหมือนล่องลอยอยู่ในปุยเมฆจะทานเปล่า ๆ หรือทานพร้อมขนมปังกรอบก็สุดยอดมาก ๆ ครับเมนูนี้ ดูกันใกล้ ๆ ชัด ๆ จะ ๆ น่ากินเป็นที่สุดสำหรับ Beef lover นะครับ จานนี้อร่อยแค่ไหน จานเปล่าเป็นเครื่องพิสูจน์ครับ จานถัดมาที่ได้ลิ้มลอง ยังคงเป็น appetizer อีก 1 เมนูใหม่ Pan Fried Scallops with CauliflowerEspuma, Crispy Cauliflower,Chorizo, Parmesan Crunchหอยเชลล์ทอดเสิร์ฟพร้อมดอกกระหล่ำทอดกรอบ ไส้กรอกโซริโซ่(ไส้กรอกสเปน) และ พามาซานแครกเกอร์การจัดจาน วางองค์ประกอบได้อย่างมีศิลปะครับ ดอกกะหล่ำทอดกรอบที่ไม่คิดว่าจะมาอยู่ในเมนูอาหารฝรั่ง เลิศ!!! แครกเกอร์ชีสก็กรอบ เค็ม มันเนื้อหอยเชลล์ตัวโต นาบผิวบนกระทะร้อนให้พอหอมแต่ด้านในยังสดเด้งดึ๋งดั๋ง เมนูนี้ แนะนำให้ทานคู่กันกับทุกสิ่งอย่างในจานรสชาติจะระเบิดออกมาพร้อม ๆ กันครับ อย่าทานแยกนะครับ โดยเฉพาะถ้าได้ทานกับไส้กรอกโซริโซ่ ที่มีรสเค็มและเผ็ดนิด ๆ จะยิ่งอร่อยจานถัดมาเป็น main course 1 ใน 2 จานที่ได้ลิ้มลองBraised Pork Bellywith Scallop, apple mustard, Fried Chorizo and Chicharronหมูสามชั้นตุ๋น 48 ชั่วโมงพร้อมหอยเชลล์ทอด โซริโซ่ทอดกรอบ มัสตาร์ดแอปเปิ้ลและหมูกรอบ (แคปหมู)จานนี้จัดมาได้เต็ม portion เต็มจานเลยครับด้วยหมูสามชั้นนุ่ม ๆ ซึ่งผ่านการซูวีมาถึง 48 ชั่วโมงชิ้นใหญ่พอสมควร หอยเชลล์ทอดตัวใหญ่ประกบอีกด้านด้วยซอสมัสตาร์ดแอปเปิ้ลกับไส้กรอกโซริโซ่แล้วท็อปปิ้งด้วยแคปหมูเส้นยาว นำสายตาสู่ความอร่อยลงตัว เป็นอีก 1 จานที่งดงามครับ เนื้อหมู 3 ชั้น นั้นก็นุ่ม ไม่แข็งกระด้างในส่วนเนื้อและไม่มันทะลักในส่วนมัน กำลังสู้ฟันฉุ่มฉ่ำดี จะทานเดี่ยวทานรวมกันก็อร่อยครับแต่ทุกสิ่งในจานทานรวมกันพร้อมกันผมว่าจะได้รสชาติที่ผสมผสานกันตามเจตนาและสไตล์ของเชฟมากกว่าครับ เป็นอันเกลี้ยงไปอีก 1 จานครับ ไม่เหลือ!!! ถัดมากับ maim course อีก 1 เมนูChallan Duck with Confit duck cigar,chick pea puree and crispy skinอกเป็ดทอด สปริงโรลสอดไส้เป็ดตุ๋นและฟิกซ์พร้อมถั่วลูกไก่บดและหนังเป็ดทอดกรอบ จานนี้มีพร็อพประกอบนิดนึงเพื่อความสนุกสนานเลยเชิญเจ้าหมี kumamon แห่งเมืองคุมะโมโตะมาร่วมรับประทานด้วยครับจัดจานออกมาอย่างสวยงามมีมิติลักษณะคล้ายสวนหย่อมแบบย่อส่วน เจ้าหมีนอนหงายร้องไห้หิวโซแล้วครับความนุ่มของอกเป็ดระดับสุดยอด ตักทานพร้อมกับเครื่องทั้งหมดบนจานครับอร่อยมาก ๆ เข้ากันได้ดีแต่จานนี้ ถ้าทาสแยกบางอย่างจะหวานไป เค็มไปต้องทานพร้อมเนื้ออกเป็ดเท่านั้นถึงจะลงตัวที่สุดครับ หมดเมนูของคาวแล้ว ก็เข้าสู่เมนูของหวานBananaชีสเค้กกล้วย กับไอศกรีมกาแฟ ไอศกรีมกาแฟอร่อยมากเป็นไอศกรีมที่เป็นกาแฟจริง ๆทั้งรสและกลิ่นครับ วางท็อปปิ้งด้วยสตอร์เบอรรี่ อีกด้านเป็นชีสเค้กรสกล้วย หอมหวานกำลังดี ทั้ง 2 ส่วนมีเส้นช็อคโกแล็ตลากเชื่อมต่อกันสวยงาม ทานพร้อม ๆ กันนี่อย่างฟินกับของหวานจานนี้ครับ และแล้วก็มาสู่ของหวานที่เป็นเซอร์ไพร์สอย่างสุดท้ายลักษณะเป็นช็อคโกแล็ตฟองดูว์แต่จัดการตกแต่งได้เก๋ไก๋ กดถ่ายภาพกันอย่างสนุกสนานเรียกได้ว่าเจริญอาหารทั้งทางรูป รส กลิ่น สัมผัสเลยครับ รสไวท์ช็อคกับมิลค์ช็อคครับ อร่อยทั้งคู่ แล้วก็ถึงบทสรุปส่งท้ายสำหรับการรีวิวเมนูอาหารใหม่จากฝีมือเชฟคนใหม่ เชฟเซบาสเตียน ไรเซอร์ที่แสนจะอร่อย สะกดทุกสายตาและอารมณ์เมื่อได้ชมอาหารที่อยู่ตรงหน้า และได้ลิ้มรสชาติแปลกใหม่ ผสมผสานกันอย่างลงตัวซึ่งเป็นเอกลักษณ์และสไตล์เฉพาะตัวของเชฟเซบาสเตียน ไรซ์เซอร์อีกด้วยครับและสุดท้ายของท้ายที่สุด ผมมีของเล็ก ๆ น้อย ๆมามอบให้เพื่อน ๆ ที่สนใจอยากไปลิ้มลองเมนูใหม่จากฝีมือเชฟเซบาสเตียน ไรเซอร์แห่งห้องอาหาร Fireplace Grill หรือจะเป็นอีก 3 ห้องอาหารทั้ง Grossi, Summer Palaceและห้องอาหาร Espressoเป็นบัตรส่วนลดค่าอาหาร 25% ทั้งบิลและยังมีบัตรสมนาคุณ แชมเปญ 1 แก้วฟรีเมื่อทานอาหารที่ห้องอาหาร Fireplace Grillครบ 2,000 บาทอีกด้วยครับผมมีให้อย่างละ 3 รางวัลครับให้เป็นคู่กันสำหรับผู้โชคดี 3 ท่าน เพียงเขียนตอบคอมเม้นต์ในบทความรีวิวนี้ ที่ลิงค์นี้ครับhttp://ontcu.blogspot.com/2015/02/fireplace-grill-intercontinental-bangkok.htmlว่าชอบและอยากไปทานเมนูไหนมากที่สุด พร้อมกดแชร์บทความรีวิวนี้ไปยังหน้า social ของตัวเอง ผมจะทำการสุ่มจับฉลากชื่อขึ้นมาแล้วจะติดต่อกลับไปหาครับสนใจติดต่อสำรองที่นั่งหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร : 0-2656-0444 ต่อ 5500www.icbangkok.comรายละเอียดห้องอาหาร Fireplace Grillชั้น G โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯเวลาเปิดบริการ มื้อกลางวัน 12.00-14.30 น.(จันทร์-ศุกร์)มื้อเย็น 18.30-22.30 น.จำนวนที่นั่ง 65 ที่นั่งในห้องโถงห้องส่วนตัว 2 ห้อง 10 และ 12 ที่นั่งจุดเด่น อาหารย่างด้วยเตาถ่านไม้ทั้งเนื้อสัตว์และซีฟู๊ดของหวานชั้นดี และไวน์ชั้นยอดทั้งในโลกเก่าและโลกใหม่ ติดตามความอร่อยร้านอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่http://ontcu.blogspot.com
อ่านต่อ
Fireplace Grill เป็นร้าน steak ของโรงแรม Intercontinental Bangkok เมนูเน้นอาหารประเภท grill แต่การจัดเสิร์ฟจะพิถีพิถันกว่าร้าน steak ที่เน้นแนวอเมริกัน การตกแต่งอาหารสวยงามแบบอาหารยุโรป การใช้ซอสแต่งรสคล้ายอาหารฝรั่งเศส ร้านนี้มี set lunch มื้อกลางวันที่ราคาค่อนข้างสูงแต่ก็คุณภาพอาหารดีมาก ไวน์ by the glass ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 300-400 บาท (Penfolds)บรรยากาศร้านช่วงกลางวันจะค่อนข้างเงียบ ลูกค้าเป็นนักธุรกิจทั้งไทยและต่างชาติ เป็นร้านที่เห็นลูกค้ามารับประทานคนเดียวหลายโต๊ะ
อ่านต่อ