1
0
0
เบอร์โทร.
084-646-4588
084-646-4533
เหมาะสำหรับ
ลำลอง
ครอบครัว ลำลอง
ข้อมูลเพิ่มเติม
ห้องจัดเลี้ยงขนาด 300 คน , ห้องคาราโอเกะ 3 ห้อง , มีที่จอดรถของร้าน รองรับ 300 คัน
เวลาเปิด-ปิด
วันนี้
11:00 - 22:30
จันทร์ - อาทิตย์
11:00 - 22:30
วิธีจ่ายเงิน
วีซ่า มาสเตอร์ เงินสด
จำนวนที่นั่ง
300
ข้อมูลอื่นๆ
Wi-Fi
ที่จอดรถ
Service Charge
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เว็บไซต์ร้านอาหาร
http://www.facebook.com/ARIS.Restaurant.Buddhamonthon5/
ข้อมูลข้างต้นใช้เพื่ออ้างอิงเท่านั้น กรุณาตรวจสอบข้อมูลกับร้านอาหารอีกครั้ง
รีวิว (1)
วันนี้แวะมารีวิวร้านอาหารเปิดใหม่ในย่านพุทธมณฑลสาย5 กันสักร้านนึง ร้านที่ว่าคือ ร้านอรีส ARIS Restaurant ขับรถผ่านเส้นนี้ เห็นก่อสร้างมาสักพักนึงแล้ว จากพื้นที่โล่งๆไม่มีอะไร พอวันนึงขับรถผ่านเห็นมีก่อสร้าง เป็นอาคารหลังคาสูงๆ 2 อันดูน่าสนใจดี พอมาช่วง2-3สัปดา ก่อนเห็นป้ายเขียนว่าเปิดบริการแล้ว เลยชวนกรุ๊ปแก็งค์มาลองกันหน่อยพิกัดอยู่ตรงเส้นพุทธมณฑลสาย5 ติดกับปั้มน้ำมันซัสโก้ เส้นขาวิ่งออกไปถนนบรมมราชชนนี  ร้านอยู่ติดริมถนนใหญ่ หาไม่ยาก จุดสังเกตุคือถ้าเจอปั้ม Susco แล้วร้านนี้อยู่ติดกันเลย(ถ้าขับรถมาที่ร้าน  ร้านนี้ที่จอดรถจะอยู่ด้านหลังร้านนะ ต้องขับผ่านร้านไปอีกนิดจะเจอซอย วิ่งเข้าซอยนิดนึง แล้วเลี้ยวเข้าทีจอดรถของร้านได้เลย กว้างมาก น่าจะจอดได้เป็นร้อยๆคัน)ร้านนี้เพิ่งเปิดมาได้ซักประมาณหนึ่งเดือนเศษๆ น่าจะเมื่อต้นมีนา61 นี้เอง เห็นในเพจเค้าบอกว่าเป็นร้านในเครือเดียวกันกับร้านบ้านร่มไม้สายน้ำ (ที่อยู่ใกล้ๆตลาดน้ำดอนหวาย) เคยไปกินร้านนั้นมาหนนึงแล้ว อยู่ติดริมแม่น้ำ บรรยากาศดีมากๆบรรยากาศการตกแต่งของร้านอรีส ARIS ค่อนข้างจะดูโมเดิร์นและร่มรื่น ตกแต่งสไตล์ออกไปทางแนวลอฟท์ มีต้นไม้เขียวๆ ปลูกไว้ล้อมทั่วบริเวณ. ลองเดินชมรอบร้าน ไปหนึ่งรอบพบว่าใหญ่ทีเดียวแหละ ด้านหน้าร้านทำเป็นส่วนหย่อมขนาดย่อมๆ เหมือนเพิ่งลงต้นไม้ยังไม่ครบนัก มีมุมถ่ายรูปด้วย คิดว่ารอให้ต้นไม้โตอีกหน่อย รอตกแต่งอีกนิด น่าจะเป็นร้านเก๋มากๆ เหมาจะพาคุณแฟนมาทานอาหาร ถ่ายรูปกันสวยๆตามสไตล์สาวๆแน่นอน เดินเข้าไปในร้าน จะแบ่งชัดๆเป็นโซนห้องอาหารใหญ่ กว้างมากทีเดียว โต๊ะอาหารจัดวางดูดี มีแชนเดอร์เลีย หรือโคมฟ้าระย้า ที่สวยมากทีเดียว อยู่ในห้องกระจก โต๊ะอาหารมีทั้งแบบกลม แบบเหลี่ยม สำหรับ 4ที่นั่ง 6 ที่นั่ง ยาวไปถึง 12 ที่นั่ง และมีน่าจะโต๊ะต่อยาวๆกันได้อีก เก้าอี้เลือกใช้สีส้มแสด เป็นเก้าอี้หนังที่ดูดี และสีตัดกันกับความเขียวของต้นไมด้านนอกค่อนข้างชัดเจนดี และมีโซนห้องอาหารเล็กอยู่อีกฝั่งนึง ทั้งสองห้องเป็นห้องแอร์ แต่สามารถมองวิวผ่านกระจกออกมาเห็นต้นไม้เขียวๆข้างนอกได้  ในส่วนของห้องเล็ก เราว่าวิวที่อยู่ล้อมรอบนั้นสวยดี เพราะเหมือนห้องกระจกที่มีต้นไม้เขียวๆอยู่รอบๆ ให้ความรู้สึกสดชื่นดี มานั่งทานอาหารชิลล์ๆ ในบรรยากาศร่มรื่น ต้นไม้เขียวๆล้อมรอบส่วนพื้นที่ระหว่างกลางจะมีที่นั่งแบบ Open air ไว้บริการอยู่หลายโต๊ะเหมือนกัน คือถ้ามาช่วงกลางวัน อากาศร้อนๆเข้าห้องแอร์ดีสุด ส่วนโต๊ะด้านนอกเอาท์ดอร์เหมาะกับช่วงเย็นๆ แดดร่มลมโชย น่าจะชิลล์กว่า  เพราะพบว่าช่วงตอนเย็นๆ-หัวค่ำ จะมีลมพัดมาจากทิศด้านหลังของร้าน ถ้ามุมโต๊ะอาหารตรงนี้ ผมดูแล้วนั่งตอนค่ำๆหรือเย็นๆ มีลมพัดหน่อยๆโชยๆ บรรยากาศดีมากมาที่เมนูอาหารของที่ร้านดูๆ แล้วจะเน้นไปทางอาหารไทย ซีฟู้ดแล้วก็มีเมนูอาหารจีน ผสมอยู่บ้าง จริงๆเคยไปกินที่ร้านบ้านร่มไม้สายน้ำ มาครั้งนึงแล้ว ดูเมนูแล้วคล้ายกันมาก เพียงแต่ว่าที่นี่มันคนละบรรยากาศกัน ร้านเดิมมันแบบชิลล์ริมน้ำ ส่วนร้านอรีส ร้านใหม่นี้อารมณ์สไตล์ Loft ในสวนมาเริ่มกันที่จานแรกกันเลยดูเมนูที่สั่งมาทานกันวันนี้จานแรกอยู่ในลิสท์ จานแนะนำของร้านชื่อว่าเป็ดกีตาร์  (800 บาท)ตอนแรกเราก็งงว่ามันคือเป็ดอะไร พนักงานเขาบอกว่าเป็นเป็ดทั้งตัว ที่ชื่อว่าเป็ดกีตาร์ เพราะขั้นตอนการเตรียมอาหารที่ต้องขึงเป็ดผึ่งลมไว้กับราวซึ่งมีลักษณะคล้ายๆเหมือนกีตาร์นั้นเอง ตัวนี้เสิร์ฟมาพร้อมกับแป้งโรตีมาเลเซียทอด จิ้มกับน้ำซอสหวานสีดำๆข้นๆ ตัวเป็ดหนังจะกรอบ เนื้อนุ่ม ทานคู่กับโรตีจิ้มซอสแล้ว เอ๋อ...เข้ากันดีจิง คิดได้ไงเนี้ย2. ปลาบู๋นึ่งซีอิ๊ว (ขีดละ120บาท xน้ำหนักตามขนาดปลา) ตัวที่กินนี้หนัก8ขีดเป็นอีกหนึ่งเมนูแนะนำของร้าน จริงๆไปกินร้านอื่นๆจะบอกว่า หาทานเมนูปลาบู๋ค่อนข้างยาก ไม่ค่อยมีร้านไหนเอามาขายกัน เขาว่าปลาบู๋เป็นราชาของปลาน้ำจืด เมนูนี้เขาเอาไปนึ่ง แล้วมาราดซอสซีอิ๊วสูตรพิเศษของร้าน ผมสารภาพว่าเพิ่งจะได้ลองชิมเมนูปลาบู๋ครั้งแรกก็ที่นี้แหละ เนื้อปลาค่อนข้างแน่นและนุ่มมาก ไม่ค่อยมีกลิ่นคาวเลย ตัวซอสทำมาค่อนข้างดีรสกลมกล่อมมากๆ แทรกซึมเข้าไปในเนื้อปลาค่อนข้างดี ที่แตกต่างก็คือร้านเขาเสิร์ฟเมนูนี้ มาพร้มกับเส้นใหญ่เอาไปทอดแล้วตัดออกมาเป็นชิ้นๆ เหมือนชิ้นพิซซ่า ตัวแป้งจะกรอบที่ขอบนอก นุ่มใน กินแล้วมันเข้ากันดีกับน้ำซีอิ๊วของปลาบู๋ 3. หมีกแดดเดียว ( 240 บาท)หั่นหมึกออกเป็นเส้นยาวๆเหมือนกัน ชิ้นใหญ่ ไม่เหนียวเกินไป ทานคู่กับมายองเนสผสมวาซาบิ ออกรสนุ่มๆผสมเผ็ดๆแบบวาซาบินิดๆ4. สลัดกุ้งกระทงทอง (250 บาท)ก็คือสลัดผลไม้หลากหลาย ทั้งแคนตาลูป สัปปะรด แก้วมังกร มะเขือเทศราชินี แล้วมีกุ้งทอดกรอบทั้งตัวมาเป็นพระเอก เสิร์ฟมาในกระทงเผือกทอดกรอบแล้วเป็นภาชนะใส่ผลไม้ต่างๆไปในตัว ราดด้วยน้ำครีมสลัด5. เมี่ยงปลาช่อนทอด (350 บาท)จานแนะนำ ที่เราเห็นในเมนูแว็บแรกแล้วต้องสั่งเลย ที่ร้านนี้เขาจะหั่นเนื้อปลาเป็นชิ้นๆ เลาะเนื้อทั้งตัวแล้วเอาไปทอดกรอบทั้งชิ้น เพื่อความสะดวกในการทาน เสิร์ฟมาพร้อมเครื่องเคียงมากมายตามภาพเลย มีทั้งขิง ข่า พริก หอมแดง ถั่วลิสง กุ้งแห้ง มะม่วง หมี่กรอบ และใบพลูสำหรับห่อ วิธีกินก็จะเหมือนเรากินเมื่ยงคำเลย คือเอาใบพลูมาจับเป็นทรงกรวยแล้ววางชิ้นปลาลงไปพร้อมเครื่องเคียงตามชอบ ตบท้ายด้วยการราดซอสหวานๆของร้าน แล้วก็อั้ม คำใหญ่ๆเต็มปากไปเลย6.เนื้อปลาคังลวกจิ้ม  (290 บาท)ปลาคังค่อนข้างสดมากที่นี่ เพราะแค่เห็นตอนมาเสิร์ฟก็จะเห็นว่าชิ้นปลาค่อนข้างจะขาวเด้ง สะดุดตามากๆ  จิ้มกับน้ำซีฟู้ดแค่นี้ก็อร่อยแล้ว -โดยรวมถือว่ารสชาติดีที่เดียว...จากหลายๆเมนูที่สั่งมาทานกัน  จริงๆสั่งเมนูที่เป็นรายการ signature ของร้านด้วยแหละ เลยค่อนข้างที่จะอร่อยอยู่แล้วทั้งนั้น และเนืองจากร้านนี้เป็นร้านที่ 2 เจ้าของเดียวกันกับบ้านร่มไม้สายน้ำ เลยเชื่อมือได้สบายในรสชาติและคุณภาพอาหาร-โลเคชั่นถือว่าดี หาไม่ยาก เพราะอยู่ติดถนนใหญ่ จุดสังเกตุมาร้านนี้ก็คือ หาปั้ม Susco สาย5ให้เจอ แล้วก็ถัดไปอีกนิดก็เจอร้านอรีสแล้ว (จริงๆหน้าร้านก็มีป้ายไฟของร้านนะ แต่ว่าป้ายของ Susco มันใหญ่และเด่นกว่า)-ราคาอาหารถือว่ากลางๆ-สูง เหมาะพาครอบครัวมาทานข้าว พาแฟนมาเดท พาแขกผู้ใหญ่มาเลี้ยงรับรอง ไรงี้-ห้องโถ่งใหญ่ ตกแต่งสวยงามๆ คิดว่าเหมาะสำหรับงานจัดเลี้ยง งานปาร์ตี้สังสรรค์ น่าจะเวิร์คทีเดียว เห็นในเพจบอกว่ารองรับได้ 300-400 คนเลย-ที่จอดรถของร้านอยู่ด้านหลัง หากใครมาครั้งแรกอาจจะงง เพราะไม่มีประตูทางเข้ารถยนต์ฝั่งที่ติดถนนใหญ่ แต่ร้านก็มีป้ายบอกชัดเจนว่า ให้เลี้ยวไปซอยข้างๆติดกันกับร้าน จะมีที่จอดรถอยู่-ราคาอาหารของร้านในเมนูยังไม่รวม Vat 7% นะคับ...-บรรยากาศขนาดนี้ น่าจะมีเอากาแฟ และเบเกอรี่ หรือพวกโทสต์ วัฟเฟิล แพนเค้กอะไรๆแนวนี้มาขายด้วย น่าจะเวิร์คนะ เราว่าสาวๆมาเห็นบรรยากาศน่านั่งชิลล์ ถ้ามีโทสต์พร้อมสมู้ทตี้ หรือกาแฟสด น่าจะบันเทิงเริงรมย์ทีเดียว อ่านต่อ
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)