4
3
0
เดิน 5-นาที จาก สถานี BTS เอกมัย ทางออก 1
อ่านต่อ
เวลาเปิด-ปิด
จันทร์ - อาทิตย์
17:00 - 00:00
ข้อมูลข้างต้นใช้เพื่ออ้างอิงเท่านั้น กรุณาตรวจสอบข้อมูลกับร้านอาหารอีกครั้ง
เมนูแนะนำ
บทความเกี่ยวกับร้านนี้
หลังจากไปเลี้ยงแมวและกินเค้กที่ Cat's a เมี้ยว cafe แล้วก็ไปที่ร้านนี้กันต่อค่ะ เข้าไปซอยข้างๆ เมเจอร์เอกมัยเพื่อไปตึกจอดรถของพาร์คเลนเอกมัยค่ะ แล้วก็เดืนไปที่ร้านมีวอชเชอร์ใบละสามร้อยอยู่ห้าใบ ให้เจ้าหน้าที่ไปทั้งหมดแล้วก็สั่งอาหาร ปรากฏว่าสั่งเสร็จ พนักงานเอาวอชเชอร์มาคืนสามใบบอกว่ามาสองคนใช้ได้สองใบ ฮาาา แล้วสั่งไปเต็มสตรีมนะนั่นพันกว่าบาท ซวยแระ แต่ไม่เป็นไรจ่ายส่วนต่างเอา ไหนๆ ก็ไหนๆ แหะๆจานแรกเส้นหมี่น้ำยาปู รสจัดดี แต่ไม่ที่สุดค่ะ โอนา แต่ภูเก็ตยังแซ่บกว่าแซลม่อนน้ำปลา รอบนี้ทำมาไม่สุกมาก รสโอเคค่ะซี่โครงหมูฯ มาตรฐานค่ะ เหมือนคราวที่แล้วเส้นเล็กขี้เมารสชาติดี อร่อยค่ะตัวไข่ฯ (จำชื่อเมนูไม่ได้) กินกับน้ำติ้มที่เหมือนน้ำจิ้มซีฟู้ด อร่อยกว่าไม่ใช้น้ำจิ้มนะคะแต่ที่แปลกใจคือขนมวง รอบนี้ตัวแป้งหยาบกว่านอบที่แล้วอ้ะ งงเลย อุตส่าห์เชียร์ให้เพื่อน แต่อร่อยน้อยกว่าคราวที่แล้วค่ะ ไม่แน่ใจว่าเปลี่ยนแป้งหรือว่าไงนะคะ เครื่องดื่มที่สั่งมาค่ะ ปกตินะคะค่าเสียหายวันนั้นสำหรับรอบนี้ ที่แปลกใจมากคือขนมวงค่ะ คนละเรื่องกับรอบที่แล้วเลย ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะอะไรเหมือนกันค่ะ
อ่านต่อ
เป็นครั้งที่ 3 หรือ 4 แล้วก็ไม่รู้สำหรับร้านนี้ ก็บอกแล้วว่ามีวอเชอร์เยอะจริงๆ 55555 วันนี้สั่งเป็นข้าวขยำปูกับผัดผัก ตัวข้าวขยำปูรู้สึกเฉยเฉยไม่ได้โดดเด่นอะไรมาก แต่เนื้อปูขอให้มาค่อนข้างเยอะ ส่วนผัดผักทั่วๆไปเลย ให้ผักมาเยอะดีแต่ว่าถ้าเทียบกับราคาก็ติดที่แพงไปหน่อยอยู่ดีสำหรับร้านนี้ ถ้าใครอยากมานั่งชิวชิวเอาบรรยากาศก็ลองดูค่ะ ยิ่งช่วงนี้อากาศดีนั่งข้างนอกได้สบายๆเลย
อ่านต่อ
Hot Rod เป็นร้านขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ตั้งอยู่ใน Park Lane เอกมัย การเดินทางไม่ยากด้วยรถไฟฟ้าลงสถานีเอกมัยแล้วเดินออกมาทางร้านบ้านไร่กาแฟแล้วเดินเข้ามาในซอยได้ประมาณ 200 เมตร หรือถ้าขับรถมาสามารถก็มีที่จอดไว้บริการค่ะ ร้านจะอยู่ชั้น 1 โซนตรงกลางๆ ตรงข้ามร้าน OMU เปิดตั้งแต่ 17:00 ถึงเที่ยงคืนเลย มีที่นั่งสองโซนด้านนอกและด้านใน ส่วนของด้านในจะเป็นบาร์รูปตัวยูตรงกลางเป็นครัวเราสามารถนั่งมองเชฟทำอาหารไปกินไปเพลินๆเลย สำหรับอาหารที่นี่จะเป็นอาหารไทยๆ แล้วเมนูไม่เยอะเท่าไหร่แต่รสชาติอาหารเราให้ผ่าน ส่วนการบริการดี๊ดีอาหารจะเป็นอาหารแบบไทยๆ มีค็อกเทล ม็อกเทล เบียร์ ไวน์ สำหรับนั่งจิบเบาๆคุยยาวๆ สำหรับอาหารที่ได้กิน• แกงปูกะทิ (170++) เมนูนี้จะกินกับขนมจีนโดยขนมจีนอยู่ด้านล่างแล้วราดมาด้วยน้ำยาปูหรือแกงกะทิเข้มข้นกับเนื้อปูเน้นๆ ใครชอบกินกะทิที่นี่ทำออกมาได้ดีเลยค่ะ• หมูผัดหน่อข่าอ่อน (150++) เสิร์ฟพร้อมข้าวหอมมะลิ เป็นแกงกะทิเข้มข้นอีกแล้ว รสคล้ายๆเครื่องแกง เผ็ดๆหวานจิ๊ดเดียว เนื้อหมูไม่เหนียวให้ต้องหงุดหงิดเคี้ยวง่าย ส่วนตัวชอบเมนูนี้มากทำออกมาได้ดีค่ะ• ไก่ทอดน้ำพริกส้ม (150++) ไก่ชิ้นใหญ่ทอดมากำลังดี เสิร์ฟพร้อมน้ำพริกส้มเอาไว้จิ้มกับไก่ แต่ก่อนกินก็บีบมะกรูดลงไปก่อนเพื่อเพิ่มความอร่อย เนื้อไก่นุ่ม เป็นเมนูแนะนำอีกเมนู• ข้าวขยำปู (170++) เป็นข้าวปรุงรสมาจะมีกลิ่นของใบเครื่องเทศหน่อยๆแล้วโรยเนื้อปูพร้อมเครื่องคล้ายๆกับข้าวคลุกกะปิ เมนูนี้กลางๆค่ะ• ต้มยำแห้งซี่โครงหมู (170++) ซี่โครงหมูประมาณ 3-4 ชิ้นถูกปรุงรสมาอย่างดีเข้มข้นก่อนกินให้บีบมะนาวลงไปก่อน เนื้อหมูนุ่มใช้ได้ไม่เหนียว และเอาออกมาจากกระดูกได้ง่ายๆ เลย• ต้มโคล้งกุ้ง (170++) ต้มโคล้งรสชาติกลางๆ เผ็ดไม่มาก เนื้อกุ้ง เห็ดฟางมาเยอะพอสมควร• ไข่ค่อม (170++) ไข่แดงพร้อมกับเนื้อหมู รสชาติกลางๆสำหรับเมนูขนมปิดท้ายมื้ออาหารที่นี่จะมี 3 อย่างให้เลือก มีโอกาสหม่ำ 2 อย่าง• ขนมวง (120++) ขนมโบราณเป็นแป้งหนึบๆทอดร้อนๆแล้วชุบด้วยน้ำตาลมะพร้าว กินครั้งแรกเราเฉยๆนะ กินครั้งที่สอง เห้ยย! อร่อยดีเหมือนกัน• ข้าวเหนียวมะม่วง (120++) เมนูข้าวเหนียวมะม่วงธรรมดา แต่ที่อร่อยก็เป็นข้าวเหนียวกับกะทิเข้มข้นนี่แหละ ปราบปลื้มมากในส่วนของเครื่องดื่มจะมีทั้งม็อกเทล ค็อกเทลซึ่งจะคล้ายกันมาก ตรงที่ค็อกเทลจะมีแอลกอฮอร์นี่หล่ะ ราคาม็อกเทลราคาเดียว 160++ ส่วนค็อกเทลราคา 220++• Passion & Sensibility (160++) เป็นม็อกเทลเสาวรสกับส้มรสชาติเปรี้ยวๆหวานนิดๆ ชอบมากกก เหมาะกับสาวๆที่ไม่อยากแตะแอลกอฮอร์สุดๆ ที่สำคัญสวยด้วย• Two smiles (220++) เป็นแบบเดียวกับ passion & sensibility คือมีส่วนผสมของเสาวรสกับส้มแต่เป็นค็อกเทลจะมีแอลกอฮอร์ขมๆหน่อยแนะนำเลยแก้วนี้ ถ้าไม่ใส่แอลกอฮอร์โดนใจมากกกกก• สาวยาคูลท์ (220++) เป็นค็อกเทลสำหรับคนธาตุร้อนรึเปล่าเนี่ย? มีส่วนผสมของมิ้นท์ แตงกวา เมลอนและมะนาว กลิ่นแตงกวาเย็นๆสดชื่นเบาๆ แต่แนวนี้เราไม่ค่อยชอบ ใครชอบแนวๆนี้แนะนำเลยค่ะ• Muay Thai Roundhouse (220++) ตอนที่เราสั่งไปอยากกินอะไรที่เป็นลิ้นจี่ แต่แก้วนี้จะออกรสเปรี้ยวๆของผลไม้อื่นมากกว่า แต่ก็ใช้ได้เลยค่ะ เมาใช้ได้ 55+ไปมาหลายครั้งรายการอาหารค่อนข้างเยอะหน่อย ร้านนี้เหมาะสำหรับไปนั่งชิลๆกับเพื่อนคุยกันเพลินๆ ค็อกเทล ม็อกเทลราคาไม่แรง แนะนำเลยๆ แต่ราคาเครื่องดื่มกับอาหารยังไม่รวม vat กับ service charge ค่ะ
อ่านต่อ
มีโอกาสได้ไปแถว สุขุมวิท (เอกมัย) แล้วเพื่อนก็แนะนำว่าให้ไปลองร้านนี้ Hot Rod เป็นร้านเกร๋ๆ ที่มีอาหารไทยเกร๋ๆขายด้วย บรรยากาศนั่งชิลๆ ด้านในเป็นบาร์รูปตัวยู สามารถมองเห็นพ่อครัวทำอาหารได้เลย อูยยดีงามมาก ด้วยความที่เพิ่งเคยไปร้านนี้เป็นครั้งแรก เลยไม่รู้จริงๆ ว่าจะสั่งอะไร เลยให้พนักงานที่ร้านช่วยแนะนำเมนูเด็ดของร้าน เลยได้มา 4-5 เมนูเด็ดๆของร้าน ขอเริ่มด้วยเครื่องดื่มชิลๆ ก่อนแล้วเนาะ ระหว่างรอพ่อครัวปรุงอาหารให้ทาน ชาเย็่นขี้เมา (Drunken Cha Yen) แค่ฟังชื่อก็ร้องโอ๊ยยเลยอะ ขี้เมาอย่างไงน้าาาต้องลองซะแล้ว สั่งไปปุ๊บ ไม่นานมาก็ได้มาลองค่ะ ส่วนผสมคร่าวๆ ที่พอจะจำได้ตอนแอบถามสาวเชคของเรา ^^ มี ชาไทย รำ นม บิทเท้อร์ และน้ำเชื่อม นำมาเชคให้เข้ากัน รสชาติพูดเลยว่าเมาจิงๆๆๆ (ฮ่าๆๆ) แปลกใหม่ได้อารมณ์ชอบๆ กำลังชิมเครื่องดื่มแปลกใหม่(สำหรับเรา) อย่างเมามันส์ อาหารจานแรกก็มาเสิร์ฟจร้าาาแกงกระด้าง เสิร์ฟมาในรูปแบบพอดีคำ เคยได้กินตอนภาคเหนือ 2 ครั้ง แต่ที่กรุงเทพฯพูดเลยว่ายังหาทานที่ไหนไมไ่ด้เลยนะ หายากมากๆ รสชาติแตกต่างจากดังเดิม ถูกปรับให้เข้ากับรสปากของต่างชาติ กลมกล่อมเข้ากันดีมากนะ แม้ว่าจะไมใช่รสชาติแท้ๆ แบบที่เคยกินที่ภาคเหนือ แต่ที่นี้ก็ทำออกมาได้โอเคสุดๆ เลย มาด้วยจานที่ 2 ต้มยำแห้งซี่โครงหมู เนื้อนุ่มมาก สามารถเลาะออกจากกระดูกได้ง่ายแสนง่าย รสชาติของสมุนเต็มเครื่องมากด้วย ออกรสเปรี้ยวเล็กๆ อร่อยจนต้องสั่งมาอีก 1จาน อะ ไก่ทอดน้ำพริกส้ม เมนูนี้ฟินสุดๆ ด้วยเป็นคนชอบทานไก่อยู่แล้ว บอกเลยว่าไก่ที่นี้ฟินมาก เนื้อนุ่ม หนังกรอบ กลิ่่นหอม เพราะปลื้มมากๆ เลยแอบถามพนักงานว่าทำไงอย่างไงทำไก่นุ่มในและกรอบด้านนอกแบบนี้ ทางร้านบอกว่า เขาใช้วิธี ซูวี เสิร์ฟด้วยน้ำพริกส้มสูตรพิเศษ น้ำพริกส้มแบบของทางเหนือ ที่ใช้มะเขือเทศ ที่ภาคเหนือเรียกว่า มะเขือส้ม น้ำพริกนี้จึงมีชื่อว่า พริกส้มนั่นเอง น้ำพริกนี้อร่อยมากๆ ทานคู่กับไก่ได้เข้ากันเข้ากันมาก ปิดท้ายด้วยของหวาน ที่เป็นซิกเนเจอร์ของทางร้านจริงๆ เหมือนใครมาก็ต้องสั่งนะ เพราะแอบเห็นโต๊ะข้างๆ ก็สั่งเช่นกัน ตอนแรกว่าจะกลับ แต่เพราะเห็นโต๊ะข้างๆสังเลยสั่งมาบ้างนะ เป็นขนมโบราณที่หาทานยากจริงๆนะ เป็นขนมสมัยเด็กๆเลย กินแล้วรู้สึกเด็กอีกครั้ง (ฮ่าๆๆ) อยากจะบอกว่าแต่มาที่นี่แล้วได้ทานขนมวงก็ฟินแล้วววจริงๆ ก่อนจะกลับบ้าน ขอปิดท้ายด้วยเครื่องดื่ม ชื่อเกร๋ๆว่า "สาวยาคูลท์" แค่ได้ยินชื่อครั้งแรกก็ปังแล้วจ๊ะ เกร๋จนต้องสั่งมาลองนะ ที่นี่ยิ่งเย็นที่ร้านคนก็ยิ่งเยอะ ไหนๆ ก็นั่งแล้วก็ไม่ค่อยอยากกลับแล้วอะ สั่งสาวยาคูลท์มาจิบแล้วนั่งชิลๆ ที่ร้านต่อดีกว่า มาที่นี่่ทั้งอิ่มแล้ว ยังสบายตาด้วย(ฝรังเยอะด้วยนะเออ)
อ่านต่อ
รีวิวนี้จะพาไปร้านสุดเก๋ เท่ห์สุดฤทธิ์พิชิตใจวัยสะรุ่นกับร้านอาหารไทยแนวทาปาสกลิ่นไออาหารของทุกภาคเห็นว่าเป็นอาหารแนวทาปาสทานเล่นแต่อิ่มจริงได้เลยครับและเครื่องดื่มไทยผสานผสมกลมกล่อมกับตะวันตกประดับประดาไปด้วยจิ้งจกไม่ต้องตกกะใจครับร้านนี้แต่งร้านด้วยภาพรูปจิ้งจกสลักลอยไปทั้งร้านครับร้านได้ฝีมือออกแบบจากAshley Sutton คนเดียวกันกับที่ออกแบบรร้านแมกกี้ชูและไออ้อนแฟรี่ครับเลยได้ความแนวมาเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครดีเลยครับเป็นร้านที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล เดินทางสะดวกสบายด้วย BTSอีกแล้วครับ ลงสถานีเอกมัยเดินเข้าซอยไป 5 นาทีก็จะเจอโครงการPARK LANE เอกมัยใช่แล้วครับร้านที่จะพามาชมรีวิวกันวันนี้ก็คือร้าน HOTROD : Thai Tapas Bar & Restaurant นั่นเองร้าน HOTROD กับโอกาสที่ได้มารีวิวในครั้งนี้นั้นต้องขอขอบคุณน้องภัค@Bhaksook 'Pak' Charoonsak น้องชายที่น่ารักที่รู้จักกันมาเกือบ 10ปีที่เป็นผู้ติดต่อประสานงานเข้ามากับทางร้านให้ครับโดยจัดงานเล็กๆ น่ารักใน Theme : Hot Rod Blogger Partyที่ได้เชิญBlogger สายอาหารชั้นแนวหน้ามาทดลองชิมอาหารเครื่องดื่มและเพลิดเพลินกับบรรยากาศของร้านและการแลกเปลี่ยนพูดคุยแสดงความคิดเห็นกันอย่างสร้างสรรค์ไม่ว่าจะเป็นพี่นันท์ แห่งเพจตะลอนกิน,พี่แหม่ม maam journey,พี่เหมียว nanreview, พี่เต้ย สาวไกด์,คุณเบนซ์ benz47, คุณชื่นบาบิบูเบะ...แปลงกลายเป็นบูริน,คุณเมเม่ เมเม่พาชิมรวมไปถึงพี่ต้น จาก Truelife.com พี่สาวที่เคารพและพี่ๆ อีกหลาย ๆ ท่านด้วยครับซึ่งงานนี้ได้คุณตี๋อรรถพล 1 ในผู้บริหารร้านให้การต้อนรับและแนะนำเมนูอาหารเครื่องดื่ม แบบกันเองเป็นอย่างดีครับโดยร้านHot Rod นั้นที่บริเวณหน้าร้านลานด้านนอกจะมีรถตุ๊กตุ๊กแต่งซิ่งเท่ห์ ๆ ไว้เป็นเชิงสัญลักษณ์ความเป็นไทยนอกจากเอาไว้แต่งร้านแล้วยังสามารถให้ลูกค้าไปนั่งถ่ายรูปได้อีกด้วยตัวร้านจะแบ่งเป็น2 โซนในร้านจะเป็นสไตล์เคาท์เตอร์บาร์มีเก้าอี้สตูลทรงสูงล้อมรอบเคาท์เตอร์จำนวนประมาณ 20-30 ที่นั่งสามารถนั่งสั่งเครื่องดื่มพร้อมชมฝีมือบาร์เทนเดอร์และสั่งอาหารมานั่งแกล้มด้วยได้อย่างไม่ลำบากอะไรเหนือเคาท์เตอร์บาร์จะตกแต่งด้วยรูปสลักจิ้งจกเก๋ไก๋เต็มไปหมดครับส่วนด้านนอกจะเป็นโอเพ่นแอร์เป็นโต๊ะและเก้าอี้แบบต่างๆมีหลายมุมให้ได้เลือกนั่งตามความเหมาะสมของจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการไม่ว่าจะมาเดี่ยว มาคู่หรือมาเป็นหมู่คณะก็รับได้หมดดูบรรยากาศโดยรวมเรียบร้อยแล้วต่อไปเราเริ่มมาลงรายละเอียดของอาหารและเครื่องดื่มกันเลยดีกว่าว่าเป็นยังไงบ้างเพราะการดีไซน์อาหารและการจัดจานนั้นได้ฝีมือเชฟพีทส่วนเครื่องดื่มเป็นคุณชานนท์บุรานนท์จากไฮด์แอนด์ซีคมาช่วยกันสร้างสรรค์ความเจิดครับเกริ่นมาเยอะชักจะหิวแล้วล่ะครับมาดูกันดีกว่าครับว่ามีอะไรให้เราได้ลิ้มรสทดลอง เปิดประสบการณ์กันบ้างเริ่มจากเครื่องดื่มไฮไลท์ของทางร้านที่มีทั้งแบบผสมแอลกอฮอล์และไม่ผสมในสไตล์ Cocktail & Mocktail ครับในราคาแก้วละ220 บาทแก้วแรกสาวยาคูลท์ ชื่อก็เก๋แล้วนึกถึงสาวปั่นจักรยานส่งยาคูลท์เลยครับมาเย็นๆ ผสมผสานด้วย Gin เหล้ากลิ่นเมลอนโยเกิร์ต เป็นรสนำเติมแตงกวาและสะระแหน่บดลงไปให้ได้เนื้อแก้วนี้มีทั้งแบบใส่แอลกอฮอล์และไม่ใส่ให้ได้ลองนะครับแก้วต่อมาBloody Hot Rodตั้งต้นด้วยVodka กับน้ำมะเขือเทศและน้ำมะขามแล้วก็ประเคนเครื่องปรุงแบบไทยและเทศลงไปไม่ว่าจะเป็นซอสพริกศรีราชา ซีอิ๊วขาวและดำตามด้วยน้ำมะนาวเก๋และเท่ห์ด้วยหลอดที่ทำจากตะไคร้สดช่วยขับกลิ่นเครื่องดื่มตัวนี้ได้อย่างยอดเยี่ยมเลยแก้วถัดมาPanda & Buffaloแก้วนี้ก็เย็นสดชื่นเจ๋งด้วยรสน้ำข้าวผสานกับข้าวคั่วสดชื่นด้วยมะนาวและขิงสไลด์ครับแก้วไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดอีกแก้วคือTwo Smilesยิ้มทั้ง2 จากเกลือที่ปากแก้วเครื่องดื่มที่นำด้วยTequilaเหล้าส้มเสาวรสและน้ำมะนาวกับอีก 1 ยิ้มที่ตัวส้มฝานโรยด้วยพริกน้ำตาลและเกลือ ทานคู่กันแจ่มมากๆอีกแก้วคือYou Don't Know Jack Jack ไม่รู้ผมก็ยังไม่รู้ครับลองชิมก็ไม่ค่อยรู้นะ 555แก้วนี้เป็นดาร์ครัมผสมขนุนคั้น น้ำเชื่อมน้ำสับปะรดมะนาวแล้วก็ท็อปด้านบนสุดด้วยเบียร์สิงห์เอากับ Jack เค้าสิแก้วถัดมาDrunken Cha Yenชานมเย็นแต่เก๋ด้วยการผสมแอลกอฮอล์ลงไปได้อย่างลงตัวถ้าเผลอดื่มเรื่อยๆ แบบชานมเย็น ระวังจะเมาไม่รู้ตัวนะครับอีกแก้วที่ไม่ลองไม่ได้Muay Thai Roundhouseเพราะลองแล้วอร่อยมากแมน ๆ กับวิสกี้ แบล็คเลเบิ้ลผสมขิงบดเหล้าลิ้นจี่ น้ำผึ้ง ไข่ขาวน้ำมะนาว ได้อย่างลงตัวมีเบิ้ลกันระนาวครับนอกจากเครื่องดื่มไฮไลท์ที่เป็นแนวcocktail แล้วทางร้านHot Rod ก็สมกับเป็นบาร์ด้วยครับเพราะมีทั้งไวน์วิสกี้ บรั่นดี เบียร์ ฯให้เลือกอีกพอสมควรเลยผมเลยได้จัดมาจับคู่กับอาหารได้อย่างสนุกสนานอีกด้วยมาถึงอาหารกันบ้างครับที่นี่ใส่ใจในรสชาติที่ผสมผสานกันลงตัวรวมถึงความพิถีพิถันในการจัดจานจัดวางอาหารมา แม้กระทั่งใบตองที่รองอาหารยังมีการนาบชื่อร้านด้วยความร้อนให้สวยงามอีกด้วยเรามาเริ่มด้วยอาหารจานเย็นCold Dishes กันก่อนครับยำข้าวปุ้น150 บาทเป็นลาบหมูปรุงรสทางเหนือใส่ขนมเส้น(ขนมจีน)ให้นัวๆ ปรบมือรัว ๆ ด้วยการโรยปลาดุกฟูด้านบนน้ำพริกไข่เค็มมะเขือยาว150 บาทมาเป็นคำพอดีๆ มีกุ้งลวกอยู่ด้านบนน้ำพริกไข่เค็มผสมกลมกลืนกับมะเขือยาวได้ดีน้ำพริกกุ้งเสียบเต้าหู้170 บาทเมนูแหวกแนวที่แจ๋วตรงไม่ใช้ผักแนมแต่แซมเต้าหู้ขาวมาแทนอย่างลงตัวเพิ่มเปรี้ยวและหอมด้วยมะนาวสดชื่นใจยำหัวปลี150 บาทยำหัวปลีมีไข่นกกระทาเข้าขากันมาเป็นคำ ๆรสชาติลึกล้ำหนำใจมาต่อกันกับอาหารจานร้อนHot Dishes กันบ้างครับไก่ทอดน้ำพริกส้ม150 บาทน้ำพริกส้มรสกลมกล่อมจับไก่ทอดกรอบนอกนุ่มในจิ้มแล้วทานพร้อมกันพลันจะต้องมีคำต่อไปแซลมอนอบน้ำปลา150 บาทอร้าอร่ามด้วยเครื่องเคราสมุนไพรตัวแซลมอนนั้นทำสุกช้าๆ ในแบบซูวีกับน้ำปลาทำให้รสชาติซึมซาบเข้าสู่เนื้อในแบบช้าแต่อร่อยดีมีเฮกับเครื่องยำหมูผัดหน่อข่าอ่อน150 บาทเครื่องแกงผัดกับหมูชิ้นเป็นก้อนผนวกกับข่าอ่อนร้อนแรงแซงกับข้าวตัวอื่นๆจัดข้าวสวยมาคู่กันพลันอย่าให้ช้าต้มยำแห้งซี่โครงหมู170 บาทดูซอสต้มยำที่ทำแห้งมาราดทับบนซี่โครงหมูเปื่อยร่อนที่มาเป็นแผงกระดูกรสชาติเปรี้ยวเผ็ดแรงกำลังดีเสริมเด่นด้วยมะกรูดทอดและหอมเจียวกรอบๆปลาทรายทอดขมิ้น150 บาทปลาทรายขนาดกำลังดีคลุกเคล้าเครื่องปรุงแล้วนำไปชุบแป้งทอกรอบๆ จิ้มกับน้ำจิ้มรสดีมีมะกรูดให้บีบน้ำเพิ่มกลิ่นหอมกระจายไข่คว่ำ170 บาทไข่ทรงเครื่องยัดไส้หมูบดกระเทียมและเครื่องเทศไทยใส่ใจในรายละเอียดและความน่าทานรสชาติไม่เป็นรองเมนูไหนๆแกงปูกะทิ170 บาทละม้ายคล้ายขนมจีนน้ำยาปูแต่ดูดี ๆ มีทีเด็ดชิมแล้วไม่เผ็ดแต่กลมกล่อมแนมชมพู่ดูเข้ากันได้แบบไม่เคยเห็นหอยลายต้มโบราณ150 บาทหอยลายล้างสะอาดต้มกับน้ำกะทิกับเครื่องปรุงไทยแท้ๆหลากหลายชนิดผสมผสานความเผ็ดของพริกได้พอดีเนื้อรมควันน้ำพริกข่า170 บาทเนื้อวัวส่วนสามชั้นตุ๋นนุ่มละมุนลิ้นนำมารมควันให้ได้ความหอมหวลชวนกินมากยิ่งขึ้นจิ้มกับน้ำพริกข่าแบบเปียกเฉียบขาดครับเมนูนี้เมนูนี้จัดไวน์แดงมาจับคู่ได้ลองไวน์จากอาเจนติน่าเป็นพันธุ์มัลเบคทานพร้อมกับเนื้อรมควันอร่อยเลยครับมีจานก๋วยเตี๋ยวที่แนะนำด้วยนะกับก๋วยเตี๋ยวขี้เมากุ้ง170 บาทผัดขี้เมาด้วยเส้นจันทร์นุ่มหนึบผัดไข่ใส่กุ้งขนาดพอดี ๆมีรสจัดจ้านด้วยเครื่องปรุงขี้เมาสูตรทางร้านต้องลองเลยจบของคาวแล้วมาต่อกันเลยกับของหวานขนมวง 120บาท1ในขนมในชีวิตไม่กี่ชนิดที่เรียกได้ว่าหากินยากและยิ่งยากมากที่จะหาเจอแล้วอร่อย กับข้าวเหนียวทรงโดนัทราดด้วยน้ำตาลมะพร้าวที่เคลือบความหวานไปทั่วทั้งชิ้นขนมวงนี้ถ้าใครมาร้าน Hot Rod แล้วไม่ได้กินผมถือว่ามาไม่ถึงร้านจริง ๆ เลยเอ้า ปาท่องโก๋ยัดไส้กล้วย120 บาทแป้งปาท่องโก๋ห่อกล้วยหอมสุก ทอดราดด้วยนมโรยด้วยน้ำตาลไอซ์ซิ่งคล้ายโรตี ดูดีและอร่อยทีเดียวข้าวเหนียวมะม่วง120 บาทข้าวเหนียวมูลรสชาติกำลังลงตัวแต่มะม่วงที่มาด้วยกันถ้าได้ความหวานหอม จะดีและเด็ดกว่านี้แน่ๆ ครับแล้วก็มาปิดท้ายกันกับเครื่องดื่มอีกรอบกับเบียร์ลาว ที่มีทั้งแบบธรรมดา160 บาทและเบียร์ดำ170 บาทสำหรับผมขอจบด้วย Hennesey V.S.O.P. 280 บาทเป็นอันจบมื้ออันแสนประทับใจทั้งการเปิดประสบการณ์อาหารไทยแนวทาปาสและเครื่องดื่มอันแสนสร้างสรรค์ของร้านHot Rod แห่งนี้ด้วยความครื้นเครงของเพื่อนพี่ น้องBlogger สายอาหารที่มาร่วมโต๊ะกันครับสนใจสำรองที่นั่งหรือติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่http://www.hotrodtapas.com/https://www.facebook.com/hotrodbangkokโทร.0-2714-2575เปิดบริการจันทร์-อาทิตย์เวลา 17.00 ถึงเที่ยงคืนขอให้มีความสุขกับประสบการณ์ด้านอาหารและเครื่องดื่มแบบสร้างสรรค์สุดๆ กันนะครับ
อ่านต่อ