6
1
0
ระดับ4
ร้านกว้างขวางสวยงามดูดีเลย การบริการดีระดับโรงแรมกันเลยทีเดียวอาหารวัตถุดิบคุณภาพสดสะอาดดี รสมือโดยรวมอร่อยถูกปากถูกใจเครื่องเคราจัดมาครบแต่ไม่แรงโดดฉุนแถมส่วนใหญ่ปิดท้ายด้วยเผ็ดปลายๆลิ้นทำให้ทานให้สนุกมากขึ้น คนชอบอาหารอินเดียอยู่แล้วเชื่อว่าไม่ผิดหวังส่วนคนที่ไม่เคยลองเปิดใจแล้วอาจจะติดใจก็ได้นะครับ.รายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.reviewnowz.com/indus-bangkok/รายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.reviewnowz.com/indus-bangkok/
อ่านรีวิวฉบับเต็ม
ร้านกว้างขวางสวยงามดูดีเลย การบริการดีระดับโรงแรมกันเลยทีเดียว

อาหารวัตถุดิบคุณภาพสดสะอาดดี รสมือโดยรวมอร่อยถูกปากถูกใจ

เครื่องเคราจัดมาครบแต่ไม่แรงโดดฉุนแถมส่วนใหญ่ปิดท้ายด้วยเผ็ดปลายๆลิ้น

ทำให้ทานให้สนุกมากขึ้น คนชอบอาหารอินเดียอยู่แล้วเชื่อว่าไม่ผิดหวัง

ส่วนคนที่ไม่เคยลองเปิดใจแล้วอาจจะติดใจก็ได้นะครับ.

รายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.reviewnowz.com/indus-bangkok/
121 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
165 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
Lassi
168 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
Papadum
164 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
Tandoori Creamy Broccoli
165 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
Tandoori Tiger Prawns
159 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
Lady Lying on Lemongrass
163 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
Indus Kebab-e-malai
208 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
Indus Nawabi Raan
147 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
สาระพัดแกงและข้าวบาสมาติ
182 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
Chalawan
242 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
237 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
รายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.reviewnowz.com/indus-bangkok/
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)
โพสต์
รายละเอียดคะแนนรีวิว
รสชาติ
การตกแต่ง
บริการ
ความสะอาด
ความคุ้มค่า
วิธีการกิน
รับประทานที่ร้าน
ระดับ4
กลับไปเยือนอีกครั้งที่ Indus​ผ่านมาปีกว่า ๆ หลังจากที่ได้ไปรีวิวมาเมื่อตอนที่เชฟฮาริ นายัค บินมาทำอาหารอินเดียเมนูพิเศษแนวประยุกต์สุดอร่อย พร้อมจับคู่กับไวน์รสเลิศมาครั้งนี้ได้ไปชิมอาหารจานแนะนำประจำของทางร้านซึ่งเป็นอาหารอินเดีย สไตล์ contemporaryมีความเป็นอินเดียสูง แต่กินไม่ยากกลิ่นและรสชาติไม่รุนแรง กำลังพอเหมาะในแบบที่คนไม่เคยกินอาหารอินเดียหรือไม่คุ้นเคยกับเครื่องแกง จนไปถึงพาคออาหารอินเดียก็ดี หรือจะเลี้ยงรับรองก็ได้รับประกันได้ว่า จะต้องถูกปาก ติดใจกันแน่นอนเริ่มสตาร์ทด้วย complimentary จากทางร้านที่แจ่ละวันจะแตกต่างกันออกไปอมุสบุชนี้เป็นกล้วยทอด/ฉาบที่ฐานล่างด้านบนเป็นซัลซ่ามะม่วงหวาน ๆ เผ็ดนิด ๆ แปลกอร่อยดีแต่จ
อ่านรีวิวฉบับเต็ม
กลับไปเยือนอีกครั้งที่ Indus​
ผ่านมาปีกว่า ๆ หลังจากที่ได้ไปรีวิวมา
เมื่อตอนที่เชฟฮาริ นายัค บินมาทำอาหารอินเดีย
เมนูพิเศษแนวประยุกต์สุดอร่อย พร้อมจับคู่กับไวน์รสเลิศ

มาครั้งนี้ได้ไปชิมอาหารจานแนะนำประจำของทางร้าน
ซึ่งเป็นอาหารอินเดีย สไตล์ contemporary
มีความเป็นอินเดียสูง แต่กินไม่ยาก
กลิ่นและรสชาติไม่รุนแรง กำลังพอเหมาะ
ในแบบที่คนไม่เคยกินอาหารอินเดีย
หรือไม่คุ้นเคยกับเครื่องแกง จนไปถึง
พาคออาหารอินเดียก็ดี หรือจะเลี้ยงรับรองก็ได้
รับประกันได้ว่า จะต้องถูกปาก ติดใจกันแน่นอน

เริ่มสตาร์ทด้วย complimentary จากทางร้าน
ที่แจ่ละวันจะแตกต่างกันออกไป
อมุสบุชนี้เป็นกล้วยทอด/ฉาบที่ฐานล่าง
ด้านบนเป็นซัลซ่ามะม่วงหวาน ๆ เผ็ดนิด ๆ แปลกอร่อยดี
แต่จะได้ก็ต่อเมื่อมากินเป็น Dinner 6 Course ครับ

บนโต๊ะจะมีซอส/เครื่องจิ้ม วางไว้ 4 แบบ
ให้กินกับแผ่นแป้งกรอบพาพาดัม อร่อยแตกต่าง
กันไปคนละแบบทั้ง 4 ตัว แอบตักไว้กินกับอาหาร
อย่างอื่น ๆ ด้วยก็ได้ ไม่ผิดอะไรครับ

ในส่วนของเครื่องดื่ม ผมไม่ถนัดพวกแนวโยกิร์ต
ที่เป็นเครื่องดื่มที่นิยมกันของร้านอาหารอินเดีย
ผมเลือกเป็นเบียร์นอก(มีหลายแบนรด์)แทนครับ
จัดมาทั้งอินเดีย เยอรมัน อเมริกัน 3 ประเทศเลย
แต่ทางร้านก็มีชาร้อนอินเดียการัมไจ/มาซาลา
และเครื่องดื่มอื่น ๆ ทั้งไวน์ ค็อกเทล ฯ เป็นตัวเลือก

ในส่วนของรายการอาการนั้น
เริ่มจากจานผัก บร็อคโคลี่หมักครีม
และเครื่องเทศย่างในเตาทันดูร์ อร่อยมาก
แต่อยากได้ครีมและชีสที่หมักท่วมกว่านี้
Tandoori creamy broccoli 320฿

ต่อที่จานเนื้อสัตว์แนวย่าง ๆ อบ ๆ
ที่เรียกกันว่าเคบับ Kebab
อย่างอกไก่เนื้อนุ่มหมักโยเกิร์ต ครีม ชีส
และเครื่องเทศ Indus Kebab e-malai 380฿
ที่เป็น signature ของร้าน Indus ก็ดี
หรือจะเป็น
Chicken tikka 340฿
ที่ใช้เนื้อไก่ส่วนสะโพก นุ่มและฉ่ำเครื่องเทศ
Tandoori tiger prawns 250฿/ตัว
กุ้งกุลา(ลายเสือ)ตัวใหญ่หมักเมล็ดมัสตาร์ด
ผักและน้ำมะนาว
Indus nawabi raan 990฿
เป็นขาแกะหมักเครื่องเทศนานถึง 7 ชั่วโมง
แล้วนำไปย่างไฟอ่อน จนเนื้อแกะเปื่อยนุ่ม

เข้าสู่วิถีของแกงกันบ้างครับ
กับแกง 4 แบบที่จัดมา ตั้งแต่
Laal maas 550฿
ที่เป็นแกงแพะรสเผ็ดจากรัฐราชสถาน
Butter Chicken 380฿ แกงไก่อินเดีย
ที่เคี่ยวไก่มาสุดนุ่ม
Palak paneer 340฿ ผักโขมบด
ผสมคอทเทจชีสและเครื่องเทศ
Daal makhani 240฿ ถั่วดำต้มไฟอ่อน
จนนิ่มแล้วเติมเนย แต่งหน้าด้วยขิง
และผงฟีนูกรีก ซึ่งแกง 2 อย่างหลัง
เหมาะสำหรับคนกินมังสวิรัติอีกด้วย
บรรดาแกงทั้งหลาย เหมาะกับแป้งนาน
ร้อน ๆ ที่มีหลากหลายกลิ่น รส อีกเช่นกัน
ไม่ว่าจะเป็น ทรัฟเฟิล กระเทียม เนย ชีส เป็นต้น

ส่วนใครอยากกินข้าว แนะนำข้าวหมกไก่
Hyderabadi murgh dum biryani 390฿
ใช้ข้าวหอมบาสติลอบกับไก่พร้อมเครื่องเทศ
กินพร้อมหอมเจียวกรอบและหญ้าฝรั่นที่โรยมา

ส่วนของหวานนั้น เชฟ Anil
เตรียมไว้ให้เป็นพิเศษ 3 อย่างด้วยกัน
Gil-E-Firdaus ~ น้ำเต้าผสมชีสและนม
Kalakand cheese cake ~ ชีสเค้กนุ่ม ๆ
รสเค็ม ๆ มีกลิ่นสมุนไพร
Beetroot Halwa ~ บีทรูทสับละเอียด
ผสมปรุงรสหวาน(มาก)

อิ่มหนำกับอาหารอินเดียแท้ ๆ
แต่รสและกลิ่นไม่ฉุนจนเกินกิน
กำลังพอเหมาะ ในบรรยากาศดี ๆ
ทั้งภายในและนอกร้านที่จุได้มากกว่า 100 คน
ในถนนสุขุมวิท 26 ครับ
เหมาะสมกับการแนะนำไปกินอาหารอินเดีย
กันในทุกเพศ ทุกวัย จะไปเป็นครอบครัว
เพื่อนฝูง เจรจาธุรกิจ หรือไปเดทก็ลงตัวครับ

สนใจสำรองที่นั่ง ติดตามข่าวสาร
และสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
www.facebook.com/indusbkk
โทร.0-2258-4900
เปิดบริการ 2 รอบเวลา 11:30-14:30
และ 18:00-เที่ยงคืน

#OnTable #ontcublogspotcom #ontcu
#foodphotographer #foodphoto
#foodblog #foodblogger
#foodreview #food #blogger #thaiblogger
#foodpinterest
#AllStyleThaiBloggers
#Indus #indianfood
179 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
149 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
144 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
อมุสบุช
156 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
เครื่องจิ้ม 4 แบบ
159 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
Tandoori creamy broccoli
฿320
163 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
Indus kebab-e-malai
฿380
116 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
Tandoori tiger prawns
฿250
116 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
Indus nawabi raan
฿990
125 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
แกงและนาน
142 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
Hyderabadi murgh dum biryani
฿390
149 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
Chicken tikka
฿340
165 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)
โพสต์
รายละเอียดคะแนนรีวิว
รสชาติ
การตกแต่ง
บริการ
ความสะอาด
ความคุ้มค่า
วันที่ไปกิน
2017-03-14
วิธีการกิน
รับประทานที่ร้าน
ราคาต่อคน
฿1600 (มื้อเย็น)
เมนูแนะนำ
อมุสบุช
เครื่องจิ้ม 4 แบบ
Tandoori creamy broccoli
฿ 320
Indus kebab-e-malai
฿ 380
Indus nawabi raan
฿ 990
แกงและนาน
Hyderabadi murgh dum biryani
฿ 390
Chicken tikka
฿ 340
ระดับ4
สำหรับพิกัดร้านนี้ก็อยู่ในซอยสุขุมวิท 26 นะคะ เราวิ่งไปจนถึงแยกอารี ก็เลี้ยวขวาเข้าไป วิ่งจนสุดทางตรงเจอรร.โฟร์วิงส์ เลี้ยวซ้ายแล้วก็บังคับเลี้ยวขวาไปสักร้อยเมตรก็จะเจอร้านอยู่ทางซ้ายมือค่ะ ใช้ google map ไปได้นะคะสำหรับหน้าร้านก็จะจอดรถได้ราวๆ สักไม่เกินสิบคันค่ะ ที่เหลือวิ่งเลยร้านไปจะมีอาคารริชมอนด์ที่เป็นกระจกๆ อยู่ ไปจอดได้แล้วนำใบจอดรถมาสแตมป์ที่ร้านนะคะเข้าไปในร้านกันค่าาเข้าไปก็เจอกับบรรดารางวัลและ celeb ที่เคยมาที่ร้านด้วยนะคะสำหรับที่ร้านนี้ ณ ปัจจุบัน จะอยู่ภายใต้การรังสรรค์ของ chef anil และ general manager คุณ yash pal ค่ะ ถ้าใครต้องการได้ข้อมูลเพิ่มเติมมากกว่านี้ก็เชิญที่...เว็บไซต์ร้านhttp://www.indusban
อ่านรีวิวฉบับเต็ม
สำหรับพิกัดร้านนี้ก็อยู่ในซอยสุขุมวิท 26 นะคะ เราวิ่งไปจนถึงแยกอารี ก็เลี้ยวขวาเข้าไป วิ่งจนสุดทางตรงเจอรร.โฟร์วิงส์ เลี้ยวซ้ายแล้วก็บังคับเลี้ยวขวาไปสักร้อยเมตรก็จะเจอร้านอยู่ทางซ้ายมือค่ะ ใช้ google map ไปได้นะคะ

สำหรับหน้าร้านก็จะจอดรถได้ราวๆ สักไม่เกินสิบคันค่ะ ที่เหลือวิ่งเลยร้านไปจะมีอาคารริชมอนด์ที่เป็นกระจกๆ อยู่ ไปจอดได้แล้วนำใบจอดรถมาสแตมป์ที่ร้านนะคะ
130 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
เข้าไปในร้านกันค่าา

เข้าไปก็เจอกับบรรดารางวัลและ celeb ที่เคยมาที่ร้านด้วยนะคะ
158 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
สำหรับที่ร้านนี้ ณ ปัจจุบัน จะอยู่ภายใต้การรังสรรค์ของ chef anil และ general manager คุณ yash pal ค่ะ ถ้าใครต้องการได้ข้อมูลเพิ่มเติมมากกว่านี้ก็เชิญที่...

เว็บไซต์ร้าน

http://www.indusbangkok.com/

เฟซบุ๊คร้าน

https://www.facebook.com/indusbkk/

reservations: 
+662-258-4900, +6686-339-8582

ถ้าเลี้ยวไปทางขวาจะเป็นห้องส่วนตัวที่จุได้ราวๆ 30 คนนะคะ แต่เราเลี้ยวไปทางซ้ายค่ะ จะเจอทางเดินสวยๆ ตามภาพเลย
142 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
ตรงโต๊ะระหว่างทางเดินจะมีตัวที่เอาไว้ดับกลิ่นตั้งไว้ให้ตามปกติของร้านอาหารอินเดียหละนะคะ แต่ที่นี่จะดูดีกว่า แฮร่...
55 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
ร้านอาหารแห่งนี้จะมีทั้งในห้องแอร์และเอาท์ดอร์นะคะ ทางร้านแจ้งว่า ถ้าเอาทั้งร้านจริงๆ เคยจัดได้ก็อยู่ที่หลายร้อยท่านเลยค่ะ
126 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
134 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
128 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
102 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
89 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
71 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
แต่วันนั้นเรานั่งกันตรงโซนนี้นะคะ

มาดูเมนูของทางร้านกันค่ะ ให้ดูแค่บางส่วนแล้วกันเนาะคะ เดี๋ยวรูปจะเยอะไป แฮร่...

ที่นี่จะมี Tasting Menu ซึ่งสำหรับอาหารปกติ (ไม่ใช่มังสวิรัติ) จะราคาที่ 1600++ ถ้าเป็นมังสวิรัติจะเป็น 1400++ แต่ถ้าต้องการไวน์แพร์ริ่งด้วยก็เพิ่มอีก 1000++ นะคะ
70 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
104 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
90 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
นอกจากนั้นก็ยังมีบรั้นช์ในวันเสาร์อาทิตย์สำหรับสาย Vegan ด้วยนะคะ ราคา 750++ เวลา 11.30-15.00 น. (แต่ถ้าใครไม่กินบุฟเฟต์แบบ All you can Eat ตามเมนูในรูปก็สั่งเป็นอลาคาร์ทได้นะคะ)

จากนั้นพนักงานก็นำเครื่องเคียงสี่ชนิด กับ papadum มาบริการนะคะ
74 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
64 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
ตัวพาพาดัมจะค่อนข้างกรอบ มีกลิ่นหอมบางอย่างแฝงมา ไม่เค็มจัดเหมือนบางที่และมีรสเผ็ดตามด้วยค่ะ ส่วนเครื่องเคียงทั้งสี่ตัว คือ หอมแดง จะช่วยเพิ่มความเผ็ดมาเบาๆ แล้วก็แมงโก้ชัดนี่จะมีกลิ่นเครื่องเทศด้วยนะคะ ส่วนน้ำมะขามจะออกรสเปรี้ยวกว่าตัวอื่นแต่ยังคงมีกลิ่นเครื่องเทศ ส่วนตัวมินท์ จะค่อนข้างเบากว่าตัวอื่นๆ นะคะ ค่อนข้างหอม เน้นที่กลิ่นมากกว่าค่ะ

สำหรับเครื่องดื่มก็มีดังนี้ค่ะ
74 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
สิ่งแรกที่ลองสั่งมาดื่มกันนะคะ ก็คือเครื่องดื่มอันเป็นเอกลักษณ์ของอินเดียค่ะ นั่นก็คือ ลาสซี่นั่นเอง ซึ่งที่ร้านจะมีด้วยกันเจ็ดรสชาติ เรียงจากซ้ายไปขวานะคะ

เค็ม หวาน สะระแหน่ มะม่วง ซินนาม่อน น้ำผึ้ง คาราเมล

ซึ่งเราชิมสามรสคือ มะม่วง น้ำผึ้ง คาราเมล อร่อยทั้งสามรสชาติเลยค่ะ (สำหรับคนชอบโยเกิร์ตอย่างเราด้วยนะ อิอิ)
90 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
สำหรับสายแอลฯ ที่นี่มีเบียร์หลากหลายยี่ห้อเลยค่ะ เห็นสายแอลฯ ก็สั่งมาลองกันหลายยี่ห้อเลย ดูปลื้มปริ่มกันดีเชียว
80 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
นอกจากนั้นก็มีค็อกเทลที่เป็นซิกเนเจอร์ด้วยค่ะ เรากับเพื่อนสั่งมาอย่างละหนึ่ง ของเราเป็น Lady Lying on Lemongrass 300++ บาทนะคะ เราชอบนะ สดชื่นดีค่ะ หอมตะไคร้แค่กลางๆ ค่ะ ไม่ฉุนหรือชัดเกินจนเป็นน้ำตะไคร้อ้ะ

ของเพื่อนเป็น Wild Honey Ginger Martini 300++ เช่นกันค่ะ แต่รสขิงค่อนข้างชัดมากเลยแหละ
86 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
จากนั้นก็เริ่มต้นกันด้วยอมุสบุชค่ะ ตัวอมุสบุชนี่จะจัดให้สำหรับคนที่สั่งดินเนอร์ 6 คอร์สนะคะ โดยแต่ละวันจะไม่ค่อยซ้ำกันค่ะ ขึ้นอยู่กับวันนั้นเชฟเห็นว่าควรทำอะไรค่ะ

วันนั้นอมุสบุชของเราเป็นกล้วยทอดท็อปปิ้งด้วยแมงโก้ซัลซ่า ซึ่งมีรสเจือหวานและเผ็ดปิดท้าย เป็นสองรสที่เราชอบ 555 อร่อยดีค่ะ
83 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
จานแรกค่ะ Tandoori Creamy Broccoli 320++ บาท เป็นบล็อคโคลีหมักในครีมและเครื่องเทศย่างในเตาทันดูร์นะคะ

บล็อคโคลี่มาแบบ..ใหญ่มหึมามากกก จะใหญ่ไปหนายยย ผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างอิชั้นจะกินหมดได้อย่างไร (แล้วหมดไหมป้า หมด 555) มีกลิ่นหอมของการย่างที่กำลังดี ตัวซอสสีแดงๆ ที่อยู๋ในจานนี่ช่วยเพิ่มรสได้ดีนะคะ เพราะเฉพาะตัวบล็อคโคลี่เองนี่จะออกครีมมี่ๆ เป็นหลักค่ะ
65 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
Indus Kebab-e-malai 380++ บาท เป็นจานเด่นของที่นี่ค่ะ เอาไก่เนื้อนุ่มไปหมักกับโยเกิร์ต ครีม ชีส และเครื่องเทศ ก่อนจะไปย่างในเตาถ่านทันดูร์เช่นกัน

ตัวนี้ไก่นุ่มจริงๆ ค่ะ ไม่แห้ง ซอสที่มาด้วยก็เปรี้ยวเบาๆ แซมหวานนิดๆ และมีเผ็ดอีกแล้ว (เมนูที่ได้กินวันนี้แซมเผ็ดแทบทุกจานเลยค่ะ ซึ่งถูกจริตอิชั้นมาก)
65 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
Tandoori Tiger Prawns 250++ บาท ต่อตัว เป็นกุ้งกุลาดำ หมักเมล็ดมัสตาร์ด ผัก และน้ำมะนาวค่ะ
66 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
ตัวนี้เครื่องเทศเยอะแต่กำลังดีนะคะ ถ้ากินเปล่าจะเค็มนำนิดหนึ่ง กินกับซอสที่มาด้วยจะพอดีค่ะ มีรสเผ็ดตามเช่นเคย ฮี่ๆ

Indus Nawabi Raan 990++/1690++ บาท เป็นขาแกะหมัก 7 ชั่วโมงย่างไฟอ่อนนะคะ มีสองราคา น่าจะตามขนาดของขาหละค่ะ

ตัวนี้แปลกมาก เพราะจานเรากับจานเพื่อนมีความต่างกันค่ะ ของจานเพื่อนจะฉ่ำกว่าไม่แห้งเท่าของเรา แล้วรสชาติก็เข้มกว่าด้วยค่ะ รสจะออกเค็มเด่นนิดนึง แต่เนื้อก็นิ่มอยู่นะคะ กลิ่นเนื้อแกะก็ไม่แรงด้วยค่ะ
65 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
ระหว่างรอจานต่อไป มีเพื่อนคนหนึ่งสั่งชาร้อนมาค่ะ หน้าตาก็ตามภาพเลย ชอบนะคะ สวยดีอ้ะ ส่วนชาก็จะมีกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของชาร้านอาหารอินเดียหละนะคะ ซึ่งไม่ถูกจริตเรา แหะๆ
91 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
จากนั้นสามสี่อย่างนี้ก็มาพร้อมกันค่ะ ได้แก่...

Laal Maas เป็นแกงเนื้อแพะรสเผ็ดจากรัฐราชสถาน ราคา 550++

Palak Paneer ผักโขมบดผสมคอทเทจชีสและเครื่องเทศ 340++

Daal Makhani ถั่วดำต้มไฟอ่อนเติมเนยและแต่งหน้าด้วยขิง ราคา 240++

Hyderabadi Murgh Dum Biryani ข้าวหอมบาสมาติอบไก่พร้อมเครื่องเทศ หอมเจียวและโรยด้วยหญ้าฝรั่น 390++ 

Butter Chicken ไก่รมควันเคี่ยวในน้ำเกรวี่มะเขือเทศเติมเนยและครีม ราคา 380++

 
66 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
แกงเนื้อแพะ Laal Maas ตัวนี้รสเปรี้ยวจะเด่นนะคะ มีความเผ็ดกลางๆ ไม่จัดเกินไป คนไม่กินเผ็ดก็น่าจะกินได้ค่ะ เนื้อแพะกลิ่นไม่แรงด้วย
62 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
Daal Makhani ขออนุญาตเรียกง่ายๆ ว่าแกงถั่วดำนะคะ แฮร่... ตัวนี้เข้มข้นดีนะคะ แต่เราชอบรสออกเจือหวานกว่านี้อีกนิดหนึ่งอะค่ะ

Palak Paneer ผักโขมบด ตัวนี้อร่อยนะคะ มีรสชาติดี บดมาเนื้อค่อนข้างเนียนค่ะ เหลือแค่ก้านนิดหน่อยเอง มีรสเผ็ดแซมอีกแล้ว เราชอบนะคะ ถูกปาก
72 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
Hyderabadi Murgh Dum Biryani ข้าวอบไก่ ตัวนี้ข้าวจะเป็นเม็ดเรียวๆ แบบข้าวทางนั้นหละนะคะ เครื่องเทศไม่แรง แต่ชัด หุงมาร่วนๆ และมีรสชาๆ ปลายๆ ด้วยค่ะ
71 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
Butter Chicken ตัวนี้สั่งได้ว่าเอาเผ็ดหรือไม่เผ็ดนะคะ อย่างถ้าสั่งให้เด็กก็บอกได้ค่ะ หอมเนยดีนะคะ รสชาติดีเลย อร่อยอยู่ค่ะ
69 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
แน่นอนว่ามีแกงต่างๆ ก็ต้องมีนานและโรตีนะคะ ซึ่งทางร้านก็มีทั้งบัตเตอร์ การ์ลิค โฮลวีตรัชปราก้า โรตี และทรัฟเฟิ่ลค่ะ
51 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
แต่ตัวที่อร่อยที่สุดสำหรับเราคือ ชีสนานค่ะ (สั่งมาต่างหากเลย) อร่อยมากๆ เทกซเจอร์นี่ดีอยู่แล้ว แต่รสชาตินี่มันนวล อร่อย และกินเคี้ยวกลืนเสร็จแล้วยังมีรสชาติค้างอยู่ในปากอีก ชอบบบบ
69 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
แล้วเพื่อนก็ขอสั่งเมนูนี้เพิ่มค่ะ Chicken Tikka 340++ หอมมากกก (ลืมบอก ร้านนี้ที่เด่นมากๆ คือ เรื่องกลิ่นค่ะ ทุกจานที่วาง กลิ่นจะระรวยออกมาเตะจมูกทุกจานเลย) เนื้อไก่ก็นุ่มค่ะ นุ่มกว่าตัว Indus Kebab-e-malai อีกหละ รสชาติก็เข้มกว่า อร่อยหละ
70 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
พอหมดอาหารคาว ก็ถึงเวลาอาหารหวาน ทางร้านก็เก็บถ้วยจาน จากนั้นให้ชามล้างมือและอุปกรณ์สำหรับการกินอาหารหวานมาตามภาพค่ะ
85 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
ของหวานที่เชฟเตรียมไว้ก็ประกอบไปด้วยสามตัวนี้นะคะ 

Gil-E-Firdaus ที่อยู่ในถ้วยน่ะนะคะ ทำมาจากน้ำเต้าผสมชีสและนม รสเบาอ่อนๆ หวานนิดๆ ครีมมี่เบาๆ ค่ะ

Kalakand Cheese Cake สีขาวๆ หอมชีสดีค่ะ หวานเจือเค็ม อร่อยนะคะ เราชอบหละ

Beetroot Halwa ตัวนี้จะออกแนวให้อารมณ์เหมือนกินกลอยอะค่ะ เทกซเจอร์ประมาณกัน แต่ก็เห็นบางคนชอบอยู่นะคะ
109 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
สรุปสำหรับร้านนี้นะคะ

เป็นร้านอาหารอินเดียบรรยากาศดี บริการดี และมีหลายเมนูที่เราชอบค่ะ ชีสนานนี่คือดีงามมากนะคะ ชอบสุดๆ Chicken Tikka ก็อร่อย ลาสซี่เราก็ชอบทั้งสามรสที่ได้ลองค่ะ เป็นร้านอาหารอินเดียอีกร้านที่คิดว่าเหมาะสำหรับรับแขกดีค่ะ
63 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
59 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)
โพสต์
รายละเอียดคะแนนรีวิว
รสชาติ
การตกแต่ง
บริการ
ความสะอาด
ความคุ้มค่า
วิธีการกิน
รับประทานที่ร้าน
ระดับ4
Indus เป็นร้านอาหารอินเดียสไตล์โมเดิร์น ตกแต่งร้านสวย หรูหรา เป็นร้านแบบ Fine Dining มีที่นั่งโซน Indoor และ Outdoorพิกัดร้าน "Indus" อยู่ในซ.สุขุมวิท 26  สามารถมาได้ทั้งทางสุขุมวิทและพระราม 4 เรามาทางสุขุมวิทก็ตรงมาตามทางจนเจอโรงแรมโฟร์วิงส์ เลี้ยวซ้ายและขวาตามถนน ตรงไปอีกประมาณ 100 ม.ร้านอยู่ซ้ายมือ ใครมาบีทีเอสให้ลงสถานีพร้อมพงษ์ ต่อวิน 10 บ.ก็ถึงร้านละ บริเวณร้านมีที่จอดรถได้หลายสิบคัน ถ้าที่จอดส่วนนี้เต็มก็สามารถนำรถไปจอดได้ที่ตึกริชมอนด์ที่อยู่ถัดไปและนำบัตรมาประทับตราจอดรถที่ร้านเมนูอาหารของที่ร้านจะมีทั้งที่เป็น Courses , A La Cart และ Buffet แบบ Courses , A La Cart มีทุกวันส่วนบุฟเฟต์มีเฉพาะ
อ่านรีวิวฉบับเต็ม
Indus เป็นร้านอาหารอินเดียสไตล์โมเดิร์น ตกแต่งร้านสวย หรูหรา เป็นร้านแบบ Fine Dining มีที่นั่งโซน Indoor และ Outdoor

พิกัดร้าน "Indus" อยู่ในซ.สุขุมวิท 26  สามารถมาได้ทั้งทางสุขุมวิทและพระราม 4 เรามาทางสุขุมวิทก็ตรงมาตามทางจนเจอโรงแรมโฟร์วิงส์ เลี้ยวซ้ายและขวาตามถนน ตรงไปอีกประมาณ 100 ม.ร้านอยู่ซ้ายมือ ใครมาบีทีเอสให้ลงสถานีพร้อมพงษ์ ต่อวิน 10 บ.ก็ถึงร้านละ บริเวณร้านมีที่จอดรถได้หลายสิบคัน ถ้าที่จอดส่วนนี้เต็มก็สามารถนำรถไปจอดได้ที่ตึกริชมอนด์ที่อยู่ถัดไปและนำบัตรมาประทับตราจอดรถที่ร้าน

เมนูอาหารของที่ร้านจะมีทั้งที่เป็น Courses , A La Cart และ Buffet แบบ Courses , A La Cart มีทุกวันส่วนบุฟเฟต์มีเฉพาะวันหยุด เป็น Weekend Brunch Buffet มีเฉพาะเสาร์ - อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ช่วงเวลา 11.30 - 15.00 (สั่งได้ถึง14.45น.) ส่วนที่เราไปกินวันนั้นเป็นแบบ A La Cart 

เมนูที่ได้ชิม

- Lassi 140 บ. เป็นเครื่องดื่มสมู้ตตี้โยเกิร์ต ของที่ร้านมีให้เลือกหลายรสมาก ๆ (ประมาณ 10 รส) เราสั่งเป็นรสหวาน ก็คือเป็นโยเกิร์ตรสธรรมชาตินี่แหละ รสหวานเล็ก ๆ ไม่เปรี้ยว

- Wild Honey Ginger Martini 300 บ. แก้วนี้เป็น Signature Cocktails รสออกขิง ๆ จิบแล้วร้อน ๆ วูบ ๆ 

- Papadam เป็นแผ่นแป้งบางกรอบ ทางร้านจะเสิร์ฟ กับเครื่องเคียงเป็นซอส 4 ชนิด คือ หอมแดงดอง , ซอสสะระแหน่ , ซอสมะขาม และซอสมะม่วง มาให้ทานรองท้องก่อน

- ของกินเล่นเรียกน้ำย่อย จานนี้เป็นกล้วยแผ่นทอดท็อปด้านบนด้วยมะม่วง รสหวานตัดกับรสเปรี้ยวเล็ก ๆ

- Tandoori Creamy Broccoli 320 บ. ผักบร็อคโคลีหมักในครีมและเครื่องเทศย่างในเตาทันดูร์ดูเป็นเมนูธรรมดา ๆ แต่อร่อยนะ ผักบร็อคโคลีหมักมาจนนุ่ม หอมครีม

- Indus Kebab-e-malai 380 บ. ไก่หมักกับโยเกิร์ต ครีม ชีส และเครื่องเทศ ย่างในเตาทันดูร์ ของที่นี่ย่างมานุ่มกำลังดี เครื่องเทศไม่ฉุนมากนัก

- Tandoori Tiger Prawn 250 บ./ตัว กุ้งกุลาดำหมักกับเมล็ดมัสตาร์ด ผัก และน้ำมะนาวกุ้งตัวใหญ่ หมักเข้าเนื้อดี รสเข้มข้น

- Indus Nawabi Raan 900 บ. ขาแกะสูตรอินดัสหมัก 7 ชม.แล้วนำไปย่างด้วยไฟอ่อนเนื้อแกะนุ่มแบบไม่ต้องออกแรงหั่นเลย ไม่มีกลิ่นสาปแกะด้วย แกะหมักมารสเข้มข้นดี 

- Chicken Tikka 340 บ. ไก่หมักโยเกิร์ตและยี่หร่าข้ามคืน ย่างในเตาทันดูร์ เป็นจานไก่อีกเมนูที่ไก่นุ่มอีกแล้ว รสจะจัดกว่าเมนูแรกเล็กน้อย

- Laal Maas 550 บ. แกงเนื้อแพะรสเผ็ดจากรัฐราชสถาน พริก และกานพลู เมนูนี้จะเป็นแกงรสเผ็ด จัดจ้านดี แพะก็ไม่เหม็นสาป

- Butter chicken 380 บ. ไก่รมควันเคี่ยวในน้ำเกรวี่มะเขือเทศ เติมเนยและครีม เมนูนี้แกงรสออกหอมมันดี ไม่ค่อยเผ็ดค่ะ

- Palak Paneer 340 บ.ผักโขมบดผสมคอทเทจชีส และเครื่องเทศเหมือนต้มผักใส่ชีส อร่อยดีนะ ไม่เหม็นเขียว ชีสก็เพิ่มความมัน

- Daal Makhani 240 บ.ถั่วดำต้มไฟอ่อนเติมเนย และแต่งหน้าด้วยขิงและผงฟีนูกรีก ถั่วต้มจนนิ่ม แกงรสหอมมันเช่นกันแต่น้อยกว่าบัตเตอร์ชิคเก้น

- Roti , Naan , Paratha แต่ละชนิดก็จะมีให้เลือกทานหลายแบบ เช่น อบเนย , อบเนยกระเทียม , โฮลวัท , ผสมเครื่องเทศ ฯลฯ

- Cheese Naan 160 บ. นานไส้ชีส อันนี้อร่อยมาก แย่งกินไม่กลัวแคลอรี่กันเลย

- Hyderabadi Murgh Dum Biryani 390 บ. ข้าวหอมบาสมาติอบไก่พร้อเครื่องเทศอินเดีย โรยหน้าด้วยหอมเจียวและหญ้าฝรั่น เมนูนี้เหมือนข้าวหมกไก่ที่เราคุ้นเคยแหละ เพียงแต่ใช้ข้าวบาสมาติ เม็ดจะเรียวยาว

- Gil-E-Firdaus เป็นพุดดิ้งน้ำเต้า รสออกนม ๆ ครีม ๆ แปลก ๆ ดีแต่ก็กินได้นะ

- Kalakanda Cheese Cake เป็นชีสเค้ก เนื้อไม่หนักมาก 

- Beetroot Halwa เป็นขนมที่ทำจากบีทรูท รสหวานแต่ไม่ได้หวานเจี๊ยบ

- Signature Masala Chai Tea 140 บ. Chai Tea เป็นชาผสมเครื่องเทศ ของที่ร้านจะเสิร์ฟแบบผสมนมมาเรียบร้อย เป็นชาที่รสออกนม ๆ มีกลิ่นเครื่องเทศอ่อน ๆ เหมาะสำหรับจิบคู่กับขนมหวาน

สำหรับร้าน Indus เป็นร้านอาหารอินเดียที่ทานง่าย เครื่องเทศไม่ได้แรงจัดจ้านเหมือนร้านอาหารอินเดียอื่น ๆ คนไม่เคยกิน ถ้าอยากลองกินอาหารอินเดีย แนะนำว่าควรมาลองร้านนี้ บรรยากาศร้านดี อยู่ใจกลางเมืองเดินทางสะดวก พนักงานพูดไทยได้เป็นบางคน ราคาสูงพอสมควร  ถ้างบจำกัดแนะนำให้มาทาน Weekend Brunch Buffet 
102 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
99 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
119 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
128 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
126 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
126 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
132 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
145 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
223 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
289 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
Lassi
196 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
Papadam
99 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
ซอส 4 ชนิด
94 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
92 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
Tandoori Creamy Broccoli
107 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
Indus Kebab-e-malai
123 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
Indus Kebab-e-malai
135 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
Tandoori Tiger Prawn
139 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
Indus Nawabi Raan
103 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
Chicken Tikka
97 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
83 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
Laal Maas
88 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
Butter chicken
74 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
Palak Paneer
89 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
Daal Makhani
89 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
Roti , Naan , Paratha
67 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
Cheese Naan
75 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
Hyderabadi Murgh Dum Biryani
76 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
75 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
92 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
Masala Chai Tea
94 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)
โพสต์
รายละเอียดคะแนนรีวิว
รสชาติ
การตกแต่ง
บริการ
ความสะอาด
ความคุ้มค่า
วันที่ไปกิน
2017-03-14
วิธีการกิน
รับประทานที่ร้าน
ประเภทมื้ออาหาร
มื้อเย็น
เมนูแนะนำ
  • Lassi
  • Tandoori Creamy Broccoli
  • Indus Kebab-e-malai
  • Laal Maas
  • Cheese Naan
ระดับ4
2016-02-02 80 วิว
รีวิวนี้ พิเศษสุด ๆ ครับ กับการรีวิวอาหารอินเดียสมัยใหม่ผ่านธีมอาหารชายฝั่งทะเลของอินเดีย อาหารจากคาบสมุทรอินเดียชายฝั่งกากัณ, เซตินาถและชายฝั่งมะละบาร์ ด้วยฝีมือเชฟระดับโลกที่บินตรงมาจาก นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา เพียงแค่ 2 วัน เพื่อโชว์ฝีมือการปรุงความอร่อย อย่างพิถีพิถันและลงตัวกับไวน์แพร์ริ่ง ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของความเป็นอินเดียทางตอนใต้ประยุกต์กับวิธีการทำ จัดแต่ง อาหารแบบยุโรป แบบพิเศษสุด ๆ เพียงแค่ 50 ที่ต่อวันกับ Chef HARI NAYAK (เชฟฮาริ นายัค) ที่เป็นทั้งเชฟ นักเขียนและนักเดินทางท่องเที่ยวโดยอาหารมื้อค่ำทั้ง 2 วันที่เชฟฮาริ นายัค มาแสดงฝีมือนั้นจัดขึ้นที่ ร้าน INDUS Contemporary Indian dining สุขุมวิท 26 ซึ่ง
อ่านรีวิวฉบับเต็ม
69 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
รีวิวนี้ พิเศษสุด ๆ ครับ กับการรีวิวอาหารอินเดียสมัยใหม่

ผ่านธีมอาหารชายฝั่งทะเลของอินเดีย อาหารจากคาบสมุทรอินเดีย

ชายฝั่งกากัณ, เซตินาถและชายฝั่งมะละบาร์ ด้วยฝีมือเชฟระดับโลก

ที่บินตรงมาจาก นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา เพียงแค่ 2 วัน เพื่อโชว์ฝีมือการปรุง

ความอร่อย อย่างพิถีพิถันและลงตัวกับไวน์แพร์ริ่ง ด้วยรสชาติ

ที่เป็นเอกลักษณ์ของความเป็นอินเดียทางตอนใต้ประยุกต์กับ

วิธีการทำ จัดแต่ง อาหารแบบยุโรป แบบพิเศษสุด ๆ เพียงแค่ 50 ที่ต่อวัน

กับ Chef HARI NAYAK (เชฟฮาริ นายัค) ที่เป็นทั้งเชฟ นักเขียน

และนักเดินทางท่องเที่ยว

โดยอาหารมื้อค่ำทั้ง 2 วันที่เชฟฮาริ นายัค มาแสดงฝีมือนั้น

จัดขึ้นที่ ร้าน INDUS Contemporary Indian dining

สุขุมวิท 26 ซึ่งเป็นร้านอาหารอินเดียอันดับต้น ๆ ของประเทศไทยครับ
59 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
Chef HARI NAYAK (เชฟฮาริ นายัค) เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียง

อย่างแพร่หลายในต่างประเทศ ในฐานะเชฟอาหารอินเดียสมัยใหม่(ร่วมสมัย)

ด้วยการนำแรงบันดาลใจจากบ้านเกิดอินเดียตอนใต้

ผนวกกับประสบการณ์จากทั่วทุกมุมโลกที่เชฟได้เดินทาง

เก็บเกี่ยวประสบการณ์มา และนำมาบันทึกเขียนเป็นหนังสือมากมาย

เชฟฮาริ นายัค จบการศึกษาจาก Culinary Institute of America (CIA)

และได้ทำงานร่วมกับ Chef Daniel Boulud เชฟระดับโลกเจ้าของรางวัล

มิชลินสตาร์ 3 ดาว ทุกวันนี้เชฟฮาริ เป็นกูรูด้านอาหารอินเดีย

เป็นที่ปรึกษาการทำอาหาร ร้านอาหารหลาย ๆ ร้านในเมืองนิวยอร์ค

และเมืองต่าง ๆ อีกมากมาย และยังทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการ

ร้าน Cafe Spice ร้านอาหารอินเดียที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือ

รวมถึงยังมีแบรนด์สินค้าเป็นของตัวเองวางจำหน่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ต

ชั้นนำต่าง ๆ อีกด้วย

สามารถทำความรู้จักเชฟฮาริ นายัค เพิ่มเติมได้ที่

http://www.harinayak.com/

https://www.facebook.com/hari.nayak
61 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
60 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
ร้าน INDUS (อินดัส) ร้านอาหารอินเดียมาตรฐานสูง ที่รักษาระดับมาอย่างยาวนาน

ตั้งแต่ปี 2005 ที่เริ่มก่อตั้ง เป็นร้านอาหารที่ตกแต่งสไตล์บ้านยุค 1960 อาร์ตเดโค

มีห้องอาหารที่หรูหราและบาร์ที่จุคนได้จำนวนมาก มีทั้งโซนที่นั่งด้านนอกกลางแจ้ง

และในห้องแอร์แบบส่วนตัว เป็นที่นิยมมากสำหรับชาวต่างชาติที่ชื่นชอบอาหารอินเดีย

และยังเป็นร้านอันดับต้น ๆ สำหรับชาวไทยที่เริ่มต้นทดลองกินอาหารอินเดียอีกด้วย

แถมทางร้านยังได้รับรางวัลการันตีความอร่อยมามากมายอีกด้วย
54 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
50 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
56 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
49 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
การตกแต่งร้านจะมีกลิ่นไอของศิลปะและอารายธรรมอินเดียโบราณทางตอนเหนือ

ไม่ว่าจะเป็นประตูสลักลาย ผนังหินทราย ของตกแต่งที่สวยงาม รวมถึงสวนที่ตกแต่ง

ได้อย่างน่ามอง บริหารร้านด้วยฝีมือของ Mr.Sid Sehgal

และ Mr.Yash Pal ผู้จัดการร้าน รวมถึงทีม Chef Jimmy ที่ฝีมือเยี่ยม

ซึ่งอยู่มาตั้งแต่ร้านเริ่มก่อตั้งเลยครับ
50 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
"Mr.Sid Sehgal, INDUS Owner"

เกริ่นและทำความรู้จักกับตัวเชฟและร้านกันมาพอสมควรแล้ว

เรามาเริ่มของกินที่สุดแสนประทับใจในมื้อนี้กันเลยดีกว่าครับ
53 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
62 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
เครื่องดื่มเย็น ๆ สดชื่นกับน้ำแร่ใส่มะนาวฝาน

ทั้ง 2 แบรนด์ San Pellegrino และ Acqua Panna ระดับโลกทั้งคู่

มาจากประเทศอิตาลี สะใจกับน้ำฟองฟู่ไร้แอลกอฮอล์กันไปก่อนครับ

(ผมนี่เติมแล้วเติมอีกเลย 555)
55 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
59 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
จากนั้นเราก็มาเริ่มที่อาหารจานแรก จากเมนูคอร์ส 9 อย่างกันครับกับ

FISH MALU BUN with Organic Uni Butter

เป็นขนมปังเรียกน้ำย่อย โดยด้านในเป็นไส้ปลาผสมเครื่องเทศ

ที่ให้กลิ่นของอินเดียบาง ๆ เสริมรสชาติด้วยเนยธรรมชาติ

ที่มีส่วนผสมของไข่หอยเม่นลงไปให้กลิ่นทะเล หอม ๆ มัน ๆ

ในสไตล์ของตัวเนยและไข่หอยเม่นได้อย่างลงตัว

จนอยากจะกินเนยตัวนี้เปล่า ๆ ไปอีกสัก 10 ก้อนเลยครับ
60 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
51 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
53 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
56 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
63 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
จานที่ 2 RASAM CRABPURI

เป็นจานเด็ด ปลุกให้ต่อมรับรสของลิ้นได้ตื่นขึ้นมาเพื่อเตรียมพร้อม

รับมือกับรสชาติ รสสัมผัสของอาหารจานต่อ ๆ ไปได้อย่างดีมาก ๆ เลย

เป็นแป้งทำจากข้าวบาง ๆ ห่อหุ้มเป็นลูกบอลทรงกลม

ที่กระเทาะให้เห็นเนื้อไส้ด้านในที่เป็นเนื้อปูผัดเนย กระเทียม และมะพร้าว

ซดกับคอนซอมเม่ต์ซุปมะเขือเทศและถั่วเลนทิลรสเผ็ดได้ใจ

จานนี้จับคู่กับไวน์ขาว รสชาติเบา ๆ เปรี้ยวนำเล็กน้อยอย่าง

Clos Des Lunes Blanche by Domain De Chevalier ปี 2013

จากแคว้น Bordeaux, France ได้อย่างลงตัวเลยครับ
57 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
49 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
จานที่ 3 ARBI RAWA FRY

เป็นแป้งสาลี Semolina ไส้เผือก ทำทรงแบน ๆ บาง ๆ

กรอบนอกนุ่มเผือกใน ได้รสชาติผงเครื่องเทศอินเดีย

กินง่าย ๆ อร่อย ๆ เบรครสเผ็ดร้อนของจานที่ 2 ได้ดีเลยครับ
48 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
47 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
51 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
53 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
48 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
52 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
จานที่ 4 GUNPOWDER SCALLOP

เป็นหอยเชลล์ตัวโตกริลล์ได้ระดับความสุกพอดิบพอดี

โรยเครื่องเทศที่เป็นผงพริกอบแห้ง กินกับดอกกะหล่ำบดเนื้อเนียน

และซอสแกงกะทิสไตล์อินเดีย ด้วยวัตถุดิบที่ดีงามอย่างหอยเชลล์

นำมาปรุงรสกับผงเครื่องแกงและซอสที่เป็นสไตล์ร่วมสมัย

ทำให้กินได้สนุกและง่ายกับการจับรสชาติ แต่ยังคงมีรากฐานของ

ความเป็นอาหารอินเดียอยู่สูง

จับคู่กับไวน์ขาว รสชาติดี กลมกล่อม หอมดอกไม้ขาว อย่าง

Elvio Cogno Langhe Anas Cetta ปี 2013

จาก Piedmont, Italy ได้อย่างดีทีเดียวครับ
58 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
52 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
53 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
56 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
55 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
จานที่ 5 GHEE ROAST CHICKEN

เนื้อไก่นุ่ม ๆ ส่วนน่อง/สะโพก หมักด้วยพริกแดง มะขาม

และน้ำมันเนย นำมาอบให้สุก หอม อร่อย กินกับสลัดถั่วบด

และผักดอง จับคู่กับไวน์ขาว Sirmian Pinot Bianco ปี 2013

จาก Alto Adige, Italy ที่มีกลิ่นผลไม้อย่างแอปเปิ้ลและลูกแพร์

รวมถึงดอกไม้ ให้บอดี้กลาง ๆ แต่รสชาติที่เข้มข้นอยู่พอควร

กินกับไก่จานนี้ได้อย่างอร่อยเลยครับ
60 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
61 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
60 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
64 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
54 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
76 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
จานที่ 6 PRAWN GASSI

กุ้งสุกตัวใหญ่พอดีคำ ปรุงรสด้วยกระเทียม พริกเขียว

ราดด้วยซอสแกงกะทิรสชาติดีจากเมือง Mangalore

กินกับแป้งเครปสไตล์อินเดียตอนใต้ที่เป็นบ้านเกิดของเชฟฮาริ

ตัวซอสกับกุ้งเข้ากันดี แล้วถ้าบีบมะนาวลงไปกระชับรสชาติต่าง ๆ

ก็ยิ่งดี แต่ดียิ่งขึ้นไปอีกเมื่อกินพร้อมแป้งเค้กนุ่ม ๆ เบา ๆ ด้วยแล้วล่ะก็

สุด ๆ ไปเลย ผมนี่โกยแกงจนเกลี้ยงจานเลยครับจานนี้

พร้อมกับได้ไวน์แดง Chateau Gigault Cuvee Viva ปี 2011

จาก Bordeaux, France ที่ให้กลิ่นของผลเบอร์รี่ต่าง ๆ บอดี้กลาง ๆ

สีแดงทับทิม เข้ากันได้ดีกับแกงและกุ้งจานนี้มากครับ
73 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
59 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
70 วิว
2 ไลค์
0 คอมเมนต์
จานที่ 7 MEEN POLLICHATHU

เห็นห่อใบตองย่างแบบนี้ ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นห่อหมก

แต่จริง ๆ แล้วเป็นปลากะพงทะเลหมักผงเครื่องเทศพริกเขียว

แบบผงมาซาลาและน้ำมะขาม นำไปห่อใบตองแล้วนำมาย่างไฟ

ให้ได้ระดับความสุกที่พอดี ๆ กลิ่นหอมเครื่องแกงอบอวลเมื่อแกะใบตอง

จับคู่ได้กับไวน์ตัวเมื่อสักครู่ได้ดีอีกจานครับ
73 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
85 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
73 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
70 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
จานที่ 8 MALABAR ALEESA + KOTHU PAROTTA

เชฟฮาริ ได้นำเสนออาหารอินเดียตอนใต้

ที่นำมาทำเป็นสตูว์เนื้อแกะแบบทางเหนือ

แบบที่ผ่านกรรมวิธีทำให้สุกช้า ๆ ตกแต่งด้วยโฟมกะทิสวยงาม

รสชาติดีมาก ๆ อีกอย่าง แล้วกินกับแป้งผัดเนื้อแกะและไข่

ที่ให้รสชาติเค็ม ๆ มัน ๆ โดยแนะนำให้จิบไวน์ตามจะยิ่งอร่อยมาก

ด้วยไวน์แดง รสชาติเข้มข้น สีแดงทับทิมจัด ๆ อย่าง

Achaval Ferrer Finca Mirador Malbec ปี 2009

จาก Mendoza, Argentina ขวดนี้ โดดเด่นมากด้วยกลิ่นสดชื่น

ของผืนดินในป่า ผลไม้สีเข้มต่าง ๆ รวมไปถึงโกโก้ด้วยครับ
74 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
72 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
61 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
68 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
76 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
สุดท้ายจานที่ 9 กับของหวาน TENDER COCONUT "PAYASAM"

เป็นของหวานหน้าตาละม้ายคล้ายข้าวต้มมัด

แต่ไม่ใช่ครับ เป็นแพนเค้กข้าวเหนียวกะทิสไตล์อินเดีย

กินพร้อมกับคาราเมลและกะทิ ได้อย่างเอร็ดอร่อยอย่างมาก

พร้อมกับดื่มสปาร์คกลิ้งไวน์ ฟองฟู่ชนิดหวาน

Lambrini Sparkling Perry จาก United Kingdom

ได้อย่างดี จบมื้อได้อย่างประทับใจมาก

กับฝีมือของเชฟฮาริ นายัค ที่มาเยือนเมืองไทยในครั้งนี้ครับ

ก่อนกลับก็เลยถือโอกาศเดินชมบรรยากาศร้านบริเวณสวนด้านหลัง

ที่มีไฟประดับประดาไว้สวยงาม เพื่อย่อยอาหารไปในตัวสักนิดครับ

เลยเก็บภาพมาฝากกัน
84 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
จบรีวิวนี้กับฝีมือของ Chef HARI NAYAK (เชฟฮาริ นายัค)

ที่ร้าน INDUS Contemporary Indian dining

ซอยสุขุมวิท 26 ที่มีความสวยงามทั้งสถานที่

บรรยากาศ การบริการที่ดีงาม ตลอดระยะเวลา 2 ชั่วโมงกว่า ๆ

ที่ผมได้รับประสบการณ์อาหารอินเดียดี ๆ ในร้านดี ๆ แบบนี้ครับ

สนใจสำรองที่นั่ง ติดตามข่าวสารและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

www.facebook.com/indusbkk

โทร.0-2258-4900

เปิดบริการ 2 รอบเวลา 11:30-14:30 และ 18:00-เที่ยงคืน

ขอให้มีความสุขกับการเปิดประสบการณ์การทานอาหารอินเดียแบบผมนะครับ

ข้อมูลอื่นๆ: รีวิวนี้ เป็นการแชร์ประสบการณ์จากการได้กินอาหารจากเชฟรับเชิญ เชฟฮาริ นายัค เมนูทุกเมนูนี้ อาจจะลงหรืออาจจะไม่ได้ลงในเมนูประจำของร้านนะครับ ถือว่านำรีวิวมาแบ่งปันกับอาหารอินเดียสไตล์ใหม่กันครับ
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)
โพสต์
รายละเอียดคะแนนรีวิว
รสชาติ
การตกแต่ง
บริการ
ความสะอาด
ความคุ้มค่า
วันที่ไปกิน
2015-12-09
วิธีการกิน
รับประทานที่ร้าน
ราคาต่อคน
฿3,990 (มื้อเย็น)
เมนูแนะนำ
  • FISH MALU BUN with Organic Uni Butter
  • RASAM CRABPURI
  • ARBI RAWA FRY
  • GUNPOWDER SCALLOP
  • GHEE ROAST CHICKEN
  • PRAWN GASSI
  • MEEN POLLICHATHU
  • MALABAR ALEESA + KOTHU PAROTTA
  • TENDER COCONUT
  • Clos Des Lunes Blanche by Domain De Chevalier ปี 2013 จากแคว้น Bordeaux
  • France
  • Elvio Cogno Langhe Anas Cetta ปี 2013 จาก Piedmont
  • Italy
  • Sirmian Pinot Bianco ปี 2013 จาก Alto Adige
  • Chateau Gigault Cuvee Viva ปี 2011 จาก Bordeaux
  • Achaval Ferrer Finca Mirador Malbec ปี 2009 จาก Mendoza
  • Argentina
  • Lambrini Sparkling Perry จาก United Kingdom
ระดับ4
เป็นครั้งแรกในการมากินอาหารอินเดียต้นตำรับแท้ๆ ที่จริงแล้วเราก็ไม่ค่อยคุ้นเคยกับอาหารแขกเท่าไหร่หรอกค่ะ แต่พอดีมี voucher อยู่ 2,000 บาท ได้มาตั้งแต่ปีมะโว้ไปยอมไปใช้ มาใช้ตอนใกล้หมดอายุ ไม่ใกล้ล่ะวันสุดท้ายเลย อิอิ voucher ที่ได้มานี้ มี 2 ใบ ใบละ 1,000  บาท ซึ่งตามเงื่อนไขแล้วเขาให้ใช้ทีละใบ แต่เราถามพนักงาน ผู้จัดการเขาให้ใช้ได้เลยค่ะทีเดียว 2 ใบ เริ่ดที่สุด!!!บอกตำแหน่งที่ตั้งสักหน่อย ร้านอินดัสนี้อยู่ในซอยสุขุมวิท 26 ค่ะ ถ้าสำหรับคนที่มาด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส สามารถลงที่สถานีพร้อมพงษ์ได้แล้วเดินมานิดหน่อยก็ถึงซอยแล้วค่ะ แต่หากใครนั่งรถเมล์มานะคะ เราไม่มั่นใจว่ามีรถเมล์สายอะไรบ้าง แต่จากที่เราไป จากเยาวราช สามารถนั่งสาย 25
อ่านรีวิวฉบับเต็ม
เป็นครั้งแรกในการมากินอาหารอินเดียต้นตำรับแท้ๆ ที่จริงแล้วเราก็ไม่ค่อยคุ้นเคยกับอาหารแขกเท่าไหร่หรอกค่ะ แต่พอดีมี voucher อยู่ 2,000 บาท ได้มาตั้งแต่ปีมะโว้ไปยอมไปใช้ มาใช้ตอนใกล้หมดอายุ ไม่ใกล้ล่ะวันสุดท้ายเลย อิอิ

voucher ที่ได้มานี้ มี 2 ใบ ใบละ 1,000  บาท ซึ่งตามเงื่อนไขแล้วเขาให้ใช้ทีละใบ แต่เราถามพนักงาน ผู้จัดการเขาให้ใช้ได้เลยค่ะทีเดียว 2 ใบ เริ่ดที่สุด!!!

บอกตำแหน่งที่ตั้งสักหน่อย ร้านอินดัสนี้อยู่ในซอยสุขุมวิท 26 ค่ะ ถ้าสำหรับคนที่มาด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส สามารถลงที่สถานีพร้อมพงษ์ได้แล้วเดินมานิดหน่อยก็ถึงซอยแล้วค่ะ แต่หากใครนั่งรถเมล์มานะคะ เราไม่มั่นใจว่ามีรถเมล์สายอะไรบ้าง แต่จากที่เราไป จากเยาวราช สามารถนั่งสาย 25 และ 40 ไปได้ค่ะ จะลงป้ายหลังจากป้ายตรงเอ็มโพเรียม 1 ป้ายค่ะ แล้วเดินย้อนมานิดหน่อยก็เจอทางม้าลายข้ามมาก็ถึงซอยเลยค่ะ ทีนี้ต้องเข้าซอยค่ะ เข้าไปลึกเหมือนกันค่ะ สำหรับคนที่มีรถก็สบายไปขับเข้าไปจอดที่ร้านได้เลยค่ะ แต่สำหรับเรา เราเดินค่ะ ถือว่าเดินเล่น ก็จะเดินไปจนสุดทางแล้วเลี้ยงซ้าย ตรงจนสุดท้ายอีกครั้งก็เลี้ยวขวา เดินอีกหน่อยก็ถึงแล้วค่ะ อย่าตกใจไปที่มองไม่เห็นอะไรบอกเลย เดินแล้วเดินต่อไป อย่าหยุดอย่างงค่ะ เพราะตรงนั่นจะออกร้างๆ นิดหน่อย ทำให้สงสัยว่ามาผิดทางหรือเปล่า พอดีเจอลุงขายน้ำแข็งไสเลยเดินเข้าไปถาม ลุงบอกอยู่เนี่ย ซ้ายมือถึงแล้ว จะมีป้ายสีขาวบอกชื่อร้านที่ไม่ค่อยโดดเด่นเท่าไหร่ มองเข้าไปลักษณะเหมือนบ้านเดี่ยวค่ะ มีที่จอดรถด้านหน้า แล้วก็เข้าไปเป็นบ้าน เป็นห้องอาหาร มองเยื้องมาทางขวาหน่อยๆ จะมีประตูไม้ให้เข้ามาทางนั้นเลยค่ะ


114 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์


123 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์


140 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์



เราเข้าไปได้แบบเหรอๆหราๆมากๆเลยค่ะ ไม่รู้จะเข้าทางไหนดี จะเข้าทางประตูขวามือหรือทางสวนซ้ายมือ สุดท้ายพนักงานที่อยู่ข้างในมองออกมาชี้ให้เราเข้าทางประตู แล้วก็มีพนักงานมารอรับอยู่หลังประตูค่ะ พาไปนั่งที่โต๊ะ ที่ที่เราได้นั่งเป็นตำแหน่งที่มองตรงออกไปด้านหน้าตรงกับประตูใหญ่ที่เราเพิ่งเข้ามาเมื่อกี้เลยค่ะ
134 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์

อีกด้านจะเป็นสวนที่มีโต๊ะให้นั่ง อาจไว้สำหรับกลุ่มที่สูบบุหรี่มั้งคะ เพราะเห็นที่เขี่ยบุหรี่ตั้งอยู่บนโต๊ะค่ะ ซึ่งคนที่ออกมารับเราเมื่อสักครู่น่าจะเป็นผู้จัดการนะคะ เป็นคนไทย แต่พนักงานที่เหลือเป็นแขกหมดเลย เคยอ่านรีวิวบอกว่าพนักงานพูดไทยไม่ค่อยได้ เราเลยจัดภาษาอังกฤษใส่ ที่ไหนได้คุยไปคุยมาคุยภาษาไทยกันค่ะ 555

หากใครไม่รู้จะเลือกทานอะไรดีนะคะ ในเมนูมีบอกไว้ค่ะว่าเมนูไหนเป็นเมนูแนะนำ เมนูที่มีกลมๆสีแดงนั่นคือเมนูแนะนำค่ะ

ส่วนเมนูที่เราสั่งไปทั้งหมดวันนี้นะคะ คือ Garlic Naan เป็นแป้งโรตีที่ไว้ทานคู่กับแกงที่นำไปอบกับเนยและกระเทียม (ราคา 100 บาท) 1 จานจะเสิร์ฟมา 4 แผ่นค่ะ , Black Pepper Prawns กุ้งสดผัดกับซอสพริกไทยดำ (ราคา 490 บาท)  , Sea Bass Curry แกงปลากระพงขาวปรุงกับมะเขือเทศ (ราคา 420 บาท), Tandoori Chicken ไก่หมักโยเกิร์ต พริกแดง และขมิ้นย่างอย่างชำนานในเตาตันดูร์ (ราคา 320 บาท) และ Ajwaini Fish Tikka ชิ้นปลากระพงขาวนุ่มปรุงรสประณีตด้วยเมล็ดยี่หร่าและสมุนไพร (ราคา 490 บาท)

107 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์


แต่ก่อนอื่นใดหลังจากสั่งอาหารเสร็จ เอาก็จะเอาเมนูพิเศษมาเสิร์ฟเลย เป็น ข้าวเกรียบ ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับท็อปปิ้งสี่ชนิดคือ ซอสมะขาม ซอสมะม่วง อีกสองอย่างชื่ออะไรจำไม่ได้แล้วค่ะ แต่อันหนึ่งจะเป็นหอมแดงดอง และอีกอันที่เป็นสีเขียวๆ จะออกเผ็ดๆ นิดหน่อยค่ะ ข้าวเกรียบก็จะออกเค็มๆ เคี้ยวเล่นก็เพลินดีค่ะ จิ้มท็อปปิ้งก็อร่อยไปคนละแบบ

147 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์


ส่วนรสชาติอาหารอื่นๆ
Garlic Naan เป็นโรตีที่เรากินแล้วคิดว่าพิซซ่า หอม อร่อย กินคู่กับแกงแล้วอร่อยมาก รสชาติเข้ากันกำลังดี เสียอย่างเดียวด้านล่างของแป้งทำไหม้ไปหน่อยค่ะ เลยต้องมานั่งแกะส่วนไหม้ๆทิ้ง แต่รสชาตินี่ฟินเว่อร์ค่ะ กินเพียวๆ ไม่ต้องกินคู่กับอย่างอื่นยังอะไรเลยค่ะ

77 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์


Sea Bass Curry แกงปลาที่เรากินคู่กับนาน เสิร์ฟมาบนหม้อทองเหลืองขนาดจิ๋ว น่ารัก มีแอลกอฮอล์คอยอุ่นให้ด้วย  รสชาติอร่อย เข้มข้นและกลมกล่อมมากๆ แกงข้นมาก รสชาติซึมเข้าเนื้อปลานุ่มๆ กินคู่กับนาน อร่อยที่สุด คู่นี้เป็นเมนูที่เรากินแล้วอร่อยที่สุดค่ะ ขนาดกินอาหารประเภทนี้ไม่ค่อยเป็นนะคะ แต่กินเรียบไม่เหลือเลยค่ะ 555

106 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์


Black Pepper Prawns กุ้งสดผัดกับซอสพริกไทยดำ คล้ายๆกับผัดพริกไทยดำบ้านเราแต่รสชาติจะอ่อน ไม่จัดจ้าน แต่กลับไม่เผ็ดพริกไทยเท่าไหร่เลยนะคะ ถ้าทำเค็มและเผ็ดมากกว่านี้สักหน่อยรสชาติน่าจะเข้มข้นขึ้นนะคะ แต่เนื้อกุ้งนี่สดมาก เนื้อเด้งดึ๋งเลยค่ะ 555

Tandoori Chicken เป็นไก่ย่างแต่ย่างไหม้ไปหน่อย เสิร์ฟมาพร้อมกับหอมแดง ผักกาดหอมและมะนาว สามารถบีบมะนาวโรยได้ค่ะ จานนี้เราว่าไก่ย่างค่อนข้างหอมแต่ออกจืดไปหน่อยค่ะ เราเลยแก้ด้วยการราดแกงปลาบนไก่ซะเลย 555

85 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์


 Ajwaini Fish ส่วนจานนี้ก็คล้ายๆกับ Tandoori Chicken แต่เป็นปลาค่ะ รสก็จะออกจืดๆหน่อย

เครื่องดื่มก็เอาแค่น้ำเปล่า ขวดละ 30 บาท กินกันไป 2 ขวด

ส่วนของหวาน มื้อนี้ไม่มีนะคะเพราะอิ่มมากกกกกกกกก ของที่สั่งมาทั้งหมดนี้ยังกินไม่หมดเลยค่ะ ให้พนักงานห่อกลับบ้านให้

ค่าเสียหายวันนี้ทั้งหมด 2,213 บาท รวมค่าอาหาร ค่าบริการและค่าภาษี อีก 17% ด้วยจ้าาาา จ่ายด้วย voucher 2,000 บาท จ่ายด้วยเงินสดอีก 213 บาท ฟินๆค่ะ

95 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์


ค่าบริการนี่ให้ไปคุ้มนะคะพนักงานบริการดีมาก เดินวนเวียนอยู่ใกล้ๆ ไม่ห่างเลย สอบถามได้ พูดคุยได้ แนะนำได้ ดีเลิศประเสริฐศรี

อ้อ หลังจากกินเสร็จแล้ว เขามีบริการน้ำล้างมือมาเสิร์ฟถึงที่เลยนะคะ มีมะนาวเสี้ยวและกลีบดอกกุหลาบโรยสวยๆ

90 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์


ก่อนก็แวะเข้าห้องน้ำและเดินถ่ายรูปภายในร้านเขาด้วยค่ะ นอกจากห้องที่เรานี้ ข้างในใกล้ส่วนของห้องน้ำจะมีอีกห้องที่จัดคล้ายบาร์ อาจจะไว้สำหรับสังสรรค์กันยามเย็นค่ะ
94 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์


ส่วนรูปอาหารอื่นๆ จะตามโพสต์ในแอพ opensnap นะคะ ในรีวิวลงไม่ได้แล้วววว
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)
โพสต์
รายละเอียดคะแนนรีวิว
รสชาติ
การตกแต่ง
บริการ
ความสะอาด
ความคุ้มค่า
วันที่ไปกิน
2015-12-07
เวลารอ
10 นาที (รับประทานที่ร้าน)
ประเภทมื้ออาหาร
มื้อเที่ยง
ระดับ2
10
0
2011-08-12 60 วิว
Fish Tikka เนื้อปลา หมักเครื่องเทศได้หอมมากๆ แต่เค็มชัดเจนอ่ะ จานนี้ 690 บาท Chicken Tikka Masala จานนี้อร่อยสุด แม้จะเค็มเยอะไปหน่อย ราคา 200 บาท Garlic Naan อันนี้หอมกระเทียม ราคา 70 บาท จำชื่อไม่ได้แล้ว แต่แผ่นแป้ง เค็มเด่นเชียว..ให้จิ้มทานกับซอสมะม่วง, ซอสมิ้นท์ และอีกอย่างจำไม่ได้แล้ว กะทะนึงเป็นไก่ อีกกะทะเป็นแกะ.. จำได้แค่เนี้ย จำชื่ออาหารและราคาไม่ได้ แต่ถ่ายใบเสร็จเอาไว้ คริคริคริมื้อนี้ รู้สึกเค็ม เค็ม และเค็ม ส่วนรสชาติอาหารอร่อย แปลกดีค่ะ เครื่องเทศเยอะ แต่ไม่ถึงกับจัดจ้านมากเกินไปอ่อ พนักงานที่นี่ บริการดีมากกกกกกกกกกก เอาใจใส่ ช่างสังเกต และเป็นกันเอง
อ่านรีวิวฉบับเต็ม
94 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
Fish Tikka เนื้อปลา หมักเครื่องเทศได้หอมมากๆ แต่เค็มชัดเจนอ่ะ จานนี้ 690 บาท
85 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
Chicken Tikka Masala จานนี้อร่อยสุด แม้จะเค็มเยอะไปหน่อย ราคา 200 บาท
97 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
Garlic Naan อันนี้หอมกระเทียม ราคา 70 บาท
114 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
จำชื่อไม่ได้แล้ว แต่แผ่นแป้ง เค็มเด่นเชียว..ให้จิ้มทานกับซอสมะม่วง, ซอสมิ้นท์ และอีกอย่างจำไม่ได้แล้ว
104 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
กะทะนึงเป็นไก่ อีกกะทะเป็นแกะ.. จำได้แค่เนี้ย
110 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
จำชื่ออาหารและราคาไม่ได้ แต่ถ่ายใบเสร็จเอาไว้ คริคริคริ

มื้อนี้ รู้สึกเค็ม เค็ม และเค็ม ส่วนรสชาติอาหารอร่อย แปลกดีค่ะ เครื่องเทศเยอะ แต่ไม่ถึงกับจัดจ้านมากเกินไป

อ่อ พนักงานที่นี่ บริการดีมากกกกกกกกกกก เอาใจใส่ ช่างสังเกต และเป็นกันเอง

(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)
โพสต์
รายละเอียดคะแนนรีวิว
รสชาติ
การตกแต่ง
บริการ
ความสะอาด
ความคุ้มค่า
วันที่ไปกิน
2011-06-18
ราคาต่อคน
฿1000 (มื้อเที่ยง)