1
0
0
เดิน 1-นาที จาก สถานี BTS พร้อมพงษ์ ทางออก 2 อ่านต่อ
เบอร์โทร.
02-259-8728
063-373-3673
ข้อมูลร้านอาหาร
ร้านอิปปุโดะ ร้านราเมงชื่อดังต้นกำเนิดจากย่านฮากาตะ ในเมืองฟุกุโอกะ บนเกาะคิวชู จุดเด่นของอาหาร อยู่ที่น้ำซุปกระดูกหมูซึ่งใช้เวลาเคี่ยวนานกว่า 18 ชั่วโมง และเส้นราเมงซึ่งเป็นเส้นที่ทำจากมือ มีความเหนียวนุ่มและบางเป็นพิเศษ อ่านต่อ
เหมาะสำหรับ
ลำลอง
เวลาเปิด-ปิด
วันนี้
10:00 - 22:00
จันทร์ - อาทิตย์
10:00 - 22:00
วิธีจ่ายเงิน
เงินสด อื่นๆ
ข้อมูลอื่นๆ
ที่จอดรถ
มีแอร์
เว็บไซต์ร้านอาหาร
http://www.facebook.com/IppudoThailand/timeline
ข้อมูลข้างต้นใช้เพื่ออ้างอิงเท่านั้น กรุณาตรวจสอบข้อมูลกับร้านอาหารอีกครั้ง
เมนูแนะนำ
ชิโรมารุ โมโตอาจิ อากะมารุ ชินนาจิ คาราคาเมง
รีวิว (1)
Ippudo Ramen ร้านราเมงชื่อดังจากเมือง Hakata ในเกาะ Fukuoka ประเทศญี่ปุ่น ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในประเทศญี่ปุ่นมากว่า 30 ปีแล้ว หลายๆคนน่าจะเคยได้ยินว่าเจ้าของร้านนั้นเป็นถึง Ramen Champion ของ TV Champion Ramen Chef ถึงสามสมัยซ้อนกันเลยทีเดียว จนร้านนี้นั้นได้จัดอยู่ใน Ramen Hall of Fame แล้วเรียบร้อย จุดเด่นของร้านนี้คงหนีไม่พ้นน้ำซุปกระดูกหมูที่นำกระดูกหมูชั้นเยี่ยมมาเคี่ยวในน้ำซุปกว่า 15 ชั่วโมงจนหอมอร่อย พร้อมทั้งวัตถุดิบหลักๆนั้นก็เป็นวัตถุดิบชั้นดี ที่คัดกรองมาแล้วอย่างดีจากเชฟของทางร้าน นอกจากนี้แล้วเส้นราเมงโฮมเมดก็ยังเป็นอีกจุดน่าสนใจที่ทำให้รสชาติราเมงนั้นอร่อยขึ้นมาอีกด้วย จนหลายๆคนที่ได้ลองทานนั้นถึงกับติดใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้มาทานกันเลยทีเดียว ร้านนี้เป็นที่นิยมมากในประเทศญี่ปุ่นครับ ไม่ใช่เพียงแค่เกาะฟุกูโอกะเท่านั้น จนทางร้านต้องขยายสาขาไปเปิดถึงต่างประเทศกันเลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็นอเมริกา ออสเตรเลีย สิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลี และตอนนี้ก็ได้เวลาของบ้านเราสักทีครับ ร้านนี้มาเปิดสาขาแรกอยู่ในไทยที่ห้างสุดหรูอลังการอย่าง Central Embassy ปัจจุบันนี้ร้านนี้ก็มีสาขามาแล้วกว่า 130 สาขาทั่วโลก การันตีความฮิตได้เลย วันนี้ผมมาทานที่สาขาสองของทางร้านที่ห้าง The Emporium ครับร้านนี้นอกจากเมนูราเมงที่เป็นเมนู Signature ของทางร้านแล้ว หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเมนูอื่นๆของทางร้านนั้นก็อร่อยไม่แพ้กันครับ ไม่ว่าจะเป็น pork bun, gyoza หรือ salmon roll วันนี้ได้ลองทานหลายเมนูมาก รวมถึงเมนูใหม่ที่เพิ่งเปิดจำหน่ายในช่วงนี้ถึงสามเมนู ทุกเมนูนั้นอร่อยเด็ดสมคำร่ำลือจริงๆครับ ไม่ว่าจะเป็นเมนูราเมงหรือเมนูอื่นๆ ด้วยสูตรการทำราเมงเฉพาะของทางร้านที่ส่งตรงมาจากญี่ปุ่นแล้วไม่แปลกใจเลยครับที่หลายๆคนที่ได้ลองแล้วถึงติดใจแล้วก็บอกต่อกันมาจนร้านนี้โด่งดังได้ในทุกวันนี้ครับร้านนี้ตั้งอยู่ที่ชั้น 4 ของห้าง The Emporium ครับ ร้านอยู่ใกล้ๆโซนซุ้มขายอาหารเยอะๆ ด้านใน วิธีการเดินทางที่ง่ายที่สุดสามารถนั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานีพร้อมพงษ์แล้วเดินทางเชื่อมเข้ามายังห้างได้เลยครับ เข้ามายังตัวห้างแล้วขึ้นบันไดเลื่อนมาที่ชั้น 4 เดินเข้ามาหน่อยก็จะเจอร้านแล้วครับ หรือถ้าใครสะดวกขับรถมาก็สามารถขับรถมาจอดในห้างได้ด้วยเช่นกันครับ อย่าลืมเอาบัตรจอดรถมาแสตมป์ด้วยนะครับสาขานี้ของทางร้านร้านนี้ค่อนข้างกว้างใหญ่ครับ มีที่นั่งมากมาย ทั้งโต๊ะเล็กและใหญ่ หรือแม้แต่ที่บาร์ด้วยเช่นกันครับ ตัวร้านตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่น เรียบหรูสวยงามใช้โทนสีดำแดง พร้อมกับประดับประดาด้วยแชนเดอเลียร์สวยงาม หน้าร้านมีป้ายไม้สลักชื่อร้านตั้งอยู่ เค้าว่ากันว่าไม้นี้ราคากว่าสามแสนบาทกันเลยทีเดียวครับ ร้านนี้ลูกค้าจะเยอะช่วงเย็นๆ ถ้าคิวยาวมากๆหน้าร้านก็มีที่ให้ลูกค้านั่งรอครับ ในส่วนของการบริการนั้นพนักงานก็ทำได้ดีไม่มีขาดตกบกพร่องครับ ผมหันไปมองพนักงานที่บริการโต๊ะอื่นๆด้วยแล้วก็บริการได้เต็มที่เช่นกัน อาหารของทางร้านมาเสิร์ฟใช้เวลาสักพักนึงครับ วันนี้เชฟคนญี่ปุ่นของทางร้านมาให้ความรู้เรื่องวัตถุดิบและราเมงของทางร้านได้เป็นอย่างดีเลย ขอบคุณมากๆครับร้านนี้เป็นร้านราเมงแน่นอนว่าจุดเด่นก็ต้องเป็นเมนูราเมงแน่นอนครับ ราเมงของทางร้านนั้นแทบจะทำทุกวัตถุดิบขึ้นมาโดยทางร้านเองทั้งหมดเลยครับ ทั้งเส้นราเมงที่ทำสดๆใหม่ๆทุกวันในร้าน น้ำซุปกระดูกหมูที่เคี่ยวมานานกว่า 15 ชั่วโมงก่อนที่จะนำมาเสิร์ฟ รวมถึงหมูชาชูที่ต้องผ่านการหมักข้ามคืนเพื่อให้เข้าถึงเนื้อของหมู และผักต่างๆนั้นก็เป็นผักสดๆใหม่ๆที่นำมาปรุงด้วยเช่นกัน ราเมงของร้านนี้เลยออกมาลงตัว อร่อย และถูกใจคนที่ได้ลิ้มลองจริงๆครับ นอกจากนี้แล้วทางร้านยังมีเมนูอื่นๆให้ลิ้มลองอีกด้วย ราเมงของทางร้านวันนี้มีให้เลือกทานถึงสามแบบด้วยกันครับ โดยที่แต่ละแบบนั้นก็จะแตกต่างกันออกไปในเรื่องของความเผ็ดร้อน วัตถุดิบและเส้นราเมงครับ ร้านนี้พิเศษจริงๆตรงที่เราสามารถเลือกความสุกของเส้นราเมงได้ด้วยตัวเองเลยถึงสี่ระดับด้วยกัน นั้นก็คือ “Soft/ Normal/ Hard/ Very Hard” ซึ่งแบบ Soft นั้นก็จะเหมาะกับคนที่ชอบทานราเมงเส้นนุ่มๆ ส่วนแบบ Hard ก็จะถูกใจคนที่ชอบเส้นกรอบๆเคี้ยวเพลินมากกว่า ส่วนน้ำซุปราเมงของทั้งสามแบบนั้นก็จะแตกต่างกันไปตามระดับรสชาติของความเผ็ดครับKaraka-Men – วันนี้ผมเลือกสั่งเมนูนี้ทานครับ เป็นราเมงแบบเผ็ดที่ใส่ซอสมิโสะแบบเผ็ดพร้อมด้วยหมูสับและเม็ดมะม่วงลงไปด้วย รสชาติของเมนูนี้จะเผ็ดร้อนขึ้นมาหน่อยนึง แต่ก็ไม่ถึงกับเผ็ดมากเท่าไรครับ ทางร้านใช้เส้นหยักในการทำราเมงเมนูนี้เพราะว่าเวลาทานนั้นหมูสับที่ทางร้านใส่มาก็จะติดเส้นขึ้นมาด้วยทำให้ทานได้ไม่ยากเกินไปครับ เมนูนี้ยังเสิร์ฟมาพร้อมกับเมนูหมูชาชูติดมัน โดยรวมแล้วผมค่อนข้างชอบเมนูนี้เลยครับ เผ็ดนิดๆ ชอบอีกอย่างที่น้ำซุปไม่ค่อยมันเท่าไร โดนใจเลยครับวิธีการทานราเมงที่ถูกต้องจริงๆแล้วนั้นมีวิธีการดังต่อไปนี้ครับ1) ชิมน้ำซุปดูก่อนที่จะคนราเมงทั้งหมดให้เข้ากัน2) กินเส้นก่อนเลยครับ สูดเข้าไปทีเดียวแรงๆก็ได้ (แต่ระวังกระเด็นใส่คนข้างๆด้วยนะครับ ฮ่าๆ) เพื่อให้ได้รับรสชาติของราเมงแบบเต็มๆ และเพื่อไม่ทำให้เส้นอืดด้วยครับ3) ซดน้ำซุปต่อหลังจากทานเส้นราเมงเข้าไปครับ4) เมื่อเราทานไปได้สักพัก ทางร้านก็แนะนำให้ผมลองเติมเครื่องเคียงต่างๆลงไปในราเมงดู เครื่องเคียงก็จะมีทั้งกระเทียม ขิงดอง งา พริก คนที่ชอบทานกระเทียมทางร้านก็จะมีที่บดกระเทียมวางไว้ให้ใช้บริการได้ที่โต๊ะเลย เครื่องปรุงพวกนี้ก็จะช่วยเพิ่มรสชาติให้ราเมงนั้นอร่อยยิ่งขึ้นไปอีกครับ5) หลังจากนั้นก็ทานต่อจนหมดครับTeba Pork Gyoza- เมนูนี้เป็นเมนูที่แปลกและเด็ดที่สุดของผมประจำวันนี้เลยครับ เป็นเมนูปีกไก่ที่ทางร้านเลาะกระดูกออกทั้งหมดแล้วเกี๊ยวซ่ามาทำเป็นส่วนเนื้อของไก่ครับ มองเผินๆแวบแรกเมนูนี้นั้นอย่างกับไก่ทอดเลย แต่พอได้ลองทานแล้วมันว้าวมากจริงๆครับ ไส้ของเกี๊ยวซ่านั้นทำโดยทางร้านเองทั้งหมด หมักเอง คิดสูตรเองทุกอย่าง เมนูนี้เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำจิ้มเกี๊ยวซ่าสูตรพิเศษของทางร้านอีกเช่นกัน จุดนี้บรรยายยังไงก็อธิบายความเด็ดของมันไม่ได้นอกจากจะต้องมาลองทานดูเองนะครับSweet Corn Tempura- เมนูนี้เป็นเทมปุระข้าวโพดที่ทอดมาได้กรอบๆแล้วโรยมาด้วยพริกปาปริก้าและออริกาโน่ รสชาตินั้นไม่ค่อยแตกต่างจากการทานข้าวโพดทอดในช่วงกินเจบ้านเราเท่าไร ผมว่าสิ่งที่ช่วยให้มันอร่อยและแตกต่างออกไปก็คงจะเป็นปาปริก้าและออริกาโน่นี่แหละครับCheesebaked Potato Salad with Tobiko- เมนูนี้แปลกแต่เด็ดอีกเช่นกันครับเพราะว่าเป็นครีมชีสสลัดที่เสิร์ฟมาแบบร้อนๆ รสชาติจะแตกต่างจากสลัดทั่วๆไปอยู่พอสมควร เมนูนี้หน้าตาคล้ายๆกับ Gratin ครับ รสชาติก็อร่อยไม่แพ้กันเหมาะสำหรับคนชอบชีส เพราะด้านบนนั้นชีสเยิ้มเลย ส่วนด้านในนั้นทางร้านก็ทำออกมาได้ดีครับ ในตัวของสลัดมีเนื้อปูผสมอยู่ด้วย อร่อยถูกใจเลยMatcha Parfait- วันนี้ผมปิดท้ายมาด้วยเมนูของหวานอลังการหน้าตาดีสุดๆ เป็นไอศครีมชาเขียวมัทฉะที่เสิร์ฟมาด้วยท็อปปิ้งมากมายไม่ว่าจะเป็นคอนเฟลค ฟรุ้ตสลัด เจลลี่ ชิราทามะ วิปครีม ถั่วแดง และเชอรี่ ทั้งหมดนี้ถูกอัดลงมาอยู่ในของหวานถ้วยนี้ครับ เรียกได้ว่าหนักเครื่องกันแบบสุดๆเลยทีเดียว ผมค่อนข้างชอบเมนูนี้อยู่พอสมควรครับ เพราะชอบทานเครื่องเยอะๆแบบนี้ สิ่งที่ชอบที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นไอศครีมชาเขียวที่ออกรสนมเยอะหน่อย รวมถึงชิราทามะที่อร่อยเหนียวหนึบเคี้ยวเพลินเลยครับ ส่วนที่ยังไม่ถูกใจอยู่หน่อยๆก็คงจะเป็นฟรุตสลัดที่รสชาติของมันอาจจะออกเปรี้ยวไปนิดเลยทำให้เมื่อทานคู่กับไอศครีมชาเขียวแล้วรสชาติของไอศครีมมันเลยถูกกลื่นไปเลย นอกจากฟรุตสลัดแล้วอย่างอื่นโอเคเลยครับใครที่เป็นแฟนๆราเมงอยู่แล้ว แล้วอยากรู้ว่าทำไมเจ้าของร้านนี้ถึงมีฝีมือถึงขั้นได้เป็น Ramen Champion แล้วละก็พลาดไม่ได้ที่จะมาลองทานดูนะครับ รับรองว่าไม่ผิดหวัง ติดใจและถูกใจเหมือนผมวันนี้แน่นอนครับ อ่านต่อ
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)