5
1
0
เดิน 6-นาที จาก สถานี BTS สนามกีฬาแห่งชาติ ทางออก 4 อ่านต่อ
เหมาะสำหรับ
ครอบครัว ลำลอง
จัดเลี้ยงเป็นกลุ่ม
ข้อมูลเพิ่มเติม
จากอนุสาวรีย์ตรงมาทางถนนพญาไท ตรงมาจนถึงแยกปทุมวัน จะเห็นสยามสแควร์อยู่ทางด้านซ้ายมือ ตรงไปที่โรงแรมปทุมวันปริ๊นเซส ห้องอาหารคายากึม ตั้งอยู่บริเวณชั้น 2 ในโรงแรมปทุมวันปริ๊นเซส
เวลาเปิด-ปิด
จันทร์ - อาทิตย์
11:30 - 14:30
17:30 - 22:30
วิธีจ่ายเงิน
วีซ่า มาสเตอร์ เงินสด
จำนวนที่นั่ง
90
ข้อมูลอื่นๆ
ที่จอดรถ
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ห้อง VIP
ค่าเปิดขวด
พื้นที่จัดปาร์ตี้ส่วนตัว
สำรองโต๊ะ
ใบกำกับภาษี
เว็บไซต์ร้านอาหาร
http://www.pprincess.com
ข้อมูลข้างต้นใช้เพื่ออ้างอิงเท่านั้น กรุณาตรวจสอบข้อมูลกับร้านอาหารอีกครั้ง
เมนูแนะนำ
Bibimbap Korean Style Bul Gogi ข้าวผัดชาเขียว หมูย่างเกาหลี
รีวิว (6)
สวัสดีค่าต่อไปจะเป็นการรีวิวร้านอาหารบุฟเฟท์เกาหลีนะคะ สำหรับการไปงานนี้ก็เป็นการไปฉลองวันเกิดให้เพื่อนค่ะ ร้านนี้จะเป็นห้องอาหารในโรงแรมปทุมวันปริ๊นเซส อยู่ที่ชั้นสองนะคะ จะอยู่ติดกับห้องอาหารเคียงจูดังภาพค่ะสำหรับวันนั้นเราไปกันราวๆ ยี่สิบคนค่ะ ก็เลยได้ห้องส่วนตัวด้วย ซึ่งทางร้านคิดถูกมาก เพราะเสียงดังมากมาย ฮา ไลน์อาหารก็มีคาวหวานครบอะนะคะ ผลไม้ก็ด้วย ขนมหวานก็มีแบบที่ไม่ค่อยคุ้นตาด้วยค่ะ เป็นขนมหวานสไตล์เกาหลี (เหรอ?)ส่วนรูปสุดท้ายนี่เป็นหนึ่งในเมนูที่หมดไวมากๆ นะคะรูปแรกนี่เป็นอีกหนึ่งเมนูที่หมดไวมากค่ะ ส่วนต่อไปก็เป็นขนมแบบที่เราคุ้นๆ กันบ้างนะคะซึ่งแน่นอนที่จะมีเมนูแบบที่สั่งทำร้อนๆ ด้วยนะคะ อันจะบอกวิธีการสั่งทำต่อไปค่ะ สเตชั่นสำหรับการทำอาหารตามที่สั่ง ก็มีหลายสเตชั่นนะคะ แต่ที่ฮอตที่สุดก็สเตชั่นกุ้งนี่แหละค่ะ ตัวใหญ่โออยู่ กินกุ้งเก่งๆ ก็คุ้มแล้วหละค่ะ ฮาแต่ก็มีบางตัวแอบหลุด ไม่สดมานะคะ เหอๆสำหรับท่านอื่นๆ ที่ไม่ได้มาเยอะกันขนาดเรา ก็จะมีที่นั่งอยู่ด้านนอกห้อง ตามภาพเลยนะคะสำหรับการสั่งกุ้ง อ่านรายละเอียดในคูปองได้เลยนะคะ สั่งได้ทีละสองตัวเท่านั้นนะฮับ แต่จำไม่ได้แล้วว่าวันนั้นโต๊ะเราได้โควต้ากี่คูปองค่ะเตาปิ้งนะคะ ก็หน้าตาเหมือนเตาปิ้งทั่วไปหละค่ะ แต่เซ็ตเรากินแบบที่ต้องมาปิ้งๆ กันไม่เท่าไหร่อ้ะ น้ำอัดลม จำไม่ผิดสั่งมาเป็นเหยือกอะค่ะ แล้วก็สั่งผัดผักได้ด้วยนะคะเอาตัวเมนูยอดนิยมมาฝากค่ะกุ้งตัวหย่ายยย แล้วก็อีกสองเมนูฮิต ซึ่ง..เราไม่ถูกปากเท่าไหร่อะนะคะเอาที่หม่ำๆ อันอื่นมาให้ดูอีกค่ะวันนั้นหมดไปคนละ 499 บาท ยี่สิบคนก็เกือบหมื่นอะค่ะ หย่อนไปยี่สิบบาท แฮ่...สรุปสำหรับที่นี่นะคะ โดยราคานี้ เราคิดว่า ความหลากหลายคือจุดเด่นค่ะ แต่โดยรวมแล้วยังไม่มีอะไรที่โดนสำหรับเราอะนะคะ ราคานี้เรากินอย่างอื่นดีกว่า แหะๆ อ่านต่อ
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)
ระดับ4 2012-01-26
55 วิว
KAYAGEUM Korean Buffet, BBQ, Hot Pot, Teppanyaki บุฟเฟ่ต์สไตล์เกาหลีที่มีทั้งต้มและปิ้งย่างที่โรงแรมปทุมวันปริ๊นเซส มีพี่ใจดีหาดีลพิเศษมาให้อีกแล้ว ลดราคา 50% แบบนี้ก็ขอไปลองซักหน่อยได้ยินชื่อเสียงมานานแล้ว ภายในร้านนั่งสบายเน้นโทนสีแดง มีห้องเป็นสัดส่วนหากมาเป็นหมู่คณะ ราคาบุฟเฟ่ต์ปกติประมาณ 700++ ครั้งนี้ลด 50% แต่ค่าน้ำไม่รวมนะคะต้องจ่ายเพิ่มต่างหากเลยสั่งชาร้อน และแต่งโมปั่น เริ่มจากเคาน์เตอร์ด้านหน้ามีผักและเนื้อสัตว์ให้เลือกคีบใส่จานเพื่อส่งให้พนักงานผัดน้ำมันหอย มีซุป 2 หม้อ เป็นซุปกิมจิ กับซุปสาหร่าย เขยิบไปมีไก่ผัดพริก และซี่โครงหมูอบให้ตัก เขยิบไปด้านในอีกมีเคาน์เตอร์แนวยาวที่มีเครื่องเคียงพวกถั่วงอก กระเทียมดอง กิมจิ มีหมูหมัก ไก่หมัก เนื้อหมัก อันนี้ให้เราตักไปปิ้งหรือต้มเอง ส่วนกุ้งสด หอยแมลงภู่ตัวโต หอยเชลล์ ปูม้า และ ปลาหมึก อันนี้ให้คีบใส่จานส่งให้พนักงานปิ้งให้แล้วจะมาเสิร์ฟที่โต๊ะค่ะ เขยิบเข้าไปอีกนิดเป็นยำสาหร่าย หน้าตาเหมือนป่อเปี๊ยะ และพวกสลัด อีกด้านเป็นแถวน้ำจิ้มมีให้เลือก 4 แบบค่ะ แน่นอนแบบซีฟู้ดถูกใจที่สุดอร่อยแต่เพิ่มเปรี้ยวอีกนิดก็ดี แล้วก็ผักสดๆให้เลือกไปปิ้งหรือต้ม เขยิบขึ้นไปอีกสเต็ปเป็นของหวานค่ะ มีผลไม้สด ไอศกรีม ขนมต้มเกาหลี (รสชาติเหมือนกินแป้งจืดๆอ่ะ) ขนมเค้ก น้ำอบเชยร้อน น้ำพุทราเย็น(อันนี้ชอบค่ะสดชื่นดีหวานไม่มาก) และน้ำแข็งใสถั่วแดงเย็น สรุปว่าได้ราคานี้มาคุ้มค่ะเพราะกุ้งแม่น้ำเค้าตัวค่อนข้างใหญ่และสดมากกินเพลินไปเลย ถ้าคนชอบกินกุ้งไปกินให้สะใจเลยค่ะ หอยแมลงภู่ก็สดตัวโต แต่ปูม้าไม่สดเท่าไหร่นะคะ จริงๆ ไม่ต้องสั่งน้ำเพิ่มก็ได้เพราะมีน้ำอบเชยร้อนให้กด หรือจะตักน้ำพุทราเย็นมาซดก็โอเคเลยค่ะ ดูบรรยากาศเพิ่มเติมได้ที่นี่ ->>http://www.nanareview.com/content-KoreanBuffet@KAYAGEUM-4-2156-35072-1.html อ่านต่อ
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)
Kayageum เป็นร้านบุเฟฟ่ต์อาหารเกาหลีระดับพรีเมี่ยมในโรงแรม Pathumwan Princess ซึ่งด้วยราคาแล้วก็ต้องบอกว่า ค่อนข้างสูง คือราคาปกติ 850 บาท ทานได้ 1 ชั่วโมงครึ่ง แต่ถ้าใครสนใจไปทานแนะนำให้หา voucher หรือโปรโมชั่นที่จะมีมาเรื่อยๆ ก่อนนะครับ จะได้ประหยัดกันหน่อย วันธรรมดาจะมีเฉพาะตอนเย็น เปิด 17.30 น. ไปถึงร้านประมาณ 17.45 น. อาหารทุกอย่างเตรียมไว้เบ็ดเสร็จหมด พนักงานในชุดเกาหลีจะพาไปนั่งที่โต๊ะ และตั้งเตาให้เรา 2 เตา คือเตาปิ้ง และหม้อต้ม สามารถเลือกทานได้ตามใจชอบ จะบาร์บีคิวดี หรือชาบูดี นอกจากนี้ยังพาเราไปแนะนำอาหารตามจุดต่างๆ อาหารที่นี้เรียกได้ว่าเยอะมากๆ ทุกจานพูนสวย อัดแน่นเนื้อๆ แถมมีเติมตลอดไม่ต้องแย่งกันให้ปวดหัว เริ่มจากด้านนี้ในส่วนของอาหารทะเลมีทั้งกุ้ง หอยแมงภู่ ปู ปลา ซึ่งส่วนนี้เราต้องเอาใส่จานแล้วเอาไปให้พ่อครัวผัดแบบ Teppanyaki มาให้ เมื่อผัดเสร็จแล้ว เค้าจะยกมาเสริฟที่โต๊ะเอง อีกส่วนเป็นเนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ หอยเชลล์ เกี๊ยว ปลาหมึก อันนี้เราสามารถตักกลับไปต้มทำชาบูชาบูตามใจชอบได้เลยถัดมาจะเป็นส่วนปิ้งย่าง มีเนื้อหลากชนิดที่หมักเรียบร้อยแล้วรอให้เรานำไปปิ้งได้ทันใจ มีเนื้อวัว หมู ไก่ ส่วนอีกด้านเป็นกิมจิที่มีหลายแบบมากๆ แต่ละอย่างก็หน้าตาน่าทานไปหมด น่าจะถูกใจคนชอบกิมจิเป็นอย่างดีอีกด้านเป็นผักสด หลายชนิดมากๆ รวมถึงเห็ดอีกหลายแบบ ทั้งเห็ดเข็มทอง เห็ดหูหนู เห็ดฟาง เอาไปทำชาบูๆ ต้มให้ได้น้ำผักหวานๆ ก็เข้าทีดีไม่น้อย ส่วนของด้านหลังก็ยังมีอาหารเกาหลีแบบทานเล่นง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นยำสาหร่าย หรือข้าวปั้น เป็นต้นมาดูอีกด้าน เป็นอาหารปรุงสำหรับบ้าง ด้านนี้จะมีให้ตักข้าวกระเทียมด้วย แต่ไม่มีข้าวขาวธรรมดานะ แต่ข้าวกระเทียมก็ถือว่าหอมอร่อยใช้ได้เลย ถัดมาเป็นสตูว์เนื้อตุ๋นหม้อนี้คนชอบทานเนื้อห้ามพลาด เป็นจานที่อร่อยมากๆ เลย เนื้อวัวชิ้นใหญ่ๆ เน้น ตุ๋นแบบสุกพอดี นิ่มๆ เหนียวๆ เคี้ยวเพลิน ตุ๋นพร้อมแครอท และมัน เข้ากันเป็นอย่างดี ด้วยรสเค็ม มัน และหวานหอม ทานกับข้าวร้อนๆ สุดยอดข้างๆ กัน เป็นหมูสามชั้นผัดพริกเกาหลีเป็นอีกจานที่สอบผ่านฉลุย (แม้ผมจะชอบเนื้อมากกว่า) จานนี้จะได้ลิ้มรสเนื้อหมูติดมันหอมๆ ผัดพริกเผาคล้ายๆ ของไทยเลย แต่ของเกาหลีเค้าจะมีกลิ่นเครื่องเทศแปลกๆ ที่ไม่เหมือนกัน ส่วนรสชาตินั้นจัดจ้านกำลังดี ไม่เผ็ดมาก ทานเล่นหรือทานกับข้าวได้ทั้งนั้น จริงๆ ใกล้กันยังมีซี่โครงหมูย่างอีก แต่ไม่ได้ถ่ายมา ถือว่าเป็นจานที่อร่อยเช่นกันกับเนื้อหมูติดกระดูก ย่างเกรียมกรอบ แทะสนุกเลยเชียวแวะไปดูของหวานให้ครบก่อนแล้วกัน ของหวานจะมีขนมเค้กแบบธรรมดา รวมถึงขนมเกาหลี ที่มาในรูปร่างแปลกๆ รสชาตินั้นแล้วแต่ความชอบดีกว่า แต่แนะนำให้ลองครับ แปลกจริงได้เวลาทานแล้ว เริ่มที่ชาบูก่อน ผมเฉยๆ กับชาบูนะ เพราะรู้สึกว่าไม่มีอะไรพิเศษกับเนื้อที่ต้มเท่าไร แต่ถ้าเป็นย่างหล่ะก็ ขอบอกว่าชอบมาก ทั้งหมู เนื้อ ไก่ ทุกอย่างหมักมาได้อย่างดี แล้วชิ้นแต่ละชิ้นนี่ ใหญ่มากๆ ทำเอาล้นกะทะ ชอบตกไปเรื่อยเลย เนื้อวัวหมักซอสแบบเกาหลี ย่างสุกพอดี ได้ความนุ่ม ความเค็ม เวลากัดก็เหมือนมีมันเยิ้มๆ ออกมาพร้อมกับซอส ทานพร้อมข้าวสุดยอด ส่วนหมูเองไม่น้อยหน้า ความนุ่ม ความเข้มข้นของซอส เข้าที่เลยทีเดียว ด้านไก่เองก็ไม่แพ้กัน แต่ผมไม่ค่อยทาน ไปหนักเนื้อดีกว่าต่อมาอาหารทะเล ที่ให้ไปผัด Teppan มา อันนี้ สอบตก ทุกอย่างมาดีๆ กราฟตกเลย อย่างแรกคือเรื่องความสด ไม่สดเลยซักอย่าง ปูก็เนื้อร่วนๆ กุ้งนี้แบบเนื้อมาเละเลย ไม่อยู่ตัวไม่เหนียวเลย หอยดีหน่อย แต่โดยรวม เสียใจ T_T ส่วนน้ำจิ้มมีให้เลือก 4 อย่าง มีน้ำจิ้มซีฟู้ด ซอสพริกเกาหลี น้ำจิ้มบาบีคิว และเต้าเจี้ยว ผมชอบซอสพริกเกาหลีนะ ทานกับเนื้อย่างได้รสเผ็ดอ่อน เสริมรสที่ขาดไปได้อย่างดีเลยแหละ จบสุดท้าย อิ่มแปร้ แฮปปี้กับเนื้อจริงๆ ครับ เนื้อทุกแบบ อร่อยมาก บรรยากาศ ก็ไม่ดี ไม่แย่ อยูาในโรงแรมร้านอาหารบุฟเฟ่ต์เกาหลี บรรยากาศไม่จำเป็นเท่าไหร่หรอก แต่คนเยอะใช้ได้เลยนะ อาหาร มีให้เลือกหลากหลาย คุณภาพดี แถมยังมีวิธีทำถึง 3 แบบ แล้วแต่คนชอบ เนื้อวัวอร่อยๆ มาก ทุกรูปแบบ แต่อาหารทะเลไม่ไหวๆ การบริการ ดีมาก เพราะอยู่ในโรงแรม พนักงานเอาใจใส่ บริการเร็ว ช่วยเหลือตลอด ความสะอาด ร้านสะอาดดี อาหารก็ดูสะอาดดี ราคา ผมว่าราคามันสูงไปนิดนึง นิดเดียวเอง น่าจะซัก 500 บาท แต่ถ้าคนกินจุก็คุ้มนะ เพราะเนื้อคุณภาพดี จริงๆ อ่านต่อ
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)
พาดหัวขนาดนี้แน่นอนว่าร้าน Kayageum อยู่ใน Phathumwan Princess Hotel ใจกลางแหล่งช้อปปิ้งกลางกรุงติดกับมาบุญครอง เรื่องการเดินทางคงไม่ต้องแนะนำมาก เอาเป็นว่าใครมาบุญครองถูก ก็รับรองมาที่ร้านนี้ถูกแน่นอนซึ่งตั้งอยู่บนชั้นสองของโรงแรม ถ้าพูดถึงร้านบุฟเฟต์ ปิ้ง ย่าง เกาหลี หลายๆ ท่านคงพอจะนึกกันออกถึงรูปร่างหน้าตา อาหารที่จัดให้ แต่ความแตกต่างของ Kayageum คงเป็นเรื่องวัตถุดิบที่โดดเด่น เริ่มด้วยเนื้อสัตว์ประเภทต่างๆ ซึ่งสด สะอาด ซีฟู้ดกุ้งตัวโต ๆ ปูม้า และหอยที่เนื้อเกือบเท่าฝา และที่โดดเด่นคงเป็นเรื่องเนื้อสัตว์หมักประเภทต่างๆ หลายๆ ท่านที่เคยทานบุฟเฟต์เกาหลีที่อื่นคงจะคุ้นกับภาพเนื้อสัตว์หมักเครื่องเทศเกาหลีที่ออกเป็นสีแดงจนแทบแยกไม่ออกว่าเป็นเนื้อประเภทไหน แต่สำหรับที่นี้แล้วคุณจะไม่เห็นภาพนั้น แต่จะเห็นได้ชัดเจนถึงความสดของเนื้อว่าเป็น ไก่ หมู เนื้อวัว โดยไม่ต้องพึ่งป้ายบอก เมื่อได้เนื้อตามแต่ละประเภทตามต้องการแล้ว ก็สามารถนำมาย่างกระทะ หรือหม้อต้มได้ เพราะที่นี่มีให้คุณทั้งสอบประเภทโดยไม่ต้องตัดสินใจเลือก (สามารถดูภาพได้จากรีวิวของเพื่อน ๆ ก่อนหน้านี้) ส่วนซีฟู้ดนั้นหากต้องการแบบ grill ก็นำไปให้เชฟจัดการให้ได้เมื่อเสร็จแล้วจะนำมาเสริฟถึงโต๊ะคุณ หลายๆ คนคงอยากจะเห็นภาพก็คงต้องบอกว่าขอโทษอย่างแรงครับ เพราะเมื่ออาหารมาถึงโต๊ะแทนที่ผมจะหยิบโทรศัพท์มากดภาพ กลายเป็นหยิบตะเกียบ และใช้มือบรรเลงกับซีฟู้ดที่ย่างมาอยู่ด้านหน้าแทน จนนิ้งทั้งสิบไม่สามารถสัมผัสโทรศัพท์ได้ครับ ที่ชอบสุด ๆ คงเป็นเรื่องน้ำจิ้ม ที่นี่มีน้ำจิ้ม 4 ประเภท คือ น้ำจิ้มเต้าเจี้ยว น้ำจิ้มซอสเกาหลี น้ำจิ้มบาร์บีคิว และน้ำจิ้มซีฟู้ด ซึ่งอย่างหลังนี่แหละที่ผมชอบที่สุด ถูกใจลิ้นไทยอย่างผมเพราะบุฟเฟต์เกาหลีที่อื่นไม่คอ่ยมีน้ำจิ้มซีฟู้ดแบบนี้ เสร็จจากอาหารหลักแล้ว ของหวานก็มีซึ่งเป็นขนมหวานเกาหลี แต่ที่แนะนำคงเป็นน้ำพุทรามากกว่า เพราะว่าหอม หวานไม่มาก และดับกระหายได้ดีครับ ด้านบริการคงไม่ต้องพูดถึงว่าดีขนาดไหนสำหรับร้านอาหารในโรงแรมที่พนักงานใส่ชุดสไตล์เกาหลี และคอยให้ความช่วยเหลือตลอดเวลาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส มี service mind ดีมากครับ ราคา กับ รสชาติ คงเป็นเรื่องที่ผมขอเอามาเปรียบเทียบกันเฉพาะภายในร้านเท่านั้น เพราะถ้าเทียบราคากับร้านบุฟเฟต์เกาหลีทั่วไปซึ่งราคาประมาณ 500 บาทนั้น แต่ที่นี้ 850 บาทสำหรับเสาร์ อาทิตย์ ไม่รวมค่าเครื่องดื่ม แต่ไม่จำกัดเวลาคุณอาจคิดว่าแพง แต่เมื่อคุณดูวัตถุดิบที่ทางร้านนำมาใช้ และความหลากหลายของออเดิฟ เช่น กุ้งห่อแก้ว ป่อเปืยะ สลัดสาหร่าย สลัดปลาหมึก รวมถึงของหวานสไตล์เกาหลี หวานเย็น และผลไม้ ผมว่าราคาสมเหตุสมผล และที่สำคัญถ้าคุณเป็นคนที่สามารถทานได้ในปริมาณที่ยิ่งมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งคุ้มกับราคามากขึ้นเท่านั้นครับ ตอนผมไปประมาณ 6 โมงเย็นเป็นโต๊ะแรก (อะไรจะหิวขนาดนั้น) เรื่องบรรยากาศเรียกว่าสะอาดและไม่แออัด (หรือเพราะคนอื่นๆ ยังไม่มากัน) ที่ชัดเจนหลังจากทานเสร็จคือ ผมไม่คอแห้งและหิวน้ำเลยครับ แน่นอนว่าคุณภาพของความอร่อยอยู่ที่วัตถุดิบล้วนๆ ไม่ใช้สารปรุงแต่งชูรสแต่อย่างใด เลยมีแค่ความแน่นท้องกลับบ้านเทานั้น ใครที่จะไปผมแนะนำว่าอย่าเพิ่งเดินช้อปปิ้งเพลินแล้วค่อยไปทาน แต่ผมว่าเปลี่ยนเป็นไปทานแล้วค่อยเดินช้อปปิ้งดีกว่า เพราะจะช่วยคุณย่อยอาหารเวลาเดินช้อปปิ้งด้วย ไม่งั้นจะแน่นท้องนอนทรมานเหมือนผมในตอนกลางคืน แล้วเจอกันใหม่ครับ อ่านต่อ
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)
ระดับ4 2011-10-02
32 วิว
ร้านจะอยู่ในโรงแรมปทุมวันปริ๊นเซสนะคะ เดินเข้ามาแล้วขึ้นบันไดเลื่อน ขึ้นไปก็จะเจอเลยคะ ร้าตกแต่งสไตล์เกาหลี มีขนาดไม่ใหญ่มากคะ ถ้าไปช่วงเย็นๆหลังเลิกงานอาจจะต้องโทรจองโต๊ะไว้ก่อนนะคะ เพราะต้องรอคิวคะ พนักงานต้อนรับบริการดีมากคะ แต่งชุดเกาหลีด้วย ดื่มด่ำบรรยากาศเหมือนอยู่เกาหลีเลยคะ อิอิ บุฟเฟ่ต์ที่นี่ราคาค่อนข้าสูงอยู่เหมือนกันคะ แต่ว่าของก็คุณภาพอีกเหมือนกันคะ ราคาหัวละ 850 บาท สำหรับมื้อเย็นและเสาร์อาิทตย์ ถ้าเป็นมื้อกลางวันจะราคา 650 บาทคะแต่ทางร้านจะมีโปรโมชั่นร่วมกับบัตรเครดิตอยู่เรื่อยๆคะ จะเป็นโปร มา 2 คน แถม 1 คนคะ หรือ มา 1 คน แถม 1 คน ลองโทรเช็คโปรโมชั่นกับทางร้านดูก่อนก็ได้คะว่าเดือนนี้เค้าร่วมกับบัตรเครดิตธนาคารอะไรที่นี่จะมีทั้งแบบปิ้งย่างและแบบชาบูคะ บุฟเฟต์ที่นี่เป็นแบบบริการตัวเองนะคะ เดินไปตักอาหารมาปิ้งย่างเองที่โต๊ะอาหารสำหรับปิ้งย่างก็จะมีทั้งหมูและเนื้อ ของทะเล เช่นกุ้ง หอยแมงภู่นิวซีแลนด์ ปู ปลาหมึก เป็นต้นคะมีน้ำจิ้มซีฟู้ดไว้ให้บริการด้วยนะคะเห็ดเข็มทองผัดเนย เราสามารถไปสั่งที่เคาเตอร์ได้คะ จะมีเชฟคอยให้บริการอยู่คะ อ่านต่อ
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)