12
1
0
เดิน 5-นาที จาก สถานี BTS เพลินจิต ทางออก 4
อ่านต่อ
เบอร์โทร.
02-656-7700
ข้อมูลร้านอาหาร
Man Ho ห้องอาหารจีนมานโฮ เป็นห้องอาหารที่อยู่ภายในโรงแรม JW Marriott Hotel ซอยสุขุมวิท 2 ตรงเพลินจิตพลาซ่า เมนูอาหารของที่นี่จะเป็นแนวจีนกวางตุ้ง อีกทั้งยังมีติ่มซำอีกด้วย บรรยากาศภายในร้านเน้นความหรูหราสไตล์จีนๆ หากมาทานเป็นกรุ๊ป ทางร้านมีห้อง VIP ไว้คอยให้บริการ
อ่านต่อ
เหมาะสำหรับ
ธุรกิจ
ครอบครัว ลำลอง
จัดเลี้ยง ปาร์ตี้
โอกาสพิเศษ
เวลาเปิด-ปิด
วันนี้
11:30 - 14:30
17:30 - 22:00
จันทร์ - อาทิตย์
11:30 - 14:30
17:30 - 22:00
ข้อมูลข้างต้นใช้เพื่ออ้างอิงเท่านั้น กรุณาตรวจสอบข้อมูลกับร้านอาหารอีกครั้ง
บทความเกี่ยวกับร้านนี้
ขนมไหว้พระจันทร์จากร้าน แมนโฮ คือ 1 ใน 8 รีวิวขนมไหว้พระจันทร์ที่โด้ทำขึ้นเพื่อเป็นตัวช่วยในการเลือกซื้อขนมไหว้พระจันทร์ในปีนี้ครับ.รายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.reviewnowz.com/review-8-hotel-mooncakes-2017/รายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.reviewnowz.com/review-8-hotel-mooncakes-2017/
อ่านต่อ
สำหรับวันนี้ก็จะพาไปทานอาหารจีนในโรงแรมกันบ้างนะคะ โดยเป็นการไปจากเมสเสจเชิญชวนยูสเซอร์ระดับ Elite ของเว็บๆ หนึ่งค่ะ ซึ่งพอลงทะเบียนแล้ว ก็จะรอเวลาสักหลายๆ วัน ก็จะมีตอบกลับมาว่าเราได้ไปกันหรือไม่ค่ะ (เพราะให้ไปกันแค่ 10 ท่านนะคะ)ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้จะเป็นที่ห้องอาหาร Man Ho โรงแรม JW Marriott Bangkok ซึ่งอยู่ที่สุขุมวิทนั่นเองหละค่าาาวันนั้นเราเอารถไปนะคะ วันนั้นวิ่งลงทางด่วนที่คลองตันค่ะ จากนั้นก็ไปเลี้ยวเข้าซอยนานา แล้วก็ทะลุชนสุขุมวิทให้ชิดซ้ายสุดค่ะ เพราะจากแยกนานานิดเดียวก็เจอรร.แล้วค่ะ ให้เข้าซอยข้างๆ รร.เลยนะคะ (เลยป้ายรร.ไปนิดหนึ่งค่ะ) แล้วก็วิ่งเลยทางเข้าล็อบบี้รร.ไป จากนั้นก็ไปจอดรถที่อาคารด้านหลังรร.ค่ะ เราจอดชั้น 2A แต่ปรากฏว่าเข้าไม่ได้แหละ (มารู้ทีหลังว่าต้องขึ้นไปชั้นสามค่ะ แหะๆ) เลยเดินลงมาที่ชั้น 1 แล้วก็เข้าทางล็อบบี้ค่ะ จากนั้นก็ขึ้นบันไดเลื่อนไปที่ห้องอาหารที่อยู่ที่ชั้นสองอีกทีนะคะแผนที่ของโรงแรมนี้ค่าด้านหน้าห้องอาหารฮ้าบบบ ส่วนอีกรูปเป็นเชฟชาวมาเลเซีย คุณ Teng Karn Seng ค่ะเนื่องจากเราไปเร็วกว่าเวลานัด ก็เลยนั่งคุยกันบริเวณที่นั่งรอค่ะทางโรงแรมก็มีเครื่องดื่มกับของว่างมาให้กินพลางๆ ก่อนนะคะ (สำหรับกรุ๊ปพิเศษนะคะ ปกติไม่ได้มีให้ค่ะ จะมีก็เป็นน้ำชาหรือเก็กฮวยร้อน/เย็น เท่านั้นค่ะ)เครื่องดื่มเป็น Royal Lynchee ค่ะ รสเฝื่อนของชาเด่นไปนิดหนึ่งค่ะ เปรี้ยวหวานหน่อยๆ และหอมลิ้นจี่ดี เป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่นะคะส่วนของว่างจะมีพายหมูแดง เปลือกด้านบนหวานนิดๆ แป้งร่วนไม่มากกำลังดีค่ะ เทกซเจอร์ดีเลย ส่วนอีกตัวเป็นปอเปี๊ยะกุ้ยช่าย ทอดมาได้กรอบมาก จะมีกลิ่นกุ้ยช่ายตามมาในช่วงท้ายๆ ของคำค่ะสำหรับที่นั่ง นอกจากที่นั่งรวมๆ แล้วก็มีที่นั่งแบบห้องส่วนตัวด้วยค่ะ มีทั้งหมด 7 ห้อง เป็นห้องผนังทึบ (แต่บางห้องก็มีพาติชั่นกระจกคั่นเพื่อแบ่งให้ด้วย ตามภาพนะคะ) แล้วก็เป็นห้องกระจกใสๆ เห็นวิวข้างนอกอีก 2 ห้องค่ะ (ซึ่งวันนี้ทางเราก็ได้นั่งด้วย 1 ห้องค่ะ) ตัวนี้ห้องส่วนตัวเสียค่าห้องเพิ่ม 500 บาทนะคะ ทั้งหมดนี้ก็มีที่นั่งรวมทั้งสิ้น 150 ที่นั่งค่ะset up บนโต๊ะค่ะ ตัวจานแดงๆ นี่จะอยู่ตลอดนะคะ แต่จานบนจานแดงจะมีเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามอาหารแต่ละเมนูที่เสิร์ฟ จนพอก่อนจะเสิร์ฟของหวานถึงจะเอาจานแดงออกไปค่ะเมนูที่เสิร์ฟวันนี้ พร้อมกับการบอกเคล็ดลับการปรุงในแต่ละจานจากเชฟค่ะสำหรับเครื่องดื่มนะคะ จะมีชาร้อน/เย็น เก็กฮวยร้อน/เย็นค่ะ โดยเป็นราคา 100++ ต่อท่านและเป็นรีฟิลล์ตลอดนะคะ ซึ่งสามารถสลับได้ด้วยค่ะ จากชาจะเปลี่ยนเป็นเก็กฮวย จากร้อนจะเปลี่ยนเป็นเย็นได้หมดค่ะชาโอเคค่ะ เก็กฮวยไม่หวานดีค่ะ (ตัวร้อนนะคะ ไม่ได้ชิมตัวเย็น) หอมอ่อนๆ นะคะทิชชู่ยังมีโลโก้รร.เลยอ้ะ ชอบเมนูแรกเป็นหนึ่งในสามของ appetizer ค่ะ กุ้งแม่น้ำกับสลัดแตงกวาญี่ปุ่นดองซอสเอ็กซ์โอค่ะเมนูนี้เป็นแอพพิไทเซอร์สไตล์ชานตงนะคะ นิยมกินกันในฤดูร้อนค่ะ ซึ่งเชฟมาให้ข้อมูลเพิ่มว่า ตัวแตงกวานี่ทำการดองจนความกรอบได้ที่นะคะซึ่งพอได้กินแตงกวาก็กรุบกรอบดีมาก ให้ความสดชื่นเหมาะที่จะเป็นของว่างในฤดูร้อนค่ะ แล้วก็มีรสของกุ้งแห้งปนมาด้วยนะคะ ไม่ได้มีแต่กุ้งแม่น้ำ ถ้าในบรรดาสามตัว ควรกินตัวนี้เป็นตัวแรกค่ะ เพราะรสชาติจะอ่อนที่สุดต่อไปกับอีกหนึ่งแอพพิไทเซอร์ค่ะ เป๋าฮื้อไต้หวันกับเต้าซี่เหลากานหม่าจานนี้จะเป็นสไตล์เสฉวนนะคะ รสชาติดีมาก เป๋าฮื้อสดและเด้งนุ่มดีแท้ค่ะ เทกซเจอร์เป็นมิตรกับลิ้นเรามาก นุ่มหนึบ ตัวรสชาติซอสจะเผ็ดไม่มากค่ะ หอมแฝงมาแบบอ่อนๆ นะคะ จานนี้คนชอบหลายคนเลยแอพพิไทเซอร์ตัวสุดท้ายของทั้งสามตัวค่ะ ปลาเงินกับเต้าหู้โฮมเมดซอสพริกกระเทียมนะคะเมนูนี้ถ้าจำไม่ผิด เชฟบอกว่าเป็นสไตล์ Cantonese ค่ะ เป็นปลาเงินจาก Zhejiang นะคะ ตัวนี้รสจัดจ้านสุดในสามตัวค่ะ เผ็ดไม่มาก กำลังดีกำลังกินค่ะ รสชาติดีและอร่อยค่ะ เราชอบมากซุปวันนั้นเชฟทำเป็นซุปหอยสังข์ไก่ดำตุ๋นยาจีนราคา 450 บาทค่ะ เสิร์ฟให้คนละถ้วยนะคะอันดับแรกพอเปิดฝามานี่ กริ่นระรวยมากกกกก เอาฝามาพิสูจน์กลิ่น กลิ่นก็ยังตลบอยู่เลยค่ะ ซึ่งซุปตัวนี้จะต้องตุ๋นทั้งหมด 8 ชั่วโมงนะคะซึ่งทั้งหมดนี้ก็ประกอบด้วย ไก่ดำ แฮม เก๋ากี้ และหอยสังข์ค่ะ วัตถุดิบดีงามทุกตัวเลย รสชาติซุปจะหวานชุ่มคอค่ะ โดยจะต้องดื่มสักพัก แล้วความหวานจะปรากฏที่คอนะคะ หอยสังข์หนึบดีมาก เคี้ยวมันฟันดีค่ะ ชอบหอยเชลล์ออสเตรเลียนึ่งซอสเอ็กซ์โอ 280 บาทค่ะ เมนูนี้ให้มาคนละจานตามภาพเลยนะคะเมนูนี้หอยเชลล์โอเคอยู่ค่ะ จะมีหอยเชลล์แห้งซึ่งจะค่อนข้างเค็มโดดนิดหน่อย ตัวซอสเค็มแต่ไม่มากนะคะ แต่ถ้าใครไม่ชอบเค็มเลยอาจจะรู้สึกว่าเค็มมาก แต่เราโอเคอยู่ค่ะ มีรสเผ็ดแฝงหน่อยๆ ด้วยแฮะระหว่างรออาหารจานต่อไป เราก็สอบถามกับพนักงานของที่นี่ค่ะ เพราะก่อนหน้านี้อ่านรีวิวของที่นี่ มีคนพูดถึงบุฟเฟต์ติ่มซำด้วย ซึ่งก็ปรากฏว่ายังมีอยู่นะคะ โดยจะเป็นมื้อกลางวันค่ะ วันธรรมดาราคา 790 บาทเน็ต แต่ถ้าเป็นเสาร์อาทิตย์จะราคา 1150 บาทเน็ตค่ะ แต่วันเสาร์และอาทิตย์ที่ราคาสูงกว่าก็จะมีเมนูให้เลือกเยอะกว่าด้วยนะคะ (จากภาพ เมนูสีทองคือเสาร์อาทิตย์ค่ะ อีกอันจะเป็นของวันธรรมดานะคะ)ที่เราอ่านคร่าวๆ เช่น ถ้าหมวดก๋วยเตี๋ยวหลอด เสาร์อาทิตย์ก็จะมีก๋วยเตี๋ยวหลอดหอยเชลล์ให้เลือกเพิ่มขึ้นมาค่ะ หรืออย่างพวกนึ่ง เสาร์อาทิตย์ก็จะมีฮะเก๋ากุ้งและหอยเชลล์เพิ่มขึ้นมาเป็นต้นค่ะกลับมาที่มื้อนั้นของเราต่อค่ะ เมนูต่อไปเป็นไก่อบงานะคะเมนูนี้ถ้าเป็นไก่ครึ่งตัว ราคาจะอยู่ที่ 420 บาทค่ะ งาจัดเต็มมากกกกกกกกกกสำหรับเมนูนี้เชฟบอกว่า จะต้องใช้เวลา 2 วันในการเตรียมค่ะ เป็นเมนูซิกเนเจอร์และได้รับความนิยมสำหรับคนที่มารับประทานที่ห้องอาหารนี้เป็นอย่างมากเลย ซึ่งเป็นอาหารสไตล์ cantonese นะคะนอกจากนั้นเชฟยังได้เล่าเรื่องความแตกต่างระหว่างไก่ไทยกับไก่จีนด้วยค่ะ เชฟบอกว่า ไก่ไทยชั้นไขมันสีเหลืองๆ จะน้อยกว่าไก่จีน ซึ่งก็จะเหมาะกับอาหารบางจาน แต่ไก่จีนก็จะเหมาะกับอาหารบางจานค่ะ ซึ่งวัตถุดิบในการทำอาหาร เชฟก็จะเลือกว่าอันไหนเหมาะกับเมนูไหนก็จะใช้วัตถุดิบจากแหล่งนั้นๆ ค่ะ (สมกับการเป็นคนทำอาหารจริงๆ) แต่อย่างพวกเครื่องปรุง ก็จะนำเข้าทั้งหมดหละนะคะ ซึ่งก็มีทั้งจากฮ่องกง ไต้หวัน ฯลฯ ค่ะสำหรับผลของการกินนะคะ หอมงามากถึงมากที่สุดค่ะ งาจัดเต็มแบบว่า..บรรยายไม่ถูก ซึ่งเราลองกินทั้งแบบบีบเลมอนและไม่บีบนะคะ ได้ความอร่อยที่ต่างไปค่ะ พอบีบเลมอนแล้วจะได้รสเปรี้ยว (แน่สิยะ) แฝงมาเพิ่มพร้อมกลิ่นหอมอ่อนๆ ของเลมอนด้วยค่ะ แฮร่...ต่อไปเป็นเมนูซี่โครงหมูทอด "จิงเจียง" ราคา 350 ต่อจานค่ะเมืองจิงเจียงหรือ Zheng Jiang จะอยู่ไม่ไกลจากเซี่ยงไฮ้นะคะ ซึ่งจะมีชื่อเสียงกับเมนูนี้หละค่ะ โดยซอสตัวนี้จะค่อนข้างเปรี้ยวแต่ขณะเดียวกันก็ให้ความหอมด้วยนะคะสำหรับผลของการกินนะคะ รสเข้มมากกกกกกกก และควรกินตอนร้อนค่ะ เพราะพอเย็นแล้ว รสจะยิ่งเข้มไปใหญ่ และซอสจะหนืดขึ้นอีกหน่อย แต่เป็นหลายจานที่หลายคนชอบค่ะ เปรี้ยวจริง แต่ก็มีหวานแฝงด้วยนะคะส่วนของหมู ก็ลองเลือกกันค่ะ มีบางชิ้นที่เป็นกระดูกอ่อนด้วย ซึ่งถ้าใครฟันดีๆ ก็เคี้ยวกร้วมๆ (อย่างเรา ฮา) กันไปจนเป็นที่ตกใจของเพื่อนร่วมโต๊ะค่ะ แต่มันฟันดีแท้ค่ะ (ต้องการเพิ่มคอลลาเจนง่ะ โปรดจงเข้าใจ แฮร่...)ต่อไปเป็นเมนูที่เราชอบและปลาบปลื้มกับฝีมือการทำอาหารของเชฟมากกกกกกกค่ะ เมนูนี้เสิร์ฟรายคนเช่นกันค่ะ เต้าหู้โฮมเมดเห็ดชิเมจิเป๋าฮื้อ ราคา 350 ต่อจานนะคะตัวนี้พนักงานมีมาเล่าให้ฟังด้วยค่ะว่า เป็นเต้าหู้ที่เชฟจะทำเอง และเป็นสิ่งที่เชฟจะทำอย่างเป็นความลับ ไม่มีใครรู้ว่าแกทำยังไงของแก (ฮา) แต่ในเอกสารก็บอกว่า ใช้ถั่วเหลืองบริสุทธิ์และไข่ไก่ นึ่งอย่างใส่ใจจนกระทั่งมีความนุ่มนวลและได้รสเต็มๆ ของถั่วเหลืองค่ะ (กรุณาดูภาพประกอบ ส่วนสีเขียวๆ ด้านบนเป็นโปยเล้งสับละเอียดนะคะ)ผลของการกินนะคะ ไม่รู้จะบรรยายเทกซเจอร์ของเต้าหู้ของเชฟยังไง แนะนำว่า พอเอาเข้าปาก อย่าเพิ่งบด อย่าเพิ่งเคี้ยว แต่ให้ใช้ลิ้นแทรกเข้าไปในเนื้อเต้าหู้ค่ะ...มันช่าง นุ่มนวล เต้าหู้จะค่อยๆ โอบรัดลิ้นเราอย่างอ่อนโยนมาก เทกซเจอร์ดีงามในสามโลกมากค่ะ ละมุนสุดๆ รสจะค่อนข้างเบาๆ ค่ะ มีรสหวานแฝงหน่อยๆ แต่เป็นความหวานจากวัตถุดิบ ไม่ได้เกิดจากการใส่น้ำตาลหรือเครื่องปรุงรสนะคะ เป็นอีกจานที่แสดงฝีมือเชฟได้ดีมาก เราชอบจานนี้มากค่ะต่อไปค่ะ กับเมนูคาวปิดท้ายเสมอของโต๊ะจีน (ฮา) ข้าวผัดค่ะข้าวผัดกุนเชียงฮ่องกงกับเผือก ราคาโถละ 480 บาทค่ะเมนูนี้จะเสิร์ฟมาในโถดินเผาตามภาพ เพื่อเก็บความร้อนและกลิ่นของข้าวผัดนะคะ ตอนเปิดฝามานี่ ฮือฮาเรื่องกลิ่นกันทั้งโต๊ะค่ะ ซึ่งเป็นเมนูที่นิยมสำหรับมื้อเย็นของชาวกวางตุ้งหละนะคะตัวข้าวอย่างที่เห็นว่าจะผัดมาค่อนข้างแห้งและแข็งนิดๆ นะคะ (แต่สุกค่ะ) มีกลิ่นหอมของกระทะอย่างชัดเจน และรสชาติทั่วถึงสม่ำเสมอดีค่ะ กุนเชียงนี่จะมีทั้งกุนเชียงหมูและตับค่ะ ซึ่งกุนเชียงอร่อยมากๆ อ้ะ ตัวเผือกก็ดีค่ะ เป็นวัตถุดิบที่ช่วยส่งรสชาติได้ดีค่ะระหว่างรอของหวาน เราก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำค่ะ ก็เลยเพิ่งเห็นว่า อุ๊ย มีขนมไหว้พระจันทร์ด้วยหละ แพ็คเก็จดูดีเวอร์วังสมกับเป็น JW Marriott มากๆ อ้ะ สนใจเลยค่ะ อยากกินๆๆแล้วก็นอกจากนั้นนะคะ ที่นี่ยังมีป้ายจองให้ตามภาพด้วยนะคะ จากการสอบถาม ได้ความว่า ทำไว้สำหรับลูกค้าที่เป็นแขกประจำๆ ของที่นี่น่ะค่ะ ไม่ใช่ว่าเป็นคนมีชื่อเสียงนะคะ แต่ถ้ามาประจำ ทางห้องอาหารก็จะทำป้ายจองไว้ให้แบบนี้เลยค่ะ (มีบอกว่า บางคนนี่มาทุกสัปดาห์อะค่ะ สุดยอดมาก)และกับของหวานปิดท้ายมื้อค่ะสาลี่ไวน์แดงเห็ดหิมะกับดอกหอมหมื่นลี้ ราคา 250 บาทค่ะ (เสิร์ฟรายคนอีกเช่นเดียวกันนะคะตัวนี้มีการใช้ข้าวแดง (หรือข้าวกล้องน่ะแหละกระมัง เชฟใช้คำว่าเรดไรซ์ค่ะ) จีน และดอกกุยฮัว (ที่ภาษาไทยแปลมาว่าหอมหมื่นลี้ - สีเหลืองๆ ที่เห็นบนสาลี่น่ะนะคะ) ซึ่งสาลี่นี่มากันทั้งลูกตามภาพเลยค่ะ เชฟบอกว่าเป็น Shanghai Cuisine นะคะโดยรวม เราไม่ค่อยคุ้นกับของหวานสไตล์นี้ค่ะ กลิ่นไวน์และอื่นๆ หอมชัด สาลี่สดชื่นดี เม็ดบัวอร่อยมาก แต่โดยรวมเนื่องจากไม่ใช่ไทพ์ที่เราชอบน่ะนะคะ เราเลยไม่ค่อยโปรดเมนูนี้เท่าไหร่ แหะๆสรุปสำหรับที่นี่นะคะเชฟท่านนี้เก่งเรื่องการคัดสรรวัตถุดิบและดึงรสชาติที่ดีของวัตถุดิบแต่ละตัวออกมาค่ะ เมนูที่เราชอบมากคือ แอพพิไทเซอร์ทั้งสองตัว (ชอบปลาเงินกับเต้าหู้โฮมเมดพริกกระเทียมมากกว่าตัวเป๋าฮื้อหนึ่งคะแนนนะคะ) ซุปหอยสังข์ไก่ดำตุ๋นยาจีนก็ชอบรสชาติของซุปมาก (ราคาสูงไปหน่อย แหะๆ) ส่วนจานหลักชอบที่สุดคือ เต้าหู้โฮมเมดเห็ดชิเมจิเป๋าฮื้อค่ะ อร่อยถูกใจมาก เป็นเทกซเจอร์ของเต้าหู้ที่พิเศษสำหรับเรามากจริงๆ ค่ะคิดว่าถ้ามีโอกาส จะขอไปลองติ่มซำหละ เพราะได้ข่าวมาว่าเด็ดเช่นกันค่ะ
อ่านต่อ
ห้องอาหารแมนโฮ เป็นห้องอาหารจีน ตั้งอยู่ชั้น 2 ของโรงแรม เจดับบลิวแมริออท กรุงเทพฯ นะครับสามารถเดินทางมาด้วย รถไฟฟ้าBTS สถานีเพลินจิตหรือถ้าเป็น รถไฟใต้ดิน MRT สถานีใกล้สุด เป็น สถานีสุขุมวิทสำหรับมื้อนี้ผมมาทานเป็น "บุฟเฟ่ต์ตี่มซำ All-You-Can-Eat" ซึ่งมีบริการช่วง เวลา 11.00-14.00น. ของทุกวันจุดเด่นของ บุฟเฟ่ต์ตี่มซำ ที่นี่คือมีเมนูให้เลือกหลากหลายและใช้วัตถุดิบที่นี่มาประกอบอาหารทำให้รสชาติแต่ละเมนู มีความหวาน และกลมกล่อมเป็นอย่างมาก อย่างเมนู ฮะเก๋ากุ้ง นี่ไม่ควรพลาดกุ้งคำโต สอดใส่มาในแป้งนุ่มหอมขนมจีบซิวหม่าย ก็เป็นเมนูที่อยากชวนไปลื้มลองเป็นขนมจีบที่ทานได้เต็มปาก เต็มคำมากกรรเชียงปูซอสไข่กุ้ง รสชาติกลมกล่อมละมุนสุด ๆและไฮไลท์อีกอย่างคือ ก๋วยเตี๋ยวหลอดใส่รวมใส้หอยเชลล์นี่มาเป็นก้อนโต เลยคุณถ้าหากเทียบกับราคาและคุณภาพของอาหาร ผมว่าคุ้มค่าไม่ต้องต่อคิว รอช้า การบริการนี่ระดับโรงแรม 5 ดาวอยู่แล้วต้องไปลองกับตัวเอง แล้วจะรู้ว่าฟินแค่ไหนครับ
อ่านต่อ
โรงแรมนี้อยู่ใกล้ออฟฟิตมากๆ แต่ไม่เคยมีโอกาสได้มาสักที และแล้วก็ได้รางวัล Eat for Dad เราเลยได้ลองติ่มซำสมใจแล้วค่ะ ขอบคุณทาง OpenSnap ตรงนี้ด้วยค่า ^_^สำหรับการเดินทาง ถ้าใครมาบีทีเอส ลงสถานีเพลินจิต ลงฝั่งมหาทุนพลาซ่า เดินมาทางโรงแรมโนโวเทล เดินตรงๆมา ข้ามทางรถไฟมาจะเห็นตึกเพลินจิตเซ็นเตอร์ ด้านขวามือ แล้วก็จะเจอโรงแรม JW Marriot อยู่ติดกับตึกเพลินจิตเซ็นเตอร์ค่ะ ส่วนใครมีรถสามารถมาจอดในโรงแรม ซึ่งทางร้านจะประทับตราจอดรถให้จ้าห้องอาหาร Manho อยู่ชั้น 2 ค่ะ ตกแต่งออกแนวจีนๆ สำหรับการสั่งก็สามารถเรียกพนักงานมาจดออเดอร์ที่เราสั่งได้เลยค่ะที่นี่จะมีทั้งบุฟเฟห์ ราคาท่านละ 1,150 บาทรวมเครื่องดื่ม หรือจะสั่งแบบ A La Carte ก็มีค่ะสำหรับเมนูจะแบ่งเป็นประเภท ซึ่งบางประเภทจะเลือกได้เพียง 1 เมนูต่อ 1 ท่านค่ะ แต่บางเมนูก็สั่งได้เรื่อยๆค่ะ1. Manho Signatures เป็นเมนูเด่นของที่นี่ค่ะ- ฮะเก๋ากุ้ง, ขนมจีบซิวหม่าย, เนื้อปลาเก๋าอบวุ้นเส้น, กุ้งปิรามิด, พายหมูแดง, ต่านทาร์ต, ก๋วยเตี๋ยวหลอดกุ้ง, หอยเชลล์ และหมูแดง2. Steamed เป็นแนวนึ่งมาร้อนๆ- ฮะเก๋ากุ้งและหอยเชลล์, สาหร่ายห่อกุ้ง, เกี๊ยวราดซอสพริกเสฉวน, ขาไก่นึ่งเต้าซี่, ซี่โครงหมูนึ่งเต้าซี่, กรรเชียงปูซอสไข่กุ้ง, ลูกชิ้นปลาแซลมอนซอสพริกไทย, ลูกชิ้นกุ้งนึ่งมะนาว, ข้าวเหนียวห่อใบบัว, ซาซิวเปาหมูแดง, ซาลาเปาไส้ครีม, มะเขือยาวลูกชิ้นเสฉวน, เยื่อไผ่ห่อกุ้งสด และ หอยหน่อไม้ราดซอสพริกไทยดำ3. Deep Fried เมนูทอดๆ- ฟองเต้าหู้ทอด, ขนมผักกาด, เกี๊ยวปลาแซลมอนทอด และ ไก่จ๊อ4. Seasonal Dim Sum เมนูตามฤดูกาล- ขนมจีบหอยไข่มุก, ก๋วยเตี๋ยวหลอดไส้ผักรวม, ไข่มังกรทอด และ กุยช่ายทอด5. Soup (เลือกได้เพียงท่านละ 1 เมนู)- ซุปไก่ดำ, ซุปกระเพาะปลาสดและกังป๋วยยอดผัก, ซุปกระเพาะปลาเส้นน้ำแดง, ซุปข้าวโพดเนื้อปู, ซุปเต้าหู้ซีฟู้ด และ ซุปหอยสังข์ กังป๋วยยอดผัก6. Specialties เมนูพิเศษ- เกี๊ยวน้ำกุ้งทรงเครื่อง และ เผือกทอดยัดไส้หอยเชลล์ซอสวาซาบิ7. Barbecue (เลือกได้เพียงท่านละ 1 เมนู)- เป็ดย่างฮ่องกง, หมูแดงอบน้ำผึ้ง และ กุ้งทอดครีมสลัด8. Rice & Noodles ข้าวและก๋วยเตี๋ยว- ข้าวผัดหยางโจว, บะหมี่ผัดฮกเกี้ยน, ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าปลาเต้าซี่ และ โจ๊กเนื้อปลาเก๋า9. Dessert (เลือกได้เพียงท่านละ 1 เมนู)- พุดดิ้งมะม่วง, โอวหนี่แป๊ะก๊วย, แปะก๊วยร้อน, บัวลอยน้ำขิง, ไอศกรีมเลิศรส และ สาคูแคนตาลูปเครื่องดื่ม มี ชาจีน เก๊กฮวย เลือกได้เป็นแบบร้อนหรือเย็นค่ะเขียนซะยาวเลย อิอิ มาเล่าถึงรสชาติที่ได้ทานกันต่อดีกว่าจ้า- กรรเชียงปูซอสไข่กุ้ง อร่อยๆค่ะ เนื้อนุ่มๆหอมๆปู มีซอสไข่กุ้งเพิ่มความมันๆอีก ตักน้ำซุปสีส้มๆราดบนกรรเชียงปูก่อนทาน อร่อยติดใจค่ะ- ฮะเก๋ากุ้งและหอยเชลล์ สีเขียวสวยงาม รสชาติทั่วไปค่ะ ควรรีบทาน เพราะถ้าเริ่มเย็น แป้งจะเริ่มเหนียวไปนิดนึง- ขนมจีบหอยไข่มุก ขนมจีบอร่อยค่ะ แป้งบางไม่เหนียว ส่วนหอยไข่มุกไม่ค่อยรู้รสเท่าไหร่- สาหร่ายห่อกุ้ง เนื้อไม่แข็งค่ะ มีไข่กุ้งโรยหน้าเพิ่มรสชาติ ทำให้ชิ้นนี้ดูไม่จืดไปค่ะ- เยื่อไผ่ห่อกุ้งสด เยื่อไผ่ชุ่มๆน้ำซุปทานคู่กับกุ้งเนื้อเด้งๆหนุบๆกรอบๆ ก็อร่อยดีค่ะ- เนื้อปลาเก๋าอบวุ้นเส้น หน้าตาสวยดี เป็นวุ้นเส้นม้วนด้านในเป็นเนื้อปลา รสชาติจะออกหวานๆซีอิ๊วหน่อย วุ้นเส้นเนื้อไม่เละดีค่ะ ปลาก็เนื้อนุ่มไม่คาวด้วย แต่เมนูนี้จะหวานๆหน่อย- เป็ดย่างฮ่องกง เนื้อเป็ดไม่เหนียวดีค่ะ หนังบาง มันไม่เยอะ อร่อยดีค่ะ- หมูแดงอบน้ำผึ้ง หอมๆน้ำผึ้งดี หมูไม่เหนียว รสชาติใช้ได้ค่ะ- เผือกทอดยัดไส้หอยเชลล์ซอสวาซาบิ อร่อยค่ะ แป้งด้านนอกฟูกรอบ ด้านในเผือกมาเป็นชิ้นๆ มีซอสวาซาบิเพิ่มรสชาติเผ็ดเบาๆ คนไม่ทานวาซาบิก็พอทานได้ค่ะ เพราะไม่ฉุนขึ้นจมูกมาก แต่ช่วยทำให้เมนูนี้มีรสให้โดดเด่นจากเผือกทอดทั่วไป คนชอบทานเผือกเราขอเบิ้ลชิ้นต่อไปเลยจ้า- กุ้งปิรามิด อร่อยๆ ชอบค่ะ เนื้อด้านนอกแป้งหนุบๆมีความกรอบด้วย ด้านในกุ้งเนื้อเด้งๆมาแบบจัดเต็ม ทานคู่กับน้ำจิ้มหรือเปล่าๆก็ชอบ บอกเลยว่า คีบเข้าปากเคี้ยว มือคีบชิ้นต่อไปรอเลยจ้า- พายหมูแดง แป้งบาง ไส้หมูแดงนุ่มๆหอมๆ ออกหวานๆหน่อย ก็อร่อยดีค่ะ- ฟองเต้าหู้ทอด ทอดมาได้บางกรอบไม่เหนียวดี จิ้มน้ำจิ้มหน่อย อร่อยค่ะ- เกี๊ยวปลาแซลมอนทอด ทอดมาได้กรอบไม่แข็งดีค่ะ แต่ปลาแซลมอนไม่ได้รู้รสอะไรเท่าไหร่ ทานคู่น้ำจิ้มก็โอเคขึ้นค่ะ- กุ้งทอดครีมสลัด ผักสดกรุบกรอบดี เนื้อเด้งกรุบกรอบอร่อยค่ะ น้ำสลัดพอใช้ได้ มีถั่วพีแคนมันๆเพิ่มรสชาติได้ดีค่ะ อยากได้เยอะกว่านี้เลยอ่ะ- ซุปกระเพาะปลาเส้นน้ำแดง เครื่องมาจัดเต็ม น้ำซุปรสพอดี ใส่จิ๊กโฉ่วเพิ่มก็อร่อยดีค่ะ มีเนื้อปูด้วย ชอบๆ ทานหมดถ้วยอิ่มเลยค่ะ- ซุปข้าวโพดเนื้อปู ออกแนวน้ำซุปข้นๆเลย ข้าวโพดมาอย่างเยอะค่ะ- ซุปไก่ดำ ดูสุขภาพดีเลยค่ะ- ซุปกระเพาะปลาสดและกังป๋วยยอดผัก มาแนวซุปใส ทานคล่องคอดีค่ะ- ก๋วยเตี๋ยวหลอดกุ้ง แป้งบาง กุ้งมาแบบทั้งตัว ได้ทั้งความนุ่มความเด้งๆกรุบกรอบด้วย อร่อยค่ะ- ก๋วยเตี๋ยวหลอดหอยเชลล์ แป้งบางนุ่มๆเช่นกัน จานนี้จะออกนุ่มๆละมุนทั้งคำค่ะ- ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าปลาเต้าซี่ เส้นก๋วยเตี๋ยวเป็นเส้นใหญ่นุ่มๆดี น้ำจะออกเหนียวๆหวานๆหน่อย ปลาเนื้อนุ่มๆก็ทานง่ายดีค่ะ- พุดดิ้งมะม่วง ชอบมากๆ จนต้องสั่งเบิ้ลค่ะ เนื้อพุดดิ้งนุ่มๆ หอมๆนมที่ราดมา ด้านในมีเนื้อมะม่วงเพิ่มความหวานหอม ทานแล้วปลื้มปลิ่มค่ะ- สาคูแคนตาลูป รสชาติทั่วไปค่ะ จะออกจืดๆมันๆไปหน่อย ถ้าเพิ่มความหวานหอมกว่านี้อีกนิดคงดีค่ะ- โอวหนี่แป๊ะก๊วย มาอุ่นๆอร่อยค่ะ ข้าวเหนียวนุ่มๆ เผือกก็นุ่มๆหวานๆ มีแปะก๊วยด้วย โดยรวมชอบค่ะ- น้ำเก๊กฮวยเย็น จะออกหวานๆหน่อย แต่พอน้ำแข็งเริ่มละลายก็ทานสบายดีค่ะมื้อนี้ทานหมดอิ่มมากๆค่ะ การบริการก็ดีมาก มีมาเปลี่ยนจานให้ใหม่ด้วย เครื่องดื่มหมดก็รีบเทเติม ประทับใจการบริการค่ะร้านนี้จะเปิดเป็นช่วงเวลา 2 ช่วงค่ะ คือ 11.30 - 14.30 น. และเปิดอีกทีเวลา 18.00 - 22.30 น. ซึ่งสามารถโทรมาสำรองที่นั่งก่อนได้ค่ะใครสนใจทานติ่มซำแนวพรีเมี่ยม เดินทางสะดวก ก็เป็นร้านที่น่ามาลองค่ะ
อ่านต่อ
ติมซำอร่อย,สุดยอดติมซำ,กรุงเทพ,ติมซำเด็ด,Dimsum, BangkokMan Ho Chinese Restaurant JW Marriott Hotel Bangkok4 Sukhumvit Road, Soi 2 Bangkok 10110 Thailand โทร. 02-6567700 บุฟเฟ่ติ่มซำ จันทร์-ศุกร์ บุฟเฟ่มื้ออาหารกลางวัน 790 บาท/ท่าน เสาร์-อาทิตย์ บุฟเฟ่มื้ออาหารกลางวัน 1,150 บาท/ท่าน *เต็มอิ่มกับติ่มซำได้ทุกวันระหว่าง11.00-14.00น.==============================วันนี้ขอพาไปชิม ติมซำ ที่ห้องอาหารจีนที่ผมปลื้มและไปบ่อย มากๆ เนื่องจากติดใจใน กรรเชียงปู และ ซาลาเปาไส้ครีมของที่นี่นอกจากนี้ A La Carte ที่เคยชิมแล้วชอบคือ เป็ดปักกิ่งและ กุ้งทอดซอสครีมสลัดManho คือห้องอาหารจีนของโรงแรม JW Marriott Hotel Bangkokตั้งอยู่ชั้นสองของโรงแรมเลยครับ การเดินทางผมเน้นสะดวก จึงนั่ง BTS ลงสถานีเพลินจิต จากนั้นเดินต่อไปโรงแรมอีก 5 นาที สะดวกดีครับติมซำของที่นี่มี สองราคา คือ จันทร์-ศุกร์ บุฟเฟ่มื้ออาหารกลางวัน 790 บาท/ท่าน เสาร์-อาทิตย์ บุฟเฟ่มื้ออาหารกลางวัน 1,150 บาท/ท่านต่างกันที่จำนวนเมนูที่สั่งครับวันนี้ผมเลือกรีวิว เมนูของ เสาร์-อาทิตย์ บุฟเฟ่มื้ออาหารกลางวัน 1,150 บาท/ท่านตามมาดูรายการกันเลยดีกว่า1.หมูแดง barbecued red pork2.Steamed shrimp dumplings with pearl abalone ขนมจีบหอยไข่มุก , Streamed sticky rice, Chinese sausage, chicken and black mushroom wrapped with lotus leaf ข้าวเหนียวห่อใบบัว , “Char Siu Pao” barbecued red pork bun ซาซิวเปาหมูแดง3.Chinese sausage, chicken and black mushroom wrapped with lotus leafข้าวเหนียวห่อใบบัว) 4.Steamed salt egg bun ซาลาเปาไข่เค็ม (เมนูนี้ไม่รวมในรายการบุฟเฟ่ครับ)“Char Siu Pao” barbecued red pork bun ซาซิวเปาหมูแดง5.Steamed salt egg bun ซาลาเปาไข่เค็ม (เมนูนี้ไม่รวมในรายการบุฟเฟ่ครับ)THB 170++ na6. Crispy scallop dumplings wrapped with Mashed taro topped with wasabi dressing เผือกทอดยัดไส้หอยเชลล์ซอสวาซาบิ Deep fried green chives with vetgetable กุ๋ยช่ายทอด Baked barbecued red pork puff พายหมูแดง Deep fried radish cake with assorted meats ขนมผักกาดทอด7.Braised marinated garoupa wrapped with glass noodlesเนื้อปลาเก๋าอบวุ้นเส้นSteamed crab legs with shrimp tobiko caviar sauce กรรเชียงปูซอยไข่กุ้ง“Har Gau” streamed shrimp dumplings ฮะเก๋ากุ้ง8.Steamed sea asparagus dumpling with black pepper sauceหอยหน่อไม้ราดซอสพริกไทดำ9.ขนมจีบกุ้งหอยเชลล์Steamed shrimp and pork wontons in Szechwan sauceเกี๊ยวราดซอสพริกเสฉวน10.น้ำเก๊กฮวย
อ่านต่อ
คุณอาจสนใจ