วิดีโอ
เวลาเปิด-ปิด
จันทร์ - อาทิตย์
11:00 - 22:00
ข้อมูลข้างต้นใช้เพื่ออ้างอิงเท่านั้น กรุณาตรวจสอบข้อมูลกับร้านอาหารอีกครั้ง
เมนูแนะนำ
อาหารที่นี่สด คุ้มเกินราคา ตอนนี้มีจัดบุฟเฟ่ต์แซลมอนด้วย แต่เสริฟเป็น A La Carte 👍👍มี่ทั้งชูชิ ปลาดิบและครัวร้อน. ‼️แนะนำ** หัวปลาแซลมอนต้มซีอิ้ว. มันจะเผ็ดปลายย (ชอบสุดๆ ตั้งแต่ไปกินมาหลายร้าน)‼️ชูชิ กับ ปลาดิบที่นี่สดดี ราคาก็ไม่แพง😁😁
อ่านต่อ
มาทานอาหารญี่ปุ่นใน community mall ที่ชื่อว่า The Crystal SB ราชพฤกษ์ กันค่ะ ซื้อดีลจากเอนโซโก้ของร้านนี้มาค่ะ แต่ดันซื้อดีลที่ระบุให้ใช้วันจันทร์-ศุกร์ พี่สาวลางานวันจันทร์ไปทำธุระเรื่องลูก เลยชวนนางไปหม่ำๆ เลยค่ะ<<การเดินทาง>>การเดินทางมา The Crystal SB ราชพฤกษ์ นะคะ เราเดินทางมาจากบ้านแถวๆ รามอินทรานะคะ ก็ออกมาตามเส้นรามอินทรา ข้ามสะพานข้ามหลักสี่เข้าเส้นแจ้งวัฒนะ ขับตรงไปเรื่อยๆ เลยค่ะ จนกระทั่งข้ามสะพานพระราม 4 จากนั้นให้ชิดซ้ายเพื่อเข้าไปถนนราชพฤกษ์ ขับตรงไปเรื่อยๆ เพื่อไปกลับรถใต้สะพานตรงคลองมหาสวัสดิ์ จากนั้นก็ขับมาอีกแป๊บนึง เจอ Homeworks สาขาราชพฤกษ์ ก็ชิดซ้ายเพื่อเลี้ยวเข้า The Crystal SB ราชพฤกษ์ได้เลยค่ะสำหรับตัวร้านนะคะ ตั้งอยู่บนชั้นสาม โซนตึกด้านในติดแอร์ไปกันวันจันทร์ช่วงเที่ยง ไม่มีลูกค้าเลยค่ะ แอบกังวลแทน ด้วยคู่แข่งร้านอาหารญี่ปุ่นที่นี่หลายร้านมากๆ ค่ะ<<บรรยากาศ & บริการ>>ร้านบรรยากาศดีนะคะ ร้านไม่ใหญ่มาก แต่ก็ไม่ชวนให้อึดอัด มีสัญลักษณ์จิ้งจองขาวอยู่หน้าร้านโดดเด่นเลยค่ะน้องๆ พนักงานบริการดีค่ะ ให้คำแนะนำอาหารได้ดี และก็ยิ้มแย้มกันทุกคน<<อาหาร>>เคยอ่านรีวิวเจอมาว่าร้านนี้มีโรลแฟนซี ก็ตั้งใจมาลองโรลนะคะ■■ crunchy roll ■■3.5/5คือ shrimp tempura roll นั่นเองนะคะ โรยมาด้วยเศษแป้งทอด ไข่กุ้ง และซอสเผ็ดตอนแรกเห็นจาน ตกใจมาก จานบะเร่ง แต่จริงๆ ตัวโรลไม่ได้ใหญ่มาก เจ้าเศษแป้งทอดอะ ที่ทำให้ดูใหญ่ 555ตัวโรลรสชาติอร่อยมาตรฐานค่ะ ไม่โดดเด่น แต่ตัว spicy mayo อร่อยมากๆ หวานนำ เปรี้ยว เค็ม เผ็ด ตาม รวมๆ เป็นซอสที่อร่อย และทำให้โรลมีรสชาติดีเลยค่ะแต่ ..... เฮ้ออออ ... ตัวเศษแป้งที่โรย น่าจะเป็นของเก่า เพราะออกเย็นและเหนียว น่าเสียดายมากๆ ค่ะ■■ spider roll ■■2.5/5โรลนี้ไม่มีอะไรโดดเด่นและน่าจดจำเลยนะคะ ที่สำคัญตัวปูนิ่มก็ไม่ได้ทอดมาใหม่ๆ รวมๆ แล้วไม่ค่อยอร่อยค่ะ■■ ocean roll ■■5/5โรลนี้ อลังตั้งกะการนำเสนอ คือจัดวางมาในชามไม้ขนาดใหญ่แล้วมี dry ice พ่นควันมาด้วย แต่แค่สวยยังไม่พอค่ะ รสชาติก็ดีเริ่ดด้วยโรลนี้ข้างในมีปูอัด แตงกวา อโวคาโด ตัวโรลชุบเกล็ดขนมปัง (?) แล้วก็ทอดค่ะ และข้างบนก็จะเป็น hotate + ebiko และ spicy mayo กินทุกอย่างด้วยกันจะรู้สึกกรอบนอกนิดๆ เผ็ดจากท้อปปิ้งด้านบน นิ่มข้าว ปูอัด และอโวคาโดด้านใน อร่อยมาก เข้ากันมาก ลงตัวสุดๆ■■ สลัดปลาเงิน ■■4.5/5อร่อยมากๆ ค่ะ มาในชามไม้ใหญ่มาก เยอะมาก ผักไม่สดเท่าไหร่ แต่ก็ยังถือว่าโอเค ปลาเงินทอดมากรอบๆ ร้อนนิดๆ ราดด้วยน้ำสลัดยูสุ เปรี้ยวนำ อร่อยสุดๆ ค่ะ■■ hotate ยำแบบไทย ■■5/5โฮตาเตะ ตัวใหญ่ๆ ผ่าครึ่ง วางมาบนไชเท้าหั่นฝอย ราดมาด้วยน้ำยำแบบไทยที่รสจัดมากๆ แต่ไม่เผ็ดจนเกินไปนะคะ จานนี้อร่อยมากๆ ค่ะ■■ เซ็ตซาลม่อนซาชิมิ ■■5/5มาเป็นเซ็ต มีซาลม่อน 4 แบบค่ะ คือซาชิมิ ชิ้นหนาอวบ 3 ชิ้นซาลม่อนซูชิ 1 ชิ้นซูชิซาลม่อนลนไฟ 1 ชิ้นซาลม่อนพันอิคุระ 1 ชิ้นปลาสดมากๆ หั่นมาแบบชิ้นหนาอวบ สำหรับชิ้นลนไฟ ก็จะมีซอสหวานทามาด้วย สดมาก อร่อยมาก ทุกชิ้นเลยค่ะ<<บทสรุป>>โดยรวมชอบมากๆ นะคะร้านนนี้ แต่จุดด้อยคงเป็นโรลที่ต้องใช้ของทอด ที่อาจจะใช้วัตถุดิบเก่า ราคาจริงๆ แล้วเมื่อเทียบกับคุณภาพ และปริมาณของอาหารที่ได้ก็ถือว่าสมราคาค่ะ
อ่านต่อ
แม่ได้วอยเชอร์จากร้าน Okami Sushi มา 1,000 บาท แรกๆ ก็ลังเลอยู่ว่าจะไปดีไม่ดีเพราะที่ร้านนี้มีอยูสาขาเดียวตั้งอยู่ที่ The Crystal SB บนถนนราชพฤกษ์ ซึ่งค่อนข้างไกลจากบ้านเรามากกกกกก และเราเองก็ไม่มีรถส่วนตัวไม่ชอบนั่งแท็กซี่เลยตัดสินใจว่าจะไม่ไป แต่แล้วพอดีพาแม่ไปหาหมอที่โรงพยาบาลพญาไท 3 อยู่แถวเพชรเกษม จากเพชรเกษมไปราชพฤกษ์ไม่ค่อยไกลเท่าไหร่ เลยเปลี่ยนใจลองไปกินดูดีกว่า แต่วิธีการไปของเรานี่ไม่โอเคเลยค่ะ พยายามจะหารถเมล์นั่งไปซึ่งมีอยู่แค่สายเดียวที่ผ่านหน้า The Crystal SB คือ 751 แล้วทั้งสายมีรถเมล์อยู่แค่สามคัน แม่เจ้า!!!! คงได้นั่งล่ะนะ เลยนั่งแท็กซี่ไปแทน เข้าไปจอดหน้าห้างพอดีเลย ขั้นแรกเดินไปห้องน้ำก่อน ที่นี่ห้องน้ำสะอาดดีนะคะ มีแม่บ้านดูแลอยู่ตลอด แล้วเราก็ไปเดินตามหาร้าน Okami Sushi ของเราต่อ จะถามก็ไม่รู้จะถามใครดี เลยเดินไปเรื่อยๆ เห็นป้ายโฆษณาของร้านนี้เลยวิ่งเข้าใส่ค่ะ เพื่อดูว่าร้านเขาอยู่ชั้นไหนน้าาา สรุปร้านนี้จะอยู่ที่ชั้นสาม หน้าบันไดเลื่อนทางขึ้น ขึ้นไปปุ๊บก็เจอร้านอยู่ทางขวามือเลยค่ะ ร้านดูค่อนข้างกว้างขวางแต่เข้าไปแล้วร้านจะมีโต๊ะอยู่ราวๆสิบกว่าโต๊ะค่ะ ใกล้ๆ ประตูทางเข้าจะมีเคาน์เตอร์ทำอาหารให้ดู และรอบๆ ก็เป็นโต๊ะให้สำหรับลูกค้าดูการทำด้วยนะคะ พอดีวันนั้นเราไป มีเราสองคนแม่ลูกเป็นลูกค้าโต๊ะเดียว ตอนแรกจะเข้าไปเห็นมีคนนั่งอยู่โต๊ะนึง นึกว่าลูกค้าที่ไหนได้มารู้ตอนหลังว่าเป็นเจ้าของร้านคร่าาาา แต่ลืมสอบถามรายละเอียดของร้าน พลาดอย่างแรง!! อุตส่าห์ได้เจอทั้งที 😢 พอได้เป็นลูกค้าโต๊ะเดียวเลยได้สิทธิพิเศษเต็มที่ ได้รับการเทคแคร์อย่างดี มีพี่พนักงานแนะนำเมนูไปแต่ละหน้าๆ เลยค่ะว่าแต่ละเมนูเป็นยังไง เราก็ฟังไปเก็บรายละเอียดไปลืมไป เพราะที่นี่มีเมนูเยอะมากกกกกก เลือกกันไม่ถูกเลยทีเดียว นั่นก็น่ากิน นี่ก็อยากกิน น่ากินไปหมดทุกอย่างงงง แค่ดูเมนูก็หมดเวลาไปเป็นสิบนาทีแล้วค่ะ 555 สุดท้ายได้มาเป็นสลัดปูนิ่ม ปลาแซลมอนยำไทย ยากิโซบะทะเลและมิโซะแซลมอนโรล ส่วนเครื่องดื่มสั่งเป็นโค้กและชาเขียวเย็นค่ะ เมนูแรกที่มาเสิร์ฟคือเม็ดมะม่วงหิมพานต์คั่วเกลือค่ะ เมนูนี้ไม่ได้สั่งแต่ได้กินค่ะ อาหย่อย หอมๆ กรอบๆ เคี้ยวเพลิ๊นเพลินแล้วน้ำก็มาเสิร์ฟต่อค่ะ เป็นโค้กกระป๋อง (35 บาท) มาพร้อมกับน้ำแข็งอีกแก้ว และชาเขียวเย็นเป็นชามัทฉะ (40 บาท) หอมๆ ดีค่ะ มันจะมีเหมือนกลิ่นไหม้นิด ซึ่งเวลาที่มีกลิ่นแบบนี้เราว่ามันอร่อยดีค่ะ แก้เลี่ยนแก้กระหายดี แถมยังเป็นรีฟิลเติมได้ไม่อั้นด้วยนะคะ ถัดไปก็เป็นยากิโซบะทะเล (179 บาท) ก็คือบะหมี่เส้นใหญ่ผัดกับเครื่องทะเล ที่มีปลาหมึก กุ้ง และเห็ด ผัดกับกะหล่ำปลี ต้นหอมและแครอทค่ะ เขาผัดเสร็จวางไว้บนแผ่นอะไรสักอย่างที่ทอดกรอบให้เป็นกระทงค่ะ แต่พอทิ้งไว้สักพักแล้วมันเหนียวไม่ค่อยอร่อย ไม่มีรสชาติด้วยค่ะ ส่วนยากิโซบะนั้นเสิร์ฟมาตอนร้อนๆ ฟินนนนน แต่รสชาติออกหวานไปหน่อยเราไม่ค่อยชอบ แต่เส้นผัดได้นุ่มกำลังดีไม่เละเกินไปค่ะ เครื่องก็เยอะดีด้วยค่ะจานนี้คือ ปลาแซลมอนยำไทยค่ะ จานนี้ไปยืนดูเขาทำมาค่ะ เสียดายที่ปลาแซลมอนเขาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เราว่าถ้าแล่ไปชิ้นบางๆ วางเรียงสวยๆ น่าจะน่ากินมากขึ้นนะคะ วิธีการทำเขาจะเอาใบตองวางรองก่อนแล้ววางไชท้าวฝอยก่อนนำปลาแซลมอนหั่นไปคลุกกับน้ำยำที่เขาปรุงไว้เรียบร้อยแล้ว ก่อนวางบนไชท้าวฝอย แล้วหั่นแตงและเลมอนวางกันคนละข้าง น่ากินแล้วววว ไม่ใช่แค่น่ากินอย่างเดียว รสชาติก็จัดจ้านสะใจดีด้วย เปรี้ยว เผ็ดสะใจดี จานถัดมาใหญ่สะใจมากกกกกก คือสลัดปูนิ่ม (300 บาท) มีสารพัดผักสลัดวางอยู่ในชามสลัดไม้ใบใหญ่ วางปูนิ่มทอดกรอบไว้อยู่ด้านบน มาพร้อมกับช้อนและส้อมไม้ไว้สำหรับคลุกเคล้าสลัด และเสิร์ฟมาคู่กับน้ำสลัดญี่ปุ่น ซึ่งน่าจะเป็นน้ำสลัดงามั้งคะ จานนี้อร่อยมากกกกก ผักสดมาก ปูนิ่มก็สามารถทานได้ทั้งตัวกรุบๆ กรอบๆ ไม่เหม็นคาวด้วยค่ะ ยิ่งราดน้ำสลัดแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน อร่อยที่สุด เมนูนี้แนะนำเลยค่ะ ที่จริงสามารถเพิ่มอะโวคาโดได้ด้วยนะคะ พนักงานเขาแนะนำมาว่าอร่อยมากกกก แต่เราขอลองแบบธรรมดาก่อนค่ะ
จานสุดท้ายที่สั่งคือมิโซะแซลมอนโรล (329 บาท) เป็นซูซิที่อร่อยมากกกกก ในเมนูเขาว่ามีส่วนผสมของ Kani mayonnaise, avocado, salmon, Japanese cucumber, Miso sauce, Ikura, Spicy mayonnaise sauce ซึ่งไม่เหมือนกับซูซิอื่นๆ ที่เราเคยกินค่ะ ในข้างมีเครื่องบางอย่างที่ห่อด้วยข้าว และวางบนด้วยแซลมอนที่ปรุงสุก โรยด้วยซอสรสเข้มข้น และวางบนสุดด้วยไข่ปลาแซลมอน แต่ละคำจิ้มซอสมิโซะ กินทั้งคำ ฟินคร่าาาาาา อร่อยมากกกกกกระหว่างนั่งทานไปทานมาก็มีเมนูพิเศษมาเสิร์ฟค่ะ พอดีทางเจ้าของร้านกำลังคิดค้นหาเมนูใหม่ๆ กับเชฟอยู่ค่ะ และเมนูนี่เราเองก็ได้มาลองกินด้วย เชฟเองยังไม่ได้คิดชื่อเมนูเลย เราเลยคิดเองเป็น"สลัดผลไม้ทูน่าทอดบนรังนก" เพราะว่าเชฟจะทำสลัดทูน่าทอดคลุกกับมะเขือเทศและแอปเปิ้ลเขียวไว้บนรังนกที่ทำมาจากเส้นบะหมี่ทอด รสชาติแปลกๆ ดี แต่เราว่าไม่โอเคเท่าไหร่ค่ะ เราว่าทูน่าทอดแล้วมันแข็งไปหน่อย ถ้าทำเป็นแซลมอนที่ลนไฟนิดๆ น่าจะอร่อยกว่ามั้ยอ่ะ มะเขือเทศอร่อยดีแต่แอปเปิ้ลเปรี้ยวไปหน่อย เมนูนี้สำหรับเรายังไม่ค่อยโอเคทีเดียวค่ะหลังจากทานเสร็จเขามีบริการผลไม้ด้วยนะคะ เป็นแคนตาลูป หั่นเรียบร้อยวางไว้บนเปลือกนั่นแหละค่ะ เสิร์ฟมาสองจาน จานนึงใส่ผลไม้ อีกจานวางช้อนเอาไว้ ผลไม้เขาอร่อยดีค่ะ หวานกำลังดี โดยรวมแล้วเมนูทั้งหมดที่สั่งโอเคค่ะ อร่อยทุกอย่างเลย เสียดายอย่างเดียวไกลบ้านไปหน่อย 555กินอิ่มเรียบร้อยก็เช็คบิลค่ะ เตรียมตัวกลับบ้าน ราคาอาหารอย่างเดียวอยู่ที่ 1,058 บาทค่ะ ยังไม่รวมค่าบริการ เมื่อรวมแล้วทั้งหมดราคาเบ็ดเสร็จ 1,164 บาท จ่ายด้วยวอยเชอร์ 1,000 บาท หุหุหุ มื้ออิ่มฟินๆ แค่ 164 เองอ่ะ ดีงามมมมมม
อ่านต่อ
Okami Sushi หนึ่งในร้านอาหารญี่ปุ่นแบบพรีเมี่ยมในย่านราชพฤกษ์ที่ตอนนี้ผุดขึ้นมาเยอะมากเป็นดอกเห็ดเลยครับ ร้านนี้เค้าเชี่ยวชาญและชำนาญในเมนูโรลต่างๆมากเป็นพิเศษ เพราะได้เชฟที่ไปฝึกฝีมือการทำซูชิมาจากญี่ปุ่นโดยตรง ทำให้มั่นใจได้เลยว่าขั้นตอนการทำซูชิและโรลต่างๆนั้นถูกต้องตามกระบวนการ ยิ่งได้วัตถุดิบคุณภาพดีเยี่ยมเข้าไปด้วยแล้วละก็ไม่ต้องแปลกใจครับที่อาหารญี่ปุ่นร้านนี้จึงออกมาอร่อยร้านนี้เค้าไม่เด่นพวกเมนูซาชิมิหรือซูชิมากสักเท่าไร แต่ที่ผมยกให้เป็นเมนูชูโรงเลยก็คงจะเป็นเมนู Tuna Wonton แล้วก็พวกโรลต่างๆที่แปลกใหม่ ไม่ซ้ำใครและไม่มีใครซ้ำด้วยครับ ผมมาซ้ำร้านนี้อีกครั้งเพราะเพื่อนสนิทอยากลอง วันนี้มาลองอีกทีกลับประทับใจมากกว่ารอบแรกที่ผมเคยมาทานซะอีก (ตอนนั้นผมมาทานตอนร้านเปิดใหม่ๆ อะไรหลายๆอย่างยังไม่ลงตัว) เรียกได้ว่าคุณภาพและราคานั้นเป็นไปในทิศทางเดียวกันครับ เพราะมันทั้งอร่อยและคุ้มค่าจริงๆครับร้านนี้ตั้งอยู่ที่ชั้น 3 ร้านอยู่หน้าบันไดเลื่อนเลย มีหมาป่าตัวสีขาวยืนเด่นเป็นสง่าตั้งอยู่หน้าร้าน ร้านนี้อยู่ตรงข้ามกับโรงหนัง SF แล้วก็ร้าน Bake a Wish เลยครับ โครงการนี้ตั้งอยู่บนถนนราชพฤกษ์ฝั่งมุ่งหน้าไปยังวงเวียนพระราม 5 อยู่เลย โครงการ Homeworks มานิดเดียวเอง สามารถขับรถมาจอดในโครงการได้เลยครับ จอดฟรีแต่ที่จอดรถอาจจะหายากสักหน่อยนึงในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์หรือช่วงเย็นๆนะครับร้านนี้ไม่ใหญ่เท่าไรครับ ด้านในร้านมีที่นั่งอยู่แค่พอสมควรเท่านั้น มีทั้งที่นั่งปกติ ที่นั่งโซฟา ที่นั่งแบบญี่ปุ่น แล้วก็แบบบาร์ แต่ละโต๊ะนั้นสะอาดใหม่เอียมมีอุปกรณ์ในการทานไว้ให้พร้อมเรียบร้อยทุกโต๊ะ ลูกค้าจะค่อนข้างเยอะในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ครับ ถ้าจะมาทานแนะนำให้มาก่อนหรือหลังช่วงพีคจะดีกว่าครับวันที่ผมไปทานเป็นช่วงบ่ายแก่ๆที่ลูกค้าออกจากร้านไปหมดแล้ว เลยเหลือโต๊ะผมอยู่โต๊ะเดียว พนักงานเลยใส่ใจดูแลโต๊ะผมได้อย่างเต็มที่ครับ อยากได้อะไรแค่หันมองพนักงานหันมาทันทีเลย อาหารมาเสิร์ฟสักพักนึงเลยครับ ถือว่าให้เวลาเชฟทำนิดนึงร้านนี้เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นแบบพรีเมี่ยมที่ผมว่าราคานั้นไม่แพงเลยครับ ที่สำคัญยังมีโปรโมชั่นออกมาอยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดสำหรับทุกเมนูหรืออาจจะเป็นเฉพาะบางเมนู ก็ต้องแล้วแต่ช่วงเวลาครับ ปกติก่อนไปผมก็เช็คจาก FB หรือ IG ของทางร้านดูก่อนครับ เพื่อจะได้เตรียมตัวสั่งถูก ฮ่าๆSalmon Wonton (180 บาท)- เมนูนี้จริงๆแล้วจะเป็นทูน่าครับ แต่วันนี้ทางร้านบอกผมว่าทูน่าหมด จะใช้เป็นแซลมอนแทน ผมก็ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใดครับ เพราะผมเชื่อว่าส่วนประกอบอื่นๆไม่ว่าจะเป็นแผ่นเกี๊ยวหรือซอสวาซาบิที่ราดมานั้นมันอร่อยสุดๆในตัวของมันเองอยู่แล้ว แล้วดูเหมือนว่าการที่ทางร้านเปลี่ยนจากทูน่าเป็นแซลมอนให้ผมวันนี้มันไม่ได้ทำให้ความอร่อยของมันลดลงเลยครับ แซลมอนที่ทางร้านให้มานั้นชิ้นใหญ่ สดหนา และหวานอร่อยมาก ทานคู่กับแผ่นเกี๊ยวกรอบๆแล้วก็คลุกด้วยซอสวาซาบิแล้วก็ซอสพริกที่ราดมานั้น มันยิ่งฟินสุดยอด จนต้อสั่งเบิ้ลจานที่สองมาทานต่อเลยครับ (5/5)Crunchy Roll (320 บาท)- เมนูนี้เป็นโรลเทมกุ้งเทมปุระเหมาะสำหรับคนที่ชอบทานอะไรกรอบๆครับ เพราะทางร้านนั้นโรยเกล็ดเทมปุระมาให้อย่างชนิดที่เรียกว่าจัดเต็มครับ ตอนทานก็จิ้มคู่กับน้ำจิ้มเทมปุระที่ทางร้านเสิร์ฟมาให้คู่กัน อร่อยมากๆครับ ด้านในของโรลนั้นมีกุ้งเทมปุระอยู่ พร้อมด้วยปูอัดแล้วก็อะโวคาโด ส่วนด้านบนนั้นราดมาด้วยซอสเผ็ด มาโย แล้วก็โรยมาด้วยไข่ปลาคาร์เวียร์อีกที ทุกอย่างนั้นออกมาลงตัวสุดๆครับ กรุบกรอบทุกคำที่ทาน ข้าวไม่เยอะ และข้าวก็อร่อยด้วยครับ (5/5)Unagi Roll (450 บาท)- เมนูนี้เป็นโรลปลาไหลไส้กุ้งเทมปุระ เมนูนี้นั้นได้เอาความไม่เข้ากันหลายๆอย่างของอาหารญี่ปุ่นมาผสมกันไม่ว่าจะเป็นปลาไหลกับอะโวคาโดที่มาโปะอยู่ด้านบน ส่วนด้านในโรลเป็นกุ้งเทมปุระกับปูอัด ราดมาด้วยซอสหวานที่ราดปลาไหล ทุกอย่างนั้นผสมกันออกมาแล้วต้องบอกเลยครับว่าลงตัวมาก แต่ผมว่าปลาไหลแอบคาวไปนิดหน่อย ถ้าสดกว่านี้หน่อยผมคงฟินกว่านี้แน่นอนครับ (4/5)Volcano Roll (590 บาท)- เมนูนี้เป็นเมนูไฮไลท์ของทางร้านที่ผมเลือกสั่งมาทานวันนี้เลยครับ เป็นโรลเนื้อวากิวระดับพรีเมี่ยม สอดไส้ด้วยฟัวกราและอะโวคาโด เสิร์ฟมาท่ามกลางเปลวเพลิงภูเขาไฟสวยงาม ตรงกลางนั้นมีเทมปุระกรอบๆโรยด้ยไข่กุ้งมาให้ทานคู่กันตัดเลี่ยนได้ดี เมนูนี้ไม่มีที่ติใดๆเลยครับ เนื้อนุ่มอร่อย ละลายในปาก ชอบมากๆมาอีกรอบต้องสั่งอีกแน่นอน (5/5)เชื่อไหมครับว่าผมสั่งแค่เมนูพวกนี้มาทานซึ่งดูเหมือนจะไม่เยอะเท่าไรสำหรับสองคน แต่จริงๆแล้วอิ่มมากๆๆ ผมทานช่วงบ่ายแก่ๆแต่อิ่มมาจนข้ามวันเลยครับ เป็นร้านที่ภูมิใจนำเสนอมากจริงๆสำหรับร้านอาหารญี่ปุ่นในย่านราชพฤกษ์ ที่โดดเด่นในเรื่องของโรลต่างๆ พวกซูชิเค้าก็คุณภาพดีไม่ต่างกัน ราคาก็ไม่แรงมาก แถมรสชาติยังเป็นไปในทิศทางเดียวกันอีกแบบนี้ ให้เลยครับ 5 ดาว วันนี้รู้สึกชอบและประทับใจในทุกๆอย่างครับ
อ่านต่อ