Scalini

Scalini

Scalini
7
0
0
30
saoguide
อาหารอร่อย และเชฟหล่อค่ะ 555
saoguide
ระดับ 4
2020-01-03
223 views
Follow
สำหรับวันนี้ก็จะพาไปรับประทานอาหารกันที่ห้องอาหารในโรงแรมที่มีชื่อเสียงดีมากๆ แห่งหนึ่งนะคะ นั่นก็คือ ห้องอาหาร Scalini โรงแรมฮิลตันสุขุมวิทนั่นเองค่าาาา ซึ่งโดยปกติที่นี่ ก็มักจะเป็นการไปกิน/รีวิวบุฟเฟต์นะคะ แต่รอบนี้เราไปกินแบบอลาคาร์ทกันค่ะ ซึ่ง Chef Enrique Abilleira ชาวสเปนและทีมรังสรรค์ออกมาได้อร่อยทุกจานเลยค่ะ ซึ่งสไตล์ของที่นี่ก็จะเป็น Italian cuisine with modern twists นะคะสำหรับห้องอาหารสกาลินี่จะอยู่ที่ชั้นลอยของโรงแรมนะคะ ถ้ามาจากทางด้านหน้ารร. เดินตรงผ่านล็อบบี้มาจะเจอบันไดเดินขึ้นห้องอาหารตามรูปเลยค่าบรรยากาศภายในห้องอาหารค่ะ ดูขรึมๆ คลาสสิคๆ นะคะเมนูของห้องอาหารนี้นะค้าาาโดยในวันนั้นทางโรงแรมได้จัดเคาน์เตอร์สำหรับทำเครื่องดื่มให้โดยเฉพาะเลยค่ะ เพราะช่วงที่เราไปมีโปรโมชั่นสั่งบิสเต็กก้า รับฟรีเนโกรนีคอกเทลพอดีราคาเครื่องดื่มนะฮ้าบบบเครื่องดื่มที่ชื่อเนโกรนีคืออะไร เนโกรนี (Negroni) คือหนึ่งในคลาสสิกค็อกเทลที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในโลกตัวหนึ่งเลยค่ะ เกิดขึ้นที่ประเทศอิตาลี ในยุคปี 1920s ปีทองยอดฮิตที่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า Prohibition Era ซึ่งสกาลินีเองก็อยู่ในยุคนี้เช่นกันนะคะเนโกรนีเกิดจากท่านเคาท์ กามิลโล เนโกรนี (Count Camillo Negroni) จากการสั่งค็อกเทลคลาสสิกที่ชื่อว่า Americano ที่มีส่วนผสมของ คัมปารี-เวอร์มุธ-โซดา แต่วันนั้นไม่แน่ใจว่าท่านเคานท์ไปเจอเรื่องเศร้าอะไรมาถึงขอเหล้าเข้มๆ โดยขอให้บาร์เทนเดอร์เติมเหล้าจินลงไปแทนโซดา! จึงกลายเป็นสูตรของเนโกรนีทุกวันนี้ เมื่อส่วนผสมนั้นดันอร่อยคนทั่วไปพากันสั่งตาม จึงให้ชื่อค็อกเทลนี้ตามผู้คิดจะเปลี่ยนคนแรกก็คือท่านเคาท์นั่นเองหละค่าา (เครดิตจากเพจของห้องอาหารสกาลินี่นะคะ)ซึ่งดูจากส่วนผสมแล้ว..ก็สมกับความเจอเรื่องเศร้าขอเหล้าเข้มๆ จริงๆ ค่ะ เพราะเข้มมว้ากกกกกกกกกกก เหล้าจัดเต็ม แม้จะมีกลิ่นหอมของส้มมาทำให้ชื่นใจ แต่อิชั้นดื่มไปอึกเดียวก็ล่าถอยเลยค่ะ ยอมแพ้ ทว่าคนที่เค้าดื่มจิบเรื่อยๆ จนหมดแก้วนี่เค้าบอกว่ายิ่งดื่มยิ่งอร่อยนะคะ ใครที่สายแอลฯ ก็ลองดูแล้วกันนะฮับมามา ไปดูกันว่าวันนั้นได้ลองกินอะไรบ้างค่ะประเดิมด้วยเมนู Complementary ฟรี ขนมปังที่ขอได้ตลอดนั่นคือ ขนมปังฟองกาเซียน้ำมันมะกอก/ เพสโต/ ซัลซามะเขือเทศ ขอบอกว่า เนื้อขนมปังคือดีย์ย์ย์มากกกกกก นุ่ม แน่น เหนียวนิดๆ มีรสชาติ บอกไม่ถูก ดีทั้งเทกซเจอร์และรสเลยค่ะ กินเพลินมาก แล้วก็ไม่ว่าจะหน้าอะไร (ตามรูป) ก็อร่อยหมดเลยค่ะกินแบบไม่ดิปอะไรเลยยังอร่อย แต่คนที่เค้าดิปกันเค้าก็ชอบนะคะ เป็นคอมพลิเมนทารีที่ดีมากเลยอ้ะWilds Mushroom Soup 480 บาทครีมมี่กำลังดี ไม่เลี่ยนเกินไป กลิ่นเห็ดค่อนข้างหอมชัดดีค่ะ อร่อยนะคะ ชอบอ้ะLobster Bisque 550 บาทอีกหนึ่งซุปค่ะ ล็อบสเตอร์เนื้อเด้งมาก ตัวซุปก็รสชาติดี ทิ้งไว้ให้เย็นก็ไม่เค็มจัดแบบหลายๆ ที่นะคะ หอมด้วย อร่อยอีกแล้วCrispy Salmon and Black Quinoa 450 บาทแซลมอนคุ้กมาดีค่ะ ไม่แห้งไป สุกกำลังดีเลย คีนัวก็อร่อยเช้ยยยยย คือ ยิ่งกินไปนี่ยิ่งแบบ เฮ้ยยย ทำไมมันอร่อยทุกจานเลยฟระOven Baked Seafood Pasta 1,250 บาทจะเสิร์ฟมาในภาชนะคล้ายกระทะและมีแป้งคลุมปิดหน้ามานะคะ เวลาจะรับประทาน ทางพนักงาน (วันนั้นเป็นเชฟเลยค่ะ ดูได้จากคลิปด้านล่างนะค้า) จะทำการเปิดแป้งให้ เห็นพาสต้าด้านในพร้อมซีฟู้ดค่ะ ซึ่งอันนี้แนะนำให้กินตั้งแต่เสิร์ฟใหม่ๆ นะคะ เพราะถ้าทิ้งไว้นาน ความร้อนภายในจะทำให้เส้นนิ่มเกินไปได้ค่ะ ถ้ากินตอนมาเสิร์ฟเลย เส้นจะอัลดังเต้ดีมว้ากกก ซอสก็อร่อย ซีฟู้ดก็สด แล้วเชฟก็แนะนำให้เอาตัวแป้งพาสต้าที่ปิดหน้ามาฉีกแล้วก็จุ่มน้ำซอสกินนะคะ ซึ่งก็อร่อย (อีกแล้ว) ค่ะmenu ต่อไปฮ้าบบบบบFresh Oyster > Fine de Claire 12 ตัว 1,450 บาทแต่วันนั้นเชฟมิกซ์หอยนางรมจากสามแหล่งมาให้ค่ะ เพราะอยากให้ชิมกันได้หลากหลายหน่อย ก็จะมีฟินเดอร์แคลร์สี่ตัว อีกแปดตัวจะมาจากอเมริกาสี่ แล้วก็จากเบลลองก์ ฝรั่งเศสอีกเมืองอีกสี่ตัวค่ะซึ่งซอสเชฟก็มีให้ทั้งแบบเวสเทิร์นและแบบไทยนะคะ แล้วแต่เลยว่าชอบแบบไหนในส่วนของหอย เราชอบฟินเดอร์แคลร์สุดค่ะ ไม่เค็มจัด น้ำอร่อยตามมาตรฐานจากแหล่งนี้แหละ ส่วนจากตัวอเมริกา รสและกลิ่นไอโอดีนจะเข้มกว่าง่ะนะคะ ตัวเบลลองก์เราไม่ได้กินนะฮับ เลยเมนท์ไม่ได้Half Grilled Chicken (350g) 540 บาทไก่ย่างหนังกรอบ ที่ย่างมาดี๊ดี หนังกรอบแต่เนื้อไม่แห้ง มีการหมักมาให้มีรสชาติ ตอนแรกคนอื่นชิมแล้วชมกันเปาะ ไอ้เราก็แบบ แหม..ไก่ย่าง จะแค่ไหนเชียว พอกินเท่านั้นแหละ เฮ้ยยย อร่อยฟร่ะ (เป็นมื้อที่ใช้คำว่าอร่อยได้สิ้นเปลืองมาก) ตัวซอสจะออกแนวอมเปรี้ยวนวลๆ นะคะ กินคู่กันก็จะได้อีกรสชาติหนึ่ง หรือจะกินไก่เฉยๆ เราก็ว่าอร่อยเช่นกันค่ะขอคั่นด้วยเครื่องดื่มของเราค่ะ อันนี้นอนแอลฯ เป็นแนวโซดานะคะ บลูเบอร์รี่ อร่อยหละ เปรี้ยวหวานกำลังดี ดื่มเพลินเลยค่ะ คนนี้ชงเก่งอยู่น้าา รสกลมกล่อมค่ะScalini Style Grilled Cod 1,200 บาทโอ๊ยยยยย คุณขาาา มันดีย์ คือ ตอนแรกเสิร์ฟมาที่เดียวนี่ มาถึงเราไม่เหลือปลาแล้วค่ะ 5555 แต่แค่ชิมน้ำกับหอย ก็เฮ้ยยย อร่อย หอยไม่เค็มจัดอย่างบางที่ และยังสดด้วยค่ะ จากนั้นก็เลยสั่งใหม่อีกรอบเพราะอยากชิมปลาบ้าง พอได้กินเท่านั้นแหละ หูยยย มันดีอีกแล้ว ปลาดี๊ดี สด รสชาติดีมาก (มิน่าถึงหมดเร็ว) น้ำซุปก็อร่อยมาก คุ้กมาพอดีและรสชาติดีค่ะนี่คือกินหลายจานยังไม่เจอจานไหนไม่อร่อยเลยค่ะ เชฟเทพมากอ้ะจานต่อไปค่าาBaked Alaskan King Crab Leg 650 บาทเป็นขาปูอลาสก้า ตัดเป็นท่อนๆ ปรุงมาตามภาพนะคะ มีที่จิ้มให้ทุกอันเพื่อสะดวกในการทานค่ะ ตัวนี้เราชอบกินแบบไม่จิ้มซอสมากกว่า แต่ถ้าเทียบกับจานอื่นๆ แล้ว จานนี้ยังว้าวไม่เท่านะคะเนื้อสเต็กบิสเต็กก้า (Bistecca) ขีดละ 425 บาท'บิสเต็กก้า' คือทีโบนสเต็กขนาดใหญ่ที่ต้องมีขนาด 1 -1.2 กิโล เป็นสเต็กที่ขึ้นชื่อในอิตาลี ซึ่งที่นี่จะปรุงบิสเต็กก้าด้วยสูตรลับเฉพาะของเขานะคะ โดยทั่วไปเมนูนี้จะแชร์กันราวๆ 2-3 ท่านค่ะ แต่ถ้าเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ กินไม่จุอย่างเรา (เหรอป้า) สี่ห้าคนกำลังดีค่ะเนื้อนุ่มมาก มีความชุ่มฉ่ำของเนื้อ และมีความหอมของเนื้อชัดค่ะ รักษารสชาติและคุณภาพของเนื้อได้ดีแม้จะผ่านการคุ้กแล้ว แล้วก็ทำให้เด่นขึ้นอีกด้วยค่ะ ค่อนข้างดีเลย มีซอสมาให้สามอย่างนะคะ แล้วก็สามารถเลือกที่จะสั่งเป็นส่วนอื่นได้ด้วยค่ะ อย่างวันนั้นก็มีสั่งริบอายมาเพิ่มด้วย ซึ่งนุ่มและเคี้ยวเพลินฟันมากจบคาวแล้วววว ไปที่ของหวานกันบ้างค่าาาChocolate Sambuka 360 บาทอร่อยดีค่ะ มีทั้งช็อกโกแลตบราวนี่ที่ใช้ช็อกโกแลตดีค่ะ ตัวเทกซเจอร์ก็ดีเช่นกัน ไอศกรีมก็อร่อยมาก หอมวานิลาและรสหวานนวลกำลัง แล้วก็มีสตรอเบอร์รี่มาช่วยตัดเปรี้ยวด้วยค่ะเป็นเมนูของหวานที่รสชาติค่อนข้างหลากหลายค่ะ เอาใจทั้งสายช็อกโกแลตเลิฟเวอร์ ไอศกรีมเลิฟเวอร์ และคนที่ชอบกินของหวานแบบมีผลไม้ 5555Tiramisu 350 บาทเป็นอีกที่ที่ทำเมนูนี้อร่อยค่ะ เหล้าไม่โดดเกินไป กาแฟก็กำลังดี เทกซเจอร์ก็ดี แน่นแต่ก็เบาด้วยAffogato 320 บาทตัวนี้จะแยกกาแฟออกมาเพื่อเทราดต่างหากนะคะเมนูนี้ดีค่ะ กาแฟเข้มกำลังดี บาลานซ์กับไอศกรีมดี แต่ตัวที่เหมือนคุ้กกี้นี่ไม่ได้ชิมนะคะสรุปสำหรับที่นี่นะคะ ค่อนข้างประทับใจกับเมนูอาหารคาวค่ะ อร่อยแบบเกือบครบทุกเมนูเลยแหละ ส่วนตัวของหวาน อาจจะไม่ได้มีอะไรเด่นมาก แต่ก็ถือว่าอร่อยตามมาตรฐานค่ะ (นี่ถ้าได้ของหวานครีเอทๆ อีกนี่ คนรักของหวานอย่างเราจะยิ่งปลื้มมากกกก) วันนั้นเป็นมื้อหนึ่งที่ค่อนข้างประทับใจมาก จากการกินอาหาร เราว่าเชฟน่าจะเป็นคนเพอร์เฝคชันนิสต์พอควรเลยค่ะ เพราะรสชาติมันเป๊ะไปหมดง่ะ (คือปกติกินที่อื่น จะมีขาดโน่นนิดนี่หน่อย แต่ที่นี่ดูมันพอดิบพอดีไปหมด) ประทับใจนะคะ ถ้าใครอยากลองพิสูจน์ก็เชียร์ให้หาโอกาสลองไปกินกันค่ะห้องอาหาร Scalini โรงแรมฮิลตันสุขุมวิทกรุงเทพฯ ซอยสุขุมวิท 24 สอบถามข้อมูลหรือจองโต๊ะได้ที่โทรศัพท์ 02-620-6666Read More
+ 24
The above review is the personal opinion of a user which does not represent OpenRice's point of view.
Like
Share
Report
Ratings
5
Taste
5
Decor
5
Service
5
Hygiene
5
Value
babibube
Sunday Brunch Buffet ที่เสิร์ฟ Lobster แบบไม่อั้น!
babibube
ระดับ 4
2018-04-10
284 views
Follow
ห้องอาหารสกาลินี่ อยู่บริเวณชั้น 2 ของโรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพฯ  ในซ.สุขุมวิท 24 เข้ามาในโรงแรมแล้วเดินผ่านล็อบบี้ตรงเข้าไปจะเจอบันไดวนทางซ้ายมือ เดินขึ้นไปก็จะเจอห้องอาหาร บรรยากาศในห้องอาหารเน้นโทนสีดำ  เรียบ ๆ แต่คลาสสิคSunday Brunch ของห้องอาหาร Scalini จะจัดขึ้นทุกวันอาทิตย์  12.30 - 15.00 น. อาหารจะมีทั้งส่วนที่เป็น A la Carte และ ส่วนที่เดินไปตักในไลน์บุฟเฟต์เมนู A la Carte ก็ตามนี้เลย มีทั้งล๊อบสเตอร์ตัวใหญ่ ๆ ไซส์พิเศษ เสิร์ฟแบบไม่อั้น เลือกได้ว่าจะทานแบบชิลล์ , กริลล์ หรืออบชีส นอกจากนี้ยังมีเมนูหอยเชลล์ย่าง , ฟัวกราส์ , พาสต้าล็อบสเตอร์ , เนื้อวัวตุ๋นซอสไวน์แดง และแซลมอนย่าง ให้สั่งได้ไม่อั้นเช่นกัน- Classic Lobster Termidor ล็อบสเตอร์ตัวใหญ่มากกกก ตัวนี้จะเยิ้ม ๆ หน่อยเพราะมีซอส- Grilled Lobster แบบกริลล์ธรรมดาตัวใหญ่ไม่แพ้กัน กินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ด- Scallop / Foie Gras / Lobster Pasta / Beef Shot Ribs / Salmon ชอบที่ทำสดใหม่ตามออเดอร์ เสิร์ฟมาเป็น portion เล็ก ๆ ไม่ต้องกลัวจุกเมนูในไลน์บุฟเฟต์- ซีฟู้ด มีทั้งหอยนางรม ฟิน เดอ แคลร์ ,กุ้ง , หอย ,  ปู , ขาปูอลาสก้า จะกินแบบเย็น แบบกริลล์ได้หมดค่า- มุมกริลล์ มีกุ้งกุลาดำ , ซี่โครงแกะ และเนื้อสตริปลอยน์ด้วย อยากได้กี่ชิ้นสุกแค่ไหนสั่ง+ยื่นการ์ดเบอร์โต๊ะให้ เดี๋ยวเค้าจะนำมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะเลย นอกจากนี้ยังมีหมูกรอบ และซี่โครงย่างพร้อม Side dish ต่าง ๆ - เมนูล็อบเสตอร์อื่น ๆ : ซุปล็อบสเตอร์ / พิซซ่าล็อบสเตอร์ / ลาซานญ่าล็อบสเตอร์ / ซูชิล็อบสเตอร์- ซาซิมิ- สลัดพร้อมทาน และสลัด D.I.Y- Cold & Cheese- มุมเบเกอรี่และขนมหวาน ละลานตามากทั้งเค้ก , ช็อคโกแลต , ชีสเค้ก , ฟองดูว์ , มากาฮอง , ทาร์ต , มูส , ไอศครีม , สายไหม ฯลฯ- น้ำผลไม้ Free Flow มีทั้งน้ำแอปเปิ้ล , น้ำฝรั่ง , น้ำสัปปะรดราคามีให้เลือก 3 แบบบุฟเฟต์ราคาท่านละ  2,400++ บ.(2,825 เน็ต) รวมน้ำผลไม้ในไลน์บุฟเฟต์+ 350 บาทสุทธิ รวมน้ำเปล่าและน้ำอัดลมแบบไม่อั้น+ 850 บาทสุทธิ รวมไวน์แดง ไวน์ขาว ปาร์คกลิ้งไวน์ น้ำเปล่าและน้ำอัดลมแบบไม่อั้นสำหรับซันเดย์บรันซ์บุฟเฟต์ของห้องอาหารสกาลินี่ ต้องบอกว่าจัดหนักจัดเต็มจริง ๆ ใครเป็นสายคุณภาพมาที่นี่ไม่ผิดหวังแน่นอน คือเห็นราคาแล้วอาจจะตกใจ แพงเนอะ แต่จะบอกว่าคุ้มมาก ๆ เพราะกินแค่ล็อบสเตอร์ตัว-2 ตัวก็คุ้มแล้ว ไปกินตามร้านล็อบเสตอร์คือตัวเป็นพันอ่ะ มานี่กินได้ไม่อั้น แถมมีอย่างอื่นอีก แบบนี้แล้วจัดให้ว่องค่าRead More
+ 46
The above review is the personal opinion of a user which does not represent OpenRice's point of view.
Like
Share
Report
Ratings
4
Taste
5
Decor
4
Service
5
Hygiene
5
Value
Recommended Dishes
พิซซ่าล็อบสเตอร์
Grilled Lobster
เค้ก
Scallop
saoguide
รีวิว An Italian Affair with Riccardo Catarsi ณ Sc
saoguide
ระดับ 4
2016-12-06
157 views
Follow
สำหรับวันนี้จะพาไปรับประทานอาหารอิตาเลียนสไตล์ทัสคานีซึ่งเป็นการเปิดตัวดินเนอร์อาหารอิตาเลี่ยนซึ่งรังสรรค์โดยเชฟริคคาร์โด คาตาร์ซี (Riccardo Catarsi) ซึ่งเป็นเชฟที่เชิญมาจากฮิลตันสิงคโปร์ และอีเวนท์นี้จะมีตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน ถึง 31 ธันวาคม นี้เท่านั้นนะคะ โดยอาหารที่เราไปกินนี้เป็นคอร์สพิเศษที่ทางเชฟจัดให้กับสื่อค่ะ สำหรับการเดินทางวันนั้นเราขับรถไปนะคะ แล้วก็เข้าซอยข้างเอมโพเรียม (สุขุมวิท 24) ไปโรงแรมจะอยู่ทางซ้ายมือ จอดรถไว้ที่ชั้นใต้ดิน ขึ้นลิฟท์มาที่ชั้นจี แล้วก็ค่อยกดลิฟท์ไปที่ชั้นสองอีกทีค่ะเก็บภาพบรรยากาศของห้องอาหารสกาลินีมาให้ดูก่อนนะคะห้องอาหารแห่งนี้มีทั้งสิ้น 100 ที่นั่งนะคะโฉมหน้าของเชฟและทีมผู้รังสรรค์อาหารมื้อนี้ให้เราค่ะระหว่างรอการเปิดงาน ทางโรงแรมก็บริการเครื่องดื่มตัวนี้ให้รองท้องกันไปก่อนนะคะจากนั้นทางทีมจัดงานทั้ง GM Chef รับเชิญ และ Chef ประจำรวมทั้งพีอาร์ก็มากล่าวต้อนรับและพูดถึงงานในค่ำคืนนี้ค่ะเมนูที่เชฟริคคาร์โดจะรังสรรค์ขึ้นมานั้นประกอบไปด้วย 4 คอร์สโดยในแต่ละคอร์ส ลูกค้าสามารถเลือกได้ถึง 3 ตัวเลือกนะคะ โดยเมนูพิเศษจากเชฟรับเชิญนี้จะมีระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2559 ระหว่างเวลา 18.00 น.ถึง 22.30 น. เท่านั้นค่ะ แต่ก็ยังคงเสิร์ฟอาหารเมนูปกติด้วยเช่นกันนะคะเมนูพิเศษโดยเชฟริคคาร์โดนำเสนอ จะเป็นราคา 1,899 บาทสุทธิต่อท่านสำหรับอาหารเท่านั้น และราคา 2,699 บาทสุทธิต่อท่านสำหรับอาหารและไวน์ที่จับคู่ในแต่ละคอร์ส (จะเป็นไวน์ขาว 1 ไวน์แดง 2 และลิมอนเชลโลอีก 1 ค่ะ) แต่สำหรับสำหรับวันที่ 31 ธันวาคม 2559 จะมีความพิเศษคือ เพิ่มเมนูที่สามารถเลือกได้เองจากเมนูพิเศษที่เชฟได้รังสรรค์ขึ้นมา เช่น หอยนางรม ล็อบสเตอร์และเมนูให้เลือกสั่งกว่า 10 เมนู ในราคาสุทธิเพียง 3,499 บาทต่อท่านสำหรับมื้อค่ำค่ะ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร 02 620 6666 อีเมล bkksu.info@hilton.com หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ของโรงแรมได้ที่ Hilton.com.จากซ้ายไปขวา GM / เชฟประจำสกาลินี / เชฟ Riccado Catarsi คุณซันเดย์ พีอาร์ของโรงแรมและซอมเมลิเยร์ของงานนี้ค่ะสำหรับคืนนี้ที่นั่งจะถูกระบุว่าใครนั่งตรงไหนนะคะ จะมีชื่อไว้ให้ (นี่ไปถ่ายของคนอื่นมาค่ะ แหะๆ) แต่ของเราพอดีโต๊ะของคนที่สนิทกันเค้ามีคนแคนเซิล เลยขอเปลี่ยนไปนั่งโต๊ะที่มีพี่อุ๊พี่ต้องแห่งตามกาลเวลา+ไปไหนไปด้วยกัน และน้องคม อร่อยปักหมุด และน้องเบลค่ะ แฮร่..อาหารที่จะบริการในค่ำคืนนี้ค่ะChef Riccardo Catarsi เป็นชาวทัสคานีนะคะ เพราะฉะนั้นอาหารในค่ำคืนนี้จะเป็นสไตล์ทัสคานค่ะ จากนั้นขนมปังก็มาเสิร์ฟก่อนค่ะ มีให้สองแบบนะคะ โดยดิปปิ้งจะเป็นบัลซามิกในน้ำมันมะกอก ซึ่งบัลซามิกน่าจะมีปรุงหรือหมักเพิ่ม เพราะเราได้กลิ่นเหมือนพริกไทยแซมมาด้วยหละส่วนขนมปังสองอย่างจะมีตัวสีขาวกับตัวสีที่เข้มกว่า เทกซเจอร์ดีทั้งสองตัวนะคะ นุ่มและแน่น แต่ตัวสีเข้มกว่าจะมีรสและกลิ่นของน้ำผึ้งมาจางๆ ด้วยค่ะ ซึ่งแปลกดีอ้ะ มีขนมปังแบบนี้น้อยนะคะตัวนี้เป็นอมุสบุชค่ะ ซึ่งปกติจะไม่มีนะคะ อันนี้เชฟทำพิเศษ เป็น Baccala, olio e riccio (Cod fish compote, EVOO, sea urchin)ตัวนี้หลักน่าจะเป็นทั้งเนื้อปลาคอดและมันฝรั่งค่ะ มีรสเค็มแซมนิดๆ และมีเทกซ์เจอร์ที่คล้ายๆ เม็ดเกลือนิดๆ ด้วยค่ะ ตัวถั่วข้างๆ มีปรุงรสมาหน่อยหนึ่งด้วยนะคะ และเบคอนซึ่งให้รสไม่เหมือนเบคอนค่ะ แปลกดีอ้ะ จานแรกก็ทำให้เรารู้สึกเลยค่ะว่า เหมือนเราจะถูกจริตกับอาหารทัสคานแฮะ คือ ก่อนหน้านี้ที่เคยรีวิวไปที่กินอาหารฝีมือเชฟทัสคานีก็อร่อยหลายอย่างมาก พอมาที่นี่ก็รู้สึกว่า เฮ้ยย โอเคอีกแล้ว แต่ในความรู้สึกเราจะไม่ตรงกับข้อมูลในลิงก์ที่ใส่ก่อนหน้านี้ที่บอกว่าอาหารทัสคานเน้นที่ความสดของวัตถุดิบ แต่จะไม่ปรุงแต่งอะไรมาก แต่เรากลับรู้สึกว่า เชฟคนนี้เค้ากลับมีความ complicate ในการทำอาหารแต่ละอย่างอ้ะ บอกไม่ถูก แต่แต่ละจานนี่...รสมันมีความซับซ้อนและมีการผสมผสานในวัตถุดิบหลายอย่างมากๆ ค่ะ จานต่อไปเป็น Pane, pomodoro e mare (Tomato cream, Tuscan seafood, burrata cheese, caviar and basil chips) ตัวครีมมะเขือเทศกลับมีกลิ่นคล้ายเครื่องเทศค่อนไปเกือบเหมือนพริกแกงของบ้านเราแบบอ่อนๆ ค่ะ กุ้งถูกปรุงรสด้วยมะนาว (น่าจะเป็นเลมอนมากกว่าไลม์นะคะ) นิดหน่อย ส่วนตัว Basil chip ที่หลายคนเดาว่าน่าจะเป็นหนังปลาจะมีกลิ่นหอมเบาๆ ด้วยนะคะ กรอบ และไม่คาวเลย เลยไม่ค่อยแน่ใจว่าหนังปลาจริงหรือเปล่าน้อ 555 ส่วนตัว mussels นั่นก็ดีงามมากนะคะ อร่อยแหละ แทบจะแย่งซีนของอีกอันเลยค่ะเมนูนี้จับเข้าคู่มากับไวน์แดง Rocco delle Macie, "Vernaiolo" Chianti DOCG, Tuscany, Italy, 2014 หลายคนอาจจะแปลกใจว่าทำไมเค้าถึงจับคู่กับไวน์แดงนะคะคือฝ่ายซอมเมลิเยร์บอกว่า เนื่องด้วยอาหารที่ทางเชฟทำค่อนข้างมีความซับซ้อน และทางเขาต้องการจับคู่แบบพิเศษ (unusual) น่ะนะคะ ผลของการกินคู่กัน เราว่าเข้าได้โอเคอยู่นะคะ คือ มันเป็นไวน์ที่เนื้อหนังยังไม่ฟูลมาก ออกแนวเบาๆ เคลียร์ๆ ทำให้พอกินอาหารแล้วดื่มไวน์ตาม มันจะช่วยเคลียร์รสและกลิ่นของอาหารน่ะค่ะ ซึ่งไม่ตีกับอาหารหละ เพราะตัวอาหารรสค่อนข้างเข้ม พอได้ไวน์มาเคลียร์ก็เลยค่อนข้างโอเคอยู่นะคะเมนูต่อไปค่ะIL Tortello della toscna (Charcoal pumpkin tortello, chickpea cream, tropea onion, chlorophyll gell, black truffle)ตัวนี้จับเข้าคู่มากับไวน์Tunuta La Fornete, Barco Reale di Carmignano DOC, Tuscany, Italy 2010ผลการกินนะคะ ตัวรสชาติโดยรวมจะมีความหวานนวลจากฟักทองนำค่ะ เทกซเจอร์หนึบเด้งดีมาก ความหนึบจะเด่นค่ะ แต่ขณะเดียวกันก็มีเทกซเจอร์อย่างอื่นที่แซมมาด้วย ตัวหอมก็หวานกำลังดีนะคะ ไวน์ตัวนี้จะเริ่มหวานกว่าตัวที่แล้วค่ะ ขาเยอะขึ้นกว่าตัวที่แล้วอีกนิด แต่ก็ยังอยู่ในโหมดเบาอยู่ และยังคงเป็นไวน์แดงนะคะ ไวน์ตัวสุดท้ายค่ะ เป็นตัวที่ได้รับการแจ้งก่อนเลยว่าเป็น Full Body นะคะ กับ Chianti Classico DOCG, Tuscany, Italy, 2013ตัวนี้ก็สมกับเป็น Full Body หละค่ะ ดูขาก่อนแล้วกันเนาะคือ กลิ่นจะเด่นกว่าทุกตัวค่ะ และรสชาติก็มาเต็มมากๆ กว่าทุกตัวเช่นเดียวกัน ถ้าเอาเฉพาะตัวไวน์ เราชอบตัวนี้อยู่นะคะ รู้สึกว่ามันเป็นเนื้อเป็นหนังดีค่ะไวน์ตัวสุดท้ายมาพร้อมกับ main course ค่ะCacciucco a modo mio (Typical Tuscan seafood soup from Livorno in Riccardo style)menu นี้ตอนแรกจะมาแบบในภาพบนก่อนนะคะ และจะมีกาซุปเล็กๆ มาด้วย จากนั้นพนักงานก็ทำการราดซุปให้ตามภาพค่ะ สำหรับรสชาตินะคะ ใครเลิฟซีฟู้ด จะฟินกับจานนี้หละค่ะ รสและกลิ่นซีฟู้ดมาแบบจัดเต็มมาก ชัดมากๆ แต่จานนี้รสจะออกหวานนำนะคะ (ซึ่งเราชอบหวานไง เราเลยโปรด 555)ซึ่งพอกินคู่กับการดื่มไวน์ตัวนี้ เราว่าเป็นตัวเดียวที่โดดและค่อนข้างไม่แมทช์กันเท่าไหร่ค่ะ กินแยกกันจะดีงามกว่านะคะ ปิดท้ายกันด้วยของหวานค่ะDolce Ponce (Rum Double chocolate mousse, Lemon sponge, sugar cane twill and coffee air)เป็นอีกเมนูที่มีความหลากหลายและ complicate มากค่ะ เริ่มทีละส่วนแล้วกันนะคะในถ้วยจะเป็น coffee air ค่ะ ซึ่งรสออกกาแฟที่ไม่เข้มไป กำลังนวลอร่อยสำหรับเราเลย กินเปล่าๆ หรือจะใช้พัฟสติ๊กดิปลงไปก็อร่อยอีกแบบนะคะตัวชูการ์เคนทวิลล์ (หรือเลมอนสปองจ์ฟระ 555) ...รสไม่เด่นค่ะ แต่สัมผัสนุ่มดีตัวดับเบิ้ลรัมช็อกโกแลตมูสนี่ รัมไม่เด่นนะคะ (ตอนแรกแขยงก่อนเลย เพราะข้าพเจ้าไม่ชอบรัมง่ะ แหะๆ) ค่อนข้างพอดิบพอดี ช่วยส่งรสช็อกโกแลตได้ดีมากๆ เลยแล้วมีถั่วคลุมมาด้วยอีก อร่อยซะงั้นค่ะ ชอบเลยไอศกรีมที่ใส่มาก็เปรี้ยวสดชื่นดีนะคะ อร่อยเช่นกันค่ะจากนั้นทางโรงแรมก็มีเซอร์ไพรซ์พิเศษสำหรับสื่อสองท่านที่มีวันเกิดตรงกับวันนี้ค่ะ หนึ่งในนั้นก็คือพี่ต้อง ณ เพจไปไหนไปด้วยกัน หรือคู่หูของพี่อุ๊ เพจตามกาลเวลานั่นเองค่ะ ทางโรงแรมนอกจากนำเค้กมาให้เป่าแล้วก็ยังมอบตุ๊กตาหมีให้ด้วยนะคะ น่ารักมากๆ เลยหละค่ะสรุปสำหรับที่นี่นะคะเป็นอีกมื้อหนึ่งที่ประทับใจ และสร้างความรู้สึกที่ดีให้กับอาหารทัสคานค่ะ เท่าที่กินมา เราว่าถูกจริตในความเข้มข้นของอาหารที่ทำจากเชฟทัสคานีนะคะ รสชาติและเทกซเจอร์มีความซับซ้อน ซึ่งนอกจากสร้างความสนุกในการกินแล้วก็ทำให้ได้ความหลากหลายด้วยค่ะถ้าท่านใดสนใจก็ลองติดต่อไปทางรร.ได้นะคะ เพราะอาหารพิเศษจากเชฟ Riccado จะมีถึงแค่สิ้นปีนี้เท่านั้นนะคะ Read More
+ 17
The above review is the personal opinion of a user which does not represent OpenRice's point of view.
Like
Share
Report
Ratings
4
Taste
5
Decor
4
Service
5
Hygiene
4
Value
babibube
Sunday Brunch แบบจัดเต็ม กินไม่อั้นกับล็อบสเตอร์ ซ
babibube
ระดับ 4
2016-10-03
90 views
Follow
ห้องอาหารสกาลินี (Scalini) ตั้งอยู่บริเวณชั้น 2 โรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท เราไปทานซันเดย์ บรันซ์เริ่มตั้งแต่เวลา 12.00 - 15.00 นตอนนี้ที่ห้องอาหารจัดเป็น Sparkling Sunday Brunch มี 3 ราคาให้เลือก- 1,800 บ.(Net) Free Flow น้ำผลไม้- 2,500 บ.(Net) Free Flow Prosecco , ไวน์แดง/ขาว และน้ำผลไม้- 3,500 บ.(Net) Free Flow Champagne , Prosecco , ไวน์แดง/ขาว และน้ำผลไม้ทั้ง 3 แบบรวมชา-กาแฟเรียบร้อยSunday Brunch ของที่นี่มีทั้งให้เดินไปตักในไลน์บุฟเฟต์ และสั่งจากเมนูไลน์บุฟเฟต์ - มุมซีฟู๊ด : มีทั้งกุ้ง , หอยนางรมฝรั่งเศส ฟิน เดอ แคลร์ (Fine de Claire)และปู แต่ที่อลังการสุดคือมีบอสตันล็อบสเตอร์อยู่ในไลน์ด้วย อยากกินเท่าไหร่เดินมาตักไปได้เลย มุมนี้ใครจะตักแล้วกินเลยก็ได้ หรือจะนำไปให้เชฟปรุงก็มีให้เลือกหลากแบบล็อบสเตอร์/กุ้ง/ปู นำไปย่างได้ , หอยนางรมกินสด ๆ หรือ นำไปทำเมนู Oyster Rockefeller , ล็อบสเตอร์นอกจากย่างแล้วยังนำไปทำเมนูอบชีสและย่างเนยกระเทียมได้อีก (มีการ์ดอยู่บนโต๊ะเลือกเมนูที่ต้องการนำไปยื่นที่มุมกริลล์)- มุมอื่น ๆ มีทั้งสลัด , ชีส , โคลคัท , สโมคแซลมอน , ขนมปัง , อาหารญี่ปุ่น , เบเกอรี่ , ไอศครีมและผลไม้- น้ำผลไม้ หลากชนิดไม่อั้น ส่วนใครเลือกแบบรวมเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ด้วยก็เติมไม่อั้นเช่นกันMain Courses เลือกสั่งได้จากในเมนู มีให้เลือก 8 รายการ- Porcini Cappuccino Soup ซุปเห็ดรสเข้มข้น- Egg benedict , smoked salmon , dill Hollandiaise sauce : ซอสไม่เปรี้ยวเกินไป ขนมปังแข็งนิด ๆ สโมคแซลมอนกำลังดีไม่เค็มเกิน ไข่เยิ้ม อาหย่อย- Lobster Risotto : เป็นข้าวสไตล์อิตาเลี่ยน ออกแนวแฉะ ๆ ใส่ก้ามล็อบสเตอร์มาด้วย- Chitarra pasta with Boston lobster : เส้นไม่นิ่มเละ ซอสเป็นซอสมะเขือเทศอมเปรี้ยวเล็ก ๆ - Sauteed black Mussels , white wine sauce : หอยแมลงภู่อบไวน์ขาวรสกลมกล่อม- Pan seared foie gras : ขนมปังแข็งไปนิด ฟัวกราส์ชิ้นไม่ใหญ่มาก แต่โอเคไม่แข็ง- Slow cooked beef short ribs : เป็นเนื้อติดซี่โครง นุ่มใช้ได้- Tournedos Rossini : เนื้อไม่เหนียวมาก สุกไปนิดชอบแรรมากกว่านี้ 55 ท๊อปด้านบนด้วยฟัวกราส์ชิ้นเล็ก ๆ มี Spinach อยู่ด้านล่างทั้งหมดทั้งมวลนี้สั่งซ้ำ ๆ ได้นะคะ ของหวานอยู่ในตู้แช่ เดินไปหยิบมาชิมได้เลย- Mango Mascarpone Crepes, Pandan Coconut Sauce : เป็นเครปสไตล์ไทย ๆ แป้งแข็งไปนิด- Cream Cheese Parfait, Caramelized Banana, Pistachio Sponge : จานนี้ทานรวมทานแยกโอเคหมด แต่สปองเค้กแห้งไปนิดอาจเป็นเพราะแช่เย็นไว้- White Chocolate Berry Macaron : อบมาดีมาการองมีขา ไม่แบน หวานไปนิดแต่ไม่ได้หวานเจี๊ยบ- Raspberry Panna cotta ใช้วนิลาบีนซะด้วย หอมๆ แต่หวานไปนิด ลดหวานลงอีกหน่อยโอเคเลย- Savarin, Caramelized Apple , Vanilla Cream : อันนี้แป้งแข็งไปหน่อย ไม่ค่อยโดน- Crispy Chocolate Choux, Cocoa Crumble, Hazelnut cream, Honey Comb : อันนี้อร่อยดีแป้งชู ไม่แข็งไม่เหนียว ช็อคโกแลตเข้มข้นโดยรวมแล้วอาหารหลากหลายดี ชอบที่มีบอสตันล็อบสเตอร์ให้กินได้ไม่อั้น ส่วนมากที่เจอในบุฟเฟต์จะจำกัดแค่คนละ 1 ตัว แต่ที่นี่ตักได้เติมได้  แถมยังมีฟัวกราส์ เนื้อ และเมนูอื่น ๆ ให้เลือกสั่งได้กว่า 10 เมนู ปรุงสดใหม่ให้ทีละจาน ไม่ได้ตั้งทิ้งไว้ให้เย็นชืด แล้วยังมีอาหารอื่น ๆ ในไลน์บุฟเฟต์อีก เอาจริง ๆ กินแค่ล็อบสเตอร์วนไปก็คุ้มละบรรยากาศในห้องอาหาร : เน้นโทนสีดำ คลาสสิค ใช้ไม้ กระจก เหล็ก (คอนเทนเนอร์) ในการตกแต่ง มีมุมที่นั่งให้เลือกนั่งหลายมุม การเดินทาง : โรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท อยู่ในซ.สุขุมวิท 24 เข้าซ.มาไม่ไกลโรงแรมอยู่ซ้ายมือ ใครขับรถมาจอดได้ที่โรงแรม ส่วนคนมา BTS ให้ลงสถานีพร้อมพงษ์ ใช้ทางออกที่ 4 เดินเข้าซ.ไม่ไกลถึงโรงแรม เมื่อเข้ามาในโรงแรมแล้วให้ขึ้นบันไดวนมาที่ชั้น 2 ขึ้นมาก็จะเจอห้องอาหารสกาลินี่Read More
+ 31
The above review is the personal opinion of a user which does not represent OpenRice's point of view.
Like
Share
Report
Ratings
4
Taste
5
Decor
5
Service
5
Hygiene
5
Value
Recommended Dishes
seafood on ice
Lobster
กุ้ง
หอยนางรมฝรั่งเศส ฟิน เดอ แคลร์
ปู
Seafood on ice
Lobster
Grilled Lobster
Lobster Thermedor
oyster Rockefeller
น้ำผลไม้
Porcini Cappuccino Soup
Egg benedict
Sauteed black Mussels
Pan seared foie gras
Slow cooked beef short ribs
Tournedos Rossini
Cream Cheese Parfait
White Chocolate Berry Macaron
Raspberry Panna cotta
Crispy Chocolate Choux
ผลไม้
Porcini Cappuccino Soup
Do is On The WAY
ซันเดย์บรั้นช์ล็อบสเตอร์ไม่อั้นทำได้เด็ดสุด
Do is On The WAY
ระดับ 4
2016-05-06
132 views
Follow
Sunday Brunch ล่าสุดของห้องอาหาร จัดล็อบสเตอร์แบบไม่อั้นมีทั้งแบบเย็นและย่างร้อนๆเนื้อเต็มแน่นหวานหนึบหนับสุดๆอร่อยกว่าตามสั่งหลายๆร้านเลยด้วยซ้ำให้เป็นเกรดบุฟเฟ่ต์อันดับต้นๆของเมืองไทยตอนนี้เลย นอกจากนี้ยังมีเมนูตามสั่งแบบไม่อั้นซึ่งก็ทำออกมาได้ดีอีกด้วยเพิ่มเงินอีกนิดกับสปาร์คกลิ้งแบบไม่อั้นเติมเต็มบรรยากาศแบบสุดๆครับ.รายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.reviewnowz.com/hilton-sukhumvit-scalini-sunday-brunch-2016/รายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.reviewnowz.com/hilton-sukhumvit-scalini-sunday-brunch-2016/Read More
+ 8
The above review is the personal opinion of a user which does not represent OpenRice's point of view.
Like
Share
Report
Ratings
5
Taste
5
Decor
5
Service
5
Hygiene
5
Value
love dining
Sunday Brunchกรุงเทพ,อะลาคาร์ตบุฟเฟ่อาหารอิตาเลียน
love dining
ระดับ 4
2014-11-03
331 views
Follow
Scalini, Hilton Sukhumvit BangkokAddressHILTON SUKHUMVIT BANGKOK11 SUKHUMVIT SOI 24, KHLONG TON, BANGKOK, 10110, THAILANDTEL: +66-2-6206666 FAX: 66-2-6206699ที่ facebook.com/ScaliniBangkok.Promotion :Scalini Weekend Italian A-la-carte BrunchEvery Saturday & Sunday from 12.00 – 15.00สกาลินี เสิร์ฟอะลาคาร์ตบรั้นช์ ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ในราคา 2,200 บาทถ้วนต่อท่าน ตั้งแต่เวลา 12.00-15.00 น.THB 2,200 net / personTHB 2,500 net / person including beverages น้ำเปล่า น้ำผลไม้ และกาแฟรายละเอียดโปรโมชั่น            Scalini Weekend Italian A-la-carte Brunch คือ A-la-carte Buffet ที่สามารถสั่งอาหารตามเมนูที่กำหนดได้แบบไม่จำกัด โดยมีเมนูให้เลือกทั้งสิ้น 30 รายการ อาทิเช่น หอยนางรมฝรั่งเศสฟินเดอแคลร์ เสิร์ฟพร้อมคาเวียร์และโฟมโพรเซ็กโก้ สลัดผักออร์แกนิก หลากหลายเมนูจากโครงการหลวง ตลาดปลาและอาหารทะเลสดทั้ง ปลากะพง ร็อคล็อบสเตอร์ หอยแมลงภู่สีดำ ต่อด้วยเมนูจานหลักอย่าง ริซอตโต้เสิร์ฟกับฟัวร์กราส์ เนื้อออสเตรเลียนริบอายย่าง              นอกจากนี้ยังมี นักร้องสาวสวยมาคอยขับกล่อมสร้างบรรยากาศระหว่างทานอาหารทำให้ A-la-carte Brunch มื้อนี้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นเมนูอาหารMorning Glory Wakes up!(F) Egg Norwegian, smoked salmon, bagel bread, chives b?arnaise cream(V) Vegetable Frittata on toast, tapenade, rocket salad(V) Seasonal Fruit Plate – organic berries, honey yogurt(V) Ricotta pancakes, maple syrup, seared banana, strawberry compoteOrganic Royal Project Farm    (V) Seasonal mix salad, bell peppers comfit, lemon ricotta, cherries dressing    (V) Rocket salad, cherry tomatoes, bocconcini infuse, balsamic vinegar    (F) Radicchio salad, beetroot, prawns, mango chutney, mustard vinaigrette     (V) Scalini Caesar salad prepared by the tableRefreshing appetizers     (F) Smoked king salmon blini, chives, creme frache     (M) Assorted Italian cold cuts and cheeses, by chef selection     (M) Italian steak tartar (live station by service)      (F) Oyster Fine de Claire with caviar and Prosecco foam      (V) Tuscan Bruschetta, topped with Portobello mushrooms and caprino cheese      (M) Pata Negra ham filled potato bombs on spicy ketchup      (M) Beef Carpaccio, rocket salad, parmesan shavesSeafood and fish market       (F) Seared snapper, capers Mounier style       (F) Refreshing pacific rock lobster, Confit potato, Kalamata and saut?ed baby spinach       (F) Sauteed black mussels with Espelette chili in white wine sauce       (F) Swordfish belly served with foie Gras with onion compote and misoMain Affaire Event        (M) Orechiette pasta, pork sausage, Portobello mushrooms, spicy tomato        (V) Our Risotto with wild mushrooms and balsamic syrup        (M) Ferron rice risotto with pan fried foie gras        (F) Spaghetti Verrigni with seafood        (F) Seafood pizza, calamari, tuna, salmon, prawns, onions, chili, oregano        (V) Margherita pizza , fior di latte mozzarella        (M) Slow cooked lamb ribs on truffle puree with lentil stew        (M) Roasted Australian rib eye served withh butternut puree and white mushroom                   sauce        (M) Chicken cacciatore with mushrooms and crushed potatoGrandmother Finale          Homemade Lemon Tart          Signature Scalini Tiramisu          Mom ’s Chocolate cake          Blueberry cheese cake American Style          Provencal Strawberry Tart          Affogato, Vanilla ice cream with espresso coffee          Ice cream selectionรายการที่ได้ลองชิม1. Vegetable Frittata on toast, tapenade, rocket salad2. Egg Norwegian, smoked salmon, bagel bread, chives barnaise cream3. Scalini Caesar salad prepared by the table4. Radicchio salad, beetroot, prawns, mango chutney, mustard vinaigrette5. Rocket salad, cherry tomatoes, bocconcini infuse, balsamic vinegar6. Italian steak tartare (live station by service)7. Oyster Fine de Claire with caviar and Prosecco foam8. Beef Carpaccio, rocket salad, parmesan shaves9. Tuscan Bruschetta, topped with Portobello mushrooms and caprino cheese10. Ferron rice risotto with pan fried foie gras11. Margherita pizza , fior di latte mozzarella12. Spaghetti Verrigni with seafood13. Chicken cacciatore with mushrooms and crushed potato14. Sauteed black mussels with Espelette chili in white wine sauce15. Slow cooked lamb ribs on truffle puree with lentil stew16. Roasted Australian rib eye served withh butternut puree and white mushroom sauce17. Seared snapper, capers Mounier style18. Affogato, Vanilla ice cream with espresso coffee19. Homemade Lemon Tart20. Signature Scalini Tiramisu21. Provencal Strawberry TartRead More
+ 16
The above review is the personal opinion of a user which does not represent OpenRice's point of view.
Like
Share
Report
Ratings
5
Taste
5
Decor
5
Service
5
Hygiene
5
Value
Recommended Dishes
Vegetable Frittata on toast, tapenade, rocket salad
Egg Norwegian, smoked salmon, bagel bread, chives barnaise cream
Scalini Caesar salad prepared by the table
Radicchio salad, beetroot, prawns, mango chutney, mustard vinaigrette
Rocket salad, cherry tomatoes, bocconcini infuse, balsamic vinegar
Italian steak tartare (live station by service)
Beef Carpaccio, rocket salad, parmesan shaves
Tuscan Bruschetta, topped with Portobello mushrooms and caprino cheese
Margherita pizza , fior di latte mozzarella
Spaghetti Verrigni with seafood
Chicken cacciatore with mushrooms and crushed potato
Sauteed black mussels with Espelette chili in white wine sauce
Slow cooked lamb ribs on truffle puree with lentil stew
Roasted Australian rib eye served withh butternut puree and white mushroom sauce
Seared snapper, capers Mounier style
Affogato, Vanilla ice cream with espresso coffee
Homemade Lemon Tart
Signature Scalini Tiramisu
Provencal Strawberry Tart
Vegetable Frittata on toast tapenade rocket salad
Egg Norwegian smoked salmon bagel bread chives barnaise cream
Radicchio salad beetroot prawns mango chutney mustard vinaigrette
Rocket salad cherry tomatoes bocconcini infuse balsamic vinegar
Beef Carpaccio rocket salad parmesan shaves
Tuscan Bruschetta topped with Portobello mushrooms and caprino cheese
Margherita pizza fior di latte mozzarella
Seared snapper capers Mounier style
Affogato Vanilla ice cream with espresso coffee
Related Review
Reviews submitted by the same member to the same restaurant within 30 days.
love dining
Scalini(สกาลินี) อาหารอิตาเลียนรสเด็ด กรุงเทพ
love dining
ระดับ 4
2014-10-16
188 views
Follow
Scalini(สกาลินี) อาหารอิตาเลียนรสเด็ด กรุงเทพ_ Wine DinnerAddress :           ห้องอาหาร Scalini (สกาลินี)           Hilton Sukhumvit Bangkok           11 Sukhumvit Soi 24, Khlong Ton, Bangkok, 10110, Thailand           TEL: +66-2-6206666 FAX: 66-2-6206699              เวลาเปิดทำการ เวลา 6.00 - 23.00 น. ทุกวันการเดินทาง BTS พร้อมพงศ์ เดินเข้าซอยสุขุมวิท 24 มาประมาณ 100 เมตร โรงแรมอยู่ซ้ายมือ------------------------------           Scalini(สกาลินี) เป็นห้องอาหารสไตล์อิตาเลียน-อเมริกัน ของ โรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพฯนำเสนอเมนูในคอนเซปท์ อาหารอิตาเลียนโฮมเมดในสไตล์ของอเมริกัน ที่ผสมผสานกลิ่นอายของอเมริกาบรรยากาศของห้องอาหารเป็นโทนสีเข้ม และสีดำ ฝาผนังของห้องอาหารเพนท์ลายด้วยภาพของเมืองนิวยอร์ค เพื่อสื่อถึงความเป็นอเมริกัน ผนังส่วนนึงของห้องอาหารถูกออกแบบเป็นไวน์เซลล่าร์สวยงามลงตัวเข้ากับบรรยากาศของห้องอาหาร            มี เชฟอิจิดิโอจากประเทศอิตาลี เป็นเชฟประจำห้องอาหารสำหรับมื้อนี้ผมมีโอกาสได้ไปชิมอาหารตามเซ็ทคอร์สของ"Wine Discovery with Chef Egidio & Penfolds"โดยมีอาหาร 4 คอร์ส แพร์ริ่งมากับไวน์ 4 ตัว (ตามรายละเอียดเมนู)ราคา 2,900++ THB จัดขึ้นเดือนละครั้งงานเริ่มประมาณ 19.00 น.โดยจะเสริฟ Appetizer ที่ห้องอาหาร Mondo ซึ่งเป็น Bar and Lounge(ชั้น G ของโรงแรม ฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพฯ )มีทั้ง Fin De Claire Oyster พร้อมเครื่องเคียง เช่นไข่ปลาคาเวียร์ ซอสชนิดต่างๆ, Tuna akami Cube ปลาทูน่าทำมาเป็นก้อนพอดีคำ รสชาติออกเค็มนิดๆ,Wagyu tartar ราดด้วยซอย hazelnut, Parmesan nitrogen and balsamic syrup พามิซานชีสที่มีลักษณะคล้ายไอศครีม รสชาติเปรี้ยวAppetizer เหล่านี้ดื่มคู่กับไวน์ขาว Penfolds Koonunga Hill Semillon Sauvignon Blancประมาณ 20.00 น. เริ่มเสิร์ฟคอร์สแรกที่ห้องอาหารScalini (สกาลินี)Complimentaty เป็น ขนมปัง ทานกับ DIP ที่ทำมาจากฟักทองและพาสลี่คอร์สที่ 1 : Salmone in lattina di caviale               Citrus Salmon gravelax served along caspiar caviar with               blood orange jelly and yuzu sake sherbet                Paring with Penfolds Koonunga Hill Autumn Riesling                 แซลมอนรมควันรสเค็ม ทานคู่กับส้มโอรสเปรี้ยว                 และเยลลี่ที่ทำจากผลส้ม ความพิเศษของเมนูนี้อยู่ที่                ไอศครีมเชอร์เบทที่เข้ากับอาหารได้อย่างลงตัว                เสริฟมาในกล่องคาร์เวียร์สุดเก๋                 พร้อมกับไวน์ขาว Penfolds Koonunga Hill Autumn Rieslingคอร์สที่ 2 :     Tagliatelle di mamma ai porcini, castelmagno e tartufo                   Handcrafted tagliatelle with porcini mushrooms and black truffle sauce                   topped with Castemagno cheese shaves                   Paring with Penfolds bin 9 Cabernet Sauvignon                   พาสต้าเส้น Tagliatelle ทานคู่กับซอสเห็ดทรัฟเฟิลดำ                   โรยหน้าด้วย Castemagno cheese จานนี้รสเค็มอ่อนๆค่อนไปทางจืด                   มีรสเผ็ดนิดๆ จากซอสเห็ดทรัฟเฟิลดำ                   พร้อมกับไวน์แดง Penfolds bin 9 Cabernet Sauvignonคอร์สที่ 3  :     Maiale iberico cotto a bassa temperature                    ma bruciato clamorosamente                    Slow cook Iberico pork loin with poivrade artichoke, Italian amaretti cookie                    presented with topinambur cr?me and Pecorino custard                    Paring with Penfolds Bin 389 Cabernet Shiraz                    หมูสันนอก Maiale iberico นำไปตุ๋นแบบสโลว์คุก                    จนเนื้อนุ่ม ทานคู่กับผลฟิกซ์ซึ่งมีรสหวาน แก้เลี่ยนด้วยอาร์ติโช้ค                    พร้อมกับไวน์แดง Penfolds Bin 389 Cabernet Shirazเซอร์ไพร์สคอร์ส (รายการนี้เป็น Complimentary ที่ทางห้องอาหารไม่ได้แจ้งไว้ล่วงหน้า                     พานาคอตต้าสตรอเบอร์รี่ เสริฟพร้อมกับไอศครีมราสเบอร์รี่รสเปรี้ยว                     เป็นของหวานล้างปากอย่างดีทีเดียวคอร์สที่ 4 :        Foresta dolce                      Chef Gift Autumn Sweet forest                       Paring with Penfolds Club Tawny Port                       ช็อกโกแลตทรัฟเฟิล เสิร์ฟมาพร้อมกับไอศครีมวานิลลา                        ตกแต่งจานด้วยกลีบดอกไม้และครัมเบิลรสช็อกโกแลต                        พร้อมกับไวน์ Penfolds Club Tawny Port                        เป็นของหวานปิดท้ายที่สมบูรณ์แบบRead More
+ 8
The above review is the personal opinion of a user which does not represent OpenRice's point of view.
Like
Share
Report
Ratings
5
Taste
5
Decor
5
Service
5
Hygiene
5
Value
Recommended Dishes
บรรยากาศห้องอาหาร
Tuna akami Cube
Parmesan nitrogen and balsamic syrup
Fin De Claire Oyster
Complimentaty
Salmone in lattina di caviale
Tagliatelle di mamma ai porcini
Panacotta(Surprise Dessert)
Foresta dolce
Related Review
Reviews submitted by the same member to the same restaurant within 30 days.
Do is On The WAY
อาหารชุดมื้อกลางวันวันธรรมดาสำหรับสมาชิกฮิลตันพรีเ
Do is On The WAY
ระดับ 4
2014-09-01
124 views
Follow
วันก่อนไปใช้สิทธิทานอาหารชุดมื้อกลางวันวันธรรมดาสำหรับสมาชิกฮิลตันพรีเมี่ยมคลับฟรีที่ห้องอาหารสกาลินี่บรรยากาศตอนกลางวันให้อารมณ์สบายๆเป็นกันเองกว่าช่วงค่ำ วันที่ไปคนเยอะแต่อาหารก็มาเร็วดี การบริการดีอาหารวัตถุดิบสดสะอาดดี รสชาติโดยรวมก็ทำได้ดีเช่นกัน ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับท่านที่จะใช้บัตรทานฟรีของฮิลตันพรีเมี่ยมคลับครับ.รายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.reviewnowz.com/scalini-lunch-set-2014/รายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.reviewnowz.com/scalini-lunch-set-2014/Read More
+ 8
The above review is the personal opinion of a user which does not represent OpenRice's point of view.
Like
Share
Report
Ratings
4
Taste
5
Decor
5
Service
5
Hygiene
5
Value
Recommended Dishes
Seared Mozzarella Cheese
Roasted Sea-bass
Lemon Tart