1
0
0
เบอร์โทร.
092-449-9895
เหมาะสำหรับ
ลำลอง
เวลาเปิด-ปิด
วันนี้
08:00 - 22:00
จันทร์ - อาทิตย์
08:00 - 22:00
วิธีจ่ายเงิน
เงินสด อื่นๆ
ข้อมูลอื่นๆ
สำรองโต๊ะ
ใบกำกับภาษี
มีแอร์
เว็บไซต์ร้านอาหาร
http://www.facebook.com/eurekanitrocoffee/
ข้อมูลข้างต้นใช้เพื่ออ้างอิงเท่านั้น กรุณาตรวจสอบข้อมูลกับร้านอาหารอีกครั้ง
รีวิว (1)
สำหรับวันนี้ก็จะมารีวิวร้านอาหารอีกร้านที่ได้ไปกินแล้วประทับใจนะคะกับร้านนี้ค่ะ Eureka Coffee Tap สาขา MeStyle ห้วยขวางค่ะสำหรับพิกัดของร้านนี้จะอยู่แถวห้วยขวางนะคะ สามารถเซิร์ชหาในกูเกิ้ลด้วยคีย์เวิร์ด Eureka Coffee Tap ได้เลยค่ะ ยูเรก้าสาขานี้จะอยู่ที่ด้านหน้าของโรงแรม MeStyle นะคะ ซึ่งถ้าใครเอารถส่วนตัวมา ก็สามารถจอดที่ด้านข้างๆ ของร้านซึ่งจะมีพื้นที่จอด หรือว่าจะไปจอดที่ที่จอดรถของโรงแรมก็ได้ค่ะ บรรยากาศภายในร้านค่ะ จะมีเคาน์เตอร์ที่มีแท็ปคอฟฟี่ไนโตรอยู่ทางขวามือ ตัวร้านกว้างขวางพอควรเลยนะคะ จัดเก้าอี้ไม่แน่นมากด้วย และค่อนข้างหลากหลายสไตล์อยู่ค่ะ สำหรับร้าน ยูเรก้าคอฟฟี่แท็ป (Eureka Coffee Tap) เกิดจากการร่วมมือของ 2 หุ้นส่วนหลัก คือ คุณกิฟท์-จาทัตยา กิตติบัณฑร และ คุณกานต์-ภูมิรัตน์ รังคสิริ ที่ทำงานด้านโฆษณาและมาร์เก็ตติ้งมาก่อน ด้วยความหลงใหลในกาแฟและอาหารการกิน ทำให้ทั้งสองได้ศึกษาค้นคว้าวิธีการครีเอทเมนูกาแฟต่าง ๆ จนได้เจอเครื่อง Nitro Cold Brew ซึ่งทำให้เกิดไอเดียธุรกิจประกอบเครื่อง Nitro Cold Brew ขายให้กับผู้สนใจ และต่อยอดมาจนเป็นคาเฟ่แห่งนี้นั่นเองหละค่ะซึ่งเราได้คุยกับคุณกิฟท์ ก็ได้เล่าให้ฟังว่าที่มีความคิดในการใช้แท็ปไนโตรเจน เพื่อคุมรสกาแฟให้นิ่ง แล้วด้วยความที่คนไทยจะติดกาแฟที่ต้องใส่นม ทางร้านก็ต้องคิดว่าทำอย่างไรให้ยังคงความเป็นกาแฟโคลด์บรูวได้อยู่ค่ะ คือเป็นโคลด์บรูวแบบเข้มแล้วใส่นมแล้วกาแฟต้องไม่พัง อย่างไซรัปเอง ทางร้านก็ไม่สามารถใช้ไซรัปตามท้องตลาดทั่วไปได้ ทางร้านจึงทำเองด้วยนะคะ ซึ่งเมนูที่โด่งดังมาตั้งแต่ยูเรก้าสาขาแรกก็คือไข่เค็มลาเต้นั่นเองหละค่ะ แต่ ณ ปัจจุบันนี้ ร้านนี้ก็มีเมนูครีเอทๆ หลายเมนูเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นโฮจิฉะข้าวแต๋น ชาเย็นทุเรียน มัจฉะใบเตยลาเต้ และเมนูใหม่ล่าสุดอย่างเบคอนคาราเมลลาเต้นะคะ แต่ที่สำคัญเลยก็คือ สาขานี้มีอาหารหลากหลายเมนูมากยิ่งกว่าสาขาอื่นๆ ค่ะ เรียกว่าเป็น Extraordinary Food กันเลยทีเดียวค่ะ ให้ดูเมนูแบบเป็นตัวอักษรพร้อมราคากันก่อนแล้วกันนะคะขอประเดิมด้วยเมนูเครื่องดื่มใหม่เอี่ยมก่อนเลยแล้วกันค่ะกับ Bacon Caramel Latte 180 บาท ตอนที่เห็นชื่อตอนแรกก็แบบว่า...เอิ่ม รสชาติจะเป็นไงเนี่ย แต่กลายเป็นว่าอร่อยเฉยเลยค่ะ มันมีความหอมหวานของคาราเมลแต่มีความเจือเค็มของเบคอน เข้ากันมากเลยค่ะและไม่คาวใดๆ เลยด้วยค่ะ ซึ่งคาราเมลของที่นี่ใช้น้ำตาลธรรมชาติ โดยในร้านจะมีน้ำตาลทั้งหมดหกแบบ เลือกมาจากสามแหล่งค่ะ ซึงตัวเมนูนี้เป็นเมนูที่ทางร้านทำในวาระครบรอบสองปีค่ะ มี element ทั้งหมด 7 อย่างมีทั้งเบคอนครัมเบิลและ tuile ค่ะ อารมณ์เหมือนกินแมคคิอาโตผสมโฟลตนะคะ ต่อไปค่ะกับเมนูดังของร้านนี้ ไข่เค็มลาเต้ 140 บาท เมนูลาเต้ที่เพิ่มรสชาติแปลกใหม่ด้วยไซรัปไข่เค็มโฮมเมดรสเค็มนิด ๆ ผสมกับนมสดและกาแฟ Cold Brew ท็อปด้วยฟองนมและหยอดด้านบนสุดด้วยขนมทองหยอดกรอบ ทางร้านแนะนำให้ใช้หลอดดูดจากล่างสุดและค่อย ๆ ดึงหลอดพร้อมดูดทีละนิด เพื่อให้ได้รสชาติทั้งหมดนะคะ ซึ่งอร่อยอีกแล้วววว คือยอมรับว่าตอนแรกนี่ก็ชอบเรื่องของความครีเอทนะคะ แต่ไม่ได้คาดหวังว่าครีเอทแล้วต้องอร่อยด้วย พอเจอว่าอร่อยด้วยนี่ทำให้ยิ่งปลื้มหนักเลยค่ะเมนูต่อไปค่ะ ชาเย็นทุเรียน 150 บาทค่ะ แก้วอื่นเราชิม แต่แก้วนี่นี่ของเราเต็มๆ เลยค่ะ ตัวชาหอมมันไม่หวานจัดกำลังดี เพิ่มความมันเจือหวานนิดๆ และกรุบกรอบของทุเรียนทอดกรอบ ซึ่งตัวชาเองก็มีไซรัปหรืออะไรสักอย่างที่เป็นทุเรียนชัดๆ ด้วยค่ะ โดยทางร้านเลือกใช้ทุเรียนก้านยว เพราะต้องการให้กลิ่นชัดค่ะ เพราะฉะนั้นเมนูนี้เหมาะอย่างยิ่งกับคนที่ชอบทั้งชาและทุเรียนอย่างเรา 555มัจฉะใบเตยลาเต้ 160 บาท เมนูนี้ตัวคุณกิฟท์เล่าให้ฟังว่า มีแรงบันดาลใจจากใบชาที่ไปได้ทั่วโลก เลยอยากยกใบเตยของไทยให้มีมูลค่ามากขึ้น อยากจะผลักดันของไทยให้ได้มาตรฐาน ข้างล่างเป็นพุดดิ้งมะพร้าวอ่อน ข้างบนเป็นมะพร้าวกะทิ เป็นดีเสิร์ทดริ๊งค์ค่ะ ตัวนี้เราไม่ได้ชิมนะคะ แต่เอาข้อมูลและหน้าตามาฝากให้ชมกันค่ะและแน่นอนว่ามาที่นี่ไม่ชิมเครื่องดื่มไนโตรก็กระไรเลยนะคะ ซึ่งมีด้วยกันดังนี้- ไนโตรโคลด์บรูว 100 บาท- ไนโตรชาไทย 100 บาท- ไนโตรคาสคาราน้ำผึ้ง 100 บาท- ลาเต้โคลด์บรูวเย็น 80 บาท- ชาไทยเย็น 80 บาท แต่วันนั้นได้ลองสามตัวค่ะ ซึ่งดีไปคนละแบบนะคะ (แบ่งกันชิมคนละอย่างกับเพื่อนค่ะ) มันเหมือนมีความละมุนมากขึ้น แล้วก็ดึงกลิ่นและรสให้ออกมาชัดขึ้นค่ะอีกหนึ่งเครื่องดื่มค่ะ สำหรับใครที่อาจจะไม่ใช่สายนม ซากุระยูสุเลมอนเนด 150 บาทออกแนวหวานอมเปรี้ยวหอม เป็นเครื่องดื่มที่ให้ความรู้สึกผู้ยิ้งผู้หญิงหละค่ะ ดื่มแล้วสดชื่นดีมากเลย ใครไม่ใช่สายนมก็แนะนำตัวนี้นะคะ Chicken Waffle 280 บาท
วาฟเฟิลไก่ทอด มูสเห็ด ซอสมัสตาร์ดและสลัด โดยตัวซอสที่ใช้ราดนี่เคี่ยว 48 ชั่วโมงนะคะ เป็นซอสมัสตาร์ดกับกระดูกไก่เคี่ยว ส่วนตัวเนื้อไก่ก็มีการหมักกับนม ทำให้นุ่มค่ะ อร่อยค่ะจานนี้ ขนาดกินตอนเย็นแล้ว เพราะมัวแต่ถ่ายรูปกัน ก็ยังอร่อยอยู่ เป็นจานเริ่มต้นที่ดีนะคะFoie Gras Bite 380 บาทจานนี้เป็นจานหนึ่งที่เราประทับใจมากๆ นะคะ กับการเอาฟัวร์กราส์มาทำเมี่ยง ตัวฟัวร์กราส์ทำมาแบบไม่แห้ง ยังมีความชุ่มฉ่ำ และความเลี่ยนจากมันจัดๆ ของความเป็นฟัวร์กราส์มีรสชาติจัดจ้านของเครื่องปรุงเมี่ยงมาช่วยตัดรส ทำให้มันอร่อยและกินได้เยอะเลยค่ะ เป็นอีกจานที่ครีเอทได้ดีนะ เราชอบมากเลยแหละยำสลัดปูนิ่ม Soft Shell Crab Spicy Salad 320 บาท เคยกินสลัดปูนิ่มที่อื่นมานะคะ แต่ที่นี่ทำได้ต่างคือ มีรสชาติเผ็ดแซมมาด้วยค่ะ ซึ่งดี๊ดีอ้ะ เพราะปูนิ่มทอดเนี่ย จริงๆ สำหรับเรามันเลี่ยนง่ะ พอได้รสชาติเผ็ดแซมเปรี้ยวมา ทำให้รสชาติมันพอดีหละเมนูต่อไปค่ะ โฮตาเตะเฟตตูชินี่ทรัฟเฟิล 360 บาท ตัวเส้นเฟตตูชินี่นี่ผสมกับดอกคำฝอยนะคะ คุณกิฟท์บอกว่า เพื่อช่วยลดไขมันค่ะ 55555 (อร่อยปากแต่รักสุขภาพด้วยงี้) กลิ่นทรัฟเฟิลหอมชัดมากค่ะ และโฮตาเตะก็สดเด้งมาก อร่อยอีกแล้วค่ะ นี่กินมายังไม่มีจานไหนไม่ถูกปากเลยนะคะสปาเก็ตตี้หมูกรอบคั่วเกลือ 220 บาทเส้นอัลดังเต้มากค่ะ หมูกรอบเป็นสโมคกี้พอร์คเบลลี่นะคะ โดยนำไปย่างบนเตาถ่านเพื่อรีดน้ำมันก่อน จากนั้นนำมาผัดเหมือนคั่วเกลือ ส่วนตัวไข่ดาวนี่ก็เป็นไข่เป็ดที่เอาไปดองให้เกือบเป็นไข่เค็มด้วยค่ะจานนี้อร่อยมากกกกกกก ชอบที่สุดในบรรดาพาสต้าทั้งหมดที่ได้ชิมเลยค่ะ หมูกรอบก็กร๊อบกรอบ รสชาติทั่วถึง รสจัด เข้ม อร่อยหละ ขนาดกินตอนเย็นๆ แล้วยังอร่อยง่ะ ถ้าได้กินตอนร้อนๆ นี่น่าจะยิ่งฟินเลยค่ะ ตัวไข่ก็ไม่เค็มนะคะ แต่ไข่แดงกลับมันกว่าไข่ปกติทั่วไป (น่าจะเป็นเพราะเอาไปดอง) ดีย์ค่ะจานนี้ต่อไปค่าากับเมนูนี้เสต็กปลาแซลมอนซอสเบอร์บลองค์ 420 บาทแซลมอนคุ้กมาได้ดีมากเลยค่ะ หนังกรอบแต่เนื้อในไม่แห้ง ซอสจะมีทั้งความครีมมี่และอมเปรี้ยวนิดๆ เป็นการผสานรสที่ดีเลยค่ะ ใครที่ชอบแซลมอนน่าจะโปรดกับเมนูนี้นะคะ วันนั้นก็มีคนชอบเมนูนี้กันค่ะเสต็กแกะย่างเคลือบสมุนไพรและซอสแกะ 790 บาทเป็นซี่โครงแกะ Mottainai ที่นำเข้าจากออสเตรเลียนะคะ ตัวสมุนไพรเฮิร์บครัชที่เคลือบนี่ทำจากใบสะระแหน่ค่ะ ใช้สีธรรมชาติ กินกับซอสเบอร์รี่คอมโพสแทนมินท์ซอสแบบที่ที่อื่นๆ ทำนะคะ ตัวซอสทำจากกระดูแกะและน้ำมันแกะค่ะเมนูนี้สายแลมบ์เลิฟเวอร์รักแน่ค่ะ แกะไม่มีกลิ่นสาบเลย นุ่ม อร่อยมากเลยค่ะปิดท้ายกันด้วยเมนูนี้ฮ้าบบบบเซิร์ฟแอนด์เทิร์ฟ สเต็กล็อบสเตอร์และสเต็กเนื้อวากิวในจานเดียวกัน 1290 บาทอันนี้มาแบบทูอินวันนะคะ ถูกใจทั้งสายเนื้อและสายล็อบสเตอร์เลย แต่อันนี้ไม่ได้ชิมนะฮับ เป็นของอีกโต๊ะหนึ่งที่ไปพร้อมกัน 5555 มีซอสมาให้สามแบบค่ะ รวมทั้งเลมอนที่เอามาบีบเพิ่มรสให้ลอบสเตอร์ได้ด้วย ถามคนกินบอกว่าเนื้อนิ่มดีและลอบสเตอร์ก็สดเด้งดีเช่นกันค่าา จากนั้นทางร้านก็เลยเชิญเราเข้าไปดูในครัวไปดูการทำเส้นพาสต้าสดๆ ค่ะ เห็นชัดเลยว่าผสมดอกคำฝอยจริงๆ ด้วยนะเอ้า แล้วก็ต้องมีการนวด การรีดให้แผ่นบางก่อนแล้วค่อยทำเป็นเส้นค่ะปิดท้ายด้วยโฉมหน้าผู้ปรุงอาหารและเครื่องดื่มที่สร้างความประทับใจครั้งนี้ค่ะ เชฟต้น - เชฟหลักของทางร้านและน้องตั๊กค่ะ บาริสต้า ตัวเชฟต้นเราได้เห็นตอนทำอาหารนิดเดียวนะคะ แต่น้องตั๊กนี่ได้เห็นน้องทำเครื่องดื่มหลายเมนูเลย (เพราะเคาน์เตอร์อยู่ข้างนอก) เรารู้สึกว่าน้องละเมียดและละเอียดมากเลยค่ะ ที่ร้านนี้จะใช้คนรุ่นใหม่นะคะ แต่ฝีมือดีนะ ครีเอทและทำได้รสชาติดีสมกับคอนเซปต์ที่เจ้าของต้องการเลยค่ะ สรุปสำหรับร้านนี้นะคะ วันนั้นเรียกว่าประทับใจหลายจานเลยค่ะ ครีเอทด้วย รสชาติดีด้วย ซึ่งเราว่าสำคัญเลยคือ ต้องไปวันที่เชฟอยู่หละ เพราะถ้าเป็นเชฟคนอื่น แม้ทางร้านจะบอกว่ามีครัวกลางแล้วก็ส่งมาก็ตาม แต่เรื่องของอาหาร เราว่ามีปัจจัยอะไรกระทบนิดหน่อยก็ส่งผลต่อรสชาติได้นะคะ แหะๆ เพราะฉะนั้นแนะนำให้ถ้าอยากกินแบบทุกอย่างอร่อยอย่างที่วันนั้นเราได้กิน ควรเช็คว่าเชฟอยู่ไหมนะคะ รวมทั้งตัวเครื่องดื่มก็ควรไปวันที่คุณตั๊กอยู่หละ เพราะจะได้ความเป๊ะมากกว่าค่ะ แฮร่... อ่านต่อ
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)