วิดีโอ
อ่านรีวิวฉบับเต็ม
2012-05-04
126 วิว
เมื่อวานนี้ได้ไปทานอาหารกับแขกญี่ปุ่น พอค้นหาในอินเตอร์เนตก็เจอร้านน่าสนใจแห่งนึงค่ะเนื่องจากแขกญี่ปุ่นกลุ่มนี้ทานอาหารไทย อาหารเผ็ด และอาหารญี่ปุ่นสไตล์คนไทยไม่ได้(ที่ประยุกต์ให้เข้ากับรสชาติสำหรับคนไทย) ที่สำคัญและยากสุดก็คือ ต้องสามารถสูบบุหรี่ระหว่างทานอาหารไปด้วยได้ค่ะ ทำให้โจทย์นี้ยากมากแต่จินนี่ก็เจอร้านอาหารตามที่ต้องการแว้วววว ไปกันเลยค่า Sha Raku เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นในซอยสุขุมวิท 23 หาไม่ยากเลยค่ะ เข้าซอยไปประมาณ 500 เมตร ร้านอยู่ขวามือ สไตล์อาหารแบบ Izakaya ซึ่งคือร้านแบบทานไปดื่มไปค่ะ ส่วนมากเป็นช่วงเย็นๆดึกๆ(แต่ที่นี่เปิดตั้งแต่ 11.00 - 01.00 น. Lunch Time 11.00 - 16.00 น.)มีที่จอดรถอยู่บริเวณลานหน้าร้า
เนื่องจากแขกญี่ปุ่นกลุ่มนี้ทานอาหารไทย อาหารเผ็ด และอาหารญี่ปุ่นสไตล์คนไทยไม่ได้
(ที่ประยุกต์ให้เข้ากับรสชาติสำหรับคนไทย) ที่สำคัญและยากสุดก็คือ
ต้องสามารถสูบบุหรี่ระหว่างทานอาหารไปด้วยได้ค่ะ ทำให้โจทย์นี้ยากมาก
แต่จินนี่ก็เจอร้านอาหารตามที่ต้องการแว้วววว ไปกันเลยค่า
Sha Raku เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นในซอยสุขุมวิท 23 หาไม่ยากเลยค่ะ เข้าซอยไปประมาณ 500 เมตร
ร้านอยู่ขวามือ สไตล์อาหารแบบ Izakaya ซึ่งคือร้านแบบทานไปดื่มไปค่ะ ส่วนมากเป็นช่วงเย็นๆดึกๆ
(แต่ที่นี่เปิดตั้งแต่ 11.00 - 01.00 น. Lunch Time 11.00 - 16.00 น.)
มีที่จอดรถอยู่บริเวณลานหน้าร้านค่ะ ทางเข้าด้านซ้ายจัดเป็นสวนเล็กๆ ดูร่มรื่นและน่ารักดีค่ะ
ป้ายร้านก็มองเห็นง่ายนะคะ คิดว่าจะหาทางเข้ายากกว่านี้เสียอีก
ตัวร้านด้านนอกทำบรรยากาศคล้ายบ้านเดี่ยว 2 ชั้น แต่มีป้ายชื่อร้านติดอยู่ค่ะในรูป ด้านซ้ายเป็นสวนเล็กๆ ด้านขวาเป็นบริเวณให้จอดรถนะจ๊ะ
ในเน็ตบอกมีที่จอดรถถึง 30 ที่ แต่ว่าของจริงดูไม่น่าจะถึงนะคะ
เดืนมาถึงประตูทางเข้า มีตุ๊กตาแกะทองตกแต่งสองข้างด้วย น่ารักดีอะมีชื่อร้านเขียนไว้ตรงกำแพงด้านข้าง วาดรูปตาซามูไรญี่ปุ่นอยู่ด้านบน อาร์ทดีจังเลยค่ะ
พอผ่านประตูทางเข้าร้านมาแล้ว ทางซ้ายจะเป็นที่นั่งเล็กๆ เหมือนให้สำหรับคนที่แวะมานั่งทานอะไรเล็กๆ ดื่มไวน์นิดๆหน่อยๆค่ะ เข้าไปอีกหน่อยจะเห็นฉากตารางไม้แบ่งกั้นบริเวณ
เป็นสัดส่วนเหมือนห้องเล็กๆ ให้ความเป็นส่วนตัวกับลูกค้า แต่พนักงานก็สามารถมองดูแลได้ทั่วถึง
และที่โต๊ะยังมีกริ่งให้กดเรียนพนักงานจากในห้องด้วยนะคะ กดแล้วไม่ดังรบกวน
แต่พนักงานเดินมาหาถูกอ่ะ เจ๋งมั้ยล่าาาา
บริเวณทางเดินเข้าส่วนด้านในตัวร้านมันถูกยกระดับขึ้นนะคะ พอสุดทางยกระดับจะเจอกับอันนี้เลยค่ะ โครงไม้ออกแบบเก๋ไก๋ ประดับอยู่ตรงกลาง สวยมากๆเลยค่ะ
จากจุดนี้แยกไปด้านซ้ายสำหรับขึ้นชั้นสอง (ห้องสูบบุหรี่) ด้านขวาออกไปบริเวณเอ้าท์ดอร์
และตรงด้านหน้า เป็นเค้าเตอร์ไวน์ เบียร์ สุรา สำหรับนั่งดื่มไป คุยไปเล็กๆค่ะ
เมื่อเดินขึ้นบันไดไปชั้นสอง กำแพงข้างบันไดตกแต่งสวยมั่กมาก ประทับจิตใจจินนี่เหลือหลายสวยอ่ะ (แต่รูปถ่ายออกมาไม่สวยเท่าความเป็นจริง ) มีโครงไม้ประดับเช่นกันด้านบน
ห้องด้านบนก็เป็นสัดส่วนเหมือนกัน แต่ปิดมิดกว่า เพราะเป็นโซนให้สูบบุหรี่ได้ ไม่กวนแขกด้านล่าง
ภายในห้องน้ำ มีดอกไม้ประดับอยู่อย่างมีสไตล์ จริงๆแล้วจินนี่ไม่ได้ปวดเข้าห้องน้ำแต่ได้ยินแขกที่ไปห้องน้ำ กลับมาแล้วบอกว่า ห้องน้ำสวยจริงๆ เลยต้องเข้าไปยลโฉมเสียหน่อยค่ะ
สะอาดสะอ้าน และประดับตกแต่งดี ชอบตรงที่กลอนประตูเป็นแบบหมุนแล้วผลักออก
เพราะเคยเจอหลายที่เป็นแบบดึงเข้า ซึ่งทำให้ต้องถอยหลังไปชนกับโถส้วม ไม่สะดวกเลย
ที่นี่ออกแบบ โดยคำนึงถึงการใช้งานจริงด้วยค่ะ ชอบๆๆ
นั่งโต๊ะปุ๊บ พนักงานก็เข้ามาเสิร์ฟเหล้าบ๊วย(อุเมะชุ)ก่อน สำหรับคัมปาย แล้วก็เอาเมนูมาให้ พร้อมกับออเดิร์ฟค่ะ เป็นกึ๋นไก่ทอด ทอดด้านนอกกรอบดีนะคะ
แต่ว่าเหนียวอ่ะ เคี้ยวไม่ออก เลยต้องคายทิ้งแทน แขกญี่ปุ่นก็ไม่ค่อยประทับใจค่ะ
สั่งอาหารเสร็จรอไม่นาน Sashimi จานแรกก็มาเสิร์ฟเนื้อปลาหมึกดิบ ปลาโอโทโร่ และปลาอีกชนิดนึงสีขาว ปลาดิบเซ็ตนี้รสชาติดี
นุ่มค่ะ ปลาหมึกไม่เหนียวเลย อร่อยมาก คนญี่ปุ่นบอกว่า รสชาติดีทีเดียว น่าจะนำเข้าจากญี่ปุ่น
โปรดติดตามอ่านตอน 2 นะคะ
โพสต์
