วิดีโอ
อ่านรีวิวฉบับเต็ม
2012-06-20
24 วิว
ผึ้งน้อยและชาวก๊วนวนเวียนหาของหวานทานอีกแล้วค่า เป้าหมายคราวนี้คือซอฟท์ครีมสัญชาติญี่ปุ่นที่ทำจากนม ฮอกไกโดที่มีความหวานน้อยและไขมันต่ำพิกัดคือ ร้าน B.Naturale Soft Cream Bar Tokyo อยู่ที่ชั้น 3 สยามพารากอน จากทางเชื่อม BTS ก็ขึ้นบันไดเลี่อนมาเลยค่ะ ใกล้ลิฟท์แก้วผึ้งน้อยได้ข้อมูลมาว่าร้านนี้ใช้วัตถุดิบจากนานาชาติ ทั้งมัจฉะ(ชาเขียว)จากญี่ปุ่น คาราเมลจากฝรั่งเศส น้ำเชื่อมเมเปิ้ลจากแคนาดา และช็อกโกแลตจากเบลเยียม น่าอร่อยทั้งนั้น ดังนั้น ผึ้งน้อยและชาวก๊วนจะขอจัดหนักแบบไม่แคร์สายตาใครล่ะค่ะ(มีคนบอกว่าร้านนี้ห้ามถ่ายเมนู ผึ้งน้อยเลยถ่ายมาแค่ตัวซอฟท์ครีมนะคะ)ที่นั่งร้านนี่เน้นแยกเป็นโต๊ะเล็กๆนั่งได้ประมาณ 2-3 คน มีเบาะวงกลมที่ใช้ร่วมกั
พิกัดคือ ร้าน B.Naturale Soft Cream Bar Tokyo อยู่ที่ชั้น 3 สยามพารากอน จากทางเชื่อม BTS ก็ขึ้นบันไดเลี่อนมาเลยค่ะ ใกล้ลิฟท์แก้ว
ผึ้งน้อยได้ข้อมูลมาว่าร้านนี้ใช้วัตถุดิบจากนานาชาติ ทั้งมัจฉะ(ชาเขียว)จากญี่ปุ่น คาราเมลจากฝรั่งเศส น้ำเชื่อมเมเปิ้ลจากแคนาดา และช็อกโกแลตจากเบลเยียม น่าอร่อยทั้งนั้น
ดังนั้น ผึ้งน้อยและชาวก๊วนจะขอจัดหนักแบบไม่แคร์สายตาใครล่ะค่ะ
(มีคนบอกว่าร้านนี้ห้ามถ่ายเมนู ผึ้งน้อยเลยถ่ายมาแค่ตัวซอฟท์ครีมนะคะ)
ที่นั่งร้านนี่เน้นแยกเป็นโต๊ะเล็กๆนั่งได้ประมาณ 2-3 คน มีเบาะวงกลมที่ใช้ร่วมกันได้หลายโต๊ะ (โต๊ะอยู่รอบเจ้าเบาะที่ว่าน่ะค่ะ) เลือกซอฟท์ครีมรสที่ชอบ จ่ายเงินแล้วนั่งรอพนักงานเรียกไปรับได้เลยค่ะ จองที่นั่งไปในตัว อิอิ
ก่อนที่จะมาบรรยายแยกแต่ละรสที่ทานขอเริ่มจากรสโดยรวมก่อนแล้วค่อยแยกตามจุดเด่นของแต่ละรสนะคะ
ตัวเนื้อซอฟท์ครีมนุ่มเนียนตามมาตรฐานของระดับพรีเมี่ยมเค้าล่ะค่ะ มีความหวานที่น้อย รสนุ่มๆ และเย็นดี (ซอฟครีมเบๆมักไม่เย็นค่ะ ทานแล้วไม่ถึงใจ) ทานง่ายและทานได้เรื่อยๆตราบเท่าที่กระเป๋าตังค์ยังทนไหว
หมายเหตุ ทุกรสที่ทานจะมีรส Premium Hokkaido Milk ที่เป็นรสเพลนใส่อยู่ที่ด้านล่างค่ะ ข้อดีคือพวกเราได้ทานทั้งรสที่เลือกและรสออริจินัลในโคน/ถ้วยเดียว แต่ก็มีข้อเสียคือพวกเราอยากได้รสที่ต้องการแบบเต็มๆโคนอะ
ทีนี้มาแยกตามแต่ละรสกันบ้างนะคะ
เริ่มต้นด้วยรสที่ทุกกระเพาะลงความเห็นตรงกันว่าต้องลอง
Kyoto Matcha Mille-feuille (110 บาท)
ชอบรสชาเขียวที่โรยมาเพิ่มด้านบนมากๆ มีความเข้มข้นและความเป็นชาเขียวอย่างชัดเจน ถ้าโรยเยอะๆก็ดีสิเนอะ อีกหนึ่งรสที่สะดุดตาพวกเรามากๆ
Strawberry Mille-feuille (110 บาท)
มีรสอมเปรี้ยวอมหวานของสตรอเบอร์รี่ชัดเจน เป็นอีกรสนึงผึ้งน้อยและชาวก๊วนถูกอกถูกใจกันมากถึงแม้จะไม่ได้ฟีลของ Millefeuille ซักเท่าไหร่ แต่อร่อยผ่านฉลุยค่ะ
Belgium Chocolate (110 บาท)
แม้ว่าสีสันในเมนูจะดูอ่อนๆไม่น่าสนใจเท่าไหร่ แต่ด้วยความที่ระบุว่าเป็นช็อกโกแลตเบลเยี่ยม ผึ้งน้อยเลยอดไม่ได้ที่จะขอลองซักทีและแล้ว รสก็อ่อนแอจริงๆด้วย (เสียจาย) แทบไม่รู้สึกเลยว่าเป็นช็อกโกแลต ดังนั้น ไม่แนะนำให้เหล่าสาวกช็อกโกแลตมาลองทานรสนี้นะคะ (รึถ้าจะทานก็ต้องอย่าคาดหวังค่ะ)
กัดฟันสั่งมาลองเพราะแพงกว่าเพื่อน
Tiramisu (129 บาท)
รูปลักษณ์ได้ฟีลทีรามิตสึมากๆ ด้านรสชาดก็เหมือนจะละมุ่นขึ้นอีก ผึ้งน้อยชอบตรงผงโกโก้โรยหน้ามาอีกแล้ว (ตะกี๊ก็ชอบผงชาเขียว) Sea Salt Caramel (110 บาท)
รสนี้เป็นรสที่เซอร์ไพรซ์ผึ้งน้อยและชาวก๊วนค่ะ เพราะไม่คิดว่าจะอร่อย (แค่อยากลอง) แต่รสนี้ดันอร่อยซะงั้น เพราะมีรสเค็มเล็กๆ ของเกลือทะเลและโรยหน้ามาด้วยคาราเมลชิพส์ที่ทานแล้วเข้ากันมากๆ อร่อยกว่าที่หวังไว้ค่ะ แต่ก็ยังชอบ Kyoto Matcha Mille-feuille กับ Strawberry Mille-feuille มากกว่าอยู่ดีค่ะสรุปแบบหวานๆเย็นๆกันค่ะ
บรรยากาศ – มีที่นั่งเบาะที่ใช้ร่วมกันหลายโต๊ะ ถ้านั่งกันดีๆก็ดีไปค่ะ แต่ถ้าเจอบ้าหอบฟางเอาของวางก็เซ็งนิดหน่อย กรณีที่สั่งเป็นโคนจะมีที่วางเป็นรูปตัว B ใส่มา น่ารักดีค่ะ
การบริการ – เน้น Self-service ค่ะ ต้องเดินไปรับของเอง โดยตัวพนักงานก็อัธยาศัยดียิ้มแย้มค่ะ
รสชาด – มีทั้งที่ถูกใจมากๆและที่ไม่โดน แนะนำ Kyoto Matcha Mille-feuille กับ Strawberry Mille-feuille ค่ะ
ความคุ้มค่า – ค่อนข้างแพงถ้าเทียบกับปริมาณค่ะ ทานบ่อยกระเป๋าฉีกแน่นอน
โพสต์
