อ่านรีวิวฉบับเต็ม
2018-04-04
206 วิว
วันนี้จะพาไปกินอาหารอิตาเลียน ซึ่งเป็นร้านที่เรียกว่าเป็นร้านอิตาเลียนแท้ๆ ร้านหนึ่งค่ะ เพราะทั้งเจ้าของและเชฟเป็นชาวอิตาลีทั้งคู่เลย พิกัดร้านจะอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 31 นะคะ สามารถใช้ชื่อร้าน Calderazzo on 31 เซิร์ชหาใน google map ได้เลยค่ะ เราขับรถไปอีกเช่นเคย แต่ที่จอดรถที่ร้านนี่จะจอดได้แค่คันเดียวหน้าร้านค่ะ นอกนั้นต้องใช้บริการ valet parking ของทางร้านนะคะที่นั่งของร้านจะมีทั้งเอาท์ดอร์และห้องแอร์นะคะ ด้านในจะมีทั้งชั้นล่างและชั้นบนด้วยค่ะ ชอบบรรดาไฟและรูปภาพต่างๆ ที่ตกแต่งร้านมากๆ เลย โดยเฉพาะชั้นบนที่เดี๋ยวจะพาไปชมค่ะชั้นสองค่ะ มีห้องส่วนตัวด้วยนะคะ ภาพวาดโดยศิลปินไทย มีเป็นรูปดอกคูณหนึ่งรูปและรูปนกต่างๆ หนึ่งรูป สวยมากเ
สามารถใช้ชื่อร้าน Calderazzo on 31 เซิร์ชหาใน google map ได้เลยค่ะ เราขับรถไปอีกเช่นเคย แต่ที่จอดรถที่ร้านนี่จะจอดได้แค่คันเดียวหน้าร้านค่ะ นอกนั้นต้องใช้บริการ valet parking ของทางร้านนะคะ
ที่นั่งของร้านจะมีทั้งเอาท์ดอร์และห้องแอร์นะคะ ด้านในจะมีทั้งชั้นล่างและชั้นบนด้วยค่ะ ชอบบรรดาไฟและรูปภาพต่างๆ ที่ตกแต่งร้านมากๆ เลย โดยเฉพาะชั้นบนที่เดี๋ยวจะพาไปชมค่ะ
ชั้นสองค่ะ มีห้องส่วนตัวด้วยนะคะ ภาพวาดโดยศิลปินไทย มีเป็นรูปดอกคูณหนึ่งรูปและรูปนกต่างๆ หนึ่งรูป สวยมากเลยค่ะ เอาเป็นแบ็คกราวด์ถ่ายรูปพอร์ทเทรทก็เก๋มากๆ นะ
วันนั้นกลุ่มเราได้นั่งโต๊ะยาวกันค่า อุปกรณ์ก็ตามนี้เลยนะคะ
มาดูเมนูของทางร้านกันค่ะ ราคาก็มาตรฐานอาหารอิตาเลียนในย่านนั้นหละนะคะ
ไวน์ลิสต์ ทำมาละเอียดมากกก
สำหรับเราขอเริ่มแบบไม่มีแอลฯ ก่อนค่ะกับเวอร์จินโมฮิโต้นะคะ
รสชาติมาตรฐานปกติค่ะ
ส่วนนี่คือไวน์ขาวและไวน์แดงที่ทางคุณเจ้าของร้านแนะนำค่ะ มีภาชนะสำหรับใส่ไวน์แดงให้ตัวไวน์แดงได้หายใจก่อนเสิร์ฟด้วย รวมทั้งมี decanter เครื่องเติมอากาศไวน์ด้วยค่ะ จะเห็นได้ว่าที่นี่เป็นร้านหนึ่งที่ให้ความสำคัญมากๆ กับไวน์นะคะ
ไปหาข้อมูลสำหรับเรื่องเครื่องเติมอากาศไวน์มาให้อ่านนะคะ
อุปกรณ์ Wine Decanter
เป็นเครื่องช่วยหายใจไวน์ ( Breathes Wine ) หรือ เครื่องผสมอากาศ (Aerator) หรือ เครื่องรีเฟรชไวน์ ( Refresh Wine ) ให้มีรสชาติที่กลมกล่อมดีขึ้น โดยเฉพาะถ้าเราเปิดไวน์แล้วต้องการดื่มแบบไม่ต้องรอสักครึ่งชั่วโมงหรือหนึ่งชั่วโมงให้ไวน์ได้หายใจ อุปกรณ์นี้ใช้หลักของ Venturi ซึ่งเป็นวิศวกรชาวอิตาลี ใช้วิธีคำนวณอัตราการไหลของของเหลวผ่านจุด 2 จุดที่มีแรงดันต่างกัน ทำให้ของเหลวที่ไหลผ่านเกิดการสำรอก และผสมอากาศที่อยู่ภายนอกเข้ากับของเหลวที่อยู่ด้านใน ทำให้เป็นการเพิ่มอากาศให้กับไวน์ และทำให้รสชาติดีขึ้นโดยไม่ต้องเสียเวลารอ อีกทั้งยังออกแบบให้รูปลักษณ์ของสินค้า สวย เท่ห์ ดูดี หรูหรา
เหตุผลสำคัญของการใช้ Decanter คือ เพื่อ
ก. ให้ไวน์สัมผัสอากาศได้มากขึ้น ทำให้มีรสดีขึ้น
ข. กำหนดปริมาณการดื่ม โดยรินในปริมาณที่เหมาะสม
ค. แยกตะกอนออกจากน้ำไวน์ เพราะมี Filter กรอง
ง. สร้างภาพลักษณ์
Decanter แบบภาชนะใส่ไวน์
เป็นภาชนะแก้ว หรืออาจเรียกว่าขวดโถที่มีปากกว้าง ใช้สำหรับใส่ไวน์ที่เทออกมาจากขวด เพื่อให้ไวน์ได้สัมผัสอากาศมากขึ้นกว่าการเปิดจุกขวดไวน์เอาไว้ ภาชนะพวกนี้มีการออกแบบรูปร่างต่างๆกัน ดูสวยงาม และมีใช้ตามโรงแรมหรือร้านอาหารที่มีระดับ ถ้าเราจะซื้อไว้ใช้เองก็มีขายหลายแห่ง ถ้าเป็นแก้ว Crystal จะมีราคาแพง ประมาณ 3,500 - 6,000 บาท
เริ่มต้นด้วยไวน์ขาวค่ะ เป็น Wild Rock Sauvignon Blanc ของนิวซีแลนด์ รสชาติเจือเปรี้ยวนิดๆ กลิ่นหอมฟรุตตี้เบาๆ ค่อนข้างสดชื่นนะคะ
มาที่อาหารตัวแรกกันค่ะ
ตัวนี้ทอดมาได้กรอบดี ไส้ข้างในนี่แล้วแต่นะคะ จะมีการเปลี่ยนค่ะ รู้สึกจะเปลี่ยนทุกๆ สามเดือนน่ะนะ ของเราวันนั้นเป็นไส้เห็ดและอื่นๆ ค่ะ ออกแนวนวลๆ ตัวซอสนี่เป็นโฮมเมดค่ะ รสออกเปรี้ยวนิดๆ เผ็ดเบาๆ ค่ะ อร่อยดีนะ ช่วยเสริมรสดีค่ะ
ต่อไปเป็นขนมปังและซอสโฮมเมดอีกเช่นกันค่ะ ขนมปังเนื้อนิ่มแน่นมาก อร่อย ยิ่งกินกับซอสยิ่งดีเลยค่ะ เพิ่มรสชาติเผ็ดนิดๆ ด้วยอ้ะ
ตัวผักและมะเขือเทศ (รวมทั้งที่ใช้ทำซอส) มีบางส่วนที่รับมาจากมูลนิธิที่ช่วยเหลือเด็กชาวไทยที่ชัยภูมิด้วยนะคะ ซึ่งมูลนิธินี้ก่อตั้งโดยอดีตชาวอังกฤษที่มีสัญชาติไทยเรียบร้อยแล้วค่ะ โดยมีแนวคิดที่จะให้การศึกษากับเด็กและสอนให้เขาทำสิ่งที่พึ่งพาตัวเองได้ ซึ่งดีมากๆ เลยหละค่ะ
Zucchini Flowers 420++ บาท
เป็นซุคคินี่ที่มีการทำตอนปลายให้เป็นเหมือนดอกไม้ตามชื่อเมนูนะคะ ทอดมากรอบพอควร แต่ยังคงไว้ซึ่งรสชาติและกลิ่นของซุคคินี่อยู่ค่ะ แป้งก็ไม่เค็มเกินด้วย เค็มอ่อนๆ ค่ะ
Mussels White Wine 900++ บาท
เป็นหอยแมลงภู่ออสเตรเลียนะคะ จัดมาจานใหญ่เลย กินกัน 5-6 คนเราว่ากำลังดีค่ะ ทำมาแบบปรุงรสไม่เยอะ คงความหวานของเนื้อหอยที่สดเอาไว้ กินเพลินมากค่ะ ลืมคอเลสเตอรอลที่เพิ่งตรวจไปชั่วขณะ แหะๆ
Spaghetti Seafood 450++ บาท
เส้นลวกมาโอเคค่ะ ซีฟู้ดจัดใส่มาแบบเยอะมาก รสจะออกแนวอ่อนๆ ไม่ปรุงเยอะ เราว่าร้านนี้เขาจะเน้นที่รสชาติแท้ของวัตถุดิบมากกว่าเอามาปรุงรสนะคะ
Sauteed Artichoke 290++
ทำจากแก่นอาร์ติโชค พาร์สลีย์และไวน์ขาวค่ะ ตัวนี้รสจะอ่อนๆ เช่นกัน จะนุ่มนิ่มขณะที่อีกตัวที่ทำด้วยวิธีต่างกันจะให้รสสัมผัสอีกแบบนะคะ
Deep-Fried Artichoke 390++
ตัวนี้มาพร้อมผัดร็อกเก็ตป่านะคะ ทอดมากร๊อบกรอบอ้ะ กินเพลินมาก ใครชอบของทอดน่าจะชอบจานนี้ค่ะ แต่ทอดแล้วรสของอาร์ติโชคก็ยังอยู่นะคะ
หน้าตาของอาร์ติโชคและพริกหยวกที่ทางร้านใช้ค่ะ ใหญ่ไปไหนนนนน
จากนั้นพนักงานก็นำถ้วยน้ำชาและเลมอนมาให้ สำหรับล้างมือให้หายคาวจากการหยิบกินอาหารทะเลค่ะ
ต่อไปเป็นอาหารแป้งๆ กันบ้างกับพิซซ่าค่ะ ซึ่งที่นี่จะใช้โดที่ไม่ใช่แช่แข็งนะคะ เป็นโฮมเมด ตัวแป้งใช้นำเข้าของ Semolina มอสซาเรลล่าชีสใช้ Premium Thai Fiordilatte (Single Ball) ส่วน tomato salsa เป็นออร์แกนิก (เหมือนกับมะเขือเทศเชอร์รี่) ซึ่งเป็นโฮมเมดนะคะ แต่ละถาดใหญ่เมิ่ก สำหรับหญิงสาวร่างเล็ก (ตรงไหนคะป้า?) อย่างเรา กินชิ้นเดียวก็จอดแล้วค่ะ อร่อยแค่ไหนก็ตาม..ไม่ไหวล้าวววว
วันนั้นที่ได้ลองกินมีสองหน้านะคะ ถาดใหญ่มากทั้งสองหน้าเลย
Margherita 380++
หน้าเป็นมะเขือเทศเชอร์รี่ มอสซาเรลล่าชีส และกะเพราสดค่ะ
แป้งดีค่ะ ไม่หนาไป รสชาติก็ดี สำหรับเรานี่เราไม่ใช้ซอสอะไรเลยนะคะ
อีกหนึ่งพิซซ่าค่ะ เราชอบยิ่งกว่าหน้าแรกอีกหละ
Pizza Boscaiola 380++
ใช้เห็ดพอร์ทโทเบลโล มัสคาร์โปน ชีส parmigiano และน้ำมันทรัฟเฟิลค่ะ
ตัวนี้หอมทรัฟเฟิลมากกกกกกกกก กินแล้วรื่นรมย์สุดๆ รสชาตินวลกลมกล่อมอร่อยค่ะ ชอบมากๆ อ้ะ แต่กินเยอะไม่ได้ ผลตรวจสุขภาพย่ำแย่อยู่ ฮือๆ
ต่อไปเป็นทีโบนเสต็กหนัก 1 กิโลกรัม (บร๊ะเจ้า) 2490++ บาทค่ะ
ชิ้นใหญ่แบบบิ๊กเบิ้มมากกกกก ทำมาสุกระดับมีเดียมแรร์แบบที่เราชอบเลยค่ะ
ตัวเนื้อก็นุ่มมาก อร่อยเลยแหละ ปรุงมาไม่มากอีกเช่นเคย โดยรสชาติเนื้อก็ดีงามมากแล้วนะคะ แต่ถ้าอยากปรุงแค่โรยเกลือกับพริกไทยนิดหน่อยก็พอนะคะ จะได้ไม่เสียรสเนื้อหละ
ต่อไปเป็น Baby Lamb Rack 990++
ตัวนี้ตอนแรกที่เสิร์ฟมา เราคิดว่ามันทำมาสุกเกินไปค่ะ แต่พอกินปุ๊บ อื้อหืออออออออ นุ่มมากกกกก นุ่มเวอร์วัง อร่อยค่ะ และไม่มีกลิ่นสาบเลย พอคุยกับเจ้าของร้านเขาบอกว่าใช้ลูกแกะที่อายุแค่ 3 เดือน ยังไม่หย่านม และนำเข้าจากสเปน (เพราะถ้านิวซีแลนด์จะมีกฎว่าแกะจะกินได้ต้อง 6 เดือนขึ้น ซึ่งจะเป็นแกะที่กินหญ้าแล้ว ทำให้ไม่นุ่มและมีกลิ่นแกะแบบที่เราเคยคุ้นน่ะนะคะ) มิน่าอร่อยจัง ป้าขอโทษนะลู้กกกกกก แต่มันอร่อยจริงๆ ง่าาา ถ้าใครอยากกินแกะนุ่มๆ ไม่มีกลิ่นสาบแกะ ก็แนะนำเมนูนี้เลยค่ะ ดีงามจริงๆ
แน่นอนว่าสองเมนูนี้มาก็ต้องเป็นไวน์แดงนะคะ ซึ่งเป็น La Grola Allegrini Veronese 2013 ตัวนี้เป็นไวน์จาก Verona อิตาลีค่ะ
ตัวนี้มีเนื้อหนังพอควร แต่ไม่ได้หนักมากนะคะ ค่อนข้างกลางๆ และสดชื่นเมื่อได้ดื่ม แต่ก็เข้มข้นพอควรเลยค่ะ กินได้เข้ากับทั้งเนื้อและแกะเลยค่ะ
โฉมหน้าเชฟที่ทำอาหารมื้อนี้ให้เราทานค่ะ
หมดคาวแล้ว มาของหวานกันบ้างงงงง (น้ำเสียงร่าเริงเกินหน้าเกินตามาก)
Cannoli di Zia Tettella 220++
ตัวนี้เป็นสูตรของคุณป้าคุณแอนโทนี่นะคะ เป็นแป้งทอดกรอบสอดไส้ด้วยริคอตต้า ช็อกโกแลตชิพ และผลไม้ค่ะ
ทอดกรอบมาก ข้างในรสชาตินวลๆ อมเปรี้ยวและหวานเล็กๆ อร่อยดีค่ะ ชิ้นไม่ใหญ่มากด้วย กินคนเดียวก็หมดนะคะ
Tiramisù 220++
ตัวนี้จะคล้ายๆ กับร้านเฟียเจอร์แอนด์สโตนที่เราเคยกินค่ะ คือทำเนื้อเบาๆ รสไม่เข้มขมเกินไป เราชอบนะ กินแล้วชื่นปากดีค่ะ
Budino 320++
ตัวนี้เป็นพุดดิ้งดาร์คช็อกโกแลต กับผลไม้และวานิลาเจลาโต้ค่ะ
เจลาโต้อร่อยยยย ไม่หวานจัด หอม (ไม่เสียชื่อเป็นร้านอิตาเลียน 555) ตัวดาร์คช็อคพุดดิ้งข้างในเป็นลาวาด้วยนะคะ ขมแบบดาร์คช็อกแต่ก็ไม่ได้ขมจนทำให้เสียรส กินคู่กับไอศกรีมจะพอดีกันค่ะ
กินแกล้มชา เนื่องจากมืดแล้วเพื่อนเลือกเป็นคาร์โมมายล์นะคะ
ปิดท้ายด้วยภาพหน้าร้านยามค่ำก่อนกลับค่า
สรุปสำหรับร้านนี้นะคะ
เป็นร้านอิตาเลียนที่มีรสชาติอิตาเลียนแท้ๆ ไม่ปรุงแต่งเยอะ เน้นความดีงามของวัตถุดิบ ร้านตกแต่งสวยงาม เจ้าของร้านน่ารัก พนักงานบริการดี เสียแต่ว่าไม่มีที่จอดรถ (แต่มี valet parking) ถ้าใครหาร้านอิตาเลียนสไตล์นี้ที่นี่ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเลยนะคะ
โพสต์