อ่านรีวิวฉบับเต็ม
2015-12-29
80 วิว
สำหรับวันนี้ก็จะพาไปกินบุฟเฟท์ติ่มซำกันบ้างนะคะ สำหรับการไปก็เนื่องจากโชคดีที่ทางโรงแรมเจ้าพระยาปาร์คจับลัคกี้ดรอว์จากนามบัตรค่ะ แล้วเราได้เป็นเวาเชอร์กินบุฟเฟท์ติ่มซำที่ห้องอาหารนี้สำหรับมื้อค่ำสองท่านค่ะ ประจวบกับเพื่อนรุ่นพี่ที่ธรรมศาสตร์มาจากต่างจังหวัดเลยนัดเจอกันสามคน จ่ายคนที่สามเพิ่ม 899 บาทค่ะ โดยถ้ามีบัตรของกรุงไทยได้ลดอีก 15% นะคะ แต่พวกเราไม่มีก็จ่ายไปเต็มๆ อะค่ะ แหะๆก่อนจะไปหม่ำกัน ก็ขอเอาเกร็ดความรู้เรื่องติ่มซำมาฝากกันนะคะ เครดิตจากลิงก์นี้เลยค่ะhttps://www.facebook.com/notes/627972737241470/หลายๆคน คงชื่นชอบเมนู "ติ๋มซำ" "Dim Sum" และเคยได้ยินคำว่า "หยำฉ่า" "ํYum Cha" นั่นก็คือ การดื่มชา ในภาษ
ก่อนจะไปหม่ำกัน ก็ขอเอาเกร็ดความรู้เรื่องติ่มซำมาฝากกันนะคะ เครดิตจากลิงก์นี้เลยค่ะ
https://www.facebook.com/notes/627972737241470/
หลายๆคน คงชื่นชอบเมนู "ติ๋มซำ" "Dim Sum" และเคยได้ยินคำว่า "หยำฉ่า" "ํYum Cha" นั่นก็คือ การดื่มชา ในภาษาจีนกวางตุ้งกันบ้าง และเชื่อว่าคงเป็นเมนูโปรดของหลายๆคน
ภาษาจีนกลาง อ่านว่า เตี่ยนซิน หรือที่คนไทยเราคุ้น เรียกกันตามภาษาจีนกวางตุ้งว่า ติ่มซำ แปลว่าขนม การกินติ่มซำเป็นวัฒนธรรมเฉพาะของชาวจีนกวางตุ้ง ซึ่งกำเนิดอาศัยในมณฑลกวางตุ้งทางใต้ของจีน เดิมนั้นนิยมละเลียดติ่มซำตั้งแต่เช้า เดินเข้าไปในร้าน หยิบหนังสือพิมพ์มาฉบับ สั่งน้ำชาโป๋วเหวล (ชาดำๆที่หมักมาอย่างดีเป็นชาโปรดประจำของคนกวางตุ้ง) สั่งซาลาเปาเข่งหนึ่ง ขนมจีบเข่งหนึ่ง บรรยากาศนั่งคุย คีบขนมจีบแกล้มน้ำชา บ้างก็นั่งจิบชาอ่านหนังสือพิมพ์... เป็นทั้งอาหารเช้า และอาหารว่าง
ติมซำ ถือกำเนิดที่เมืองกวางตุ้ง มีตำนานเล่ากันว่าในสมัยก่อนนั้นมีนักเดินทางตามเส้นทางสายไหมมักจะหาสถานที่เพื่อแวะพักผ่อนระหว่างการเดินทาง ดังนั้นบนเส้นทางสายไหมจึงเต็มไปด้วย " ร้านน้ำชา"หรือ "Yum Cha" เพื่อต้อนรับอาคันตุกะนักเดินทางแปลกหน้าเป็นประจำ
ขณะเดียวกันชาวนาตามชนบทเมื่อทำงานเหนื่อยล้าก็จะแวะพักผ่อนและดื่มน้ำชายามบ่ายตามร้านน้ำชาเหล่านี้ ขณะที่ดื่มน้ำชาก็จะต้องมีอาหารกินเล่นเพื่อกินคู่กับน้ำชา บรรดาเจ้าของร้านจึงเริ่มคิดหาอาหารกินเล่นต่าง ๆ ขึ้นมา จึงเป็นที่มาของติมซำในเวลาต่อมา ด้วยความที่เป็นอาหารกินง่ายและรสชาติแปลกใหม่ ติมซำจึงกลายเป็นอาหารที่นิยมไปทั่วโลก
คำว่า "ติมซำ" มาจากภาษากวางตุ้ง แปลว่า Touch The Heart หมายถึง การทำอาหารคำเล็กคำน้อยที่นอกจากจะต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์แล้ว ยังต้องใช้ฝีมือประดิษฐ์ปะดอยให้สวยงาม น่าลิ้มลอง และอร่อย ดังนั้นหัวใจสำคัญในการทำติมซำให้อร่อยนั้นคือ จะต้องใส่ใจลงไปกับติมซำทุกคำนั่นเอง
เมื่อติมซำเริ่มมาจากความคิดสร้างสรรค์ดังนั้นรูปแบบของอาหารชนิดนี้จึงมีการพัฒนารูปแบบออกไปมากมายไม่มีที่สิ้นสุด เมนูติมซำจึงมีความหลากหลายเป็นพัน ๆ ชื่อ แล้วแต่ว่าเชฟคนไหนจะคิดเมนูอะไรขึ้นมา ซึ่งจะต้องอยู่ในกระบวนการ นึ่ง อบ ทอด แช่เย็น เป็นต้น
"คนที่จะทำติมซำให้เก่งจริง ๆ นั้นจะต้องฝึกทำติมซำมาไม่ต่ำกว่า 3 ปี กว่าจะตบแป้งฮะเก๋าให้บางได้นั้นอย่างน้อยก็ฝึกมืออยู่ถึง 2 ปีแล้ว เพราะฮะเก๋าถือเป็นติมซำที่ทำยากที่สุด คือเนื้อแป้งจะต้องเนียนและบางเท่ากันทั้งแผ่นจะจีบฮะเก๋านั้น 2 วันก็หัดจีบเป็นแล้ว แต่จะจีบให้สวยให้ได้ 13 จีบนั้นก็ต้องใช้เวลาเช่นกัน อย่างซาลาเปาที่เป็นฝีมือเชฟติมซำนั้น ทุกลูกจะต้องมีน้ำหนักเท่ากัน ไม่ว่าจะเป็นแป้งหรือไส้จะต้องชั่งน้ำหนักพอดีเป๊ะ และปั้นให้ ไส้อยู่ตรงกลางทั้งนี้อยู่ที่ประสบการณ์และความคิดสร้างสรรค์ของเชฟแต่ละคนที่จะไปพลิกแพลงกุ้งกับแป้งให้ออกมาหน้าตาเป็นอย่างไรก็สุดแล้วแต่"
วัฒนธรรมการกินติ่มซำ
คนจีนจะกินติ่มซำจะคู่กับน้ำชามาตั้งแต่โบราณแล้ว ที่ประเทศฮ่องกงเมื่อหลายสิบปีก่อนนั้น ชาวฮ่องกงจะนิยมกินติมซำในช่วงสาย ๆ โดยบรรดาเศรษฐีมีเงินทั้งหลายมักจะนิยมหิ้วกรงนกเขามาอวดกันที่ร้านกาแฟ ขณะที่รอเพื่อน ๆ อยู่นั้นก็จะนำกรงนกเขามาแขวนอยู่หน้าร้าน แล้วก็สั่งติมซำมานั่งกินรองท้องก่อนสัก 2 - 3 เข่ง เมื่อพรรคพวกมากันพร้อมแล้วถึงจะเริ่มสั่งอาหารจานหลักอย่างอื่น ๆ กินเพื่อให้อิ่มท้องกันต่อไป แต่ปัจจุบันจะตามภัตตาคารและร้านอาหารทั่วไปจะเสิร์ฟเมนูติมซำในมื้อกลางวัน และโดยมากไม่นิยมกินติมซำในมื้อเย็น แม้คนกวางตุ้งกินติ่มซำตอนเช้า แต่ถ้าช่วงบ่ายๆ มีแขกมา ก็จะเอาติ่มซำเสิร์ฟเป็นอาหารว่างรับรองแขก ไม่ได้กินเพื่ออิ่ม อีกด้านหนึ่ง ติ่มซำจึงเป็นวัฒนธรรมของชาวกวางตุ้งชนชั้นสูง ที่มักจัดเตรียมติ่มซำไว้รับรองแขกผู้มีเกียรติ
ปัจจุบัน ติ่มซำยังเป็นเครื่องมือทางวัฒนธรรมจีนอย่างหนึ่ง ในการรับรองต้อนรับ ไม่ว่าจะเป็นการเจรจาธุรกิจ เลี้ยงลูกค้า และการจัดคู่นัดดูตัวระหว่างฝ่ายชายกับฝ่ายหญิง
ข้อแรก การกินติ่มซำต้องใช้เวลา ค่อยๆ เลือก ค่อยๆ สั่ง ค่อยๆ คีบ.. ละเลียดเคล้าการจิบชา ทำให้การสนทนาไม่รีบร้อนมีเวลาพูดคุยถามไถ่ดูเชิงเรียนรู้ กันและกัน
ขณะเดียวกัน หลังจากละเลียดติ่มซำรองท้องแล้ว ค่อยสั่งอาหารหลัก อย่างก๋วยเตี๋ยวราดหน้า ปลานึ่งซีอิ๋ว หรือหูปลาฉลาม คล้ายกับเป็นการโชว์ว่าจะเลี้ยงติ่มซำและตบท้ายด้วยก๋วยเตี๋ยว หรือเลี้ยงติ่มซำแล้วสั่งหูฉลามต่อ ข้อหลังนี้ มีความหมายถึงการให้เกียรติ ความสำคัญซึ่งกันและกัน
ทราบหรือไม่ :
เมื่อคุณอยู่ในภัตตาคารติ่มซำ ลองสังเกตดีๆ แล้วคุณจะเห็นว่าผู้รับประทานอาหารจะใช้สามนิ้วเคาะบนโต๊ะ ซึ่งเป็นการแสดงความขอบคุณเมื่อผู้อื่นรินน้ำชาให้ตน พิธีกรรมนี้เกิดขึ้นจากจักรพรรดิองค์หนึ่งในราชวงศ์ชิง (1644-1911) ซึ่งชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยว และมักจะปลอมตัวเป็นคนธรรมดาสามัญ ครั้งหนึ่ง พระองค์ได้รับเชิญเข้าไปในโรงน้ำชากับคณะผู้ติดตาม และทุกคนก็ผลัดกันรินชาให้คนอื่นๆ ผู้ติดตามของพระองค์ไม่สามารถยอมรับเกียรตินี้โดยไม่คุกเข่าคำนับที่พื้นได้ แต่การคุกเข่าคำนับก็จะเป็นการเปิดเผยตัวตนขององค์จักรพรรดิด้วยเช่นกัน ดังนั้น พวกเขาจึงใช้สามนิ้วเคาะโต๊ะแทน โดยนิ้วหนึ่งแทนศีรษะที่คำนับ และอีกสองนิ้วแทนแขนสองข้างที่หมอบราบกับพื้น
สำหรับพิกัดรร.เจ้าพระยาปาร์คก็อยู่บนถนนรัชดาภิเษกค่ะ ถ้ามาจากทางถนนพระรามเก้า ก็ลอดอุโมงค์แยกห้วยขวาง ต่อด้วยลอดอุโมงค์แยกสุทธิสาร จากนั้นก็ชิดซ้ายเลย รร.จะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ ห้องอาหารแห่งนี้จะอยู่ที่ชั้น 1 (ขึ้นมาจากล็อบบี้อีก 1 ชั้น) ค่ะ
หน้าห้องอาหารนะคะ ภายในเป็นห้องแอร์ค่ะ
บรรยากาศภายในห้องอาหารค่ะ มีห้องส่วนตัวด้วยนะคะ
เซ็ตแรกที่พี่ๆ เค้าสั่งกันมาค่ะ หน้าตาเป็นแบบนี้เลยค่ะ
ฟองเต้าหู้สอดไส้กุ้งทอดค่ะ ในรุปมีสามชิ้น แต่ตอนเราสั่งเค้าทำมาหกชิ้นเลยยย (สงสัยเห็นมากันสามคน) ทอดมาได้ดีนะคะ ฟองเต้าหู้บางกรอบ กุ้งก็เยอะโออยู่ค่ะ อร่อยดี แต่เรากินไปชิ้นเดียว เพราะไม่ค่อยชอบของทอดแบบนี้ง่ะค่ะ แหะๆ
ของเราเป็นแปะก๊วยเย็นค่ะ ตัวแปะก๊วยเนื้อฟ่ามๆ ค่ะ ไม่ค่อยแน่นอ้ะ วัตถุดิบไม่ค่อยดีเท่าไหร่ และตัวน้ำมี
กลิ่นแปลกๆ บางอย่างที่ไม่เชิงว่าจะเป็นคลอรีนค่ะแต่นึกไม่ออกว่ามันเป็นกลิ่นอะไร แต่ออกแนวเคมีๆ แต่ของพี่ที่เป็นแปะก๊วยร้อนไม่มีกลิ่นแบบเรานะคะ
ถ้าจะให้แนะนำ อย่างซาลาเปาลาวา ถ้ามีในเมนู ก็ควรสั่งได้น่ะนะคะ หรือถ้าจะไม่ให้สั่งในราคาบุฟเฟท์ เราว่าควรเอาออกจากเมนูอะค่ะ ไม่งั้นคนกินจะงง (เหมือนเราและพี่ๆ แหะๆ) รวมทั้งเรื่องซุป จานหลัก และของหวานที่มีให้อยู่แล้ว ก็ควรแจ้งตั้งแต่เริ่มต้นกินค่ะ (พนักงานไม่ได้แจ้ง ตอนเสิร์ฟผัดผักจานแรก พี่ (ซึ่งมาก่อนเรา) ก็พูดเลยว่าไม่ได้สั่ง พนักงานถึงบอกว่าอยู่ในชุดอยู่แล้ว หรืออย่างจานหลักกับของหวานก็ไม่ได้รับการบอกก่อนเหมือนกัน จนเราต้องถาม ถึงได้ข้อมูลมาค่ะ
โดยรวมก็ถือว่าเป็นอีกที่หนึ่งที่ใครอยากกินบุฟเฟท์ติ่มซำแบบ All You Can Eat สั่งจากเมนู ก็น่าสนใจอยู่นะคะ เพราะมีหลายเมนูเลยที่หากินไม่ได้จากบุฟเฟท์ที่ราคาถูกกว่านี้น่ะค่ะ
แล้วก็ถ้าใครมีบัตรเคทีซีก็ควรเอาไปนะคะ เพราะจะได้ลดเพิ่มอีก 15% แหนะ จะคุ้มค่ายิ่งขึ้นค่ะ
โพสต์