อ่านรีวิวฉบับเต็ม
2012-08-19
86 วิว
เนื่องจากคุณเพื่อนชาวญี่ปุ่นได้โอกาสแอบมาเที่ยวเมืองไทยในช่วงวันหยุดยาวของทางบ้านเค้า และการมาลั้นลาที่เมืองไทยคราวนี้เจ้าตัวรีเควสมาว่าอยากทานอาหารไทย หลังจากที่ผึ้งน้อยนั่งคิดตะแคงคิดกับชาวก๊วนซักพัก ก็ได้บทสรุปว่าเป็นที่ร้านแหลมเจริญซีฟู้ด สยามพารากอนชั้น 4 นี่ เพราะเป็นร้านอาหารไทยที่ตรงตามเงื่อนไขว่า 1.ไม่เผ็ดมาก 2.เดินทางสุดสะดวกด้วย BTS / MRT / BRT แน่นอนว่าเมนูฮอตฮิตอย่างปลากะพงทอดน้ำปลาและต้มยำกุ้งนั้นต้องมีประดับโต๊ะแน่ๆแต่เนื่องจากเป็นเมนูที่ใครๆก็รีวิวกันมาจนพรุนแล้ว ผึ้งน้อยจะขอข้ามไปรีวิวเมนูอื่นๆที่ไม่ค่อยมีการรีวิวแทน ^^ออกตัวก่อนว่าจำราคาไม่ค่อยได้นะคะ เพราะผลัดๆกันออร์เดอร์คนแน่นร้านมากมายเลยไม่ได้ถ่ายบรรย
แน่นอนว่าเมนูฮอตฮิตอย่างปลากะพงทอดน้ำปลาและต้มยำกุ้งนั้นต้องมีประดับโต๊ะแน่ๆ
แต่เนื่องจากเป็นเมนูที่ใครๆก็รีวิวกันมาจนพรุนแล้ว ผึ้งน้อยจะขอข้ามไปรีวิวเมนูอื่นๆที่ไม่ค่อยมีการรีวิวแทน ^^
ออกตัวก่อนว่าจำราคาไม่ค่อยได้นะคะ เพราะผลัดๆกันออร์เดอร์
คนแน่นร้านมากมายเลยไม่ได้ถ่ายบรรยากาศมานะคะ เกรงใจโต๊ะอื่นๆเพราะจะติดใบหน้ามาอย่างแน่นอน (โชคดีว่าจองที่เอาไว้ ไม่อย่างนั้นคงไม่มีที่นั่งเป็นแน่)
ตัวร้านก็จัดง่ายๆค่ะไม่มีอะไรมาก ตรงกลางร้านจะมีฉากกันแบบโปร่งแบ่งโซนนอกโซนใน ก๊วนผึ้งน้อยได้ที่นั่งโซนในสุดติดมุมเลย ถึงอย่างนั้น ทางพนักงานเค้ามาบริการให้อย่างทั่วถึงค่ะ
รีเควสแรกจากคัตจัง (คุณเพื่อนชาวญี่ปุ่นนั่นแหละค่ะ ขอเรียกชื่อในวงการแทนเพราะสั้นดี ^^)
ส้มตำไทย (ไม่เผ็ด) (95 บาท) จัดว่าเป็นตำบักหุ่งที่ครบรสค่ะ แม้จะขาดความเผ็ดไปก็ยังทานได้อร่อยเพลินๆ จานเดียวเลยไม่พอ..ต้องสมทบด้วยน้องส้มตำหน้าตาประมาณเดียวกันแต่เพิ่มเครื่องเคราด้วยปูม้าดองอีก 1 จาน เป็น ส้มตำปูม้าดอง (150 บาท)...จานนี้แร้งลงค่ะถ่ายไม่ทัน รสเหมือนจะจัดกว่าส้มตำไทยเฉยๆ แต่ปูตัวกระเปี๊ยกมากๆใส่มาตัวเดียวอย่างหงอยเหงา
ปลาหมึกผัดไข่เค็ม (160 บาท) และ เนื้อปูผัดผงกระหรี่ (น่าจะประมาณ 360 บาท) ปลาหมึกผัดไข่เค็ม ได้รสเข้มข้นทั่วถึงและเนื้อหมึกสดเด้งดี
ส่วนเนื้อปูผัดผงกระหรี่แอบผิดหวังเล็กๆตั้งแต่หน้าตาเลย ปกติแล้วจะเป็นสีเหลืองสวยๆของไข่ แทรกด้วยสีส้มแดงของน้ำมันน้ำพริกเผาที่แค่เห็นก็ท้องร้อง เนื้อปูผัดผงกระหรี่จานนี้กลับเป็นสีเหลืองอ่อนครีมๆ ดูแล้วเหมือนแกงมากกว่าอาหารจานผัด รสจัดใช้ได้ แต่รสหวานนำโด่งมาเลย
ข้าวผัดปู จานกลาง (175 บาท) ดูเยอะใช่มั้ยค่ะ ...ใช่เลยค่ะเพราะในรูปนี้คือจานใหญ่ที่ทางร้านเสิร์ฟให้พวกเราผิด แต่ก๊วนผึ้งน้อยไม่มีใครทราบปริมาณของข้าวผัดของร้านนี้มาก่อน เราก็ได้แต่นึกว่า “อืม...ให้เยอะเนอะ จะหมดมั้ยเนี่ย” จริงๆแล้วก็เป็นข้าวผัดที่ผัดได้ร่วนสวยดีนะคะ ถ้าไม่ติดว่ามีเคืองกันระหว่างทานก็คงกดไลค์ให้ไปแล้ว
จากนี้ไปคือเหตุที่ทำให้เกิดอาการ “ไม่ปลื้ม” นะคะ
พอคุณพนักงานแจ้งว่าเสิร์ฟผิด ก็รีบถามพวกเราเลยว่า “เปลี่ยนเป็นออร์เดอร์จานใหญ่เลยมั้ยครับ” ...ก๊วนเราไม่เน้นข้าวอะค่ะ ไม่เปลี่ยนหรอก ว่าแล้วคุณพนักงานก็รีบเอาจานใหญ่นั้นกลับไป (พวกเราทานไปประมาณ 1 ใน 3 ค่ะ)
ซักพักนึงก็เอาข้าวผัดมาเสิร์ฟใหม่ คราวนี้จานกระจิ๊ดริ๊ดมาก ไม่ได้ครึ่งของจานแรกเลย และที่สำคัญคือ แทบจะไม่มีปูเลย มีแต่ข้าวกับไข่ ...รู้สึกแย่มากๆ
ปกติเค้าก็มักจะหยวนๆให้ทานไป การยกกลับไปแบบนี้ทำให้พวกเราอดคิดไม่ได้ว่าคงเอาไปตักปูที่เหลือออกแล้วเอาบางส่วนเทใส่จานเล็กมาเสิร์ฟแทน (เสียดายมัวแต่เคืองเลยลืมถ่ายรูปจานมินิไซส์มาเทียบ) ...แล้วข้าวกับปูที่เหลือล่ะ เอาไปทำอะไรน้าาาา
เหวี่ยงไปซะเยอะแล้ว มาสรุปหน่อยดีกว่า
บรรยากาศ – ด้วยความที่ร้านแคบและลูกค้าเยอะก็เลยแออัดไปหน่อยค่ะ
การบริการ – ช่วงแรกดีมากค่ะ บริการได้รวดเร็วและมีมาถามไถ่อยู่เรื่อยๆแม้พวกเราจะอยู่ในมุมที่เข้าถึงยาก มารู้สึกไม่ค่อยดีตอนมีเรื่องข้าวผัดนี่ล่ะค่ะ หักลบกลบหนี้กันแล้วถือว่ากลางๆก็แล้วกัน ^^
รสชาติ – ดีตรงที่ปรับระดับความเผ็ดได้ รสชาติโดยรวมก็อร่อยทุกจาน แม้รสจะออกไปทางอาหารจีนมากว่าอาหารไทยในหลายๆจาน
ความคุ้มค่า – ออกไปทางแพงนะคะ คือราคาต่อจานก็ประมาณนึง แต่พอเทียบกับปริมาณแล้วรู้สึกว่าอย่างนั้น
พอมีเรื่องเหวี่ยงๆ เลยขอจัดระดับความพึงพอใจโดยรวมว่า "ไม่ปลื้ม" ค่ะ เพราะทำเอาไม่อยากจัดซ้ำเลยทีเดียว
โพสต์