7
0
0
ระดับ4
สำหรับวันนี้จะพาไปรับประทานอาหารอิตาเลียนสไตล์ทัสคานีซึ่งเป็นการเปิดตัวดินเนอร์อาหารอิตาเลี่ยนซึ่งรังสรรค์โดยเชฟริคคาร์โด คาตาร์ซี (Riccardo Catarsi) ซึ่งเป็นเชฟที่เชิญมาจากฮิลตันสิงคโปร์ และอีเวนท์นี้จะมีตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน ถึง 31 ธันวาคม นี้เท่านั้นนะคะ โดยอาหารที่เราไปกินนี้เป็นคอร์สพิเศษที่ทางเชฟจัดให้กับสื่อค่ะ สำหรับการเดินทางวันนั้นเราขับรถไปนะคะ แล้วก็เข้าซอยข้างเอมโพเรียม (สุขุมวิท 24) ไปโรงแรมจะอยู่ทางซ้ายมือ จอดรถไว้ที่ชั้นใต้ดิน ขึ้นลิฟท์มาที่ชั้นจี แล้วก็ค่อยกดลิฟท์ไปที่ชั้นสองอีกทีค่ะเก็บภาพบรรยากาศของห้องอาหารสกาลินีมาให้ดูก่อนนะคะห้องอาหารแห่งนี้มีทั้งสิ้น 100 ที่นั่งนะคะโฉมหน้าของเชฟและทีมผู้รังสรรค์อาหารมื้อนี้ให้เราค่
อ่านรีวิวฉบับเต็ม
สำหรับวันนี้จะพาไปรับประทานอาหารอิตาเลียนสไตล์ทัสคานีซึ่งเป็นการเปิดตัวดินเนอร์อาหารอิตาเลี่ยนซึ่งรังสรรค์โดยเชฟริคคาร์โด คาตาร์ซี (Riccardo Catarsi) ซึ่งเป็นเชฟที่เชิญมาจากฮิลตันสิงคโปร์ และอีเวนท์นี้จะมีตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน ถึง 31 ธันวาคม นี้เท่านั้นนะคะ โดยอาหารที่เราไปกินนี้เป็นคอร์สพิเศษที่ทางเชฟจัดให้กับสื่อค่ะ 
65 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
สำหรับการเดินทางวันนั้นเราขับรถไปนะคะ แล้วก็เข้าซอยข้างเอมโพเรียม (สุขุมวิท 24) ไปโรงแรมจะอยู่ทางซ้ายมือ 

จอดรถไว้ที่ชั้นใต้ดิน ขึ้นลิฟท์มาที่ชั้นจี แล้วก็ค่อยกดลิฟท์ไปที่ชั้นสองอีกทีค่ะ

เก็บภาพบรรยากาศของห้องอาหารสกาลินีมาให้ดูก่อนนะคะ
55 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
62 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
ห้องอาหารแห่งนี้มีทั้งสิ้น 100 ที่นั่งนะคะ

โฉมหน้าของเชฟและทีมผู้รังสรรค์อาหารมื้อนี้ให้เราค่ะ
70 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
ระหว่างรอการเปิดงาน ทางโรงแรมก็บริการเครื่องดื่มตัวนี้ให้รองท้องกันไปก่อนนะคะ
50 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
จากนั้นทางทีมจัดงานทั้ง GM Chef รับเชิญ และ Chef ประจำรวมทั้งพีอาร์ก็มากล่าวต้อนรับและพูดถึงงานในค่ำคืนนี้ค่ะ

เมนูที่เชฟริคคาร์โดจะรังสรรค์ขึ้นมานั้นประกอบไปด้วย 4 คอร์สโดยในแต่ละคอร์ส ลูกค้าสามารถเลือกได้ถึง 3 ตัวเลือกนะคะ โดยเมนูพิเศษจากเชฟรับเชิญนี้จะมีระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2559 ระหว่างเวลา 18.00 น.ถึง 22.30 น. เท่านั้นค่ะ แต่ก็ยังคงเสิร์ฟอาหารเมนูปกติด้วยเช่นกันนะคะ

เมนูพิเศษโดยเชฟริคคาร์โดนำเสนอ จะเป็นราคา 1,899 บาทสุทธิต่อท่านสำหรับอาหารเท่านั้น และราคา 2,699 บาทสุทธิต่อท่านสำหรับอาหารและไวน์ที่จับคู่ในแต่ละคอร์ส (จะเป็นไวน์ขาว 1 ไวน์แดง 2 และลิมอนเชลโลอีก 1 ค่ะ) แต่สำหรับสำหรับวันที่ 31 ธันวาคม 2559 จะมีความพิเศษคือ เพิ่มเมนูที่สามารถเลือกได้เองจากเมนูพิเศษที่เชฟได้รังสรรค์ขึ้นมา เช่น หอยนางรม ล็อบสเตอร์และเมนูให้เลือกสั่งกว่า 10 เมนู ในราคาสุทธิเพียง 3,499 บาทต่อท่านสำหรับมื้อค่ำค่ะ 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร 02 620 6666 อีเมล bkksu.info@hilton.com หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ของโรงแรมได้ที่ Hilton.com.

จากซ้ายไปขวา GM / เชฟประจำสกาลินี / เชฟ Riccado Catarsi คุณซันเดย์ พีอาร์ของโรงแรมและซอมเมลิเยร์ของงานนี้ค่ะ

สำหรับคืนนี้ที่นั่งจะถูกระบุว่าใครนั่งตรงไหนนะคะ จะมีชื่อไว้ให้ (นี่ไปถ่ายของคนอื่นมาค่ะ แหะๆ) แต่ของเราพอดีโต๊ะของคนที่สนิทกันเค้ามีคนแคนเซิล เลยขอเปลี่ยนไปนั่งโต๊ะที่มีพี่อุ๊พี่ต้องแห่งตามกาลเวลา+ไปไหนไปด้วยกัน และน้องคม อร่อยปักหมุด และน้องเบลค่ะ แฮร่..

อาหารที่จะบริการในค่ำคืนนี้ค่ะ

Chef Riccardo Catarsi เป็นชาวทัสคานีนะคะ เพราะฉะนั้นอาหารในค่ำคืนนี้จะเป็นสไตล์ทัสคานค่ะ 

จากนั้นขนมปังก็มาเสิร์ฟก่อนค่ะ มีให้สองแบบนะคะ โดยดิปปิ้งจะเป็นบัลซามิกในน้ำมันมะกอก ซึ่งบัลซามิกน่าจะมีปรุงหรือหมักเพิ่ม เพราะเราได้กลิ่นเหมือนพริกไทยแซมมาด้วยหละ

ส่วนขนมปังสองอย่างจะมีตัวสีขาวกับตัวสีที่เข้มกว่า เทกซเจอร์ดีทั้งสองตัวนะคะ นุ่มและแน่น แต่ตัวสีเข้มกว่าจะมีรสและกลิ่นของน้ำผึ้งมาจางๆ ด้วยค่ะ ซึ่งแปลกดีอ้ะ มีขนมปังแบบนี้น้อยนะคะ
45 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
ตัวนี้เป็นอมุสบุชค่ะ ซึ่งปกติจะไม่มีนะคะ อันนี้เชฟทำพิเศษ เป็น Baccala, olio e riccio (Cod fish compote, EVOO, sea urchin)
71 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
ตัวนี้หลักน่าจะเป็นทั้งเนื้อปลาคอดและมันฝรั่งค่ะ มีรสเค็มแซมนิดๆ และมีเทกซ์เจอร์ที่คล้ายๆ เม็ดเกลือนิดๆ ด้วยค่ะ ตัวถั่วข้างๆ มีปรุงรสมาหน่อยหนึ่งด้วยนะคะ และเบคอนซึ่งให้รสไม่เหมือนเบคอนค่ะ แปลกดีอ้ะ 

จานแรกก็ทำให้เรารู้สึกเลยค่ะว่า เหมือนเราจะถูกจริตกับอาหารทัสคานแฮะ คือ ก่อนหน้านี้ที่เคยรีวิวไปที่กินอาหารฝีมือเชฟทัสคานีก็อร่อยหลายอย่างมาก พอมาที่นี่ก็รู้สึกว่า เฮ้ยย โอเคอีกแล้ว แต่ในความรู้สึกเราจะไม่ตรงกับข้อมูลในลิงก์ที่ใส่ก่อนหน้านี้ที่บอกว่าอาหารทัสคานเน้นที่ความสดของวัตถุดิบ แต่จะไม่ปรุงแต่งอะไรมาก แต่เรากลับรู้สึกว่า เชฟคนนี้เค้ากลับมีความ complicate ในการทำอาหารแต่ละอย่างอ้ะ บอกไม่ถูก แต่แต่ละจานนี่...รสมันมีความซับซ้อนและมีการผสมผสานในวัตถุดิบหลายอย่างมากๆ ค่ะ 

จานต่อไปเป็น Pane, pomodoro e mare (Tomato cream, Tuscan seafood, burrata cheese, caviar and basil chips) 
37 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
ตัวครีมมะเขือเทศกลับมีกลิ่นคล้ายเครื่องเทศค่อนไปเกือบเหมือนพริกแกงของบ้านเราแบบอ่อนๆ ค่ะ กุ้งถูกปรุงรสด้วยมะนาว (น่าจะเป็นเลมอนมากกว่าไลม์นะคะ) นิดหน่อย ส่วนตัว Basil chip ที่หลายคนเดาว่าน่าจะเป็นหนังปลาจะมีกลิ่นหอมเบาๆ ด้วยนะคะ กรอบ และไม่คาวเลย เลยไม่ค่อยแน่ใจว่าหนังปลาจริงหรือเปล่าน้อ 555 

ส่วนตัว mussels นั่นก็ดีงามมากนะคะ อร่อยแหละ แทบจะแย่งซีนของอีกอันเลยค่ะ

เมนูนี้จับเข้าคู่มากับไวน์แดง 

Rocco delle Macie, "Vernaiolo" Chianti DOCG, Tuscany, Italy, 2014 
43 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
หลายคนอาจจะแปลกใจว่าทำไมเค้าถึงจับคู่กับไวน์แดงนะคะ

คือฝ่ายซอมเมลิเยร์บอกว่า เนื่องด้วยอาหารที่ทางเชฟทำค่อนข้างมีความซับซ้อน และทางเขาต้องการจับคู่แบบพิเศษ (unusual) น่ะนะคะ 
28 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
ผลของการกินคู่กัน เราว่าเข้าได้โอเคอยู่นะคะ คือ มันเป็นไวน์ที่เนื้อหนังยังไม่ฟูลมาก ออกแนวเบาๆ เคลียร์ๆ ทำให้พอกินอาหารแล้วดื่มไวน์ตาม มันจะช่วยเคลียร์รสและกลิ่นของอาหารน่ะค่ะ ซึ่งไม่ตีกับอาหารหละ เพราะตัวอาหารรสค่อนข้างเข้ม พอได้ไวน์มาเคลียร์ก็เลยค่อนข้างโอเคอยู่นะคะ

เมนูต่อไปค่ะ

IL Tortello della toscna (Charcoal pumpkin tortello, chickpea cream, tropea onion, chlorophyll gell, black truffle)
49 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
ตัวนี้จับเข้าคู่มากับไวน์

Tunuta La Fornete, Barco Reale di Carmignano DOC, Tuscany, Italy 2010
41 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
ผลการกินนะคะ ตัวรสชาติโดยรวมจะมีความหวานนวลจากฟักทองนำค่ะ เทกซเจอร์หนึบเด้งดีมาก ความหนึบจะเด่นค่ะ แต่ขณะเดียวกันก็มีเทกซเจอร์อย่างอื่นที่แซมมาด้วย ตัวหอมก็หวานกำลังดีนะคะ 

ไวน์ตัวนี้จะเริ่มหวานกว่าตัวที่แล้วค่ะ ขาเยอะขึ้นกว่าตัวที่แล้วอีกนิด แต่ก็ยังอยู่ในโหมดเบาอยู่ และยังคงเป็นไวน์แดงนะคะ 

ไวน์ตัวสุดท้ายค่ะ เป็นตัวที่ได้รับการแจ้งก่อนเลยว่าเป็น Full Body นะคะ กับ Chianti Classico DOCG, Tuscany, Italy, 2013
38 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
45 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
ตัวนี้ก็สมกับเป็น Full Body หละค่ะ ดูขาก่อนแล้วกันเนาะ

คือ กลิ่นจะเด่นกว่าทุกตัวค่ะ และรสชาติก็มาเต็มมากๆ กว่าทุกตัวเช่นเดียวกัน ถ้าเอาเฉพาะตัวไวน์ เราชอบตัวนี้อยู่นะคะ รู้สึกว่ามันเป็นเนื้อเป็นหนังดีค่ะ

ไวน์ตัวสุดท้ายมาพร้อมกับ main course ค่ะ

Cacciucco a modo mio (Typical Tuscan seafood soup from Livorno in Riccardo style)
46 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
54 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
49 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
menu นี้ตอนแรกจะมาแบบในภาพบนก่อนนะคะ และจะมีกาซุปเล็กๆ มาด้วย จากนั้นพนักงานก็ทำการราดซุปให้ตามภาพค่ะ 

สำหรับรสชาตินะคะ ใครเลิฟซีฟู้ด จะฟินกับจานนี้หละค่ะ รสและกลิ่นซีฟู้ดมาแบบจัดเต็มมาก ชัดมากๆ แต่จานนี้รสจะออกหวานนำนะคะ (ซึ่งเราชอบหวานไง เราเลยโปรด 555)

ซึ่งพอกินคู่กับการดื่มไวน์ตัวนี้ เราว่าเป็นตัวเดียวที่โดดและค่อนข้างไม่แมทช์กันเท่าไหร่ค่ะ กินแยกกันจะดีงามกว่านะคะ 

ปิดท้ายกันด้วยของหวานค่ะ

Dolce Ponce (Rum Double chocolate mousse, Lemon sponge, sugar cane twill and coffee air)
70 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
เป็นอีกเมนูที่มีความหลากหลายและ complicate มากค่ะ เริ่มทีละส่วนแล้วกันนะคะ

ในถ้วยจะเป็น coffee air ค่ะ ซึ่งรสออกกาแฟที่ไม่เข้มไป กำลังนวลอร่อยสำหรับเราเลย กินเปล่าๆ หรือจะใช้พัฟสติ๊กดิปลงไปก็อร่อยอีกแบบนะคะ

ตัวชูการ์เคนทวิลล์ (หรือเลมอนสปองจ์ฟระ 555) ...รสไม่เด่นค่ะ แต่สัมผัสนุ่มดี

ตัวดับเบิ้ลรัมช็อกโกแลตมูสนี่ รัมไม่เด่นนะคะ (ตอนแรกแขยงก่อนเลย เพราะข้าพเจ้าไม่ชอบรัมง่ะ แหะๆ) ค่อนข้างพอดิบพอดี ช่วยส่งรสช็อกโกแลตได้ดีมากๆ เลยแล้วมีถั่วคลุมมาด้วยอีก อร่อยซะงั้นค่ะ ชอบเลย

ไอศกรีมที่ใส่มาก็เปรี้ยวสดชื่นดีนะคะ อร่อยเช่นกันค่ะ

จากนั้นทางโรงแรมก็มีเซอร์ไพรซ์พิเศษสำหรับสื่อสองท่านที่มีวันเกิดตรงกับวันนี้ค่ะ หนึ่งในนั้นก็คือพี่ต้อง ณ เพจไปไหนไปด้วยกัน หรือคู่หูของพี่อุ๊ เพจตามกาลเวลานั่นเองค่ะ ทางโรงแรมนอกจากนำเค้กมาให้เป่าแล้วก็ยังมอบตุ๊กตาหมีให้ด้วยนะคะ น่ารักมากๆ เลยหละค่ะ
65 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
สรุปสำหรับที่นี่นะคะ

เป็นอีกมื้อหนึ่งที่ประทับใจ และสร้างความรู้สึกที่ดีให้กับอาหารทัสคานค่ะ เท่าที่กินมา เราว่าถูกจริตในความเข้มข้นของอาหารที่ทำจากเชฟทัสคานีนะคะ รสชาติและเทกซเจอร์มีความซับซ้อน ซึ่งนอกจากสร้างความสนุกในการกินแล้วก็ทำให้ได้ความหลากหลายด้วยค่ะ

ถ้าท่านใดสนใจก็ลองติดต่อไปทางรร.ได้นะคะ เพราะอาหารพิเศษจากเชฟ Riccado จะมีถึงแค่สิ้นปีนี้เท่านั้นนะคะ 
55 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
29 วิว
0 ไลค์
0 คอมเมนต์
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)
โพสต์
รายละเอียดคะแนนรีวิว
รสชาติ
การตกแต่ง
บริการ
ความสะอาด
ความคุ้มค่า
วิธีการกิน
รับประทานที่ร้าน