อ่านรีวิวฉบับเต็ม
2011-03-19
199 วิว
วันนี้เป็นวันพักผ่อน ได้มีโอกาสออกไปสูดอากาศวันว่างๆกับเขาบ้าง อิอิเลยนึกขึ้นได้ว่ามานั่งกินหมูสะเต๊ะดีกว่าเพราะว่า ไม่ได้กิน มานานแล้ว แต่จะว่าก็ว่า หมูสะเต๊ะที่ไหนๆ ก็มีขายกันทั้งนั้น มันก็เป็นหมูไม้สีเหลืองแค่นั้นก็ เรียกว่าหมูสะเต๊ะแล้ว จริงไหม ^^ แต่สำหรับผม ... มันไม่ใชนะสิครับ เพราะว่า ปกติผมไม่ชอบกินหมูสะเต๊ะเลย ตอนเด็กจำได้ว่า เวลามีกินเลี้ยงในโอกาสต่างๆ ไม่ว่าจะโอกาสไหนที่บ้านผมจะต้องมีหมูสะเต๊ะ แต่ผมเองไม่ใยคิดที่จะกินมันเลยถึงกินก็กินแค่ไม้สองไม้ น้ำจิ้มกินนิดเดียวแล้วก็ทิ้งมัน นั่นเป็นเหตุผลที่ผมจำเป็นต้องมากิน หมูสะเต๊ะที่ร้านนี้ ที่ชื่อว่า ร้าน "ชองกี่"ทำไมผมถึงชอบนักชอบหนา??เพราะอย่างแรกเลย ผมประทับใจกับร้านหมูสะเต๊ะที่ให้รายละ
เลยนึกขึ้นได้ว่ามานั่งกินหมูสะเต๊ะดีกว่าเพราะว่า ไม่ได้กิน มานานแล้ว แต่จะว่าก็ว่า หมูสะเต๊ะที่ไหนๆ ก็มีขายกันทั้งนั้น มันก็เป็นหมูไม้สีเหลืองแค่นั้นก็ เรียกว่าหมูสะเต๊ะแล้ว จริงไหม ^^
แต่สำหรับผม ... มันไม่ใชนะสิครับ เพราะว่า ปกติผมไม่ชอบกินหมูสะเต๊ะเลย ตอนเด็กจำได้ว่า เวลามีกินเลี้ยงในโอกาสต่างๆ ไม่ว่าจะโอกาสไหนที่บ้านผมจะต้องมีหมูสะเต๊ะ แต่ผมเองไม่ใยคิดที่จะกินมันเลยถึงกินก็กินแค่ไม้สองไม้ น้ำจิ้มกินนิดเดียวแล้วก็ทิ้งมัน
นั่นเป็นเหตุผลที่ผมจำเป็นต้องมากิน หมูสะเต๊ะที่ร้านนี้ ที่ชื่อว่า ร้าน "ชองกี่"
ทำไมผมถึงชอบนักชอบหนา??
เพราะอย่างแรกเลย ผมประทับใจกับร้านหมูสะเต๊ะที่ให้รายละเอียดเกินกว่าชิ้นหมูสะเต๊ะกับตับสะเต๊ะปิ้ง แต่ ร้านนี้ให้คามพิถีพิถันในเรื่องของน้ำจิ้ม อาจาด และ น้ำจิ้มสะเต๊ะ
ครั้งหนึ่งผมได้มีโอกาสถามกับคนปรุงน้ำจิ้มร้านนี้ ถึงสูตรความอร่อย ซึ่งเป็นธรรมดาอยู่แล้วที่มันเป็นสูตรลับเฉพาะร้าน แต่ ก็ได้ทราบว่า ได้มีเครื่องเทศหลายชนิด ซึ่งเป็นไปได้ว่า(ในความคิดของผม) ต้นทุนเครื่องเทศอาจจะแพงกว่า หมูสะเต๊ะเสียด้วยสิ 5555 (ในความคิดผมเองอีกนั่นแหละ) เพราะทุกครั้งที่ผมได้ลองชิมน้ำสะเต๊ะ สิ่งแรกที่ผมได้รับรู้ในรสชาตินั่นคือ ความกลมกล่อม คือรสชาติที่เป็นกลาง ไม่มีรสไหนเกิน ทุกอย่างกลมกล่อม และทุกอย่างบดรวมกันอย่างดี ยิ่งเมื่อได้กินกับขนมปังปิ้ง แล้ว เข้ากันได้ดีทีเดียว ถ้าถามเรื่องหมูสะเต๊ะ ตรงนี้ผมถูกใจ เพราะปกติ หมูสะเต๊ะ ที่อื่นจะมีรสเข้มข้น บางทีก็อาจจะจัดจ้าน (สำหรับความชอบส่วนตัวของท่านอื่น) ซึ่งบางท่านอาจจะชอบทานแต่หมูสะเต๊ะแค่นั้นก็เกินพอ ไม่ต้องจิ้ม ก็กินได้เอร็ดอร่อย แต่ สำหรับร้านนี้ ถ้าคุณอยากได้รสชาติที่่ครบ คุณต้อง ทานหมูสะเต๊ะ + น้ำจิ้มสะเต๊ะ + น้ำจิ้มอาจาด + ขนมปัง + จิ้มน้ำสะเต๊ะ ฉะนั้น จะไม่มีส่วนไหนขาดกัน เพราะ ทุกครั้งที่คุณมานั่งร้านนี้ คนเสริฟ จะตักน้ำจิ้มสะเต๊ะและน้ำจิ้มอาจาดให้คุณก่อนเลยอันดับแรก ส่วน หมูสะเต๊ะนั้น กำลังย่างร้อนๆพร้อมเสริฟ์ตามมาอีกทีนึง หรือคุณ จะสั่งขนมปังปิ้งเพิ่มก็ตามความจุของกระเพาะ ก็ไม่ว่ากัน
ส่วนราคา นั้นก็ไม่แพง ไม้ละ 5 บาท แต่ถ้าวันไหนคุณ หิวมากและบอกกับเถ้าแก่ร้านว่า ผมสามารถทานได้ 100 ไม้ เถ้าแก่เค้าก็จะรับคำท้า หากคุณทานได้ 100 ไม้จริง กินฟรี!!! แต่ถ้าไม่หมด คุณต้องชำระเงินนะครับ 5555 และนี่ก็เป็นกิตติศัพท์อย่างนึง ที่ทำให้ร้านนี้เป็นที่รู้จักและเลื่องชื่อลือชา ด้วยโปรโมชั่นสุดโหด 100 ไม้ไม่คิดตังค์ แต่ต้องนั่งกินในร้านให้เห็นนะเออ .... เอาเป็นว่า ผมแนะนำ "ร้าน ชองกี่หมูสะเต๊ะ" ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของ ชาวโอเพ่นไรซ์ด้วยแล้วกันนะครับ ^^ เพราะเรื่องราวดีๆ มีไว้แบ่งปันจริงไหม ^^
โพสต์