3
0
0
ระดับ4
เนื่องด้วยทางเจ้าของบล็อกได้รับการติดต่อมาจากคุณเปิ้ล ซึ่งเคยชวนเจ้าของบล็อกไปกินปิ้งย่างสุดพรีเมี่ยมที่ประทับใจมากๆ และเคยรีวิวมาแล้ว กับ Ito Kacho ส่งข้อความมาชวนเจ้าของบล็อกไปหม่ำอีกหนึ่งร้านซึ่งเปิดสาขาใหม่ที่ธนิยะ นั่นก็คือร้าน Hokkaido Tsubohachi (แต่เราจะเรียกกันสั้นๆ ว่าร้าน สึโบฮาจินะคะ) เป็นร้านสไตล์อิซากายะจากฮอกไกโด ซึ่งสาขานี้เป็นสาขาที่สี่แล้วค่ะ เปิดเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2557 ที่ผ่านมานี้เองหละค่ะ ส่วนสาขาทั้งหมดในไทยสี่สาขา (อยู่ในกรุงเทพฯ ทั้งหมดก็มีดังนี้นะคะ)1. สาขานิฮอนมูระมอลล์ โครงการ 2 ทองหล่อ 13 (เปิดเมื่อ 24 ตุลา 56 ค่ะ)2. สาขา B Hive ในอิมแพ็ค3. สาขานิฮอนมาชิ สุขุมวิท 264. สาขาซอยธนิยะส่ว
อ่านรีวิวฉบับเต็ม
เนื่องด้วยทางเจ้าของบล็อกได้รับการติดต่อมาจากคุณเปิ้ล ซึ่งเคยชวนเจ้าของบล็อกไปกินปิ้งย่างสุดพรีเมี่ยมที่ประทับใจมากๆ และเคยรีวิวมาแล้ว กับ Ito Kacho ส่งข้อความมาชวนเจ้าของบล็อกไปหม่ำอีกหนึ่งร้านซึ่งเปิดสาขาใหม่ที่ธนิยะ นั่นก็คือร้าน Hokkaido Tsubohachi (แต่เราจะเรียกกันสั้นๆ ว่าร้าน สึโบฮาจินะคะ) เป็นร้านสไตล์อิซากายะจากฮอกไกโด ซึ่งสาขานี้เป็นสาขาที่สี่แล้วค่ะ เปิดเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2557 ที่ผ่านมานี้เองหละค่ะ ส่วนสาขาทั้งหมดในไทยสี่สาขา (อยู่ในกรุงเทพฯ ทั้งหมดก็มีดังนี้นะคะ)
1. สาขานิฮอนมูระมอลล์ โครงการ 2 ทองหล่อ 13 (เปิดเมื่อ 24 ตุลา 56 ค่ะ)
2. สาขา B Hive ในอิมแพ็ค
3. สาขานิฮอนมาชิ สุขุมวิท 26
4. สาขาซอยธนิยะ
ส่วนท่านใดสนใจจะไปดูเว็บไซต์ของเค้า ก็เรียนเชิญได้ที่
http://www.tsubohachi-tha.com
แต่ถึงในไทยจะมีสี่สาขา แต่...ร้านนี้มีทั้งหมด 300 กว่าสาขาทั้งในประเทศญี่ปุ่นและสิงคโปร์นะคะ (เดี๋ยวจะมีรูปแจกแจงรายละเอียดสาขาในญี่ปุ่นให้ชมกันค่ะ ตอนรู้สาขานี่เราหงายเงิบเลย ไปญี่ปุ่นไม่ยักกะสังเกตเห็นร้านนี้วุ้ย)
สำหรับการไปนะคะ เราขับรถไป (ซึ่งถ้าใครจะไปสาขานี้ ขอบอกว่าไม่แนะนำเท่าไหร่นะคะ ยกเว้นพร้อมแก่การผจญกับรถติดมากๆ ในตอนเย็นของสีลม) แล้วก็เอารถไปจอดที่สีลมคอมเพล็กซ์ค่ะ (ชั่วโมงละ 30 บาท) จากนั้นก็กดลิฟท์ไปชั้น 2 จะมีทางเดินเชื่อมเข้าสถานีบีทีเอส เพื่อจะข้ามไปยังฝั่งธนิยะ เดินเข้าไปในซอยประมาณ 50 เมตร ร้านจะอยู่ทางขวามือ ชั้นสองนะคะ
หน้าปากซอยธนิยะและหน้าตาของอาคารที่ร้านตั้งอยู่ค่ะ อาคารนี้ชื่อวาย เอส เค นะคะ
ถ้าท่านใดไปไม่ถูก หรือจะสอบถามจองก็โทร.ไปที่เบอร์ทางร้านนะคะ 02-2665380 ค่ะ
หน้าตาหน้าร้านค่ะ ต้องขึ้นบันไดทางขวามือนี่ไปชั้นสองนะคะ
33 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
หันหน้าเข้าร้าน ถ้าท่านใดไม่สะดวกขึ้นบันไดทางขวามือ ก็สามารถใช้ลิฟท์ทางซ้ายมือขึ้นไปก็ได้นะคะ
48 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
ขึ้นไปที่ชั้นสองจะมีป้ายของทางร้านอยู่ติดกับประตูเข้า-ออกที่เป็นกระจกซึ่งเป็นประตูอัตโนมัตินะคะ
50 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
วันนั้นคุณเปิ้ลจัดห้องส่วนตัวแบบนี้ให้เราค่ะ
42 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
ซึ่งที่สาขานี้จะมีทั้งส่วนบาร์ตามภาพ แล้วก็มีห้องส่วนตัวทั้งหมด 9 ห้องนะคะ รับลูกค้าได้ราว 94-108 ท่านค่ะ (คือในเอกสารบอก 108 แต่ตอนถามผู้จัดการ แจ้งว่า 94 น่ะค่ะ แหะๆ) เปิดตั้งแต่เวลา 11.00-24.00 น. (แต่รับออเดอร์สุดท้ายตอนห้าทุ่มครึ่งนะคะ)
ในรูปคือเชฟของที่นี่นะคะชื่อคุณพงศ์ ซึ่งปกติจะอยู่ที่สาขาแรก แต่ตอนนี้มาอยู่ที่สาขานี้แล้วค่ะ แต่จะมีเชฟคนญี่ปุ่นคอยมาตรวจตรา ตรวจสอบประมาณสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งตลอดค่ะ เพราะ..ตามสไตล์ญี่ปุ่นหละนะคะ ทุกอย่างต้องเป๊ะและคงคุณภาพตามแบบฉบับเค้า นี่เป็นแค่ตัวอย่างหนึ่งค่ะ เดี๋ยวจะมีเรื่องราวเล่าให้ฟังอีก โฮะๆๆ
36 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
โปรโมชั่น เมนู และที่สำคัญคือปุ่มสำหรับกดเรียกพนักงานและเรียกให้เช็คบิลค่ะ
40 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
หน้าตาของเมนูค่ะ ขอบอกว่านี่เป็นอีกหนึ่งอย่างที่แสดงถึงความเอาใจใส่ พิถีพิถันและเคร่งครัดตามแบบฉบับของญี่ปุ่น คือ กระทั่งเมนูนี่ก็ทำมาจากญี่ปุ่นอะค่ะ ไม่ได้สั่งทำที่ไทย คือทางร้านเองก็ต้องรอให้ทางญี่ปุ่นทำกลับมา เพราะเค้าต้องการคุมคอนเซปต์และสไตล์ให้เหมือนกันกับที่ญี่ปุ่นน่ะค่ะ กระทั่งเพลงที่เปิดในร้านก็เหมือนกันค่ะ ไรท์มาจากทางญี่ปุ่นอีกเช่นกัน หรืออย่างพวกหม้อ อุปกรณ์หลายๆ อย่างก็เอามาจากญี่ปุ่นนะคะ
ซึ่งร้านสาขาแรกฮอกไกโดนี่เปิดตั้งแต่ปี 1973 อะค่ะ ยาวนานมั่ก
33 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
อาหารของร้านนี้นี่ราคาเท่ากันทุกสาขานะคะ (เราพยายามรวมรูปแล้วค่ะ แต่โฟโต้สเคปมันรวมรูปพวกนี้แล้วเซฟให้น้อยกว่า 150k ตามที่บล็อกแกงค์กำหนดไม่ได้ง่ะค่ะ (สงสัยรายละเอียดแต่ละรูปเยอะเกิน ความจำแต่ละรูปเลยเยอะเกินกว่าจะรวมค่ะ แง) เลยโพสต์แยกนะคะ)
44 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
43 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
32 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
45 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
26 วิว
2 ไลค์
0 คอมเมนต์
ซึ่งหนึ่งในเมนูที่เราคิดว่าค่อนข้างคุ้มค่า (และเป็นเมนูหนึ่งที่คุณเปิ้ลเองก็แนะนำ และได้กินในวันนี้นะคะ) ก็คือเมนูนี้ค่ะ Tokumori กับปลาดิบรวม 10 ชนิดในราคา 999 บาทค่ะ (จากในรูปนี่คืออันบนนะคะ)
33 วิว
2 ไลค์
0 คอมเมนต์
แล้วร้านแนวอิซากายะคืออะไร?
ข้อมูลจาก http://www.marumura.com/food/?id=1787 นะคะ
“ Izakaya” 「居酒屋」มันก็คือ บาร์ดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น ที่ให้บริการอาหารรสดั้งเดิมแบบญี่ปุ่นแท้ๆ และเครื่องดื่ม Alcohol ทุกชนิด ทั้งสาเก เหล้าโชจู คำว่า「居」( i ) มีที่มาจาก「居酒屋」(Izakaya) ความหมายก็เหมือนกับ (i)「居心地」(igokochi), ที่มีความหมายว่า “สถานที่ ที่แสนสบาย” Izakaya จึงเป็นร้านที่คนญี่ปุ่นมักนิยมมาใช้บริการพักผ่อนกันหนาแน่น บรรยากาศภายในร้านจึงเต็มไปด้วยคนญี่ปุ่นที่มานั่งสังสรรค์กันอยู่เป็นจำนวนมาก
ร้าน Izakaya เป็นร้านประเภทที่ไว้รับประทานอาหารและพูดคุยสนทนากัน ไม่ว่าจะเป็นการคุยกับลูกค้า หรือสังสรรค์กันในหมู่เพื่อน ลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะหนีไม่พ้น เหล่ามนุษย์เงินเดือนทั้งหลายที่ต่างก็แวะมานั่งสังสรรค์กันยามเลิกงาน
Izakaya มีอาหารญี่ปุ่นหลากหลายไว้คอยบริการ ซึ่งจะแตกต่างจากร้านอาหารญี่ปุ่นแนวอื่นๆ ที่จะไม่มีตัวเลือกให้มากนัก ส่วนเรื่องของเครื่องดื่ม เน้นไปทางการดื่ม Alcohal แบบจัดหนัก!!! จึงเป็นเสน่ห์ของร้านนี้ที่น่าไปลิ้มลอง
สำหรับสาขาในญี่ปุ่นของร้านนี้นะคะ มีมากมายอย่างที่เกริ่นไปในตอนต้นหละค่ะ ซึ่งในเมนูเองก็มีบอกชัดเจนนะคะว่ามีที่เขตไหนบ้างและมีกี่สาขาค่ะ
25 วิว
2 ไลค์
0 คอมเมนต์
มาดูกันค่ะว่าวันนั้นเรากินอะไรไปบ้างเนาะ
เมนูแรกนะคะ Potato Mentaiko หรือมันฝรั่งกับไข่ปลาทอด ราคา 139 บาท
26 วิว
2 ไลค์
0 คอมเมนต์
มาแบบยืดๆ กันเลยค่ะ ตัวรสชาติที่ได้กิน ที่เด่นคือเรื่องกลิ่น หอมค่ะ แล้วตัวสัมผัสในปากก็แน่นดี อร่อยแบบอ้วนๆ มากๆ โอค่ะจานนี้
22 วิว
4 ไลค์
0 คอมเมนต์
ต่อไปเป็นไคเซนสลัดค่ะ Kaisen Salad ราคา 299 บาท
วัตถุดิบก็มีทั้งผัก (แน่ล่ะสิยะ) แซลมอน หมึกยักษ์และไข่กุ้งตามภาพเลยค่ะ
23 วิว
4 ไลค์
0 คอมเมนต์
น้ำสลัดถูกแยกมาแบบนี้นะคะ ตอนแรกเรากินแบบไม่มีน้ำสลัดก่อน ตัววัตถุดิบค่อนข้างสดโอเลยค่ะ พอคลุกกับน้ำสลัด น้ำสลัดจะออกรสเปรี้ยวๆ นะคะ กินด้วยกันแล้วเรียกน้ำย่อยและสดชื่น กระตุ้นกระเพาะดีค่ะ
33 วิว
2 ไลค์
0 คอมเมนต์
จานต่อไปค่ะ Hokkai Kamameshi ราคา 349 บาท
31 วิว
2 ไลค์
0 คอมเมนต์
เมนูนี้เลือกได้ว่าจะเอาแบบเค้าทำมาให้สุกเรียบร้อยแล้ว หรือเอามาตั้งแบบนี้ แล้วปิดฝา รอไฟที่ลุกนั่นดับ (ใช้เวลาราวยี่สิบนาที) ก็จะสุกพอดีค่ะ
จะเห็นว่าเมนูนี้จะรวมเอาของเด่นของดีของเมืองฮอกไกโดมาทั้งนั้นเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นปูทาราบะ แซลมอน หอยเชลล์ทาดาเตะ เห็ด แล้วก็มีน้ำซุปสูตรเฉพาะของทางร้านด้วยค่ะ
15 วิว
2 ไลค์
0 คอมเมนต์
ตอนใกล้สุกนี่ ไอน้ำพวยพุ่งเป็นควันออกมาแบบนี้เลยค่ะ ตื่นตาดี
สำหรับรสชาติในการกินนะคะ ตัวนี้จะรสอ่อนๆ ค่ะ เหมาะสำหรับต้องการกินข้าวแต่อยากได้รสชาติของวัตถุดิบอื่นๆ ด้วยนะคะ ค่อนข้างหอมพวกเครื่องเคราต่างๆ ที่ใส่มาพอควรเลยค่ะ แต่รสชาติจะออกอ่อนๆ หน่อยนะคะ
คุณเปิ้ลทำหน้าที่คลุกเคล้าและตักให้พวกเราค่ะ
25 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
ต่อมาค่ะ กับอีกหนึ่งเมนูที่เรารู้สึกว่าถ้ามาที่นี่แล้วชอบกินแนวปลาดิบ ซาชิมิ ก็ควรสั่งนะคะ กับ Tokumori Set ชุดปลาดิบรวมพิเศษ ราคา 999 บาท
มาในเรือเลยค่ะ เทียบขนาดของภาชนะกับมือให้ดูนะคะ ใหญ่พอควรทีเดียว
27 วิว
1 ไลค์
0 คอมเมนต์
ในสิบอย่างนี่ก็ประกอบไปด้วย ไข่ปลาแซลมอน (Ikura) ซาบะดอง แซลมอน (Sake) ปลาหมึกขาว (Ika) กุ้งหวาน (botan-ebi) หอยปีกนก (Hokkigai) หอยเชล (Hotategai) ปลาทูน่า (Maguro) ปลาหางเหลือง (Buri - เราไปดูจากลิงก์ที่เดี๋ยวจะแปะบอกว่าเป็นปลานี้นะคะ เพราะทางร้านบอกว่าเป็นปลาบุริน่ะค่ะ) ปลาหมึกยักษ์ (Tako) ค่ะ
เครดิตชื่ออาหารจาก สองลิงก์นี้นะคะ
http://www.educatepark.com/japan/sushi.html
http://www.educatepark.com/japan/sushi-2.html
7 วิว
5 ไลค์
0 คอมเมนต์
มาเจาะกันทีละอันเลยแล้วกันนะคะ
ตัวแรกค่ะกับไข่ปลาแซลมอนหรืออิคุระ ค่อนข้างสดเลยค่ะ ไม่คาว กดแล้วแตกเป๊าะในปาก ฟินเลยทีเดียว
ต่อไปค่ะ กับอีกหนึ่งเมนูเด่นของที่นี่ ซาบะดองนะคะ รสชาติอมเปรี้ยวหน่อยๆ มีกลิ่นเฉพาะแบบซาบะหละค่ะ ถ้าคนชอบกินซาบะ (อย่างเรา) น่าจะชอบนะคะ
ต่อไปค่ะกับแซลมอน (Sake) ที่นี่ทำมาแบบชิ้นบางๆ นะคะ ทั่วไปค่ะ ไม่ได้เด่นอะไร สดปกติ
ต่อไปค่ะกับปลาหมึกขาวหรืออิกะ Ika ตัวนี้สดมากกกกก กินแล้วนิ่มฟิน หวาน อร่อยมากค่ะ แม้จะหั่นมาชิ้นบางกว่าทาคุมิแต่ความสดใกล้กันเลย ถ้าใครชอบกิน ที่นี่อร่อยนะคะ
ต่อไปค่ะกับหอยปีกนกหรือ Hokkigai ตัวนี้เป็นอีกตัวที่เด่นค่ะ เด้ง กรุบ สด อร่อยมาก ชอบๆ
ต่อไปค่ะกับกุ้งหวาน botan-ebi (แต่น้องที่พาไปหม่ำบอกว่าเป็น อามะเอบินะคะ อันนี้ไม่แน่ใจว่าเรียกแบบไหนกันแน่เหมือนกัน แหะๆ)
รสชาติหวานนิดๆ ลื่น สดดี ถ้าคนชอบกินกุ้งน่าจะฟินหละค่ะ
ต่อไปกับปลาหมึกยักษ์หรือทาโกะค่ะ ตัวนี้รสเค็มมาก่อนเลยค่ะ แต่เด้งดีนะคะ ทว่าเนื่องด้วยเมนูนี้เป็นเมนูที่อิชั้นไม่ค่อยโปรดเท่าไหร่ก็เลยไม่ค่อยดี๊ด๊าอะไรนะคะ แหะๆ
ต่อไปค่ะกับมากุโร่หรือทูน่านะคะ ตัวนี้สดมากๆ อร่อยค่ะ นิ่ม ไม่คาวเลย ควรค่าแก่การกินมาก
ต่อไปค่ะกับปลาหางเหลือง หรือ Buri
เนื้อค่อนข้างนิ่มเลยนะคะ แต่คาวปลายๆ หน่อยค่ะ (หมายถึงเคี้ยวไปสักพัก จะมีกลิ่นคาวนิดๆ เบาๆ ตามมาตอนท้ายค่ะ)
สุดท้ายค่ะกับหอยเชลล์ Hotategai
นุ่ม หวาน นิ่ม ละลาย สด อร่อยมากกกกกกกก เป็นอีกอย่างที่ชอบค่ะ อร่อยมั่ก
ต่อไปเป็นเมนูที่เราสั่งเพิ่มเองนะคะ กับ Tarabagani ราคา 699 บาท
17 วิว
4 ไลค์
0 คอมเมนต์
เป็นปูทาราบะ (ซึ่งฮอกไกโดขึ้นชื่ออยู่แล้วอะนะคะ) นึ่งด้วยหม้อโอนางิค่ะ มาพร้อมที่แกะและเลมอนค่
สำหรับปูทาราบะนะคะ สดในระดับหนึ่งหละค่ะ คือเนื้อยังหวานอยู่นะคะ แต่ก็คิดว่าด้วยการขนส่งหละค่ะ ทำให้ไม่สดเท่าเวลาไปกินที่ญี่ปุ่นหรอก (แน่สิยะหล่อน ) แต่ก็ถือว่าสดในระดับหนึ่งค่ะ แต่ขอบอกว่าแกะยากมาก และแนะนำว่าให้กินตอนยังร้อนๆ นะคะ เพราะเรากินตอนเย็นแล้ว รสชาติดร็อปลงพอควรหละค่ะ
และเมนูของคาวอย่างสุดท้ายของวันนั้นค่ะ (ทั้งหมดนี้มีเรา ผู้ติดตามเรา คุณเปิ้ล และน้องอีกคนของทางอิมแพ็คที่ชวนเราไปนะคะที่จัดการหม่ำกัน แหะๆ) กับ Ishikari Nabe ค่ะ
27 วิว
3 ไลค์
0 คอมเมนต์
เป็นซุปที่ใส่ของดีต่างๆ ของฮอกไกโดอีกเช่นกันนะคะ แล้วก็มีใส่เนยมาด้วย (ฮอกไกโดนนอกจากพวกปู ของทะเลทั้งหลาย เมลอนแล้ว ก็ยังมีนม เนย และชีสที่ดังด้วย อย่างที่หลายๆ คนคงจะทราบกันอยู่แล้วน่ะนะคะ)
สำหรับรสชาตินะคะ กลิ่นและรสชาติจะอ่อนๆ ค่ะ ตอนซดครั้งแรกนี่ให้ความรู้สึกเหมือนได้พบสาวน้อยอ่อนหวานกับอ้อมกอดอุ่นๆ ที่เข้ามาโอบลิ้นเลยหละค่ะ รสชาติของเนยไม่ได้ชัดมากนะคะ ออกแนวจางๆ ไม่ถึงกับกลบรสชาติของวัตถุดิบอื่นๆ ตัวเนื้อหัวไชเท้าแน่นดีค่ะ ตัวมันฝรั่งก็แน่นหนาและหวานนิดๆ
21 วิว
5 ไลค์
0 คอมเมนต์
ถ้าใครชอบซุปประมาณนี้ น่าจะชอบเมนูนี้นะคะ ออกแนวอุ่นกายอุ่นใจ แต่ไม่ได้โฉ่งฉ่างจี๊ดจ๊าดค่ะ
แน่นอนว่าร้านอิซากายะก็ต้องมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยนะคะ เมนูก็ประมาณนี้เลยค่ะ แต่วันนั้นเราไม่ได้ดื่มนะคะ แหะๆ แต่เอาเมนูมาให้ดูสำหรับท่านใดที่จะดื่มจะได้มีข้อมูลในการตัดสินใจค่ะ
23 วิว
4 ไลค์
0 คอมเมนต์
มาถึงเวลาของของหวานกันบ้างนะคะ
นี่เป็นเมนูที่ทางคุณเปิ้ลสั่งมาให้ค่ะ Shiratama Green Tea เป็นไอศครีมชาเขียวเสิร์ฟพร้อมดังโงะและถั่วแดงเย็น ราคา 119 บาทนะคะ
13 วิว
6 ไลค์
0 คอมเมนต์
ตัวนี้ไอศกรีมชาเขียวเข้มข้นดีค่ะ เวลากินต้องกินให้ครบทั้งสามอย่างในหนึ่งคำรสชาติถึงจะบาลานซ์ค่ะ ตัวดังโงะหนึบดีมาก เคี้ยวสู้ฟันดีค่ะ ส่วนถั่วแดงก็หวานตามปกติของเค้าหละนะคะ สรุปแล้วต้องกินสามอย่างพร้อมกันค่ะ ถึงจะอร่อย เพราะจะมีส่วนผสมทั้งความเย็นและหวานนิดๆ หอมของไอศกรีม หนึบหนับสู้ฟันของดังโงะที่ช่วยเบรกความหวานของถั่วแดง ถ้ากินไม่ครบ รสมันจะไม่บาลานซ์เท่าไหร่ค่ะ
ต่อไปเป็นเมนูที่เราเลือกเองค่ะ กับ Roll De Matcha ราคา 119 บาทค่ะ
13 วิว
5 ไลค์
0 คอมเมนต์
ตัวนี้อร่อยสู้ตัวแรกไม่ได้ค่ะ คือตัวข้างในมันเป็นครีมซึ่งตัวนี้จะถูกแช่เย็นมาจนครีมข้างในแข็งน่ะค่ะ ทำให้การกินเจ้านี่มันจะออกค่อนข้างจืดในช่วงการเคี้ยวแรกๆ จนกระทั่งเจอถั่วแดงแล้วเริ่มผสมกันรสถึงจะเริ่มสมเป็นของหวานน่ะค่ะ เพราะฉะนั้นโดยรสชาติตัวแรกจะโอเคกว่าค่ะ แต่ตัวนี้หน้าตาสวยกว่า ฮา...
สรุปสำหรับร้านนี้คะ เรื่องแรกเลยคือมีเมนูให้เลือกหลากหลายพอควรค่ะ ตามสไตล์ร้านอิซากายะแหละนะคะ หลายๆ อย่างค่อนข้างคุ้มค่าคุ้มราคาเมื่อเทียบกับวัตถุดิบที่ได้กับร้านประมาณเดียวกัน หลายเมนูรสชาติจะออกแนวกลางๆ อ่อนๆ ที่ใครชอบรสประมาณนี้น่าจะชอบค่ะ วัตถุดิบหลายๆ ตัวค่อนข้างดีนะคะ การบริการค่อนข้างโอเค (แต่พนักงานรู้ว่าเราถูกเชิญไปนะคะ ต้องลองไปกินเองถึงจะประเมินการบริการได้ตรงตามความจริงกว่า) โดยรวมก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีตัวหนึ่งของร้านแนวนี้ในทำเลนั้นนะคะ (ตอนนี้สาขานี้จะเป็นสาขาที่ขายดีที่สุดในบรรดาสี่สาขาค่ะ)
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)
โพสต์
รายละเอียดคะแนนรีวิว
รสชาติ
การตกแต่ง
บริการ
ความสะอาด
ความคุ้มค่า
วิธีการกิน
รับประทานที่ร้าน
ราคาต่อคน
฿1000 (มื้อเย็น)
เมนูแนะนำ
  • Tokumori Set