อ่านรีวิวฉบับเต็ม
2015-02-19
147 วิว
เนื่องด้วยทางเจ้าของบล็อกได้รับการติดต่อมาจากคุณเปิ้ล ซึ่งเคยชวนเจ้าของบล็อกไปกินปิ้งย่างสุดพรีเมี่ยมที่ประทับใจมากๆ และเคยรีวิวมาแล้ว กับ Ito Kacho ส่งข้อความมาชวนเจ้าของบล็อกไปหม่ำอีกหนึ่งร้านซึ่งเปิดสาขาใหม่ที่ธนิยะ นั่นก็คือร้าน Hokkaido Tsubohachi (แต่เราจะเรียกกันสั้นๆ ว่าร้าน สึโบฮาจินะคะ) เป็นร้านสไตล์อิซากายะจากฮอกไกโด ซึ่งสาขานี้เป็นสาขาที่สี่แล้วค่ะ เปิดเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2557 ที่ผ่านมานี้เองหละค่ะ ส่วนสาขาทั้งหมดในไทยสี่สาขา (อยู่ในกรุงเทพฯ ทั้งหมดก็มีดังนี้นะคะ)1. สาขานิฮอนมูระมอลล์ โครงการ 2 ทองหล่อ 13 (เปิดเมื่อ 24 ตุลา 56 ค่ะ)2. สาขา B Hive ในอิมแพ็ค3. สาขานิฮอนมาชิ สุขุมวิท 264. สาขาซอยธนิยะส่ว
1. สาขานิฮอนมูระมอลล์ โครงการ 2 ทองหล่อ 13 (เปิดเมื่อ 24 ตุลา 56 ค่ะ)
2. สาขา B Hive ในอิมแพ็ค
3. สาขานิฮอนมาชิ สุขุมวิท 26
4. สาขาซอยธนิยะ
ส่วนท่านใดสนใจจะไปดูเว็บไซต์ของเค้า ก็เรียนเชิญได้ที่
http://www.tsubohachi-tha.com
แต่ถึงในไทยจะมีสี่สาขา แต่...ร้านนี้มีทั้งหมด 300 กว่าสาขาทั้งในประเทศญี่ปุ่นและสิงคโปร์นะคะ (เดี๋ยวจะมีรูปแจกแจงรายละเอียดสาขาในญี่ปุ่นให้ชมกันค่ะ ตอนรู้สาขานี่เราหงายเงิบเลย ไปญี่ปุ่นไม่ยักกะสังเกตเห็นร้านนี้วุ้ย)
สำหรับการไปนะคะ เราขับรถไป (ซึ่งถ้าใครจะไปสาขานี้ ขอบอกว่าไม่แนะนำเท่าไหร่นะคะ ยกเว้นพร้อมแก่การผจญกับรถติดมากๆ ในตอนเย็นของสีลม) แล้วก็เอารถไปจอดที่สีลมคอมเพล็กซ์ค่ะ (ชั่วโมงละ 30 บาท) จากนั้นก็กดลิฟท์ไปชั้น 2 จะมีทางเดินเชื่อมเข้าสถานีบีทีเอส เพื่อจะข้ามไปยังฝั่งธนิยะ เดินเข้าไปในซอยประมาณ 50 เมตร ร้านจะอยู่ทางขวามือ ชั้นสองนะคะ
หน้าปากซอยธนิยะและหน้าตาของอาคารที่ร้านตั้งอยู่ค่ะ อาคารนี้ชื่อวาย เอส เค นะคะ
ถ้าท่านใดไปไม่ถูก หรือจะสอบถามจองก็โทร.ไปที่เบอร์ทางร้านนะคะ 02-2665380 ค่ะ
หน้าตาหน้าร้านค่ะ ต้องขึ้นบันไดทางขวามือนี่ไปชั้นสองนะคะ
ในรูปคือเชฟของที่นี่นะคะชื่อคุณพงศ์ ซึ่งปกติจะอยู่ที่สาขาแรก แต่ตอนนี้มาอยู่ที่สาขานี้แล้วค่ะ แต่จะมีเชฟคนญี่ปุ่นคอยมาตรวจตรา ตรวจสอบประมาณสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งตลอดค่ะ เพราะ..ตามสไตล์ญี่ปุ่นหละนะคะ ทุกอย่างต้องเป๊ะและคงคุณภาพตามแบบฉบับเค้า นี่เป็นแค่ตัวอย่างหนึ่งค่ะ เดี๋ยวจะมีเรื่องราวเล่าให้ฟังอีก โฮะๆๆ
ซึ่งร้านสาขาแรกฮอกไกโดนี่เปิดตั้งแต่ปี 1973 อะค่ะ ยาวนานมั่ก
ข้อมูลจาก http://www.marumura.com/food/?id=1787 นะคะ
“ Izakaya” 「居酒屋」มันก็คือ บาร์ดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น ที่ให้บริการอาหารรสดั้งเดิมแบบญี่ปุ่นแท้ๆ และเครื่องดื่ม Alcohol ทุกชนิด ทั้งสาเก เหล้าโชจู คำว่า「居」( i ) มีที่มาจาก「居酒屋」(Izakaya) ความหมายก็เหมือนกับ (i)「居心地」(igokochi), ที่มีความหมายว่า “สถานที่ ที่แสนสบาย” Izakaya จึงเป็นร้านที่คนญี่ปุ่นมักนิยมมาใช้บริการพักผ่อนกันหนาแน่น บรรยากาศภายในร้านจึงเต็มไปด้วยคนญี่ปุ่นที่มานั่งสังสรรค์กันอยู่เป็นจำนวนมาก
ร้าน Izakaya เป็นร้านประเภทที่ไว้รับประทานอาหารและพูดคุยสนทนากัน ไม่ว่าจะเป็นการคุยกับลูกค้า หรือสังสรรค์กันในหมู่เพื่อน ลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะหนีไม่พ้น เหล่ามนุษย์เงินเดือนทั้งหลายที่ต่างก็แวะมานั่งสังสรรค์กันยามเลิกงาน
Izakaya มีอาหารญี่ปุ่นหลากหลายไว้คอยบริการ ซึ่งจะแตกต่างจากร้านอาหารญี่ปุ่นแนวอื่นๆ ที่จะไม่มีตัวเลือกให้มากนัก ส่วนเรื่องของเครื่องดื่ม เน้นไปทางการดื่ม Alcohal แบบจัดหนัก!!! จึงเป็นเสน่ห์ของร้านนี้ที่น่าไปลิ้มลอง
สำหรับสาขาในญี่ปุ่นของร้านนี้นะคะ มีมากมายอย่างที่เกริ่นไปในตอนต้นหละค่ะ ซึ่งในเมนูเองก็มีบอกชัดเจนนะคะว่ามีที่เขตไหนบ้างและมีกี่สาขาค่ะ
เมนูแรกนะคะ Potato Mentaiko หรือมันฝรั่งกับไข่ปลาทอด ราคา 139 บาท
วัตถุดิบก็มีทั้งผัก (แน่ล่ะสิยะ) แซลมอน หมึกยักษ์และไข่กุ้งตามภาพเลยค่ะ
จะเห็นว่าเมนูนี้จะรวมเอาของเด่นของดีของเมืองฮอกไกโดมาทั้งนั้นเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นปูทาราบะ แซลมอน หอยเชลล์ทาดาเตะ เห็ด แล้วก็มีน้ำซุปสูตรเฉพาะของทางร้านด้วยค่ะ
สำหรับรสชาติในการกินนะคะ ตัวนี้จะรสอ่อนๆ ค่ะ เหมาะสำหรับต้องการกินข้าวแต่อยากได้รสชาติของวัตถุดิบอื่นๆ ด้วยนะคะ ค่อนข้างหอมพวกเครื่องเคราต่างๆ ที่ใส่มาพอควรเลยค่ะ แต่รสชาติจะออกอ่อนๆ หน่อยนะคะ
คุณเปิ้ลทำหน้าที่คลุกเคล้าและตักให้พวกเราค่ะ
มาในเรือเลยค่ะ เทียบขนาดของภาชนะกับมือให้ดูนะคะ ใหญ่พอควรทีเดียว
เครดิตชื่ออาหารจาก สองลิงก์นี้นะคะ
http://www.educatepark.com/japan/sushi.html
http://www.educatepark.com/japan/sushi-2.html
ตัวแรกค่ะกับไข่ปลาแซลมอนหรืออิคุระ ค่อนข้างสดเลยค่ะ ไม่คาว กดแล้วแตกเป๊าะในปาก ฟินเลยทีเดียว
ต่อไปค่ะ กับอีกหนึ่งเมนูเด่นของที่นี่ ซาบะดองนะคะ รสชาติอมเปรี้ยวหน่อยๆ มีกลิ่นเฉพาะแบบซาบะหละค่ะ ถ้าคนชอบกินซาบะ (อย่างเรา) น่าจะชอบนะคะ
ต่อไปค่ะกับแซลมอน (Sake) ที่นี่ทำมาแบบชิ้นบางๆ นะคะ ทั่วไปค่ะ ไม่ได้เด่นอะไร สดปกติ
ต่อไปค่ะกับปลาหมึกขาวหรืออิกะ Ika ตัวนี้สดมากกกกก กินแล้วนิ่มฟิน หวาน อร่อยมากค่ะ แม้จะหั่นมาชิ้นบางกว่าทาคุมิแต่ความสดใกล้กันเลย ถ้าใครชอบกิน ที่นี่อร่อยนะคะ
ต่อไปค่ะกับหอยปีกนกหรือ Hokkigai ตัวนี้เป็นอีกตัวที่เด่นค่ะ เด้ง กรุบ สด อร่อยมาก ชอบๆ
ต่อไปค่ะกับกุ้งหวาน botan-ebi (แต่น้องที่พาไปหม่ำบอกว่าเป็น อามะเอบินะคะ อันนี้ไม่แน่ใจว่าเรียกแบบไหนกันแน่เหมือนกัน แหะๆ)
รสชาติหวานนิดๆ ลื่น สดดี ถ้าคนชอบกินกุ้งน่าจะฟินหละค่ะ
ต่อไปกับปลาหมึกยักษ์หรือทาโกะค่ะ ตัวนี้รสเค็มมาก่อนเลยค่ะ แต่เด้งดีนะคะ ทว่าเนื่องด้วยเมนูนี้เป็นเมนูที่อิชั้นไม่ค่อยโปรดเท่าไหร่ก็เลยไม่ค่อยดี๊ด๊าอะไรนะคะ แหะๆ
ต่อไปค่ะกับมากุโร่หรือทูน่านะคะ ตัวนี้สดมากๆ อร่อยค่ะ นิ่ม ไม่คาวเลย ควรค่าแก่การกินมาก
ต่อไปค่ะกับปลาหางเหลือง หรือ Buri
เนื้อค่อนข้างนิ่มเลยนะคะ แต่คาวปลายๆ หน่อยค่ะ (หมายถึงเคี้ยวไปสักพัก จะมีกลิ่นคาวนิดๆ เบาๆ ตามมาตอนท้ายค่ะ)
สุดท้ายค่ะกับหอยเชลล์ Hotategai
นุ่ม หวาน นิ่ม ละลาย สด อร่อยมากกกกกกกก เป็นอีกอย่างที่ชอบค่ะ อร่อยมั่ก
ต่อไปเป็นเมนูที่เราสั่งเพิ่มเองนะคะ กับ Tarabagani ราคา 699 บาท
สำหรับปูทาราบะนะคะ สดในระดับหนึ่งหละค่ะ คือเนื้อยังหวานอยู่นะคะ แต่ก็คิดว่าด้วยการขนส่งหละค่ะ ทำให้ไม่สดเท่าเวลาไปกินที่ญี่ปุ่นหรอก (แน่สิยะหล่อน ) แต่ก็ถือว่าสดในระดับหนึ่งค่ะ แต่ขอบอกว่าแกะยากมาก และแนะนำว่าให้กินตอนยังร้อนๆ นะคะ เพราะเรากินตอนเย็นแล้ว รสชาติดร็อปลงพอควรหละค่ะ
และเมนูของคาวอย่างสุดท้ายของวันนั้นค่ะ (ทั้งหมดนี้มีเรา ผู้ติดตามเรา คุณเปิ้ล และน้องอีกคนของทางอิมแพ็คที่ชวนเราไปนะคะที่จัดการหม่ำกัน แหะๆ) กับ Ishikari Nabe ค่ะ
สำหรับรสชาตินะคะ กลิ่นและรสชาติจะอ่อนๆ ค่ะ ตอนซดครั้งแรกนี่ให้ความรู้สึกเหมือนได้พบสาวน้อยอ่อนหวานกับอ้อมกอดอุ่นๆ ที่เข้ามาโอบลิ้นเลยหละค่ะ รสชาติของเนยไม่ได้ชัดมากนะคะ ออกแนวจางๆ ไม่ถึงกับกลบรสชาติของวัตถุดิบอื่นๆ ตัวเนื้อหัวไชเท้าแน่นดีค่ะ ตัวมันฝรั่งก็แน่นหนาและหวานนิดๆ
แน่นอนว่าร้านอิซากายะก็ต้องมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยนะคะ เมนูก็ประมาณนี้เลยค่ะ แต่วันนั้นเราไม่ได้ดื่มนะคะ แหะๆ แต่เอาเมนูมาให้ดูสำหรับท่านใดที่จะดื่มจะได้มีข้อมูลในการตัดสินใจค่ะ
นี่เป็นเมนูที่ทางคุณเปิ้ลสั่งมาให้ค่ะ Shiratama Green Tea เป็นไอศครีมชาเขียวเสิร์ฟพร้อมดังโงะและถั่วแดงเย็น ราคา 119 บาทนะคะ
ต่อไปเป็นเมนูที่เราเลือกเองค่ะ กับ Roll De Matcha ราคา 119 บาทค่ะ
สรุปสำหรับร้านนี้คะ เรื่องแรกเลยคือมีเมนูให้เลือกหลากหลายพอควรค่ะ ตามสไตล์ร้านอิซากายะแหละนะคะ หลายๆ อย่างค่อนข้างคุ้มค่าคุ้มราคาเมื่อเทียบกับวัตถุดิบที่ได้กับร้านประมาณเดียวกัน หลายเมนูรสชาติจะออกแนวกลางๆ อ่อนๆ ที่ใครชอบรสประมาณนี้น่าจะชอบค่ะ วัตถุดิบหลายๆ ตัวค่อนข้างดีนะคะ การบริการค่อนข้างโอเค (แต่พนักงานรู้ว่าเราถูกเชิญไปนะคะ ต้องลองไปกินเองถึงจะประเมินการบริการได้ตรงตามความจริงกว่า) โดยรวมก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีตัวหนึ่งของร้านแนวนี้ในทำเลนั้นนะคะ (ตอนนี้สาขานี้จะเป็นสาขาที่ขายดีที่สุดในบรรดาสี่สาขาค่ะ)
โพสต์