อ่านรีวิวฉบับเต็ม
2013-09-22
45 วิว
ทานกันอย่างต่อเนื่องกับบุฟเฟต์ Sunday Brunch พร้อม Free Flow Wine บนความสูง 11 ชั้น กับบรรยากาศแบบสบายๆเหมือนห้องนั่งเล่นที่บ้าน ที่ห้องอาหาร VIE Wine & Grill ที่โรงแรม VIE Hotel ราคาบุฟเฟต์ Sunday Brunch 1300 Net ต่อคน รวมเครื่องดื่มช่วงเวลาระหว่าง 11:30 – 15:00 น.เพิ่ม Wine Free Flow 700 Net ต่อคน(ผึ้งน้อยได้มีโอกาสไปลิ้มลองแบบฟรีๆในครั้งนี้จากกิจกรรม “อิ่มใหญ่” ของ Openrice กันทั้งครอบครัว 5 คนเลย)โรงแรม VIE อยู่ตรงข้ามโรงแรม Asia ครอบผึ้งน้อยขับรถมาแต่ถ้าใครสะดวก BTS จะเป็นอะไรที่ง่ายมากเพราะอยู่ติดกับสถานีราชเทวีค่ะถัดจากไลน์อาหารทะเลและเทอรีน ไลน์ถัดๆมาก็มีทั้งไลน์สลัด ชีส Hot
ราคาบุฟเฟต์ Sunday Brunch 1300 Net ต่อคน รวมเครื่องดื่ม
ช่วงเวลาระหว่าง 11:30 – 15:00 น.
เพิ่ม Wine Free Flow 700 Net ต่อคน
(ผึ้งน้อยได้มีโอกาสไปลิ้มลองแบบฟรีๆในครั้งนี้จากกิจกรรม “อิ่มใหญ่” ของ Openrice กันทั้งครอบครัว 5 คนเลย)
โรงแรม VIE อยู่ตรงข้ามโรงแรม Asia ครอบผึ้งน้อยขับรถมาแต่ถ้าใครสะดวก BTS จะเป็นอะไรที่ง่ายมากเพราะอยู่ติดกับสถานีราชเทวีค่ะ
ถัดจากไลน์อาหารทะเลและเทอรีน ไลน์ถัดๆมาก็มีทั้งไลน์สลัด ชีส Hot Dish จนมาตบท้ายสุดไลน์ที่โซน Grill และอาหารฝรั่งเศษสไตล์ซกเล็กบ้านเรา ....มันคืออะไร เดี๋ยวรู้กันค่ะ พนักงานประจำสเตชั่น “ซกเล็ก” (ชื่อเรียกเพื่ออิมเมจเท่านั้น ย้ำว่าเป็นอาหารฝรั่งเศษค่ะไม่ใช่อาหารอีสานบ้านเฮาแน่นอน) อธิบายให้กระเหรี่ยงหลงทางอย่างผึ้งน้อยฟังว่าเจ้าเมนูนี้คือการนำเอาของสดอย่างเนื้อดิบ ปลาดิบ มาคลุกกับเครื่องเทศและสมุนไพรต่างๆในอัตราส่วนเหมาะแล้วทานทั้งดิบๆเลย โดยถ้าเป็นเนื้อดิบจะคลุกผสมไข่แดงของไข่ไก่เข้าไปด้วย น่าสนใจมากๆ
(เมนูนี้จะคล้ายๆอาหารญี่ปุ่นที่เป็นเนื้อดิบคลุกไข่กับหัวหอม แต่ของฝรั่งเศษจะใส่พวกเครื่องเทศและสมุนไพรมากกว่า) จานนี้เป็นเนื้อดิบค่ะ
รสชาดหวานๆของเนื้อดิบเสริมกันกับความหวานมันของไข่แดงได้อร่อยนุ่มมากๆ เนื้อก็นุ่มทานอร่อยเลย
จานนี้ใครไม่ชอบทานของดิบ หรือยังใจไม่กล้าพอจะลองเนื้อดิบๆก็ให้ผ่านไปเลยค่ะ แต่สำหรับคนที่ทาน Carpaccio หรือเมนูเนื้อดิบมาบ้างแล้วชอบก็ขอแนะนำเลยค่ะ มันนุ่มและกลมกล่อมมาก
คราวนี้มาต่อกันด้วยจานหลักๆที่หนักขึ้นมาอีกหน่อยกัน
ทั้งหมดทั้งมวลมาจากโซน Grill ค่ะ ใช้กระดาษที่อยู่ในถ้วยของโต๊ะที่เรานั่ง แล้วกรอกทุกอย่างที่เราอยากทานลงไป เท่านี้เป็นอันเสร็จค่ะ จากนั้นรออย่างเดียว เสิร์ฟถึงโต๊ะ กั้งย่าง กริลล์มาสวยๆ สุกกำลังดีและเนื้อยังนุ่มหวาน แกะล่อนออกจากเปลือกได้อย่างง่ายดาย
ทานกันแบบไทยๆด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บ
กั้งกระเทียม ผิดจากอิมเมจที่คาดไปหน่อย เพราะผึ้งน้อยไปนึกถึงเมนูแนวทอดกระเทียมที่จะออกมาแห้งๆแบบอาหารจีน (กระเทียมกรอบๆ ชอบที่สุด) แต่จานนี้มาแบบชุ่มฉ่ำเลยไม่ค่อยโดนใจนัก โดยส่วนตัวเลยให้คะแนนความน่าทานที่กั้งย่างมากกว่า
ซี่โครงแกะ ผึ้งน้อยเคยทานมาหลายที่มากๆ กับเมนูนี้ ซึ่งสิ่งแรกๆที่จะเป็นจุดให้คะแนนเลยคงไม่พ้น ระดับการย่าง และ กลิ่นสาบ
จานนี้สอบผ่านทั้งสองประเด็น เพราะนอกจากจะย่างเนื้อได้นุ่มหวาน (แม้จะไม่ medium ซักเท่าไหร่) แล้ว ยังไร้กลิ่นสาบอีกด้วย ขนาดมีมันติดนะเนี่ย
เป็นซี่โครงแกะที่เนื้อหนา หวานนุ่ม จานนี้เป็นจานที่ผึ้งน้อยถูกใจมากๆ จานนึงของที่นี่ค่ะ
ฟัวร์กราส์ จานนี้ที่รอคอย เมนูสุดโปรดของผึ้งน้อยที่ a must สำหรับทุกบุฟเฟต์ที่มีเมนูนี้อยู่
ทานให้ฟินก่อนแล้วค่อยไปกังวลเรื่องโคเลสเตอรอลทีหลัง >_<
ชิ้นฟัวร์หราส์หนากลางๆ ทอดมาด้านนอกเกรียมนิดๆแต่ยังคงความนุ่มละมุนลิ้นภายใน ฟัวร์กราส์ที่นี่เสิร์ฟเดี่ยวๆไม่มีขนบปังเคียงมาในจานนะคะ
ข้อติเล็กคือซอสที่ราสมายังไม่ครบรส เพราะยังขาดซอสรสหวานอมเปรี้ยวที่เป็นของขาดไม่ได้สำหรับเมนูนี้เลย (ซอสช่วยเสริมรสฟัวร์กราส์ที่ค่อนข้างมันให้มีมิติของรสชาดที่มากขึ้นได้จริงๆนะคะ)
แนะนำให้แก้สถานการณืด้วย เบอร์รี่ซอสจากโซนของหวาน หรือซอสเยลลี่เขียวสำหรับซี่โครงแกะ ฟัวร์กราส์เพียวๆจะแจ่มเจิ่ดขึ้นมาในบัดดลค่ะ
เนื้อย่าง จานนี้กลายเป็นจานที่ผิดหวังที่สุดเพราะเนื้อชิ้นบางเกิ๊นนนน พอย่างแล้วก็เลยขีดความเป็น medium ไปอย่างง่ายดาย ซึ่งสิ่งที่ตามมาคือเนื้อที่ได้จะแห้งและไม่หวานฉ่ำแบบที่เสต็กเนื้อควรจะเป็นค่ะ
อ้อ ซอสจานนี้ผึ้งน้อยราดเองค่ะ อาจจะดูไม่งามนิดนึง ไม่ใช่ความผิดคุณเชฟนะคะ ^^
ขาแกะ รายการนี้ก็อยู่ในโซน Grill เช่นกัน แต่ไม่ต้องเขียนลงในใบเบอร์โต๊ะค่ะ เพราะเค้าทำเสร็จมารอเสิร์ฟ
ทันทีที่ออร์เดอร์ก็เฉือนกันสดๆลงจานมาให้เราเลยค่ะ
จานนี้เนื้อแห้งไป ไม่อร่อยเท่าซี่โครงแกะค่ะ
ดังนั้น ยอมรอซักนิดด้วยการออร์เดอร์ซี่โครงแกะเถอะคะ แม้ต้องรอแต่ความอร่อยนั้นฟินกว่าหลายขุม
(ตรงขาแกะนี่ดูเชฟเป็นอาหารตาพอค่ะ อิอิ)
ระหว่างทานอาหารจะมีเปียโนบรรเลงสดพร้อมเสียงขับขานละมุนหูจากนักร้องสาวเสียงหวาน เพิ่มดีกรีความรื่นรมณ์ให้กับการทานอาหารแต่ละจาน
เสียดายว่าย้อนแสงเลยเห็นแค่เงาดำ =_=’ คนถ่ายไม่เทพต้องขออภัยค่ะ สรุปความประทับใจช่วงกลาง
บรรยากาศ – นอกจากบรรยากาศจะอบอุ่นแสนสบายสไตล์ห้องนั่งเล่นแล้ว ยังมีเสียงเพลงอันไพเราะมาขับกล่อมให้ดูพิเศษยิ่งขึ้น กับความสูง 11 ชั้นที่หากไม่มองลงไปเบื้องล่างแล้วก็แทบจะลืมความวุ่นวายของสังคมเมืองไปเลยค่ะ
การบริการ – บริกรแซ่บ เอ๊ย บริการเป็นกันเองและน่ารักทุกคนทั้งบริกรเดินสาย (เดินตามโต๊ะ) และบริกรตามสเตชั่นและไลน์ต่างๆ ที่มีการแนะนำอาหารของสเตชั่นตัวเองได้ชัดเจนและน่าสนใจมากๆ
รสชาด – ช่วงกลางนี้ขอเน้นที่อาหารจานเนื้อๆ มีทั้งจานที่ปลื้มมากๆและจานที่ไม่โดนใจนัก แม้ฟัวร์กราส์จะขาดซอสแต่ไม่ขาดไอเดีย ขอเพียงหาซอสที่ชอบที่ใช่ได้ก็จะเป็นจานอร่อยที่ไม่ควรพลาดพอๆกับซี่โรงแกะหนานุ่มเลยค่ะ
โพสต์