วิดีโอ
ข้อมูลร้านอาหาร
Sweet Stories เป็นร้านเบเกอรี่ขนมหวาน มี 2 สาขา สาขาหลัง มช. และสาขาสวนดอกปาร์ค โดยสาขานี้ตัวร้านไม่ใหญ่มาก เมนูภายในร้านจะเป็นขนมหวานสูตรโฮมเมด พนักงานบริการดี ราคาไม่สูงมาก
อ่านต่อ
เหมาะสำหรับ
ลำลอง
ข้อมูลเพิ่มเติม
ต.สุเทพ
เวลาเปิด-ปิด
จันทร์ - อาทิตย์
10:00 - 20:00
ข้อมูลข้างต้นใช้เพื่ออ้างอิงเท่านั้น กรุณาตรวจสอบข้อมูลกับร้านอาหารอีกครั้ง
เมนูแนะนำ
เมนูแนะนำ
ร้านอาหารที่ได้ไปชิมมาในทริปเชียงใหม่เหลือ 2 ร้านสุดท้ายแล้วนะครับ คือร้านในโพสนี้และอีกร้านนึง เป็นการโพสซีรีย์ร้านอาหารที่ทรหดมากๆ โพสร้านแรกสิ้นเดือนมีนา มาจบร้านที่ 10 ก็ปาเข้าไปเดือนมิถุนายน ฮ่าๆๆๆๆร้านอาหารในโพสนี้เป็นร้านที่ไกด์กิตติมศักดิ์ชวนไปชิมครับ ไกด์กิตติมศักดิ์ให้ข้อมูลมาว่าร้านนี้เจ้าของจบจากโรงเรียนสอนทำขนม กองดอง เบลอ ซะด้วย เลยอยากให้ไปชิม แหม .... มีประกาศนียบัตรมาการันตีอย่างนี้ก็ต้องไปชิมกันซะหน่อยแล้วครับSweet Story หลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เชียงใหม่วิธีการมาร้าน Sweet Story ถ้าเป็นคนที่คุ้นเคยกับถิ่นหลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ดีก็คงหาไม่ยาก แต่ถ้าเป็นคนไม่คุ้นเคยก็คงจะลำบากนิดนึงนะครับ แต่หาร้านไม่ยากเกินความสามารถครับ คิดซะว่ามาผจญภัยก็แล้วกัน คริคริ ..... จากประตูสวนดอกก็ขับตรงมาถึงสี่แยกกาดต้นพะยอม แล้วขับตรงมาเรื่อยๆ จนมาถึง ซอย 7 บ้านใหม่หลังมอ ..... จริงๆแล้วป้ายชื่อซอยมันถูกป้ายโฆษณาอื่นๆบังจนหมดครับ ให้ลองสังเกตร้าน 7/11 กับแว่นทอปเจริญทางซ้ายมือเอานะครับ เลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปนิดเดียวครับ ร้าน Sweet Story อยู่ทางซ้ายมือของตึกแถวช่วงที่ 2 ตัวร้านจะอยู่ที่ 2 ห้องสุดท้ายถัดมาจะเป็นทางเข้าโครงการที่เป็นลานกว้างๆครับร้าน Sweet Story เป็นร้านประเภทตึกแถวนะครับ ตัวร้านเป็นตึกแถว 2 คูหาพอก้าวเข้าไปในร้านก็จะเห็นประกาศนียบัตรจากโรงเรียนสอนทำอาหาร กองดอง เบลอ วางอยู่ในตู้โชว์อย่างเด่นเป็นสง่ามากๆ ภายในร้านใช้โทนสีสว่างๆในการตกแต่งกับใช้เฟอร์นิเจอร์เรียบๆแนว contemporary ในการตบแต่งทำให้ร้านดูค่อนข้างหรูครับเราเลือกขนมมาทาน 3 อย่างครับอย่างแรก เลมอนทาร์ต (Lemon Tart) ราคา 70 บาทขนมอันนี้หน้าตาไฮโซสมกับสถาบัน กองดอง เบลอ มากที่สุดแล้วในร้านครับ เพราะที่เหลือหน้าตาธรรมดามว๊ากกกกกกก (บางอย่างร้านทั่วๆไปยังหน้าตาดีกว่านะครับ) รสชาติของเลมอนทาร์ตชิ้นนี้ออกแนวเปรี้ยวแบบสดชื่นๆโดดมากๆ คือว่าตัวไส้ทาร์ตที่เป็นเลมอนคัสตาร์ดเนี่ยะเปรี้ยวโดดเด่นมากๆ เกือบจะถูกใจชิ้นนี้แล้วละครับ ...... แต่ว่าพอกินไปเรื่อยๆกลับมารสเปรี้ยวอย่างเดียวไม่มีรสอื่นๆมาตัดเลยเลยไม่ถูกใจครับ ความจริงเมอแรงก์ที่แต่งหน้ามานี่น่าจะทำให้ติดหวานนิดๆนะครับ ความหวานของเมอร์แรงก์จะได้มาตัดรสเปรี้ยวของเลมอนคัสตาร์ด จะได้รสชาติที่นุ่มนวล ชวนกินมากขึ้นครับ เลมอนทาร์ตชิ้นนี้ก็เลยตกรอบไปอย่างน่าเสียดายชิ้นที่ 2 เค้กชอคโกแลตมูสเค้ก (Chocolate mousse cake) ราคา 70 บาทเค้กชิ้นนี้ไม่แน่ใจว่าเกิดจากตู้แช่เย็นไปหรือเปล่าตัวเค้กถึงได้แข็ง ไม่นุ่มนวลเลยครับ เหมือนทานเค้กที่แช่อยู่ในอุณหภูมิที่ต่ำกว่าปกติ ตัวมูสชอคโกแลตรสชาติเข้มข้นดีนะครับ แต่ texture เหนียวมากกกก เหนี่ยวเหมือนกานาชไม่เหมือนมูสครับ ความจริงลักษณะของเค้กชิ้นนี้น่าจะนุ่มๆ นวลๆ ฟูๆ เบาๆ นะครับ แต่ความจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลยครับ แข็ง เหนียว แถมตัดมาเป็นชิ้นขาดๆ ไม่สมบูรณ์ด้วยนะครับ ถ้าเป็นฝีมือระดับ กองดอง เบลอ การตัดเค้กต้องสวย สมบูรณ์ครับ แบบนี้ใครๆก็ตัดได้นะครับขนมอย่างสุดท้ายที่สั่งมา บานอฟฟี่ (Banoffee) ราคา 70 บาทเจ้าของบล็อกไม่แน่ใจว่าเป็นบานอฟฟี่ค้างหรือเปล่าเพราะกล้วยที่ใส่อยู่ข้างล่วงถ้วยงอมมากๆๆ งอมถึงขนาดได้กลิ่นกล้วยงอมแหยะๆเลยครับ แค่ตักลงไปแล้วได้รสชาติกล้วยเละๆ งอมๆ ก็ไม่อยากจะกินส่วนที่เหลือแล้วครับเจอเข้าไปคำนึงถึงกับวางช้อนเลยคราบสรุปว่าร้าน Sweet Story นี้ไม่ผ่านอย่างแรงครับ เน้นนะครับว่าอย่างแรง แต่ถ้าใครจะมีข้อดีของร้านมาหักล้าง ก็ยินดีรับฟังนะครับChubby Lawyer’s Café’ ………………………………… ร้านอร่อย ....... ตามใจฉัน
อ่านต่อ
ร้านขนมหวานร้านนี้ เป็นอีกหนึ่งร้านที่บันทึกลงในลิสต์ของผมเลย ว่าเป็นร้านโปรดในดวงในร้านหนึ่งเลยทีเดียว ด้วยคุณภาพ รสชาติ ราคาและบรรยากาศ ทุกอย่างเป็นที่น่าประทับใจ มาเยือนร้านนี้ 2 ครั้ง พยายามจะลองเมนูขนมให้หลากหลาย แตกต่างกันไป แต่มีเมนูหนึ่งที่ต้องสั่งซ้ำ และจะสั่งทุกครั้งที่มาคือ “Honey Toast” ซึ่งผมว่าราคาสมเหตุสมผล เซ็ตละ 120 บาท กับขนมปังหนา นุ่ม ชุ่มเนยและน้ำผึ้ง ไอศกรีมวานิลลาแสนละมุน ราดด้วยเมเปิลไซรัปนำเข้าจากแคนาดา ใครมาที่นี่ ขอบอกว่าต้องลอง !! ขนมอื่นๆ มีอีกหลากหลายมากมาย ในราคาไม่แพง หากเทียบกับคุณภาพของวัตถุดิบ และบรรยากาศร้านแบบนี้ อย่างเช่น Blueberry Cheese Pie, Brownies, Chouxcream, Lemon Tart เป็นต้น ทุกอย่างอร่อยมากครับ ด้วยฝีมือเจ้าของร้านที่จบจากสถาบันสอนทำขนมชื่อดัง เป็นเครื่องการันตี ราคาขนมชิ้นละ 50-75 บาทเท่านั้นเอง อีกสิ่งหนึ่งที่ติดใจ และตั้งใจจะลองให้ครบทุกรสชาติ คือ ชา ซึ่งที่นี่ใช้ของ GRYPHON ที่มีชื่อเสียงและคุณภาพระดับโลก มีให้เลือกมากกว่า 10 กลิ่น 10 รสชาติ ล่าสุดได้ลอง HANAMI และ MARRAKESH MINT ชากลิ่น HANAMI จะหอมอ่อนๆ มีกลิ่นดอกไม้สดชื่น รสชาติบางเบา ทานคู่กับ Blueberry Chees Pie เข้ากันเหมาะเจาะ.. ส่วนชากลิ่น MARRAKESH MINT จะหอมกลิ่นมินต์ ชัดเจน สดชื่นมาก ตัวนี้ผมแนะนำให้จับคู่กับ Honey Toast ตัดหวานและเลี่ยนได้เป็นอย่างดี สรุปแล้วประทับใจมากครับกับร้านนี้ บรรยากาศสบายๆ มีโต๊ะไม่มากนัก นั่งทานขนมคุยกันสบายๆ ไม่จอแจ ไม่วุ่นวายมาก ส่วนใหญ่จะเป็นนักศึกษามานั่งทำงาน นั่งอ่านหนังสือกัน มี wifi ให้ใช้ฟรี พนักงานบริการดีครับ เสียอย่างเดียวตรงที่จอดรถ ถ้านำรถยนต์มาจะจอดยากหน่อย แต่ถ้าเป็นมอเตอร์ไซค์จะสะดวกมาก เป็นอีกหนึ่งร้านขนมหวานของเชียงใหม่ที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งครับ
อ่านต่อ