ตลาดน้อย ย่านการค้าและชุมชนเก่าแก่ของชาวจีนตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ อยู่ระหว่างคลองผดุงกรุงเกษมถึงถนนตรีมิตร เป็นแหล่งของกินอร่อย และสตรีทอาร์ตซึ่งกำลังได้รับความนิยมจากทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยว เพราะนอกจากในชุมชนจะมีสถาปัตยกรรมแบบจีนแท้ๆให้ได้ชมแล้ว ตามกำแพงและตัวอาคารหลายจุดจะมีภาพกราฟฟิตี้จากศิลปินไทย และต่างประเทศให้ถ่ายรูปกันได้ด้วย แน่นอนว่า OpenRice ก็ไม่พลาดไปลัดเลาะหาของกินพร้อมแชะรูปเก๋ๆกัน
เริ่มต้นขึ้นเรือจากสะพานตากสินมาลงที่ท่าเรือกรมเจ้าท่า ผ่านธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นธนาคารที่สวยที่สุดในประเทศไทย
ก่อนช่วงหาของกินขอแว๊บเข้าตรอกโรงเกือก ไปสักการะเจ้าพ่อฮ้อนหว่องกุง ยังศาลเจ้าโรงเกือกสักหน่อย ภายในตรอกมีงานกราฟฟิตี้ด้วย ภาพคนที่กำลังเย็บรองเท้าบอกถึงอดีตของตรอกโรงเกือกว่าสมัยก่อนตรอกนี้คนเย็บรองเท้าขายกัน จึงนำมาตั้งเป็นชื่อตรอกว่า โรงเกือก
ร้านข้าวหน้าไก่สูตรโบราณ
ออกจากตรอกมายังเป้าหมายแรก ก็จัดเมนูตามชื่อร้านเลยจ้า ข้าวหน้าไก่ เป็นไก่สับหยาบในน้ำราดหนืดๆ สูตรซอสซีอิ๊วขาว ให้ทั้งข้าวหุงและเนื้อไก่แบบจัดเต็ม มีน้ำซุปร้อนๆถ้วยใหญ่ให้ซดตาม คุ้มกับราคา 35 บาท ดูพิกัดร้านได้ที่นี่
เป็ดตุ๋นเจ้าท่า
เดินมาอีกนิดเจอร้านเป็ดตุ๋นเจ้าดังแห่งตลาดน้อย ที่อาม่าจะมานั่งสับเป็ดหน้าร้านทุกวันตั้งแต่เช้าจนถึงสี่โมง เป็ดตุ๋นตัวใหญ่ สั่งเป็ดมาจากนครปฐมและคัดตัวที่เนื้อนุ่มเท่านั้น อีกหนึ่งจานที่มาแล้วต้องสั่งคือ หมี่ผัดกระเฉดหอมกลิ่นกระทะ เส้นนุ่ม เนื้อสัตว์ชิ้นใหญ่ทั้งหมู ปลาหมึก และกุ้ง ที่สำคัญเลยผักกระเฉดกรอบมากกก ดูพิกัดร้านได้ที่นี่
บ้าน โซว เฮง ไถ่
เดินเข้าตรอกสู่บ้านสไตล์จีนโบราณแบบวัง อายุ 230 ปี ที่เจ้าของคนปัจจุบันเปิดสอนดำน้ำเป็นหลัก (กลางบ้านมีสระไว้ใช้สอนดำน้ำที่เพิ่งสร้างมาทีหลัง) เมื่อมีคนมาขอเข้าชมบ้านบ่อยๆ เลยทำเมนูเครื่องดื่มขายเพิ่ม ไม่ได้เปิดเป็นร้านกาแฟจริงจัง แต่เจ้าของบ้านก็เอาใจใส่เรื่องคุณภาพเครื่องดื่มนะ เพราะเมล็ดกาแฟที่นี่มากจากหลายแหล่งในประเทศไทยตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญเรื่องกาแฟ ส่วนอิตาเลี่ยนโซดาทั้งหลายก็รสชาติเข้มข้น
Take a Bao
ร้านซาลาเปาเล็กๆ ใช้ของตกแต่งร้านที่ทำจากไม้ เน้นโทนสีน้ำตาลทำให้บรรยากาศร้านดูน่ารักและอบอุ่น มีโต๊ะให้นั่งสองโต๊ะ ซาลาเปามีแบบนึ่งปกติและซาลาเปาวาฟเฟิล ซึ่งใช้การปิ้งซาลาเปากับเครื่องทำวาฟเฟิลแทนการทอดน้ำมัน แถมแป้งซาลาเปาเค้ายัง No Trans Fat อีก ไส้หมูแดงทำเอง และไส้ช็อกโกแลตลาวาเยิ้มๆ ถือเป็นทีเด็ด ระหว่างรอซาลาเปามาเสิร์ฟ ก็มีชาร้อนบริการฟรี นั่งจิบชารอเพลินๆได้
ลอฟท์เทล 22 คาเฟ่
โฮสเทลที่ชั้นล่างเป็นคาเฟ่ ให้บริการเซตอาหาร เบรคฟาสโทสต์หน้ามะเขือเทศสด ไข่ดาวที่กำลังเยิ้ม โรยด้วยชีส เมนูของหวาน แพนเค้กนูเทลล่า แพนเค้กหนานุ่มจิ้มนูเทลล่าและวิปปิ้งครีม ทานคู่กับอิตตาเลี่ยนโซดาเย็นสดชื่น เช่น รสโมจิโต้ รสเสาวรส และรสเบอร์รี่ป่า ดูพิกัดร้านได้ที่นี่
ขนมปังปิ้งโบราณ
ร้านรถเข็นที่อยู่ตรงข้ามร้านลอฟท์เทล 22 ใช้ตะแกรงเหล็กตั้งบนเตาถ่านร้อนๆ ปิ้งขนมปังแผ่นหนาจนกรอบ และเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลสวย ขนมปังพริกเผาหมูหยองราคา 10 บาท ตักน้ำพริกเผารสเผ็ดเต็มช้อนแล้วโปะๆ ปาดๆ จนทั่วแผ่นขนมปัง โรยหน้าด้วยหมูหยองที่คุณยายใส่ให้เยอะมาก ไม่มีหวงเครื่อง และถ้าสั่งหน้าอื่น ราคาก็ถูกลงอีกแค่แผ่นละ 7 บาทจ้า
ภัตตราคารกว้านสิ่วกี่
ภัตตราคารอาหารที่ไม่ได้ขายแค่อาหารจีน แต่ยังมีขนมเค้กสไตล์จีน หรือขนมไหว้พระจันทร์ให้ได้ลิ้มลองด้วย ไส้ลูกบัวไข่เค็มเม็ดมะม่วง ได้ไข่แดงลูกโต และ ไส้โหงวยิ้ง อัดแน่นด้วยธัญพืชที่มีประโยชน์ไว้ในขนมชิ้นเดียว ดูพิกัดร้านได้ที่นี่
Scoopp Icecream
ไอศกรีมโฮมเมด มีให้เลือกมากกว่า 60 รส สกู๊ปละ 30 บาท ไอศกรีมชื่อแปลกอย่างรสธงชาติไทย 1 สกู๊ปได้กิน 3 รส , รสพิเศษที่มีเฉพาะช่วงเท่านั้นอย่างรสทุเรียน รสกลมกล่อมเนื้อเนียน , รสนมฮอกไกโดก็มาแบบนมเน้นๆ กลิ่นและรสของนมละมุนลิ้นมาก ทานกับเยลลี่เด้งๆ หรือจะเป็นรสบลูฮาวายสีสดใสพร้อมรสเปรี้ยวซ่าผสมเยลลี่หวานๆ ทานแล้วให้ความรู้สึกสดชื่น ดูพิกัดร้านได้ที่นี่