วันนี้อากาศแจ่มใสซะเหลือเกิน
ขับรถมากินเค้กร้านดังกันหน่อยจ้าวันนี้มาเบาๆ กันที่ Coffee Almond Cake
รสชาดคล้ายทิรามิสุ แต่กลิ่นและรสของกาแฟจะเข้มกว่า
แล้วก็มีครีมสดด้านบน โรยด้วยอัลมอนด์
รสชาดหวานมัน ขมกาแฟหน่อยๆ เข้ากันได้ดีดื่มคู่กับมอคค่าเย็นสักแก้ว เข้ากันดีมาก
กาแฟไม่หวานมาก มันกำลังดี
รสชาดสมราคาทุกอย่างจ้าร้านนี้

ถึงแม้วันที่ไปอากาศจะยังไม่หนาวมาก...เรียกได้ว่าอุณหภูมิ เกือบเท่าๆเมืองกรุงเลยทีเดียว..หนทางขึ้นเขาที่แสนคดเคี้ยวทำให้รู้สึกว่าการที่มีจุดพักชิมชาก่อนที่จะถึงยอดดอยเป็นสิ่งที่บรรเทาอาการคลื่นเหียนได้ดีมาก !!!

ถึงแม้จะไม่หนาว แต่อากาศก็ไม่ร้อน แดดไม่แรง...ที่ร้านบรรยากาศดีมากค่ะ ไร่ชาสามารถเดินลงไปดูได้ อากาศสบายๆ ตรงจุดพักรถจะมีร้านขายชาสองสามร้าน แล้วก็จะมีร้านท้องถิ่นเล็กๆ อีกสองสามร้าน ร้านขายชาก็จะเขียนบอกไว้ด้านหน้าว่า "เชิญชิมชาฟรี"

สำหรับคนที่เมารถ ชาชิมฟรีก็ดูจะแก้เมาได้ดีนะคะ....แถมมีผลไม้แช่อิ่มเปรี้ยวๆ ให้ชิมฟรีด้วยคะ..ผลไม้แช่อิ่มมีขายตลอดทางขึ้นดอยเลยค่ะ..ร้านของฝากบนดอย ของหลักๆ ก็จะเป็นพวกผลไม้แช่อิ่มแล้วก็ชา อาจจะมีพวกของแห้งเช่นเยื่อไผ่ เห็ดหอม.(ดอกใหญ่มากกก)ไร่ชาที่สามารถเดินลงไปดูได้..แต่จะมีป้ายห้ามเด็ดยอดชาด้วยนะคะ....เดินได้ไม่ไกลมากนะคะ...ร้านชาร้านด้านหน้าจะดูใหม่กว่า..ส่วนร้านด้านในบรรยากาศสไตล์ดั้งเดิม ออกจีนๆ สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มจะเป็นคนมาชงชาให้ชิม เราเองก็ดื่มชามาตลอด..แต่ก็เพิ่งคราวนี้ที่รู้ว่าชาที่ดีต้องชงยังไง....555ร้านด้านหน้ากับร้านด้านหลัง...ราคาชาไม่เท่ากันค่ะ....แม่เราบังเอิญตอนลงจากรถเหนื่อยมากเลยเข้าร้านด้านหน้า....ส่วนเราวิ่งไล่จับลูกคนเล็กกับคนโตเลยเดินเข้าไปร้านด้านใน....

ร้านด้านในถูกกว่าคะ... แต่แม่เราซื้อจากร้านด้านหน้าไปเพียบ !! ถามเขาทำไมราคาไม่เท่ากัน..เขาก็บอกว่า..ร้านในจุดนี้เป็นร้านเช่าที่รับชามาจากไร่ชา 101 อีกที..ดังนั้นราคาที่ตั้งจึงไม่เท่ากัน (อ้าววว) แต่ถ้าพูดให้ถูก...ชาในร้าน101 นี้ราคาแพงกว่าถามแพงที่ขายบนดอย มากกกก!!! แต่อาจจะตอบได้ว่ามั่นใจว่าได้ของดีและของแท้ค่ะ 555

ชาที่เขาให้ชิมมีหลายอย่างค่ะ -- แต่จะขอชิมนอกเหนือจากนี้ด้วยก็ได้ ถ้วยชาน่ารักมาก..คนชงก็ดูเชี่ยวชาญ ชงไปอธิบายไปได้คล่อง ถามอะไรตอบได้หมด แถมบอกว่าสามารถสั่งขนมหรือซาลาเปามากินกับชาด้วยก็ได้
ชาที่ชงชิมไปมี
ชาอู่หลงเบอร์ 12 (อันนี้บอกว่าได้รางวัลด้วย)
ชาอู่หลงก้านอ่อน (อันนี้บอกว่าไม่มีคาเฟอีนและเก็บได้ปีละครั้ง)
ชากาบา
ชานางงาม (บอกว่าเก็บได้ปีละครั้ง..ทานแล้วบำรุงผิวพรรณ)
ชาเจียวกู้หลาน (ลดไขมัน ฯลฯ)
----
ของที่กินแกล้มกับชาที่ขายก็จะมีสามอย่าง...เนื่องจากมีไม่เยอะ..เลยจัดมาอย่างละชุด อิๆๆๆๆ

1. ซาลาเปาชาเขียว (อันนี้ชิมแล้วเฉยๆ แป้งนิ่มผสมชาออกสีเขียวๆ ส่วนไส้รู้สึกแห้งๆค่ะ)
2. เค้กชาเขียว (คล้ายๆ เค้กฟองน้ำนิ่มๆ เหมือนเค้กใบเตยทางใต้ค่ะ)
3. ไข่ต้มชา (อันนี้อร่อยมากกกก ไม่เค็มไปรสชาติกำลังดี...เค้าจะเอาไข่ไปต้มกับน้ำชาที่มีซี้อิ้วและปรุงรสไว้..พอสั่งก็จะปอกเปลือกไข่ใส่ในน้ำต้มชาผสมซีอิ้วสีเข้ม โรยพริกไทยมานิด..สุโค่ยมากเลยยย)

-----
เสร็จแล้วก็ซื้อของฝากกลับบ้าน ซื้อชาไปฝากคุณย่าค่ะ..บ้ายบายนะคะ..
ปล. กลับมาชิมชา แฟนบอกว่าเจียวกู้หลันอร่อยมากกกกก....

มื้อนี้อ้วนอร่อยมากมาย
คืนสุดท้ายก่อนที่หม่อมแม่จะขึ้นเครื่องกลับบ้านวันพรุ่งนี้ค่ะ เลยพากันมาร้านนี้หน่อย

ร้านอยู่ริมแม่น้ำกกวิวสวย สั่งชั้นล่างก็จะได้บรรยากาศเอ้าดอร์ริมแม่น้ำอย่างแท้จริง หรือในร้านชั้นสองก็จะรู้สึกเหมือนภัตตาคารอาหารจี๊นจีนๆๆๆ ค่ะ ตกแต่งด้วยโคมแดง ไฟเหลือง

พอนั่งก็เปิดเมนูพลันสายตาเหลือบไปเห็น โอ้ว ร้านนี้มีเบียร์อิมพอร์ตด้วย ต้องโดนซะหน่อย ลองยี่ห้อแปลกๆ ไปสามแบบ เบียร์ดำอร่อยมาก จำชื่อไม่ได้ค่ะ ยี่ห้อแปลกๆ แต่ที่แน่ๆ ร้านนี้มีพอลล่าเนอร์ เออดิงเงอร์ เลฟเฟ่ ฮูการ์เดนฯลฯ

อาหารแนะนำร้านนี้มีหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือขาหมูหมั่นโถว แต่ด้วยความที่เมื่อวานก็เพิ่งกิน มื้อนี้เลยขอบายค่ะ

มื้อนี้เลยสั่งเบาๆ อันได้แก่...เป็ดปักกิ่ง!!! นี่เบาแล้วหรอ 555 อร่อยมากค่ะ สนนราคาตัวละ 600 บาท พร้อมเมนูอาหารเนื้อเป็ดอีก 1 จาน มื้อนี้คุณแม่เลือกเมี่ยงเป็ดเพราะว่าอยากทานผักค่ะ เป็นเนื้อเป็ดรวนเค็มๆ มากับหมี่ทอดกรอบจัดมาอย่างสวยค่ะ...สองจานนี้ถ่ายไม่ทัน และอีกจานหนึ่งที่ไม่ได้ถ่ายคือแกงจืดกระเพาะหมูเกี้ยมฉ่าย มาถึงก็ตักแบ่งๆๆๆ กัน..เรียบกริบค่ะ

มาดูจานที่มีรูปกันดีกว่า
เห็ดหอมอบซีอิ๊ว...หน้าตาดำๆ แบบนี้ อรอ่ยเด็ดค่ะ เห็ดนุ่ม ซีอิ๊วเข้าเนื้อ ไม่ขมเหมือนบางร้านค่ะ พอบีบมะนาวลงไป รสเค็มๆ เปรี้ยวๆ เข้ากันดีจานต่อมา เต้าหู้ผัดยูนนาน คล้ายๆ กับเต้าหู้ทรงเครื่อง มีหมูสับ มะเขือเทศ อร่อยค่ะ สำหรับครอบครัวคนรักเต้าหู้อย่างเรา เด็กทานได้ผู้ใหญ่ทานดีค่ะจานนี้ยำไทยแมงกระพรุน..ยำเปรี้ยวเผ็ดค่ะ เอามาตัดเลี่ยนหน่อย ใครชอบแบบคลุกน้ำมันงาก็มีนะคะ แต่ขอแซ่บๆดีกว่า แต่ก็สไตล์ร้านอาหารจีนค่ะ ไม่แซ่บเท่าไร พอใช้ได้ค่ะสุดท้ายแล้ว ผัดผักสี่สหายค่ะ จานนี้หมดไวมาก แครอทเมืองเหนือนี่หวานสุดๆ จริงๆ เห็ดหอมก็นุ่มเหนียวได้ใจ คะน้าหวานกรอบ โอ๊ย...แค่นึกก็น้ำลายสออีกรอบมื้อนี้โดนค่าเสียหายไปสองพันฝ่าๆ แต่เป็นค่าเบียร์ซะหกร้อยแล้วค่ะ เป็ดอีกหกร้อย ราคาก็ถือว่าไม่แพงมากนะคะ ระดับปานกลางสำหรับร้านอาหารจีน คุณภาพอาหารดีค่ะ บริการดี

สรุปว่าแนะนำค่ะ สำหรับคนที่ไปเที่ยวเชียงรายแล้วเบื่ออาหารเหนือแล้ว ร้านยูนนานเป็นอีกตัวเลือกนึงที่ขอแนะนำค่ะ

กินข้าวริมแม่น้ำ....ได้บรรยากาศนั่งชิลล์ๆ ลมเย็นๆ หลังจากกลับจากแม่สายก็ตรงดิ่งไปที่โรงแรมทันที เนื่องจากที่นั่งในรถพร้อมของฝากที่ซื้อเริ่มเบียดแออัด เจ็ดชีวิตแทบจะนั่งซ้อนกันในรถวากอนคันเล็กๆ นี่ซะแร้ววววว กว่าจะตัดสินใจไปร้านอาหารมันก็เลยช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกเสียแล้วสิ.....

ร้านอาหารจีนยูนนานอยู่ริมแม่น้ำแม่กก เป็นร้านที่เข้าไปลึกเกือบสุด...ถ้าไม่ได้ตั้งใจไปกินก็จะโดนดักด้วยร้านอาหารไทยและร้านอาหารพื้นเมืองตามรายทางงงหลายร้าน แต่วันนี้ตั้งใจไปกิน "เป็ดปักกิ่ง" ค่าาา

ร้านนี้ตกแต่งสไตล์จีน ตรงประตูด้านในมีหงส์กับมังกรเผชิญหน้ากันอยู่ ไม่ทราบไว้ว่ามันทะเลาะกันหรือเปล่า 555

ลูกสาวคนเล็กหลับแต่แม่ปลุกมากินข้าวตอนขึ้นรถ นั่งงอนๆ มาตลอดทาง บ่นว่า "ปั้นไม่กิน ปั้นอิ่มแล้ว" พอถึงร้านก็นั่งมองออกไปข้างนอก...แม่ผึ้งเลยถามว่า
"นั่งดูวิวเหรอคะ"
ลูกคนเล็ก (สองขวบ)กลับย้อนถาม
"ไหนล่ะวิว วิวอยู่ไหน" เอาละสิ..จะตอบยังไงดี...
"ก็ที่มองข้างนอกล่ะคะ วิว"
"ไหนอ่ะ..ปั้นไม่เห็น"
ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี..เจ้าหนูจำไมจริงๆ 555

เนื่องจากไปถึงยามแสงตะวันเหลือน้อยแล้ว แถมหิวจัดกันทุกคน จึงต้องขออภัยที่ถ่ายภาพไม่ทันนนน

ต้องไม่ลืมสั่งเป็ดปักกิ่ง...พร้อมกับนำเนื้อไปทำเมนู เมี่ยงซะก่อน

หลังจากนั้นก็สั่งยำแมงกะพรุน ขอเป็นสไตล์ไทยคือเผ็ดเปรี้ยว ไม่ใช่แบบน้ำมันงา อิๆๆๆ (แต่ขอแนะนำว่า ร้านอาหารจีนอย่าสั่งยำแบบไทยค่ะ...รสมันจะไม่จัดดดดด)ตามด้วยผัดผักสี่สหายเห็ดหอมอบซี้อิ้ว ชอบเห็ดหอมอบของเชียงรายมากคะ..จะเป็นแบบแห้งๆ แล้วก็บีบมะนาวละไป รสชาติเค็มๆ เปรี้ยวๆ แล้วก็หอมกลิ่นเห็ดหอม..อร่อยมากกกก เรียกได้ว่าเป็นอาหารจานหลักของเราไปเลย

ข้าวผัดหนำเลี้ยบ รสชาติกลมกล่อมอร่อยค่ะ...ตักแบ่งกันแป๊ปเดียวหมดกะเพาะหมูเกี้ยมฉ่าย อันนี้สั่งท้ายสุด..ร้อนๆ ซดคล่องคอ เปรี้ยวนิดๆๆๆ

สำหรับหนุ่มๆ ขาดไม่ได้ เบียร์ ที่นี่เบียร์จะมีหลายแบบอ่ะคะ...แฟนชอบมากกกกก มีนำเข้าหลายยี่ห้อ แฟนเล่นสั่งเบียร์ดำมาดื่ม...ตกแก้วละประมาณ 199 บาทค่ะ

สรุปความเสียหาย ทริปเชียงราย มื้อนี้เป็นมื้อที่แพงที่สุด ตกประมาณ สองพันห้าร้อยกว่าบาทได้....เพราะเบียร์ก็แก้วละเกือบสองร้อยสามแก้ว แถมด้วยเป็ดปักกิ่งตัวละ 600 บาท...คือราคาไม่ได้แพงเวอร์อะไร..ยังอยู่ในระดับรับได้...

ปล. ถามแฟนว่าชอบอะไรที่สุด...เฮียตอบชัดถ้อยชัดคำว่า "เบียร์"

ยามเช้าก่อนขึ้นเครื่อง...ขอแวะช็อปของฝากกันหน่อยดีกว่า ถามทางพนักงานที่โรงแรมมาก็ได้คำตอบว่า..
"อยู่ไม่ไกลจากหอนาฬิกาค่ะ" หอนาฬิกาของที่นี่สวยมาก เป็นงานศิลป์สไตล์อาจารย์เฉลิมชัย..เสียอย่างเดียว..ดูเวลาไม่รู้เรื่องเท่าไหร่ 555
ร้านฉวีวรรณไส้อั่ว หาง่ายค่ะ...อยู่ตรงปากทางเข้าตลาดเทศบาลเลย..ตลาดนี้ของขายเยอะค่ะ..มองไปด้านหน้าร้านก็เห็นป้ายว่า มีไส้อั่วแพคแบบสุญญากาศเจ้าแรกในประเทศไทยอีกต่างหาก
ร้านติดๆ กันเป็นร้านลุงขายพวกแคปหมู มีหลายแบบมากกกก แล้วก็มีพวกหมูยอ(หมูยอที่นี่มีน้ำจิ้มให้ด้วยนะคะ) แหนมหม้อ...ที่บ้านนักกินอยู่แล้วเหมามาเพียบ..อย่างละสิบชุด.(จะแจกใครนักหนาก็ไม่รู้ 555) ถือว่าเรามีรถ ฝากรถกลับ ส่วนตัวเองกับเด็กๆ กลับเครื่องบิน น้องสาวกับแฟนขับรถกลับเหมือนเดิมมมมมแหนมหม้อที่นี่เราชิมแล้วคะ...เราว่ามันไม่เปรี้ยวเท่าไหร่ (หรือว่าต้องทิ้งไว้อีกสักพักค่อยกินก็ไม่รู้) ถ้าโดยส่วนตัวชอบของวนัสนันทร์มากกว่า แอบซื้อข้าวซอยตัดมาด้วย..เคยกินก็เฉยๆ เหมือนกินอะไรกรอบๆ มันๆ หวานๆ คล้ายๆ ขนมทั่วไป

สุดท้ายซื้อเครื่องแกงขนมจีนน้ำเงี้ยวมาด้วยค่ะ....ลุงคนขายบอกว่าเอาไปลองทำดูง่ายๆๆ จริงเปล่าไม่รู้..แถมยังต้องวิ่งไปซื้อดอกงิ้วแห้งมาอีก..เอาไว้ใส่ในน้ำงิ้ว...เคยลองทานที่ร้านในโรงแรมก็เฉยๆ ไม่ชอบไม่เกลียด หมูยอลุงสุจินต์

ไปแล้วก็อย่าลืมแวะซื้อนะคะ...คนเชียงรายเพื่อนกันการันตีมาแร้ววววว

ทริปขึ้นเหนือที่ยังไม่หนาว ของครอบครัวนักกิน (เอาแต่กิน) ของเรา ถึงแม้ไม่หนาวแต่บรรยากาศก็ดี อากาศสดชื่นค่ะ ขับรถออกจากตัวเมืองเชียงรายแต่เช้าตรู่ รถสเปซวากอนที่แออัดไปทั้งหมด 7 ชีวิต+สัมภาระ ก็ขึ้นดอยแม่สลอง ด้วยความที่น้องสาววววอยากไปมากกกก ถึงแม้ทางจะลาดยางตลอด..แต่จุดเลี้ยวขึ้นเขาลงเขาและทางลาดชันต่างๆ ก็แทบเอาคนนั่งขย้อนข้าวเช้าออกมา แต่เด็กๆ อึดมากค่ะ..ไม่มีบ่นเรื่องเมารถเลย จุดแรกเลยต้องไปขอพักที่ไร่ชา 101 ก่อน...พร้อมกับกลิ่นคลัชไหม้นิดๆ พ่อเจ้าประคุณกลัวรถขึ้นไม่ไหวเลยต้องปิดแอร์เปิดหน้าต่าง ขับเกียร์ต่ำตลอด...คนนั่งใจตุ้มๆต่อมๆตลอดทาง แต่ก็ขึ้นจนถึงยอดดอยจนได้ค่าาาา
ขึ้นถึงยอดดอยก็เห็นร้านขายชาเรียงรายเต็มสองฟาก พร้อมร้านของฝากจากชาวเขา ทีแรกนึกว่าเหยียบเข้าเมืองจีนหรือไร...แต่เห็นตัวหนังสือภาษาไทยก็รู้ว่านี่ยังอยู่เมืองไทยนะ...บรรยากาศสบายๆ ได้กลิ่นชาลอยมาตามลม คนไม่เยอะ เพราะไม่ใช่วันหยุดและยังไม่เข้าหน้าหนาว ดอกไม้ยังไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่ ครอบครัวนักกินของเราก็เริ่มเดินยืดแข้งยืดขาก่อนจะตัดสินใจหาร้านฝากท้องมื้อกลางวัน สายตาก็เหลือบไปเห็นร้านข้างทาง ติดกับโรงเรียนร้านหนึ่งชื่อร้าน "ผิงผิงโภชนา" ฮั่นแน่ ชื่อเดียวกับหลานเราซะด้วย มีคนกินอาหารอยู่ในร้านโต๊ะสองโต๊ะ แต่ขอพักท้องก่อนคะ นั่งรถเวียนหัวมากกกกก
ร้านชาที่นี่ไม่แพงมีให้เลือกเยอะมากค่ะ จนเลือกไม่ถูก มีให้ชิมชาตลอดทาง บรรยากาศเหมือนอยู่เมืองจีน และก็จะมีร้านขายของฝากเล็กๆ สามสี่ร้าน คนขายแต่งชุดชาวเขา มีผักผลไม้แปลกๆ พื้นเมืองวางขายเรียงราย
ฮั่นแน่...อย่าเพิ่งเบื่อนะคะ ว่าทำไมไม่เข้าของกินสักที..ก็คนเขียนยังเมารถอยู่นี่ค้าาา ถึงคนอ่านอาจจะหิวก็เถอะ หลังจากเดินจนกระเพาะเริ่มทำงาน ก็ลงมติว่าจะกินข้าวที่ร้าน ผิงผิง เพราะร้านดูสะอาดสะอ้าน แม้ไม่ใหญ่มากแต่เมนูติดหลังร้านก็โดนใจอยู่
มาถึงดอยแม่สลองทั้งที...เมนูเด็ดที่ขาดไม่ได้ก็คือ "ขาหมูหมั่นโถว" แต่ขอโทษคะ ถ่ายรูปไม่ทันนนน พอของมามือหลายคู่ก็จ้วงๆๆๆๆ จนสภาพที่เห็น แม่ผึ้งคิดว่า "ไม่ถ่ายดีกว่า" หลังจากจ้วงไปเกือบหมด หมั่นโถวก็มา 5555 หมั่นโถวร้านนี้ทีแรกนึกว่าจะสีขาวๆ แต่ไม่ใช่ค่ะ...เป็นหมั่นโถวหลายสี มีทั้งสีขาว สีเหลือง (น่าจะผสมฟักทอง) สีม่วงอ่อน (อันนี้เผือกแน่) สีแบบผสมงาดำ อร่อยทุกแบบเลยค่ะ..นิ่มมากกกกกก แทบละลายในปาก ไม่ผิดหวังจริงๆ
เมนูต่อไปก็ผัดยอดถั่วลันเตา...มีคนแนะนำมา.บอกว่าอร่อยกว่าผัดยอดมะระหรือยอดซาโปเต้...พอของมาก็รีบจ้วง ดีนะที่ถ่ายไว้ทัน.. แฟนกินเข้าไปคำแรกทำตาเคลิ้ม บอกว่าหวานกรอบอร่อยยยยยทานมาสองจานก็ขอซดน้ำแกงร้อนๆ ให้อร่อย...ทริปนี้เน้นเผ็ดมากไม่ได้ค่ะ..เด็กๆมาด้วยตั้งสองคน แถมเป็นเด็กชอบซดน้ำแกงซะด้วยยย น้าตาลเลยสั่ง "เอ็นกวางตุ๋น" ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าบนยอดดอยหาเอ็นกวางมาจากไหน หวังว่าคงไม่ใช่กวางเอ๋งนะค้ะ ชามนี้ได้ใจเราไปเต็มๆ กลมกล่อมมากค่ะ.ผสมกับกลิ่นเครื่องยาจีน หอม ยิ่งถ้าคิดว่ากินหน้าหนาวล่ะก็ คงจะอร่อยยิ่งขึ้นเป็นเท่าตัวหลังจากเอ็นกวางตุ๋นก็มาลอง "หมูน้ำค้าง" อันนี้เราเฉยๆ ถามร้านเค้าว่าหมูน้ำค้างคืออะไร ก็ได้คำตอบว่าเป็นหมูหมักที่เขาเอามาตากน้ำค้างบนดอย แล้วค่อยเอามาทอดให้กิน...ดูๆ แล้วเหมือนหมูสามชั้นทอด แต่ก็ไม่เหนียวนะคะ..มีสมุนไพรฝานบางๆทอดเคียงมาด้วย แต่ก็เลี่ยนใช้ได้อยู่เนื่องจากทานอาหารไขมันค่อนข้างสูงมาเยอะ..ก็ขอตัดรสด้วยของเผ็ดคือ "ยำยอดใบชา" ไหนๆ แถวนี้ก็แหล่งปลูกชาใหญ่ที่สุดในประเทศ รสใบชาที่ขมนิดๆ ตัดกับรสเปรี้ยวเผ็ด ซู๊ดดดดยอดค่าาา แต่ขออภัย รูปภาพโฟกัสไม่ค่อยชัด มือไม้สั่นเพราะความอร่อยกินมาหลายจานก็ขอจบด้วยจานเด็กๆ คือเมนูไข่....แต่ไม่ธรรมดา.. ไหนๆ มาดอยทั้งที ขอสั่งเมนูไข่ม้วนยัดไส้มาดูหน่อย... แรกๆ พี่สาวเจ้าของร้านยกมานึกว่าสั่งปอเปี๊ยะ แต่พอดูดีๆ ไข่ม้วนยัดไส้เหรอ...อร่อยใช้ได้ค่ะ..เหมือนเจียวไข่บางๆ แล้วก็เอาไส้ที่คล้ายๆ หมูสับมาทาให้เต็มแผ่นไข่แล้วก็ม้วนเป็นแท่งยาวๆ แล้วทอดซ้ำอีกที หลังจากนั้นก็หั่นๆ เป็นคำๆ ถ้าจิ้มกับซอสพริกศรีราชาคงแซ่บ..หลังจากกินเสร็จก็นั่งผึ่งพุงกันสักพัก....สายตาก็ยังไม่วายไล่ไปตามเมนู ถึงแม้จะกินไม่ลงแล้วก็เถอะ เห็นเมนู "ต้มยำเห็ดหัวลิง" เอออ มันคือเห็นอะไรน๊าาา เรียกพี่สาวเจ้าของร้านมาถาม พี่เค้าก็ใจดี๊ใจดี เอาออกมาให้ดูด้วย...เห็ดใหญ่มากกกเกือบเท่าฝ่ามือของน้องเรา โพสลงเฟซบุ๊ค เพื่อนยังถามนึกว่าฟองน้ำลางรถ (เอ่อ..ก็คล้ายๆ อยู่นะ) เสร็จสับใบแจ้งหนี้ก็มา...โอววว ไม่แพงงงอย่างที่คิด นึกว่าบนดอยจะบวกค่าขนส่งอีกเยอะ 555 สนนราคาเพียงแค่พันต้นๆ ยังถูกกว่าร้านในเมืองที่กินไปไม่กี่จานอีก...

** ร้านนี้ได้ใจจจจจจจจจจจจจจเราไปเต็มๆ (สังเกตจาก จ.จาน ) เมนูแนะนำ ยำยอดใบชา ขาหมูหมั่นโถว เอ็นกวางตุ๋น ปล. อยากกินต้มยำเห็ดหัวลิง (แต่ทานไม่ไหว) ถ้าใครได้ลองอย่าลืมบอกเล่าให้ฟังด้วยนะค้า **

ปล. หลังทานเสร็จอย่าพึ่งลงจากดอยทันที...ไม่งั้นของอร่อยที่กินมันจะย้อนออกมา เราเองก็เกือบไปซะแร้ววววว

วันนี้มีโอกาสได้เดินทางไกล เลยแวะหาอะไรทานข้างทางซะหน่อย
ถ้าใครเคยมีโอกาสได้เดินทางเส้นทางเชียงใหม่-เชียงราย
คงเคยเห็นร้าน ก๋วยเตี๋ยวอดทน ริมทางที่อำเภอเวียงป่าเป้าจ้านี่เลย ป้ายหน้าร้านตัวเบ้อเร่อเลย "ก๋วยเตี๋ยวอดทน"มาหาที่นั่งแล้วก็สะดุดตากับโตกเครื่องปรุง
ดูเข้ากับบรรยากาศล้านนาดีจังมาเสิร์ฟแล้วจ้า เมนูวันนี้ ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กต้มยำมะพร้าวอ่อน
หน้าตาน่าค้นหามากๆ อยากจะเปิดดูแล้วล่ะว่าจะเป็นยังไงบ้างเส้นเล็กลวกมากำลังดี เหนียวนุ่ม เข้ากับเครื่องต้มยำได้ดีมากๆ
แล้วมาดูด้านเครื่องต้มยำกันดีกว่าว่าใส่อะไรมาบ้างกุ้งก้ามกรามขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ก็ไม่ถึงกับเล็ก
อยากบอกว่ากุ้งสดมากๆ กรอบกรุ๊บๆเลย
ในลูกนี้ใส่กุ้งมาให้ 2 ตัวเลยแหละ ถือว่าไม่ธรรมดาเลยร้านนี้ต่อมามาดูมะพร้าวอ่อนกันบ้าง ชิ้นนี้เลือกอันที่หนาหน่อยมาถ่าย
เพราะชิ้นอื่นมะพร้าวมันอ่อนและบางมากๆ คีบไม่ขึ้นเลยอ่ะ 555
มะพร้าวอ่อนทางร้านใส่มาให้หลายชิ้นเลย ยิ่งทานยิ่งเพลิน
เข้ากับน้ำต้มยำน้ำข้นได้เป็นอย่างดี รสชาดไม่จัดจ้านเท่าไหร่
แต่กลมกล่อมกำลังดี ถือว่าสุดยอดมากๆสำหรับเมนูนี้ของร้านนี้

และที่ใครๆคงสงสัยว่าทำไมร้านนี้ต้องชื่อว่า "ก๋วยเตี๋ยวอดทน"
ที่มาก็คือได้อ่านในเอกสารที่มีอยู่ในร้าน จึงได้ทราบว่า เมื่อต้นปี 2554
เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวอดทนได้มีโอกาสไปทัศนะศึกษาร่วมกับนักศึกษา
ป. บัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ณ เมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม
หัวหน้าทัวร์ได้พาไปที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ปรากฏว่ามีผู้รอคิวซื้อกันจำนวนมาก
และมีคนพูดขึ้นมาเสียงดังว่า "กาแฟอดทน"
ใครจะซื้อกาแฟร้านนี้ต้องอดทนรอคิวนาน แต่พอได้ทานทุกคนก็หายเหนื่อยและพร้อมใจกันว่า สมแล้วที่ชื่อ “กาแฟอดทน”
จากนั้นเมื่อกลับมาจึงเปลี่ยนชื่อร้านจาก "ก๋วยเตี๋ยวเวียงกาหลง" เป็น "ก๋วยเตี๋ยวอดทน"
จะได้ขายดิบขายดีเหมือนร้านกาแฟอดทน ถือเป็นการเอาเคล็ดวิธีนึงจ้า

อันนี้ไปทานมาตั้งแต่ต้นๆปีที่ยังหนาวๆอยู่ เพิ่งได้มารีวิว แหะๆๆ
ที่นี่ขึ้นชื่อด้านบรรยากาศ เรือนไม้ใหญ่ริมธารน้ำไหลเอื่อยๆ มีปุยดอกไม้ขาวๆลอยละลิ่วให้ชมเพลินๆ
โอ้ยยย กินบรรยากาศจนอิ่มเลยค่ะวันนั้น
ทีนี้มาต่อที่อาหารและเบเกอรี่นะคะ
จริงๆที่นี่มีอาหารแบบจานเดียวขาย เราก็สั่งพวกข้าวผัด ผัดกระเพราอะไรมาทานกัน แต่ไม่ได้ถ่ายรูป
เพราะไม่ใช่ไคลแมกซ์ของเราวันนี้ ฮ่าๆๆๆ
เค้กที่นี่มีให้เลือกประมาณเกือบ 20 ชนิด สั่งกันมาลองทานหลายชิ้น ที่เด่นดังคือพายมะพร้าว
มีครีมที่เหมือนทำจากไข่ขาวรสชาตินุ่มๆ ไม่หวานมากมาตัดกับเนื้อมะพร้าวและแป้งพายร่วนๆ
ชิ้นอื่นชิมอย่างละคำ พวกบลูเบอรี่เค้ก พายชอคโกแลต บานอฟฟี่ รสชาติโดยรวมจะออกกลางๆ ไม่เข้มข้นเท่าไหร่
มาดูรูปกันดีกว่าค่ะโดยรวมแล้วรสชาติโอเค บรรยากาศถูกใจ แต่อาหารรอนานไปนิดนึง เค้กไม่ต้องรอค่ะ ถ้ายังไม่หมดตู้ก็ได้ทานแน่ๆ
ไว้มีโอกาสจะแวะไปทานเค้ก ที่มีบรรยากาศดีๆที่หาไม่ได้ในเมืองแบบนี้อีกแน่นอนค่ะ

วันหยุดยาวก็หาที่พักผ่อนไกลกรุงเทพ สูดอากาศสดชื่น จะไปกันที่เชียงรายนะคะ หลังจากที่เดินเที่ยวแม่สายแนวชายแดนช้อปปิ้งกันแบบจุใจกันจนเหนื่อย ตะวันก็เริ่มลับขอบฟ้า แล้วก็ได้เวลากลับที่พักในตัวเมือง ก่อนเข้าห้องก็ต้องหาอะไรทานซะหน่อย
แต่พอดีลืมของใช้นิดหน่อยเลยต้องหาที่แวะซื้อ หิวก็หิว เห็นห้างขนาดใหญ่โดดเด่น ดูแล้วต้องมีครบทุกอย่างที่ต้องการแน่นอน แวะเข้าไปเลยคะที่ Central Plaza Chiangrai ซื้อของได้แล้ว ถึงเวลาหม่ำกันแล้วค่ะ
หิวๆอย่างนี้ ต้องหาร้านที่ เสริฟเร็วๆ มองไปปุ๊บก็เห็นยาโยอิ อยู่บริเวณชั้น 2 ซึ่งปกติไม่เคยผิดหวังกับการบริการที่รวดเร็วทันใจมากๆ ของร้านนี้อยู่แล้ว แต่สาขานี้จะเป็นยังไงน้า ??

สั่งเลยเมนูแรก หมูชุปแป้งทอด ราดซอสมิโสะ สั่งปุ๊บยังไม่ถึง 5 นาทีเสริฟร้อนเสริฟเร็วจริงๆคะ ไม่ได้ทานเองแต่คนทานบอกว่า อร่อยมาก หมูชิ้นใหญ่ ทอดได้กรอบนอกนุ่มใน น้ำซอสเข้มข้น หอมหวาน แฮมเบอร์เกอร์เนื้อกะทะร้อน เสริฟร้อนเสริฟเร็วอีกเช่นเดียวกันคะ ไม่ได้ทานเอง แต่คนทานบอกว่าอร่อยเหมือนเดิมได้มาตรฐานจริงๆยาโยอิ เฮลที เมนูนี้ เป็นเมนูโปรดเลยคะ เพราะมีทุกอย่างที่ชอบในเซ็ทเดียว ทั้งไข่ตุ๋นเนื้อเนียนนุ่ม ปลาซาบะย่างซีอิ๊ว และ เทมปุระ พร้อมด้วย ข้าวญี่ปุ่นร้อน ๆ และ ซุปอีก 1 ถ้วย มื้อนี้อิ่มอร่อยกันถ้วนหน้ายอดเยี่ยมจริงๆคะ

ร้านข้าวต้มมีนา เวลาเปิดปิด (17.00-23.00 น.) หมายเลขโทรศัพท์ 053-740014ร้านนี้คนค่อนข้างเยอะถึงแม้จะดึกแล้ว จากที่หาข้อมูลเป็นอีกร้านที่นักชิมทั้งหลายแนะนำให้มาลอง
ร้านจะเป็นลักษณะตึกแถวประมาณ 2-3 คูหาได้ เห็นเด่นชัดอยู่ติดถนนพหลโยธินเลย
ร้านสะอาดสะอ้าน โล่งๆกว้างๆดีคะ ครัวจะอยู่ด้านหน้าร้านจะผัดหอมฟุ้งไปทั่วร้าน ใครหิวๆไปได้กลิ่นหอมยั่วจมูกไปท้องร้องเลยหละคะยิ่งทางเหนืออากาศหนาวๆทำให้ข้าวต้มมื้อนี้ยิ่งอร่อยมากขึ้นคะ

เริ่มกันที่เมนู ผัดเห็ดหูหนูดำใส่ไข่ รสชาติกลมกล่อมดีคะและให้เครื่องเคียงมาด้วยเป็นพริกเม็ดใหญ่ดอง ไม่เคยเห็นมาก่อนแต่ทานแล้วเข้ากันดีคะ ผัดผักปวยเล้ง ผัดสดมากๆ ผัดได้อร่อยจริงๆคะ กลมกล่อมมาก ผัดหอยลายน้ำมันหอย หอยสดดีคะ ผัดได้รสชาติเข้มข้นนะแต่ไม่เผ็ดเกินไปด้วย ให้มาเยอะมากผัดกลมกล่อมมาก ผัดมะเขือยาว หมูสับ ผัดได้อร่อยอีกจานแล้ว เพราะผัดได้นิ่มกำลังดีไม่แข็งไม่เละเกินไป หอมใบโหระพา กลมกล่อมมากเลยคะส่วนการบริการทางร้านทำรวดเร็วมาก ไม่รอนานให้เสียเวลาเลยคะ ทั้งที่คนก็เยอะนะคะ ราคาก็ไม่แพงเลย ปริมาณที่ให้ก็เยอะมากๆ วันนี้ถ้าไปแค่ 1 หรือ 2 คนทานไม่หมดแน่นอนคะ คุ้มค่าจริงๆคะ

มาทานอาหารเหนือกันเป็นวันสุดท้าย ก่อนจะกลับ กทม. ที่ร้านภูแล ในอำเภอเมืองค่ะ ร้านตั้งอยู่ริมถนนเลย มีมุมถ่ายรูปอยู่หน้าร้านเช่นนี้ค่ะ เข้ามาในร้านก็พบกับรูปถ่ายมากมายของคนดังที่มาทานร้านนี้ค่ะ เนื่องจากคณะของเรามาเป็นกรุ๊ปและสั่งอาหารไว้แล้ว พอมาถึงก็มีอาหารรออยู่เลย จานนี้คือ ปลาทอดลุยสวนสมุนไพร หั่นมาเป็นชิ้นขนาดพอคำ ทานง่าย ยำสมุนไพรรสชาติกลมกล่อมดีค่ะ ผัดผักรวม เพื่อให้ได้เกลือแร่กันบ้าง จานนี้รสชาติธรรมดากับแกล้มสายเหนือ ประกอบด้้วย น้ำพริกหนุ่ม ผักต่าง ๆ แคบหมู ไส้อั๋ว และหมูยอ หั่นบาง ๆ มาขนาดพอคำค่ะ มาแอ่วเหนือต้องไม่พลาดจานนี้ค่ะ ต้มยำปลาบึก เสริฟมาในเตาร้อน รสชาติจัดจ้านค่ะ หมูคำหวาน เสริ์ฟร้อน ๆ ทานกับข้าวร้าน ๆ อร่อยดีค่ะ ปิดท้ายด้วยสับปะรดภูแล หั่นมาเป็นชิ้นขนาดพอคำ ที่เก๋คือ มีก้านมาเป็นที่จับใส่ปากได้เลย ไม่ต้องใช้ส้อมจิ้ม กรอบอร่อย เหมาะสำหรับคนที่ชอบกินสับปะรดกรอบ ๆ ค่ะ

ที่ต้องระบุว่าเป็นร้านริมโขง เชียงราย เพราะรู้สึกว่าจะมีร้านริมโขงที่อุบลอีกที่ค่ะ ไม่แน่ใจว่าเจ้าของเดียวกันรึเปล่า 555 ก็แม่น้ำโขงมันยาวนี่นา ชื่อนี้อาจจะมาจากชื่อถนนที่เป็นที่ตั้งของร้านนี้ด้วยค่ะ ร้านตั้งอยู่ริมถนนเลย มีที่จอดรถอยู่ด้านหน้า ตัวร้านจะอยู่ด้านในเข้ามา ติดริมฝั่งแม่น้ำโขงค่ะ โต๊ะนั่งริมฝั่งน้ำ หรือถ้าใครกลัวร้อน (ถ้ามาตอนกลางวัน) กลัวยุงและแมลงกลางคืน (ถ้ามาทานมื้อค่ำ) ทางร้านมีโซนที่เป็นห้องแอร์ค่ะ เข้ามาทานข้างในก็ได้ มาดูอาหารกันบ้าง -- จานนี้คือ ฟักแม้วผัดไข่ หน้าตาไม่ค่อยน่าคุ้นเคยเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่เขาจะเอาส่วนใบมาผัด แต่ที่นี่เอาลูกฟักมาผัดเลย รสชาติธรรมดา เหมาะสำหรับคนไม่ชอบทานเผ็ด เมนูต่อมาคือไส้กรอกทอด รสชาติเหมือนไส้กรอกอิสานบ้านเฮา แต่มันจะเยอะกว่าข้าวเล็กน้อย ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าไส้กรอกเหนือได้หรือไม่ ทานแกล้มกับผักดองอร่อยดี มาแม่น้ำโขง ก็ต้องกินปลาแม่น้ำโขงกันหน่อย กับต้มยำปลาบึกจานนี้ น้ำซุปรสชาติกลมกล่อมคล่องคอ ปลาบึกชิ้นขนาดพอคำมีมาให้หลายชิ้น ที่ดีคือมันไม่ค่อยมีก้างเท่าไหร่ แนะนำให้ลองสั่งดู สำหรับคนที่ชอบทานปลานะคะ

บรรยากาศ และการบริการ -- โซนที่นั่งชมวิวริมแม่น้ำ โต๊ะจะค่อนข้างใหม่ และสะอาดกว่าในห้องแอร์ คาดว่าจะเป็นเพราะคนนิยมนั่งมากกว่า พนักงานบริการโอเค แต่มีอึ้งนิดหน่อย ตอนที่สั่ง ผลไม้ตามฤดูกาล แล้วเขาเอาลำไยทั้งจาน (แบบไม่แกะ) มาเสริฟ์ ใครที่ไม่ต้องการ surprise แบบนี้ ลองถามทางร้านก่อนก็ดีนะคะ ว่าอาหารที่จะสั่งนั้นคืออะไรกันแน่ จะได้ไม่มีปัญหาอาหารมาแล้วทานไม่ได้จ้า

มาราชการเชียงราย ลงเครื่องได้ไม่ทันเท่าไหร่ ก็จะได้เวลาอาหารเที่ยงแล้ว เลยเข้าเมืองกันมาทานข้าวที่ร้านอาหารมุมไม้ เป็นร้านเล็ก ๆ น่ารัก อยู่ที่ถนนสันโค้งหลวง อำเภอเมือง ต้องเลี้ยวเข้าซอยมาสักเล็กน้อยจึงจะเจอร้านค่ะ ทางเดินเข้าร้านตกแต่งด้วยตุ๊กตาดินปั้นจำนวนมาก มีมุมถ่ายรูปน่ารัก ๆ เต็มไปหมด คนที่ชอบถ่ายรูปน่าจะชอบค่ะ มาดูเมนูกันหน่อย หน้าร้านจะมีเมนูแนะนำอยู่ค่ะ สนนราคานับว่าไม่แพงนัก จานละประมาณ 100 - 200++ แล้วแต่ชนิดอาหาร และขนาดจานค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นกับข้าวให้สั่งมาทานกับข้าวซะมากกว่า มาดูอาหารที่พวกเราสั่งกันดีกว่า ชามแรก แกงเลียง ผักเยอะดี รสชาติกลมกล่อมออกไปทางค่อนข้างเผ็ดร้อนค่ะ ส่วนอันนี้คือ เห็ดเข็มทองทอดกรอบ ทอดมาได้กรอบได้ใจดีค่ะ ถ้าจะให้ถูกสูตรแท้ ต้องกินคู่กับยำมะม่วงจานนี้ แต่รสชาติค่อนข้างจะเผ็ดทีเดียว ใครไม่นิยมทานเผ็ด จะทานเห็ดทอดเปล่า ๆ ก็ได้นะ อร่อยดี มาเมืองเหนือก็ต้องไม่พลาดอาหารเหนือ แคบหมู น้ำพริกอ่อง และผักสด น้ำพิกค่อนข้างจะเผ็ดไปหน่อยสำหรับเรา กินแคบหมูเปล่า ๆ แล้วกัน 555ส่วนจานนี้แนะนำ ห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อน รสชาติกลมกล่อม ปาลา กุ้ง และปลาหมึกเยอะดี เสริ์ฟมาในมะพร้าวอ่อนเป็นลูก ๆ เลยค่ะ

บรรยากาศ การบริการ และราคา -- ร้านตกแต่งได้น่ารักดี มีบริเวณร้านตกแต่งเป็นสวนให้เดินถ่ายรูปเล่น พนักงานบริการรวดเร็วและยิ้มแย้มดี อาหารไม่แพงค่ะ

มาดูงานที่ศุลกากรแม่สาย แต่บริเวณด่านไม่ค่อยมีร้านอาหารที่นั่งได้สบาย ๆ น้องที่ทำงานเลยชวนมากินกันที่ร้าน "ครัวสุโขทัย" ในตัวอำเภอแม่สายค่ะ บรรยากาศในร้านสวยงามมาก เห็นวิวภูเขาสลับซับซ้อนราวกับทานอาหารอยู่ในหุบเขา แต่เรามาร้านอาหารนี่นา ไม่ได้มาชมวิว ว่าแล้วก็มาชิมจานแรก ปอเปี๊ยทอด กรอบอร่อย รสชาติกลมกล่อม แทบไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มเลยค่ะ กินของทอดแห้ง ๆ แล้ว มาซดน้ำซุปเยื่อไผ่ตามเข้าไปซักหน่อย น้ำซุปร้อน ๆ รสชาติกลมกล่อมกำลังดี ที่เห็นลอยอยู่กับเยื่อไผ่นั้นคือลูกชิ้นกุ้งค่ะ มาเมืองเหนือ ก็ต้องกินอาหารเหนือ จานนี้มาพร้อมทั้งน้ำพริกอ่อง และน้ำพริกหนุ่ม ให้เลือกตามใจชอบ พร้อมผักสด แคบหมู และไส้อั่วค่ะ เนื่องจากเราไม่ค่อยนิยมน้ำพริก ก็เลยไม่ได้ทานทั้งคู่ (อ้าว) แต่ไส้อั่วอร่อยดีค่ะ จานนี้เป็นที่ชื่นชมของสมาชิกทั้งโต๊ะ ปลาทอดสมุนไพร ทอดกรอบกำลังพอดี ไม่แข็งเกินไป และหั่นปลาแยกเป็นชิ้น ๆ มาให้แล้ว ตักแบ่งกันง่ายดีค่ะ

บรรยากาศ และการบริการ -- ร้านตกแต่งสวยงามเป็นธรรมชาติดีมากค่ะ แนะนำว่า ถ้าต้องการความเป็นส่นตัว ให้เดินเข้ามาที่โต๊ะด้านใน เพราะด้านนอกจะเป็นโซนที่ขายของฝาก และอยู่ติดถนน คนค่อนข้างพลุกพล่านค่ะ

พนักงานบริการรวดเร็วดี ยิ้มแย้ม อาหารเสริฟ์ไว หรือเป็นเพราะว่าเราสั่งไว้ก่อนมาแล้วก็ไม่รู้ ^^" เอาเป็นว่าใครมาแม่สาย และอยากทานอาหารเหนือ - อาหารไทยอร่อย ๆ ก็ลองมาทานร้านนี้กันนะคะ

ที่ทำงานพามาสัมมนาที่ จ. เชียงราย และพักที่โรงแรมแถวเชียงแสน มื้อเย็นคุณน้องคนจัดกำหนดการ เขาเลยพามาทานร้านนี้ เพื่อให้ได้ทานอาหารเหนืออร่อย ๆ และชมวิวริมน้ำโขงกันค่ะ จานแรกที่มา เป็นน้ำพริกปลาแห้ง (ถ้าจำไม่ผิด) ทานกับไข่เค็ม หมูหวาน และผักสด ๆ แยกมาอีกจานค่ะ น้ำพริกค่อนข้างจะเผ็ดสักหน่อย ทานกับไข่เค็ม หมูหวาน และผัก เข้ากันดีค่ะ จานต่อมาเป็นยำหัวปลีกุ้งสด รสชาติค่อนข้างจัดอีกแล้ว จึงมีไข่ต้มมาให้ค่ะ แต่ใครที่ชอบยำรสจัด หรือจะทานกับข้าวอยู่แล้วก็ไม่มีปัญหาค่ะ โต๊ะนั่งอยู่ริมน้ำโขง มองไปอีกฝั่ง เห็นสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวอยู่ลิบ ๆ ค่ะ บรรยากาศชิล ๆ แต่ไม่ควรมาดึกมาก เพราะยุงจะชุมค่ะ สักช่วงเย็น ๆ กำลังดีเลย ตอนเที่ยงก็อาจจะร้อนเกินไปค่ะ สำหรับใครที่ไม่ชอบอาหารรสจัดมาก สามารถบอกทางร้านได้ หรือจะเลือกสั่งเมนูที่รสไม่จัด เช่นกระเพาะปลาผัดแห้งจานนี้ ก็รสชาติกลมกล่อมดีนะคะ

การเดินทางมาที่ร้าน -- ถนนริมโขง คือ ถนนเส้นที่แล่นเลียบแม่น้ำโขงมาเลยค่ะ ชาวเชียงรายคงรู้จักกันดี แต่ถ้าต่างถิ่นมาอย่างเรา ก็ขับรถตามถนนมาเรื่อย ๆ มุ่งตรงไปยังทางที่จะไปสามเหลี่ยมทองคำ ร้านจะอยู่ริมถนน สังเกตุง่ายค่ะ

บรรยากาศ และการบริการ -- บรรยากาศดีเพราะอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเลย ใครอยากลงไปเดินก็น่าจะได้ค่ะ เพราะมีพื้นที่ชายฝั่งอยู่นิด ๆ เห็นคนลงไปเดินเล่นเหมือนกัน โต๊ะส่วนใหญ่อยู่กลางแจ้ง ตอนกลางวันท่าจะร้อนน่าดู แต่ช่วงแดดร่มลมตกลมแม่น้ำจะพัดเย็นสบายดีมาก ๆ ค่ะ

แนะนำสำหรับแขกต่างถิ่นทั้งหลาย --- พนักงานเสริฟ์บางคนไม่ใช่คนไทย เวลาสั่งอาหารให้พูดช้า ๆ ชัด ๆ หน่อยนะคะ