สุดยอดอาหารบำรุงดวงตา ป้องกันอาการ "ตาแห้ง" ภัยเงียบที่ต้องระวังในช่วงหน้าหนาว
2013-12-13

การสูดอากาศเย็นๆ ในช่วงฤดูหนาวนี่ก็เป็นความสุขอย่างหนึ่งนะคะ เพราะนานๆ เมืองไทยจะได้หนาวกันสักที ปีหนึ่งมี 1 ครั้ง และครั้งละไม่กี่วันเท่านั้น แต่อย่ามัวเพลินไปกับลมเย็นๆ แดดอ่อนๆ มากนักนะ เพราะในช่วงหน้าหนาวมีโรคภัยมาเยือนได้หลายโรค

 

โดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับ "ดวงตา" ซึ่งเป็นอวัยวะที่แสนจะบอบบาง สิ่งที่ต้องระวังในหน้าหนาวคือ อาการตาแห้ง!!! สังเกตง่ายๆ หากมีอาการแสบร้อนบริเวณดวงตา บางคนจะเกิดอาการตาแดงและมีน้ำตาไหล ซึ่งไม่ได้เกิดเฉพาะกับผู้สูงอายุเท่านั้น แม้แต่เด็ก คนที่ทำงานกลางแดด จ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์บ่อยๆ หรือใส่คอนแทคเลนส์ ก็ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงเช่นกัน

 

เพราะฤดูหนาวเป็นช่วงที่มีสภาพอากาศและสภาพแวดล้อมแห้งกว่าฤดูอื่นๆ เราจึงจำเป็นต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษ โดยพยายามรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพิ่มการรับประทานผักผลไม้บำรุงดวงตาให้มากๆ OpenRice จึงขอแนะนำอาหาร 10 ชนิดที่ควรรับประทานเพื่อป้องกันอาการตาแห้ง

 

 

1.ผลไม้ตระกูล "เบอร์รี่" นอกจากรสชาติเปรี้ยวหวานแสนอร่อย และสามารถนำมาทำขนมรวมไปถึงอาหารได้อีกด้วย "เบอร์รี่" จึงเป็นที่โปรดปรานของใครหลายคน ขอแนะนำบลูเบอร์รี่ ซึ่งมีสารอาหารแอนโธไซยาโนไซด์ช่วยบำรุงสายตา และราสเบอร์รี่ที่มีสารพัดวิตามินช่วยถนอมดวงตาได้อย่างดี

 

สูตรอาหาร เบอร์รี่

 

 

2.มะม่วงสุกและมะละกอสุก มะม่วงมีวิตามินซ่อนอยู่เพียบ ทั้งวิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินอี ที่ช่วยบำรุงสายตาได้ดี ส่วนมะละกอนั้นอุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินบี 1 และบี 2 มีแคลเซียม และเบต้าแคโรทีน ครบถ้วนทีเดียว เป็นผลไม้ที่หาทานได้ง่ายในเมืองไทยทั้งยังราคาไม่แพง

 

 สูตรอาหาร มะม่วง และ สูตรอาหาร มะละกอ

 


3.แครอท เชื่อเลยว่ากระต่ายจะต้องสายตาดีแน่ๆ ก็เพราะแครอทเป็นผักที่มีวิตามินเอสูงมาก ช่วยบำรุงรักษาดวงตา และยังมีสารเบต้าแคโรทีนเยอะสุดๆ ที่สำคัญแครอทยังสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายเมนู ตั้งแต่สลัดไปจนถึงเมนูผัดๆ หากชื่นชอบของหวานแนะนำ "เค้กแครอท" หวานอร่อยและเปี่ยมไปด้วยประโยชน์

 

สูตรอาหาร แครอท

 


4.ฟักทอง ผักอีกชนิดที่มีสีเหลืองส้ม ซึ่งเป็นสีที่ขึ้นชื่อเรื่องสรรพคุณช่วยดูแลรักษาดวงตาของเรา และเป็นผักที่มีวิตามินเอสูงเช่นกัน ซึ่งฟักทองสามารถนำมาทำอาหารได้ทั้งคาวหวาน โดยนิยมนำมาทำเป็นวัตถุดิบในแกงกะทิ หรือแม้แต่ขนมไทยอย่างสังขยาฟักทองก็อร่อยมากๆ

 

สูตรอาหาร ฟักทอง

 


5.ผักบุ้ง คุ้นเคยกันดีกับผักที่ได้ชื่อว่าบำรุงสายตาได้ดีมาก โดยมีคุณสมบัติไม่ทำให้ปวดตา ลดอาการแสบตาได้ด้วย ถ้าจะให้ดีก็ต้องรับประทานผักบุ้งดิบๆ หรือลวกจิ้มกับน้ำพริกรสแซ่บ ส่วนเมนูแนะนำก็ต้องผัดผักบุ้งไฟแดง ทานคู่กับข้าวต้มร้อนๆ อร่อยเกินบรรยาย หรือทานผักบุ้งเป็นเครื่องเคียงส้มตำ ได้ประโยชน์ผักบุ้งสดๆ ไปเต็มๆ 

 

สูตรอาหาร ผักบุ้ง

 

 

6.คะน้า ผักที่รับประทานได้หลายส่วน เปี่ยมไปด้วยวิตามินซี เบต้าแคโรทีน และสารต้านอนุมูลอิสระ หาทานได้ง่ายเพราะเป็นเมนูที่นิยมมากๆ ในร้านอาหารตามสั่ง ยกตัวอย่างเมนูคะน้าหมูกรอบ (ทานหมูกรอบมากไประวังน้ำหนักขึ้นนะคะ) หรือจะลวกก้านคะน้ามาใส่น้ำยำก็จี๊ดจ๊าดไปอีกแบบ

 

สูตรอาหาร คะน้า

 

 

7.ตำลึง ผักริมรั้วกินได้และยังมีคุณค่าสารอาหารสูง เพราะตำลึงมีเบต้าแคโรทีนอยู่สูง ซึ่งเป็นสารกลุ่มแคโรทีนอยด์ช่วยกรองแสงให้กับดวงตา เมนูแนะนำที่คุ้นเคยก็เช่น แกงจืดตำลึง เพิ่มความพิเศษด้วยการใส่ลูกรอกแทนหมูสับ ถ้าถนัดจานผัดก็เหยาะน้ำมันหอยลงไปในกระทะปรุงรสให้ตำลึงเสียหน่อย เพียงเท่านี้ก็ได้มื้อเย็นแล้ว

 

สูตรอาหาร ตำลึง

 

 

8.ตับ ไม่ว่าจะเป็นตับหมูหรือตับไก่ ต่างก็มีวิตามินเอสูง และยังนำไปปรุงเป็นเมนูได้หลายอย่าง จะใส่ลงในหม้อสุกี้ลวกพอนิ่ม หรือนำไปผัดกับผักต่างๆ ก็เสริมรสชาติให้แก่กัน ถ้าอยากได้วิตามินเอให้เต็มที่ขอแนะนำผัดตับกับเนื้อใส่น้ำมันหอย เพราะเนื้อวัวก็มีวิตามินเอด้วยเช่นกัน ที่สำคัญวิตามินเอที่ได้รับจากสัตว์ ร่างกายจะดูดซึมได้ดีกว่าพืชด้วยนะ

 

สูตรอาหาร ตับ

 

 

9.นม ไข่ ชีส 3 สิ่งนี้เป็นแหล่งสำคัญของวิตามินเอ และยังสามารถสร้างสรรค์ได้หลากเมนู ใครชอบดื่มนมหรือทานโยเกิร์ตก็ดีต่อสุขภาพ หรือจะนำไปประกอบอาหารต่างๆ เช่น ออมเล็ต ที่ทั้งอร่อยและดีต่อดวงตา หรือทำไข่ตุ๋น เมนูทานที่ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ อย่าลืมใส่แครอทลงไปเพื่อเพิ่มวิตามินเอให้เต็มที่

 

สูตรอาหาร ไข่ 

 

 

10.ปลาซาบะ ปลาที่มีวิตามินเอช่วยบำรุงสายตา เป็นปลาที่ชาวญี่ปุ่นชื่นชอบมากๆ เพราะรสชาติอร่อยและมีประโยชน์ โดยเฉพาะการนำปลาซาบะไปย่างให้หนังกรอบๆ แล้วปรุงรสชาติต่างๆ เช่น ปลาซาบะย่างเกลือและปลาซาบะย่างซีอิ๊ว แต่ถ้าอยากทานรสมือแบบไทยๆ ขอประยุกตร์เป็น ปลาซาบะนึ่งมะนาว แซ่บๆ ก็เลิศ

 

สูตรอาหาร ปลาซาบะ

 

 

แล้วอย่าลืมดื่มน้ำสะอาดเยอะๆ ด้วยนะคะ เพราะน้ำเปล่าจะช่วยให้ดวงตาชุ่มฉ่ำ ที่สำคัญต้องหลีกเลี่ยงแสงแดด เพียงเท่านี้ เพื่อนๆ ก็จะมีดวงตาที่สดใสในหน้าหนาวแล้ว

 

 

เครดิต: freepik, aspicyperspective, healthmeup, tsgclub, jitasanowledge.blogspot, papamenu, en.wikipedia, loveandcrayons และ menufoodthai

คีย์เวิร์ด
อาหาร แก้โรค
ผักผลไม้
อาการตาแห้ง
ป้องกันโรคตา
เบต้าแคโรทีน
วิตามินเอ
OpenRice TH Editor
Monthly chart
อร่อยแบบรสมือที่คุ้นเคยกับครัวดอกไม้ขาว
2024-11-25
‘ศรณ์’ คว้ารางวัลสามดาวมิชลินร้านแรกในไทย สร้างตำนานความสำเร็จในวงการอาหารระดับประเทศและระดับโลก
2024-12-02