นักรีวิวร้านอาหาร

มีโอกาสได้ไปทำธุระที่เชียงใหม่
เพื่อนบอกว่ามีร้านขนม ไอติมโฮมเมดอร่อยมว้าก 
อยู่ใกล้ๆวัดพระสิงห์ ไปสิครัช รออัลไล

ร้านนี้มีชื่อว่า MINI HOME CAFÉ
ร้านสีเหลืองสะดุดตา ตกแต่งน่ารัก อยู่ด้านหลังวัดพระสิงห์ค่ะ
สามารถจอดรถในวัด แล้วเดินทะลุออกด้านหลังได้
หรือวนมาจอดด้านหลังวัดเลยก้ได้ค่ะมุมนั่งกินลมชมหนุ่มหน้าร้าน
นี่ถ้าไม่ติดว่าร้อนจนเต่าเปียกนะ พี่จะนั่งแอ๊วหนุ่มเหนือตรงนี้เลยมาดูบรรยากาศน่ารักๆในร้านกันบ้างค่ะ
จะตกแต่งด้วยโทนสีเหลือง น่ารักสดใสชอบเจ้าดอกม่วงจิ๋วๆนี่จังเลย ทนมาก สีสวยสด อยู่ได้เป็นเดือนขนาดห้องน้ำยังต้องมีความอาร์ต #เชียงใหม่เป็นเมืองชิคชิตเมนูมีให้เลือกหลากหลายทั้งน้ำ ทั้งขนมเลยค่ะ
แอร้ยน่ากินทั้งนั้นเลยมาดูเครื่องดื่มกันก่อน เมนูแรกของเฮาเอง Blue Hawaiian Soda (30 บาท)ต่อมาของคุณเพื่อน Green Tea Milk (30 บาท)และแก้วสุดท้าย Lemon Soda 
คุณพี่เจ้าของร้านเห็นเราเจ็บคอ ไอแค่กๆๆ
แต่เมิงก้ยังจะสั่งเย็นๆมากินอีก คุนพี่เค้าเลยทำแก้วนี้มาให้ค่ะ
ฟรี!!! ห๊าฟรี!!! ทำไมคนเจียงใหม่ดีขนาดเจ้า
น่าฮักจิงๆเล้ยให้ตายสิ ขอบคุณนะคะ ชรุ้บปลื้มปริ่มกับบรรดาเครื่องดื่มไปแล้ว มาดูเมนูขนมกันบ้าง
เมนูแรก Mini Toast (49 บาท)น่ากินมั้ยหล่ะพวกแกร๊ จะบอกว่า Toast ดีมาก
คือกรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟมาพร้อมกล้วยหอมหั่นพอดีคำ และวิปนุ่มๆเนียนๆ
ทานคู่กับ Kiwi Sherbet เปรี้ยว อมหวาน คือดีย์อ้ะ

มาดู Cherry Berry Sundae (49 บาท) กันม่าง
ด้านล่างจะเป็นเยลลี่สตรอเบอร์รี่นุ่มหนึบ ชั้นกลางจะเป็นวิปและกล้วย
โปะมาด้วยไอติม Cherry Berry หอมๆ เปรี้ยวๆ หวานๆ

 

ไอติมที่ร้านนี่โฮมเมด ทุกตัวนะจ๊ะขอบอก
ไม่เชื่อมาโดนเอง! แล้วจะติดใจค่าเสียหายมื้อนี้แค่ 158 บาทเท่านั้นค่ะ

ใครผ่านมาแถวนี้อย่าลืมแวะมาลิ้มลองความอร่อยกันได้นะค๊า 
^^

อากาศร้อนแบบนี้ ไม่ได้ไปเที่ยวไหนเบย
เข้าห้างไปตระเวนหาขนมอร่อยๆหม่ำอย่างเดียวค่าวันนี้มีร้านขนมเริ้ดๆมานำเสนอแหล่ะพวกเทอร้านนี้มีชื่อว่า MOCHI SWEETS หน้าร้านเรียบหรู ดูดีเชียวค่ะตอนแรกนึกว่าเป็นโมจิไส้ไอติมแบบที่เคยทาน แต่ไม่ใช่ค่ะ มันคือ
Original Mochi from Japan 100%
เพราะวัตถุดิบทุกอย่าง import มาจากญี่ปุ่นโดยตรงเลยค่ะ
ขุ่นพระ! คราวหน้าตอนส่งวัตถุดิบมา
เจ้ฝากหนูหนีบผู้ที่เจแปนมาให้เจ้ซักคนได้มั้ยคะลูก
ฮ่าๆๆ #แบบนี้ก้ได้หรอ

มาดูราคากันบ้าง ราคาจะเริ่มตั้งแต่ 46-53 บาทค่ะตัวอย่างขนมหน้าร้านหน้าตาน่ากินสุดๆละลานตาจนเลือกไม่ถูกเลยค่ะจัด Recommend มาเลยค่ะ ได้มา 2 รส คือ
Green Tea และ Chocolate Mousse
ชิ้นแรก Green Tea งับไปคำแรกฟีลเจแปนนี่มาเต็มเลยค่ะ
รสสัมผัสได้ ฟีลได้ แต่อากาศไม่ได้!!!!!
ด้านนอกทำมาจากแป้งข้าวเหนียวเนื้อนุ่มหนึบ ชั้นกลางจะเป็นรสชาเขียว
และชั้นในสุดจะเป็นเนื้อครีมบางเบา ช่วยเพิ่มความนุ่ม หอม หวานละมุนให้กับโมจิชิ้นที่ 2 เป็น Chocolate Mousse
สมแล้วกับที่เป็น Recommend มันลงตัวไปซะหมดเลยฮะท่านผู้โช้มมมมติดใจจนต้องหิ้วกลับบ้าน กล่องขนมเรียบหรูดูดี เหมาะกับซื้อเป็นของฝากได้เลยค่ะ
กล่องโมจิจะมี 2 ไซส์นะคะ คือ 6 ชิ้น และ 12 ชิ้นค่ะและแอบเหลือบไปเห็นโดนัทจิ๋วหน้าตาน่ารัก
สรุปว่ามันคือ Mochi Donuts ค่ะ เลยจัดมาด้วยซะเลย
แอบถามว่าขุ่นน้องคะมีสาขาตรงไหนบ้าง ใกล้บ้านขุ่นพี่มีขายมั้ย จะได้ไม่ต้องมาถึงนี่
สรุปว่าตอนนี้มี 2 สาขาค่ะ คือที่นี่ สาขา Central World ชั้น 3 อยู่ใกล้ร้านกาแฟพี่บัค
Central Westgate ชั้น 2 และกำลังจะเปิดที่ Fashion Island เร็วๆนี้
โถๆๆ ไกลบ้านพี่หมดเบย
กลับบ้านไปเปิดกล่องกันดีกว่า โมจิจะมีให้เลือกทั้งหมด 18 รสค่ะ
Chestnut Cream / Blueberry Cream / Chocolate Mousse
Red Bean / Mango Mousse / Cream Chocolate / Sakura
Strawberry / Peach Cream / Pineapple / Green Tea / Orange
Mango Cheese Mousse / Purple Potato / Coconut / Durian
Blueberry Cheese Mousse / Honey Lemon Cream
วันนี้เราเลือกมาทั้งหมด 6 รสตามนี้เลยบนฝากล่องด้านใน จะมีวิธีการรับประทานอยู่ค่ะมาดูหน้าตากันค่ะมาๆตามเค้ามา เดี๋ยวจะพาไปเจาะลึกกันถึงไส้โมจิกัน ฮ่าๆๆสรุปได้ว่ารสที่เราปลื้มสุดเป็น Red Bean กับ Green Tea ค่ะ ไม่หวานมาก เข้มข้นสุดๆ
มาต่อกันที่ Mochi Donuts มีทั้งหมด 6 รสค่ะ ไม่เลือก เอามาทุกรสเลยค่า
Green Tea / Purple Potato / Strawberry
Chocolate / Honey Lemon / Chestnutอวบๆ กลมๆ ผมน่ากินมั้ยฮับมาๆ มาดูข้างในกันดีกว่ารสที่เราปลื้มสุดเป็น Chestnut กับ Green Tea ค่ะ Purple Potato ก้ดีงาม
แอร๊ย เลือกไม่ถูก เอาเป็นว่ามันอร่อยคนละแบบแล้วกัน อยากให้ได้ลอง
เดือนนี้มีโปรกล่องเล็ก 6 ชิ้น ลด 50 บาท และ
กล่องใหญ่ 12 ชิ้น ลด 100 บาทด้วยนะคะ
แต่ต้องแอด Line id: mochisweetsth ก่อนนาจาา เค้าถึงจะลดให้
ใครสนรีบนะฮะ หมดโปรสิ้นเดือนนี้เท่านั้นปูลู ร้านมีนั่งให้ 2 ที่นะคะ แนะนำ take away จะดีกว่า
ซื้อแล้วแนะนำว่าควรทานตอนที่เย็นๆนะคะ จะเพิ่มความฟินขึ้นมาอีก 10 เลเวลเลยทีเดียว

 

ใครอยากหาข้อมูลเพิ่มเติม หรือโปรโมชั่นเริ้ดๆ เพียงแค่คลิกเข้าไปดูได้ที่
www.mochisweets.co.th

เฮ่นโหล๊วววพวกเทอ วันนี้จะมาชวนไปกินอาหารไทยรสชาติอร่อยเว่อวังแหล่ะ!
คือร้านนี้เริ้ดจนนี่ทนไม่ไหวต้องมาบอกต่ออ้ะ มาๆ ตามมาให้ไวเลย ท้องร้องไปหมดร้านนี้ชื่อร้าน หุง-เส้น [HUNG-SEN] อยู่ที่ชั้น 3 Central World โซน Beacon
เอาเป็นว่าชั้น 3 ติดริมทางเดินฝั่งด้านหน้าห้าง หาไม่ยากร้านสีเหลืองโดดเด่นเป็นสง่า
แค่ฟังชื่อร้านก้พอจะเดากันออกละใช่ม้ะ ว่าร้านนี้เค้าเน้นเมนูเส้น
มาๆ มาดูบรรยากาศในร้านกันก่อน นั้ลล้าคกุ๊งกิ๊งไปอีกค่ะคู้นนนเดินเข้ามาก้จะเจอที่นั่งด้านขวากันแบบนี้เลยจ่ะ
มีจาน ชาม ช้อนกระเบื้องตกแต่งบนผนังด้วย
ดูเก๋ไก๋ได้กลิ่นอายความเป็นโมเดิร์นเบาๆมาดูโซนด้านในกันบ้างค่ะ
ติดกับประตูด้านหลังที่เชื่อมกับทางเดินที่ทะลุเข้ามาจาก sky walk ค่าดูบรรยากาศไปแล้ว ก้มาดูเมนูกันบ้างดีกว่า ท้องร้องจ๊อก จ๊อก
ขอเริ่มด้วยเมนูเครื่องดื่มก่อนแล้วกันค่ะ ไล่จากด้านซ้าย ไปขวานะคะ
น้ำใบเตย > น้ำกระเจี๊ยบ > น้ำตะไคร้ [แก้วละ 55.-]เราชอบหมดเลย น้ำใบเตยก้หวานหอม น้ำกระเจี๊ยบก้เปรี้ยวชุ่มคอ น้ำตะไคร้ก้ชื่นใจ
ด้วยความหลายใจ รักพี่เสียดายน้อง เลือกไม่ถูก สั่งมาหมดเลยค่าคุณผู้โช้ม
มาที่เมนูทานเล่นกันบ้าง เริ่มที่จานโปรดเราละกัน
เปาะเปี๊ยะกุยช่าย [Garlic Chives Spring Rolls] 85.-อยากให้มาลองเมนูนี้
แล้วจะลืมกุยช่ายห่อแป้งแบบนึ่งๆ ไม่ก้ทอดแบบแข็งๆก้อนใหญ่ๆกันไปเลย
แป้งเปาะเปี๊ยะบางกรอบ ทอดแบบไม่อมน้ำมันเลย เสิร์ฟมาพร้อมน้ำจิ้มรสเริ้ด
เห้ยยยย คือดีย์เมนูต่อไปยังเป็นเมนูทานเล่นอยู่ค่ะ
แหนมห่มผ้า [Thai Style Sour Pork Spring Rolls] 98.-แหนมหมูร้านนี้เค้าหมักเองทำเองนะเออ รสเปรี้ยวกำลังดี
ห่อแป้งเปาะเปี๊ยะทอดกรอบไม่อมน้ำมัน
ทานแกล้มเครื่องแนมอย่างขิง พริกขี้หนู หอมแดง และถั่วทอด
น้องขอเบียร์แก้ว เอ้ย! ไม่จ้ายยยแหล่วมาๆ มาเข้าเรื่องกันที่เมนูเส้นกันบ้างดีกว่า
เมนูแรกเป็น Signature Dish ของร้านนี้เค้าเลยแหล่ะพวกเทอ
ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย [Sukhothai Noodle] 98.-เครื่องแน่นมาก หาเส้นแทบจะไม่เจอ ในถ้วยจะมีหมูแดง หมูเด้ง
กุ้งแห้งนี่ตัวใหญ่ ไม่ไก่กาเลยนะจ๊ะขอบอก
ลูกชิ้นปลานี่แน่นหนึบมาก ไม่มีกลิ่นคาวเลยแหล่ะ
น้ำซุปรสชาติกลมกล่อม หอมกลิ่นมะนาวนิดๆ
เสิร์ฟพร้อมเกี๊ยวกรอบ และผักบุ้งชุบแป้งทอดใบโต
ห้ะ! ผักบุ้งหรือนี่ ใบใหญ่โตโอ้โหมากกกค่ะหมูแดงอัลไลใหญ่เบอร์น้านนน

เมนูถัดไปขอเป็นเมนูเมืองเหนือกันบ้างดีกว่า
ไหนลองซิ้ จะมีความเป็นออริจินัลได้มากแค่ไหน
ข้าวซอยไก่ [Kao Soi with Chicken] 135.-เห้ย! เป็นไปไม่ได้ มันไม่ได้มีความเหมือนเลย แต่มันคือความเป๊ะอ้ะพวกเทอ
รสชาติคือใช่มาก จะบอกว่าอร่อยกว่าร้านประจำที่เชียงใหม่ของช้านอีกอ้ะ
ไก่น่องใหญ่ เนื้อนุ่มมาก
น้ำแกงใช้เครื่องปรุงอย่างดี หอมกลิ่นเครื่องเทศชัดมาก อยากให้ไปโดน!

เมนูถัดไปยังเป็นเมนูทางเหนืออีกเมนู ที่เราอยากให้ทุกคนได้ลอง
ขนมจีนน้ำเงี้ยว [Ka Nom Jeen Num Ngeaw] 125.-แม่เราเป็นคนเหนือ นอกจากฝีมือแม่แล้ว นี่ก้ยังไม่เคยเจอร้านไหนที่ทำอร่อยกว่าแม่เลย
แต่ร้านนี้ทำอร่อยกว่าแม่อีกอ่ะเห้ย 55555555555
มีความเป็นน้ำเงี้ยวเฟี้ยวฟ้าวสูงมาก รสชาติเข้มข้นจัดจ้าน
ซี่โครงหมูนี่เปื่อยแบบละลายในปากไปเลย ดอกงิ้วนุ่ม ไม่เหนียว
ทางร้านยังใส่วัตถุดิบทางเหนือที่หายากอย่างถั่วเน่าไปด้วยค่ะ
ทำให้น้ำซุปมีกลิ่นหอมไม่เหมือนใคร

จากเหนือวกกลับลงมาที่ภาคตะวันออกกันบ้าง
ก๋วยเตี๋ยวแกงส้มกุ้ง [Kang Som Noodle with Fish Cake and Shrimps] 145.-เมนูนี้ได้สูตรมาจากจันทบุรีกันเลยทีเดียว กลิ่นสัมผัสแรกที่เข้าปาก คือกลิ่นกระชาย
เค้าบอกว่าน้ำพริกแกงส้มที่ดี เวลากินเข้าไปเนี่ย กลิ่นสัมผัสแรกคือต้องได้กลิ่นกระชาย
เข้มข้นมาก ถึงพริก ถึงขิง ถึงเครื่องแกงมาก แทบจะร้องขอข้าวสวยร้อนๆซักโถ สองโถ!!!
น้ำซุปมีรสหวานกลมกล่อมจากแตงอ่อน
ใส่ผักหลายหลายชนิดทั้งยอดมะพร้าว กล่ำดอก แครอท กล่ำปลี มะละกอ
และทีเด็ดเลยคือปลาน้ำดอกไม้เนื้อแน่นชิ้นโตๆ กุ้งเนื้อหวานสดๆ และปลาเส้นแท้ชิ้นโต
โอ้ยยยฟินไปสิ

เมนูต่อไป นี่มั่นใจว่าเป็นเมนูโปรดของใครหลายๆคน
ก๋วยเตี๋ยวเรือหมูน้ำตก [Boat Noodles with Pork] 98.-เมนูแสนธรรมดา ที่ไม่ธรรมดา ดูจากรูปก้รู้ละว่ามันเจ้มจ้นขนาดไหน
แม่ครัวร้านนี้ทำเครื่องแกงน้ำตกเอง และใส่วัตถุดิบพิเศษที่มีเฉพาะภาคตะวันออก
ที่เรียกว่า “หัวเร่ว” ลงไปด้วยค่ะ
ฉะนั้นน้ำแกงจากร้านหุงเส้นจึงมีกลิ่นหอม เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ลูกชิ้นลูกโต หมูชิ้นโต ตับชิ้นโต กากหมูก้โต๊ โตตต อารายๆก้โต
พุงเฮาตอนนี้ก้เช่นกัน 55555
อ่อ เมนูนี้ถ้าอยากกินชามเล็กๆเค้าก้มีนะ ชามละ 49.- เอง
ปอลอ. ทางร้านมีน้ำส้มให้ปรุง 2 แบบนะพวกเทอ แบบพริกสดจะสีออกส้มๆ
กับพริกแห้งเอาไปคั่วก่อนจะออกสีเขียวๆ
ถ้ากินกับก๋วยเตี๋ยวน้ำตก แนะนำให้ใส่น้ำส้มพริกแห้งสีเขียวๆนะ รสชาติจะเริ้ดกว่า

เราจะยอมแพ้ไม่ได้ เพราะเราเหลืออีก 1 เมนูค่ะ เป็นเมนูโปรดของเราเอง
โปรดอีกล้าววว โปรดทุกเมนูเลยวุ้ย!
ก๋วยเตี๋ยวกุ้งแม่น้ำผัดมันกุ้ง [Stir Fried Noodle with Giant River Prawn] 189.-ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่นุ่มๆ ผัดกับมันกุ้งรสเข้มข้น จานนี้ไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มเลยอ้ะพวกเทอ
ทีเด็ดของจานนี้อยู่ที่กุ้งแม่น้ำตัวโตๆ เนื้อหวานเด้ง สุกกำลังดี
และจุดพีคเลยคือหัวกุ้งจะแน่นไปด้วยมันกุ้งเยิ้มๆ
ทางร้านจะนำไปเผาให้ได้ความสุกระดับนึงก่อน แล้วค่อยนำไปทอดเพื่อเพิ่มสีสันค่ะ
หากใครชอบรสจัด ทางร้านก้มีน้ำจิ้มซีฟู้ดเสิร์ฟให้ด้วยนะเออ

โอ้ย ไม่ไหวล้าว ท้องจะแตกให้ได้เลย
แต่แอบเปิดไปเห็นเมนูขนมหวาน พี่พลาดไม่ได้เลยจีจี
เค้าว่ากันว่า ความสามารถพิเศษของผู้หญิง คือมีกระเพาะของคาว และของหวานแยกกัน
เห็นจะเป็นเรื่องจริง
ปังเย็นนมชมพู [Pink Milk Ice Moutain] 120.-เค้าบอกว่าความสูงของเจ้าภูเขาไฟสีหวานเนี่ย จะขึ้นอยู่กับความสูงของคนทำ 55555
สงสัยวันนี้คนทำขนมเราจะสูง ยาว เข่าดีแฮะ ภูเขาพี่ถึงได้สูงขนาดนี้ อิอิ
เห้ย! คือนุ่มมาก มาเป็นสมูทตี้เลยอ้ะ ไม่ต้องเคี้ยวน้ำแข็งกรุบกรับให้เมื่อยฟันเลย ชอบจุง
หอมๆ หวานๆ นิ่มๆ เย็นๆ เผลอแพร้พเดียว ละลายหายลงไปในท้องในพริบตา

จะบอกว่าถ้าใครที่ชอบทานอาหารไทย รสชาติจัดจ้าน เข้มข้น คงความเป็นต้นตำรับได้ดี
แนะนำให้ลองมาทานที่ร้าน “หุง-เส้น” ได้เลยค่ะ
ซึ่งรสชาติแบบนี้หาได้ยากมากกกก [กอ ไก่ 8 ล้านตัว]
อาหารใช้วัตถุดิบปรุงอย่างดี ใส่ใจรายละเอียดทุกจาน
ถ้าเทียบกับราคา เราถือว่าถูกมากเลยนะ
อยากให้มาลองกันจริงๆนะพวกเทอ รับรองไม่ผิดหวัง
ไม่อร่อยเอามาปาใส่ปากจขกท.ได้เลย 55555
ขอปิดท้ายรีวิวกับมุมโซฟาตัวโปรดของเราละกันค่า
ไว้เจอกันใหม่รีวิวหน้านะค๊า

ห่างหายจากการเขียนรีวิวไปนานเป็นปี แอบหนีไปเที่ยวเก็บร้านอร่อยให้เพื่อนๆมาค่ะ
รีวิวนี้เลยจะขอพาไปชิมไกลซักหน่อยแล้วกันนะคะ

วันนี้จะพาไปแอ่วเชียงรายกันเจ้า
ร้านอาหารที่เราจะพาไปชิมวันนี้ ถือเป็นร้านโปรดของเราเลยก็ว่าได้
ถ้ามีโอกาสได้ไปเชียงราย ก็ต้องขอแวะมาที่นี่ค่ะ
“ร้านอาหารภูภิรมย์” แห่งไร่บุญรอด ของบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัดจ้า

การเดินทาง
อยู่เส้นทางเดียวกับวัดร่องขุ่นของอาจารย์เฉลิมชัยเลยค่ะ
วัดจะถึงก่อนหลังจากนั้นขับตรงไป พอถึงแยกให้เลี้ยวขวา
จากแยกไปไม่ไกลมาก ไร่บุญรอด จะอยู่ด้านซ้ายค่ะ
จุดสังเกตุจะมีสิงห์ตัวโตสีทองอร่ามอยู่ด้านหน้าเลยค่ะบรรยากาศร้าน
เมื่อเราเข้าไปถึงไร่บุญรอดแล้ว ด้านหน้าจะเป็นไร่ดอกไม้สีสันสดใสบานสะพรั่งคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างพวกเราอยู่เต็มเลยค่ะ
ไม่ได้มีแค่ดอกไม้นะคะ แต่ยังมีผลไม้ต่างๆ ไร่ชา และแปลงปลูกข้าวบาร์เลต์
ถ้าไม่หิว ไม่รีบร้อนกันมาก แนะนำให้นั่งรถเที่ยวชมไร่กันก่อน
ทางไร่จะมีรถรับ-ส่งไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว
และที่สำคัญการเข้าชมในไร่บุญรอดนั้นไม่เสียค่าใช้จ่าย เข้าชมฟรีค่ะ

พูดถึงบรรยากาศไร่ไปก็เยอะแล้ว มาพูดถึงบรรยากาศร้านกันบ้าง
“ร้านอาหารภูภิรมย์” จะตั้งอยู่ด้านในสุดของไร่เลยค่ะ
สามารถขับรถยนต์ส่วนตัวเข้าไปตามป้ายได้เลย
เป็นร้านอาหารบรรยากาศดี ท่ามกลางไร่ชาสุดลูกหูลูกตา
มี 2 ชั้น ส่วนตัวเราชอบนั่งชั้นบนค่ะ จะได้ชมวิวได้เต็มที่
ถ้าแดดไม่ร้อนมาก แนะนำให้นั่งด้านนอกเลยค่า ชิวสุดๆขอเริ่มจากออเดิร์ฟง่ายๆก่อนแล้วกันนะคะ
“กุ้งกระเบื้อง” เมนูทานเล่น เสิร์ฟพร้อมซอสเสาวรส
รสชาติไม่โดดเด่นอะไรมาก แต่นั่งทานเพลินๆก็หมดไปในพริบตาค่าเมนูต่อไป “ยำยอดชาทอดกรอบ”
ยอดชาชุบแป้งทอด เสิร์ฟมาพร้อมน้ำยำ
รสชาติไม่ค่อยจัดจ้านโดนใจเราซักเท่าไหร่
เนื่องจากทางร้านต้องทำรสชาติกลางๆไว้ สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย
แต่คอนเฟิร์มว่าถ้าน้ำยำรสจัดกว่านี้ เมนูนี้จะเกร๋มากค่ะ
เพราะใบชาสดมาก และทอดมากรุบกรอบสุดๆเมนูถัดไปยังเป็นเมนูเบาๆอยู่ค่ะ “เห็ดหอมสดทอด”
มาพร้อมกับซอสเปรี้ยว ไม่จิ้มซอสอร่อยกว่าค่ะ 555+
ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ บอกเลยว่า มันเริ้ดนะเธอออมาแอ่วเหนือแล้ว ไม่มีเมนูพื้นเมืองก็กระไรอยู่นะ
มาถึงเมนูสุดเริ้ด “แกงฮังเล” รสชาติเข้มข้นฝุดๆ
หมูเคี่ยวจนนิ่มสุดๆ เครื่องแกงจัดเต็มแบบไม่ยั้งเลยค่ะ
ทานกับข้าวสวยร้อนๆ หมูนี่ไม่ต้องพูดถึง แทบละลายในปากเลยค่ะ
เป็นเมนูโปรดเราเลย มาที่นี่ทีไร ต้องสั่งทู๊กทีมาถึงเมนูสุดท้าย แต่ไม่ท้ายสุดละค่ะ
“ไก่ย่างภูภิรมย์” เมนูนี้มาแล้วต้องโดนนะคะ
ถ้าไม่โดน แปลว่ามาไม่ถึงภูภิรมย์นะ บอกเลยยยย
เป็นไก่ย่างที่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมา (เว่อป่ะหล่ะ)
แต่คือมันอร่อยจริงๆนะ นุ่มสุดๆ แทบละลายในปาก
มุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้ง อู้วฟู่ววววเลย
เนื้อนุ่มขนาดนี้ แอบสงสัย นี่ใช้เบียร์สิงห์หมักไว้รึป่าวค๊าเนี่ย
เห้ย! คือต้องโดนนะ เมนูนี้ Recommend จิงจังของคาวไปแล้ว ทีนี้มาต่อด้วยของหวานกันค่ะ
เมนูแรก “กล้วยหอมทอดราดน้ำผึ้ง” กรอบนอก นุ่มใน อร่อยอีกละข้ะ!!!
Topping ด้วยไอศครีมวานิลลา เข้าก๊าน เข้ากันฝุดๆขอผลไม้ล้างปากอีกซักหน่อยละกัน “เมล่อนญี่ปุ่น”
ผ่าเรียงมาอย่างสวยงาม โปะน้ำแข็งเพิ่มความเย็นชื่นใจด้วย
จะบอกว่ารสชาติหวานสู้ครั้งก่อนไม่ได้ง่ะ T_T
มันต้องหอม หวานกว่านี้ม่ายช่ายเร๊อะ แง๊! การบริการ
ระดับพี่สิงห์แล้ว รับรองว่าบริการเริ้ดถูกใจแน่นอนค่ะ
ตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาที่นี่ พนักงานต้อนรับอย่างดี
อาหารรอไม่นานมากค่ะ นั่งชมบรรยากาศเพลินๆ แปปเดียว

ค่าเสียหาย
สำหรับค่าเสียหายมื้อนี้ประมาณเกือบๆ 1,500 บาทค่ะ
ถือว่าไม่แพงมากนะคะ สำหรับอาหารอร่อย และบรรยากาศดีๆแบบนี้

เพื่อนๆที่ไปเที่ยวเชียงราย ยังไงอย่าลืมแวะไปชิมกันได้นะค๊า
รับรองว่าไม่ผิดหวัง ยิ่งถ้าได้ไปช่วงหน้าหนาวนะ
พี่รับประกันความฟินเลยแหล่ะ อิอิ

รีวิวนี้จะพาเพื่อนๆไปบุกร้านอาหารแสนเก๋ย่านสาทรกันค่ะ
ร้านนี้มีชื่อว่า The Anna Restaurant & Art Gallery
เชื่อว่าเพื่อนๆหลายคนคงคุ้นหูกับชื่อร้านนี้กันอย่างแน่นอนค่ะ

การเดินทาง
ร้านนี้จะตั้งอยู่บนถนนสาทรเหนือค่ะ อยู่ในซอยพิพัฒน์
สามารถเข้าได้ 2 ทาง คือ สาทรซอย 6 หรือ สีลมซอย 3 จ้า
วันนี้เราขับรถขึ้นทางด่วนมาลงพระราม 4 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสีลมค่ะ
ตรงเข้ามาเรื่อยๆ แล้วจะเจอป้ายบอกทางชัดเจนค่ะ
ถ้าหาไม่เจอสามารถโทรถามเส้นทางจากทางร้านได้เลยค่า

บรรยากาศร้าน
ก้าวแรกที่เข้ามาภายในร้าน เราสามารถสัมผัสถึงบรรยากาศที่อบอุ่น
และพนักงานที่น่ารักเป็นกันเอง จากบ้านหลังใหญ่หลังนี้ได้ทันที
มีหลายโซนให้เลือกตามใจ ไม่ว่าจะมาเป็นกลุ่ม ครอบครัว หรือมาเป็นคู่
ทางร้านสามารถจัดสรรที่นั่งให้ได้อย่างลงตัวเลยค่ะ

ขอเริ่มจากเครื่องดื่มแก้วนี้ก่อนแล้วกัน "Fruit Punch" สีสวย
หวานเย็นชื่นใจ เป็นเครื่องดื่มที่ขึ้นชื่ออีกแก้วของทางร้านเลยก้อว่าได้จานต่อมาเป็น Starter เบาๆกับ House Salad ที่มีชื่อว่า "The Anna Salad"
ขอบอกว่าผักที่ร้านนี้เค้าคัดมาเริ่ดจิงๆค่ะ สดได้ใจ!!!
ทั้งมะเขือเทศ และร็อคเก็ต สด กรอบสุดๆไปเลย
หากใครคิดว่าสลัดจานนี้เป็น Starter เบาๆเหมือนกับเรา ขอบอกว่าคิดผิดค่า
เพราะสลัดจานนี้ไม่ธรรมดา ทำให้เราน็อคไปชั่วครู่เลยทีเดียว
เพราะ topping มาทั้ง ไข่ต้ม กุ้งสด แฮม และเนื้อไก่ และโรยด้วยไข่กุ้ง
น้ำสลัดที่นี่เค้าก้อทำเองนะคะ เป็นสูตรเฉพาะของทางร้านเลย
แค่จานแรกมา อิช้านก้อแทบอยากจะลุกมากรี๊ดดังๆละค่ะ (เว่อเชีย!!!)เมนูต่อมา "ยำปูนิ่มทอด" รสชาดจัดจ้านถึงใจจานนี้
ปูนิ่มชิ้นใหญ่มากค่ะ ทอดแบบกรอบนอกนุ่มใน
โรยด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เพิ่มสีสันด้วยพริกแดงซอยบางๆ
ทานคู่กับผัก และน้ำยำรสแซ่บจี๊ดโดนใจ
รับรองว่าจานนี้ถูกใจสาวๆแน่นอนค่ามาต่อด้วยเมนูเด่นของร้านอย่าง "President Salmon" สีสวย
งงล่ะสิ ว่าชื่อนี้มาแต่ใด ทางร้านเค้าบอกมาว่า...
จานนี้เคยเสิร์ฟให้กับอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯมาแล้วนะจ๊ะ
ไม่ธรรมดาจิงๆ
จะเป็นแซลมอน สอดไส้ด้านในด้วยกุ้งและปู จากนั้นจะนำไปอบชีส
และราดด้วย Strawberry Sauce สูตรเด็ดของร้านนี้เลยค่ะ
ดูแล้วไม่น่าจะเข้ากันเท่าไหร่ เอาของคาว มาราดด้วยของหวาน
แต่รสชาดที่ออกมานั้นเปรี้ยว หวานแบบลงตัวเลยค่ะ
รับรองว่าใครที่ลองจานนี้ไปแล้ว ต้องกลับมาโดนอีกทีแน่นอนค่ะของคาวจานสุดท้ายแล้ว "อกเป็ดซอสส้ม" ชิ้นโต
อยากจิถามว่า เป็ดตัวนี้ท่านได้แต่ใดมา อกโตกว่าช้านอีก 555+
ขอบอกว่าเป็ดชิ้นนี้เนื้อแน่นมากค่ะ เจอจานนี้แล้วจอดเลย
ปกติจะเป็นซอสเกรวี่อะไรก้อว่ากันไป แต่เราเพิ่งเจอร้านนี้ที่ราดด้วยซอสส้ม
เอากะเค้าสิทั้งซอสส้ม ซอสสตรอเบอร์รี่ มันจะเริ่ดเกินไปละนะ!!!
ไม่น่าจะเข้ากันอีกแล้ว แต่มันหวานหอมจิงๆค่ะท่านผู้ชม
ทานคู่กับสลัดผักสด หรือจะทานพร้อมส้มก้อได้ค่ะ แก้เลี่ยนได้ดีเลยของคาวก้อหมดละ แต่ของหวานของที่นี่ก้อช่างยั่วยวนยิ่งนัก
วันนี้เสียดายมากที่เมนูดังอย่าง Toffee Banoffee ขายดิบขายดีจนหมดไปแล้ว
เราเลยได้เมนูนี้มาค่ะ "Chocolate Crape Amore" ค่ะ
เป็น Chocolate Crape เรียงชั้นมาแบบสวยๆ
ราดด้วย Chocolate Sauce เข้มข้นถึงใจ
และด้านในสอดไส้ด้วยเชอร์รี่แช่รัม รสชาดเปรี้ยวอมหวาน ตัดเลี่ยนได้ดีทีเดียวการบริการ
พูดได้เลยว่าร้านนี้บริการได้ดีมาก อบอุ่น น่ารัก เป็นกันเองมากเลยค่ะ
คอยแนะนำ ดูแล เอาใจใส่ลูกค้าอย่างดี ไม่มีขาดตกบกพร่องเลย
แม้ว่าลูกค้าจะเยอะขนาดไหน พนักงานก้อยิ้มสู้ไม่ถอยจ้า

ค่าเสียหาย
มื้อนี้เบ็ดเสร็จแล้วประมาณ 1,500 บาทค่ะ
ตกคนละประมาณ 500 บาทเท่านั้นเอง ถือว่าคุ้มมากๆค่า

ใครที่มีโอกาส หรือผ่านไปแถวนั้น อย่าลืมแวะไปโดนกันได้นะคะ
รับรองเด็ดจริงทั้งอาหาร สถานที่ และการบริการค่ะ