Thai | English
siriorn
ฉันชื่อsiriorn อาศัยอยู่ในคลองเตยเหนือ. I am a รับจ้าง, ทำงานอยู่ที่คลองเตยเหนือ. ชอบไปลั้นลาที่ลุมพินี, คลองเตยเหนือ, บางนา. อาหารจีน, อาหารญี่ปุ่น, อาหารอิตาเลียน are my favorite cuisines. ชอบไปลั้นลาที่ ร้านในคอมมูนิตี้มอลล์, ร้านในโรงแรม รีสอร์ต, ร้านเค้กและเบเกอรี่และขนมหวาน ไอศครีม, ซูชิ ซาซิมิ.
สมาชิก 14 รีวิวแรก
รีวิว26 รีวิว
編輯推介數目20 Editor's Choice
Recommended17 แนะนำ
ความนิยม3558 เข้าชม
Replies in Forum1 ความคิดเห็น
อัพโหลดรูปภาพ689 รูปภาพ
อัพโหลดวิดีโอ0 วิดีโอ
My Recommended Reviews18 รีวิวแนะนำ
My Restaurant198 ร้านโปรด
Follow114 Following
粉絲130 Follower(s)
siriorn  Level 2
ติดตาม ติดตาม  ความคิดเห็น: Leave a Message 
เรียงตาม:  วันที่ ยิ้ม ยิ้ม ไม่ปลื้ม ไม่ปลื้ม  Editor's Choice  คะแนนโดยรวม 
 
 
 
 
 
  เวอร์ชั่นเต็ม เวอร์ชั่นเต็ม   |   ดูแผนที่ ดูแผนที่
แสดงรีวิวที่ 1 ถึง 5 จาก 26 รีวิวใน ประเทศไทย
Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : อาหารไทยทั่วไป | ร้านอาหารทั่วไป | ครอบครัว ลำลอง | โอกาสพิเศษ

เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ที่ผ่านมา ได้รับโอกาสสุดพิเศษ ไปร่วมดินเนอร์จับคู่เบียร์กับอาหาร  (ฺ Beer Paring ) ที่น่าประทับใจมากๆ ค่ะ  ถือเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในโลกของ Craft Beer และอาหารไทย ได้อย่างน่าจดจำ

Dinner ครั้งนี้จัดโดยผู้นำเข้าคราฟท์เบียร์  "Beervana"  และร้านอาหารไทยที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกอย่าง "โบลาน" (Bo.lan)

รีวิวนี้ขอโฟกัสไปที่เรื่องอาหารนะคะ เนื่องจากส่วนตัวยังไม่เชี่ยวชาญเรื่อง craft beer และไม่อยากเขียนเชียร์เครื่องดื่มมึนเมาให้ชาว Openrice ที่เป็นเยาวชนค่ะ  mad

 
ร้านโบลาน มีความเป็นมาที่น่าสนใจไม่น้อยค่ะ  ร้านก่อตั้งขึ้นในปี 2552 โดยคุณโบ ดวงพร และคุณดิลลัน โจนส์  คุณโบจบการศึกษาด้านโภชนศาสตร์จากออสเตรเลีย และมีประสบการณ์ทำงานในร้านอาหารไทยมาก่อน ได้รับยกย่องให้เป็นเชฟหญิงที่ดีที่สุดในเอเชียเมือปี 2556

ส่วนคุณดิลลันเริ่มต้นอาชีพเชฟในประเทศออสเตรเลีย บ้านเกิด  และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้านอาหารจากลอนดอน จนหลงรักอาหารไทย และเริ่มก่อตั้งร้านอาหารไทย โบลาน ร่วมกันคุณโบ ในที่สุด

ปรัชญาของโบลาน คือใช้วัตถุดิบที่มีในประเทศไทย อาหารจะปรับเปลี่ยนวัตถุดิบตามฤดูกาล โดยจะเลือกใช้วัตถุดิบที่ดีที่สุดเท่านั้น เพื่อคงไว้ซึ่งการปรุงและรสชาติแบบไทยไทย และรักษาวัฒนธรรมทางอาหารไทยเอาไว้สืบไป

ปัจจุบันร้านตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 53 เข้าซอยไปประมาณ 100 ม. ร้านอยู่ขวามือ ( ย้ายจากสุขุมวิท 26 เดิม )

 
บรรยากาศ แสงไฟ และเฟอร์นิเจอร์แบบไทยๆ  กลมกลืนไปกับเซทติ้งบนโต๊ะอาหาร ที่ถูกจัดเตรียมไว้สำหรับ private dinner ในค่ำคืนนี้ได้อย่างงดงามและลงตัวมากค่ะ

 

 
รายการอาหารสำหรับค่ำคืนนี้ค่ะ แบ่งออกเป็น 6 คอร์สด้วยกัน  โดยแต่ละคอร์สจะจับคู่กับเบียร์ 1 ชนิด จาก Stone Brewing Co. (เป็น craft beer ที่สุดยอดมากจากอเมริกา แต่ละตัวจะมีกลิ่นหอมเฉพาะที่แตกต่างกันไป )

คอร์สแรกจะเป็นเบียร์ Stone Delicious IPA  ดื่มเรียกน้ำย่อยค่ะ เป็น  free flow เติมได้ไม่อั้น

 
เริ่มคอร์สที่สองกันด้วยอาหารเรียกน้ำย่อยพอดีคำ  "Bolan Amuse Bouche"   หน้าตาอาจจะฟิวชั่น แต่รสชาติไม่ฟิวชั่นค่ะ จัดว่าเป็นรสชาติไทยแท้ๆ   คำแรกเป็นพล่าปลาหมึก รสชาติจัดจ้านแบบไทยแท้ เผ็ดเปรี้ยวโดดเด่นมาก ไม่ต้องเอาใจฝรั่งกันเลยทีเดียว  

ซึ่งตรงจุดนี้ขอชื่นชมที่สามารถสร้างความประทับใจตั้งแต่คำแรก  เพราะแขกส่วนใหญ่ของร้านและแขกในงานวันนั้นเป็นฝรั่งเกือบทั้งหมด  แต่ทางร้านไม่ได้ตัดทอนรสชาติอาหารไทยให้ผิดเพี้ยนเพื่อชาวต่างชาติ อย่างที่ร้านอาหารไทยที่มีลูกค้าเป้าหมายเป็นต่างชาติทำ

คำที่สองเป็น น้ำพริกปลาย่าง คำนี้ไม่ค่อยโดดเด่นค่ะ  รสชาติธรรมดาไม่มีอะไรให้น่าจดจำ
คำที่สามเป็น เนื้อแกะคลุกเม็ดผักชีและยี่หร่าทอด ราดน้ำยำถั่วตัด  เนื้อแกะมีกลิ่นนิดหน่อย 

 

 
คอร์สที่สาม เป็นขนมจีนน้ำเงี๊ยวแบบเหนือ+ของแนม   จานนี้ให้อารมณ์แบบทานเป็นซุป ในมื้ออาหารฝรั่งค่ะ วัตถุดิบสด ขนมจีนทานง่ายไม่มีกลิ่น  ตัวน้ำเงี๊ยวรสกลมกล่อมไม่จัดจ้าน พอทานพร้อมเครื่องเคียงทุกอย่างจะได้รสชาติที่ลงตัว 

 
คอร์สที่ 4 เป็นกับข้าว 5 อย่าง เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยออร์แกนิค มีให้เลือกทั้งข้าวขาวและข้าวกล้องค่ะ
จานแรกเป็นยำมะเขือยาวย่างใส่กุ้งใหญ่ และไข่ออร์แกนิคยางมะตูม  โดยรวมรสชาติดี กลมกล่อม ทานคู่กับไข่ยางมะตูมและกุ้งแห้งป่นแล้วอร่อยมาก  มีตินิดเดียวตรงที่มะเขือย่างน่าจะมีกลิ่นหอมของผิวที่ถูกไฟย่างจนไหม้นิดๆ ได้เด่นชัดกว่านี้ และกุ้งใหญ่นั้นค่อนข้างแข็งและแห้งไปนิดนึงค่ะ

 
กับข้าวจานที่สองเป็น แสร้งว่าปลา แนมด้วยตับไก่ย่าง ปลาฟู และผักพื้นบ้านเกษตรอินทรีย์
ตัวแสร้งว่าออกเปรี้ยวโดดไปเล็กน้อย ส่วนปลาฟูเหนียวและชืดเกินไป ตับไก่สุกกำลังดี ส่วนผักพื้นบ้าน present ได้สวยงามน่าทาน และน่าชื่นชมในความพยายาม

 
จานที่ 3  "งบปลา"  จานนี้ทำได้ดีมากๆ ค่ะ มอบดาวให้ล้านดวง  (งบปลาจะคล้ายๆ กับห่อหมก) รสชาติเข้มข้น จัดจ้าน แต่ลงตัว รสสัมผัสของปลาและกะทิแสนนุ่มนวล ทานแล้วได้กลิ่นของเครื่องเทศหลักอย่างกระชาย ผสานกับกลิ่นหอมอ่อนๆ ของใบตองที่่ใช้ห่อ  ยิ่งทานกับข้าวกล้องร้อนๆ เข้ากันอย่างที่สุด

 
กับข้าวจานต่อมาเป็น "หมูผัดน้ำพริกกุ้งแห้ง"  หมูชิ้นโตผัดกับน้ำพริกกุ้งแห้งและหอมเจียว  ผัดมาได้ดีทีเดียวค่ะ แห้งกำลังดี แต่เนื้อหมูยังคงความชุ่มฉ่ำอยู่ เครื่องเคราอย่างหอมเจียวและกุ้งแห้งใส่มาแบบไม่ยั้ง รสชาติก็แสนจะกลมกล่อม อร่อยมากๆ ค่ะจานนี้ 

ปิดท้ายกับข้าวสำรับนี้ด้วย  "แกงจืดฟักไก่มะนาวดอง" อาจจะดูธรรมดาไปนิด แต่ก็ช่วยทอนความเผ็ดร้อนของกับข้าวจานอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี  ฟักนิ่มได้ที่ น้ำแกงรสละมุน หอมมะนาวดองชัดเจน  ถือว่าไม่มีอะไรให้ติค่ะ

 
คอร์สที่  5 เป็นของหวานล้างปาก "Palate Cleanser"  วันนี้ทางโบลาน เสิร์ฟเป็น "ทับทิมกรอบ" ค่ะ
presentation ทำได้ดี เสิร์ฟมาในแก้วทรงสูง  แต่ส่วนตัวเราค่อนข้างผิดหวังในรสชาติโดยรวม  น้ำเชื่อมหวานมากๆ ส่วนน้ำกะทิที่พนักงานเสิร์ฟราดลงด้านบนเมื่อยกมาเสิร์ฟ น่าจะเค็มมันมากกว่านี้  เมื่อคนน้ำเชื่อมและน้ำกะทิรวมกันแล้ว รสชาติยังไม่ลงตัวค่ะ  

 
คอร์สสุดท้าย"Petiti fours"  หรือ ขนมหวานไทยอย่างแห้ง 4 ชนิดค่ะ  ได้แก่ทอฟฟี่ถั่วกะทิ ข้าวเกรียบว่าว 
วุ้นกรอบ และกระยาสารท   โดยรวมเป็นขนมที่เฉยๆ สำหรับคนไทยอย่างเรามาก  แต่จัดวางมาได้สวยงาม น่าสนใจ น่าจะเป็นที่ถูกใจของผู้ร่วมงานที่เป็นต่างชาติไม่น้อยค่ะ

เป็นอันปิดมื้ออาหารที่น่าตื่นเต้นนี้ไปอย่างประทับใจ  craft beer กับอาหารไทยชั้นเลิศ ส่งเสริมกันได้อย่างลงตัวจริงๆ ค่ะ  ราคาสำหรับอาหาร 6  คอร์ส และเบียร์ 6 ชนิด อยู่ที่ 3400 บาท/คน    อาจจะรู้สึกว่าราคาสูงอยู่ซักหน่อย แต่เมื่อเทียบกับการได้ลิ้มลองเครื่องดื่มคุณภาพเยี่ยม และอาหารไทยระดับเชฟยอดเยี่ยมของเอเชีย อย่าง โบลาน บวกกับการบริการระดับ 5 ดาว  ก็ถือเป็นสิ่งที่คุ้มค่าไม่น้อย

Supplementary Information:
Bo.lan

www.bolan.co.th

Tel : +66(2) 260 2961

ร้านหยุดทุกวันจันทร์

อาหารกลางวัน มีเฉพาะ เสาร์ อาทิตย์ 12.00-14.30 น.

อาหารเย็น อังคาร-อาทิตย์ 18.00 น. เป็นต้นไป (ครัวปิด 22.00 น.)

Beervana

http://www.seekbeervana.com/
 
เมนูแนะนำ:  งบปลา,หมูผัดน้ำพริกกุ้งแห้ง
 
Table Wait Time: 0 minute(s)


วันที่ไปกิน: Oct 02, 2015 

ราคาเฉลี่ยต่อคน: โดยประมาณ฿3400(มื้อเย็น)

คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 4  |  
Environment
 5  |  
Service
 5  |  
Clean
 5  |  
Price
 3

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
      View Results
แนะนำ

Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : อาหารจีน | ร้านในคอมมูนิตี้มอลล์ | ลำลอง


วันนี้เรามากันที่คอมมูนิตี้มอลล์สุดฮิต บนถนนกาญจนาภิเษก นั่นก็คือ Paseo Park กาญจนาภิเษกนั่นเองค่ะ

 
ที่นี่มีร้านอาหารมากมายให้เลือกชิม ตกแต่งบรรยากาศแบบหมู่บ้านญี่ปุ่นโบราณ มีโคมยักษ์สีแดงเป็นแลนด์มาร์ค ใครมาที่นี่ก็ต้องมาถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกกัน ไม่อย่างนั้นถือว่ายังมาไม่ถึง

เราเลือกมาทานที่ร้าน Hongmin (ฮองมิน) กัน วันนี้ร้านอาหารทุกร้านต้องรอคิวนานมากเพราะเป็นวันแม่แห่งชาติ ไปถึงร้านตั้งแต่ 11 โมงเช้า แต่กว่าจะได้โต๊ะก็เที่ยงพอดี รออยู่ประมาณ 1 ชั่วโมงได้ คิวยาวมากๆ ค่ะ

ร้านฮองมิน จัดว่าเป็นร้านอาหารจีนสมัยใหม่ ในบรรยากาศที่เรียบง่ายเป็นกันเอง ไม่มีพิธีรีตอง แต่ยังคงไว้ซึ่งความพิถีพิถัน และมาตรฐานความอร่อยแบบต้นตำรับร้านฮั่วเซ่งฮงที่เยาวราช ที่เปิดมานานกว่า 40 ปี

โลโก้ของร้านเป็นรูปเรือสำเภาจีน สื่อถึงการลำเลียงความอร่อย ความอุดมสมบูรณ์ และความมั่งคั่ง ซึ่งนอกจากเมนูอาหารจีนทั่วไปแล้ว ทางร้านยังมีติ่มซำรสชาติดี ให้บริการในราคาไม่แพงอีกด้วย

เราสั่งติ่มซำไปหลายรายการ แต่สมาชิกรอโต๊ะนานจนหิวมาก ถ่ายแทบไม่ทันเลยซักจาน

 
เข่งนี้เป็นกระดูกหมูนึ่งเต้าซี่ค่ะ รสชาติอ่อนๆ แต่กลมกล่อม ซี่โครงหมูนุ่มกำลังดี

 
"ไก่แช่เหล้า แมงกะพรุนน้ำมันงา" จานนี้ต้องสั่งทุกครั้งเวลาไปทานร้านอาหารจีน ไก่แช่เหล้าพอใช้ได้ หอมเหล้าน้อยไปหน่อย แมงกะพรุนกรุบกรอบ รสชาติมาตรฐานร้านอาหารจีน

 
"ปวยเล้งผัดกระเทียม" ผักสดใช้ได้ ผัดมาได้กำลังดี นุ่มนวลทั้งผักและรสชาติ

 
ปูทะเลผัดผงกะหรี่ ( 448 บาท) ช่วงนี้ทางร้านมีเทศกาลปูทะเล สามารถเลือกปรุงได้หลายเมนู รวมค่าปรุงแล้วราคาจานละ 448 บาท/ 1 ตัว ผัดผงกะหรี่ ผัดได้ดีมากค่ะ รสกลมกล่อม แต่ปูตัวไม่ใหญ่ เนื้อเลยมีน้อยไปหน่อย

 

 
"โจ๊กปลาฮ่องกง" ที่นี่มีชื่อเรื่องโจ๊กฮ่องกง (แต่ราคาประหยัดกว่าที่ฮ่องกงเยอะเลย) โจ๊ะข้นๆ ละมุนลิ้น เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงอย่าง ขิง ต้นหอม และเห็ดหอม ที่จัดวางมาอย่างเรียบร้อย ปริมาณจัดว่าเยอะสำหรับ 1 ที่ ถือเป็นจานโปรดของเด็กๆ ค่ะ

 
"เป็ดปักกิ่ง" (800 บาท) เป็ดปักกิ่งของที่นี่เราว่ามาตรฐานใช้ได้ แล่มาได้บางเฉียบ แม้ว่าวันนี้อาจจะแล่ออกมาสวยน้อยไปนิดนึงเพราะลูกค้าเยอะมาก ในครัวก็คงจะเร่งรีบมากกว่าปกติ แต่ถือว่าได้มาตรฐานค่ะ ผักเคียงและซอสหวานก็ไม่มีอะไรให้ติ โดยรวมไม่เคยผิดหวังกับเป็ดปักกิ่งของที่นี่ (ยิ่งเวลามีโปรโมชั่นครึ่งราคายิ่งน่าสั่งมาทานมากๆ )

 
ปลากะพงนึ่งซีอิ๊ว นึ่งได้ดีมาก ปลาสดเนื้อไม่เละ น้ำซีอิ๊วเค็มกำลังดี สำหรับเราถ้าร้านอาหารจีนร้านไหนนึ่งปลาได้อร่อย แสดงว่าร้านนั้นมีฝีมือจริงค่ะ ^^

 
"เนื้อเป็ดทอดกระเทียม" เนื้อจากเป็ดปักกิ่งเราเลือกให้ทำเป็นเนื้อเป็ดทอดกระเทียม วันนี้ทอดได้ดี เคล็ดลับที่จะทานได้อร่อยขึ้นอีกคือจิ้มกับซอสพริกศรีราชา สุดแสนจะเข้ากันได้อย่างลงตัวที่สุด

 
ปิดท้ายด้วยของหวาน "สาคูแคนตาลูป" (60 บาท) หวานกำลังดี หอมแคนตาลูปมากๆ สาคูใส่มาในปริมาณกำลังดี รวมแล้วประทับใจมากค่ะ จัดว่าอร่อยกว่าของหลายๆ ร้าน

วันนี้แม้จะลูกค้าเยอะม๊ากๆๆ แต่ต้องชื่นชมการบริหารจัดการของร้านทั้งพนักงานเสิร์ฟที่ทำงานกันอย่างขยันขันแข็ง ไม่มีชักสีหน้า และระบบในครัวก็ดีมาก อาหารไม่ได้ออกช้า หรือรสชาติต่ำกว่ามาตรฐานแต่อย่างใด แอบสังเกตุเห็นเจ้าของร้าน (ใส่เสื้อโปโลวันแม่สีฟ้า) มายืนกำกับอยู่หน้าครัวด้วยค่ะ ถือว่าเราโชคดีที่มาทานสาขานี้พอดี^^

สรุปภาพรวม
รสชาติ : ดี มีมาตรฐานคงเส้นคงวา
คุณภาพวัตถุดิบ : สด ได้มาตรฐาน
ความสะอาด : ดี
บรรยากาศ : ครอบครัว อบอุ่นเป็นกันเอง
ความคุ้มค่า : ราคาปานกลาง ติ่มซำราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับรสชาติและคุณภาพ
Supplementary Information:
รสชาติอาจแตกต่างกันเล็กน้อยในแต่ละสาขา

มื้อกลางวันมีติ่มซำราคาไม่แพงให้เลือกทานมากมาย

เป็ดปักกิ่งมีโปรโมชั่นเป็นระยะๆ ควรโทรสอบถามกับทางร้าน

สาขา เดอะ พาซิโอ พาร์ค กาญจนาภิเษก อยู่ฝั่งศูนย์โตโยต้า ลานน้ำพุ โซน A

Tel : 02 111 3884
 
เมนูแนะนำ:  โจ๊กฮ่องกง,ติ่มซำ
 
Table Wait Time: 60 minute(s)


วันที่ไปกิน: Aug 12, 2015 

ราคาเฉลี่ยต่อคน: โดยประมาณ฿400

คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 4  |  
Environment
 4  |  
Service
 4  |  
Clean
 4  |  
Price
 3

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
      View Results
แนะนำ

Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : อาหารญี่ปุ่น | ปิ้งย่าง บาร์บีคิว | บุฟเฟ่ต์ | บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง | บุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่น | ปิ้งย่าง ญี่ปุ่น | ครอบครัว ลำลอง | จัดเลี้ยงเป็นกลุ่ม

Guru Gyuu เป็นร้านบุฟเฟต์ปิ้งย่างที่ชื่อไม่ค่อยคุ้นสำหรับเรา  เพราะร้านอยู่นอกเขตทำการพอสมควร คือตั้งอยู่แถวสะพานควาย ใกล้กับธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่  โดยปกติจะไม่เคยผ่านไปแถวนั้นเลยค่ะ  แต่หลังจากได้มาลองทานครั้งแรกนี้แล้ว  คงต้องได้แวะเวียนกลับไปทานอีกเรื่อยๆ อย่างแน่นอน  เพราะของเค้ามีดีคู่ควรแก่การให้ไปซ้ำจริงๆ 

ครั้งนี้ถือว่าโชคดี 2 ชั้นเลยค่ะ โชคชั้นแรกคือได้ Voucher จากการร่วมเล่นเกมส์กับ Opensnap 1 ใบ (สำหรับบุฟเฟต์ 555 บาท 1 ที่)  ตอนได้มาก็ยังคิดว่าร้านนี้จะอร่อยมั๊ย จะคุ้มกับการต้องขับรถจากสุขุมวิทไปรึเปล่าน๊อ  แต่ด้วยความชอบบุฟเฟต์ปิ้งย่างก็เลยตัดสินใจไปลองค่ะ  ส่วนโชคชั้นที่สองก็คือการได้พบรักกับร้านปิ้งย่างดีๆ อย่าง Guru Gyuu นั่นเอง  ( music น่าจะเจอกันมาตั้งนาน  ก่อนที่เธอจะเป็นของคราย.... smile )

ขับรถจากสุขุมวิทขึ้นทางด่วนไป รถไม่ติด ใช้เวลาแค่ 20 นาทีก็ถึง ร้านหาไม่ยากอยู่ริมถนนเลย  ใกล้ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่   

ถึงร้านตั้งแต่ 11.10 ค่ะ  มีโทรจองโต๊ะไว้ตอน 11.30 ซึ่งเป็นเวลาที่ร้านเปิด ข้างร้านจะจอดได้ประมาณ 5 คัน พอเราเลี้ยวเข้าไปจอดปุ๊ป  ก็มีพนักงานออกมาแจ้งว่าร้านเปิด 11.30 น. แต่สามารถเข้าไปนั่งรอในร้านก่อนได้ เข้าไปนั่งซักพักพนักงานก็เอาเมนูมาให้ดูทุกแบบทุกราคาเลยค่ะ และให้สั่งน้ำมาจิบให้ชื่นใจระหว่างที่รอ

 
ร้านตกแต่งเรียบง่าย บางส่วนเป็นปูนเปลือย กรุด้วยกระจกใสรอบด้าน มองออกไปเห็นวิวถนนใหญ่ นั่งดูรถราวิ่งไปมาเพลินๆ  ร้านไม่ใหญ่แต่ก็ไม่อึดอัดค่ะ มีทีวีให้ดูบอล และมีชั้น 2 ด้วย...

 
นั่งดูเมนูไปพลางๆ  ที่นี่ราคาบุฟเฟต์จะเริ่มตั้งแต่ 299 บาท (มีเฉพาะมื้อกลางวัน พุธ-ศุกร์)/  444 บาท/ 555 บาท/ และ 1555 บาท   ใครชอบกินอะไร มีงบในกระเป๋าเท่าไหร่ก็สามารถเลือกทานในราคาที่ถูกใจได้เลย 

เมนู 444 บาท (ไม่รวมน้ำ น้ำรีฟิล +คนละ 55 บาท) มีรายการอาหารให้เลือกสั่งเยอะอยู่ค่ะ ถ้าไม่ทานเนื้อและไม่เน้น seafood เท่าไหร่  เราว่าราคานี้ก็น่าสนใจไม่น้อย
บุฟเฟต์ 444 บาท

บุฟเฟต์ 444 บาท

 
ส่วนราคา 555 บาท สิ่งที่เพิ่มมาจะเป็นเนื้อวัวที่หลากหลายกว่า  ลิ้นหมู หมูลูกเต๋า อกเป็ด กุ้งแม่น้ำ กุ้งขาว แซลมอน หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ หอยเชลล์ หนวดปลาหมึก ยำสาหร่ายและหน่อไม้ฝรั่ง   สรุปว่าจ่ายเพิ่มอีก 111 บาท แต่ถือว่าคุ้มค่ามากๆ เลยทีเดียว  
เมนูบุฟเฟต์ 555 บาท

เมนูบุฟเฟต์ 555 บาท

 
แน่นอนว่าเราเลือกทานราคา 555 บาท เพราะมี voucher 1 ใบ (รวมน้ำรีฟิล = คนละ 610 บาท )  เราไปกัน 2 คน สรุปว่าจ่ายเพิ่มไป 665 บาท

นั่งดูเมนูอยู่พักนึงก็ได้เวลาร้านเปิดค่ะ พนักงานให้สั่งอาหาร และถามว่าจะรับน้ำจิ้มอะไรบ้าง ที่นี่มีน้ำจิ้ม 4 แบบคือน้ำจิ้มสูตรเด็ดของทางร้าน (เค็มๆ หวานนิดๆ) น้ำจิ้มซีฟู๊ด น้ำจิ้มมิโสะ และพริกโคชูจัง  เราขอมาทุกแบบ  น้ำจิ้มซีฟู๊ดพอใช้ได้  น้ำจิ้มสูตรของร้านรสอ่อนไปนิดนึงต้องเติมโคชูจัง และใส่พริกกระเทียมเยอะๆ  น้ำจิ้มมิโสะหวานไปหน่อย ส่วนโคชูจังก็มาตรฐานค่ะ

 
แป๊ปเดียวของที่สั่งไปก็ทยอยมา ทุกอย่างจัดใส่จานกระเบื้องสี่เหลี่ยมใบย่อมๆ จัดเรียงมาแบบพิถีพิถัน ไม่กินเนื้อที่บนโต๊ะ หน้าตาดูดีทุกจาน  และที่ชอบมากๆ คือเตาของที่นี่เป็นเตาที่เวิร์คมากๆ  คือเป็นเตาถ่าน แต่ครอบด้วยถาดย่างที่เคลือบเทฟลอน มีรูระบายน้ำมันและอากาศรอบๆ  ทำให้ได้ทั้งกลิ่นหอมของเตาถ่าน แต่อาหารไม่ดำเกรียมเหมือนกับการย่างบนตะแกรงที่เป็นซี่ๆ ทั้งอัน  (ซึ่งจะทำให้อาหารไหม้และตะแกรงก็ไหม้เกรียม ทานแล้วไม่ดีต่อสูขภาพ)

 
สั่งไปเยอะมาก และรูปก็เยอะมากจนลงได้ไม่ไม่หมด 
จานนี้เป็นลิ้นหมู สดไม่มีกลิ่นคาว แนะนำไม่ควรย่างนานเพราะเนื้อจะกระด้างค่ะ

 
อกเป็ดกูรู  ชิ้นใหญ่กำลังดี  ย่างแล้วหอมฟินมากๆ เนื้อไม่เหนียว เสียดายที่ไม่ได้สั่งซ้ำ เพราะของอร่อยๆ เค้าเยอะ เลยลืมซ้ำอกเป็ดไปเลย  

 
กองทัพกุ้ง แซลมอน หนวดปลาหมึก หมึกกระดอง หมึกไข่ หอยเชลล์ ค่ะ  เราไม่ทานเนื้อวัว  แต่แค่ซีฟู๊ดที่นี่ก็คุ้มเกินคุ้มแล้ว  ^^    มีติแค่ปลาหมึกไข่มีรสเค็มมาก นอกนั้นผ่านหมด 

 
เหล่าเบญจเทพ  "หอยเชลล์ แซลมอน หมึกกระดอง หนวดปลาหมึก กุ้ง"  ทุกอย่างสด น่าประทับใจมากๆ  หอยเชลล์ตัวโตเนื้อหนา ทานแล้วได้รสและกลิ่นแห่งท้องทะเลมาเต็มมากๆ  แซลมอนเป็นส่วนเสต๊ก ชิ้นหนา ย่างแล้วไม่เละ  หมึกกระดองและหนวดปลาหมึกสดกรุบกรอบถูกใจ  กุ้งขาวก็สดดี แกะเปลือกผ่าหลังมาเรียบร้อย   ไซส์ใหญ่โอเคมากๆ สำหรับราคานี้

 
เหล่ากุ้งแม่น้ำ ถูกส่งลงไปผิงไฟตอนท้ายๆ ค่ะ เพราะอยากให้มือเลอะทีเดียว ทานอิ่มแล้วจะได้เดินไปล้างรอบเดียว
วันนี้กุ้งสดใช้ได้เลย เนื้อกรอบไม่ยุ่ย ไม่เละ ย่างร้อนๆ กินมันกุ้งก่อนแล้วกินเนื้อหวานๆ เพิ่มความประทับใจให้กับมื้อนี้มากขึ้นไปอีกหลายคะแนน

 
ตลอดเวลาที่ทานมีลูกค้าเข้ามาเรื่อยๆ พอเที่ยงกว่าๆ โต๊ะก็เกือบเต็มค่ะ ส่วนมากจะเป็นพนักงานธนาคารออมสิน และคนทำงานละแวกนั้น  แต่ถึงแม้คนจะเริ่มเยอะ  พนักงานทุกคนก็ยังบริการดีค่ะ ที่นี่มีพนักงานเยอะพอสมควร ส่วนมากเป็นต่างชาติ (ประเทศเพื่อนบ้าน ^^)  สื่อสารภาษาไทยพอรู้เรื่อง และทุกคนสุภาพ มีใจบริการค่ะ  ขอชื่นชมเจ้าของร้านด้วยค่ะที่เทรนพนักงานได้เป็นอย่างดี

อิ่มแล้วก็ทานของหวานและผลไม้ปิดท้าย  ของหวานในบุฟเฟต์เป็น มินิพุดดิ้งผสมวุ้นมะพร้าว (แบบที่มีขายเป็นห่อ ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป )  ที่นึงมี 3 ถ้วยเล็กๆ  ยี่ห้อนี้อร่อยดีค่ะ ส่วนผลไม้เป็นผลไม้รวม คือ แตงโม สัปปะรด และฝรั่ง

 
สรุปว่าประทับใจกับร้าน Guru Gyuu ม๊าก ขนาดที่ว่า...คนที่ไปด้วย ทานไปได้แค่ครึ่งทางก็เริ่มถามเราว่า จะมาทานครั้งต่อไปเมื่อไหร่ดี mad และต้องขอบคุณทาง Openrice/Opensnap ด้วยค่ะที่มีกิจกรรมดีๆ มาให้พวกเราได้ร่วมสนุกกันอยู่เสมอ

ขอมอบสโลแกนจากใจให้ค่ะ  ....  "แจกจริง แจกบ่อย แจกแต่ร้านอร่อย ต้อง Openrice เท่านั้น"  smile

สรุปภาพรวม
ความคุ้มค่า :  คุ้มราคาเมื่อเทียบกับความหลากหลายและความสดของอาหาร และการบริการที่ดี
วัตถุดิบ : สด คุณภาพดี
การบริการ :  ดี พนักงานกระตือรือล้น เป็นกันเอง
บรรยากาศ : ระบบดูดควันดีมาก กลิ่นไม่ติดผมและเสื้อผ้า  ถือว่าเป็นจุดดีมากๆ สำหรับร้านปิ้งย่าง
รสชาติ : น้ำจิ้มหลักรสชาติอ่อนและใสไปเล็กน้อย  
ความสะอาด : ดี  ห้องน้ำสะอาดพอใช้  
Supplementary Information:
https://www.facebook.com/GuruGyuu

บุฟเฟ่ท์ 299.-(มีเฉพาะ พุธ-ศุกร์ มาก่อนบ่าย3โมง)

• บุฟเฟ่ท์ 444.- กว่า 33เมนู

• บุฟเฟ่ท์ 555.- กว่า 52เมนู

• บุฟเฟ่ท์ 1,555.- กว่า 70 ( มีเฉพาะที่สาขา2 สะพานควาย เท่านั้น

..............................

• ทานได้ไม่อั้น ตลอด 2ชั่วโมง

• ราคาบุฟเฟ่ท์ 299.-/444.-/555.-

(ยังไม่รวมเครื่องดื่ม)

• เครื่องดื่ม Refill +55บาท/ท่าน

มีเครื่องดื่มให้ทั้งหมด10ชนิด

เติมได้/เปลี่ยนได้ ตลอด 2ชม.

ไม่มีบวกเพิ่ม VAT / Service

รับชำระด้วยเงินสดและบัตรเครดิต (ตั้งแต่1,000บาทขึ้นไป)

..............................

• ร้านเปิดให้บริการทุกวัน

• จันทร์-อังคาร 16.30-23.00น.

• พุธ-อาทิตย์ 11.30-23.00น.

• รับลูกค้ารอบสุดท้ายไม่เกิน 21.30น.

• ครัวจะปิดเวลา 22.00น.

• ทานได้ไม่เกินเวลา 23.00น(ร้านปิด)

..............................

• ร้าน "กูรูกิว" มี 2สาขา

• สาขา1. - (พหลโยธิน5) tel :02-6166195

อยู่กึ่งกลางระหว่าง Bts อารีย์-สนามเป้า เดินประมาณ 200เมตร ขับรถมามีที่จอดรถด้านหลังร้าน ค่าจอด 30บ/ชม.

• สาขา2. - ( ธ.ออมสิน สะพานควาย)

tel :02-2799086 อยู่ระหว่าง Bts อารีย์ - สะพานควาย แนะนำลงสถานีสะพานควาย เดินประมาณ 400เมตร ขับรถมามีที่จอดข้างร้าน5คัน และช่วงหลัง 6โมงเย็นจอดริมถนนหน้าร้านได้
 
เมนูแนะนำ:  หอยเชลล์,กุ้งขาว,หมูติดมัน
 
Table Wait Time: 0 minute(s)


วันที่ไปกิน: Sep 25, 2015 

ราคาเฉลี่ยต่อคน: โดยประมาณ฿600

คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 4  |  
Environment
 3  |  
Service
 5  |  
Clean
 4  |  
Price
 4

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
      View Results
แนะนำ

Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : อาหารไทยทั่วไป | ร้านอาหารทั่วไป | ลำลอง | ครอบครัว ลำลอง | จัดเลี้ยงเป็นกลุ่ม

เวลาไปเที่ยวทะเล แน่นอนว่าทุกคนต้องนึกถึงอาหารทะเลสดๆ  และร้านริมทะเลบรรยากาศดี  แต่จะให้ทานอาหารทะเลทุกมื้อก็คงเบื่อซะก่อน  ดังนั้นทุกครั้งที่เราไปเที่ยวชะอำ-หัวหิน  ส่วนมากจะหาอาหารประเภทอื่นทานเป็นมื้อกลางวัน  ร้านส้มตำไก่ย่างแซ่บๆ เป็นร้านลำดับแรกๆ ที่เรานึกถึงทุกครั้ง  

พอนึกถึงร้านส้มตำในชะอำ  เชื่อว่าหลายคนคงรู้จักร้านแซ่บอีหลีเป็นอย่างดี เพราะทุกครั้งที่ไป คนจะแน่นแทบทุกครั้ง  ส่วนใหญ่ก็เป็นนักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯ นี่เอง   แสดงว่าอาหารอิสานนี่เป็นที่นิยมของคนส่วนใหญ่จริงๆ ค่ะ เพราะขนาดมาทะเล ก็ยังมาต้องมาหาอาหารอิสานทาน ^^

จริงๆ มีร้านส้มตำที่อร่อยกว่าร้านนี้หลายร้าน แต่อยู่เลยออกไปแถวหัวหิน  ถ้าใครพักโรงแรมแถวหาดชะอำ การมาทานที่แซ่บอีหลีก็สะดวกและใกล้กว่าเยอะ

วันนี้เราเลือกมาทานที่นี่เพราะพักโรงแรมใกล้ๆ ร้านค่ะ  ไม่อยากเข้าเมืองหัวหินอีก เพราะเดี๋ยวมื้อเย็นก็ต้องเข้าไปอยู่ดี  

ไปถึงประมาณเที่ยงพอดี  แต่โชคดีที่วันนี้คนไม่เยอะมากนัก  ยังพอมีโต๊ะว่างไม่ต้องรอคิว...

 
เมนูมาเป็นเล่มบางๆ ...

 
มีหลายหน้าเหมือนกัน...

 

 
มีผักให้ 1 กระจาด  สดใช้ได้ มีน้ำแข็งใส่มาด้วย 

 
จานแรกที่ยกมาเป็นหมูแดดเดียว (70 บาท)
ทอดมาร้อนๆ กรอบนอก เหนียวนิดๆ ออกแรงเคี้ยวเพลินๆ เผลอแป๊ปเดียวหมดจานไม่รู้ตัว

 
น้ำตกหมู (70 บาท)  ปรุงมารสชาติเข้มข้นดี  ติดที่เนื้อหมูแข็งและบางส่วนก็ไหม้เกรียมจนดำ  

 
ส้มตำไทย  มะละกอสดดี โดยรวมจัดว่าโอเค ไม่ได้อร่อยเวอร์ แต่ก็ทานได้เพลินๆ 

 
ปากเป็ดทอด (90 บาท)  หน้าตาน่าทาน  ทอดมากรอบและเกรียมกำลังดี 

 
ไก่ย่าง  ไก่ย่างที่นี่ยังไม่ถูกใจเราค่ะ  หมักไม่ค่อยเข้าเนื้อและไม่มีกลิ่นหอมอย่างที่ควรเป็น เนื้อเยอะแต่ไม่มีรสชาติ

 
หมึกแดดเดียว   เป็นธรรมดาที่หมึกแดดเดียวจะค่อนข้างเหนียว แต่จานนี้เหนียวมากเกิ๊น  ไม่แนะนำให้คนฟันไม่แข็งแรงสั่งค่ะ ^^

 
จานสุดท้ายเป็นยำปลาดุกฟู   ตัวปลาดุกฟูกรอบใช้ได้ แต่น้ำยำไม่ค่อยโอเค รสไม่กลมกล่อมเท่าที่ควร

 
อย่างที่บอกไปว่ายังมีร้านส้มตำที่อร่อยๆ อีกหลายร้าน แต่อยู่ละแวกตัวเมืองหัวหิน ดังนั้นถ้าใครพักแถวชะอำและไม่อยากเสียเวลาขับรถไปหัวหินก็แนะนำร้านนี้ค่ะ  โดยรวมทั้งรสชาติอาหาร ความสะอาด และการบริการ ก็ถือว่าพอใช้ได้  ทานแล้วยังมีเวลากลับไปนอนเอกเขนกที่โรงแรม ก่อนที่จะออกไปว่ายน้ำ ทำกิจกรรมต่อในช่วงเย็น smile

สรุปภาพรวม
รสชาติอาหาร :  พอใช้
ความคุ้มค่า : ไม่แพง ราคามาตรฐานร้านส้มตำทั่วไป
การบริการ : ไม่มีอะไรให้ชมหรือติ
บรรยากาศ : กว้างขวาง  มีที่นั่งเยอะ ไม่มีแอร์ 

Supplementary Information:
เสาร์อาทิตย์คนจะแน่นมากช่วงเที่ยง ควรไปก่อนเวลาจะได้ไม่ต้องรอโต๊ะนาน

เวลาเปิด-ปิด : 11.00-21.00 น.

โทร : 081 435 7821
 
เมนูแนะนำ:  ส้มตำ
 
Table Wait Time: 0 minute(s)


วันที่ไปกิน: Aug 16, 2015 

ราคาเฉลี่ยต่อคน: โดยประมาณ฿200

คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 3  |  
Environment
 3  |  
Service
 3  |  
Clean
 3  |  
Price
 3

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
      View Results
แนะนำ
0

Share on TwitterShare on Facebook
ประเภท : ร้านอาหารฝรั่ง | ร้านกาแฟ / ร้านชา | ขนมหวาน ไอศครีม | ลำลอง | ครอบครัว ลำลอง

Dean & Deluca เป็น Gourmet Market จาก New York ที่มาเปิดในเมืองไทยได้หลายปีแล้ว โดยมีสาขาที่ตึกมหานคร คิวบ์ เป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  มีพื้นที่มากถึง 900 ตารางเมตร  ภายใต้คอนเซ็ปท์  "International Gourmet Market"  

ส่วนตัวชอบร้านสไตล์นี้มากเป็นพิเศษ  เพราะนอกจากมีอาหารและขนมอร่อยๆ ให้เลือกทานแล้ว  คนชอบทำอาหารยังสามารถเลือกซื้อวัตถุดิบชั้นดีจากหลายแหล่งทั่วโลก เช่น พาสต้าโฮมเมด พีนัทบัตเตอร์  น้ำมันมะกอก ชีส และไอเท็มใหม่ๆ  ที่ไม่มีวางขายทั่วไปตามซุปเปอร์มาร์เก็ต

จัดได้ว่าเป็นสวรรค์ของนักกินและคนรักการทำอาหารอย่างแท้จริง

สาขา The Emquatier นี้เป็นสาขาล่าสุด  ดีใจมากค่ะที่มาเปิดที่นี่  เพราะเป็นสาขาที่ใกล้เราที่สุด ขับรถ 5 นาทีถึง (แต่วนหาที่จอดอีก 30 นาที  mad  )

ลูกค้าสามารถนั่งทานในร้านที่ตกแต่งสไตล์ Minimalist ด้วยโทนสีขาวเป็นหลัก ตามสไตล์ร้านดั้งเดิมที่ New York หรือหากใครมีเวลาจำกัดจะสั่งอาหารและกาแฟแบบ Take Away ก็ได้  และยังมีผลิตภัณฑ์อาหารชั้นดีจากทั่วทุกมุมโลกให้เลือกซื้อได้อย่างจุใจเหมือนสาขาอื่นๆ  

เมนูอาหารที่นี่ก็หลากหลายมากๆ ค่ะ ตั้งแต่อาหารเช้าหลากสไตล์  แซนด์วิช พิซซ่า อาหารจานหลักอื่นๆ โดยจะมีการปรับเปลี่ยนเมนูใหม่อยู่เสมอ   ส่วนเครื่องดื่มก็มีให้เลือกเยอะม๊าก  ตาลายเลือกไม่ถูกเลยทั้งไวน์ เบียร์ ไซเดอร์ แชมเปญ  โซดา กาแฟร้อน เย็น สมูธตี้ มิลค์เชค...  

วันนี้มีโอกาสแวะมาทำธุระที่ The Emquatier ค่ะ  เดินผ่านร้าน Dean & Deluca พอดี  ด้วยเวลาที่มีจำกัดเลยซื้อเค้กกลับมาทานกับน้ำชาตอนบ่าย และซื้อขนมจุกจิกไปฝากเด็กๆ

กล่องนี้สีสันสดใสน่าทานม๊าก เด็กๆ ต้องชอบแน่ๆ  เลยหยิบมาแบบไม่ลังเล  เป็นขนมเจลลี่ "Sanded Fruit Salad" (141 กรัม)  กล่องเป็นกล่องเหล็ก ดูดีมีสกุลทีเดียว  พลิกดูราคา  "225 บาท"   เป็นลมแป๊ป... แต่หยิบมาแล้วเอาเถอะเพื่อลูกๆ  mad

 
ข้างในบรรจุเจลลี่หลากสี  มีรสพีช มะนาว กีวี่ ส้ม รสหวานม๊าก ความอร่อยก็เหมือนเจลลี่ทั่วๆ ไป  พลิกดูส่วนผสมข้างกล่อง  มีส่วนผสมของสีผสมอาหารและกลิ่นสังเคราะห์ด้วย  ผิดหวังเล็กน้อยค่ะ เพราะราคาขนาดนี้จริงๆ น่าจะทำจากน้ำผลไม้ล้วนๆ และไม่เจือสีสังเคราะห์ใดๆ  ( มีเจลลี่แบรนด์ของนิวซีแลนด์ ทำจากน้ำผลไม้เพียวๆ ราคาถูกกว่านี้เยอะค่ะ )

 
อีกกล่องเป็น Gummy Bears  (225 บาท)  ความอร่อยและความคุ้มค่าเราว่าไม่ผ่านค่ะ ไม่สมราคา แอบคาดหวังไว้สูงกว่านี้ sad  แต่เอาเถอะ ถือว่าซื้อกล่องเหล็กสวยๆ มีโลโก้ Dean & Deluca ละกัน  ^^

 
ส่วนเค้กเป็น "Red Velvet Cake" (125 บาท)  ชิ้นนี้ไม่เคยทำให้ผิดหวัง  ส่วนตัวยกให้เป็นสุดยอดแห่ง Red Velvet Cake ในสยามประเทศ...  หน้าตาสวย รสสัมผัสเลอเลิศลงตัวมาก  ด้วยชั้นของครีมชีสที่ไม่หวานมากเกินไป สลับกับชั้นของ red velvet ที่มีความนุ่มหนึบชุ่มชื่นแต่ฟูเบา   เมื่อทานพร้อมกันแล้วมันฟินมากๆ  ยิ่งจับคู่กับชาเขียวร้อนนี่สวรรค์ชัดๆ...

 
การได้ทานเค้กชิ้นโปรดแสนอร่อย  ได้เห็นรอยยิ้มดีใจของเด็กๆ เมื่อได้ขนมกล่องใหม่ ก็ทำให้บ่ายวันธรรมดาเป็นวันที่มีชีวิตชีวาขึ้นมาไม่น้อยค่ะ ^^  
Happy Boy

Happy Boy

 
Supplementary Information:
เค้กอร่อยเกือบทุกอย่าง ราคามาตรฐานร้านประเภทเดียวกัน

อาหารอร่อยเป็นบางรายการ ราคาค่อนข้างสูง

ขนมนำเข้าราคาสูง บางอย่างไม่คุ้มราคา

ร้านตั้งอยู่ชั้น G เปิด 10.00-22.00 น.

http://www.deandeluca.co.th

Tel : 02 261 0464

BTS : พร้อมพงศ์
 
เมนูแนะนำ:  Red Velvet Cake
 
Takeaway Wait Time: 5 minute(s)


วันที่ไปกิน: Sep 02, 2015 

ราคาเฉลี่ยต่อคน: โดยประมาณ฿250

คะแนนด้านอื่นๆ:
Taste
 4  |  
Environment
 4  |  
Service
 3  |  
Clean
 4  |  
Price
 3

  • Keep it up!

  • Looking Forward

  • เห็นแล้วหิว

  • ประทับจิต

  • Envy

  • Cool Photo
      View Results
แนะนำ
0