...แป้งเท้ายายม่อม แป้งที่ใช้ทำอาหารคาวหวาน...
สำหรับผู้ที่ชอบเข้าครัวทำอาหารหรือทำขนมน่าจะเคยได้ยินชื่อของแป้งสำหรับทำอาหารชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “แป้งเท้ายายม่อม” กันมาแล้ว แป้งชนิดนี้มักนำมาทำขนมไทยหรือใส่ในอาหารหลายอย่าง หาซื้อได้ตามร้านขายวัสดุอุปกรณ์ทำขนมหรือเบเกอรี่ หลายคนอาจจะใช้ทำอาหารบ่อย แต่รู้หรือไม่ว่าชื่อแป้งเท้ายายม่อมนั้นมีที่มาอย่างไร แล้วเหตุใดถึงชื่อว่าแป้งเท้ายายม่อม เราจะนำไปหาคำตอบจนหายสงสัยกันไปเลย
Cr.Pic: th.aliexpress.com
แป้งเท้ายายม่อม (Arrowroot Starch) แท้จริงแล้วเท้ายายม่อมเป็นชื่อของพืชชนิดหนึ่ง แป้งชนิดนี้สกัดมาจากหัวมันเท้ายายม่อม ซึ่งต้นเท้ายายม่อมจัดเป็นไม้ล้มลุก มีหัวอยู่ใต้ดินที่เราใช้ทำแป้งก็คือส่วนนี้ หัวมันเท้ายายม่อมมีรูปร่างกลมหรือรี ด้านนอกสีน้ำตาล ด้านในสีขาว นอกจากนี้เท้ายายม่อมยังมีชื่อตามแต่ละท้องถิ่นอีกมากมาย เช่น บุกรอ (ตราด), สิงโตดำ (กรุงเทพฯ), นางนวล (ระยอง), ไม้เท้าฤาษี (ภาคกลาง), ว่านพญาหอกหลอก เป็นต้น
ต้นเท้ายายม่อม
Cr.Pic: http://frynn.com/เท้ายายม่อม/
หัวมันเท้ายายม่อม
Cr.Pic: www.ความรู้รอบตัว.com
แป้งเท้ายายม่อมมีลักษณะเป็นเม็ดเล็กๆ สีขาวเป็นเงา บดให้เป็นผงละเอียดก่อนนำไปผสมในอาหาร เมื่อทำไปทำอาหารจะทำให้อาหารมีความเหนียว ข้น สีใส มีความมันวาว แต่มักใช้ร่วมกับแป้งชนิดอื่นด้วย ขนมที่ทำจากแป้งเท้ายายม่อม เช่น ขนมชั้น, ขนมเปียกปูน,ช่อม่วง,ครองแครงกะทิ, ขนมดอกลำเจียก, ขนมน้ำดอกไม้, เต้าส่วน,ทับทิมกรอบ,บัวลอย เป็นต้น และยังสามารถนำมาผสมกับแป้งสาลีทำขนมฝรั่งอย่างขนมเค้ก, พุดดิ้ง และขนมปังได้ด้วย รวมทั้งใส่ในอาหารคาว เช่น ซุปเห็ด, หอยทอด, กระเพาะปลา, ราดหน้า เป็นต้น
ใส่แป้งเท้ายายม่อมทำขนมฟักทอง
Cr.Pic: www.bloggang.com/m/viewdiary.php?id=toytokyo&month=01-2008&date=17&group=3&gblog=30
แป้งเท้ายายม่อมเมื่อนำมาละลายน้ำ ใส่น้ำตาล ตั้งไฟแล้วกวนจนสุก นำมาให้คนไข้รับประทานหลังฟื้นไข้ ช่วยให้ฟื้นฟูร่างกายจากความอ่อนเพลียหรืออาการเบื่ออาหารได้ ทั้งยังเพิ่มกำลังวังชา นอกจากนี้หากนำแป้งเท้ายายม่อมมาประกอบอาหารรับประทานจะช่วยให้เจริญอาหาร บำรุงร่างกาย แก้ร้อนใน มีนักโภชนาการกล่าวว่าแป้งเท้ายายม่อมมีคุณสมบัติเหมาะสมกับทางเดินอาหารของมนุษย์มากที่สุด ช่วยสมานแผลในกระเพาะอาหารได้
อ้างอิง : http://frynn.com/เท้ายายม่อม/ l http://guru.sanook.com/23403/
>>>คลิกหาร้านอาหารไทยอร่อยไม่มโน
