2
0
1
เบอร์โทร.
092-806-7744
081-900-8282
080-661-7555
ข้อมูลร้านอาหาร
VinCotto เป็นร้านอาหารที่อยู่ภายในไร่องุ่นกรานมอนเต้ โดยให้บริการอาหารยุโรปและอาหารไทย มีที่นั่งทั้ง indoor และ outdoor ราคาต่อจานอยู่ที่ประมาณ 250-600 บาท อ่านต่อ
เหมาะสำหรับ
ครอบครัว ลำลอง
จัดเลี้ยงเป็นกลุ่ม
โอกาสพิเศษ
เวลาเปิด-ปิด
วันนี้
11:00 - 20:00
จันทร์ - อาทิตย์
11:00 - 20:00
วิธีจ่ายเงิน
วีซ่า มาสเตอร์ เงินสด
จำนวนที่นั่ง
100
ข้อมูลอื่นๆ
ที่จอดรถ
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
สำรองโต๊ะ
เว็บไซต์ร้านอาหาร
http://www.granmonte.com/
ข้อมูลข้างต้นใช้เพื่ออ้างอิงเท่านั้น กรุณาตรวจสอบข้อมูลกับร้านอาหารอีกครั้ง
เมนูแนะนำ
Rib Eye Steak Spaghetti Carbonara ซี่โครงแกะมันบด ฟูซิลี อกเป็ด มะเขือเทศแห้ง พริกแห้ง สลัดอกเป็ดรมควัน
รีวิว (3)
สำหรับวันนี้ก็ยังเป็นการแนะนำร้านอาหารในทริปเขาใหญ่อยู่เช่นเดิมครับ ในวันนี้จะพาไปทานอาหารในร้านสวยๆ ร้านอยู่ในไร่องุ่น มีกลิ่นอายของชนบทฝรั่งเศสเล็กๆ ครับVin Cotto, ไร่องุ่นกรานมอนเต้ เขาใหญ่การเดินทางมาไร่องุ่นกรานมอนเต้นั้นมาง่าย แต่ค่อนข้างจะไกลจากสถานที่ท่องเที่ยวและโรงแรมที่อยู่ในเขาใหญ่หน่อยนะครับ จากเส้นถนนมิตรภาพเลี้ยวเข้าถนนธนรัตช์ วิ่งตรงมาจนถึงแยก ผ่านศึก – กุดคล้า (เลยโรงแรมกรีนเนอรี่มานิดเดียว) เลี้ยวขวาเข้าเส้นผ่านศึก – กุดคล้า วิ่งตรงไปเรื่อยๆ ผ่าน Primo Piazza ทางขวามือ ขับตรงไปเรื่อยๆ ระยะทางจากแยก ผ่านศึก – กุดคล้าจนถึงไร่องุ่นกรานมอนเต้ประมาณ 13 กิโลเมตรครับ ตามรายทางมีป้ายบอกเป็นระยะๆครับ รับรองไม่หลงแน่ๆ ถ้าถึงไร่ พี.บี วัลเล่ย์แล้ว แสดงว่าเลยคราบ อิอิอิร้านอาหาร Vin Cotto เป็นร้านอาหารที่อยู่ในไร่องุ่นกรานมอนเต้ครับ อยู่บริเวณใกล้ๆกับอาคารหลักที่ขายไวน์เลยครับ แต่ตัวร้านอาหารจะต้องเดินไปจากที่จอดรถนิดนึงนะครับ แต่ผมว่าดีทีเดียวที่ตั้งร้านอยู่ห่างจากที่จอดรถเล็กน้อย เพราะจะได้เห็นตัวร้านเต็มๆ ตัดกับสนามหญ้าสีเขียวสดและต้นไม้ที่ปลูกอยู่หน้าร้านให้บรรยากาศแบบ Chalet ในแถบตอนใต้ของฝรั่งเศสครับตัวร้านปลูกเป็นร้านแบบ Stand alone ลักษณะเหมือน Chalet แบบฝรั่งเศสทางตอนใต้ขนาดใหญ่ มีที่นั่งทั้งภายนอกและภายใน พอเข้าไปในร้านก็จะเจอส่วนต้อนรับแขกก่อน แล้วจะมีพนักงานพาไปยังโต๊ะอาหารที่จัดไว้อย่างสวยงาม เราไปทานมื้อกลางวันในวันธรรมดาพนักงานจัดให้นั่งทานในห้องหลักของร้าน เป็นห้องโถงขนาดใหญ่จุคนได้กว่า 50 คน ที่เฉลียงด้านนอกห้องก็ยังมีโต๊ะอีกจำนวนหนึ่ง ความจริงโต๊ะที่บรรยากาศดีที่สุดน่าจะเป็นโต๊ะด้านหลังร้านที่เป็นลานยื่นออกไปในสระบัว เห็นมีคนบอกว่าสวยมากๆ แต่ว่าตอนที่เราไปกันบัวในสระตายหมดครับ เค้าก็เลยไม่ได้จัดโต๊ะเอาไว้ให้เมนูอาหารก็จะเป็นอาหารตะวันตกทั้งหมดนะครับ เริ่มตั้งแต่ Appitizer, Main Course จะมีทั้งอาหารทะเล เนื้อ แกะ และไก่ และของหวานครับก่อนที่จะเอาอาหารมาเสิร์ฟ เค้าจะเอาขนมปังกับเนยมาเสิร์ฟก่อน เป็นขนมปังที่แข็งที่สุดที่เคยกินมาครับ ท่าทางจะเป็นการเอาขนมปังที่ทำไว้แล้วไปอุ่นในไมโครเวฟนะครับ อันนี่เสียใจเป็นอย่างยิ่งครับ ที่พ่อครัวไม่ให้เกียรติลูกค้าที่มาทานอาหารเลย การอุ่นด้วยไมโครเวฟนี่มันใช้ได้บางกรณีเท่านั้นนะครับ บางกรณีก็ต้องใช้ตัวช่วยเล็กน้อย เช่นใช้ภาชนะนึ่งของในไมโครเวฟอุ่นซาลาเปาเพื่อจะได้นุ่ม และร้อนในเวลาเดียวกัน การอุ่นขนมปังนี่จะใช้ไมโครเวฟไม่ได้เลยครับ เพราะจะทำให้ขนมปังแข็งมากกกกก (เหมือนเวลาที่อุ่นปลาท่องโก๋ในไมโครเวฟ) การอุ่นขนมปังจะต้องเอาไปอุ่นในเตาอบเม่านั้นครีบ ถึงจะได้ขนมปังที่ร้อนทั่วแลนุ่มเหมือนตอนสุกใหม่ๆ ผมถือว่าเป็นสิ่งที่เชฟจะต้องรู้นะครับ ขนาดผมยังรู้ เชฟคนไหนก็จะต้องรู้ครับมาถึงไร่องุ่นจะไม่สั่งไวน์มากินก็กระไรอยู่นะครับ แต่คุณชายเธอบอกว่ายังวันอยู่เลย จะกินไวน์แล้วเหรอ .... ในเมื่อเธอไม่กิน จะสั่งมากินคนเดียวก็กระไรอยู่นะครับ ก็เลยสั่งน้ำองุ่นสดมาทานกันสีคล้ายๆไวน์แดงครับ ยิ่งพอใส่แก้วไวน์แล้วยิ่งเหมือนไวน์แดงเข้าไปใหญ่ รสชาติก็คล้ายๆไวน์แดงครับ มีรสเฝื่อนๆจากเปลือกองุ่นก่อนนิดหน่อย แล้วก็มีรสหวานไม่มากครับ แต่ชื่นใจชะมัด ..... ดื่มมากๆก็คิดว่าเมาไวน์ได้เลยครับ อิอิอิอย่างแรกที่สั่งมาทานเป็น Appitizer ซึ่งเป็นเมนูแนะนำของทางร้านครับ สลัดกุ้งองุ่นสด ราคา 210 บาทไหนๆก็มาถึงไร่องุ่นแล้วก็ต้องเลือกชิมเมนูอะไรที่มีส่วนประกอบของไร่องุ่นบ้างครับ ตอนที่เค้ายกมาเสิร์ฟก็งงๆครับ นึกว่าเป็นเมนูสลัดที่ทางร้านแถมมาให้ เพราะขนาดของสลัดจานนี้เล็กมากๆไม่ค้มกับราคา 210 บาทเลยครับ ความอร่อยของสลัดก็ให้แค่ผ่านครับ น้ำสลัดกับผักอร่อยดีครับ แต่องุ่นมันไม่เข้ากับทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในจานครับ คือทางร้านเอาองุ่นไปคลุกน้ำสลัดมาก่อน แล้วจัดลงจาน วางผักสลัดลงไป ใส่กุ้งต้ม โรยด้วยอัลมอนด์ องุ่นที่คลุกน้ำสลัดมันก็เลยไม่เข้ากับอะไรเลยอ่ะครับเพราะองุ่นมันเป็นลูกกลมๆ ต้องใช้ความพยายามในการจิ้มด้วยส้อมลูกองุ่นถึงจะติดขึ้นมาด้วยเพราะฉะนั้นก็จะไม่ได้ลูกองุ่นในการจิ้มสลัดทุกๆคำ และองุ่นที่ใส่มาก็ไม่ได้มีการปอกเปลือกครับ เพราะฉะนั้นเวลากินลูกองุ่นก็ได้รสขมนิดๆของเปลือกองุ่นนิดหนึงก่อนครับ ทำให้หมดอรรถรสในการกินไปมากๆ ถ้าผ่าองุ่นครึ่งหนึ่ง หรือปอกเปลือกองุ่นมาก่อนจะดีมากๆ มันจะได้มีน้ำๆขององุ่นออกมาด้วยเปรี้ยวๆ หวานๆ เพิ่มรสชาติให้กับสลัดอีกด้วย ที่สำคัญให้องุ่นมาน้อยเหลือเกินครับ แทบจะนับลูกได้ไม่สมกับเป็นไร่ไวน์เลยครับ Almond Flake ที่ใส่มาก็เยอะเกิ๊นครับ มันเลยดูเอาน้ำสลัดไปหมดเลย สลัดมันก็เลยดูแห้งๆไปครับจานที่สอง ทะเลรวมมิตรทอด ราคา 320 บาทจานนี้ให้เป็นวิจารณญาณของทุกท่านเองก่อนนะครับ คิดว่าอาหารหน้าตาอย่างนี้สมควรจะขึ้นโต๊ะร้านอาหารราคาเป็นร้อยๆเหรอครับ อาหารทะเลที่ทอดมาแห้งมากกกกกครับ ทั้งกุ้งทั้งปลาหมึก มีจำนวนไม่เยอะอีกต่างหาก ที่ดูว่าเยอะนั่นเป็นหอมใหญ่ทอดครับ ใส่หอมใหญ่ทอดมากกว่าครึ่งเชียวครับ จานนี้ผิดหวังมากกกกกกกกกก ครับ เข้าใจนะครับว่าอาหารทะเลที่เขาใหญ่ก็แพงกว่าปกติอยู่แล้ว แต่ถ้าทำออกมาแล้วจะไม่ดีอย่างนี้สู้บอกลูกค้าไปเลยว่า “เมนูวันนี้ไม่มี” จะดีกว่าที่จะให้ลูกค้าเสียความรู้สึกอย่างนี้มั๊ยครับเมนูที่สามซึ่งเป็นเมนูสุดท้าย Coq au Vin หรือ ไก่อบไวน์ชีราสและเครื่องเทศ ราคา 380 บาทเมนูนี้ถูกใจถูกปากที่สุดครับจากทั้งสามเมนูที่สั่งมา ถึงแม่จะรู้ว่าเป็นเมนูอุ่นเอามาเสิร์ฟ แต่ก็พอจะเข้าใจได้ว่าเมนูนี้จะต้องใช้เวลาในการทำมาก เพราะฉะนั้นทางร้านจึงต้องทำไว้ก่อนในจำนวนหนึ่งแล้วค่อยมาอุ่นเอา (เป็นความผิดของคนชอบทำอาหารครับ ที่ดั๊นไปรู้ขั้นตอนการทำอาหารด้วย อิอิอิ) แต่ความอุ่น ความนุ่มของชิ้นไก่ ลบเรื่องอื่นๆไปหมดครับ ชิ้นไก่นุ่ม หอมกลิ่นเทศ ได้รสชาติของไวน์ แต่ไม่ใช่รสแบบที่มีอัลกอร์ฮอร์นะครับ มันเป็นรสชาติของไวน์ที่มีการเบิร์นอัลกอรฮอร์ไปหมดแล้ว จะเป็นรสหวานๆเผื่อนๆ ตามรสองุ่นพันธุ์ชีราสที่เค้าเอาไวน์มาตุ๋นกับไก่นี่แหละครับ เมนูนี้ซักไปหมดจาน น้ำซอสก็ไม่เหลือคราบ อิอิอิร้าน Vin Cotto ที่ไร่องุ่นกรานมอตเต้นี้มีที่อร่อย (เท่าที่ชิมไปในวันนี้) อยู่ที่ Coq au Vin เท่านั้นเองนะครับ ถ้าใครเคยชิมเมนูอื่นๆแล้วว่าอร่อยก็มาแชร์กันได้นะครับ แต่ผมก็คงไม่กลับมาเป็นครั้งที่สองอีกแล้วนะครับถึงบรรยากาศดี พนักงานบริการดี แต่อาหารไม่อร่อยถึง 2 เมนูจาก 3 เมนูก็ไม่ไหวเหมือนกันครับChubby Lawyer’s Café’ ………………………………… ร้านอร่อย ....... ตามใจฉัน อ่านต่อ
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)
ระดับ4 2011-08-12
129 วิว
เป็นวันหยุด เราเลยตะลอนๆ ออกเที่ยวเช้า-เย็นกลับ ณ โคราชมาแวะ ที่ Granmonte ก็ตอนก่อนกลับบ้านแล้วคะคนไม่เยอะเท่าไหร่โชคดีมากเลยคะ ไปตอนที่คนงานกำลังเก็บองุ่นกันพอดีพี่เค้าก็ใจดีคะ ให้ลองตัดเราเลยได้มีโอกาสไปช่วยเค้าตัดด้วยคะสนุกสนานมากมายเดินดูไร่องุ่นพันธุ์ต่างๆสักพักใหญ่ๆเลยคะ แล้วก็ไปซื้อของฝากที่ร้านนิดหน่อยพอจะขึ้นรถ เจอเจ้าถังนี้คะคนขายเชิญชวนว่า ลองชิมดูครับ อร่อยมากๆ หวานเจี๊ยบเราก็ไม่เชื่อ เลยต้องลองคะอึกแรก เปรี้ยวจี้ดดดดดดดดดดดดในใจโมโหพี่คนขายขึ้นมาทันใดแต่พี่เค้าบอกว่า ลองดูดอีกอึกสิครับ รับรองหวานโอ้ววววววววววววววววววววววว หวานจริงๆคะ หวานมากๆ ชื่นใจสุดๆพี่เค้าบอกว่า อึกแรกจะเป็นการล้างปาก เหมือนกันดื่มไวน์นั่นหละคะติดใจคะ ซื้อกลับบ้านอีก แต่เราไม่ได้แวะเข้าไปทานอาหารในไร่นะคะเพราะว่าอิ่มมาจากที่อื่นแล้ว อ่านต่อ
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)
ระดับ4 2011-07-31
69 วิว
มีโอกาสได้ไปกินเพราะว่า ไปเที่ยวไรองุ่นมารอบนึงแล้วก็ พออาจารย์สั่งงานให้ทำสารคดีก็เลือกเลือกไปถ่ายที่นี่กัน เค้าเลยพามากินที่ร้านนี้เจ้าของไร่ ใจดีมากๆค่ะ ^^อาหารอร่อยสุดๆ กุ้งตัวโต๊โตราคา : น่าจะแพงอยู่เน้อบรรยากาศ : ดีมากก ปลอดโปร่ง โล่งสบาย เงียบสงบ เป็นที่สุดการบริการ :ดีมากค่ะ อ่านต่อ
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)